
หัวใจเก็บตก เล่ม 2 (โสภี พรรณราย)
ประหยัด: 52.50 บาท ( 35.00% )
เนื้อหาบางส่วน
๒๙
เสียงของพิมพิกาเกือบจะเรียกว่าเอะอะ
อารมณ์ของหล่อนหลายอย่างผสมผสานกัน ไม่เพียงแต่เมาอย่างเดียว มีความหึงหวงอยู่ส่วนหนึ่ง นอกเหนือจากความไม่พอใจส่วนตัว
อารดามีอะไรดี…?
ผู้ชายหลายคนสนใจหล่อน…ชนินทร์ ภริต รวมถึงศมากร
“คุณจะหาเรื่องพิมใช่มั้ย…ใช่มั้ยคะ?” ยิ่งคิดก็ยิ่งเดือดร้อน จนเขย่าแขนเขาแรง ๆ ทำให้ภริตต้องเกร็งแขนกับพวงมาลัย
“คุณฟุ้งซ่านใหญ่แล้ว…ผมขับรถอยู่นะ…”
“ทำไมต้องตำหนิพิมด้วย”
“คุณไม่เข้าใจ…เพราะคุณเมา…”
“นี่เราจะทะเลาะกัน เพราะผู้หญิงคนอื่นหรือคะ!”
“เปล่า…” ภริตโคลงศีรษะ…บังคับพวงมาลัยกับถนนตรงหน้า “คุณต้องระงับสติอารมณ์”
“คุณกำลังว่าพิมทางอ้อมนะคะ”
“คุณไม่เคยคิดมากแบบนี้”
“เพราะคุณแน่ะสิ”
“พิม…ผมว่าไร้สาระ คุณหลับไปก่อนก็ได้ ถึงบ้านแล้วผมจะปลุกเอง”
พิมพิกากลับมานั่งตัวตรง ตาวาวกำมือแน่น
“ถึงอย่างไร เรื่องนี้พิมไม่ยอมยุติหรอก ต้องบอกให้น้าชนินทร์รู้!”
“เจตนาของคุณคืออะไรกันแน่?”
“ไม่มี…พิมจะทำเท่าที่ใจพิมอยากทำ!”
ชายหนุ่มนิ่ง…
ไม่รู้อะไรที่ทำให้พิมพิกาขาดเหตุผล…
ปกติหล่อนเป็นคนเจ้าอารมณ์ แต่ไม่น่าเดือดร้อนเรื่องของคนอื่น…
สำหรับเขา…ขณะนี้ คิดว่า อารดาเป็น ‘คนอื่น’ จริง ๆ และเชื่อว่า ความฉลาดบวกกับความรักนวลสงวนตัวของหล่อน จะทำให้หล่อนพ้นมือน้าชาย
“คุณบอกน้าชนินทร์ ทำให้เขาอยากเอาชนะ…เขาอาจไม่ได้รักคุณอารดาอย่างที่คุณคิดก็ได้”
อาการยักไหล่เหมือนไม่แคร์
“รักหรือไม่รัก เป็นศักดิ์ศรีน้าชนินทร์”
“พิม! เท่ากับคุณสนับสนุนให้น้าชนินทร์เป็นเสือผู้หญิง!”
ภริตไม่เข้าใจความคิดของหล่อนเลย…เขาพยายามคิดในแง่ดีว่าเพราะหล่อนเมา
ถึงพรุ่งนี้ หล่อนอาจไม่ทำอะไรเหลวไหล…
เขาเชื่อ…
ความเชื่อของภริตเกี่ยวกับพิมพิกาผิดพลาด
บทพิสูจน์ข้อนี้เกิดขึ้นในวันใหม่…
ขณะที่ภริตกับชนินทร์กำลังนั่งสนทนากันในศาลาริมสวนท่ามกลางอากาศเช้าที่สดชื่น เย็นสบาย
เสียงรถที่แล่นมาจอดหน้ารั้วบ้านและคนสวนเปิดประตู พอหัวรถโผล่เข้ามา ชนินทร์ก็ยิ้มกับหลานชาย
“คุณพิมมาหานายแต่เช้าเชียว”
ภริตกลับนึกถึงเรื่องเมื่อคืน…กว่าจะคุยกันรู้เรื่องและส่งหล่อนกลับบ้าน เขาก็เหนื่อยแสนเหนื่อย
รถแล่นมาจอดหน้าตึก…
พิมพิกาก้าวลงจากรถ…มองไปที่ศาลา…
ภริตโบกมือให้…หล่อนโบกตอบและเดินลิ่วไปหา
“โอ้โฮ้…มาหานายริตแต่เช้า…” ชนินทร์กล่าวยิ้มๆ
“ใครว่าคะ…มาหาน้าชนินทร์ต่างหาก”
ต่อหน้าต่อตาภริต พิมพิกาแสร้งไม่สนใจ มีธุระกับชนินทร์จริง ๆ คนอย่างพิมพิกา ไม่เปลี่ยนความตั้งใจ!
“อ้าว!” ชนินทร์หัวเราะร่วน “นายริตหมดเสน่ห์คราวนี้…”
หล่อนทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ม้าหินตัวหนึ่งในจำนวนสี่ตัว
“มาหาน้าชนินทร์ก็ไม่ใช่ข่าวดีนะคะ”
“อ้าว!” อุทานอีกครั้ง “คงไม่ใช่ทะเลาะกับนายริตแล้วจะให้น้าเป็นคนไกล่เกลี่ยนะ”
“เปล่าค่ะ…เมื่อคืนเรายังไปฟังเพลงด้วยกันเลย เพราะเมื่อคืนจึงมีเรื่องรายงานน้าชนินทร์ เราพบคุณอารดาของน้าไปกับหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่ง ท่าทางสนิทสนมกันเหลือเกิน”
“อ๋อ…” ชนินทร์ไม่แปลกใจ ทำให้พิมพิกาจ้องหน้าเขม็ง
“น้าชนินทร์ไม่เห็นเดือดร้อนเลย?”
“ผู้ชายคนนั้น อาจเป็นแฟนเธอ” กลับบอกเองเฉย “ชื่อศมากร…”
“แล้วน้าชนินทร์เป็นอะไรล่ะคะ?”
“ตอนนี้เป็น…เพื่อน…”
“แสดงว่าน้าชนินทร์เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไร้สาระใช่มั้ยคะ?”
น้าชายพยักหน้า
“น้าเข้าใจคุณ…ขอบใจที่มาบอก แต่คนอย่างน้าไม่เคยกลัวหรอก…คู่แข่งประเภทไร้อันดับ”
“แสดงว่าน้าชนินทร์มั่นใจตัวเอง”
“แน่นอน…” รับคำหนักแน่น
“สำหรับคุณอารดา น้าชนินทร์บอกได้มั้ยคะว่าจะควงเล่นหรือตั้งใจจริง?”
“ถามนายริตสิ…เขารู้ดี” บุ้ยปากไปทางภริตยิ้ม ๆ
“คะ?” หล่อนหันมาถามจริง ๆ
ภริตโคลงศีรษะ
“เรื่องผู้หญิงของน้าชนินทร์ ผมไม่รู้!”
ชนินทร์หัวเราะ
“นายคนนี้มันแอนตี้น้าอยู่แล้ว…เอา…ปล่อยให้คุยกันสองคนนะ น้าไม่ขัดจังหวะหรอก”
กล่าวพลางลุกจากศาลา…
พิมพิกากอดอก ยิ้มกับภริต
“แค่บอกน้าชนินทร์…ทำเหมือนโกรธพิม…”
“คุณนี่เล่นไม่เลิกนะ”
“เพราะอยากจะ…เล่น…นี่คะ”
หล่อนทำท่ายียวน…ภริตขุ่นวูบหนึ่ง…เห็นว่านิสัยเข้ากันไม่ค่อยได้…หากมีเรื่องเช่นนี้บ่อย ๆ คงทะเลาะกันหนักสักวันหนึ่ง
คืนนั้น…
ภริตออกไปหาอะไรดื่มเพียงคนเดียว เพื่อทบทวนถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพิมพิกา
ออกจากผับเกือบเที่ยงคืน พร้อมกับเบียร์หมดไปสองขวด
เขากำลังเดินไปข้ามถนนเพราะรถจอดอยู่ตรงข้าม…ภาพหญิงชายคู่หนึ่งทำให้เขาสะดุ้ง…
มารดา…กับ…ศมากร
ถ้าเป็นคนอื่น เขาคงไม่สนใจเพียงนี้ แต่นี่ ภริตกระพริบตาให้แน่ใจ
มารดากับศมากรไม่เปลี่ยนแปลง…
ภริตมองเหตุการณ์เงียบ หากใจเต้นแรง…
เห็นมารดากำลังจะก้าวขึ้นรถ…ศมากรทำท่าเดินมาส่ง…
บุรุษหนุ่มยกมือไหว้ และมารดาตบบ่าเขาเบา ๆ
ภริตมึนงง…เบียร์สองขวดไม่ทำให้เขามึนเท่าภาพที่เห็น
ลักษณะมารดายิ้มแย้มแจ่มใส…ส่วนศมากรก็ยิ้มแย้มนอบน้อมเอาอกเอาใจอีกฝ่าย
รถของมารดาแล่นออกไปแล้ว…เหลือแต่ศมากร…ซึ่งยืนยิ้มมองหลังรถจนลับสายตา
แล้วเห็นเขาเดินไปขึ้นรถอีกคันหนึ่ง แม้เป็นรถญี่ปุ่นราคาถูก แต่ก็ใหม่เอี่ยม
ภริตรีบขับรถกลับบ้าน…ให้ทันมารดา…
ท่านเพิ่งก้าวขึ้นบนบ้าน
ภริตทิ้งรถไว้หน้าตึก ไม่มีเวลาแม้แต่จะเก็บรถในโรงรถ
“คุณแม่…”
คุณอุมากำลังเปิดตู้เย็นรินน้ำเปล่าเต็มแก้ว
“อ๋อ…นายริต…ดื่มน้ำมั้ยลูก”
“ไม่ครับ”
“เพิ่งกลับเรอะ?”
“ครับ…”
“แม่ก็เพิ่งกลับ” น้ำทั้งแก้วผ่านลำคอ พร้อมเสียงถอนใจยาว “ค่อยยังชั่ว เครื่องดื่มทั้งหมดไม่มีอะไรดีกว่าน้ำเปล่า”
คนพูดไม่ทันสังเกตลูกชาย ที่กำลังข่มอะไรบางอย่างให้น้ำเสียงราบเรียบมั่นคง
“คุณแม่ไปไหนมาครับ?”
“ก็ที่เดิม กับคุณวิภาวี” ท่านหันมา… “แหม…มองแม่ตาเขียวเชียวนะ…”
เขาก้าวเข้ามาด้านหน้าสองก้าว…
“คุณแม่สนุกมากสิครับ”
คุณอุมาเลิกคิ้ว เดินไปหาที่นั่ง พยักหน้า
“ก็สนุกอีกแบบ…”
“กับผู้ชาย?” ระงับเสียงไม่ให้สั่น
คุณอุมาหัวเราะเบา ๆ
“แม่ไม่ถึงขั้นคุณวิภาวีหรอก…”
“คุณแม่ตอบไม่ตรงคำถาม”
ถูกคาดคั้นมาก ชักผิดสังเกต…มารดาเลิกคิ้วอีกครั้ง…คราวนี้สังเกตบุตรชายจริง ๆ จัง ๆ
ใบหน้าแดงก่ำ…กับดวงตาเอาเรื่อง
“ริต…เป็นอะไรไป?”
“ผมอยากให้คุณแม่ตอบคำถามผม…”
“ได้…” มารดามิได้สะทกสะท้าน “มองเหมือนแม่ไปทำอะไรผิดมาอย่างงั้นล่ะ”
“คุณแม่น่าจะรู้ตัว…”
“แม่ไม่ได้ทำอะไรผิด…”
“กับผู้ชายคนนั้น!”
คุณอุมากระพริบตา…คิดอะไรครู่หนึ่ง ก็นึกได้
“อ๋อ…แม่พอเข้าใจแล้ว…แกคงเห็นแม่กับ…เขา…”
“ครับ!”
“โธ่! นึกว่าอะไร…”
“แม่ออฟผู้ชาย?”
“แค่ไปหาอะไรทานกันเท่านั้นแหละ…”
“รู้มั้ยครับ…มันน่าเกลียดแค่ไหน”
“แม่…หรือผู้ชายคนนั้น…?”
ขบกรามแน่น…กับคำถามของมารดา…
เขาไม่เคยรู้สึกโกรธมารดาเท่านี้…
ผู้ชายคนนั้น…
ศมากร…เป็นผู้ชายที่เข้าใจหารายได้พิเศษ…
อารดา…แฟนสาวศมากร…
อารดารู้เรื่องแค่ไหน?
“ผมไม่อยากตอบ!”
“ริต…โกรธแม่มากเรอะ…แม่ไม่ได้ทำอะไรเสียหายเลยนะ” ถึงอย่างไร…คุณอุมาก็แคร์ลูกชายคนเดียว “เด็กหนุ่มคนนั้นมีปัญหา แม่ก็อยากช่วย แม่ไม่ปิดบังแกหรอก”
“ปัญหาอะไรครับ?”
“แม่เขาเป็นมะเร็ง ต้องใช้เงินหลายหมื่นบาทผ่าตัด…ฐานะอย่างแม่ถ้าจะทำบุญช่วยชีวิตคนคนหนึ่ง…ห้าหมื่นบาท…แม่ยอมจ่าย” ท่านบอกหมด
“ห้าหมื่น…!”
ท่านใจอ่อนกับศมากรเกินไปแล้ว
“คุณแม่เชื่อหรือครับ?”
“ถือว่าทำบุญไม่ต้องคิดอะไรมาก”
มารดาเปลี่ยนไปจริง ๆ…เขาไม่เชื่อว่าศมากรจะพูดจริง…เงินกับนิทานเรื่องหนึ่ง…
ศมากรกับอารดาอาจร่วมมือกันหลอกเงินมารดา!
ภริตเกลียดคนประเภทนี้…
เขาต้องสืบหาความจริงให้ได้!
อาศัยเงินไม่กี่พันบาท ภริตก็ได้รับรายงานว่า…ศมากรไม่มีมารดา…
ประวัติทางครอบครัว พื้นเพเป็นคนยากจน มารดาเสียชีวิตนานแล้ว เหลือแต่บิดา ซึ่งแข็งแรงดีและอาศัยอยู่ต่างจังหวัด
ภริตไม่บอกมารดา…เพราะคุยกับท่านเรียบร้อยแล้ว โดยท่านจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับศมากรอีก
ท่านถือคติช่วยแล้วก็แล้วไป
ภริตใช้ความคิดเงียบ ๆ จนชนินทร์เดินเข้ามา…
“เฮ้ย…นายริต…เหม่อเชียว”
น้าชายมักโวยวายเสมอ เมื่อดื่มอะไร ๆ หลายแก้ว
“น้าชนินทร์ไปนอนเถอะครับ…”
“มีเรื่องคุยกับนายว่ะ…คุณอารดาหมั้นแล้ว…กับแฟนที่ทำงานบริษัทเดียวกัน”
ศมากร…!
ภริตกำลังสนใจศมากรอยู่พอดี ฉะนั้นจึงสนใจเรื่องที่น้าชายบอกอย่างไม่มีเจตนา
“แล้วที่น้าดื่มเพราะอกหักหรือครับ?”
“เปล่า…น้าไม่เคยกลัวคู่แข่ง…”
“น้ารู้จากใคร?”
“เพิ่งไปส่งคุณอารดาที่บ้าน…เธอโชว์แหวนเพชรให้ดู…ก็เม็ดใหญ่เหมือนกัน หลายหมื่นทีเดียว น้าคิดไม่ถึงว่านายศมากรจะมีปัญญาซื้อขนาดนี้…”
จากการสืบประวัติ…เงินเดือนศมากรไม่มากมายนัก แถมเจ้าตัวเป็นคนฟุ่มเฟือย
ค่าแหวนคงเป็นเงินที่หลอกมาจากมารดา
ศมากรหมั้นอารดา…
อารดาน่าจะรู้ฐานะของแฟนหนุ่ม…
เอาเงินมาจากไหน?
รถก็ออกรถคันใหม่…ถ้าอารดาไม่รู้เรื่อง หล่อนก็เป็นคนโง่ทีเดียว…
ถ้ารู้…หล่อนก็ร้ายกาจพอ ๆ กับศมากร
ภริตนึกเจ็บใจ…เขาไม่น่าปกป้องผู้หญิงคนนี้…หล่อนเป็นคนฉลาด…ในไม่ช้าทั้งหล่อนและศมากรก็คงอุดมสมบูรณ์…
“แสดงว่าน้าช้ากว่าเขา…” ภริตว่า
“แบบนี้มันต้องใจเย็น…”
“น้าชนินทร์คงไม่ยอมแพ้มังครับ แต่ก็ผ่านด่านคุณศมากรยากหน่อย”
ชนินทร์หัวเราะ เขาไม่เคยเดือดร้อนเรื่องอะไรสักอย่าง
“รอจังหวะ…”
“วันหนึ่งเธออาจแจกการ์ดแต่งงานเลย”
“ไม่มั้ง…แต่งงานต้องใช้เงินเยอะนะ…แต่ค่าแหวนก็อาจต้องกู้หนี้ยืมสินแล้ว”
“อาชีพ ‘ผู้ชายมีปีก’หาเงินคล่องจะตาย…
เขาทั้งรังเกียจและขยะแขยง…ทั้งไอ้และอี!
“น้าจะทำอย่างไรต่อ?”
“รุกต่อ…”
“ฝีมืออย่างน้าอีกนานแค่ไหนครับ?”
ชนินทร์หัวเราะ
“เออ…ชักสงสัย นี่นายกำลังสนับสนุนหรือกำลังห้าม?”
คนฟังกำลังเคียดแค้น…
ไม่อยากให้มารดาและน้าชนินทร์ถูกศมากรและอารดาหัวเราะเยาะ
บางที…บางที…เขาอาจต้องลงมือเอง…
ภริตไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน…
อารดา!
ท่าทางศมากรรักอารดามาก ถ้าเขา ‘ทำ’สำเร็จ ศมากรก็คงเจ็บปวด
ฝีมือน้าชนินทร์ยังไม่สำเร็จเลย…เขาล่ะ?
“ผมไม่อยากห้ามน้าอีกแล้ว ถึงห้ามก็ไม่เชื่อ” ภริตแก้ตัว
“อ๋อ…ดีที่เข้าใจน้า”
ภริตไม่ได้ฟัง…เขากำลังคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่งจริง ๆ