เสน่ห์นางครวญ (หงส์หยก)

เสน่ห์นางครวญ (หงส์หยก)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: เสน่ห์นางครวญ
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 345.00 บาท 86.25 บาท
ประหยัด: 258.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

                           “เสน่ห์นางครวญ”

                                                                                             หงส์หยก

 

พ.ศ.2450 ปลายสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว...

 

 ‘ไต้ก๋งชาง’ กัปตันเรือสินค้าจากเมืองจีน วัย 35 ปี พาลูกเรือกว่ายี่สิบชีวิตเดินทางเข้ามาค้าขายในน่านน้ำไทย ระหว่างร่องเรือมาในท้องน้ำกว้างใหญ่ ซินแสที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน ทำนายดวงชะตาของไต้ก๋งชางเอาไว้ว่า หากเขาอยู่ทำกินในแผ่นดินไทย จะมีความรุ่งเรืองรุ่งโรจน์เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป แต่ถ้าหากวันใดที่เขามีคู่และคิดนอกใจ  เมื่อนั้นจะหมดอำนาจวาสนาและถึงกาลวิบัติ  หญิงที่จะเข้ามาในชีวิตนับจากนั้น จะคบชู้สู่ชายแทบทั้งสิ้น

 แม้ว่าจะรู้ถึงกิตติศัพท์ความแม่นยำในการทำนายของซินแสผู้นี้อยู่เป็นทุน แต่ไต้ก๋งชางไม่ได้เชื่อตามนั้นเท่าไหร่นัก 

 นึกไม่ถึงว่าเมื่อล่องเรือมาอีกระยะ ก็เกิดจากพายุใหญ่พัดกระหน่ำแบบไม่มีต้นสายปลายเหตุ ทำให้เรือล่มไม่เป็นท่า ลูกเรือทั้งหมดเสียชีวิต เหลือเพียงไต้ก๋งชางที่รอดมาได้ราวปาฏิหาริย์ ลอยมาสลบแน่นิ่งริมหาดของหมู่บ้าน “ลำพระพราย” รวมกับศพลูกเรือนับสิบศพ 

  ชาวบ้านพากันนำศพชายชาวจีนหลายคนมาไว้ที่วัดในหมู่บ้าน ไต้ก๋งชางเมื่อฟื้นขึ้นมาก็ได้อาศัยใบบุญหลวงพ่อดำพักรักษาตัวอยู่ที่วัด     

 

‘ขุนทนงค์’ ผู้กว้างขวางในหมู่บ้านลำพระพราย วัย 60 เศษ หลังเกษียณราชการ ยังเป็นที่นับหน้าถือตาของผู้คน เพราะเป็นผู้มั่งคั่งด้วยทรัพย์สินเงินทองและอำนาจบารมี

ขุนทนงค์มีลูกสาวหนึ่งคนชื่อ‘รำเพย’ อยู่ในวัย 18 ปี รำเพยหน้าตาสวย จิตใจดี  และเป็นที่หวงแหนของขุนทนงค์ ไม่ให้ผู้ใดข้องเกี่ยวง่ายๆ   

 ขุนทนงค์เข้าไปหาหลวงพ่อที่วัดและได้พบกับไต้ก๋งชาง เห็นถึงความสามารถทางภาษา ที่พูดได้ทั้งภาษาฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน เพราะต้องค้าคายไปหลายเมือง จึงชวนให้มาทำงานเป็นผู้ช่วยของตนอยู่ที่เรือน ทั้งนี้ทั้งนั้นเพียงเพื่ออยากเสริมบารมีตัวเองมากกว่า ระยะหลังขุนทนงค์เองก็อาการทรุด เพราะโรครุมเร้า จึงอยากได้ใครสักคนเข้ามาเป็นหลักที่เรือน และขยายบารมีไม่ให้ลดลงไป

ไม่มีใครรู้ว่าในอดีตไต้ก๋งชางเคยผ่านสนามรบมาจากเมืองจีน  ผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชน รู้ซึ้งถึงความลำบากแต่แอบหนีออกมาจากค่ายทหาร และมุ่งมั่นกับการสร้างตัว   พ่อแม่ไต้ก๋งชางตายจากไปนาน ญาติพี่น้องระหกระเหินแยกย้ายกันไปทำกินคนละทิศละทาง หากกลับไปเมืองจีนก็คงไม่เหลือใคร การปักหลักที่เมืองไทยเวลานี้ เป็นอีกทางเลือกที่โชคชะตาลิขิตแล้ว

ไต้ก๋งชางพบหน้ารำเพยที่วัด และถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็น และเมื่อรู้จากหลวงพ่อที่วัดว่าขุนทนงค์ต้องการให้เขาไปอยู่ด้วย จึงตอบตกลงทันที การเข้าไปอยู่ที่เรือนตนคราวนี้ ขุนทนงค์ตั้งข้อแม้ให้เขาพิสูจน์ตัวเอง สร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ แลกกับค่าข้าวค่าน้ำและที่ซุกหัวนอน

 

ไต้ก๋งชางเป็นผู้มีสายตากว้างไกลในเรื่องการค้าขายและการตลาด  จากการได้ติดตามขุนทนงค์ออกไปตามงานต่างๆ และได้รู้จักกับเพื่อนๆ ของขุนทนงค์ผู้กว้างขวางหลายคน ทำให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับไปด้วย ช่วงแรกๆ เขาได้รับการติดต่อให้ช่วยงานแปลเอกสาร ตลอดจนการติดตามไปเป็นล่ามให้กับผู้ใหญ่ในแวดวงขุนนาง ทำให้เขาโดดเด่นได้ไม่ยาก

 

ระหว่างอยู่เรือนขุนทนงค์ ไต้ก๋งชางไม่วายสานสัมพันธ์กับรำเพย ขณะที่หญิงสาวแอบมีใจให้อยู่ก่อนแล้ว ด้วยเห็นถึงความขยันขันแข็ง และความมานะพยายามอย่างแท้จริง ขุนทนงค์คอยดูเชิงอยู่ห่างๆ เมื่อเห็นว่าไต้ก๋งชางไม่ได้มีอะไรเสียหาย ก็ไม่ได้คิดกีดกัน

เมื่อรู้ว่าขุนทนงค์มีที่ดินแปลงใหญ่ติดริมน้ำ ไต้ก๋งชางก็ออกสำรวจสถานที่ พร้อมเสนอให้ขุนทนงค์เปิดตลาดแห่งใหม่ ซึ่งตนจะติดต่อพ่อค้าชาวจีนจากท่าเรือ ให้นำของมาขายที่นั่นมากๆ และหากกิจการดี อาจกลายเป็นตลาดนำเข้าได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ ส่วนชาวบ้านที่สนใจการอยากเอาสินค้ามาวางขาย ก็ให้เก็บค่าเช่าในราคาไม่แพง

 

ขุนทนงค์เห็นด้วยกับความคิดของไต้ก๋งชาง พร้อมเปิดโอกาสให้เขาพิสูจน์ตัวเองแบบไม่ต้องรั้งรอ

 

กิจการตลาดดำเนินไปได้สวยงาม พร้อมกับอาการขุนทนงค์ที่ทรุดหนัก ถึงกับอ้วกเป็นเลือด ผ่ายผอมลงอย่างเห็นได้ชัด ขุนทนงค์รู้ว่าตัวเองอยู่ได้อีกไม่นาน ก็เรียกไต้ก๋งชางและรำเพยรวมทั้งบ่าวไพร่ทุกคนเข้ามาพบ เพื่อสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย ขุนทนงค์ฝากฝังให้ไต้ก๋งชางดูแลรำเพยต่อจากตน รวมทั้งขอให้บ่าวในเรือนเชื่อฟังไต้ก๋งชาง  

เมื่อสิ้นขุนทนงค์ ไต้ก๋งชางอยู่กินกับรำเพยแบบสามีภรรยาอย่างเปิดเผย  ชื่อไต้ก๋งชางเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป  บ่าวในเรือนพากันนับถือและให้ความสำคัญในฐานะเจ้าของเรือนพอๆ กับรำเพย

เมื่อบารมีมากขึ้น ก็มีชาวบ้านบางคนเอาลูกสาวมามอบให้ไต้ก๋งชาง อ้างว่าจะช่วยเสริมอำนาจบารมี โดยแลกกับเงินจำนวนหนึ่งที่ได้ไปใช้ยามขัดสน ไต้ก๋งชางตอบรับหญิงสาวหลายคนเอาไว้พร้อมกับถามความสมัครใจกับรำเพย ไม่ได้รับไว้เป็นเมียอย่างที่ใครๆ เข้าใจ หากแต่เอาไว้ฝึกอาชีพต่างๆ รวมไปถึงงานฝีมือและการทำขนมไทย โดยหาผู้จัดสอนฝีมือดีมาให้ งานฝีมือและขนมต่างๆ ที่ทำออกมาได้ในแต่ละวัน จะนำไปขายที่ตลาด  

 

หญิงสาวที่รับเอาไว้ในเรือนมี 4 คนด้วยกัน คือ อบเชย ดวงแข จำเรียง และพิมพ์

 

ทั้งหมดอายุไล่เลี่ยกันในวัย 17-18 ปี ทั้งนี้ทั้งนั้นได้ปลูกเรือนทรงไทยหลังใหม่ให้อยู่ด้วยกันเป็นสัดส่วน ตั้งชื่อว่า “เรือนดอกเหมย” 

หญิงสาวทั้งสี่คนไม่ได้มีหน้าที่อย่างพวกบ่าวทั่วไป เพราะถูกยกระดับให้เป็นผู้ผลิตงานต่างๆ ทั้ง 4 คนกิริยาเรียบร้อย และเชื่อฟังตามที่รำเพยอบรมการทุกประการ และไม่ได้คิดออกนอกลู่นอกทาง  

 

ช่างแตกต่างจาก ‘งามตา’ ลูกสาว หมอผีอิน ที่ท้ายหมู่บ้าน รุ่นราวคราวเดียวกับรำเพย มีความมักใหญ่ใฝ่สูง อยากร่ำรวยเป็นชีวิตจิตใจ เพราะตั้งแต่เด็กจนโตถูกเลี้ยงมาแบบอดๆ อยากๆ

 

แม่งามตาเสียชีวิตตั้งแต่งามยังเล็ก การดำเนินชีวิตกับบิดานับจากนั้น อดมื้อกินมื้อ หมอผีอินมักเอาลูกไปฝากไว้กับพวกญาติ ส่วนตัวเองเข้าบ่อน และหมกมุ่นสนใจอยู่กับไสยศาสตร์และการข้ามแดนไปหาของขลัง และของดีตามที่พรรคพวกบอกมา

 ในแต่ละวันงามตาต้องทำงานแลกกับอาหารตกถึงท้อง  ทำให้เธอเกลียดความยากจน และไม่อยากเป็นแค่ลูกสาวหมอผีที่ไม่ได้รับการยกย่อง

 งามตาอยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเรือนดอกเหมย เพราะเห็นทั้งสี่คนต่างก็มีชีวิตสุขสบาย แถมยังได้แต่งตัวสวยงามแต่ก็รู้มาว่าไต้ก๋งชางไม่รับคนเพิ่มอีกแล้ว จึงพยายามหาทางจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของที่นั่นให้ได้

ไอ้เลื่อน บ่าวในเรือนแอบวางเพลิงเผาตลาด เพราะไม่ชอบหน้าไต้ก๋งชาง อีกทั้งแอบมีใจให้รำเพยมานานเมื่อรำเพยตกเป็นของไต้ก๋งชางทำให้มันไม่พอใจ ตลาดถูกเผาวอดวายทำให้เกิดความเสียหาย ไต้ก๋งชางแค้นเคืองให้ลูกน้องไปตามสืบหาผู้ที่ก่อการมาลงโทษ

งามตาแอบได้ยินไอ้เลื่อนคุยกับพวกเรื่องเป็นผู้วางเพลิง แถมยังถูกไอ้เลื่อนขืนใจ ความแค้นทำให้งามตานำเรื่องไปบอกไต้ก๋งชาง ว่าไอ้เลื่อนเป็นคนวางเพลิง ไต้ก๋งชางตัดสินใจเก็บไอ้เลื่อนฆ่าปิดปากทันที

เมื่อเห็นว่าตัวเองมีส่วนช่วยเหลือไต้ก๋งชาง ในฐานะที่หาตัวคนวางเพลิงมาให้จนได้ งามตาจึงขอเข้ามาทำงานในเรือนไต้ก๋งชาง ทำให้ไต้ก๋งชางขัดไม่ได้

 

 การเข้าไปอยู่ในเรือนไต้ก๋งชาง งามตาถูกให้ทำงานที่เรือนครัวทั้งที่ไม่เต็มใจนัก เพราะอยากเป็นส่วนหนึ่งที่เรือนดอกเหมยมากกว่า ในวันแรกที่เข้าไปทำงานงามตาเข้ากับใครไม่ได้สักคน แถมยังขี้เกียจทำงาน  ทำให้มีเรื่องตบตีกับพวกบ่าว รวมไปถึงสี่สาวที่เรือนดอกเหมยก็ถูกงามตาเล่นงาน โดยการแอบเอาหมามุ่ยไปใส่ผ้าถุงที่ตากเอาไว้ รวมไปถึงในโอ่งน้ำ ทำให้บรรดาสี่สาวถูกหมามุ่ยคันคะเยอ ตาบวมแดงด้วยพิษของมัน

ไต้ก๋งชางและรำเพยเรียกบ่าวทุกคนมาพบ สืบสวนจนรู้แน่ชัดว่าเป็นงามตา จึงโบยด้วยหวายเจ็บระบมไปทั้งตัว

งามตาแค้นเคืองและไม่คิดอยู่ที่เรือนนั้นอีกต่อไป ในวันที่ทุกคนพากันไปงานกฐินที่วัด จึงแอบเข้าไปในห้องรำเพย ขโมยของมีค่าออกมาหมายจะหนีไปให้ไกล แต่นมขามที่ไม่ได้ไปงานกฐินจับได้คาหนังคาเขา จึงให้พวกบ่าวมัดงามตาเอาไว้ เพื่อรอการตัดสินโทษจากไต้ก๋งชาง

 

จากการทำความผิดที่ไม่อาจให้อภัย ไต้ก๋งชางให้พวกบ่าวนำงามตาไปมัดไว้ใต้ต้นหูกวางหน้าเรือน เอาน้ำผึ้งทาตัวให้มดขบกัดสองวันสองคืนด้วยกัน ทำให้งามตาเจ็บปวดทรมานเป็นที่สุด หลังได้รับการปล่อยตัว งามตาถูกไล่ออกจากเรือน และประกาศสั่งห้ามไม่ให้เข้ามาเหยียบที่นั่นอีก

 

 งามตากลับบ้านของตนด้วยสภาพบอบช้ำ หมอผีอินแค้นเคืองแทนลูก ตัดสินใจทำเสน่ห์ให้งามตา เรียกเสน่ห์ดังกล่าวว่า “เสน่ห์นางครวญ” ซึ่งเป็นที่มาแห่งปมปัญหายากเกินเยียวยา

 หมอผีอินใช้หัวว่านนางครวญ ผสมกับเถาหลงที่หายากจากในป่า บดรวมเข้ากับขี้ผึ้งที่ทำจากเล็บ เส้นผม ของผีตายโหง ใส่น้ำมนต์ปลุกเสกในคืนวันเพ็ญ

 

สิ่งสำคัญของเสน่ห์นางครวญ คือการต้องทำพิธีด้วยชีวิตของหญิงสาว และในคืนพระจันทร์เต็มดวง 15 ค่ำ จะต้องสังเวยเสน่ห์ด้วยชีวิตหญิงสาวเช่นกัน ไม่เช่นนั้นมนต์เสน่ห์จะเสื่อมคลายไปในที่สุด

 

 

 

 

 

 

รายละเอียด

พ.ศ.2450 ปลายสมัยรัชกาลที่ 5...

‘ไต้ก๋งชาง’ กัปตันเรือสินค้าจากเมืองจีนแผ่นดินใหญ่ พาลูกเรือกว่ายี่สิบชีวิตเดินทางเข้ามาค้าขายในน่านน้ำไทย แต่โชคร้ายถูกพายุซัดเรือสำเภาร่ม ลูกเรือทั้งหมดเสียชีวิต เหลือเพียงไต้ก๋งชางที่รอดมาได้ราวปาฏิหาริย์  

โชคชะตานำพาให้เขาพบกับ “รำเพย” หญิงชาวสยาม บุตรสาวคนเดียวของขุนทนงค์ ขุนนางใหญ่วัยเกษียณที่รับไต้ก๋งชางเข้ามาอยู่ในเรือน ไต้ก๋งชางถูกใจรำเพยแต่แรกเห็นและสานสัมพันธ์แบบไม่รั้งรอ  ด้วยบุคลิกฉพาะตัวที่มีความเฉลียวฉลาดและสายตากว้างไกล  ไหวพริบดี  แถมยังพูดได้หลายภาษา ทำให้ขุนทนงค์ไว้วางใจไต้ก๋งชาง  ให้ติดตามไปเรียนรู้งานตามสถานที่ต่างๆ

 ไม่นานขุนทนงค์จากไปด้วยโรคประจำตัว ไต้ก๋งชางและรำเพยตกลงอยู่กินแบบสามีภรรยาอย่างเปิดเผย ชื่อเสียงไต้ก๋งชางเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ด้วยการเปิดตลาดแห่งใหม่  ติดต่อเอาพ่อค้าชาวจีนเข้ามาค้าขาย บ่าวในเรือนพากันนับถือและให้ความสำคัญกับไต้ก๋งชาง ในฐานะเจ้าของเรือน

สุขสมหวังได้ไม่นาน โชคชะตาโยงใยให้ได้พบ “งามตา” ลูกสาวหมอผีอิน ผู้มีแต่ความมักใหญ่ใฝ่สูง อยากร่ำรวยเป็นชีวิตจิตใจ งามตาพยายามทุกวิถีทางที่จะเป็นเมียไต้ก๋งชางแต่ก็ไร้ผล  จึงขอให้พ่อทำเสน่ห์เล่ห์กลให้กับตน

  “มนต์เสน่ห์นางครวญ” เป็นอำนาจมืดในทางร้าย ในการบูชาเสน่ห์แต่ละครั้ง แลกมาด้วยชีวิต หมอผีอินตัดสินใจทำเสน่ห์ไต้ก๋งชาง เพื่อให้งามตาสุขสมหวัง    

 เสน่ห์นางครวญเปลี่ยนไต้ก๋งชางไปเป็นคนละคน เชื่อฟังตามคำงามตาเกือบทุกอย่าง นอกจากพางามตามาอยู่ในเรือน ยังไล่รำเพยออกไปอยู่ที่ปื่นทั้งที่ตั้งครรภ์ ตามคำยุยงของงามตาที่บอกว่ารำเพยท้องกับชายชู้

 หลายต่อหลายชีวิตกับการบูชาเสน่ห์ในคืนเดือนเพ็ญ นำมาซึ่งอำนาจและความต้องการ งามตาแอบมีสัมพันธ์กับก้อนบ่าวในเรือนแบบลับๆ และท้องขึ้นมา  จึงพากันหาทางกำจัดไต้ก๋งชางและฆ่าตายอยู่ในเรือน

 วิญญาณไต้ก๋งชางเฮี้ยนและตามหลอกหลอนทุกคน!!  พลังอำนาจทบทวีคูณเพราะไม่ได้ถอนเสน่ห์ก่อนเสียชีวิต  หมอผีอินหาทางกำจัดด้วยการตัดศีรษะกับลำตัวไต้ก๋งชางแยกกัน แล้วนำไปฝังคนละที่

ความเฮี้ยนหยุดลงนับจากนั้น...ไม่มีใครคาดคิดว่าเมื่อ 25 ปีผ่านไป... วิญญาณไต้ก๋งชางจะได้รับการปลดปล่อย  ทุกสิ่งนับจากนั้นนำมาซึ่งความน่าสะพรึงกลัว!

 เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร เมื่อ‘เฟื่องฟ้า’ลูกสาวที่เกิดจากรำเพย แฝงตัวเข้ามาอยู่ในเรือนงามตา เพื่อทวงสิทธิ์ทุกอย่างที่เป็นของเธอและแม่คืน    

 และเมื่อเธอได้พบกับ ‘ก้องภพ’ หนุ่มหล่อดีกรีนักเรียนนอก บุตรชายงามตาและก้อน  การแก้แค้นจึงดำเนินไปพร้อมกับการช่วยเหลือก้องภพ ให้พ้นจากการตามไล่ล่าเอาชีวิตจาก ผีไต้ก๋งชาง!

การแก้แค้นจะสำเร็จหรือไม่ เมื่อต่างมีใจให้กัน!!!

                                                          **************


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (76 รายการ)

www.batorastore.com © 2024