ไพลินล้อมรัก (เฌอมาลี)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: ไพลินล้อมรัก
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 289.00 บาท 72.25 บาท
ประหยัด: 216.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทที่ 1

ห่อหมกใบยอ

"Now i know my ABC Next time won't you sing with me"   เสียงของเด็กเล็กๆ กำลังร้องเพลงพยัญชนะภาษาอังกฤษอย่างสนุกสนานกังวานไปทั่วห้องเรียนที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาป่าไม้อันแสนร่มรื่นของจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศไทย

"เก่งมากค่ะเด็กๆ" เสียงใสฟังดูใจดีดังมาจากหญิงสาววัย 20 ต้นๆ ผิวสีน้ำผึ้ง ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตประดับด้วยขนตาดกหนาเป็นแพ จมูกโด่งสวย ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อ รูปร่างเล็กแต่ก็สมส่วนอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสามส่วนพอดีตัว ชายเสื้อสอดอยู่ในกระโปรงทรงเอความยาวเลยเข่า คาดด้วยเข็มขัดเส้นเล็กๆสีดำ ดูเรียบร้อยเหมาะสมกับอาชีพ

"วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ "

"ค่ะ/ครับ คุณครู " เด็กๆขานรับ จากนั้นหัวหน้าห้องก็บอกให้เด็กนักเรียนทำความเคารพคุณครูก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน หลังจากที่เด็กนักเรียนได้ออกจากห้องไปแล้ว ครูเพลิน หรือ ไพลิน เพียงโสภา คุณครูสาวแห่งโรงเรียนบ้านโปร่งมะเขือก็ได้เก็บอุปกรณ์การเรียนการสอนเพื่อที่จะได้เตรียมตัวกลับบ้านพักเช่นเดียวกัน

หลังจากออกมาจากห้องพักครู ไพลินก็เดินตรงไปยังรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจที่จอดอยู่ไม่ไกลจากอาคารเรียนเพื่อขับกลับบ้าน แต่ขณะที่กำลังจะสตาร์ทเครื่องนั้นก็มีเสียงเรียกมาจากทางด้านหลัง

"คุณครูเพลินครับ คุณครูเพลิน"

"คะ ลุงชุ่ม " ไพลินขานรับชายสูงอายุที่กำลังวิ่งกระหืดกระหอบตรงมายังเธอ

"โอ้ยผมคิดว่าจะมาไม่ทันคุณครูแล้วครับ พอดีว่าแม่เลี้ยงท่านให้มาเชิญคุณครูไปทานข้าวเย็นด้วยนะครับ "

"เอ่อ"  ไพลินอยากจะตอบปฏิเสธนักเพราะเธอรู้สึกเกรงใจ ส่วนนายชุ่มเมื่อเห็นคุณครูคนสวยท่าทางอึกอักก็รีบพูดขึ้นมา  

"คุณครูอย่าปฏิเสธเลยครับ นี่แม่เลี้ยงก็กำชับนักกำชับหนาว่าต้องให้ผมพาคุณครูกลับไปด้วยให้ได้"

"ถ้างั้นก็ค่ะ เดี๋ยวเพลินขี่มอเตอร์ไซต์ตามไปนะคะ"

"ครับๆ" จากนั้นไพลินก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตามนายชุ่มที่กำลังขับรถกระบะสองตอนคันเก่ากลับไปยังไร่ล้อมรัก โชคดีที่โรงเรียนอยู่ไม่ห่างจากไร่ล้อมรักมากนัก จึงใช้เวลาไม่นานก็ถึงที่หมาย

 

ทันทีที่เดินขึ้นมาบนเรือนไม้สักหลังใหญ่ก็ได้ยินเสียงทักจากหญิงสูงอายุใจดี

"มาแล้วหรอจ๊ะหนูเพลิน" แม่เลี้ยงกลิ่นแก้วทักขึ้นเมื่อเห็นคุณครูคนสวยเดินขึ้นมาบนบ้าน

"สวัสดีค่ะคุณป้า" ไพลินทักกลับเสียงใสพร้อมกับยกมือไหว้หญิงสูงวัยที่ยังดูงดงาม แม่เลี้ยงกลิ่นแก้วได้ขอให้เธอเรียกว่าป้า แทนที่จะเรียกว่าแม่เลี้ยงเหมือนคนอื่นๆ โดยท่านได้บอกว่าท่านรู้สึกเอ็นดูเธอเหมือนลูกเหมือนหลาน

"จ้ะ หนูเพลินมานั่งนี่ก่อนมา ยายนวลกำลังทำกับข้าวอยู่เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว"

"ขอบคุณนะคะที่เชิญเพลินมาทานอาหารเย็นด้วย"

"คงต้องไปขอบคุณอีกคนนึงแล้วล่ะ เขาจำได้ว่าหนูเพลินชอบห่อหมกใบยอ พอเขารู้ว่าวันนี้ยายนวลทำห่อหมกใบยอ ก็รีบบอกให้ป้าชวนหนูเพลินมาทานข้าวด้วยกัน" แม่เลี้ยงกลิ่นแก้วพูดหยอกเย้าอย่างอารมณ์ดี  ไพลินขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าใครกันนะ

"ใครหรอคะ" ยังไม่ทันได้คำตอบก็ได้ยินเสียงกระแอมกระไอดังมาจากมุมห้อง พอหันไปก็สบตากับประกายตาอันแรงกล้าของดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่คมที่กำลังจ้องมาทางเธอไม่กะพริบ จนต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเสียเอง

"สวัสดีค่ะคุณเหม" ไพลินยกมือไหว้ชายสูงวัยกว่า เหมราชยกมือขึ้นรับไหว้คนตัวเล็กก่อนจะยกยิ้มมุมปาก เขาเห็นว่าเธอสะดุ้งเล็กน้อยตอนที่หันมาเห็นว่าเขานั่งอยู่ตรงมุมห้อง ไม่รู้จะกลัวอะไรเขานักหนาทำอย่างกับเขาเป็นยักษ์เป็นมาร

"หนูเพลินไม่ต้องไปสนใจหรอกจ้ะว่าใคร" แม่เลี้ยงกลิ่นแก้วพูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มๆ เมื่อหันไปเห็นใครคนนั้นทำเสียงกระแอมกระไอขัดขึ้นมา

เหมราช ศักดิวัฒน์โยธา หรือ พ่อเลี้ยงเหมราช เป็นบุตรชายของแม่เลี้ยงกลิ่นแก้วและพ่อเลี้ยงเขมทัต แต่เนื่องจากพ่อเลี้ยงเขมทัตผู้เป็นบิดาได้เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน คนงานและผู้คนทั่วไปจึงเรียกเขาว่าพ่อเลี้ยงเหมแทน เหมราชเป็นหนุ่มใหญ่ภูมิฐานอายุ 39 ปี บุคลิกภาพดี ดูเหมาะที่จะใส่สูทผูกไทมากกว่ามาอยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพรเช่นนี้ ชายหนุ่มมีผิวสีแทน จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาที่รายล้อมไปด้วยแพขนตาดกหนาเป็นสีน้ำตาลเข้ม เช่นเดียวกับสีของเส้นผมที่หยักศก อกผายไหล่ผึ่ง ร่างกายกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้าม รูปร่างสูงใหญ่ ด้วยหน้าตาและส่วนสูงเกือบ 190 เซนติเมตร   จึงทำให้ชายหนุ่มดูโดดเด่นและแตกต่างจากชายไทยทั่วไป อาจจะเป็นเพราะคุณปู่ทวดเป็นชาวฝรั่งเศสที่ได้มาพบรักกับสาวไทย จึงทำให้เขาได้รูปร่างใหญ่โตและโครงหน้าสะดุดตาที่มีส่วนผสมของต่างชาติมาจากทางบรรพบุรุษ และด้วยทั้งหน้าตา ฐานะรวมถึงชาติตระกูลนี่เอง จึงทำให้เหมราชเป็นที่หมายปองของสาวๆทั่วเมือง

ชายหนุ่มเคยแต่งงานมาแล้วเมื่อเกือบสิบปีก่อน แต่ก็ได้แยกทางกันไปตั้งแต่อยู่กินกันได้ไม่ถึง 2 ปี เนื่องจาก       พิมาลาภรรยาเก่าของเหมราชที่คบกันมาตั้งแต่ตอนไปเรียนต่อปริญญาตรีและโทที่ประเทศสหรัฐอเมริกาชอบที่จะอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันมากกว่าที่จะมาอยู่ที่ไร่ล้อมรักแห่งนี้ และด้วยไลฟ์สไตล์ที่ไม่ตรงกันนี่เองจึงทำให้ทั้งคู่ต้องแยกทางกันไป

"วันนี้สอนหนังสือเป็นยังไงบ้างจ๊ะ" แม่เลี้ยงกลิ่นแก้วถามด้วยสีหน้าเอ็นดู ใช่ เธอทั้งเอ็นดู สงสารและชื่นชม เธอทราบมาจากผู้ใหญ่บ้านตอนที่ไพลินมาเป็นครูที่นี่เมื่อเกือบสองปีก่อนว่าไพลินไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เธอต่อสู้ดิ้นรนทำงานส่งเสียตัวเองจนจบปริญญาตรี และก็ได้เดินทางมาเป็นครูที่จังหวัดนี้ ผู้ใหญ่คำสิงห์เคยถามไพลินว่าทำไมถึงมาเป็นครูที่พื้นที่ห่างไกลแบบนี้ เพราะดูจากผลการเรียนของเธอแล้วสามารถไปเป็นอาจารย์สอนที่โรงเรียนดังในเมืองใหญ่ๆได้อย่างสบาย เนื่องจากไพลินจบปริญญาตรีคณะศึกษาศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษมาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1  แต่หญิงสาวได้บอกกับทางผู้ใหญ่บ้านว่า เธอเคยได้รับการหยิบยื่นโอกาสจากคุณครูท่านหนึ่งที่ทำให้เธอได้เรียนหนังสือและทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เธอเลยอยากจะเป็นผู้ที่ส่งต่อโอกาสนั้นให้กับคนอื่นบ้าง และอีกอย่างในเมืองใหญ่ๆนั้นมีครูจำนวนมากแล้ว แต่ว่าตามต่างจังหวัดยังขาดแคลนครูผู้สอนอยู่มาก เธออยากจะให้เด็กที่อยู่ห่างไกลความเจริญได้มีความรู้ สามารถอ่านออกเขียนได้เพื่อจะได้มีอนาคตที่ดีขึ้น เธอจึงเลือกมาสอนที่นี่

"ดีค่ะ เด็กๆน่ารัก วันนี้เพลินสอนร้องเพลงพยัญชนะภาษาอังกฤษก็ตื่นเต้นกันใหญ่เลยค่ะ" ไพลินพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม น้ำเสียงที่กำลังพูดให้แม่เลี้ยงกลิ่นแก้วฟังดูมีความสุข จนคนตัวโตที่นั่งกอดอกไขว้ห้างเอนหลังพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางแสนสบายอยู่มุมห้องฟังจนเพลิน ใบหน้าหล่อเหลาที่ปกติจะนิ่งจนเหมือนดุ แต่ทว่าตอนนี้กลับเปื้อนยิ้มจนอีกคนที่สังเกตอยู่เกือบจะหลุดขำออกมา ใครว่าลูกชายเธอทำเป็นแต่หน้ายักษ์ เธออยากให้คนพวกนั้นมาเห็นหน้าชายหนุ่มตอนนี้จริงๆ

"ตาเหมไปนั่งซะไกลเลย ทำไมไม่มานั่งข้างๆแม่นี่ล่ะ"

"ครับ" เหมราชไม่คิดที่จะปฏิเสธ ทันทีที่มารดาเอ่ยชวนร่างสูงใหญ่ก็เดินจ้ำอ้าวไปนั่งข้างๆมารดาที่โซฟาตัวใหญ่ โดยมีไพลินนั่งอยู่เยื้องไปที่เก้าอี้ตัวเล็ก ดวงตาคู่คมสบกับดวงตากลมโตที่มองมาทางเขา และก็เป็นอีกครั้งที่ไพลินต้องหลบสายตาเจิดจ้านั้น ไพลินรู้สึกว่าใจเธอเต้นตึกตักเหมือนจะกระโจนออกมาข้างนอกทุกครั้งที่สบกับดวงตาคมเข้มของเหมราช เธอไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า แต่ดวงตาคู่นั้นดูมีประกายระยิบระยับแพรวพราวทุกครั้งที่จ้องมองมาทางเธอ

"แม่เลี้ยงเจ้า อาหารพร้อมแล้วเจ้า" เสียงจากสาวใช้ที่ยืนทำท่าทางนอบน้อมอยู่ตรงทางเข้าของห้องรับแขก เอ่ยบอกผู้เป็นนาย

"จ้ะ ขอบใจมากบัวเผื่อน"

 

เมื่อเดินมาถึงยังห้องอาหาร เหมราชก็เลื่อนเก้าอี้ให้แม่เลี้ยงกลิ่นแก้วนั่งที่หัวโต๊ะ ก่อนจะเดินมาเลื่อนเก้าอี้ให้ไพลิน โดยหญิงสาวไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณ จากนั้นก็เดินกลับไปนั่งอีกฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาว จริงๆเธอก็ไม่ได้อยากจะรอให้เขามาเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งหรอก แต่สาเหตุที่เธอต้องรอ เนื่องจากว่าครั้งแรกที่แม่เลี้ยงกลิ่นแก้วชวนเธอมาทานอาหารที่นี่ตอนที่เธอมาสอนใหม่ๆ เธอได้นั่งลงเองแต่พอทานอาหารเสร็จ เหมราชก็ได้เดินมากระซิบข้างๆหูว่า

' คราวหน้ารอให้ผมเลื่อนเก้าอี้ให้นะ ห้ามนั่งเองเด็ดขาด ' และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกครั้งที่เธอมาทานอาหารที่นี่เธอก็จะต้องรอให้ชายหนุ่มทำตัวเป็นสุภาพบุรุษตลอด เธอก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมถึงไม่ปฏิเสธไป รู้แต่เพียงว่าทุกครั้งที่เธอตั้งท่าจะปฏิเสธแต่พอสบสายตาคู่นั้นทีไร ก็ทำเธอพูดอะไรไม่ออกอยู่เรื่อย

"ขอบคุณค่ะคุณเหม" ไพลินก้มหน้าพูดขอบคุณเบาๆ เมื่อคนตัวโตที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตักห่อหมกใบยอลงบนจานของเธอ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำสั่งของเขาว่าห้ามเรียกเขาว่าพ่อเลี้ยงให้เรียกว่าเหมแทน คนแก่นี่ชอบออกคำสั่งอย่างนี้ทุกคนหรือเปล่านะ

ตลอดระยะเวลาที่รับประทานอาหาร ไพลินแทบจะไม่ต้องตักกับข้าวใส่จานตัวเองเลย เพราะจะคอยมีผู้ชายร่างยักษ์หน้านิ่งคอยบริการเธอตลอด คุณกลิ่นแก้วนั่งมองลูกชายตัวเองคอยตักอาหารให้ไพลินอย่างปลื้มใจ เหมราชเป็นสุภาพบุรุษแบบนี้เสมอ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะบริการผู้หญิงทุกคน ลูกชายเธอจะเลือกทำกับคนที่เขาพึงพอใจเท่านั้น เพียงแค่เห็นเท่านี้เธอก็รู้ว่าลูกชายเธอกำลังคิดอะไรอยู่ นี่ก็ผ่านมา 7 ปีแล้วที่ลูกชายเธออยู่เป็นโสด และตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ใช่ว่าเธอจะทำเมินเฉย เธอคอยแนะนำหาผู้หญิงที่คิดว่า      เหมราชจะพึงพอใจมาแนะนำให้ลูกชายรู้จักตลอด แต่ลูกชายของเธอก็ไม่เคยสานต่อ ยังคงทำตัวสุภาพพูดคุยด้วยตามปกติแต่ผู้หญิงก็ดูรู้ว่าลูกชายเธอไม่เล่นด้วย จึงพากันเดินจากไปเพราะไม่อยากจะเสียเวลารอเก้อ เธอคิดอยู่เสมอว่าเหมราชคงยังไม่ลืมพิมาลา แต่เห็นทีคราวนี้เธอคงจะต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ซะแล้ว

"ครูเพลินขี่มอเตอร์ไซค์มาใช่ไหม" เสียงทุ้มเข้มถามหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้าม

"ค่ะ" ไพลินตอบกลับเบาๆ

"เดี๋ยวผมขับรถไปส่ง ส่วนมอเตอร์ไซค์ทิ้งไว้ที่นี่ แล้วตอนเช้าผมจะให้น้าชุ่มขี่ไปไว้ให้ที่บ้านพัก ก่อนที่คุณครูจะไปทำงาน" เสียงนุ่มทุ้มพูดออกมายาวยืดอย่างคนที่ได้เตรียมการณ์มาเป็นอย่างดี

"ไม่เป็นไรค่ะคุณเหม เพลินเกรงใจ" พูดยังไม่ทันจะขาดคำก็โดนเสียงทุ้มสวนกลับมา

"ไม่เป็นไรครับครูเพลิน ผมเต็มใจ" คำพูดที่ลอกมาจากเธอก่อนหน้านั้นเกือบทั้งประโยค ทำให้ดวงหน้าหวานต้องเงยขึ้นมอง และก็เกือบจะปฏิเสธไปอีกรอบ แต่พอเห็นคนตัวโตมองมาด้วยสายตาปราม จึงต้องเก็บปากเงียบและทำตามโดยปราศจากเงื่อนไข

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จไพลินก็กล่าวลาแม่เลี้ยงกลิ่นแก้ว ก่อนจะเดินออกมาจากเรือนพร้อมกับพ่อเลี้ยงหนุ่มตรงไปยังรถกระบะโฟร์วิลสีดำคันโตที่เหมราชใช้ขับเป็นประจำสำหรับเข้าไปตรวจตราไร่ผักผลไม้เมืองหนาวที่ชายหนุ่มเป็นเจ้าของอยู่

 

"ยังไม่คุ้นกับผมอีกหรอหนูเพลิน" น้ำเสียงแสนอ่อนโยนดังมาจากคนตัวโตที่กำลังขับรถอยู่  ไพลินหันหน้ากลับไปมองแล้วก็พลันสบเข้ากับดวงตาคมเข้มที่มองมาที่เธอพอดิบพอดี

"เอ่อ…" อยากจะบอกนักว่าจะให้เธอคุ้นเธอชินได้ยังไง ในเมื่อเวลาที่อยู่ต่อหน้าคนอื่น        ชายหนุ่มก็ทำเฉยชาเก็บปากเก็บคำ แต่พออยู่กับเธอสองคนก็เปลี่ยนมาเรียกหนูเพลินอย่างนั้น หนูเพลินอย่างนี้ อย่างกับคนสนิทสนมกันมาสัก 10 ปี แถมน้ำเสียงและสีหน้าก็ดูแพรวพราวอย่างกับคนละคน

"หึหึ"  เหมราชกลั้วเสียงหัวเราะในลำคอ

"เพลิน เอ่อ..." เสียงหวานตะกุกตะกักเหมือนคนที่ไม่รู้จะพูดอะไรดี

"เอ้า ทีนี้เลยกลายเป็นเด็กติดอ่างไปเลย" เสียงทุ้มกระเซ้าแหย่อย่างขบขัน

"เพลินเปล่าซะหน่อยค่ะ " ไพลินตอบกลับพร้อมค้อนขวับเข้าให้

" วันนี้กับข้าวอร่อยไหม"

ไพลินเลิกคิ้วอย่างแปลกใจที่อยู่ๆคนตัวโตก็หันมาพูดเรื่องอาหาร

"อร่อยค่ะ เพลินชอบที่สุดเลย" เสียงใสหันมาพูดพร้อมกับส่งยิ้มตาหยีมาให้อย่างชอบใจ เมื่อนึกถึงของโปรดที่เพิ่งได้ทานไปเมื่อเย็นนี้

"แต่เพลินยังไม่รู้เลยค่ะ ว่าใครกันที่รู้ว่าเพลินชอบห่อหมกใบยอ แล้วก็บอกให้คุณป้าชวนเพลินมาทานข้าวเย็นด้วย"

"ถ้าหนูเพลินรู้ว่าเป็นใครแล้วหนูเพลินจะทำยังไงครับ"

"อืม เพลินก็คงจะบอกขอบคุณแล้วก็จะทำขนมไปฝากค่ะ"

เหมราชยิ้มกริ่มไปกับคำตอบน่ารักที่แสดงถึงความเป็นคนมีน้ำใจของคนตัวเล็ก

"ผมลืมไปเลยว่าหนูเพลินทำขนมอร่อย ถ้าว่างๆ หนูเพลินทำขนมให้ผมทานด้วยได้ไหม ถือซะว่าแลกกันกับห่อหมกใบยอ" ทันทีที่ได้ยินดวงตากลมโตก็เบิกกว้างพร้อมกับริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้นอย่างแปลกใจ เดาได้ทันทีว่าคนๆนั้นคือเหมราช ว่าแต่เขารู้ได้ยังไงกันว่าเธอชอบอะไร

"คุณเหมรู้ได้ยังไงคะว่าเพลินชอบห่อหมกใบยอ"

"หนูเพลินจำงานบุญที่จัดขึ้นที่บ้านผู้ใหญ่เมื่อหลายเดือนก่อนได้หรือเปล่า" ไพลินพยักหน้า ตอบรับแต่สายตายังคงมีเครื่องหมายคำถามอยู่

"วันนั้นแม่เขียนทำห่อหมกใบยอ แล้วผมก็เห็นสาวที่ไหนก็ไม่รู้ นั่งเติมข้าวไปตั้ง 2 จานแน่ะ กินแต่ห่อหมกใบยอ อาหารอื่นแทบไม่แตะเลย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้คิดได้ยังไงล่ะว่าหนูเพลินชอบ"

ไพลินเมื่อได้ฟังก็นั่งอึ้ง เธอไม่คิดเลยว่าเหมราชจะมาสังเกตและก็จับตามองเธอขนาดนั้น  จำได้ว่างานบุญวันนั้นเธอกับเขาแทบจะไม่ได้พูดอะไรกันเลย เพราะเขาจะนั่งรวมกับกลุ่มผู้ใหญ่ ส่วนเธอก็จะอยู่ปะปนกับลูกหลานของชาวบ้านแถบนั้น

"เอ่อค่ะ"

"แล้วทีนี้ยังไงล่ะ ยังจะทำขนมไปฝากคนที่ชวนหนูเพลินไปทานของโปรดด้วยอยู่หรือเปล่า"

"เพลินไม่รู้ว่าคุณเหมชอบทานขนมอะไรค่ะ เพลินกลัวทำไปแล้วไม่ถูกใจ" ตอบเสียงอ่อยๆเหมือนรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ ที่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยสักอย่าง แต่เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะ เธอจะรู้สึกผิดไปทำไม เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเสียหน่อย  ถึงจะต้องรู้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร

"ถ้าเป็นหนูเพลินทำผมก็ทานได้ทั้งนั้น แต่ถ้าหนูเพลินอยากรู้ว่าผมชอบทานขนมอะไร ผมจะบอกให้ก็ได้" เหมราชหยุดพูดเมื่อเห็นดวงหน้ากระจ่างใสหันมามองอย่างตั้งอกตั้งใจฟัง พร้อมทั้งอดจะคิดขำตัวเองไม่ได้ว่านี่เธอคงไม่รู้สินะว่ากำลังโดนคนแก่เกี้ยวอยู่

"ผมชอบทานพายโดยเฉพาะพายสตรอว์เบอร์รี หนูเพลินทำได้ไหม"

"ได้ค่ะ " พูดออกมาอย่างดีใจเมื่อรู้ว่าขนมที่ชายหนุ่มชอบคืออะไร ทำง่ายจะตายพายสตรอว์เบอร์รี แล้วก็ไม่ต้องใช้เตาอบด้วย เธอทำขนมบ่อยมากๆสมัยตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย เพราะมีอาจารย์ที่คณะของเธอ ทราบว่าเธอกำลังหางานพิเศษทำช่วงเสาร์อาทิตย์ ท่านก็เลยบอกให้เธอมาช่วยเลี้ยงลูกให้ท่านในช่วงเช้าถึงบ่าย เพราะว่าเสาร์อาทิตย์ท่านไปเป็นอาจารย์พิเศษที่อื่น ซึ่งเธอก็ตอบตกลงทันทีเพราะเธอจะได้มีเวลาทำงานพิเศษช่วงเย็นอีกงาน บ้านของอาจารย์ท่านนั้นมีเตาอบและอุปกรณ์ทำขนมเยอะแยะไปหมด เนื่องจากท่านบอกว่าลูกๆของท่านชอบทานขนมเค้ก และตัวเธอเองก็เป็นคนที่ชอบทำขนมอยู่แล้ว จึงได้ขออนุญาตอาจารย์เจ้าของบ้านทำขนมให้เด็กๆทานซึ่งท่านก็อนุญาต  เธอจึงเปิดดูคลิปเรียนรู้ไปเรื่อยและก็หัดทำทุกๆเสาร์อาทิตย์ ซึ่งพวกเขาก็ชอบกันมากเอ่ยปากชมไม่ขาดปากว่าเธอทำขนมอร่อยโดยเฉพาะพวกเค้กและพาย แต่มาอยู่นี่เธอไม่ค่อยได้ทำบ่อยนักเนื่องจากวัสดุหายากต้องเข้าไปซื้อในตัวเมืองเท่านั้น

"นั้นวันเสาร์นี้ผมจะมารับหนูเพลินไปทำขนมที่บ้านผมนะ"

"คะ... อะไรนะคะ?"

"ก็มาทำที่บ้านผมไง ตอนเช้าๆผมจะพาหนูเพลินไปเดินเก็บสตรอว์เบอร์รี หรือถ้าหนูเพลินไม่อยากจะเก็บเอง ผมก็จะสั่งให้เด็กๆเก็บเตรียมไว้ให้ บ้านผมมีทั้งอุปกรณ์และก็ส่วนผสมครบทุกอย่าง หนูเพลินจะได้ไม่ต้องลำบากออกไปหาเอง" ไพลินเมื่อได้ฟังที่เหมราชพูดมาก็พยักหน้าคล้อยตาม อืมก็ถูกของเขา

"นั้นก็ได้ค่ะ"

เหมราชเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้าไม่ดื้อดึงและยอมรับฟังก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ เด็กนี่หลอกง่ายจริงๆ!

"ถึงบ้านแล้วครับ"

"ขอบคุณนะคะคุณเหม ไม่ต้องลงมาส่งก็ได้ค่ะ"  ไพลินรีบบอกปฏิเสธเมื่อเห็นชายหนุ่มทำท่าจะเปิดประตูรถออกไป แต่ก็ใช่ว่าเขาจะเชื่อฟังเธอ เพราะตอนนี้ร่างสูงใหญ่ได้เดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้เธอพร้อมมือแกร่งยื่นมาให้เธอจับเพื่อจะได้สะดวกเวลาลงจากรถคันโต มือบางยื่นออกไปวางลงบนมือใหญ่และรู้สึกถึงแรงกระชับเพื่อช่วยเป็นหลักให้เธอได้ก้าวลงจากรถ

"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ไพลินยกมือไหว้ชายหนุ่มอีกครั้ง

"ครับ"

จากนั้นไพลินก็เดินเข้าบ้านไป โดยมีผู้ชายร่างยักษ์ยืนกอดอกพิงรถคอยเฝ้าดูจนแน่ใจว่าหญิงสาวได้เข้าบ้านพักไปแล้วถึงได้ขึ้นรถขับกลับไป

รายละเอียด

ไพลินล้อมรัก

แต่งโดย เฌอมาลี

 

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2537 ผู้มีจารีตมิควรหยิบยก คัดลอกแบบ หรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ รวมทั้งการถ่ายทอด ถ่ายเอกสาร สแกน ถ่ายภาพ ในรูปถ่ายหรือวิธีการใดๆทั้งปวง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร

 

นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ทั้งชื่อเรื่อง สถานที่ ชื่อตัวละครที่อยู่ในเรื่องนี้ เป็นการสมมุติขึ้นมา หากไปพร้องหรือเหมือนกับสถานที่ หรือ ชื่อของบุคคลท่านใด นักเขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

 

อารัมภบท

 

สวัสดีค่ะ ดีใจมากๆที่ได้กลับมาพบกับคนอ่านที่น่ารักอีกครั้งค่ะ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ J

นักเขียนมีนิยายเรื่งใหม่มาแนะนำค่ะ  นั่นก็คือ ไพลินล้อมรัก ซึ่งนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 4 ของนักเขียนค่ะ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยค่ะว่าจะมีวันนี้ วันที่แต่งนิยายจนจบไปถึง 4 เรื่อง ตอนที่แต่งนิยายเรื่องแรกคือเทพบุตรต้อนรัก ยังคิดอยู่เลยว่าจะแต่งจบไหมนะ เพราะแต่งไปลบไป ลดๆเพิ่มๆ และสุดท้ายก็จบค่ะ เยส! พอแต่งจบก็โหลดลงขายที่ Mebmarket ก็มานั่งลุ้นนอนลุ้นว่านิยายของเราจะมีคนสนใจหรือเปล่านะ จากตอนแรกคิดว่าหากมีคนโหลดสัก 10 เล่มก็ดีใจแล้วค่ะสำหรับนักเขียนหน้าใหม่คนนี้ แต่แล้วก็เกินคาดค่ะ เพราะว่าได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากนักอ่านเกินกว่าที่คาดหวังไว้มาก จนทำให้มีกำลังใจที่จะเขียนเรื่องต่อไป ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่คอยเป็นกำลังใจและสนับสนุนกันมาโดยตลอดนะคะ J

 

ไพลินล้อมรัก เป็นเรื่องราวของพ่อเลี้ยงเหมราช ศักดิวัฒน์โยธา เจ้าของไร่ผักผลไม้และดอกไม้เมืองหนาว ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย พ่อเลี้ยงเหมราชเป็นพ่อหม้ายหนุ่มใหญ่วัย 39 ปี ที่มารู้สึกถูกชะตาต้องใจกับคุณครูสาวคนสวยวัยละอ่อน ไพลิน เพียงโสภา อายุ 23 ปี เรื่องราวความรักของทั้งคู่จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกถึงความหวานละมุน และก็จะอมยิ้มไปกับความน่ารักของผู้ชายร่างยักษ์ที่แสนสุภาพและก็หวานจนน้ำตาลยังอาย        มี ดราม่ามาผสมบ้างแต่ไม่ได้หน่วงหัวใจจนต้องเสียน้ำตาค่ะ

จากตอนแรกนักเขียนมีความตั้งใจไว้ว่าจะแต่งนิยายเรื่องนี้เพื่อเป็นนิยายขนาดสั้นความยาวไม่เกิน 150 หน้า  แต่พอแต่งไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกเพลินจนเลยเถิด  มารู้ตัวอีกทีเมื่อถึงตอนจบบริบูรณ์ก็ปาไปกว่า 400 หน้า 555 (จริงๆ กะไว้ว่าจะแต่งให้มันสั้นทุกเรื่องแต่ไม่รู้ทำไมมันไม่เคยต่ำกว่า 350 หน้าเลย อิอิ)

 

สุดท้ายคงต้องฝากคำเตือนไปยังท่านที่ไม่เคยอ่านนิยายของนักเขียนมาก่อนนะคะ ว่านิยายของนักเขียนไม่ค่อยจะเน้นสาระสักเท่าไร จะเน้นให้ความบันเทิง ความหวาน ฟิน  จิกหมอนเป็นหลัก อาจจะมี ดราม่ามาผสมบ้างเพื่อเพิ่มสีสันให้กับเนื้อเรื่อง แต่ไม่ได้หน่วงหัวใจจนน้ำตาไหลพราก จะออกเป็นแนวหมั่นไส้ตัวอิจฉา มากกว่าที่จะน้ำตาคลอเพราะสงสารพระเอกนางเอกค่ะ    :)

คิดๆดูแล้วนิยายของนักเขียนก็คงจะเหมือนน้ำซุป ที่ไม่มีเนื้อ แต่รสชาติกลมกล่อม นุ่มละมุน และคล่องคอค่ะ

ขอให้สนุกกับน้ำซุปถ้วยใหม่ที่นักเขียนตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อมอบความสุขและรอยยิ้มให้กับคนอ่านที่น่ารักทุกท่านนะคะ

สามารถเข้ามาพูดคุยกันได้นะคะที่เฟคบุคhttps://www.facebook.com/lilin.chermalee

 

 

ขอบคุณค่ะ

ลิลิน/เฌอมาลี


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (81 รายการ)

www.batorastore.com © 2024