เจ้าสาวพันธุ์แสบ (นางแก้ว) (EBOOK)

เจ้าสาวพันธุ์แสบ (นางแก้ว) (EBOOK)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: เจ้าสาวพันธุ์แสบ
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 37.50 บาท
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

มองจากตรงมุมไกลจะเห็นคฤหาสน์สวยสองหลังตั้งอยู่โดยมีรั้วกั้น และประตูเชื่อมเปิดหากันได้ ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าคฤหาสน์หลังสวยราคาหลายสิบล้านทั้งสองหลังนี้มีความสนิทสนมกันมาก

ในขณะนี้บ้านเปรมฤดี ซึ่งมีต้นหมากเหลืองแตกกอออกไปปลูกเป็นแถวแนวให้ความร่มรื่น มีสนามหญ้าตัดกันกับไม้พุ่มไม้ดอกจัดแต่งสวย

ขณะนี้หญิงวัยสี่สิบเศษรับโทรศัพท์เมื่อปลายสายคือลูกสาวเร่งรัดจะเอาเงินให้ได้ในเวลานี้ นางจึงมีท่าทางเคร่งเครียดไปมาก

“สองแสน”สุชาดาตะโกนตัวเลขด้วยดวงตาเบิกโพลง “ฉันจะไปเอาที่ไหนมาให้แก”

“หนูรู้ว่าคุณแม่เล่นได้เมื่อวาน แต่ป๋าไม่รู้ คุณแม่โอนมาให้หนูก่อนเถอะ”

“นี่แกขู่ฉันหรือนังลูกตัวดี”

“ค่ะหนูขู่จะเอาเงินถ้าคุณแม่ไม่ให้หนูจะบอกป๋าว่าคุณแม่เข้าบ่อนทุกสามวัน”

สุชาดาโกรธลูกสาวจนตัวสั่น พอดีกับจังหวะนั้นร่างสูงโปร่ง ของชายผิวขาว สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงยีนสีกลางเก่ากางใหม่เดินเข้ามานางจึงต้องรีบรับคำลูกสาวเพื่อไม่ให้ชายผู้เดินเข้ามารู้อะไรมากไปกว่านี้

                “เดี๋ยวแม่จัดการให้ลิน”นางบอกลินจงลูกสาว

                ปรมัตถ์ทักมารดาเลี้ยงอย่างเสียไม่ได้มากกว่าจะทักด้วยความสนิทจริงใจ

                “คุณพ่ออยู่ไหนครับคุณอา”

                “อยู่ที่ห้องสมุด ทำไมกลับเร็วล่ะเป๊ก”

                “ผมเทสต์เรียบร้อยแล้วครับ ยังมีเรื่องจะคุยกับคุณพ่อครับ”

                “เรื่องอะไร เรื่องเงินหรือเปล่า”สุชาดาหลุดปาก ปรมัตถ์เลิกคิ้วด้วยความสงสัยว่า ถ้าเขาจะพูดเรื่องเงิน ทำไมถึงจะพูดไม่ได้เล่า ในเมื่อเขาเป็นลูกแท้ๆของคุณเปรม ซึ่งคุณแม่ชื่อฤดี ซึ่งล่วงลับไปแล้ว

                ชายหนุ่มเดินไปหาบิดาที่ห้องสมุดซึ่งบิดามักจะหอบงานกลับมาทำอยู่บ่อยๆ ยังไม่ทันที่ปรมัตถ์จะได้ทักบิดา สุชาดาก็แทรกไปออดอ้อนเอาใจด้วยการบีบนวดไหล่และต้นคอให้กับคุณเปรม

                “ป๋าขาพักบ้างเถอะค่ะ ร้อนมากแล้วนะคะ เป๊กคงไม่มีเรื่องอะไรมารบกวนป๋าใช่มั้ย”นางพูดกันท่าเสร็จสรรพ “ป๋ากำลังเหนื่อยน่าจะพักก่อน”สุชาดาเอ่ยอีกที พร้อมลงมือบีบเส้นเพื่อผ่อนคลายให้อีกฝ่าย

              คุณเปรมบ่นออกมาว่า

                “เหนื่อยก็ต้องทำ งานกองเป็นภูเขา มีลูกเหมือนไม่มีทำยังไงได้”

                เพียงคำตัดพ้อแค่นั้นปรมัตถ์ก็หมดเรื่องที่ตั้งใจมาหาแล้ว ชายหนุ่มได้ยินเสียงแม่เลี้ยงดังตามหลังมาว่า

                “ดาห่วงนะคะ ดาก็ได้อาศัยใบบุญคุณเปรม หากดาทำให้คุณเปรมรำคาญดาคงอยู่ไม่ได้อีกแล้วค่ะ”

                “ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ คุณช่วยผมได้มากเลยนะ ทั้งเรื่องบ้าน เรื่องค่าใช้จ่าย แล้วก็เรื่อง”คุณเปรมดึงอีกฝ่ายลงไปเคล้าคลึง ซึ่งนางทำจริตดีดดิ้นนิดหน่อยแล้วก็ปรนเปรอซะอีกฝ่ายอ่อน

“แหมอย่าใจร้อนสิคะ เอ่อ ป๋าช่วยดาสักเรื่องได้มั้ยคะ”

“เรื่องอะไรล่ะคุณดา”

“ดาไปจองแหวนเพชรไว้ ไม่เอาก็คงไม่ได้ ต้องจ่ายเขาวันนี้สองแสนค่ะ”

“ไม่มีปัญหานี่”คุณเปรมหยิบสมุดเช็คมาเปิดออกแล้วเซ็นสองแกรก ส่งให้สุชาดาซึ่งจูบเอาใจไม่อายสายตาลูกเลี้ยงที่รีบเบือนหลบ

ปรมัตถ์เห็นได้ชัดว่าในสายตาคนเป็นพ่อไม่มีเขาอยู่เลย เขาจึงเลี่ยงออกมาจากภาพหวานของคนทั้งสอง ขณะที่ปรมัตถ์ขยับตัว คุณเปรมจึงได้เห็นลูกชาย และเขาขัดตาเหลือเกินกับความเงียบเฉยและดูเจ้าสำอางของอีกฝ่าย เขาชังพวกลักเพศ ยิ่งลูกชายแสดงอาการอย่างนี้เขายิ่งพาลไม่ชอบและห่างเหินไปโดยปริยาย

                “อ้าวเป๊กมีอะไรจะพูดกับพ่อหรือ”

                “ผมอยากเรียนต่อที่อเมริกาครับพ่อ”

                “ไม่ได้หรอก ค่าใช้จ่ายตอนนี้มากเหลือเกิน เศรษฐกิจก็ไม่ดี แต่ถ้าเป๊กหางานทำและหารูมเมดได้พ่อจะช่วยออกให้ ไปกี่เดือนล่ะ”

                หมดกันความฝัน...ลองให้หาเงินเองพร้อมถามว่ากี่เดือน เขาก็ไม่ต้องคิดเรียนต่อแล้วล่ะ เขาไม่ใช่เด็กมัธยมที่ใช้เวลาซัมเมอร์ต่างประเทศแค่อาทิตย์ หรือหนึ่งเดือนเท่านั้นนี่นา

                “นี่ยายแป้งก็ผลาญไปไม่รู้เท่าไหร่ ไปกี่ปีเข้าไปแล้วไม่เคยกลับมาดูดำดูดีราวกับพ่อ ตายตามแม่มันไปแล้วอย่างนั้น”

ปรมัตถ์อยากเถียงแทนพี่สาวว่า พี่สาวผลาญเงิน แล้วสุชาดาเล่าไม่ได้ผลาญไปหรือ เซ็นไปให้สองแสนสดๆไม่กี่นาทีนี้

 หากว่าปรมัตถ์เป็นคนไม่ช่างพูดไม่เอาเรื่องดังนั้นจึงปิดปากเงียบเหมือนคนใบ้ ขอตัวจากบิดากลับไปห้องส่วนตัว ซึ่งคุณเปรมแทบจะมองลูกชายด้วยหางตา เพราะคิดว่าอีกฝ่ายวิปริตผิดเพศ ดังนั้นจึงว่าเสียๆหายๆเพื่อให้เขาโต้แย้ง หากว่า ปรมัตถ์ก็ยึดหลัก ความเงียบเป็นไผ่บ้องตันอยู่อย่างนั้นเอง

ชายหนุ่มนั่งคิดถึงพี่สาวจอมบู๊ของตน...หล่อนไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่มัธยมจนขณะนี้จบปริญญาโท และทำงานที่โน่นไม่กลับบ้านอย่างบิดาว่าเสียด้วย และเพราะไม่มีแป้งร่ำพี่สาวของเขาอยู่นี่แหละ บิดาจึงเสียรังวัดไปมีเมียใหม่ แล้วก็โดนสูบเลือดสูบเนื้อด้วยความเต็มใจ

ส่วนแป้งร่ำได้รับรู้เรื่องทางบ้านด้วยการส่งข่าวของน้องชายให้ฟังเป็นประจำแต่เขาโดนพี่สาวสวนกลับมาว่า

“แล้วเอ็งเป็นผู้ชายหาเจี้ย...อะไรถึงไม่จัดการเอง”

“ก็เป๊กเป็นผู้ชายน่ะสิเป๊กถึงไม่เตะสองคนนั่นขี้โครงบานไง แต่เจ๊น่ะสูสีเพราะเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างมีอิทธิพล”

“นี่เจ๊มองเห็นภาพเอ็งเป็นนางซินเดอเรนล่าโดนแม่เลี้ยงกับพี่เลี้ยงจิกหัวใช้เลยนะเป๊ก”

“เป๊กไม่ใช่กะเทยนะเจ๊ แต่เป๊กว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ต้องถึงมือคนเก่งๆอย่างเจ๊ เป๊กน่ะคิดได้แต่ทำไม่ได้หรอก มันใจดำเกินไป”เขาคิดอยากจับสองคนแม่ลูกโยนออกนอกบ้าน แต่นั่นไม่ใช่วิธีที่ดีพอ ปรมัตถ์จึงไม่ลงมือเสียที

ชายหนุ่มเต็มร้อยจึงรอพี่สาวมาจัดการ เพราะ เป็นผู้หญิงเหมือนกัน จึงดูสมน้ำสมเนื้ออีกอย่างเขายังไม่เข้าใจในความห่างเหินของบิดาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

“ไม่ต้องมาชมเจ๊ ยังไงก็ไม่กลับ”พี่สาวตอบชัดถ้อย

“ตามใจเจ๊ก็แล้วกัน ตอนนี้ยายดากำลังปั้นลินจงลูกสาวเขาให้เป็นเจ้าสาวพี่ธิปอยู่ ถ้าได้กันก็เปิดกำแพงรั้วไปเลยเพราะยายดาคุมที่นี่ ยายลินจงคุมบ้านพี่ธิป”

ปรมัตถ์เห็นปลายสายเงียบไปนานเข้าใจว่าจี้ได้ถูกจุด...เพราะชายที่ชื่ออธิปคือจุดอ่อนของแป้งร่ำมาตั้งแต่เด็ก

ที่พี่สาวไปเรียนต่อเมืองนอก ปรมัตถ์รู้ว่าเพราะพี่สาวอกหัก

“พี่ธิปเขาโสดมานานแล้ว เขาไม่ได้แต่งงานกับเมียเขาหรอก ตอนนี้ได้ข่าวว่าเมียเขามีผัวฝรั่งไปแล้วด้วย ยายดาถึงส่งลูกสาวไปรอจังหวะเสียบ”

“เจ๊...เจ๊”ปรมัตถ์เรียกพี่สาว ซึ่งเงียบ และปิดเครื่องในเวลาต่อมา

ปรมัตถ์โวยวาย ก่อนจะคร่ำครวญด้วยความผิดหวังด้วยหาที่พึ่งไม่ได้สักคน ไปเรียนต่อ ไม่มีทุนสำรอง แล้วจะไปหางานอะไรทำได้ทันทีเลยเล่า นี่บิดาเขาคงคิดไม่ให้เขาเรียนเมืองนอกมากกว่า...เขาจะทำอย่างไรดีเล่า

 

ลินจงเป็นสาวร่างอวบเต็มไม้เต็มมือ หล่อนมีทรวดทรงองค์เอวทีเรียกได้ว่าโชว์อึ๋มได้ทุกส่วน บัดนี้หล่อนอยู่ในอ้อมแขนของอธิป หนุ่มรูปงาม ท่าทางเจ้าชู้และดูเป็นคนเก่ง มีความสามารถ ทั้งกินทั้งดื่ม

ลินจงไม่ห้ามหวงหากอธิปจะเกินเลย แต่อธิปไม่เกินเลยตามใจหญิงสาวสักที กว่าจะเที่ยวกันเสร็จก็ปาไปเที่ยงคืน อธิปมาส่งหญิงสาวที่บ้าน ลินจงส่ายร่างร่อนเหมือนนกปีกหักชั่วคราว ก่อนไปหล่อนตุ้บลงบนเก้าอี้ตัวนุ่ม ปรือตามองมารดาซึ่งยืนกอดอกตักเตือนมาว่า

“ระวังเถอะเขาจะเห็นแกเป็นของเล่น”

“โธ่แม่ขา ลินอยากจะเล่นกับเขาแทบตาย แห เวลาเต้นแล้วเผลอไปแปะโป้ง กะตรงนั้นของพี่ธิปเข้าหน่อย ของเขาแข็งยังกะกระบอกไฟฉายห้าท่อนเชียว”

“นี่แกอย่าพูดอะไรที่มันบัดสีบัดเถลิงนักเลย” สุดาแว้ดใส่ลินจงยิ้ม ตาปรือ เอ่ยอ้อแอ้

“บอกป๋าให้พี่ธิปมาสู่ขอลินเสียทีสิคะคุณแม่”

“จะบ้าหรือไง คุณอธิปไม่ใช่เด็กล้างรถนี่จะได้บังคับเอาตัวมาแต่งงานด้วยง่ายๆ ไปนอนเสียทีไป นี่ถ้าป๋ามาเห็นแกสภาพนี้เขาคงหมดความเอ็นดูแกแน่”

“ไปก็ได้”ลินจงย่างเยื้อง เดินหน้าสามก้าว ถอยมาครึ่งก้าว สุดท้าย สุชาดาเรียกสาวใช้คือนางอึ่ง ซึ่งรูปร่างเหมือนอึ่งอ่างจริงเสียด้วยมาช่วยประคองขึ้นไปนอนห้องใหญ่ ซึ่งเคยเป็นห้องของปรมัตถ์ แต่โดนลินจงยึดไปหลายปีแล้ว

สุชาดากลับเข้าห้องนอนซึ่งเป็นห้องใหญ่ และเป็นห้องของภรรยาเก่าของคุณเปรม เมื่อเข้าไปถึงคุณเปรมก็ว่า

“ให้ลินจงหางานทำได้แล้ว ป๋าไม่ชอบคนขี้เกียจ”

“เอ่อลินพึ่งจบ”

“ถ้าไม่เรียนต่อก็ทำงานได้เลย”

“เอ่อ ป๋าบอกคุณธิปเรื่องการแต่งงานกับลินได้มั้ยคะป๋า”

“จะบ้าหรือไง อยู่ๆไปบังคับอะไรเขา”

“แหม แต่ลินจงก็ไปไหนมาไหนกับเขาดึกๆดื่นๆหลายครั้งหลายหนแล้วนะคะ”

“ไม่แค่ลินจงหรอกเกวลี บุษกร พรวลัย นั่นน่ะอธิปควงคู่ทั้งนั้น เรื่องนี้ป๋าไม่ยุ่งเด็ดขาด อยากไปกับเขาเอง ผู้ชายไม่เอาอย่ามาบังคับให้รับผิดชอบเลยน่า ไม่เข้าท่าเข้าทาง”

                สุชาดาเลยเปลี่ยนคำคุณเปรมเสียใหม่ว่า

                “อธิปไม่เอาก็ช่างเถอะค่ะ แต่วันนี้ป๋าล่ะคะ”

                คุณเปรมยิ้ม นัยน์ตาเยิ้มเมื่อโดนยั่ว สุดท้ายเรื่องของลินจงเลยหล่อนไปใต้เตียง เหลือแต่เรื่องบนเตียง ซึ่งสุชาดาเสนอสนองอย่างถึงพริกถึงขิงจนคุณเปรมแทบรอระฆังมาช่วยไม่ทันทีเดียว

                เขาหอบฮัก ฮัก สักพักจึงได้เริ่มบทใหม่หลังพักยกไปชั่วขณะหนึ่ง!!!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1 แป้งร่ำจอมแสบ

 

หมู่เรือนไทยประยุกต์อยู่บริเวณด้านข้างของตึกบ้านเปรมฤดี การจัดแต่งกั้นด้วยสวนไม้ร่มรื่นทำให้ มองไม่ขัดตากับตึกโอ่อ่าหลังใหญ่สไตล์ทันสมัน

                เรือนไทยแห่งนี้เป็นเรือนที่อยู่ของคุณย่าลำดวน และนมหยิม สองผู้ใหญ่ที่ฟูมฟัก อธิป ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของสมบัติทั้งหมดในเวลานี้ ย่าลำดวนเป็นมารดาของคุณพ่อ ส่วนนมหยิมเป็นแม่นมของอธิป

                ในเวลาที่ตึกใหญ่มีงานเลี้ยงสังสรรค์หรือวันเกิดอยากจะเลี้ยง คุณย่าก็จะบ่นว่า หนกขู ซึ่งคนเก่าคนแก่ไม่พูดหนวกหู และหากอธิปผู้เป็นเจ้าของบ้านไม่ร่วมงานเขาจะหนีไปนอนที่เรือนไทย ฟังคุณย่าพร่ำบ่นถึงความฟุ่มเฟือยในสังคม ซึ่งต่างจากเมื่อครั้งท่านต้องผจญกับการเปลี่ยนแปลงมาตลอดสมัยเด็กจนสาวแรกรุ่น

                “ถึงเวลาข้าวยากหมากแพงต้องลากแม่พวกผู้ดีไปกินแกลบแข่งกับชาวบ้าน มันจะได้สำนึกกันถึงเวลาอดเสียบ้าง กินทิ้งกินขว้างน่าสงสารคนไม่มีจะกิน”

                “คุณอันธิกาเธอก็จัดงานการกุศลช่วยเหลือเด็กผู้ยากไร้นี่คะท่าน”นมหยิมออกความเห็น

                “ตอนจัดงานนี่แหละฟุ่มเฟือยกว่าตอนให้รายได้สังคมอีกฉันว่า”

                อธิปเหยียดแขนเท้าไปข้างหลัง นมหยิมเข้าใจว่าชายหนุ่มเมื่อยจึงเคลื่อนตัวมาบีบนวดให้อย่างเอาใจด้วยความรัก อธิปเกรงใจคนดูแลตนมาจึงห้าม

                “อย่าลำบากเลยครับนม”

                “ไม่ลำบากหรอกค่ะ ให้นมบีบอย่างนี้ดีกว่าคุณธิปไปนวด ไปนาบกับผู้หญิงมีเบอร์ เดี๋ยวเป็นโรคร้ายล่ะก็แย่กันทั้งบ้าน”

                “โธ่นม ผมไม่เคยไปหรอกครับสถานที่แบบนั้นผมกลัวเป็นเหมือนกัน”

                “แล้วพวกสาวๆที่คุณธิปควงโฉบไปโฉบมาล่ะคะ มีแมลงชอนไชบ้างหรือเปล่าคะ”

                “เอาเป็นว่านมหากระจับมาให้ผมสวมแล้วล็อกกุญแจเลยดีกว่าครับ”

                “ขวางคุณธิป”

                เมื่อเปิดประเด็นถึงสาวๆคุณย่าลำดวนก็นึกถึงสาวหนึ่งซึ่งจากไปนานหลายปีขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงถามถึง

                “เออพูดถึงสาว ป่านนี้เจ้าแป้งมันไม่เป็นสาวสะพรั่งไปแล้วหรือนี่”

                แค่เอ่ยชื่อ ชายหนุ่มอดเหลือบมองที่หลังมือของเขา ซึ่งมีรอยแผลเป็นรักษาไม่หาย ด้วยฤทธิ์เด็กหญิงแป้งร่ำ ซึ่งกัดเขาจนเนื้อขาด เขาร้องโอดครวญครานั้นเข้าเป็นหนุ่มแล้วแต่ด้วยเป็นพี่ที่สนิทกันมาก จึงเล่นเลยเถิด ไปตัดหางเปียของแป้งร่ำเข้า เด็กหญิงโกรธมาก จึงกัดพี่ชายที่ตนรักที่สุด กัดไม่ปล่อยแม้ใครจะห้ามหรือลากยังไง สุดท้ายอธิปจึงกดศีรษะอีกฝ่ายลงโอ่งน้ำ เด็กหญิงหายใจไม่ออกนั่นแหละจึงได้ปล่อย

                ผมเปียลู่ แล้วยังกระทืบเท้าเร่าๆเอาเรื่องชี้หน้าด่าเด็กหนุ่ม

                “ไอ้พี่ธิปบ้า ตัวจะฆ่าเค้า ตัวจะฆาตกรรมเค้า”

                “แล้วตัวมากัดเค้าทำไมดูสิ”เขายื่นรอยแผลเลือดไหลซิบปวดแทบขาดใจให้อีกฝ่ายดูด้วยสีหน้าเอาเรื่อง หากแป้งร่ำไม่ยอม เพราะคิดว่าตนเองโดนแกล้งก่อน ดังนั้นจึงชูนิ้วโป้งอาฆาต

                “ไอ้พี่บ้าโกรธร้อยปี ไม่ดีร้อยชาติ”

                พลางร้องไห้โฮๆเดินลอดประตูรั้วกลับบ้านไป อธิปมองตามอีกฝ่าย เจ็บส่วนเจ็บ แต่เมื่อนึกได้ว่าไปกดน้ำอีกฝ่าย หากเด็กหญิงเป็นอะไรไปเขาจะทำอย่างไรดี รักมากเสียด้วยน้องคนนี้

                แป้งร่ำแง่งอนไม่เข้าใกล้ อธิปก็ไม่ได้ง้อ สุดท้ายเดือนต่อมา อธิปต้องโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง เมื่อผมทรงสวยของเขาซึ่งซอยยาวปกคอ โดนหมากฝรั่งเหนียวหนืดยีเต็มหัวขณะนอนหลับอยู่ที่ใต้ต้นลำดวนเรือนไทย

                “ไอ้แป้ง ไอ้ลูกไม่มีแม่สั่งสอน”

                “ตัวก็ไม่มีพ่อสั่งสอน สิบปีแค้นนี้ยังไม่สายจำไว้พี่ธิป”

                เสียงคุณย่าถาม ทำให้อธิปตื่นจากภวังค์

                “อายุมันเท่าไหร่แล้วล่ะตอนนี้”

                “อ่อนกว่าคุณธิปหกปี”นมหยิมจำได้แม่นยำเพราะอีกฝ่ายแก่นแก้วไม่ยอมใครสักคน เกเรผิดเพศ

                “มีแฟนเป็นฝรั่งมังค่าไปแล้วมั้ง เสียดายนะท่าทางจะสวยไม่น้อยเลย”

                อธิปไม่ออกความเห็นอะไร แต่นึกถึงแป้งร่ำ ซึ่งไปเรียนต่อเมืองนอกไปโดยไม่บอกไม่กล่าวสักคำว่าจะไป ไปหลายปีแล้วไม่เคยได้รับข่าวหรือการติดต่อจากอีกฝ่ายเลย

ชายหนุ่มขอตัวไปนอนพักในห้องที่เขาชอบมาลี้ภัยงานเลี้ยงของมารดา ซึ่งจัดเกือบทุกสัปดาห์ ภายในห้องนอนเขาจัดเรียบง่าย มีกรอบรูปตั้งบนโต๊ะใกล้หัวนอน ซึ่งมีโคมไฟดวงเล็กให้เสียงสว่างยามกลางคืน รูปเด็กหญิงผมเปีย ก่อนโดนมือหั่นด้วยความคิดพิสดารของอธิป เด็กหญิงทำหน้าเหมือนปาหมึกล้อกล้องซึ่งอธิปเป็นคนถ่ายให้ ซึ่งเห็นภาพนี้ทีไรเขาอารมณ์ดีทุกครั้งไปทีเดียว  ยายจอมเฮี้ยว...เขารำพึงด้วยรอยยิ้มมุมปากนิดๆ มีแฟนเป็นฝรั่งไปแล้วอย่างคุณย่าพูดกระมัง

“ขาดดุลชะมัด”เขาบ่น พาลวางรูปตั้งไว้ตามเดิม แล้วดับไฟนอนเสียดื้อๆ

เช้าวันใหม่มาเยือน ปรมัตถ์เดินเอื่อยออกจากบ้านหลังใหญ่ ซึ่งวันนี้รถสามคันไม่มีอยู่ให้เขาได้ใช้เลยสักคันเดียว บ้านของเขาฐานะดีมากเข้าขั้นเศรษฐี แต่บิดากลับไม่ซื้อรถใหม่ให้ใครสักคน ปล่อยให้ ลินจงมาแย่งรถลูกชายใช้ เป็นที่น่าประหลาดใจกับความคิดของบิดายิ่งนัก ทำไมท่านจึงดูเหมือนรังเกียจเขาผู้เป็นลูกแท้ๆก็ไม่ทราบได้ คุณเปรมจะซื้อรถสักสิบคันก็ได้ แต่ท่านไม่ทำ ไม่รู้เหตุผลของท่านเช่นกัน ขณะนี้มีเขาคนเดียวที่ไม่มีรถใช้ส่วนตัว

อธิปขับรถผ่านมาจึงได้รับอีกฝ่ายขึ้นรถ แล้วชวนคุย

                “ไปไหนเป๊กเดี๋ยวพี่ไปส่ง”

                “ไปศูนย์ภาษาครับ เป๊กจะไปสมัครเรียนครับ พี่ธิปไปทำงานหรือครับ ที่ทำงานของพี่ธิปห่างจากที่เป๊กจะไปตั้งเยอะ”

                “ไม่เป็นไร คงไม่มีใครกล้าไล่ประธานบริษัทออกหรอก”อธิปเอ่ยยิ้มๆ

                ปรมัตถ์ไม่ช่างพูดกับคนอื่นเอาเสียเลย แต่กับพี่สาวคนเดียวเขาสามารถพ่นพูดจนพี่สาว แซวว่าจะจับเขาไปสอบเป็นตำรวจดับเพลิง

                “เป๊กเรียนจบแล้วนี่ ไม่เรียนต่ออีกหรือ”

                เขาถอนใจ ก่อนเอ่ยเบาๆ

                “เป๊กคงเรียนเมืองไทยนี่แหละครับ คุณพ่อบ่นเรื่องพี่แป้ง”

                “แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะพี่สาวเรา ป่านนี้พูดไทยไม่เป็นแล้วมั้ง”

                คำของอธิปทำให้ปรมัตถ์หลุดปากหัวเราะอย่างกลั้นไม่ได้ อธิปทำหน้างง ปรมัตถ์จึงเอ่ยพร้อมยังไม่หยุดหัวเราะ

                “ปากจัดยังกับกรรไกรเหมือนเดิมเลยครับ ยิ่งคำด่าล่ะก็ชัดเป๊ะ”

                “เขาว่ายังไงบ้างล่ะ”อธิปถามอย่างหาเรื่องคุย ปรมัตถ์จึงเล่าให้ฟังว่า

                “เป๊กปรึกษาพี่แป้งเรื่องเรียน พี่แป้งบอกว่า เป๊กอย่าพึ่งฆ่าตัวตาย พี่จะซื้อเชือกจากเมืองนอกมาให้แขวน จะตายทั้งทีต้องตายแบบอินเตอร์ แต่สภาพศพเหมือนศพคนผูกคอตายโดยทั่วไป ตาโปน ลิ้นห้อยทุเรศไม่ต่างกันหรอก”

                “ปลอบซะไม่อยากตายเลยล่ะสิ”อธิปอดขำไม่ได้

                “เห็นว่าจะกลับเร็วๆนี้ล่ะครับ”

                “มีแฟนฝรั่งมาด้วยหรือเปล่า” พออธิปถาม ปรมัตถ์ก็หัวเราะหึอีกเมื่อนึกถึงพี่สาวบอกเล่ามาว่า

        “ร็อกมันก็น่าตาดี หลงเจ๊ซะหัวปรักหัวปรำ แต่เจ๊ไม่ชอบ แล้ววันนั้นดันเมาทั้งคู่มันมาปล้ำเจ๊ เจ๊จับทุ่มซ้ำเอวเคล็ด ส่ายฮาวายไม่ได้ไปนานเป็นอาทิตย์ ถึงเมาแต่เจ๊ยังไม่ลืมแชมป์เหรียญบาทคาราเต้นะเว้ย ครูฝึกชมเจ๊ว่าสวยแต่ท่าอย่างอื่นไม่สวย เจ๊งี้อยากแก้ผ้าอวดตาครูให้ตาค้าง แล้วรองร้องคราง โอ้ว สุดยอดหญิงไทย”

                “ไงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พอใจที่มีพี่เขยฝรั่งหรือ”

                “พี่ธิปพอใจที่มีน้องเขยเป็นฝรั่งหรือเปล่าครับ”

                “หมายถึงยายอั้มหรือว่า”

                “พี่แป้งครับ”

                “เอ้า พี่ไปเกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ”อธิปย้อนถามแล้วหัวเราะอั้กๆ ปรมัตถ์ยิ้มกลายๆ เพราะเขาเด็กมาก แต่ได้รู้เรื่องเล่าว่าแป้งร่ำติดอธิป และอิจฉาทุกคนที่เข้าใกล้ ไม่เว้นแม้แต่น้องสาวแท้ๆของอธิปซึ่งปีเดียวกับปรมัตถ์ ชื่ออัมพิกา

                อธิปส่งปรมัตถ์จนถึงที่ แล้วย้อนกลับเข้าบริษัท เขาได้รับสายจากเกวลี จึงได้นัดแนะจะออกไปข้างนอกหลังจากการประชุมแล้ว

 

ที่ท่าอากาศยานนานาชาติ

แป้งร่ำสวมเสื้อครึ่งตัวสีสด กางเกงยีนขายาว มีรอยตะกุยให้ขาดแบบทันสมัย แต่การขายแทบพรุนไปทั้งตัวกลายเป็นเป้าสายตาใครต่อใครเพราะความขาวสวยของผิวพรรณ หญิงสาวสวมแว่นอันใหญ่เกือบครึ่งหน้า ทำผมสีแดงเพลิง หญิงสาวแต่งกายจัดว่าน่าเกลียด หากความสวยทำให้ไม่น่าเกลียดในสายคนมอง หล่อนลากกระเป๋าใบใหญ่ออกมาโบกแท็กซี่ป้ายดำ

“ไปส่งที่ไหนครับแหม่ม”เขาถามเป็นภาษาอังกฤษ

“ตลิ่งชัน”หล่อนตอบไทยชัด พลางเป่าลูกโป่งหมากฝรั่งพร้อมเคี้ยวหยับๆ เคาะมือหลังจากขึ้นไปนั่งบนแท็กซี่อย่างอารมณ์เย็น

“แหมเป็นคนไทยหรือนี่ ไปขุดทองมาหรือคุณ”แท็กซี่ย้อนถาม นัยน์ตามีแววชอบกล หญิงสาวรู้ว่าอีกฝ่ายมองผิดมุม แต่ยังทำใจเย็นตอบชัด

“อือไปขุดทองแต่ไม่เจอทองหรอกเจอแต่ขี้เอาไปทำปุ๋ยบ้างก็ได้นะ”

แท็กซี่หนุ่มทำคอยึกยัก คิดด่าในใจว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงหากินปากจัด บังอาจมาตีฝีปากหาเรื่องเขา ดังนั้นความคิดในสันดานชั่วจึงได้ผุดขึ้นมาในทันที ยิ่งเห็นความขาวของผิวพรรณยิ่งให้เกิดอาการหื่นกำเริบ แล้วโทษว่าอีกฝ่ายคงอยากลองของคนขับรถอย่างเขา


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (72 รายการ)

www.batorastore.com © 2024