L Club Three...บ้านบุษบันคืนใจ (ปกใหม่)

L Club Three...บ้านบุษบันคืนใจ (ปกใหม่)

3 รีวิว  3 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160606375
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 229.00 บาท 180.91 บาท
ประหยัด: 48.09 บาท ( 21.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทที่ 1

 

เรื่องมันยาว...

รู้สึกว่าจะเริ่มเมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งโทรมาที่บริษัทสำนักกฎหมาย นักสืบ และรักษาความปลอดภัยนพเดชา แล้วเจาะจงขอปรึกษากับอเนชา นพเดชา ทายาทคนโตของเจ้าของบริษัทกฎหมายที่ใหญ่โตเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ

คนที่โทรมาบอกว่าเรื่องที่จะคุยเป็นเรื่องของ ‘เด็กผู้หญิง’ คนหนึ่ง

“เห็นว่าไปพักบ้านญาติแล้วจะโดนลูกชายญาติทำมิดีมิร้ายน่ะครับ ตอนนี้เลยกลับไปอยู่บ้านคนเดียว”

“ครับ” อเนชา...ทนายหนุ่มมาดเข้มอายุเพิ่งใกล้ๆ จะสามสิบรับคำพร้อมยิ้ม...อย่างที่เรียกว่า ‘ยิ้มการค้า’ ใส่เครื่องรับสัญญาณโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานทั้งที่คู่สายไม่มีทางได้เห็น

เขาให้ความสนใจกับคู่สายจนวางมือจากเอกสารเตรียมฟ้องคดีละเมิด อันเป็นคดีที่ต้องรับผิดชอบหลังช่วยลูกความชื่อคุณกิมฮุงจัดการมรดกอลเวงเสร็จไปครึ่งทางแล้วตั้งแต่เมื่อวานซืน

“ขอรายละเอียดเพิ่มอีกนิดได้ไหมครับคุณธีรนพ ค่อยๆ เล่านะครับ ผมอยากทราบว่าเรื่องนี้ด่วนแค่ไหน บางทีผมอาจจะให้คำแนะนำได้ในตอนนี้เลย ไม่ทราบว่า...ตอนนี้น้องยังปลอดภัยดีหรือเปล่าครับ”
“อาจจะปลอดภัยครับ ผมไม่ทราบเหมือนกัน เรื่องมันเกิดขึ้นสองถึงสามวันแล้ว”

ตอนนั้นเด็กเดินเอกสารก้าวเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว อเนชาจึงเอียงคอแล้วหนีบโทรศัพท์ไว้กับไหล่ หยิบซองสีน้ำตาลบางเฉียบขนาดใหญ่ส่งให้พลางสนทนากับคู่สายที่โทรทางไกลมาจากเชียงใหม่ไปเรื่อยๆ

“ไม่ทราบว่าคุณธีรนพเป็นอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนั้นครับ”

“ก็...”

พอถามคำถามสามัญแบบนี้ไป คุณธีรนพที่ฟังน้ำเสียงแล้วน่าจะเป็นชายหนุ่มอายุราวสามสิบห้าถึงสี่สิบปีก็ลากเสียงอย่างลังเล

อเนชารีบกดปุ่มบันทึกสัญญาณเสียงที่พ่วงอยู่กับเครื่องรับสัญญาณโทรศัพท์บนโต๊ะทำงาน ตามด้วยบุ้ยปากให้เด็กเดินเอกสารนำซองสีน้ำตาลเมื่อครู่ไปส่งเจ้าหน้าที่ชั้นล่าง

เด็กเดินเอกสารของสำนักงานซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเด็กใหม่ในส่วนรักษาความปลอดภัยของบริษัทผงกหัวรับแล้วเดินออกไปจากห้องทำงานส่วนตัวของอเนชาเงียบๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่คนโทรมาต่อบทเหมือนเรียบเรียงประโยคได้แล้วเรียบร้อย

“ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเด็กคนนั้นหรอกครับ พอดีคนรู้จักเขาฝากผ่านๆ กันมา เรื่องของเรื่องคือน้องพา..แกชื่อพาณิภัคน่ะครับ พ่อแม่เพิ่งเสียไปในอุบัติเหตุ ทิ้งบ้านกับเงินประกันชีวิตไว้ให้หลายอยู่...ทีนี้แกเหลือญาติอีกคือป้าและลุง แต่สนิทกับป้ามากกว่า เพราะครอบครัวของฝ่ายลุงห้าคนไปตั้งรกรากที่เมืองนอกกันหมด ทางฝ่ายป้าเลยให้ทนายความยื่นคำร้องขอเป็นผู้ดูแลเด็ก แต่...คนรู้จักผมเขาบอกว่าป้าคนนี้เป็นคนไม่ดี มีแววว่าจะฮุบเงินเขาหมดแน่ ผมเลยอยากให้ทนายมาช่วยน้องเขาหน่อย”

“น้องอายุเท่าไรแล้วครับ”

“ประมาณสิบแปดสิบเก้าครับ”

“อ๋อครับ” อเนชารับคำสั้นๆ หน้าตายังยิ้มรับ แต่ใจบ่นคู่สนทนาว่าอายุสิบแปดสิบเก้ามันเด็กเสียที่ไหนกัน แรกฟังเขานึกว่าเด็กคนนั้นอายุสิบสองสิบสามเสียอีก

“ถ้าน้องเขาอายุเท่านั้นแล้ว เขาน่าจะคุยกับศาลได้รู้เรื่อง และมีสิทธิ์เลือกผู้ปกครองด้วยตัวเองแล้วล่ะครับ”
“ปัญหาคือน้องพาไม่รู้ว่าป้าตัวเองเป็นคนไม่ดีครับ แล้วทางเลือกอื่นก็ไม่มี เพราะลุงแกอีกคนอยู่เมืองนอก คนไม่มีทางกลับมายุ่งกับเรื่องของแกแล้ว ถึงตอนนี้เจ้าตัวหนีออกมาจากบ้านป้าแล้วก็ใช่ว่าจะปลอดภัย อาจจะเป็นทำนองหนีออกมาจากบ้านป้าแล้วก็ใช่ว่าจะปลอดภัย อาจจะเป็นทำนองหนีเสือปะจระเข้ด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้น้องเขาอยู่คนเดียวครับ”

อเนชาเงียบไปครู่หนึ่งขณะดึงแว่นกระจกกรอบดำทรงขรึมออกจากใบหน้าคมคายได้รูป ใจหนึ่งนึกสงสัยคู่สนทนาไปแล้วเต็มประตูว่าเป็นแค่คนรู้จักทำไมริไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่น แต่อีกใจหนึ่งนั้นนึกปลง เนื่องจากมันไม่แปลกเลยหากจะมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้น

เงินทองเป็นของบาดใจ ใครบ้างไม่อยากยุ่ง แต่เขาก็เผื่อใจไว้เรียบร้อยแล้วว่าสังคมเรายังมีคนดีหลงเหลืออยู่

ถ้านายธีรนพเป็นคนดีที่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน เขาก็เห็นว่าคงเป็นโชคดีของเด็กคนนั้น

“คุณธีรนพครับ ผมยืนยันนะครับว่าน้องอายุมากพอจะเลือกผู้ปกครองได้เองแล้ว หากน้องเขายืนกรานว่าจะไม่เลือกป้าเป็นผู้ปกครองจนกว่าจะอายุครบยี่สิบปีตามกฎหมาย น้องเขาสามารถทำได้ และในกรณีที่ผู้เยาว์ไม่มีปัญหากับผู้ปกครอง เรื่องยังไม่เกิด ทนายคือคนนอกนะครับ”

“ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องขึ้นก่อนค่อยล้อมคอก”

“สมมติว่าเกิดกรณีพิพาทขึ้นระหว่างผู้เยาว์กับผู้ปกครอง ศาลก็จะนัดหมายพร้อมมาคุยกัน ต่อเมื่อตกลงกันไม่ได้ แล้วทางฝ่ายผู้ปกครองแต่งตั้งทนายขึ้นมาเมื่อไหร่ ทางฝั่งผู้เยาว์ก็ยังมีอัยการทำหน้าที่ทนายให้ตามกฎหมาย ทนายความธรรมดาอย่างผมจะเข้าร่วมได้ก็ต่อเมื่อผู้เยาว์แต่งตั้งให้เป็นทนายร่วมกับอัยการเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ต้องเป็นหลังจากเกิดกรณีพิพาทขึ้นระหว่างผู้เยาว์กับผู้ปกครองทั้งนั้นนะครับคุณธีรนพ”

“หมายความว่าคุณ...เนตร...จะไม่ช่วยเหรอครับ”

ธีรนพค่อยๆ เอ่ยชื่อเล่นอเนชาช้าๆ ดึงความสนใจจากทนายหนุ่ม และมันก็ได้ผล เมื่อคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่ควรเรียกขานกันด้วยชื่อที่แสดงความสนิทสนมถึงเพียงนี้

อเนชาวางแว่นกระจกที่ใส่ไว้เพียงให้ใบหน้าดูมีอายุน่าเชื่อถือลงบนโต๊ะ

“คุณธีรนพครับ ผมจะไม่ถามคำถามเดิมนะครับว่าคุณเป็นอะไรกับเด็กคนนั้น แต่ผมอยากถามว่าใครแนะนำคุณให้โทรมาหาผมโดยตรงครับ”

“ผมอยากให้คุณเนตรขึ้นมาเชียงใหม่สักครั้ง”

“ผมจะขยับตัวต่อเมื่อเราเปิดใจคุยกันตรงๆ ครับ ตอนนี้ผมมีคดีติดพันอยู่หลายคดีด้วยกัน ถ้าคุณธีรนพตั้งใจโทรมาหาผมโดยใครบางคนแนะนำ ก็น่าจะมั่นได้บ้างว่าผมเป็นคนแบบไหน”

“ผมขอพูดตรงๆ เลยว่าไม่สามารถบอกอะไรคุณได้ในขณะโทรศัพท์คุยกัน และคนแนะนำ...ไม่ล่ะ ผมไม่เอ่ยถึงเขาเลยจะถูกกว่า แต่ถ้าผมบอกคุณเนตรว่าทนายฝ่ายป้าของน้องพาคือนายชโยดม เพื่อนเรียนรุ่นเดียวกับคุณเนตร...คุณพอจะสนใจบ้างไหม”

ชโยดม...

คิ้วเข้มสวยของชายหนุ่มขยับผูกเข้าหากันทันใด ในหัวปรากฏภาพของผู้ชายรูปร่างได้ส่วน...สูงโปร่ง ผิวขาวแบบคนมีเชื้อสายจีน แต่ดวงตาคมกร้าวดุจเหยี่ยว จมูกโด่งงุ้ม

วงการกฎหมายเป็นวงการที่ใหญ่พอสมควร เพราะมันประกอบด้วยนักกฎหมาย ทนายความ ผู้พิพากษา อัยการ และอื่นๆ อีกมาที่รวมกันเป็นกระบวนการยุติธรรม กระนั้น...วงการกฎหมายก็เหมือนวงการอื่นๆ หรือถ้าจะเรียกให้ถูกคือเหมือนสังคมมนุษย์ทั่วๆ ไปคือมีคนชั่วปะปนอยู่กับคนดี

อย่างไรเสียมันต้องมีคนที่เด่นกว่าผู้อื่น มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกและมีคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน หากอเนชา นพเดชาอยู่ฝ่ายธรรมะ นายชโยดมก็ถือหางฝ่ายอธรรม

หลังเรียนจบไม่นาน...ชโยดมซึ่งมาจากครอบครัวคนธรรมดา ฐานะทางการเงินปานกลางค่อนไปทางติดลบ ได้เข้าไปเป็นศิษย์รักของทนายความฝีมือฉกาจ แต่ชอบถือหางพวกตัวร้ายประจำวงการ ใช้วิธีเดินตามหลังจนมีโอกาสได้พบกับคนใหญ่คนโต ก่อนจะค่อยๆ ร่ำรวยขึ้นเพราะรับเป็นทนายแก้ต่างให้พวกเจ้าพ่อและคนชั่ว จนจิรพนธ์...น้องชายซึ่งเป็นนักสืบของเขาเคยค่อนว่า ‘มันเป็นหัวหน้าโจร’

‘แก้ต่างให้เจ้าพ่อบ่อนการพนันงี้ ช่วยคนค้ายาบ้างี้ เอาฆาตกรออกจากคุกงี้ ถ้าเป็นผมนะพี่เนตร ผมเจอลูกความทำผิดแบบยึดเป็นอาชีพ ผมไม่ช่วยหรอก ชโยดมนี่มัน...หัวหน้าโจรชัดๆ’

นั่นก็เป็นเรื่องหลายปีมาแล้ว นึกไม่ถึงว่าเขาจะได้ยินชื่อคนคนนั้นอีก

“ผมขอเสียมารยาทถามสักเรื่อง..มรดกของน้องพามากขนาดไหนครับคุณธีรนพ”

“บ้านน้องเขามีสวนดอกไม้ตัดดอกส่งขายภายในประเทศและต่างประเทศครับ ชื่อสวนบุษบันเปรมใจ หุ้นส่วนส่วนใหญ่เป็นชื่อของญาติๆ ที่ให้ยืมชื่อมาใช้ตั้งแต่พ่อแม่ของน้องเขาก่อตั้งใหม่ๆ ตอนนี้กิจการขยายแล้วก็ไม่ได้เข้ามายุ่ง ปีหนึ่งๆ บริษัทมีกำไรเข้ากระเป๋าเต็มๆ ไม่ต้องแบ่งใครอยู่ในหลักสิบล้าน ถ้ารวมกับเงินประกันอุบัติเหตุของพ่อกับแม่ ผมได้ยินว่าคนหนึ่งก็หลายล้าน แล้วที่ดินที่ทำรีสอร์ทกลางสวนก็ราคาขึ้นเอาๆ เท่ากับน้องพาเป็นเศรษฐีติดอันดับที่นี่ไปแล้วล่ะครับ”

พูดกันเพียงเท่านั้น อเนชาก็เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง

ที่แท้หนีเสือปะจระเข้...คือไม่ว่าจะไปทางไหนก็มีคมเขี้ยวรอเด็กคนนั้นอยู่

รวยหนักแถมเป็นเด็กผู้หญิงตัวคนเดียว มีหรือพวกคนโลภจะไม่ตาวาว

“ตกลงผมสนใจครับ” อเนชาว่า... “แต่ปัญหาคือคนที่จะจ้างทนายให้เข้าไปยุ่งในเรื่องนี้ได้คือน้องพานะครับคุณธีรนพ ไม่ใช่คนอื่น”

“ผมถึงอยากให้คุณขึ้นมาเชียงใหม่สักหน แล้ว...บางทีคุณอาจจะรู้ว่าทำไมผมต้องเข้าไปยุ่งทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องหรือรู้จักกันเป็นการส่วนตัวกับน้องพาเลย”

 

บอกแล้วว่าเรื่องมันยาว...

หลังฟังเรื่องราวของพาณิภัค เศรษฐินีวัยสาวจากบุรุษปริศนาชื่อธีรนพคร่าวๆ อเนชาก็ตกปากรับคำว่าจะเดินทางไปเชียงใหม่เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ นายธีรนพจึงอาสาออกค่าใช้จ่ายทั้งจองตั๋วเครื่องบินและจองห้องพักในโรงแรมที่เชียงใหม่ให้ ซึ่งกำหนดการที่ธีรนพโทรศัพท์กลับมาแจ้งอีกครั้งช่าวเร็วจนตั้งตัวแทบไม่ทัน เนื่องจากมันคือวันรุ่งขึ้น

“ถ้าคุณเนตรไม่สะดวกหรือต้องการเพิ่มคนที่จะมาด้วยก็แจ้งให้ผมจัดการได้นะครับ รับรองว่าระหว่างที่คุณอยู่เชียงใหม่ ผมจะอำนวยความสะดวกให้คุณเนตรทุกอย่าง ผมจะให้คนไปรับคุณที่สนามบินและสามารถติดต่อผมได้ที่มือถือหรือหน้าร้านในเซ็นทรัลแอร์พอร์ตได้ตลอดเวลาครับ”
“ได้ครับ ขอบคุณมากครับคุณนพ”

แม้ตอนเออออห่อหมกรับปาก อเนชาจะมียิ้มสุภาพติดใบหน้าอย่างที่ใครๆ บอกว่ามันคือยิ้มแบบการค้า แต่พอวางหูจากคู่สนทนา ทนายหนุ่มก็หุบยิ้ม เปลี่ยนสีหน้าเป็นเบื่อ เซ็ง...ซึ่งเป็นสีหน้าที่ลูกความจะไม่มีวันได้เห็นจากทายาทคนโตของนพเดชา

“จะให้รีบไปขึ้นช้างลงม้าที่ไหนนักหนานะ รู้แล้วว่าอยากหาคนจัดการกับชโยดมจะแย่”

ใช่...ก่อนหน้านี้อเนชาไม่รู้หรอกว่าธีรนพมายุ่งอะไรกับเรื่องนี้ แต่พอเอ่ยชื่อชโยดมออกมา เขาก็เริ่มมองเห็นข้อขัดแย้งที่ไม่จำเป็นต้องสัมผัสด้วยตัวเอง

ธรรมดาคนเราจะหาใครไปจัดการกับคนคนหนึ่งย่อมต้องมีสาเหตุเบื้องต้น และเมื่อพูดถึงชโยดม มันก็คงไม่พ้นเรื่อง ‘โกงๆ’ หรือไม่อีกที...สำหรับผู้ชายก็คงเรื่องผู้หญิง

อเนชาไม่ถือสาหากใครจะถือว่าเรื่องที่คนอื่นมองว่าไร้สาระคือเรื่องใหญ่ของตน เพราะทุกคนมีสิทธิ์คิด มีสิทธิ์เรียกร้องสิทธิตามสมควร แต่เขาไม่สนับสนุนให้รักษาสิทธิของตนจนละเมิดสิทธิของผู้อื่น เพราะฉะนั้นถ้าธีรนพมีข้อกินแหนงแคลงใจกับชโยดมจนคิดใช้เขาเป็นเครื่องมือแก้แค้น ‘ในทางที่ถูก’ เขาก็ไม่รังเกียจ เพียงแต่อย่างไรเสีย...เขารู้สึกว่ามันมีอะไรซ่อนอยู่ เนื่องจากธีรนพไม่ยอมปริปากพูดออกมาตรงๆ ว่าเกี่ยวข้องกับพาณิภัคอย่างไร

ด้วยฐานะของนายธีรนพ อมรรัตตะนะ...เจ้าของร้านจิวเวลรี่ยี่ห้อ

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (3)

เขียนรีวิว

phattaraporn | 3 รีวิว
27/11/2014

L Club Three... บ้านบุษบันคืนใจ (ปกใหม่) นิยายเรื่องนี้เป็นผลงานของคุณปราณธรค่ะเนื้อเรื่องยังคงความสนุกเช่นเคยเพราะติดตามมาตั้งแต่เซตก่อนๆ สำหรับเรื่องนี้ต้องบอกว่าอย่างไรดีชอบคาแร็กเตอร์พระเอกเพราะว่าดูเป็นผู้ใหญ๋ที่สามารถปกป้องคุ้มครองนางเอกได้ อ่านแล้วหลงรัหเลยค่ะส่วนนางเอกก็สงสารนะเพราะว่าในเรื่องต้องถูกป้าตัวเองโกงแต่เธอก็มีจิตใจที่เข้มแข็งเช่นกัน มีความรู้สึกว่านิยายเรื่องนี้พระเอกดูเป็นอัศวินม้าขาวมากเพราะคอยช่วยเหลือนางเอกตลอดเรียกได้ว่าเป้นนิยายที่กว่าจะลงเอยกันได้นี่ลุ้นตามตลอดเลยค่ะเรื่องนี้เพราะว่าตอนแรกพระเอกกับนางเอกเค้าก็ไม่ค่อยจะลงรอยกันแต่ก็รู้สึกชอบตรงที่พระเอกกับนางเอกเค้าไม่ได้รักกันง่ายจนเกินไปประมาณว่าค่อยๆรักกันค่อยๆเข้าใจกัน ส่วนตัวเนื้อเรื่องเองก็ค่อยๆคลี่คลายปมเพราะตอนแรกนางเอกก็ไม่รู้ว่าป้าตัวเองร้ายขนาดไหน โดยรวมถือว่าเป็นนิยายอีกเรื่องที่น่าอ่านค่ะเนื้อเรื่องดูอบอุ่นดีแล้วตัวละครก็น่ารักมากด้วยอ่านแล้วยิ้มตามตลอดเพราะชอบที่พระเอกคอบอยู่กับนางเอกคอยช่วยเหลือ ส่วนนางเอกก็เป็นคนดีมากๆบุคคลิกภายนอกดูแสบๆแต่น่ารักดีค่ะต้องลองอ่านค่ะเรื่องนี้น่าจะแล้วแต่สไตล์คนชอบแต่ติดตามอ่านมานานแล้วมีความรู้สึกว่าสนุกทุกมาก คุณปราณธรเขียนโดยใช้สำนวนที่น่าอ่านแล้วก็น่าติดตามทั้งเล่มเลยค่ะด้วยความที่ปูเนื้อเรื่องมาดีอีกทั้งเขียนแบบเนื้อเรื่องไม่รวบรัดจนเกินไปเลยรู้สึกชอบอีกทั้งเนื้อหาอ่านแล้วสนุกเข้าใจง่ายด้วยค่ะแนะนำเลยค่ะนิยายเรื่องนี้
วาชิ | 3 รีวิว
24/08/2014

หากใครได้อ่าน L Club เล่มก่อนหน้านี้มาแล้ว คงจะรู้จักพี่ชายคนโตของบ้านนพเดชาบ้างแล้วใช่ไหมคะ? ส่วนใครที่ไม่รู้ พ่อพระเอกหนุ่มนาม ‘อเนชา’ คนนี้เขาเป็นทนายมือฉมัง มีชื่อเล่นสั้นๆ ว่า ‘เนตร’ ค่ะ วันดีคืนดีเขาก็ได้รับโทรศัพท์ปริศนาจากชายที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร โทรมาขอให้เขาช่วยเหลือเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อความโลภของป้าตัวเอง เขาเลยต้องนั่งเครื่องจากกรุงเทพฯ ไปถึงเชียงใหม่เพื่อรับรู้ว่า คนที่เขาต้องมาเป็นทนายให้เป็นแค่ ‘เด็กเปรต’ คนหนึ่งที่เจอหน้ากันครั้งแรกก็ทำกาแฟหกใส่ แถมยังตบหน้าเขาดังเพี๊ยะพร้อมกับประณามให้เสียเรียบร้อยว่าเขาเป็น ‘ไอ้โรคจิต’! เริ่มต้นมาความสัมพันธ์ของพระนางเรื่องนี้ก็ติดลบแบบกู่ไม่กลับซะแล้ว และมันจะวุ่นซักแค่ไหน เมื่อเนตรต้องหาทางเข้าใกล้ ‘พาณิภัค’ หรือ ‘น้องพา’ คนนี้โดยที่สาวเจ้าจะไม่ระแคะระคายว่าตัวเขาน่ะมีอาชีพเป็นทนายที่รอวันให้คนชั่วแผลงฤทธิ์ เขาจะได้จัดการให้เสร็จเรียบร้อยแล้วจะได้กลับบ้านเสียที เรื่องนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า ตอนแรกที่อ่าน ค่อนข้างติดลบกับนิสัยของน้องพาอยู่พอสมควร เพราะ เราไม่ค่อยชอบนางเอกที่ง๊องแง๊ง ดีแต่แว๊ดๆ เข้าว่า ซึ่งเริ่มแรกเปิดมานางเอกในเรื่องนี้นี่จัดเต็มมาครบทุกคุณสมบัติที่เราไม่ชอบเลยค่ะ แต่ที่ยังอ่านต่อเพราะมันมีแพริ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเจอ นั่นคือสายสัมพันธ์แปร่งๆ ระหว่างคุณเนตรกับ ‘ธีรนพ’ เจ้าของร้านเครื่องเพชรที่เป็นบอสของคนที่ว่าจ้างเพชรให้บินข้ามจังหวัดมาเจอรักที่เชียงใหม่นี่แหละค่ะ ถึงตอนท้ายคุณนพจะออกแนวนางร้ายในละครหลังข่าวที่เราอยากเอาพัดไปโบกหัวพี่แกสักที แต่เราก็ชอบนะที่เขากล้า ‘จีบ’ คุณเนตรแบบเปิดเผย คนเป็นสาววายมาอ่านเรื่องนี้นี่มีกรี๊ดอ่ะ เราว่านะ 5555 ส่วนอีกคนที่เราชอบไม่แพ้คุณเนตรและคุณนพเลยคือ ‘วนิดา’ หรือ ‘นิดา’ หรือชื่อเก่าก็คือ ‘วัณชัย’ //กินจุดเงียบๆ นะคะ 5555 สาวหน้าหวานที่ในอดีตเคยเป็นชาย คนๆ นี้มาเพิ่มสีสันให้กับเรื่องนี้ได้เยอะเลยค่ะ อ่านเรื่องนี้จบเลยพูดได้เต็มปากว่าเราชอบนิดามากที่สุดในเรื่องแล้วล่ะ ส่วนตอนท้ายๆ นี่เหมือนเร่งรัดตัดจบไปหน่อย คล้ายกับว่าคนเขียนเขาไม่อยากให้คนอ่านมานั่งปวดตับเกี่ยวกับเรื่องคดีความอะไรมาก ก็เลยรวบรัดให้เข้าใจง่ายว่าเรื่องคดีระหว่างน้องพากับป้าแท้ๆ ของเธอมีผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งเรามองว่ามันก็โอเคดีนะ ไม่ดราม่าดี อ่านเพลินๆ ตอนจบก็ปิดได้สวยงาม รู้สึกดีกับน้องพามากขึ้น และเทความรักให้คุณเนตรหมดใจ ถึงจะไม่เคยอ่าน L Club One / L Club Two มาก่อนก็เชื่อว่าทุกคนน่าจะอ่านเข้าใจและไม่งงนะคะ แต่อยากให้อ่านครบหมดสามเล่มเลย เพราะผลงานของปราณธรเขาดีจริงค่ะ ได้ทั้งแง่คิด ความสนุก และคติสอนใจหลายอย่างเลยนะ
จตุพร_07 | 3 รีวิว
24/08/2014

แล้วก็มาถึงคิวพี่ใหญ่ของตระกูลอย่าง “อเนชา” ที่ขึ้นแท่นเป็นพระเอกเต็มตัวใน “L Club Three... บ้านบุษบันคืนใจ” อยู่ๆก็มีผู้หวังดีโทรหาทนายความสุดหล่ออย่าง “อเนชา” เพราะเป็นห่วงว่านางเอก “พาณิภัค” จะถูกโกงจนหมดตัวโดยป้าแท้ๆที่ร่วมมือกับ “ชโยดม” ทนายความสายมืด นางเอกเรื่องนี้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อพ่อแม่ตาย ป้าซึ่งเป็นญาติที่เหลืออยู่จึงได้กลายเป็นผู้ปกครองของนางเอกค่ะ พระเอกจึงตัดสินใจมาช่วยเพราะเขาเชื่อว่าคนที่โทรมาหาเข้าต้องรู้แน่ๆว่าเขาต้องสนใจ และก็เป็นอย่างที่พระเอกคิดจริงๆค่ะ เมื่อเขาเดินทางไปพบคนที่โทรมา เขาได้พบกับเพื่อนเก่าที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน ตอนแรกพระเอกก็จำไม่ได้เพราะสมัยเรียนเพื่อนคนนี้แมนมว๊าก แต่ตอนนี้เพื่อนกลายเป็นสาวไปเสียแล้ว ฮา ที่สำคัญ เพื่อนของเขาคนนี้เคยโดย “ชโยดม” หลอกจนหมดตัว โชคดีที่ได้มาเจอคนที่โทรไปหาพระเอกเนี่ยแหละค่ะ ที่ให้งานทำ ดังนั้นเมื่อรู้ว่านางเอกกำลังจะลำบากเพราะ “ชโยดม” เธอ(เขา)จึงคิดถึงพระเอกขึ้นมา พระเอกก็เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังแน่ๆ เขารู้จัก “ชโยดม”มาตั้งแต่สมัยเรียนเหมือนกับเพื่อนสาวของเขา เพราะเรียนนิติฯมาด้วยกัน คือตัว “ชโยดม”ก็อิจฉาพระเอกมาตลอดเพราะพระเอกเกิดในตระกูลที่เพียบพร้อม มีแต่คนเอาใจรุมรัก ส่วนเขาต้องพยายามถีบตัวเองแทบตายก็ยังสู้พระเอกไม่ได้ “ชโยดม”จึงเลือกเดินในทางตรงข้ามกับพระเอก ครั้งแรกที่พบกัน พระเอกไม่ชอบนางเอก เพราะเธอเป็นเด็กที่ยังเรียนมหาวิทยาลัย แต่คิดว่าตัวเองโตเสียเต็มประดา แอบเรียกนางเอกว่า “เด็กเปรต” ด้วยอ่า แรงขริงๆ อิอิ ส่วนนางเอกเธอก็คิดว่าพระเอกเป็นพวกโรคจิตค่ะ เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นพระเอกดันจับหน้าอกนางเอก แม้จะโกรธที่ถูกเข้าใจผิด แต่พระเอกก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะช่วยเธอ แหมๆๆ แยกประเด็นเป็นเสียด้วย อิอิ พระเอกเรื่องนี้เสน่ห์แรงไม่ธรรมดา ขนาดเพศเดียวกันอย่างเจ้านายเพื่อน(สาว)ยังมาแอบหลงรัก ลองจีบพระเอก แต่พระเอกก็พยายามปฏิเสธอย่างนุ่มนวล คือหน้าตาพระเอกดูเป็นคนซื่อๆค่ะ อีกฝ่ายเลยไม่ค่อยคิดว่าพระเอกจะโกรธ แต่เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันรู้ดีว่าความจริงแล้วพระเอกร้ายกว่าที่คิด เจ้าคิดเจ้าแค้นด้วย อิอิ จึงแอบเตือนๆเจ้านายให้ตัดใจ เพราะถ้าพระเอกปรี๊ดขึ้นมาจะเป็นเรื่องใหญ่ ต้องอ่านบทบรรยายในเล่มค่ะ คือฮามาก ส่วนนางเอก ภายนอกดูเป็นเด็กเปรตแบบที่พระเอกรียกนั่นแหละค่ะ แต่เนื้อแท้เธอเป็นคนดี ถูกเลี้ยงมาในครอบครัวที่อบอุ่น พอพ่อแม่ตายก็เลยเคว้ง เงินที่พ่อแม่ทิ้งไว้ก็ยังเบิกมาใช้ไม่ได้ เธอจึงต้องหางานพิเศษทำ แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น พระเอกจึงได้โอกาสตีเนียนเข้าไปในชีวิตนางเอกซะเลย นางเอกที่ขาดพ่อแม่ เมื่อเจอพระเอกก็อบอุ่นใจ แม้เขาจะขยันบ่น เทศน์เธอสารพัด นางเอกเริ่มหลงรักเขาแล้วค่ะ แต่คิดว่าพระเอกเป็นเกย์และรักกับเพื่อน(สาว)ตัวเองอยู่ พระเอกเมื่อได้เข้ามาใกล้ชิดนางเอก เขาจึงเริ่มรู้ว่านางเอกเป็นเด็กดี เขาจึงเริ่มสงสารที่นางเอกต้องเจอป้าโกง ก็แอบๆเตือนให้นางเอกไม่ให้ไว้ใจป้ามากไป เข้าไปดูบริษัทของพ่อแม่บ้าง ตอนแรกนางเอกก็ได้คิดอะไรหรอกนะคะ เพราะเธอมองโลกในแง่ดีและไว้ใจป้ามาก จนวันหนึ่งเธอทะเลาะกับพระเอก พระเอกงอนบินกลับกรุงเทพฯเลย แงๆๆ และทำให้เธอได้รู้ความจริงว่าป้าโกง พระเอกจึงต้องกลับมาหาเพราะเป็นห่วงนางเอก ทั้งคู่จึงได้ปรับความเข้าใจกัน และบอกความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง เรื่องคดีก็ค่อยๆคลี่คลายค่ะ เพราะป้านางเอกถูกจับได้มาโกง ส่วน “ชโยดม”ลอยตัวเพราะเขาป้องกันตัวเองได้เป็นอย่างดี ปล่อยให้ป้านางเอกรับกรรมไปคนเดียว มีล้นระทึกนิดๆ เพราะ “ชโยดม”ร้ายพอตัว พระเอกถูกลอบทำร้าย แต่ก็ปิดคดีได้ค่ะ พอเรื่องเงินๆทองๆจบไป หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องราวความรักของพระนาง มีตัวละครจาก L Club ภาคเก่าๆโผล่มาให้หายคิดถึงด้วยค่ะ

สินค้าที่ใกล้เคียง (63 รายการ)

www.batorastore.com © 2024