วายร้ายไวรัก + สาวน้อยตัวแสบ (สุชีรา)

วายร้ายไวรัก + สาวน้อยตัวแสบ (สุชีรา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: วายร้ายไวรัก
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 37.50 บาท
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

วายร้ายไวรัก

 

 

                อุบัติเหตุทำให้เขากับหล่อนพบกันและเป็นการพบแบบ

ศัตรูคู่อาฆาตแต่สุดท้ายไปๆ มาๆ เขาก็รักหล่อนจนถอนตัวไม่ขึ้น…

 

 

 

 

                                                                ด้วยรัก

                                                                สุชีรา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1…

                “ไอ้บ้า ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ไอ้ทุเรศ ไอ้หมา ไอ้บ้า..”

                หญิงสาวหาคำด่าเจ็บแสบได้เพียงเท่านี้เพราะหล่อนไม่เคยด่าใครเมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้จึงทำได้เต็มที่แค่นี้แต่คำผรุสวาทเหล่านี้ไม่ทำให้หล่อนหายโกรธ ฝ่ามือที่มีพลังไม่เบาสะบัดเผลียะลงบนใบหน้าทั้งสองข้างของชายหนุ่มตรงหน้า กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั่วทั้งรถ

                หล่อนไม่รู้ว่าเขาเป็นใครแต่ที่หล่อนรู้ในขณะนี้หล่อนอยากฆ่าเขาให้ตายคามือ  เขาบังอาจปล้ำจูบหล่อนทั้งที่เขาเป็นฝ่ายผิด หล่อนจอดรถแอบเข้าข้างทางแล้วแต่เขายังขับรถเข้ามาชนท้าย รถเก๋งคันหรูราคาเหยียบล้านของหล่อนพังไปทั้งแถบจะไม่ให้หล่อนโกรธได้อย่างไร

                มาธวีขับรถออกมาจากบ้านเพื่อซื้อของใช้ที่ซุปเปอร์มาเก็ตขณะขับรถเข้าจอดข้างทางรถเก๋งอีกคันก็แล่นเข้ามาชนท้ายรถดังสนั่นหล่อนตกใจอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูกไปชั่วครู่

                เมื่อตั้งสติได้ความโกรธแล่นเป็นริ้วๆ ขึ้นมาทันทีหล่อนเปิดประตูรถก้าวลงไปอย่างรวดเร็วและพอเห็นสภาพท้ายรถตาไฟด้านข้างขวาแตกละเอียดท้ายยุบเข้าไปเกินฟุตยิ่งเพิ่มความโกรธเป็นทวีคูณ หล่อนก้าวยาวๆ ไปที่รถต้นเหตุ คนในรถยังนั่งหลับตาสบายใจหล่อนเคาะกระจกดังว่ามันจะแตกออกเป็นเสี่ยง

                “เปิดประตูเดี๋ยวนี้ เปิดประตูลงมาคุยให้รู้เรื่อง ฉันจอดรถแล้วตาไม่มองรึไง ขับรถประสาอะไร เปิดประตูเดี๋ยวนี้”

                ชายหนุ่มผลักประตูออกกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งลอยออกมาด้วย มาธวีถึงกับผงะ นี่คู่กรณีของหล่อนเป็นไอ้ขี้เมาอย่างนั้นหรือ สติที่เกือบจะแตกพลันระเบิดออกมาทันที

                “เมาแล้วยังขับรถอีกทุเรศสิ้นดีเลย นายรู้มั้ยว่านายทำอะไรลงไป เห็นมั้ยเห็นรถฉันมั้ยเป็นยังไง เพราะความเมาของนาย นายต้องชดใช้กับความทุเรศของนาย ลงมาเดี๋ยวนี้เลย”

                หล่อนดึงแขนเขาเพื่อให้เขาลงจากรถแต่เขาสะบัดมือออกแล้วเรอใส่หน้าหล่อน ความโกรธและขยะแขยงทำให้มาธวีลืมตัวสะบัดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าของเขาเต็มแรง

                “เผลียะ”

                “เฮ้ย.นี่ตบหน้าผมทำไม กล้าดียังไงมาตบหน้าฉันยัยบ้า”

                “นายนั่นแหละไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ เมาแล้วยังไม่สำนึกทำให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อน คนอย่างนายมันต้องเข้าไปนอนในคุกให้เข็ด”

                “เธอนั่นแหละที่ต้องชดใช้ เธอตบหน้าฉัน กล้าตบก็กล้าจูบเหมือนกัน”

                จบคำพูดของเขามาธวีไม่ทันระวังและไม่คิดว่าไอ้ขี้เมาตรงหน้าจะกล้าทำกับหล่อนได้เช่นนี้ ร่างบางถูกกระชากเข้ามาหาอกกว้างและจมูกโด่งเป็นสันสวยของสกรรจ์ก็ฉกหมับเข้าที่แก้มนวลเนียนอย่างรวดเร็วเขาไม่หยุดเพียงจูบครั้งแรกเขาพรมจูบไปทั่วใบหน้าหอมกรุ่นของหล่อน ไทยมุงที่เข้ามาดูเหตุการณ์ถึงกับอ้าปากค้างพูดไม่ออก มาธวีวี้ดร้องเสียงแหลมด้วยความตกใจและโกรธระคนกันหล่อนผลักไสพัลวันมือฟาดสะเปะสะปะข่วนหน้าเกลี้ยงเข้มของเขาแบบไม่ยั้ง

                “ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ ไอ้เลว”

                หล่อนสบถไม่ยั้งเช่นกัน เสียงเขาหัวเราะอย่างเห็นขำแข่งกับเสียงของหล่อนสกรรจ์ดื่มมาก็จริงแต่เขายังควบคุมสติได้และรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่เขาขับรถเสียหลักเข้าไปชนท้ายรถของหญิงสาวที่กำลังแผดเสียงด่าทอเขาอยู่ขณะนี้เพราะรถมอเตอร์ไซค์เลี้ยวตัดหน้ากะทันหันเขาหักหลบโดยไม่คิดว่าจะพุ่งเข้าไปชนท้ายรถเก๋งคันหรูของผู้หญิงที่หอมละมุนชื่นหัวใจคนนี้ เขายิ้มพอใจเงียบๆ

                “เอ้า ด่าเข้าไปหน้าตาก็สวยท่าทางเป็นผู้ดีแต่ปากคมยังกับกรรไกรโรงพยาบาล”

                “ไอ้ทุเรศ ไอ้สารเลว ไอ้บ้ากาม ทำกับฉันอย่างนี้แล้วยังจะมีหน้ามาว่าฉันอีกเหรอถ้าวันนี้ฉันไม่เอานายเข้าคุกก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่ามาธวี”

                “อ้อ. ชื่อมาธวีเหรอ ชื่อเพราะดีนะแต่ปากจัดขนาดนี้คงหาสามียากหรือว่ามีแล้วล่ะแต่ไม่น่ามีนะท่าทางยังกับเสือหวงลูก”

                “ไม่ต้องมาวิจารณ์ฉัน ลงมาเดี๋ยวนี้ คุณตำรวจคะจับมันเลย มันลวนลามฉันมันชนท้ายรถฉันค่ะคุณตำรวจ มันเมาด้วยค่ะ”

                มาธวีหันมาเห็นนายตำรวจเข้าพอดีหล่อนจารนัยเป็นชุด ฉกรรจ์ยิ้มขำๆ เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนร้ายกาจเท่าหล่อนมาก่อน ปลายคางรู้สึกเจ็บแปลบเพราะเล็บของเจ้าหล่อน

                เขาก้าวออกมายืนเต็มความสูง รูปร่างหน้าตาของเขาจัดว่าเป็นชายหนุ่มมาดแมนหน้าตาดีคนหนึ่งแต่หล่อนไม่สนใจว่าเขาจะหน้าตาเป็นอย่างไรในตอนนี้ความโกรธทำให้หล่อนมองเขาเป็นศัตรูคู่อาฆาตไปแล้ว

                “นี่คุณเมาด้วยเหรอ ถ้าอย่างนั้นเชิญที่โรงพักดีกว่าเชิญครับคุณผู้หญิงด้วย”

                นายตำรวจเชิญทั้งสองคนแต่มาธวีปฏิเสธ

                “ยังค่ะ รอประกันมาดูรถก่อนถ้ายังไงคุณตำรวจเอาตัวหมอนี่ไปก่อนนะคะเดี๋ยวฉันตามไปค่ะ”

                “นี่คุณเรียกผมให้ดีๆ หน่อย ผมไม่ใช่หมอแล้วก็ไม่ใช่มันอย่างที่คุณแผดเสียงแจ๋นๆด่าหรอกนะผมมีชื่อมีสกุล ถ้าคุณไม่ไปผมก็ไม่ไปผมจะรอประกันด้วย คุณตำรวจครับคุยตรงนี้ก็ได้ ผมยอมรับว่าผมดื่มมาแต่ไม่เกินเกณฑ์แน่นอนไม่เชื่อเอาเครื่องวัดมาวัดได้เลยครับที่ผมเสียหลักชนท้ายยัยนี่เพราะรถมอเตอร์ไซค์เลี้ยวตัดหน้าครับถามคนแถวนี้ดูได้”

                สกรรจ์บอกกับนายตำรวจตามความเป็นจริง ตำรวจมีสีหน้าไม่เชื่อเขานักแต่แม่ค้าที่อยู่ใกล้เหตุการณ์และเห็นเสี้ยววินาทีระทึกขวัญเอ่ยยืนยันตำรวจจึงเชื่อ

                “จริงๆค่ะจ่า ฉันกำลังตักขนมอยู่ได้ยินเสียงรถเบรกดังผิดปกติก็เหลียวมาดูไอ้รถมอเตอร์ไซค์วัยรุ่นมันขับผ่านแวบไปรถคุณคนนี้พุ่งเข้าไปชนรถคุณผู้หญิงนั่นแหละค่ะ”

                “จริงครับจ่า ผมก็เห็นผมกำลังจะข้ามถนนตรงโน้นครับ”

                “เอาล่ะๆ ผมเชื่อ ทีนี้เหลือแต่ตรวจแอลกอฮอร์เชิญทางโน้นครับ”

                นายตำรวจยศจ่าตรีเดินนำสกรรจ์ไปที่รถตำรวจเขาตามไปเงียบๆ แต่ไม่ลืมหันมายิ้มเย้ยหยันหญิงสาวที่ยืนหน้าบูดบึ้งดังยักษ์วัดโพธิ์อยู่ไม่ห่างนักหล่อนแยกเขี้ยวเงื้อมือกำหมัดแน่น เขาหัวเราะแล้วยักคิ้วยั่ว

                “ตามมาสิถ้าอยากรู้ว่าผมเมาหรือไม่เมา”

                เขาท้าหล่อนแล้วก็ได้ผลหล่อนก้าวยาวๆ ตามไปแต่ไม่เข้ามาใกล้เขาหล่อนยืนข้างนายตำรวจที่ใช้เครื่องตรวจระดับแอลกอฮอร์ในตัวเขาไม่ถึงนาทีผลก็ออกมาว่าแอลกอฮอร์ที่สกรรจ์ดื่มเข้าไปมีไม่ถึงเกณฑ์ที่ตำรวจต้องจับ เขาดื่มเบียร์กับเพื่อนมาเพียงแก้วเดียวเพราะต้องไปธุระต่อ

                เขาเพิ่งหย่าขาดจากภรรยาที่ทำตัวเป็นหญิงชั่วคบชู้โดยไม่เกรงใจเขาสักนิดหล่อนไม่ได้รักเขาหล่อนรักเพียงคราบภายนอกของเขาเมื่อหล่อนรู้ว่าเขากำลังพลาดทางด้านธุรกิจทางธนาคารฟ้องศาลเพื่อยึดทรัพย์สมบัติของเขาทุกชิ้นแม้แต่บ้านที่เขากับหล่อนอยู่ หล่อนจึงหาผู้ชายคนใหม่เพื่อยึดเกาะเป็นหลักไว้พึ่งพิงเขาโกรธหล่อนแต่เมื่อคิดอีกทีหล่อนก็ต้องหาหลักประกันให้กับชีวิต เขาจึงยอมเซ็นใบหย่าให้หล่อนโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ

                หลังจากหย่าได้ 2 วันเขาติดต่อกับเพื่อนเพื่อทำธุรกิจต่อเพื่อนนัดเจอวันนี้และอาจเป็นข่าวดีของเขาแต่ต้องมาชะงักเพราะรถมอเตอร์ไซค์คันนั้นและผู้หญิงปากจัดคนนี้ เขาจ้องหน้าหล่อนรอยยิ้มยั่วปรากฏในดวงตาคู่คมของเขายิ่งเพิ่มความโกรธให้กับหล่อนมากยิ่งขึ้น

                “ไงล่ะคุณผิดหวังมากมั้ยผมไม่ถูกจับเรื่องเมาแล้วนะส่วนเรื่องรถของคุณให้ประกันจัดการผมขอตัว ขอบคุณครับคุณจ่า”

                “ไม่ได้นายยังไปไหนไม่ได้คืนนี้นายต้องนอนในคุกจ่าคะ นายนี่มันลวนลามฉันค่ะจับเลยค่ะ”

                “นี่คุณ พูดจาให้มันน่าฟังหน่อยนะผมคนนะครับไม่ใช่มันแล้วก็เรื่องลวนลามอีกผมไม่ได้ลวนลามคุณแต่คุณทำร้ายร่างกายผมก่อนถ้าจะจับจ่าต้องจับคุณในข้อหาทำร้ายร่างกายด้วย นี่ครับจ่ารอยเล็บข่วนจนเลือดซิบที่แก้มผมเป็นรอยห้านิ้วใช่มั้ยครับจับเลยครับ”               

                “อ๊าย ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ”

                หล่อนร้องด่าต่อหน้านายตำรวจเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรกับผู้ชายคนนี้ดี

                “นี่ไงครับจ่า อีกข้อหาด่าผมครับทำร้ายจิตใจกันครับจ่าจับเลยครับ”

                “ไอ้..”

                “เอาล่ะครับๆ คุณผู้หญิงหยุดก่อนมาคุยเรื่องรถของคุณดีกว่าจะเอายังไง”

                “ให้ประกันจัดการดีแล้วล่ะครับจ่า ผมลาก่อนนะครับมีธุระด่วนไปนะคุณถ้ายังไม่หายโกรธตามไปด่าผมที่บ้านได้เลย นี่นามบัตรผม ไปนะครับคุณมาธวีที่รัก แก้มคุณหอมมากรู้มั้ยครับไปล่ะ”

                เขายื่นนามบัตรให้หล่อนแต่หล่อนไม่รับเขาจึงจับมือหล่อนขึ้นมาแล้ววางนามบัตรใส่มือของหล่อนก่อนจะเดินผิวปากออกไป หล่อนขว้างนามบัตรใส่เขาแต่เขาไม่สนใจและไม่โกรธกลับหัวเราะเสียงดังกว่าเดิม

                “ไอ้บ้า ฉันจะเอานายเข้าคุก จ่าคะจับนายนั่นยังไงฉันไม่ยอมค่ะเขาชนรถฉัน ฉันต้องการเอาเรื่องเขาค่ะจ่า”

                “ได้ครับ”

                จ่าทำตามหน้าที่อย่างแข็งขัน มาธวียิ้มอย่างพอใจแต่สกรรจ์ไม่อยู่ให้หล่อนได้เอาคืนเพราะเขาเรียกแท็กซี่ออกไปแล้ว หล่อนได้แต่กระทืบเท้าอย่างขัดใจ

                “ผมว่าคุณเอานามบัตรมาให้ผมดีกว่าผมจะตามตัวเขามาโรงพัก”

                คำขอของจ่าทำให้หญิงสาวคิดถึงนามบัตรหล่อนขว้างใส่เขาบนสถานีตำรวจคงตกอยู่ที่นั่นหล่อนจึงต้องกลับไปเอานามบัตรของเขาทั้งที่ไม่อยากแม้แต่จะหยิบให้ระคายมือ

                “นายสกรรจ์ อัครากุล  ประธานกรรมการบริษัทเพียวรี่ เบอร์โทรศัพท์…”

                จ่าอ่านชื่อนามสกุลของสกรรจ์เสียงชัดเจน มาธวีไม่สนใจเท่าไรนักแต่ประโยคต่อมาทำให้หล่อนต้องหันมามอง

                “ประธานกรรมการบริษัทเพียวรี่เหรอคะ ไหนขอดูสิคะ”

                หล่อนขอดูนามบัตรด้วยตัวเองและสายตาของหล่อนก็ไม่ได้โกหก บริษัทเพียวรี่ทำเกี่ยวกับน้ำดื่มแต่กำลังจะถูกปิดหล่อนรู้ข่าวนี้จากเพื่อนรักของหล่อนที่เข้าไปทำงานในนั้น สกรรจ์ถูกภรรยาทรยศคบชู้จนกระทั่งหย่าขาดกันไปเมื่อเร็วๆนี้และสกรรจ์ต้องรับภาระหนักด้วยเงินที่ภรรยาเก่านำไปใช้และมีหนี้สินเกือบ 100 ล้าน

                “คุณรู้จักเหรอครับ”

                “เคยได้ยินชื่อค่ะจ่า จ่าคะฉันไม่เอาเรื่องเขาแล้วค่ะขอบคุณนะคะที่จ่าช่วยเหลือฉันค่ะ”

                “ไม่เป็นไรครับแล้วเรื่องประกันล่ะครับ”

                “เดี๋ยวฉันคุยกับเขาเองค่ะขอบคุณค่ะ ลาละค่ะ”

                หล่อนยกมือไหว้จ่าแล้วเดินลงบันไดไปอย่างรวดเร็วเหมือนที่หล่อนมาเร็วโกรธเร็วและตอนนี้อารมณ์โกรธหยุดเร็วเช่นกัน

 

******


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (70 รายการ)

www.batorastore.com © 2024