ปราบพยศยัยตัวร้าย (สลิลฉัตร)
ประหยัด: 172.50 บาท ( 75.00% )
เนื้อหาบางส่วน
ปราบพยศยัยตัวร้าย
บทนำ
“หนอย ตาแก่ อย่ามายุ่งกับเรื่องของเด็กๆเลย” หญิงสาวพูดพร้อมกับแลบลิ้นใส่ชายหนุ่มเพื่อนของพี่ชายเธอ
“เชอะ! พี่ชายฉันยังไม่จุ้นเท่าคุณเลย มิน่าแฟนถึงทิ้งไปมีคนใหม่เพราะคุณเจ้ากี้เจ้าการอย่างนี้นี่เอง” หญิงสาวพูดพร้อมยักคิ้วให้อย่างสบายอารมณ์ที่ทำให้เขาหน้าถอดสีไปเลย
อนันตภัคร์เหมือนโดนสะกิดแผลเก่าจนเจ็บลึก ทำให้เขาอยากจะสั่งสอนเธอให้หลาบจำว่าอย่าเอาปมเล็กๆในใจของใครมาพูดเล่นๆ แบบนี้
“มีใครเคยบอกเธอหรือเปล่า ว่าเด็กที่ทำตัวอย่างเธอต้องโดนสั่งสอนยังไง” ว่าแล้วอนันตภัคร์ก็อุ้มสาวน้อยจอมแสบขึ้นพาดบ่า แล้วจัดการฟาดฝ่ามือหนาลงบนสะโพกเธอเต็มแรงสองสามที เป็นการสั่งสอน
ลินินดิ้นรนขัดขืนเต็มแรง มือน้อยๆทุบลงบนหลังไหล่ของชายหนุ่มไม่ยั้งหมายจะให้เขาปล่อยเธอ และก็เป็นไปตามที่เธอคิดเมื่อชายหนุ่มโยนเธอลงบนโซฟาขนาดใหญ่กลางห้องจนร่างบางรู้สึกจุก
“จำไว้เด็กน้อย อย่าริลองดี ไม่งั้นเธอจะโดนสั่งสอนมากกว่านี้!”
ตอนที่ 1 เริ่มต้นใหม่และการพบเจอ
ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่คราคร่ำไปด้วยผู้โดยสารทั้งฝั่งขาเข้า – ขาออก ชายหนุ่มมาดขรึมหลังจากลำเลียงสัมภาระและตรวจเช็คเอกสารเรียบร้อยก็เดินมาล่ำลาเพื่อนร่วมงานและหนึ่งในนั้นก็มีชายหนุ่มผู้แย่งชิงผู้หญิงที่เขารักไป แต่เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไม่ได้ผู้ชายแสนดีอย่างอนันตภัคร์จึงได้แต่ยินดีกับคนทั้งสอง
“ขอบใจทุกคนที่มาส่งผม” อนันตภัคร์บอกกับทุกคนที่มาส่งเขาที่สนามบิน รวมทั้งธารระรินที่อุ้มน้องอิ๊งค์ลูกสาววัยแปดเดือนมาพร้อมกับสามีของเธอซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของชายหนุ่มนั่นเอง
“พี่ไปก่อนนะน้ำ ดูแลยังตัวน้อยให้ดีๆล่ะ ฉัตรด้วยนะส่งรูปไปให้พี่ดูด้วยนะว่าได้ลูกสาวหรือลูกชาย” ชายหนุ่มหันมาพูดกับสองสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงด้วยความอบอุ่นตามแบบฉบับพี่ชายที่แสนดี
“ขอบคุณพี่นิคนะคะที่เป็นทั้งพี่ เป็นทั้งเพื่อนที่ดีเสมอมา” ธารระรินบอกชายหนุ่มที่ยิ้มให้ก่อนจะตบบ่าลูกพี่ลูกน้องของเขาในเชิงฝากดูแลผู้หญิงที่เขาเคยรักอย่างธารระรินให้ดี
หลังจากล่ำลาทุกคนเป็นที่เรียบร้อยชายหนุ่มเดินไปยังจุดผู้โดยสารขาออกของสนามบินเพื่อเตรียมตัวก่อนเดินขึ้นเครื่องเพื่อบินไปยังประเทศสิงคโปร์ ตามที่ได้รับตำแหน่งผู้บริหารภาคเอเชียสาขาสิงคโปร์
ผ่านไปไม่ถึงสามชั่วโมงอนันตภัคร์ก็มาถึงสนามบินชางฮี* ซึ่งเป็นสนามบินประจำประเทศสิงคโปร์ ชายหนุ่มเดินตรงไปยังจุดตรวจผู้โดยสารขาเข้าก่อนจะไปรับกระเป๋าสัมภาระโดยไม่ลืมโทรไปยังสำนักงานของบริษัทเพื่อแจ้งว่าเขาจะเข้าออฟฟิศเพื่อเริ่มงานเลยในวันนี้
*นามบินชางงีหรือท่าอากาศยานชางงี (Singapore Changi Airport) เป็นสนามบินหรือท่าอากาศยานนานาชาติหลักของประเทศสิงคโปร์ ตั้งอยู่ในเขตชางงีในเมืองสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีเที่ยวบินเข้าออกมากเป็นอันดับที่ 5 ของโลก โดยสามารถรองรับสายการบินระหว่างประเทศได้กว่า 100 สายการบิน ซึ่งมุ่งสู่จุดหมายปลายทางกว่า 280 แห่งใน 60 ประเทศ และนอกจากนี้ ยังเป็นท่าอากาศยานที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในโลกอีกด้วย
ณ บริษัทภาคอนันต์กิจ สาขาสิงคโปร์
ทันทีที่ทราบข่าวการมาของผู้บริหารงานคนใหม่พนักงานทุกคนจึงจัดเตรียมการต้อนรับผู้บริหารคนใหม่ของสาขา ทุกคนต่างปรบมือต้อนรับอนันตภัคร์ทันทีที่ชายหนุ่มก้าวเข้ามาในออฟฟิศ ซึ่งชายหนุ่มนั้นคุ้นเคยและรู้จักกับพนักงานของที่นี่ทุกคนแล้วเพราะเคยมาคุมงานโปรเจคของที่นี่เมื่อหลายเดือนก่อน จึงทำให้ไม่ต้องปรับตัวกับผู้ร่วมงานของที่นี่มากนัก
“ขอบคุณทุกคนที่ต้อนรับอย่างอบอุ่น ผมขอให้ทุกคนตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อที่สาขาเราจะได้เป็นหนึ่งในภาคเอเชีย ขอบคุณทกคนครับ” อนันตภัคร์กล่าวกับพนักงานทุกคนพร้อมกับยิ้มให้ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำงานในหน้าที่ของแต่ละคน
“คุณลินี ผมรบกวนขอข้อมูลงานโครงการที่ทางสาขาเราต้องดูแลทั้งหมด แล้วก็รบกวนเรียกคุณอริยวัฒน์มาพบผมหน่อย” ชายหนุ่มสั่งงานเลขาฯ สาวสวยประจำที่นั่น
“ได้ค่ะ คุณอนันตภัคร์จะรับกาแฟด้วยไหมคะ” หญิงสาวถามตามหน้าที่เลขาฯ ที่ไม่เคยบกพร่องเรืองงานอย่างเธอ
“ก็ดีครับ ขอบคุณ” ชายหนุ่มพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวเพราะกำลังจดจ่อกับเอกสารตรงหน้ามากกว่าสลับกับการดูข้อมูลงานในโน๊ตบุ๊คส่วนตัวของเขา
ลินีเลขาฯสาวก้าวออกจากห้องผู้บริหาร เพื่อจัดการงานตามที่ผู้บริหารไฟแรงสั่ง โดยการโทรตามผู้จัดการฝ่ายทั่วไปของบริษัทอริยวัฒน์ ซึ่งเป็นเสมือนไม้เบื่อไม้เมาของเธอก็ว่าได้
“คุณอนันตภัคร์ต้องการพบคุณที่ห้องทำงาน รบกวนเดี๋ยวนี้เลยนะคะ” เลขาฯสาวสวยบอกชายหนุ่มปรายเสียงห้วนเล็กน้อยด้วยความรู้สึกไม่ค่อยชอบชายหนุ่มอยู่เป็นทุนเดิม
“ผมว่าแล้ว ทำไมวันนี้เหมือนมีสัญญาณลางดี คุณลินีเลขาฯคนสวยโทรมาตามผมอย่างนี้ มีหรือผมจะไม่รีบไป” ชายหนุ่มสนุกกับการกวนประสาทหญิงสาวในสายเป็นยิ่งนัก ยิ่งเขารู้ว่าเธอไม่ชอบ ก็ยิ่งเหมือนกันยิ่งทำให้เขาอยากจะตอแยเธอมากเท่านั้น
เมื่อชายหนุ่มยังคงยียวนเธอไม่เลิก หญิงสาวจึงตอกกลับไปอย่างแสบสันเช่นทุกคราวที่ชายหนุ่มกวนประสาทเธอ
“เชอะ! ฉันไม่มีเวลาว่างมานั่งให้คุณยั่วประสาทเล่นหรอกนะ คุณหนังโป๊ เอ๊ย...คุณเอวี” หญิงสาวพูดจบก็ชิงวางสายทันที เพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขาอีก
หลังจากลินีวางสายไม่ถึงสิบนาที ชายหนุ่มผู้สนุกสานกับการต่อล้อต่อเถียงกับเธอก็มายืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานหญิงสาว พร้อมกับยิ้มกว้างให้กับหญิงสาวทันทีที่เธอละสายตาจากคอมพิวเตอร์
“บ้าหรือเปล่าคุณ ยืนยิ้มอยู่ได้ฉันเสียสมาธิในการทำงานรู้ไหม” หญิงสาวถามอริยวัฒน์ด้วยท่าทีหงุดหงิดเล็กๆ ผิดกับคนถูกถามที่ดูจะอารมณ์ดีที่เห็นปฏิกิริยาและสายตาขวางๆ ของเธอ
“ถึงจะบ้า แต่ก็บ้ารักคนสวยๆ อย่างคุณไงล่ะครับ คุณลินีคนสวย” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับส่งสายตากรุ้มกริ่มให้หญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปยังห้องผู้บริหารคนใหม่ตามที่หญิงสาวโทรแจ้งเขาเมื่อสักครู่
เมื่อเข้าไปในห้องอริยวัฒน์เห็นชายหนุ่มที่เรียกพบเขา กำลังง่วนอยู่กับเอกสารบนโต๊ะทำงาน ทำให้ชายหนุ่มถึงกับส่ายหัวกับความบ้างานของเพื่อนเขาคนนี้จริงๆ
“นี่ นายเงยหน้าขึ้นมองอย่างอื่นรอบๆ บ้างก็ได้เพื่อน เดี๋ยวก็หลุดเข้าไปในกองเอกสารกันพอดี” ชายหนุ่มพูดเพื่อให้อนันตภัคร์รู้ว่าเขามายืนรอได้สักพักแล้ว
“ฉันรู้ตั้งแต่นายเปิดประตูเข้ามาแล้ว” อนันตภัคร์พูดแต่ตายังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าจอโน๊ตบุ๊คสลับกับการดูเอกสารในมือเขา
“ให้มันได้อย่างนี้สิ ตกลงนายเรียกฉันมามีธุระอะไรหรือเปล่า หรือว่าเกิดพิศวาสฉันขึ้นมา เฮ้ย! อย่านะเว้ย” อริยวัฒน์ยังคงสนุกสนานได้ตลอดเวลาเหมือนเดิม
“นายนี่ยังเหมือนเดิม สนุกสนานได้ยี่สิบสี่ชั่วโมงจริงๆ ที่เรียกนายมานี่ ฉันจะให้นายช่วยดูที่พักให้ฉันหน่อย พอดีที่พักของบริษัทยังอยู่ในช่วงตกแต่ง แต่ว่าฉันมาก่อนยังไงนายช่วยดูๆให้ที” อนันตภัคร์พูดเสียงเรียบ
“จะต้องไปหาให้เสียเวลาทำไม นายก็มาพักบ้านฉันซะเลยก็สิ้นเรื่อง” ชายหนุ่มเสนอไอเดียให้กับเพื่อนสนิทที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตากับอยู่กับจอมอนิเตอร์ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดตามแบบฉบับคนที่ทุ่มเทให้กับงาน
“อย่าเลยฉันเกรงใจนาย” ชายหนุ่มพูดด้วยความรู้สึกอย่างที่บอกจริงๆ
“ไม่ต้องเกรงใจ ฉันอยู่คนเดียว นอกจากบางทีที่น้องฉันอาจจะมาพักบ้างในช่วงซัมเมอร์เท่านั้นนะ” อริยวัฒน์บอกชายหนุ่ม
“แล้วน้องนายเขาจะไม่รู้สึกอึดอัดที่มีคนอื่นไปพักด้วย” ชายหนุ่มถามเพื่อความสบายใจเพราะไม่อยากให้เป็นปัญหากับเพื่อนของเขา
“ไม่หรอก น้องฉันมันมันไม่ค่อยใส่ใจกับอะไรหรอก อีกอย่างถ้าเป็นอะไรที่ฉันบอกมันก็ไม่กล้ามีปัญหาอยู่แล้ว” เพื่อนชายหวังดีอกอาการมั่นใจว่าไม่เป็นปัญหาแน่นอนเพื่อให้อนันตภัคร์สบายใจ ชายหนุ่มลังเลอยู่สักครู่ ก่อนจะตกลงใจที่จะไปพักบ้านอริยวัฒน์เพื่อนสนิทเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
“ขอบใจนายนะ ฉันคงต้องรบกวนนายแล้วล่ะ”
“อืม...อย่าคิดมากเลิกงานฉันมารับนายที่นี่เลยแล้วกันจะได้ช่วยกันขนของไปไว้ที่รถ”
เมื่อเห็นชายหนุ่มดูท่าจะยุ่งกับงานบนโต๊ะทำงานอริยวัฒน์จึงออกมาจากห้องทำงานของชายหนุ่ม โดยไม่ลืมที่จะแวะแทะเล็มเลขาฯสาวคนสวยด้วยความเคยชิน
“บรรยากาศแถวนี้สดชื่นจริงๆ ผมอยากจะย้ายโต๊ะทำงานมาอยู่แถวนี้ซะแล้วสิ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับส่งสายตากรุ้มกริ่มให้ลินีเลขาฯ สาวสวย แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะหาได้สนใจท่าทีกวนๆ ของชายหนุ่มไม่ ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ
“คุณนี้ไม่สนุกเอาซะเลย ทำหน้าเครียดแบบนี้ทุกวันๆ ระวังจะแก่ก่อนวัยนะคุณ แล้วจะหาว่าผมไม่เตือน” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับยักคิดด้วยท่าทียียวนจนลินีเริ่มตบะแตก
“คนบ้า ว่างมากนักก็ไปเล็มหญ้าหน้าออฟฟิศน่าจะดีนะคุณ” หญิงสาวพูดอย่างเหรออด แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่สะทกสะท้านตรงกันข้ามกับยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“โอ๊ะโอ.... คนสวยกลายร่างเป็นเสือ ลูกแมวหน้าตาดีอย่างผมคงต้องลี้ภัยไปทำงานก่อนล่ะครับ ฮ่าๆๆๆ” อริยวัฒน์ยักคิ้วให้หญิงสาวก่อนจะรีบเดินออกไปด้วยกลัวว่าหญิงสาวอาจจะมอบของแถมประเภทของหนักขว้างใส่เขาก็เป็นได้
วันสุดท้ายการการสอบปลายภาค ณ มหาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ (National University of Singapore)
เหล่าบรรดานักศึกษาที่เดินขวักไขว่ผ่านไปผ่านมาเนื่องจากหมดชั่วโมงในการทำข้อสอบซึ่งบางส่วนก็เริ่มทยอยลงมาจากห้องสอบบ้างแล้วเช่นเดียวกับสองสาวเพื่อนซี้ที่ดูต่างกันเพราะการแต่งกายไปกันคนละทาง เพราะลินินมีรูปร่างผอมบางตาโตซุกซนแฝงแววขี้เล่น จมูกโด่งรั้นรับกับริมฝีปากอิ่มสีชมพูด้วยเลือดฝาดแห่งวัยสาวแถมผิวกายยังขาวนวลดูสดใส ผมยาวสลวยสีน้ำตาลอ่อนทำให้เธอดูเป็นสาวหวานที่แต่งตัวด้วยโทนสีหวานเน้นเครื่องประดับเลยทำให้ดูเป็นสาวเก๋ไก๋ในสายตาของผู้พบเห็นผิดกับรุ้งกะรัตเพื่อนสาวของเธอที่เป็นสาวหน้าหวานนัยน์ตาเศร้า ผมบ๊อบซอยไล่ระดับต้นแขนซึ่งหญิงสาวก็ไม่คงปล่อยผมยาวสลวยให้ใครๆได้เห็นบ่อยนัก หญิงสาวมักจะเกล้าเป็นมวยผมไว้ซะมากกว่าด้วยความที่เป็นคนง่ายๆสบายๆบวกกับการแต่งกายที่เน้นไปในทางเสื้อเชิ้ตเพื่ออำพรางทรวดทรงที่บานสะพรั่งภายใต้เสื้อตัวโคร่งที่เธอชอบสวมใส่คู่กับกางเกงยีนส์แล้วทำให้เธอดูทะมัดทะแมงคล้ายเด็กผู้ชายในบางครั้งหากมองเผินๆ กอปรกับหญิงสาวเป็นคนนิ่งเงียบไม่ค่อยยิ้มร่าเริงสดใสต่างกับลินินที่ดูเป็นสาวน่ารักสดใสทำให้คนทั่วไปมักเข้าใจว่าทั้งสองเป็นคู่ทอมดี้ แต่คนที่รู้ดีว่าสองสาวนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆคิดคือนัทกฤชเพื่อนชายของเธอทั้งสองนั่นเอง
“รุ้งเดี๋ยวเราไปหาขนมอร่อยๆกินกันหลังจากที่สอบเสร็จดีไหม ลินอยากกินเค้กให้สบายใจหลังสอบเสร็จ” สาวแสบประจำห้องอย่างลินิน ชวนเพื่อนรักที่ใครๆมองก็คิดว่าเป็นคู่ทอมดี้กัน
“อืม ก็เอาสิ แต่ชวนนัทไปด้วยดีไหม” รุ้งกะรัตหันมาถามเพื่อนสาว
“ก็ดีเหมือนกันจะได้ให้เป็นเจ้ามือเลี้ยงขนมซะเลย แต่รุ้งโทรไปชวนให้ทีนะ เดี๋ยวลินต้องโทรไปบอกพี่ชายก่อนว่าวันนี้จะกลับไปนอนบ้าน” สาวแสบบอกเพื่อนสาวก่อนที่กดโทรศัพท์ไปหาพี่ชาย
รุ้งกะรัตลังเลที่จะโทรไปชวนเพื่อนชายตามที่ลินินขอร้อง เพราะหญิงสาวพอจะรู้ว่าชายหนุ่มไม่ค่อยชอบเธอเท่าไรนัก แต่ที่ต้องคุยกันก็เพราะลินิน
‘เฮ้อ...’ หญิงสาวถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะตัดสินใจกดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนชายร่วมกลุ่มทันที
“รุ้งเองนะ นัทอยู่ไหนเหรอ” สาวหน้าหวานมาดทอมเสียงสั่นเล็กน้อยเมื่อพูดกับชายหนุ่มปลายสาย
“กำลังจะไปคอร์ดเทนนิสที่สปอร์ตคลับ เธอมีอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มตอบเสียงห้วนจนหญิงสาวรู้สึกหวั่นๆ
“ลินเขาจะชวนไปเลี้ยงฉลอง เนื่องจากสอบเสร็จนะก็เลยให้โทรชวนนัทด้วย” รุ้งกะรัตบอกชายหนุ่ม
“โอเค งั้นเดี๋ยวฉันไปรับ รออยู่ที่หน้าสนามของมหาลัยก็แล้วกัน” ชายหนุ่มพูดน้ำแห้งแล้วไร้ความรู้สึกจนคนที่อยู่ต้นสายถึงกับรู้สึกเจ็บจี๊ดในใจกับความเฉยชาที่ชายหนุ่มมีให้
รุ้งกะรัตรู้สึกได้ว่าชายหนุ่มไม่ค่อยอยากจะคุยกับเธอนักถึงได้รีบตัดสาย หญิงสาวนั่งมองโทรศัพท์เครื่องเล็กๆ พร้อมกับกดดูหน้าจอที่มีรูปเธอและเพื่อนสาวอย่างลินินรวมทั้งชายหนุ่มที่เธอนั้นนั้นแอบชอบก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกรอบ
“ตกลงนัทโอเคใช่ไหม” ลินินถามเพื่อนสาวที่กำลังเหม่อมองโทรศัพท์ จนเธอนั้นต้องเรียกอยู่หลายครั้งกว่าจะรู้สึกขานรับเธอ
“จ้ะ นัทให้เราไปรอที่หน้าสนามของมหาลัย” รุ้งกะรัตบอกเพื่อนสาว เมื่อได้ยินดังนั้นสาวแสบอยางลินินจึงควงแขนเพื่อนสาวเพื่อตรงไปยังจุดนัดหมายตามที่เพื่อนชายบอกนั่นคือสนามของมหาวิทยาลัย ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่สองสาวนั่งรอ นัทกฤชเพื่อนชายก็มาถึงพร้อมกับโบกมือส่งสัญญาณให้สองสาวรีบวิ่งขึ้นรถอย่างเร็วไวเพราะหน้ามหาลัยมักจะมีรถวิ่งเข้าออกราคร่ำไม่ขาดสาย
“ทำไมเพิ่งมาล่ะนัท เรากับรุ้งรอซะจะกลายร่างเป็นหินไปแล้ว” ลินินต่อว่าเพื่อนชายฉอดๆ ทันทีที่ก้าวขาเข้าไปนั่งด้านข้างคนขับ
“โทษทีนะลิน ช่วงเย็นรถค่อนข้างติด เดี๋ยวนัทเลี้ยงขนมเป็นการไถ่โทษแล้วกัน” ชายหนุ่มพูดกับเพื่อนสาวที่นั่งข้างๆ โดนไม่ได้สนใจเพื่อนสาวอีกคนที่นั่งอยู่เบาะหลังด้วยความรู้สึกน้อยใจลึกที่เธอดูเหมือนส่วนเกินระหว่างทั้งสองคน
“มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ใช่ไหมรุ้ง” หญิงสาวหันไปถามรุ้งกะรัตที่ได้แต่นั่งนิ่งไม่กล้าออกความคิดเห็น
ชายหนุ่มเลี้ยวรถก่อนจะมาจอดยังร้านเบเกอรี่ที่ลินินชอบมาทานเป็นประจำ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากมหาลัยที่ลินินและรุ้งกะรัตเรียนอยู่ สองสาวก้าวลงจากรถพร้อมกับเดินเข้าไปในร้านโดยมีชายหนุ่มเจ้ามือใหญ่เดินตามมาติดๆ
“ได้เวลาเพิ่มความหวานกันแล้วล่ะรุ้ง” สาวแสบยิ้มอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับจูงมือเพื่อนสาวไปยืนเลือกขนมหวานของโปรดของทั้งสอง โดยไม่สนใจสายตาของคนอื่นที่มองว่าทั้งสองดูเหมือนคู่ทอมดี้ จะมีก็แต่นัทกฤชที่ยืนอยู่ข้างสองสาวมองดูด้วยความรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เพราะเขาแอบชอบลินินเพื่อนสาวและพยายามที่จะหาจังหวะเหมาะเพื่อสารภาพความใจใน แต่ติดตรงที่หญิงสาวนั้นเกาะติดรุ้งกะรัตจนแทบแยกกันไม่ออก จึงทำให้เขารู้สึกไม่พอใจในตัวรุ้งกะรัตยิ่งนัก
“ลินว่าเค้กนมสดร้านนี้ยังอร่อยเหมือนเดิมเลยนะ รุ้งว่าไหม” ลินินพูดกับเพื่อนสาวก่อนจะตักเค้กเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย แถมหญิงสาวยังป้อนเค้กให้กับเพื่อนสาวอีกด้วย
“ลินทานเถอะ รุ้งทานเองดีกว่าจ้ะ” หญิงสาวบอกเพื่อนที่ป้อนขนมให้เธออย่างเอาใจ
“นั่นสิ ของรุ้งเขาก็มีให้เขาทานเองเถอะลิน” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ แต่สายตาที่จ้องมายังเพื่อนมาดสาวทอมด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด จนหญิงสาวต้องเสเลี่ยงมองไปอีกทางเพื่อหลบสายตาคมดุของชายหนุ่ม
หลังจากอิ่มอร่อยกับของหวานจนหนำใจแล้ว ชายหนุ่มจึงชวนลินินไปเที่ยวสถานบันเทิงเพื่อเลี้ยงฉลองหลังสอบเสร็จซึ่งหญิงสาวก็เห็นดีด้วยผิดกับรุ้งกะรัตที่มีทีท่าลังเล จนชายหนุ่มรู้สึกขัดหูขัดตาและรำคาญใจยิ่งนัก
“ก็ดีเหมือนกันนะ แต่ว่าลินอยู่เที่ยวได้ไม่นานนะ เพราะโทรบอกพี่ชายไว้แล้วว่าจะกลับบ้านนะ” หญิงสาวบอกเพื่อนชายเจ้าของความคิด
“แต่รุ้งว่าเราน่าจะกลับบ้านนะ ไว้พรุ่งนี้หรือมะรืนนี้เราค่อยไปกันก็ได้” รุ้งกะรัตบอกเพื่อนสาว เพราะเธอเห็นว่าใกล้เวลาค่ำแล้ว
“ถ้าเธอไม่อยากไปเดี๋ยวเราแวะไปส่งเธอก่อนก็ได้ เราจะได้ไปกับลินแค่สองคน” ชายหนุ่มพูดอย่างไม่รักษาน้ำใจอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
เมื่อเห็นท่าไม่ค่อยดีระหว่างเพื่อนทั้งสอง สาวแสบอย่างลินินจึงพยายามไกล่เกลี่ยให้เพื่อนทั้งคู่ก่อนจะเกิดศึกปะทะคารมกันมากไปกว่านี้ เพราะทั้งคู่มักจะมีความคิดเห็นที่ไม่ค่อยจะตรงกันแบบนี้เสมอๆ
“เอาน่ารุ้ง ไปเดี๋ยวเดียวเองถือว่าไปเป็นเพื่อนลินนะ คนดี๊ คนดีของลิน” หญิงสาวจับมือเพื่อนสาวมาดทอมมาแนบแก้ม แถมด้วยทำท่าอ้อนเหมือนลูกแมวจนรุ้งกะรัตยิ้มออกมาอย่างขำๆในท่าทางของเพื่อนสาว ผิดกับชายหนุ่มที่หน้าบึ้งก่อนจะเดินหุนหันไปยังรถของเขาด้วยความรู้สึกขัดใจ
นัทกฤชขับรถพาสองสาวมายังสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่วัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะมาเที่ยวกัน เมื่อเลือกได้ที่นั่งแล้วนัทกฤชจึงสั่งเครื่องดื่มประเภทค็อกเทลที่มีแอลกอฮอล์อแบบจางๆให้กับสองสาว แต่ด้วยความที่รุ้งกะรัตไม่ค่อยชอบสถานที่แออัดบวกกับดื่มค็อกเทลสีสวยแต่ว่าดูเหมือนจะเป็นพิษร้ายสำหรับเธอ จึงทำให้รุ้งกะรัตมีอาการเวียนศีรษะ
เมื่อเห็นอาการของเพื่อนสาวดูไม่ค่อยดีนักลินินจึงตัดสินใจกลับทั้งๆที่มากันยังไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำทำให้นัทกฤชออกอาการหงุดหงิดใส่หญิงสาวต้นเหตุที่ทำให้เขาและลินินต้องหมดสนุก
“ขอบใจนะนัทที่มาส่ง แล้วก็เรื่องขนมกับเที่ยวด้วย ยังไงฝากไปส่งรุ้งให้ถึงบ้านด้วยนะจ๊ะ ไว้เจอกันนะ” หญิงสาวกล่าวขอบใจเพื่อนชายที่ขับรถมาส่งเธอที่หน้าบ้านโดยที่จะไม่บอกให้ชายหนุ่มส่งรุ้งกะรัตกลับบ้านด้วยความเป็นห่วง
“นัทไม่ใจร้ายขนาดจะทิ้งให้รุ้งเขากลับบ้านเองทั้งทีสภาพแบบนี้หรอก” ชายหนุ่มบอกเพื่อนสาวพร้อมกับหันไปมองหญิงสาวที่นั่งข้างก่อนจะค่อยๆเคลื่อนรถออกไป
หลังจากแยกกับเพื่อนสนิทลินินก้าวเข้าบ้านหลังจากรถของเพื่อนชายลับตาไปโดยมิได้ใส่ใจถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น และด้วยความเคยชินจึงทำให้หญิงสาวเดินเข้าไปยังห้องพี่ชายเธอ เมื่อเห็นชายหนุ่มที่กำลังยืนหันหลังอยู่นั้นลินินจึงโผเข้าโอบกอดจากทางด้านหลังอย่างเต็มเปา ชนิดที่ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงความนุ่มหยุ่นของอกอิ่มที่แนบด้านหลังเขาเต็มๆ
“วันนี้ทำไมอยู่บ้านได้ล่ะพี่เรา...ผิดปกตินะเนี่ย” หญิงสาวพูดทั้งๆที่ยังกอดร่างสูงที่ยืนตกตะลึงจนพูดไม่ออก
อนันตภัคร์รู้สึกแปลกๆที่จู่ๆก็ถูกสาวน้อยจู่โจมโอบกอดเข้าเต็มรักแบบนี้ แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้เธอตกใจจึงยืนนิ่งราวกับหินผาทั้งที่ใจกับตรงกันข้ามกับร่างกาย
“เฮ้ย! หนูลินทำอะไรนะ” ผู้เป็นพี่ชายตะโกนลั่นที่เห็นน้องสาวกอดชายหนุ่มผู้เป็นเพื่อนของเขา ทันทีที่ได้ยินเสียงพี่ชาย หญิงสาวปล่อยมือจากร่างสูงนั้นทันทีด้วยความตกใจ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่อนันตภัคร์หันกลับมามองหน้าเธอพอดี อนันตภัคร์มองหน้าสาวน้อยที่กอดเขาด้วยความรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูกพร้อมกับส่งสายตาที่ฉายแววอบอุ่นราวกับผู้ใหญ่ใจดีไปยังหญิงสาว
“เอ่อ...ฉันขอโทษที่ทำให้เธอเข้าใจผิด” อนันตภัคร์พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ได้สนใจฟังเขาเท่าไหร่ เพราะเธอรู้สึกอายและเสียหน้าเป็นอย่างมากที่เข้าใจว่าเขาคือพี่ชายของเธอ
“เขาเป็นใคร ทำไมมาอยู่บ้านเราแถมยังมานอนห้องพี่อีก ทำไมพี่ไม่บอกลินว่าจะให้คนอื่นมาอยู่บ้านเรา” ลินินยิงคำถามผู้เป็นพี่ชายชุดใหญ่ทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ หัวใจเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“นี่นายนิค เพื่อนพี่แล้วก็เป็นเจ้านายพี่ด้วย เขาจะมาพักกับเราสักระยะ จนกว่าบ้านพักบริษัทจะตกแต่งเสร็จ ช่วงนี้ก็เลยยกห้องพี่ให้เขาไปใช้ก่อน ส่วนพี่ก็นอนห้องป๊ากับม๊าแทนน่ะ เพราะยังไงห้องนั้นก็ว่างอยู่แล้วกว่าป๊ากับม๊าจะมาเยี่ยมเราก็ต้องสิ้นปีโน้น” ชายหนุ่มบอกน้องสาวสุดแสบ ที่มีสีหน้าไม่พอใจชายหนุ่มผู้เป็นเพื่อนพี่ชายอย่างเห็นได้ชัด
“ถ้าลินรู้ว่ากลับมาแล้วต้องมาเจอเรื่องเสียอารมณ์แบบนี้นะ ลินยังไม่ทำเรื่องคืนห้องให้มหาลัยหรอก” หญิงสาวพูดอย่างหงุดหงิดๆ แล้วเดินกระแทกเท้าเสียงดังอย่างระบายอารมณ์ ก่อนจะเข้าห้องของเธอไปอย่างอารมณ์เสีย ทิ้งให้สองหนุ่มมองหน้ากันอย่างเซ็งๆ ในความงอแงของหญิงสาว
รายละเอียด
โปรย
โทษของการที่เธอริแหย่เสือหลับ
สุภาพบุรุษอย่างอนันตภัคร์จึงต้
หรือนี่จะเป็นผลที่ได้จากการที่
จากใจนักเขียน
สวัสดีค่ะเพื่อนๆนักอ่านทุกท่าน “สลิลฉัตร” กลับมาอีกครั้งพร้อมกับผลงานสนุกๆที่นำมาให้นักอ่านที่น่ารักทุกท่านได้สนุก สำหรับผลงานเรื่องนี้เป็นภาคต่อของเรื่อง เล่ห์รักซ่อนเสน่หา ซึ่งน่าจะผ่านสายตานักอ่านหลายๆท่านมาบ้างแล้ว ซึ่งในเรื่อง ปราบพยศยัยตัวร้าย จะกล่าวถึง “พี่นิค” หนุ่มอบอุ่นแสนดีแต่ต้องช้ำรักจนต้องหนีไปทำงานไกลถึงสิงคโปร์ และนั่นทำให้แผลในหัวใจของเขาเริ่มเลือนหายเมื่อได้พบกับสาวน้อยแสนรั้นเอาแต่ใจอย่าง “ลินิน” เรื่องราวความรัก ความอบอุ่นในใจค่อยๆก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัวจนกลายเป็นความรัก แต่สาวดื้อเอาแต่ใจซ้ำยังปากแข็งอย่างลินินมีหรือจะยอมรับหัวใจตัวเองง่ายๆ พระเอกของเราก็ต้องงัดกลเม็ดเด็ดพรายมากำราบยัยตัวร้าย เรื่องราวความรักของทั้งคู่จะเป็นยังไง ต้องมาติดตามกันค่ะ
สุดท้ายไร้ท์เตอร์ต้องขอบคุณขอขอบคุณ นักอ่านทุกท่านที่ติดตามผลงานและขอขอบคุณทุกยอดดาวน์โหลดให้นักเขียนคนนี้พอมีกำลังอยู่ได้
ขอบคุณจริงๆค่ะ
สลิลฉัตร