เรื่องสั้น หนังของเทพ (จรัญ ยั่งยืน)
เนื้อหาบางส่วน
หนังของเทพ
“เอาอีกแล้ว กูละเบื่อไอ้คนพวกนี้จริงๆ”
ผมบังเกิดความไม่สบอารมณ์ขึ้นทันทีเมื่อเห็นชายคนหนึ่งเหมือนพวกจรจัดที่ยึดป้ายรถเมล์เป็นบ้านหอบข้าวของพะรุงพะรังมานั่งแหมะลงตรงกลางลานกว้าง เขาเข้ามานั่งลงตรงที่ที่เป็นที่หวงห้ามอย่างเด็ดขาด ทั้งที่แรกๆ เขาเพียงแค่ด้อมๆ มองๆ อยู่ริมถนน แต่ไม่รู้ว่าผีห่าซาตานตนไหนดลใจให้เขารี่เข้าไปนั่งลงตรงนั้น แม้จะเป็นคืนที่เมฆหนาฟ้าสลัวเลือนแต่กลางลานโล่งๆไร้ผู้คนแบบนี้ร่างของเขาโดดเด่นสะดุดตาเหลือเกิน
ร่างกายที่ขาดอีกห้ากิโลฯก็จะถึงร้อยกิโลฯค่อยๆยกตัวขึ้นอย่างเชื่องช้า ความจริงแล้วตอนที่ผมเข้ามาอยู่เมืองกรุงใหม่ๆ รูปร่างของผมจัดว่าสเลนเดอร์ทีเดียว น้ำหนักแค่หกสิบกว่าๆ ร่างกายทะมัดทะแมงสมส่วน แต่หลังจากการเปิดตัวยิ่งใหญ่ของห้างฝรั่งที่ฝั่งถนนตรงข้ามเมื่อสามปีก่อน มันก็ทำให้น้ำหนักของผมเพิ่มขึ้นพรวดพราด ผมเดินเข้าเดินออกห้างนั่นเป็นว่าเล่น นั่นเพราะทั้งข้าวขาหมู ข้าวหมูอบ ข้าวมันไก่ทอด หมูย่างรมควัน หมูสะเต๊ะ แฮมเบอร์เกอร์ ติ่มซำ ไก่ทอดเคเอฟซี สุมหัวกันล่อลวงลิ้นของผมจนเสียท่าตกหลุมพรางที่ขุดล่อเอาไว้ ไม่นานหนั่นเนื้อและไขมันได้ร่วมมือกันพอกตัวของผมจนหนาเตอะ พุงป่องนูนขึ้นไปถึงลิ้นปี่ ตรงลำคอมีก้อนเนื้อเป็นชั้นๆ ราวมีใครมาสร้างคอนโดขนาดย่อมเอาไว้ตรงนั้น ทำให้กว่าผมจะเยื้องย่างแต่ละทีรู้สึกว่าพื้นจะสั่นสะเทือนเหมือนมีการเคลื่อนย้ายตึก
พอยืดตัวลุกยืนอย่างมั่นคง ผมค่อยๆ สาวเท้าตรงไปที่ชายคนนั้นนั่งตะคุ่มๆอยู่ แต่แม้ว่าร่างใหญ่โตของผมเดินไปเกือบถึงตัวแล้ว แต่เขายังคงนั่งนิ่ง สองตาจ้องเขม็งยังเบื้องหน้า ไม่มีทีท่าว่าจะเหลียวมาทางผมเลย
“แกออกไปนะ นั่งตรงนี้ไม่ได้ ท่านเทพไม่ชอบ” ผมพูดเสียงดังฟังชัดเพราะต้องแข่งกับเสียงลำโพงสี่ทิศทางข้างๆ จอหนัง ชายคนนั้นชายตามองมาแวบหนึ่ง แต่แล้วก็หันกลับไปจ้องที่จอหนังเหมือนเดิม
“มึงหูแตกหรือไงวะ กูบอกว่าไม่ให้นั่งตรงนี้ มึงไม่ได้ยินหรือไง” ผมเพิ่มความดังของเสียงขึ้นไปอีกหลายเดซิเบล คราวนี้เห็นผลทันตา เขาหันมาเผชิญหน้า ตาขวางๆ ในแววตาฉายความไม่พอใจ
ผมสังเกตใบหน้าของชายคนนั้น เขาน่าจะอายุเกินสี่สิบไปหลายปี ใบหน้ากระดูกแหลมยาวมีรอยแผลเป็นจุดใหญ่ดำกร้านสองสามจุด ไว้ผมทรงรากไทรเหมือนจิ๊กโก๋บ้านนอกตกยุค ใส่เสื้อยีนสีเข้ม มีกลิ่นเหม็นอับเหงื่อโชยออกมา ส่วนบนศีรษะสวมหมวกสักหลาดลูกเสือเก่าซีดจาง
“เอ็งเอ็ดตะโรอะไรของเอ็งวะไอ้อ้วน ข้ากำลังดูหนัง เอ็งนี่ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย ข้าเสียมู้ดหมดเลย” เขาสวนกลับ เสียงดังไม่แพ้กัน
“กูบอกแล้วไงว่าท่านเทพไม่ชอบให้ใครนั่งตรงนี้ มันขวางหูขวางตาของท่าน” ผมพูดตามคำสั่งของเจ้านาย เจ้าของศาลเจ้าแห่งนี้ได้ย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามใครมานั่งตรงกลางลานหน้าเครื่องฉายหนังอย่างเด็ดขาด เพราะมันบดบังทัศนวิสัยของท่านเทพ ทำให้ท่านเทพดูหนังไม่สนุก
ชายคนนั้นเหลียวหลังไปดูท่านเทพที่นั่งตะคุ่มๆ อยู่ในเก๋งใหญ่หลังเครื่องฉายหนัง แล้วเขาก็ทำหน้าเบ้ “ข้าไม่เห็นจะขวางหูขวางตาตรงไหน ท่านเทพของเอ็งก็นั่งอยู่ตั้งสูง เอ็งอย่ามาหาเรื่องข้าดีกว่า ข้าไม่มีอารมณ์จะสนุกด้วย”