สวรรค์นี้ไม่มีเธอ (ชลาลัย)

สวรรค์นี้ไม่มีเธอ (ชลาลัย)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: สวรรค์นี้ไม่มีเธอ
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 239.00 บาท 59.75 บาท
ประหยัด: 179.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทที่ 1

   “อุ๊ยแหม” เสียงกริ๊ดกระชดกระช้อยนั้นทำให้ชายหนุ่มนึกขำ เขาแกล้งจูบแรงๆที่ริมหูหล่อนอีกครั้ง รู้ได้ทันทีว่าหล่อนหยดน้ำหอมกลิ่นยั่วสวาทไว้ที่นั่น และแล้วก็โอบรัด ก่อนจะปล่อยและรุนหลังหล่อน

   “ไม่มีเวลาจ้ะตอนนี้ ออกไปก่อนดีกว่า ก่อนที่ผมจะตบะแตก”

   นัยน์ตาของชายหนุ่มแพรวพราว ไม่แพ้นัยน์ตาของหญิงสาวที่ระริกระรี้ไม่ห่างเหมือนไม้ดอกที่ซอกไซร้ภุมริน อ้าขาผวากลีบดอกเพื่อให้เขาเชยชมสมใจ

   แต่ภุมรีเล่าก็เบ้หน้า “ผมทำงานดีกว่า”

   “ยังไม่ถึงเวลางานสักหน่อยค่ะ เพิ่งแปดโมงเช้า”

   “อีกครึ่งชั่วโมง พนักงานก็มากันครบ ผมว่าคุณออกไปดีกว่าช่อ ชาวพาราเขาเห็นมันไม่ดี”

   “แต่ช่อว่าดี !” นัยน์ตาของหล่อนบอกว่ารั้น

ยังกอดคอเขาไว้แน่น “ไม่งั้นช่อจะมาทำงานแต่ไก่โห่ทำไมเล่าคะคุณขา เพราะคิดถึงคุณรู้ไหม มัวแต่ไปเชยชมกลีบดอกไม้อื่นล่ะซี โดยเฉพาะดอกราชาวดีดอกนั้นน่ะ หอมกว่าช่อชบาคนนี้หรือคะ...”

   ริมฝีปากหล่อนออดอ้อนท้าทาย เสียจนชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะรั้งใบหน้านั้นต่ำลงมา และจูบรุนแรงจนอีกฝ่ายสะดุ้ง ก่อนจะปล่อยง่ายๆ

   “ไปได้หรือยัง” น้ำเสียงของเขายังราบเรียบ

 

 

สวรรค์นี้...ไม่มีเธอ

   “ประเดี๋ยวผมอาจจะเห็นดอกราชาวดี วิเศษหอมหวานขึ้นมาทันตาเห็นเดี๋ยวนี้ก็ได้นะ จริงไหม”

   ช่อชบาทำปากตูม หากหล่อนก็ต้องลงมาจากตักเขา และถอยมายืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา ในรัศมีที่จะทำให้เขารำคาญน้อยลง นานมาแล้วที่หญิงสาวรู้จักที่จะเรียนรู้นิสัยเจ้านายจอมเจ้าชู้

   เขาไม่ใช่คนที่ใครอยากจะเล่น ก็เล่นได้ง่ายดาย หากเขาไม่ยอมที่จะเล่นด้วยแล้ว ต่อให้เอาพญายักษ์มาข่มเขาก็ย่อมไม่กลัว !

เขาจุดบุหรี่ขึ้นสูบ โดยไม่สนใจเมื่อช่อชบาติดไฟให้ เขาดีดไลท์เตอร์ราคาแพงนั้นด้วยตนเอง นัยน์ตาของเขาเป็นสีจัด ริมฝีปากเม้มนิดๆ เมื่อสูบบุหรี่พ่นควันเป็นวงกว้าง

   ช่อชบาทำหน้าเง้า “เหม็นเบื่อช่อหรือคะ ที่จริงก็...ไม่นานเท่าไหร่เองไม่ใช่หรือคะ”

   เพราะคำถามล่อแหลมตรงไปตรงมานั่นเอง ที่ทำให้เขาหัวเราะเสียงแปร่ง “คุณนี่ร้ายชะมัด ถามแบบนั้นเกิดผมตอบว่าเบื่อล่ะ...คุณจะทำหน้ายังไง”

   เขาหงายหน้านิดๆ ก่อนที่จะปล่อยควันบุหรี่ให้ลอยสูงขึ้น และก้มลงมองคนตรงหน้า หล่อนกับเขามีอะไรๆต่อกันเนิ่นนาน นับแต่ช่อชบาย่างก้าวเข้ามาเป็นพนักงานฝ่ายการเงินของบริษัทนี้

   หล่อนก็มาเป็นของเขา หล่อนมาของหล่อนเองมาโดยที่เขาไม่ได้ร้องขอ ด้วยเหตุนั้น ทั้งเขาและหล่อนย่อมรู้ดีว่า ต่างไม่มีอะไรต้องพันธนาการกัน และนั้นคือสิ่งที่เขาระมัดระวังที่สุด

เขาไม่ชอบการผูกมัด เขาเหมือนไก่แจ้ ที่ป้อนและหาอาหารขุดคุ้ยมันเรื่อยไปไม่ซ้ำที่ สุกที่ไหนหยุดที่นั่นพักหนึ่งแล้วก็ละเลยผ่านไป คุณค่าของความเป็นผู้หญิงของทุกคนที่ “ผ่าน” เขาไม่เคยตีราคามันสูงนัก

 

 

สวรรค์นี้...ไม่มีเธอ

“ช่อจะร้องไห้” หล่อนว่า “ลองดูไหมล่ะค่ะ”

   “ร้องซิ” เขาท้า “คุณทำน้ำตาได้เร็วขนาดนั้นก็เก่งตาย ไปเล่นหนังเป็นดาราดีกว่ามานั่งทำงานให้ปวดหลัง”

   ช่อชบาเท้าแขนแอ่นแต้ที่หน้าโต๊ะทำงานเขา ก่อนจะโน้มใบหน้าที่แต่งเสียเข้มจัดใกล้เข้ามาอีกนิด นัยน์ตาของหล่อนเป็นประกาย

   “ช่อไม่อยากเป็นดาราหรอกค่ะ”

   “ทำไม”

   “อยู่ไกลคุณน่ะซิ”

   “อยู่ไกลผมซิดี ไม่เหนื่อยแรง”

   หล่อนยื่นมือตีแขนเขาดังเผียะ “ฟังแล้วจักจี้ค่ะคุณนะร้าย ได้ใหม่ลืมเก่า อย่าลืมนะคะ เก่าลายครามน่ะมันก็มีคุณค่า”

   คราวนี้เขายิ้ม “แล้ววันหลังผมจะพิสูจน์นะช่อชบาตอนนี้คุณออกไปก่อนก็แล้วกัน ผมทำงาน”

   ช่อชบารู้ดีว่าเมื่อถึงประโยคนี้และสีหน้าอย่างนี้ย่อมไม่มีอะไรดีไปกว่า การกลับออกไปอย่างเงียบเชียบเรียบร้อย

ช่อชบายังไม่ทันคล้อยหลัง เสียงโทรศัพท์ก็แผดขึ้น

  เขายกหูโทรศัพท์เอง เพราะรู้ว่ายังไม่ถึงเวลาทำงานของโอเปอร์เรเตอร์

   “ฮัลโหล”

 

 

สวรรค์นี้...ไม่มีเธอ

   “ว่าไงพวง” เขาถามไปตามสายเมื่อจำเสียงนั้นได้ พวงเป็นสาวใช้ที่บ้านเขาเอง

   “มีอะไร ?”

   “มีแขกมารอพบคุณพธูที่บ้านค่ะ”

   “แล้วทำไมไม่โทร.ไปเรียนคุณพธูที่ทำงานล่ะ”

   เขาย้อนถามไปอย่างรู้สึกหงุดหงิดนิดๆ “เรื่องเท่านี้แกก็เซ่อ”

   เขาเกือบจะวางหู ก็พอดีพวงแทรกเสียงมาอย่างเร็ว เหมือนรู้ว่าช้าอีกนิดเดียวเจ้านายหนุ่มเป็นวางหูแน่

   “คุณพธูยังไม่ถึงที่ทำงานเลยค่ะ พวงโทร.ไปแล้ว”

   “เพื่อนคุณพธูหรือ คนไหนล่ะ ถ้าแกเคยเห็นก็บอกเขาซิว่าคุณพธูไปทำงาน  ให้เขามาใหม่”

   “พวงบอกเขาไปแล้วค่ะ แต่เขาก็รอ มีกระเป๋าเดินทางมาด้วยค่ะ ท่าทางเหมือนมาจากต่างจังหวัด”

“มาจากต่างจังหวัด” เขานิ่งคิดนิดหนึ่งแล้วก็ร้อง “อ๋อ บอกหรือเปล่าว่าชื่ออะไร”

   “ไมได้ถามค่ะ”

   “อุว่ะ !”

   “พวงยังไม่ทันได้ถามค่ะ แต่จะถามเดี๋ยวนี้...”

   แล้วเขาก็รออึดใจหนึ่ง จึงมีเสียงออกมาตามสาย เป็นเสียงที่อ่อนใสเนิบนาบ ไม่ใช่เสียงของพวง และเป็นเสียงที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน

 

สวรรค์นี้...ไม่มีเธอ

   “ดิฉันชื่อปาจรีย์ค่ะ เป็นเพื่อนของพธูที่มหาวิทยาลัย พธูเขียนจดหมายด่วนไปบอกให้ดิฉันขึ้นมา ดิฉันก็ขึ้นมาเลย โดยที่ไม่ได้โทรเลขบอกเขาก่อน คุณจะอนุญาตให้ดิฉันรอพธูที่นี้ได้หรือไม่ค่ะ”

   “ถ้าผมบอกว่าไม่ได้ คุณจะไปรอที่ไหน ร้านกาแฟหรือครับคุณบัณฑิตเกียรตินิยม !”

   “ทำไมคุณทราบ” เสียงทางโน้นแผ่วเบาอย่างแปลกประหลาดใจ

   “เอ๊า ! คนอย่างผม แม้จะรับใครเข้าทำงานด้วยการใช้เส้นก๋วยจั๊บช่วย ผมก็ต้องดูเหมือนกัน ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้ารับ เออ แล้วนี่คุณจะมาให้ผมดูตัวเดี๋ยวนี้ได้ไหม”

เออ แปลกนักทีนี่เขาก็เลยตื่นเต้นที่จะเห็นหล่อน พธูบรรยายสรรพคุณของหล่อนไว้เป็นกระตั้ก แต่เขาก็ขบขันที่พธูบอกว่า “แต่ห้ามจีบนะคะพี่ภีร์...ธูไม่อยากให้ปาเขาฆ่าตัวตาย !”

   “ขอโทษเถอะค่ะ ดิฉันไปที่คุณไม่ถูกหรอก ฉันขึ้นรถเมล์ไม่เป็น”

   “แล้วใครเขาจะให้ขึ้นรถเมล์เล่า” เขาหัวเราะมาตามสาย ดูเหมือนเขาจะเป็นคนรื่นเริงขี้เล่นเสียนักผิดจากที่พธูเคยเล่าให้หล่อนฟัง

   เขาไม่มีแม่...พ่อเสียไปแล้ว เติบโตขึ้นมาโดยที่พ่อกรอกหูอยู่เสมอเลยว่าแม่มีชู้ ทิ้งลูกไปแต่งงานมีผัวฝรั่ง

  “เอ้าว่าไง ถ้าผมจะให้คุณมาแท็กซี่ คุณจะมาได้ไหม”

   “ฉันจะลองดูค่ะ”

แล้วเขาก็บอกสถานที่นั้นให้หล่อน และกำชับว่า “บอกแท็กซี่ตามนั้น แล้วก็ไม่ต้องทำท่ากลัวเสียจนแท็กซี่มันนึกว่าคุณเป็นไก่หลงล่ะ ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะมาไม่ถึงบริษัทของผมก็เป็นได้นะ”

 

สวรรค์นี้...ไม่มีเธอ

ปาจรีย์ยกมือกระพุ่มไหว้ คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องผู้จัดการ ดังที่หล่อนได้รับการชี้มือชี้ไม้ให้เข้ามา

   เขากำลังมองดูหล่อน มองเหมือนหล่อนเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยพบพานมาก่อน มีแววตื่นเต้นอยู่ในดวงตาคู่นั้น หล่อนไม่ได้ผิดไปจากที่พธูพูดถึงมากนัก แต่ที่ผิดก็ตรงที่พธูบอกว่า   “ปาเขาเรียบร้อยแต่ไม่สวยเท่าไหร่นักหรอกค่ะ”

แม่น้องสาวที่เป็นญาติห่างๆ คนเดียวที่เขาเหลืออยู่เวลานี้ดูจะกีดกันเขาอย่างเต็มที่ แต่จนเดี๋ยวนี้ แม้จะรับรู้แล้วว่า หล่อนสวยไม่เลวทีเดียว เขาก็ยังเฉยๆ เฉยๆในลักษณะที่หล่อนยังไม่ชวนให้เขาคิดไปในด้านนั้น นอกจากเรื่องงาน

   “นั่งก่อนซิ”

   เขาไม่ได้รับไหว้หล่อน และนั่นทำให้ปาจรีย์คอแข็ง เขายังไม่แก่ถึงขั้นรับไหว้หล่อนไม่ได้นี่นะ แต่หล่อนก็นั่งลงตรงเก้าอี้หน้าโต๊ะเขา

   “คิดว่าหลงไปไหนแล้วเสียอีก”

   “ดิฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น !”

   “ผมไม่ได้ว่าคุณโง่นะ เพียงแต่คุณไม่ชำนาญพื้นที่ต่างหาก”

   เขาหยิบปากกาขึ้นมาถือเล่น และยังมองดูหล่อนไม่วางตาเหมือนจะตำหนิที่หล่อนจะซ่อนเร้นไว้

   “ดิฉันจะค่อยดีขึ้นเองเมื่อคุ้นเคยกับที่นี้ค่ะ”

   “ผมก็คิดว่าอย่างนั้น”เขายิ้มขบขัน “พธูบอกอะไรคุณบ้าง”

 

สวรรค์นี้...ไม่มีเธอ

   “เขาบอกว่าฉันต้องทำงานด้านแปลหนังสือบ้าง พิมพ์ดีดนิดหน่อย ชวเลขพอเป็นบ้าง ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส ดิฉันพูดได้ อ่านได้ เขียนได้ค่ะ ”

   “ภาษาแขกล่ะ”

   หล่อนรู้แล้วว่าเขารวน นึกแปลกกับดวงตาจัดคู่นั้นของเขา มันดูเข้มคมและแฝงเร้นความเจ้าเล่ห์เอาไว้ด้วย

   “ยังไม่ได้ค่ะ แต่ถ้าคุณต้องการให้พูดได้ ดิฉันจะลองดู”

   “งั้นดี เย็นนี้คุณฝึกกับแขกยามได้เลย ผมจะบอกเขาให้ ไม่คิดค่าเรียนอีกหน่อยคุณคงเก่งพอที่จะเป็นเมียแขกได้เลยนะ”

   สีหน้าของหล่อนชักบอกความไม่พอใจ ก็หล่อนรู้ว่านี่คือเขา กำลังเห็นหล่อนเป็นสิ่งสนุกสนานบันเทิงใจยามว่าง

   “มีอะไรอีกไหมคะที่คุณจะถามนอกเรื่อง”

   “เหนื่อยไหม !” เป็นคำถามที่สั้นแต่ว่าเริ่มต้นเร็วมากจนหล่อนตอบเกือบไม่ทัน “ไม่หรอกค่ะ” แต่เมื่อคืนหล่อนไม่ได้หลับบนรถทัวร์เลย เพลียแล้วก็ง่วงจะแย่อยู่แล้ว

   “ถ้างั้นเราเริ่มงานกันเลย งานของคุณอยู่บนโต๊ะนั้น เดี๋ยวผมให้เขาเอาเก้าอี้มาให้ แล้วจะแนะนำคนบางคนที่คุณอาจต้องเกี่ยวข้องได้ให้รู้จักนะ...เชิญเลย”

หล่อนเดินมายืนหน้าโต๊ะนั้น ขณะที่เขาออกไปข้างนอกและกลับเข้ามาพร้อมคนงานยกเก้าอี้ ติดตามด้วยหญิงสาวอีกคนหนึ่ง ซึ่งสายตาของหญิงสาวผู้นั้นนั่นเองที่ทำให้ปาจรีย์คอแข็งโดยไม่รู้ตัว

   “นี่หรือคะเลขาฯ คนใหม่ของคุณคัมภีร์”

 

สวรรค์นี้...ไม่มีเธอ

   “นี่ช่อชบา”

   เขาแนะนำทันที “เขาอยู่ฝ่ายการเงิน เผื่อมีอะไรต้องติดต่อประสานงานกัน”

   จะประสานงากันล่ะไม่ว่า ปาจรีย์ได้แต่คิดเงียบๆ ก็ท่าทางช่อชบาเหมือนสุนัขหวงเจ้าของออกอย่างนั้น ดูก็รู้หรอกว่าหล่อนมีหน้าที่เกินไปกว่าพนักงานปกติธรรมดาของเขา

   “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” หล่อนเอ่ยก่อน แต่ช่อชบาก็พยักหน้า

   “ไม่ยินดีก็ต้องยินดีค่ะคุณเลขาฯ ระวังเจ้านายหน่อยแล้วกัน เขาแสนจะดีเชียวล่ะ”

   หล่อนกลับออกไปแล้ว คัมภีร์หน้าเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาว

   เขาไม่เห็นแคร์ที่ใครจะประกาศความมีอะไรๆกับเขาเพราะมันก็แค่ “มีอะไร” แค่นั้นเองไม่มีอะไรมากมายไปกว่านั้นแน่นอน

   ในเรื่องนี้ ผู้หญิงของเขาทุกคนซาบซึ้งเป็นอย่างดี

   เขากลับไปนั่งที่โต๊ะ และปล่อยให้หล่อนทำอะไรต่ออะไรเงียบๆ ไป โดยที่เขาก็ไม่แนะนำ หล่อนเองก็ไม่ถาม หล่อนดื้อและทระนงในตัวเองเอาการทีเดียวและความรู้สึกอยากเอาชนะก็แว่บๆ ริ้วเข้ามาในอารมณ์ของเขา

   ในที่สุด เขาก็ลุกจากเก้าอี้เดินมาที่โต๊ะหล่อนและก้มลงมองงานที่หล่อนทำ หยิบมันขึ้นมาอ่าน

   “ไม่รู้จะทำอะไรดี ทำไม่ถูก ทำไม่เป็น ก็เขียนมันไปเรื่อยๆ แล้วกัน”

   เขาก้มลงมองหน้าหล่อน ซึ่งปาจรีย์ก็ยิ้มแหย

   “เจ้านายขี้เต๊ะ จะบอกมั่งก็ไม่มี”

 

 

สวรรค์นี้...ไม่มีเธอ

คราวนี้เขาก้มลงถาม “แล้วทำไมไม่อาร์คผมจะได้อานเซอร์...ตอบให้คุณรู้ว่าคุณต้องทำอะไรมั่ง”

   “ฉัน...เอ่อ”

   คิ้วของเขาขมวด คราวนี้ไม่มีวี่แววขี้เล่นล้อเลียนอีกต่อไป

   “ผมบอกให้คุณรู้นะว่าคุณมาทำงาน ไม่ได้มาเล่น เงินเดือนที่ให้ ต้องหมายถึงว่าคุ้มค่าของงานที่เกิดขึ้นวันแรก วันนี้คุณก็ได้เงิน และเราต้องได้งานด้วยในเมื่อคุณไม่รู้งาน คุณต้องถาม...งานพวกนี้วางรอคุณนานแล้ว ซึ่งที่จริงหากผมไม่เห็นแก่ยายธู คุณคิดหรือว่าผมจะหาคนมาทำงานแทนที่เลขาฯ คนเก่าที่เขาลาออกไปมีผัวไม่ได้นะ !”

   ใบหน้าของปาจรีย์เผือดขาวไป

   “ทีนี้คุณจะถามไหม...”

   “เอ้อ”

   “แปลหนังสือตรงนี้ให้ผม” เขาหยิบหนังสือเล่มหนึ่งให้หล่อนโยนค่อนข้างแรง

   “เสร็จแล้วเอามาให้ผม ไม่ใช่แปลไปเรื่อยนะ...เร็วด้วย แต่อย่าชุ่ย ผมไม่ชอบคนทำงานชุ่ยๆ”

ปาจรีย์พูดไม่ออก อยากจะร้องไห้เอาเสียด้วยซ้ำ ดูเถอะ เขาดุเอาดุเอาอย่างนี้

   ยังไม่ทันที่คัมภีร์จะกลับไปที่โต๊ะ ประตูห้องทำงานของเขาก็ถูกผลักเข้ามาอย่างถือวิสาสะ


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (73 รายการ)

www.batorastore.com © 2024