ปฏิบัติการยึดหัวใจ + ปากร้ายใจรัก (สุชีรา)

ปฏิบัติการยึดหัวใจ + ปากร้ายใจรัก (สุชีรา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: ปฏิบัติการยึดหัวใจ
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 37.50 บาท
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ปฏิบัติการยึดหัวใจ

 

                เขาทำตัวเรื่อยเฉื่อยไม่จริงจังอะไรกับใครแต่ถ้าเรื่องหัวใจ

แล้วละก็เขาทุ่มสุดตัวเพราะความรักมันไม่ได้เกิดขึ้นมาง่ายๆเขาจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้ความรักจากหัวใจดวงน้อยๆของหล่อนมาเป็นของเขาทั้งดวง เขาจะมีวิธีการอย่างไรไปติดตามกันเลย

 

 

 

                                                                ด้วยรัก

                                                                สุชีรา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1…

                “อะไรอีกล่ะครับคุณพ่อ งานอะไรอีก ผมก็ทำหมดแล้วนี่ครับ”

                ศุภดิตถ์โวยวายกับศักดิ์ชัยผู้เป็นบิดา เขาวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะแล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้รับแขกอย่างเบื่อหน่าย เขาไม่อยากเข้ามาทำงานกับบิดา เขาตั้งใจไปเรียนเกี่ยวกับออกแบบที่ต่างประเทศแต่บิดาไม่อนุญาต เขาจึงทำงานเหมือนหุ่นยนต์ใช้ให้ทำอะไรก็ไปและไม่ใส่ใจกับงานไม่ว่างานใหญ่หรืองานเล็กๆ จนบิดาเอือมระอาเขาเช่นกัน

                “ยังไม่หมด คืนนี้แกต้องไปงานเลี้ยงบริษัทเพื่อนพ่อกับพ่อ แม่แกเขาไม่อยากไปฉะนั้นแกต้องไปเข้าใจมั้ย”

                “ไม่ครับ ผมมีนัดกับเพื่อนถ้าคุณพ่อต้องการคนติดตามก็ให้อาศีดาไปด้วยสิครับ”

                “แกอย่ามาเฉไฉนะ อาศีดาต้องไปอีกงานหนึ่ง แกนั่นแหละไปกับพ่อ พ่อจะแนะนำให้รู้จักกับลูกสาวคุณลุงวิทย์ไว้ หนูพิมพ์ประภาน่ารักมาก ทำงานเก่ง ออกงานแทนลุงวิทย์ได้แล้วนะ”

                “ผมไม่อยากรู้จักครับ คุณพ่อไม่ต้องหาแฟนให้ผมหรอกผมหาของผมเองได้”

                “หาเองได้ แกอย่าพูดดีกว่าแต่ละคนที่แกควงไปโน่นไปนี่น่ะไม่เข้าท่าสักคน ท่าทางหยิบโหย่งคอยแทะเล็มเงินในกระเป๋าแกมากกว่า ยังไงแกก็ต้องไปกับพ่อคืนนี้”

                “คุณพ่อครับ”

                ชายหนุ่มเสียงติดรำคาญออกมาเพราะบิดาบังคับเขาอีกแล้ว แต่เพื่อไม่ให้บิดาโมโหโกรธามากไปกว่านี้เขาจึงยอมยกมือเพื่อยุติการโต้เถียง

                “เอาล่ะครับ ผมจะไปแต่ตอนนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ”

                เขาเดินออกจากห้องไปทันทีโดยไม่ฟังคำทัดทานของบิดา ศักดิ์ชัยถึงกับยกมือขยี้ผม ลูกชายคนเดียวของเขาทำให้เขาปวดศีรษะตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เขากับภรรยาต้องวิ่งเข้าไปพบผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อขอให้ศุภดิตถ์เรียนต่อให้จบ เข้ามหาวิทยาลัยก็ต้องตามไปเคลียร์เรื่องเวลาเรียนไม่พอเกือบจะโดนไล่ออกหลายครั้ง แต่ก็ยังดีที่ลูกสามารถเรียนจบลงได้ด้วยดี

                ศุภดิตถ์เที่ยวเตร่ไม่เอาถ่านไม่ว่าเรื่องงานหรือเรื่องทางบ้านเขาทำตัวเหมือนคนไร้หลัก เที่ยวไปเรื่อยเฉื่อยจนกระทั่งกัลยาผู้เป็นมารดาขอร้องให้หยุดเที่ยวแล้วเข้าทำงานกับบิดา เขายอมทำตามคำขอร้องของมารดาเพราะเที่ยวจนเริ่มเบื่อ อยากเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตบ้าง เข้ามาทำงานก็ทำเรื่อยๆ ไม่กระตือรือร้น ไม่ติดต่อใครหรือลูกค้าคนไหนทั้งสิ้น ทำงานตามหน้าที่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ศีดาผู้เป็นอาพยายามสอนงานทุกอย่าง หลานชายตัวดีทำได้แต่ไม่ยอมทำจนศีดาระอาเลิกจู้จี้กับหลานคนนี้ไปโดยปริยาย

                “ไอ้นัต แกอยู่ไหนวะ ออกมากินเหล้าที่ร้านเดิมนะ พาแฟนมาด้วยก็ได้”

                ศุภดิตถ์โทรศัพท์ชวนชนัตเพื่อนรักที่สามารถคุยได้ทุกเรื่องออกมาดื่มเหล้า เขาจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งถ้ามีเรื่องไม่สบายใจ แต่พอได้คุยได้ดื่มเขาก็ลืมไม่เก็บเอาไว้ให้รกสมองอีกต่อไป ชนัตออกมาตามนัด เขาควงวีรยาแฟนสาวออกมาด้วย หญิงสาวจึงเป็นเพื่อนศุภดิตถ์ไปอีกคน

                “ไงวะ มีอะไรไม่สบายใจอีกถึงเรียกมากินเหล้าเกือบสามทุ่มอย่างนี้”

                ชนัตเอ่ยขึ้นทันทีที่ก้าวเข้ามานั่งข้างเพื่อน วีรยานั่งตรงกันข้ามสายตาจับอยู่ที่ใบหน้าชายหนุ่มผู้เป็นเพื่อน

                “นั่นสิ เป็นอะไร ทะเลาะกับคุณพ่ออีกรึเปล่าดิตถ์”

                “รู้ดีจริงๆนะยัยยา แกนี่น่าจะมาเป็นแฟนฉันมากกว่าเป็นแฟนไอ้นัตนะ เอามั้ยมาเป็นแฟนฉัน”

                “ไอ้บ้า พูดเป็นเล่น ความรักมันไม่ได้เปลี่ยนง่ายหรือเกิดขึ้นง่ายๆ นะแก กว่าฉันจะจีบยัยวีรยาได้ก็ทนถูกประณามตั้ง 1 ปีนะโว้ย”

                “ก็คุ้มมั้ยล่ะได้คนถูกใจอย่างยัยยาน่ะ”

                ศุภดิตถ์ยิ้มกับเพื่อนแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ชนัตมองอยู่จึงย้ำคำถามอีกครั้ง

                “ทะเลาะกับคุณพ่อเหรอวะ”

                “เปล่า แต่เบื่องานเลี้ยงหรูๆ คุณพ่อจะให้ฉันไปด้วย ฉันรับปากไปอย่างนั้นแหละแต่ฉันหนีมากินเหล้าแล้วก็นัดแกออกมานี่ไง”

                “เฮ้ย ไอ้บ้า แกเบี้ยวคุณพ่อนะโว้ยเนี่ยป่านนี้ไม่โกรธแย่แล้วเหรอวะ”

                “โกรธก็โกรธไปสิ ฉันไม่อยากไปนี่หว่า คุณพ่อจะให้ฉันไปทำความรู้จักกับยัยพิมพ์ประภาลูกสาวคุณลุงสุวิทย์ วางแผนจับคู่ให้ฉันน่ะสิ”

                “ก็น่ารู้จักนะดิตถ์ คุณพิมพ์ประภาทั้งสวย ทั้งรวย ทั้งเก่งไม่สนเหรอ แกเองก็ยังไม่มีใครนี่ ไปหน่อยน่ะเชื่อฉันเถอะ”

                วีรยาลุ้นแต่เพื่อนหนุ่มส่ายหน้าแล้วดื่มเหล้าอีกแก้ว ชนัตมองหน้าคนรักแล้วยิ้มแบบหมดหวัง เขานั่งดื่มเป็นเพื่อนศุภดิตถ์จนเกือบเที่ยงคืนจึงพากลับไปส่งที่บ้าน ศุภดิตถ์เมาจนขับรถไม่ไหว ชนัตจึงต้องไปส่งถึงบ้าน

                ศักดิ์ชัยโกรธจนพูดไม่ออก ศุภดิตถ์ผิดนัด ไปดื่มเหล้าจนเมากลับบ้านไม่ถูก เขาควรจะยิ้มรับลูกอย่างนั้นหรือ

                “ไอ้ดิตถ์แกทำยังงี้ได้ยังไง แกไม่เห็นแก่หน้าพ่อแกเลย ไอ้ลูกไม่รักดีต่อไปนี้ฉันจะไม่สนใจอะไรกับแกอีก อยากทำอะไรก็ทำไปเลย”

                ชนัตทำอะไรไม่ถูก กัลยาจึงเข้ามาช่วยประคองศุภดิตถ์อีกข้างหนึ่ง วีรยานั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกสีหน้าไม่ต่างจากชนัตเท่าไรนัก

                “ขอบใจมากนัต ไปเจอตาดิตถ์ที่ไหนเหรอลูก”

                “ร้านที่ผมเคยไปทานข้าวกันครับ ดิตถ์มันไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่จับคู่ให้มันก็เลยเบี้ยวงานเลี้ยง คุณแม่อย่าโกรธมันเลยนะครับ”

                “แม่ไม่โกรธหรอก แม่เข้าใจแต่แม่ขัดพ่อเขาไม่ได้ เขาต้องการให้ตาดิตถ์หมั้นกับหนูพิมพ์ประภา”

                “หมั้นเลยเหรอครับ แล้วอย่างนี้ไม่ตัดขาดพ่อลูกกันเหรอครับคุณแม่”

                “นั่นน่ะสิ แม่ว่าตาดิตถ์ไม่ยอมอยู่แล้วล่ะ”

                “แล้วจะทำยังไงล่ะครับ ถ้าดิตถ์มันไม่ยอมเรื่องใหญ่แน่ครับ”

                “ไม่รู้เหมือนกัน พรุ่งนี้แม่จะลองพูดดู นัตกลับเถอะลูก หนูยารอแล้วล่ะ”

                ชนัตลงมาจากชั้นบน ศักดิ์ชัยไม่อยู่ที่ห้องรับแขกแล้ว เขาจึงลากัลยากลับไป

                เช้าวันใหม่ศุภดิตถ์ลุกจากเตียงด้วยอาการมึนงงรู้สึกปวดศีรษะจนต้องกลับไปทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง เสียงเคาะประตูดังขึ้นเขาจึงส่งเสียงออกไป

                “ใครครับ”

                “แม่เองลูก ตื่นได้แล้วพ่อโมโหมากเลยรู้มั้ยลูก”

                “ครับแม่”

                เขาพยายามลุกจากเตียงอีกครั้ง เขาเปิดประตูรับมารดาและรับฟังเรื่องของบิดาจากท่าน

                “คุณพ่อไปทำงานแล้วเหรอครับ”

                “ไปแล้ว ดิตถ์อาบน้ำเสียสิลูกแล้วลงไปทานข้าว ทานยาแก้ปวดก่อนค่อยกลับมานอน”

                “ผมต้องเข้าบริษัทไม่ใช่เหรอครับ”

                “คุณพ่อโกรธมากสั่งห้ามไปให้เห็นหน้า”

                “ดีครับ ผมจะได้ไปตามทางของผม”

                แทนที่จะรู้สึกผิดที่ทำให้บิดาโกรธ ศุภดิตถ์กลับยิ้มระรื่นรีบเข้าห้องน้ำอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าสะพายลงไปข้างล่าง

                “ตาดิตถ์จะไปไหนลูก”

                กัลยาถึงกับเลิกคิ้วสูงที่เห็นลูกชายสะพายกระเป๋าเดินทางเดินยิ้มลงมา

                “ไปเที่ยวทะเลครับคุณแม่ ผมขอยาแก้ปวดสองเม็ดนะครับ วันนี้ป้าสุ่นต้มข้าวต้มปลาเหรอครับหอมน่าทานมากๆ”

                ท่าทางชายหนุ่มไม่เดือดร้อนใดๆ ดูร่าเริงเหมือนนกออกจากรังในตอนเช้าตรู่ คำสั่งของบิดาเป็นคำวิเศษสำหรับเขา เขาไม่ต้องเข้าไปทำงานเขาจะไปเที่ยวให้สบายใจแล้วจะกลับมา แต่ความคิดของเขาต้องสลายลงเพียงแค่ทานข้าวต้มและทานยาเสร็จเท่านั้น ศีดาก็เดินหน้ามุ่ยเข้ามา

                “ตาดิตถ์แกคิดอะไรของแกถึงได้ทำอย่างนี้ แกรีบเข้าบริษัทเดี๋ยวนี้เลยนะ”

                “หวัดดีครับอาดาทำไมต้องเข้าด้วยล่ะครับในเมื่อคุณพ่อสั่งห้ามผมแล้ว ผมก็ไม่จำเป็นต้องไปอีก อาไม่ต้องมาตามผมหรอกครับ”

                “อาไม่ได้แค่มาตามแต่อามาพาตัวแกไปบริษัทเดี๋ยวนี้ แกทำเรื่องใหญ่เข้าแล้วรู้มั้ย”

                “เรื่องใหญ่อะไรเหรอน้องดา”

                กัลยาร้องถามรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที ศีดาถอนหายใจเฮือกแล้วตอบพี่สะใภ้

                “ตาดิตถ์สั่งเครื่องจักรไป 10 เครื่องราคาเกือบ 30 ล้านบาท ถ้าเครื่องจักรเป็นเครื่องใหม่ก็ดีค่ะพี่กัลยา แต่นี่เครื่องจักรใช้แล้วยังสั่งมาได้ทำงานแค่ไม่กี่วันก็พังแล้ว เราต้องสูญเงินโดยเปล่าประโยชน์ตั้ง 30 ล้านค่ะพี่”

                ศีดาโกรธหลานชายเป็นครั้งที่เท่าไหร่ในหนึ่งเดือนก็ไม่ได้จดจำแต่ครั้งนี้โกรธจนต้องวิ่งมาลากตัวหลานชายด้วยตัวเองแต่ศุภดิตถ์ทำเหมือนทองไม่รู้ร้อน เขายิ้มแล้วเดินไปที่รถของเขา

                “ผมไม่ไปครับ อาก็แก้ปัญหาเอาเองสิ ใครใช้ให้ผมสั่งล่ะ ผมทำไม่เป็นไม่ชำนาญก็ใช้จังเลย ผลก็ออกมาอย่างที่เห็น ซึ่งมันช่วยไม่ได้นะครับคุณอา ผมไปล่ะครับ”

                “ตาดิตถ์ ยังไปไม่ได้นะแกต้องเข้าบริษัทพร้อมอาเดี๋ยวนี้”

                สาวใหญ่ที่ไม่สนใจเรื่องคู่ชีวิตวิ่งตามหลานชายไปที่รถแล้วแย่งกระเป๋าส่งให้คนขับรถเอาเข้าไปเก็บในบ้านแล้วแย่งกุญแจรถมาถือไว้

                “ขึ้นรถ อาขับเอง เธอขับรถตามฉันไปนะ”

                หล่อนสั่งหลานชายแล้วหันไปสั่งคนขับรถก่อนจะผลักหลานเข้าไปนั่งในรถ ศุภดิตถ์ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ความฝันนอนกินลมชมดาวที่ชายทะเลมลายไปในพริบตาและต้องเข้าไปนั่งฟังบิดาเทศนาอีกหลายกัณฑ์ เขาได้แต่นั่งผ่อนลมหายใจไปเรื่อยๆ ศีดามองหน้าหลานชายแล้วถอนหายใจ หล่อนคงดึงหลานให้ช่วยงานอีกต่อไปไม่ได้แล้วเพราะหลานไม่สนใจงานแม้แต่นิดเดียว

                “พี่ศักดิ์ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ เรื่องนี้ดาจัดการเอง ตาดิตถ์แกจะไปไหนก็ไป เที่ยวให้สบายใจแล้วค่อยกลับมาทำงาน”

                ชายหนุ่มยิ้มรื่นยกมือไหว้อาสาวแล้วหันไปไหว้บิดาก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของบิดาอย่างไม่รู้สึกผิดสักนิด

 

******


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (69 รายการ)

www.batorastore.com © 2024