ใต้อุ้งท็อปบู๊ต (วาสนา นาน่วม)
เนื้อหาบางส่วน
ขึ้นชื่อว่า “ลับ ลวง พราง” ย่อมหมายถึงหนังสือแนวทหารของ “วาสนา นาน่วม” ซึ่งมีผู้สนใจอย่างมากนับแต่หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549
ล่าสุด “วาสนา นาน่วม” ได้พบว่ายังมีประเด็นใหม่ๆ ที่น่าสนใจยิ่งกว่าการรัฐประหาร ผู้เขียนจึงขอยุติการเขียนซีรีส์หนังสือ “ลับ ลวง พราง” และหันมาเขียนสารคดีการเมือง-การทหารแนวใหม่อย่างจริงจัง
Soldiers never die ใต้อุ้งท็อปบู๊ต เล่มนี้ จึงเป็นหนังสือเล่มแรกที่ถือกำเนิดขึ้น ภายหลัง “วาสนา” ประกาศยุติการเขียน “ลับ ลวง พราง”
เนื้อหาในเล่ม กล่าวยืนยันข้อเท็จจริงที่นายทหารส่วนใหญ่ยังคงวนเวียนอยู่ในวัฏจักรของอำนาจ ผลักดันให้เบื้องหลังการเมืองไทยต้องตกอยู่ภายใต้ “ท็อบบู๊ต” หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าวนั้น “เนียน” จนแทบมองไม่ออก
โดยในรายละเอียดของเรื่อง กล่าวถึงวัฏจักรของ “ทหารแก่” ที่ไม่มีวันตายไปจากการแสวงหาอำนาจ ไม่ว่าจะอยู่ในราชการหรือนอกราชการ บทบาทของกองทัพยุคใหม่ที่มี ผบ.เหล่าทัพและผู้คุมกำลังสำคัญๆ เชื่อมโยงกับพรรคการเมืองและผู้มีอำนาจของรัฐบาล
ขณะที่บทต่อๆ มา กล่าวถึงอำนาจหน้าที่ของนายทหารส่วนหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 เนื่องจากภายหลังเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยถืออำนาจรัฐ พวกเขาคิดเห็นอย่างไร รู้สึกอย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะเล่นงานเอาคืน
บทปิดท้าย กล่าวถึงการปกป้องราชบัลลังก์ของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่คิดหาทางมิให้ผู้ใดปองร้ายสถาบันฯ พร้อมกับเตรียมการสำหรับเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้า
นับเป็นหนังสือที่รวบรวมข้อมูลอย่างแน่วแน่ ตรงประเด็น สมกับที่ “วาสนา” ได้รับฉายาว่าเป็นนักข่าวสายทหารที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของไทย
รายละเอียด
ขึ้นชื่อว่า “ลับ ลวง พราง” ย่อมหมายถึงหนังสือแนวทหารของ “วาสนา นาน่วม” ซึ่งมีผู้สนใจอย่างมากนับแต่หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549
ล่าสุด “วาสนา นาน่วม” ได้พบว่ายังมีประเด็นใหม่ๆ ที่น่าสนใจยิ่งกว่าการรัฐประหาร ผู้เขียนจึงขอยุติการเขียนซีรีส์หนังสือ “ลับ ลวง พราง” และหันมาเขียนสารคดีการเมือง-การทหารแนวใหม่อย่างจริงจัง
Soldiers never die ใต้อุ้งท็อปบู๊ต เล่มนี้ จึงเป็นหนังสือเล่มแรกที่ถือกำเนิดขึ้น ภายหลัง “วาสนา” ประกาศยุติการเขียน “ลับ ลวง พราง”
เนื้อหาในเล่ม กล่าวยืนยันข้อเท็จจริงที่นายทหารส่วนใหญ่ยังคงวนเวียนอยู่ในวัฏจักรของอำนาจ ผลักดันให้เบื้องหลังการเมืองไทยต้องตกอยู่ภายใต้ “ท็อบบู๊ต” หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าวนั้น “เนียน” จนแทบมองไม่ออก
โดยในรายละเอียดของเรื่อง กล่าวถึงวัฏจักรของ “ทหารแก่” ที่ไม่มีวันตายไปจากการแสวงหาอำนาจ ไม่ว่าจะอยู่ในราชการหรือนอกราชการ บทบาทของกองทัพยุคใหม่ที่มี ผบ.เหล่าทัพและผู้คุมกำลังสำคัญๆ เชื่อมโยงกับพรรคการเมืองและผู้มีอำนาจของรัฐบาล
ขณะที่บทต่อๆ มา กล่าวถึงอำนาจหน้าที่ของนายทหารส่วนหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 เนื่องจากภายหลังเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยถืออำนาจรัฐ พวกเขาคิดเห็นอย่างไร รู้สึกอย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะเล่นงานเอาคืน
บทปิดท้าย กล่าวถึงการปกป้องราชบัลลังก์ของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่คิดหาทางมิให้ผู้ใดปองร้ายสถาบันฯ พร้อมกับเตรียมการสำหรับเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้า
นับเป็นหนังสือที่รวบรวมข้อมูลอย่างแน่วแน่ ตรงประเด็น สมกับที่ “วาสนา” ได้รับฉายาว่าเป็นนักข่าวสายทหารที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของไทย