หวามรักในรอยทราย (ทรายร้อนรัก ภาค 2 ) ธยาดา(ชนิตร์นันท์)

หวามรักในรอยทราย (ทรายร้อนรัก ภาค 2 ) ธยาดา(ชนิตร์นันท์)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: หวามรักในรอยทรายภาค2
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 159.00 บาท 39.75 บาท
ประหยัด: 119.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

มือที่กำลังสาละวนกับการปักเม็ดมุกบนชุดเจ้าสาวที่ประดับอยู่บนหุ่นหน้าร้านต้องชะงักเพราะความรู้สึกถึงสิ่งไม่ธรรมดาบางอย่าง ดวงตากลมโตเขม่นมองร้านอาหารฝั่งตรงกันข้ามซึ่งก็ไม่เห็นอะไรมากไปกว่ากระจกสีชาที่สามารถมองเห็นลูกค้าที่มาใช้บริการในร้านได้อย่างรางเลือน

ความรู้สึกไม่ดีเหมือนถูกจ้องมองทำให้ศีรษะส่ายไปมาก่อนจะก้มหน้าก้มตาทั้งปักทั้งสอยชุดเจ้าสาวที่หุ่นสวมใส่อยู่ต่อไป เพราะเป็นชุดที่ต้องโชว์หน้าร้านทำให้ต้องเน้นให้เข้ารูปหุ่นมากที่สุดและเธอก็ต้องเร่งมือให้เสร็จก่อนการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ในวันพรุ่งนี้ งานที่คิดว่าจะทำให้เสร็จอย่างรวดเร็วกลับมาเสียเวลาเพราะความรู้สึกก่อกวนที่เกิดในหลายวันที่ผ่านมาซึ่งมันทำให้เธอไม่มีสมาธิ

          “น้ำตาล เสร็จยัง ห้างจะปิดแล้วนะ ถ้าไม่เสร็จมาต่อตอนเช้าให้พี่ละกัน แต่ต้องสัญญาว่าจะมาแต่เช้าจริงๆ นะ”

เสียงพี่หนูนิดหรือนิตรวีสาวเทียมร่างบอบบางที่เหมือนผู้หญิงมากที่สุดถ้าไม่รวมเสียงพูดแหบๆ ดัดๆ นั้น

          “อีกแป๊บเดียวค่ะพี่หนูนิด เดี๋ยวน้ำตาลสอยข้างเอวนี่เสร็จก็โอแล้วค่ะพี่”

เสียงหวานพร้อมใบหน้าหันกลับไปบอกก่อนจะหันไปเพ่งสายตากับจุดที่ต้องสอยเก็บอีกครั้ง

          “นี่! น้ำตาล แล้วข้อเสนอของเพื่อนน่ะน้ำตาลคิดยังไง รับไว้หรือเปล่า”

          “ก็.. น้ำตาลก็ต้องขอคิดดูก่อนค่ะ ไปไกลบ้านน้ำตาลก็อดคิดถึงพ่อกับแม่ไม่ได้”

          “อ้าว! ก็ไหนบอกว่าพี่ชายเราเขาจะไปอยู่ที่นั่นด้วยไง”

          “ก็คงจะต้องอีก 3-4 เดือนค่ะ พี่เอน่ะเขาต้องทำเรื่องย้าย เรื่องเอกสารหลายอย่าง เพราะพี่เขาคงจะไปตั้งรกรากที่นั่นจริงๆ กว่าจะไปก็คงจะทันไอ้ตัวน้อยออกมาพอดีน่ะค่ะ”

ปากพูดแต่ตาและมือก็ยังคงทำหน้าที่ไม่หยุด

          “แล้วสรุปเราน่ะตัดสินใจยังไง พี่อ่ะไม่อยากให้เราไปหรอกนะ ขาดน้ำตาลไปคนร้านพี่ยุ่งแน่”

          “แหม.. พี่หนูนิดก็ พี่ก็ให้ค่าจ้างแพงๆ หน่อยซิคะ เดือนละห้าหมื่นใครจะเอา”

น้ำตาลพูดในอารมณ์ล้อเลียนเพราะค่าจ้างที่นิตรวีให้เธอนั้นถือว่าแพงกว่าที่อื่นมาก และยังกล้าให้เด็กที่เพิ่งมีประสบการณ์แค่ปีเดียวอย่างเธอมากถึงขนาดนี้

          “โห! หล่อน ช่างกล้านะยะ กล้าพูดมาก ลองใครมันรู้ซิว่าฉันให้ห้าหมื่นไม่รวม 10% จากยอดขายมีหวังได้แจ้นมาเป็นโหลแน่ ฉันน่ะไม่อยากแย่งงานคนอื่น แค่นี้ฉันก็รวยจะตายแล้ว กลัวตายแล้วไม่ต้องใช้ฟืน”

คำพูดลากยาวใส่จริตจนทำให้แยกแยะระหว่างสาวเทียมกับสาวแท้ได้อย่างง่าย ก่อนจะเงียบลงเพราะเห็นสายตางงๆ ของน้ำตาลที่มองตรงมา

          “ก็เงินมันเยอะจนต้องเอาแทนฟืนสำหรับเผาไงย่ะ แหม.. ทำเป็นไม่เข้าใจ แม่พวกคนรวย คนอะร๊ายทำงานแค่สามเดือนมีเงินเก็บเป็นแสน เชอะ! รวยแล้วก็ทิ้งกัน”

          “หึหึหึ.. พี่หนูนิดนี่ เดี๋ยวน้ำตาลก็เปลี่ยนใจไม่เอาชี้คหล่อๆ มาฝากเสียเลย ปล่อยให้เหี่ยวอยู่อย่างนี้แหล่ะ”

          “No No No.. จะออกงานฉันไม่ว่า แต่สัญญาห้ามลืม โดยเฉพาะท่านชี้คสุดหล่อคนนั้น โอย.. อกหนูนิดจะแตก คนอะไรไม่รู้ หล่อระเบิดระเบ้อ หล่อไม่บันยะบันยัง หล่อไม่แบ่งปันเพื่อนฝูง โอว.. ใครได้ไปเป็นสามีโชคดีตาย อู้ยยยย...”

          น้ำตาลหัวเราะขำกับท่าทางและเสียงที่เป็นเอามากของนิตรวีที่มักจะหลุดท่าทางกุลสตรีที่เจ้าตัวพยายามทำให้เหมือนมากลายเป็นนางแมวสาวอยากขย้ำเหยื่อในทุกครั้งที่พูดถึงชี้คสุดหล่อนั่น “ชี้คฟีรอส” เจ้าของนามที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหล่อจริง เขาหล่อมาก ถ้ามาอยู่เมืองไทยสงสัยจะได้เป็นพระเอกหนังแน่ๆ คนหล่อที่สร้างความตื่นเต้นให้กับหัวใจทุกครั้งและครั้งนี้ก็เช่นกัน

“ได้ขอรับ ชี้คคา”

เสียงทุ้มล้อเลียนในวันวานเหมือนยังก้องอยู่ในความรู้สึก แผงอกแกร่งที่เธอพิงอิงซบบวกกับกลิ่นน้ำหอมหลังโกนนวดอ่อนๆ ที่โชยมา ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นแม้จะไม่รวมหน้าตาที่หล่อมากๆ นั้นก็ทำให้เขามีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามได้อย่างล้นเหลือ ซึ่งไม่น่าแปลกที่มักจะเห็นข่าวต่างประเทศประโคมข่าวเรื่องคู่ควงของชี้คหนุ่มหล่อนี้เสมอๆ คงมีแต่เพียงเธอเท่านั้นที่ยังคิดถึงดวงตาสีทองคู่นั้นยามทอดสายตาที่เธอคิดไปเองว่ามันเป็น “แววอาลัย” ที่เขาส่งมา มีแต่เธอเท่านั้นที่ยังละเมอเพ้อหาเขาอยู่ในทุกจังหวะการเต้นของหัวใจ แต่เขาล่ะ..ป่านนี้แม่นางแบบเวเนฯ คนล่าสุดจะควงไปกี่งานต่อกี่งานแล้วก็ไม่รู้

“น้ำตาล น้ำตาล!”

“ว้าย! โอ๊ะ!”

น้ำตาลสะดุ้งตกใจกับเสียงเรียกและความรู้สึกเจ็บแปลบที่ปลายนิ้ว

“ตายแล้ว! น้ำตาล พี่ขอโทษ พี่ก็เห็นเราใจลอย ขอโทษจริงๆ ขอโทษจริงๆ”

นิตรวีหันรีหันขวางก่อนจะหยิบกระดาษทิชชูใกล้มือขึ้นมาซับเลือดที่ซึมออกมาเพราะรอยเข็มตำที่ปลายนิ้วของน้ำตาล

“พี่หนูนิดไม่เป็นไรค่ะ นิดเดียว ไกลหัวใจน้ำตาลเยอะ”

“จ้า..แม่คนเก่ง ที่ว่าไกลเยอะน่ะ เพราะหัวใจอยู่ที่อารันดาหรือเปล่า ฮะ!”

ใบหน้าจิ้มลิ้มที่ชะงักไปทำให้นิตรวีถึงกับหน้าเหวอ ก่อนจะหันไปสนใจกับเสียงเรียกจากด้านนอกร้าน

“พี่หนูนิดคร๊าบ พี่หนูนิด พี่หนูนิดคร๊าบ..”

หนุ่มนักศึกษากลุ่มใหญ่ที่เดินผ่านหน้าร้านพร้อมตะโกนเข้าไปทักทายเมื่อเห็นว่านิตรวีและพี่สาวคนสวยกำลังยืนจัดหุ่นใส่ชุดเจ้าสาวอยู่ที่ตู้โชว์ด้านหน้า โดยเฉพาะพี่สาวคนสวยที่มองมาอย่างตื่นๆ นั้นยิ่งทำให้นักศึกษากลุ่มนั้น ทั้งเขินทั้งอายและอยากแซวเข้าไปใหญ่ นิตรวีแจกยิ้มให้หนุ่มๆ อย่างไม่นึกหวงเพราะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีก็เพราะชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เป็นศูนย์การศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นักศึกษากลุ่มนี้จึงนับว่าคุ้นหน้าคุ้นตากันดี

“พี่น้ำตาลคร๊าบ กลับบ้านดีๆ นะครับ ระวังอย่าทำหัวใจผมร่วง”

เสียงแซวพร้อมเพื่อนหัวเราะขำทำให้น้ำตาลเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานทักทายก่อนจะยกมือบ๊ายบายตอบเมื่อหนุ่มๆ บ๊ายบายส่งมาให้

“โถ.. ถ้าน้ำตาลไม่อยู่ หนุ่มๆ พวกนี้จะโฉบมาให้พี่ได้ดื่มกินทางสายตาบ้างมั้ยน้า.. มีหวังไม่เดินเฉียดมาอีกแน่”

“หึหึหึ.. พี่หนูนิดก็ ตลกอีกและ ก็หาแฟนซิคะ จะได้ไม่เหงา”

“รู้ได้ไงยะหล่อน นั่นแหล่ะตัวเหงาเลยแหล่ะ เวลาอยู่คนเดียวก็ไม่เหงาเท่าไหร่หรือเหงาก็อาจทนได้ แต่พอเคยชินกับอยู่สองคนขึ้นมาล่ะก็ ห่างกันหน่อยเหงาตายเลย”

“จริงเหรอคะ”

“จริงเด้.. ไม่เชื่อเหรอ”

“เปลี่ยนจากจริงเด้ มาเป็นจริงจ้ะจะดีกว่ามั้ยคะ”

“เออใช่..แง๊... ถ้าน้ำตาลไม่อยู่ใครจะคอยสอนพี่ล่ะ พี่ถึงจะไม่หลุดไอ้คำแบบนั้นอ่ะ ทำไงดี”

ท่าทางงอแงของนิตรวีถึงกับทำให้น้ำตาลหัวเราะก๊าก เพราะไอ้ที่กำลังแสดงกิริยาอยู่นี้ก็ไม่ได้น่าดูเลยสักนิด อีกหน้าที่หนึ่งที่ต้องทำตลอด 3 เดือนที่กลับมาเมืองไทยนอกเหนือจากเป็นดีไซด์เนอร์ชุดเจ้าสาวให้กับ “นิตรวีเวดดิ้ง” ก็คือ การคอยย้ำเตือนถึงกิริยาที่กุลสตรีที่ดีพึงกระทำให้กับพี่หนูนิดหรือนายนิตรวี ชื่อตามบัตรประชาชนที่เจ้าตัวภูมิใจนักหนาว่าช่างเข้ากับตัวตนที่แท้จริงของเธอเสียจริงร

          หนึ่งสาวแท้กับอีกหนึ่งสาวเทียมที่ต่างหัวเราะให้กันอย่างสนุกสนานทำให้คนที่จ้องมองมาจากร้านอาหารฝั่งตรงกันข้ามเหมือนจะไม่พอใจอะไรขึ้นมาดื้อๆ ก็เพราะเห็นๆ กันอยู่ว่านักศึกษาชายกลุ่มใหญ่ที่เดินจากไปนั้นแสดงท่าทีเหมือนพอใจเจ้าของร่างเล็กที่ยืนเย็บชุดแต่งงานอยู่ในตู้โชว์นั่น

เรือนร่างเล็กๆ นั้นรับกับใบหน้าจิ้มลิ้มล้อมกรอบด้วยเรือนผมสีน้ำตาลเข้มปล่อยทิ้งตัวยาวสยาย แม้นักศึกษาชายเหล่านั้นจะเป็นรุ่นน้องของเธอ ทว่าคำว่า “อายุเป็นเพียงตัวเลข” น่าจะใช้ได้ดี แต่เธอนี่ซิกลับไม่รู้จักวางตัว แต่กลับโบกมือตอบรับนักศึกษาหนุ่มๆ เหล่านั้นหน้าระรื่นโดยไม่ได้คิดถึงนิ้วน้อยๆ ที่ถูกเข็มตำนั่นเลยสักนิด

รายละเอียด

ความรักที่เกิดจากหัวใจสองดวงตรงกันอาจจะเรียกได้ว่าหอมหวานดั่งโรยด้วยกลีบกุหลาบ หากแต่ความรักนั้นก่อเกิดในดินแดนแห่งทะเลทรายอาจต้องเผชิญกับความร้อนแรงของทะเลทรายยามกลางวันและความเหน็บหนาวในยามค่ำคืน ต้นรักที่จะเจริญงอกงามได้นั้นย่อมต้องปรับตัวและหัวใจให้รับได้ในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงและอยู่ร่วมได้อย่างมีความสุข

          ทว่าแค่เพียงความรักและเชื่อใจจะเพียงพอที่จะต้านทานแรงลมร้อนแห่งทะเลทรายและหล่อเลี้ยงหัวใจให้แข็งแกร่งได้หรือไม่

“ทรายร้อนรัก ๒ : หวามรักในรอยทราย” กล่าวถึงความรักในมุมมองของ “ชี้คฟีรอส” และ “น้ำตาล”

ความรัก..ใช่มีเพียง “รัก” จากคนสองคน แต่รักต้องหมายรวมถึงความไว้เนื้อเชื่อใจและรับฟังในเหตุผลของกันและกัน เส้นทางความรักจึงจะบรรจบและเคียงคู่กันและกันตลอดไปได้ มาร่วมเป็นกำลังใจและเรียนรู้ในความรักของคนทั้งคู่ไปด้วยกันค่ะ

 


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (76 รายการ)

www.batorastore.com © 2024