วายร้ายไวรัก + สาวน้อยตัวแสบ (สุชีรา)
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )
เนื้อหาบางส่วน
วายร้ายไวรัก
อุบัติเหตุทำให้เขากับหล่อนพบกันและเป็นการพบแบบ
ศัตรูคู่อาฆาตแต่สุดท้ายไปๆ มาๆ เขาก็รักหล่อนจนถอนตัวไม่ขึ้น…
ด้วยรัก
สุชีรา
1…
“ไอ้บ้า ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ไอ้ทุเรศ ไอ้หมา ไอ้บ้า..”
หญิงสาวหาคำด่าเจ็บแสบได้เพียงเท่านี้เพราะหล่อนไม่เคยด่าใครเมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้จึงทำได้เต็มที่แค่นี้แต่คำผรุสวาทเหล่านี้ไม่ทำให้หล่อนหายโกรธ ฝ่ามือที่มีพลังไม่เบาสะบัดเผลียะลงบนใบหน้าทั้งสองข้างของชายหนุ่มตรงหน้า กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั่วทั้งรถ
หล่อนไม่รู้ว่าเขาเป็นใครแต่ที่หล่อนรู้ในขณะนี้หล่อนอยากฆ่าเขาให้ตายคามือ เขาบังอาจปล้ำจูบหล่อนทั้งที่เขาเป็นฝ่ายผิด หล่อนจอดรถแอบเข้าข้างทางแล้วแต่เขายังขับรถเข้ามาชนท้าย รถเก๋งคันหรูราคาเหยียบล้านของหล่อนพังไปทั้งแถบจะไม่ให้หล่อนโกรธได้อย่างไร
มาธวีขับรถออกมาจากบ้านเพื่อซื้อของใช้ที่ซุปเปอร์มาเก็ตขณะขับรถเข้าจอดข้างทางรถเก๋งอีกคันก็แล่นเข้ามาชนท้ายรถดังสนั่นหล่อนตกใจอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูกไปชั่วครู่
เมื่อตั้งสติได้ความโกรธแล่นเป็นริ้วๆ ขึ้นมาทันทีหล่อนเปิดประตูรถก้าวลงไปอย่างรวดเร็วและพอเห็นสภาพท้ายรถตาไฟด้านข้างขวาแตกละเอียดท้ายยุบเข้าไปเกินฟุตยิ่งเพิ่มความโกรธเป็นทวีคูณ หล่อนก้าวยาวๆ ไปที่รถต้นเหตุ คนในรถยังนั่งหลับตาสบายใจหล่อนเคาะกระจกดังว่ามันจะแตกออกเป็นเสี่ยง
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้ เปิดประตูลงมาคุยให้รู้เรื่อง ฉันจอดรถแล้วตาไม่มองรึไง ขับรถประสาอะไร เปิดประตูเดี๋ยวนี้”
ชายหนุ่มผลักประตูออกกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งลอยออกมาด้วย มาธวีถึงกับผงะ นี่คู่กรณีของหล่อนเป็นไอ้ขี้เมาอย่างนั้นหรือ สติที่เกือบจะแตกพลันระเบิดออกมาทันที
“เมาแล้วยังขับรถอีกทุเรศสิ้นดีเลย นายรู้มั้ยว่านายทำอะไรลงไป เห็นมั้ยเห็นรถฉันมั้ยเป็นยังไง เพราะความเมาของนาย นายต้องชดใช้กับความทุเรศของนาย ลงมาเดี๋ยวนี้เลย”
หล่อนดึงแขนเขาเพื่อให้เขาลงจากรถแต่เขาสะบัดมือออกแล้วเรอใส่หน้าหล่อน ความโกรธและขยะแขยงทำให้มาธวีลืมตัวสะบัดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าของเขาเต็มแรง
“เผลียะ”
“เฮ้ย.นี่ตบหน้าผมทำไม กล้าดียังไงมาตบหน้าฉันยัยบ้า”
“นายนั่นแหละไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ เมาแล้วยังไม่สำนึกทำให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อน คนอย่างนายมันต้องเข้าไปนอนในคุกให้เข็ด”
“เธอนั่นแหละที่ต้องชดใช้ เธอตบหน้าฉัน กล้าตบก็กล้าจูบเหมือนกัน”
จบคำพูดของเขามาธวีไม่ทันระวังและไม่คิดว่าไอ้ขี้เมาตรงหน้าจะกล้าทำกับหล่อนได้เช่นนี้ ร่างบางถูกกระชากเข้ามาหาอกกว้างและจมูกโด่งเป็นสันสวยของสกรรจ์ก็ฉกหมับเข้าที่แก้มนวลเนียนอย่างรวดเร็วเขาไม่หยุดเพียงจูบครั้งแรกเขาพรมจูบไปทั่วใบหน้าหอมกรุ่นของหล่อน ไทยมุงที่เข้ามาดูเหตุการณ์ถึงกับอ้าปากค้างพูดไม่ออก มาธวีวี้ดร้องเสียงแหลมด้วยความตกใจและโกรธระคนกันหล่อนผลักไสพัลวันมือฟาดสะเปะสะปะข่วนหน้าเกลี้ยงเข้มของเขาแบบไม่ยั้ง
“ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ ไอ้เลว”
หล่อนสบถไม่ยั้งเช่นกัน เสียงเขาหัวเราะอย่างเห็นขำแข่งกับเสียงของหล่อนสกรรจ์ดื่มมาก็จริงแต่เขายังควบคุมสติได้และรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่เขาขับรถเสียหลักเข้าไปชนท้ายรถของหญิงสาวที่กำลังแผดเสียงด่าทอเขาอยู่ขณะนี้เพราะรถมอเตอร์ไซค์เลี้ยวตัดหน้ากะทันหันเขาหักหลบโดยไม่คิดว่าจะพุ่งเข้าไปชนท้ายรถเก๋งคันหรูของผู้หญิงที่หอมละมุนชื่นหัวใจคนนี้ เขายิ้มพอใจเงียบๆ
“เอ้า ด่าเข้าไปหน้าตาก็สวยท่าทางเป็นผู้ดีแต่ปากคมยังกับกรรไกรโรงพยาบาล”
“ไอ้ทุเรศ ไอ้สารเลว ไอ้บ้ากาม ทำกับฉันอย่างนี้แล้วยังจะมีหน้ามาว่าฉันอีกเหรอถ้าวันนี้ฉันไม่เอานายเข้าคุกก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่ามาธวี”
“อ้อ. ชื่อมาธวีเหรอ ชื่อเพราะดีนะแต่ปากจัดขนาดนี้คงหาสามียากหรือว่ามีแล้วล่ะแต่ไม่น่ามีนะท่าทางยังกับเสือหวงลูก”
“ไม่ต้องมาวิจารณ์ฉัน ลงมาเดี๋ยวนี้ คุณตำรวจคะจับมันเลย มันลวนลามฉันมันชนท้ายรถฉันค่ะคุณตำรวจ มันเมาด้วยค่ะ”
มาธวีหันมาเห็นนายตำรวจเข้าพอดีหล่อนจารนัยเป็นชุด ฉกรรจ์ยิ้มขำๆ เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนร้ายกาจเท่าหล่อนมาก่อน ปลายคางรู้สึกเจ็บแปลบเพราะเล็บของเจ้าหล่อน
เขาก้าวออกมายืนเต็มความสูง รูปร่างหน้าตาของเขาจัดว่าเป็นชายหนุ่มมาดแมนหน้าตาดีคนหนึ่งแต่หล่อนไม่สนใจว่าเขาจะหน้าตาเป็นอย่างไรในตอนนี้ความโกรธทำให้หล่อนมองเขาเป็นศัตรูคู่อาฆาตไปแล้ว
“นี่คุณเมาด้วยเหรอ ถ้าอย่างนั้นเชิญที่โรงพักดีกว่าเชิญครับคุณผู้หญิงด้วย”
นายตำรวจเชิญทั้งสองคนแต่มาธวีปฏิเสธ
“ยังค่ะ รอประกันมาดูรถก่อนถ้ายังไงคุณตำรวจเอาตัวหมอนี่ไปก่อนนะคะเดี๋ยวฉันตามไปค่ะ”
“นี่คุณเรียกผมให้ดีๆ หน่อย ผมไม่ใช่หมอแล้วก็ไม่ใช่มันอย่างที่คุณแผดเสียงแจ๋นๆด่าหรอกนะผมมีชื่อมีสกุล ถ้าคุณไม่ไปผมก็ไม่ไปผมจะรอประกันด้วย คุณตำรวจครับคุยตรงนี้ก็ได้ ผมยอมรับว่าผมดื่มมาแต่ไม่เกินเกณฑ์แน่นอนไม่เชื่อเอาเครื่องวัดมาวัดได้เลยครับที่ผมเสียหลักชนท้ายยัยนี่เพราะรถมอเตอร์ไซค์เลี้ยวตัดหน้าครับถามคนแถวนี้ดูได้”
สกรรจ์บอกกับนายตำรวจตามความเป็นจริง ตำรวจมีสีหน้าไม่เชื่อเขานักแต่แม่ค้าที่อยู่ใกล้เหตุการณ์และเห็นเสี้ยววินาทีระทึกขวัญเอ่ยยืนยันตำรวจจึงเชื่อ
“จริงๆค่ะจ่า ฉันกำลังตักขนมอยู่ได้ยินเสียงรถเบรกดังผิดปกติก็เหลียวมาดูไอ้รถมอเตอร์ไซค์วัยรุ่นมันขับผ่านแวบไปรถคุณคนนี้พุ่งเข้าไปชนรถคุณผู้หญิงนั่นแหละค่ะ”
“จริงครับจ่า ผมก็เห็นผมกำลังจะข้ามถนนตรงโน้นครับ”
“เอาล่ะๆ ผมเชื่อ ทีนี้เหลือแต่ตรวจแอลกอฮอร์เชิญทางโน้นครับ”
นายตำรวจยศจ่าตรีเดินนำสกรรจ์ไปที่รถตำรวจเขาตามไปเงียบๆ แต่ไม่ลืมหันมายิ้มเย้ยหยันหญิงสาวที่ยืนหน้าบูดบึ้งดังยักษ์วัดโพธิ์อยู่ไม่ห่างนักหล่อนแยกเขี้ยวเงื้อมือกำหมัดแน่น เขาหัวเราะแล้วยักคิ้วยั่ว
“ตามมาสิถ้าอยากรู้ว่าผมเมาหรือไม่เมา”
เขาท้าหล่อนแล้วก็ได้ผลหล่อนก้าวยาวๆ ตามไปแต่ไม่เข้ามาใกล้เขาหล่อนยืนข้างนายตำรวจที่ใช้เครื่องตรวจระดับแอลกอฮอร์ในตัวเขาไม่ถึงนาทีผลก็ออกมาว่าแอลกอฮอร์ที่สกรรจ์ดื่มเข้าไปมีไม่ถึงเกณฑ์ที่ตำรวจต้องจับ เขาดื่มเบียร์กับเพื่อนมาเพียงแก้วเดียวเพราะต้องไปธุระต่อ
เขาเพิ่งหย่าขาดจากภรรยาที่ทำตัวเป็นหญิงชั่วคบชู้โดยไม่เกรงใจเขาสักนิดหล่อนไม่ได้รักเขาหล่อนรักเพียงคราบภายนอกของเขาเมื่อหล่อนรู้ว่าเขากำลังพลาดทางด้านธุรกิจทางธนาคารฟ้องศาลเพื่อยึดทรัพย์สมบัติของเขาทุกชิ้นแม้แต่บ้านที่เขากับหล่อนอยู่ หล่อนจึงหาผู้ชายคนใหม่เพื่อยึดเกาะเป็นหลักไว้พึ่งพิงเขาโกรธหล่อนแต่เมื่อคิดอีกทีหล่อนก็ต้องหาหลักประกันให้กับชีวิต เขาจึงยอมเซ็นใบหย่าให้หล่อนโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ
หลังจากหย่าได้ 2 วันเขาติดต่อกับเพื่อนเพื่อทำธุรกิจต่อเพื่อนนัดเจอวันนี้และอาจเป็นข่าวดีของเขาแต่ต้องมาชะงักเพราะรถมอเตอร์ไซค์คันนั้นและผู้หญิงปากจัดคนนี้ เขาจ้องหน้าหล่อนรอยยิ้มยั่วปรากฏในดวงตาคู่คมของเขายิ่งเพิ่มความโกรธให้กับหล่อนมากยิ่งขึ้น
“ไงล่ะคุณผิดหวังมากมั้ยผมไม่ถูกจับเรื่องเมาแล้วนะส่วนเรื่องรถของคุณให้ประกันจัดการผมขอตัว ขอบคุณครับคุณจ่า”
“ไม่ได้นายยังไปไหนไม่ได้คืนนี้นายต้องนอนในคุกจ่าคะ นายนี่มันลวนลามฉันค่ะจับเลยค่ะ”
“นี่คุณ พูดจาให้มันน่าฟังหน่อยนะผมคนนะครับไม่ใช่มันแล้วก็เรื่องลวนลามอีกผมไม่ได้ลวนลามคุณแต่คุณทำร้ายร่างกายผมก่อนถ้าจะจับจ่าต้องจับคุณในข้อหาทำร้ายร่างกายด้วย นี่ครับจ่ารอยเล็บข่วนจนเลือดซิบที่แก้มผมเป็นรอยห้านิ้วใช่มั้ยครับจับเลยครับ”
“อ๊าย ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ”
หล่อนร้องด่าต่อหน้านายตำรวจเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรกับผู้ชายคนนี้ดี
“นี่ไงครับจ่า อีกข้อหาด่าผมครับทำร้ายจิตใจกันครับจ่าจับเลยครับ”
“ไอ้..”
“เอาล่ะครับๆ คุณผู้หญิงหยุดก่อนมาคุยเรื่องรถของคุณดีกว่าจะเอายังไง”
“ให้ประกันจัดการดีแล้วล่ะครับจ่า ผมลาก่อนนะครับมีธุระด่วนไปนะคุณถ้ายังไม่หายโกรธตามไปด่าผมที่บ้านได้เลย นี่นามบัตรผม ไปนะครับคุณมาธวีที่รัก แก้มคุณหอมมากรู้มั้ยครับไปล่ะ”
เขายื่นนามบัตรให้หล่อนแต่หล่อนไม่รับเขาจึงจับมือหล่อนขึ้นมาแล้ววางนามบัตรใส่มือของหล่อนก่อนจะเดินผิวปากออกไป หล่อนขว้างนามบัตรใส่เขาแต่เขาไม่สนใจและไม่โกรธกลับหัวเราะเสียงดังกว่าเดิม
“ไอ้บ้า ฉันจะเอานายเข้าคุก จ่าคะจับนายนั่นยังไงฉันไม่ยอมค่ะเขาชนรถฉัน ฉันต้องการเอาเรื่องเขาค่ะจ่า”
“ได้ครับ”
จ่าทำตามหน้าที่อย่างแข็งขัน มาธวียิ้มอย่างพอใจแต่สกรรจ์ไม่อยู่ให้หล่อนได้เอาคืนเพราะเขาเรียกแท็กซี่ออกไปแล้ว หล่อนได้แต่กระทืบเท้าอย่างขัดใจ
“ผมว่าคุณเอานามบัตรมาให้ผมดีกว่าผมจะตามตัวเขามาโรงพัก”
คำขอของจ่าทำให้หญิงสาวคิดถึงนามบัตรหล่อนขว้างใส่เขาบนสถานีตำรวจคงตกอยู่ที่นั่นหล่อนจึงต้องกลับไปเอานามบัตรของเขาทั้งที่ไม่อยากแม้แต่จะหยิบให้ระคายมือ
“นายสกรรจ์ อัครากุล ประธานกรรมการบริษัทเพียวรี่ เบอร์โทรศัพท์…”
จ่าอ่านชื่อนามสกุลของสกรรจ์เสียงชัดเจน มาธวีไม่สนใจเท่าไรนักแต่ประโยคต่อมาทำให้หล่อนต้องหันมามอง
“ประธานกรรมการบริษัทเพียวรี่เหรอคะ ไหนขอดูสิคะ”
หล่อนขอดูนามบัตรด้วยตัวเองและสายตาของหล่อนก็ไม่ได้โกหก บริษัทเพียวรี่ทำเกี่ยวกับน้ำดื่มแต่กำลังจะถูกปิดหล่อนรู้ข่าวนี้จากเพื่อนรักของหล่อนที่เข้าไปทำงานในนั้น สกรรจ์ถูกภรรยาทรยศคบชู้จนกระทั่งหย่าขาดกันไปเมื่อเร็วๆนี้และสกรรจ์ต้องรับภาระหนักด้วยเงินที่ภรรยาเก่านำไปใช้และมีหนี้สินเกือบ 100 ล้าน
“คุณรู้จักเหรอครับ”
“เคยได้ยินชื่อค่ะจ่า จ่าคะฉันไม่เอาเรื่องเขาแล้วค่ะขอบคุณนะคะที่จ่าช่วยเหลือฉันค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับแล้วเรื่องประกันล่ะครับ”
“เดี๋ยวฉันคุยกับเขาเองค่ะขอบคุณค่ะ ลาละค่ะ”
หล่อนยกมือไหว้จ่าแล้วเดินลงบันไดไปอย่างรวดเร็วเหมือนที่หล่อนมาเร็วโกรธเร็วและตอนนี้อารมณ์โกรธหยุดเร็วเช่นกัน
******