พรายพรางเงา (พินธุนาถ) (EBOOK)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: พรายพรางเงา
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 200.00 บาท 50.00 บาท
ประหยัด: 150.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทที่ ๑

 

ชายหนุ่มกดปุ่มที่เครื่องตอบรับภายในค้างเอาไว้อีกครั้ง ขณะที่ก้มหน้าลงไปพูดด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก

        “แพร...เปิดประตูให้ผมหน่อยเถอะ อย่าโกรธเลย...ผมขอโทษที่มาช้า แต่ผมอธิบายได้นะ”

            เงียบ...ไม่มีเสียงตอบกลับมา ชายหนุ่มปล่อยมือออกจากเครื่องอย่างท้อใจ แล้วยืนเท้าเอวหันไปมองผ่านประตูกระจกใสบานใหญ่ที่กั้นบริเวณโถงชั้นล่างของอาคารกับทางขึ้นลิฟต์อย่างจนปัญญา เขาไม่รู้จะทำอย่างไร โทรศัพท์ขึ้นไปเธอก็ไม่ยอมรับสาย

            อาคารของคอนโดมิเนียมแห่งนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ล้ำสมัยจนบางครั้งก็น่ารำคาญแบบนี้ ประตูทางเข้านี้ต้องใช้คีย์การ์ดรูดเพื่อเปิดประตู ซึ่งทางอาคารจะแจกให้เฉพาะผู้ที่พักอาศัยอยู่ที่นี่เท่านั้น คนภายนอกต้องติดต่อกับเจ้าของห้องผ่านเครื่องตอบรับที่ติดไว้ข้างประตู แล้วคนในห้องก็จะเป็นคนเปิดประตูให้

           

            หญิงสาวในชุดกระโปรงผ้าชีฟองสีชมพูอ่อนสดใส ยืนกอดอกพิงบานประตูห้องอยู่ด้วยท่าทางหงุดหงิด ใบหน้างดงามที่แต่งไว้อ่อนๆ บึ้งตึง เธอพิงศีรษะที่รวบเป็นมวยอย่างประณีตกับบานประตูโดยไม่สนใจว่ามันจะยุ่งเหยิงหรือเปล่า เพราะหมดอารมณ์เสียแล้ว สู้อุตส่าห์แต่งตัวสวยสำหรับโอกาสพิเศษนี้ แต่เขากลับมาช้า หญิงสาวจิกตามองไปเครื่องตอบรับที่ติดอยู่ตรงขอบประตูอย่างโกรธๆ แต่ก็รออย่างจดจ่อว่าเมื่อไหร่จะได้ยินเสียงเขาพูดขึ้นมาอีก

            ในโถงรับแขกด้านนอกที่เธอยืนอยู่ปิดไฟมืด มีเพียงแสงไฟจากภายนอกที่ส่องเข้ามาทางผนังกรุกระจกที่รูดผ้าม่านเปิดเอาไว้ ไกลออกไปในความมืดเป็นไฟสีทองระย้าของสะพานแขวนพระรามเก้ากับไฟจากเรือที่ลอยลำอยู่ในลำน้ำเจ้าพระยา บนโต๊ะกินข้าวที่ตั้งอยู่ชิดผนังกระจกใกล้ระเบียงด้านนอก ปูด้วยผ้าลูกไม้สีขาวสะอาดตา วางจานอาหารฝรั่งที่เย็นชืดมาเป็นชั่วโมงแล้ว เทียนไขที่ยังไม่ได้จุดสามเล่มบนเชิงเทียนวางอยู่กลางโต๊ะใกล้ช่อดอกกุหลาบขาวที่จัดไว้เป็นพุ่ม ขวดไวน์ชั้นยอดวางอยู่ข้างโต๊ะ แผนที่เธอตั้งใจเตรียมไว้อย่างโรแมนติกพังอย่างไม่เป็นท่า

            วันนี้เป็นวันครบรอบที่เธอกับเขาคบกันมาสี่ปี และเป็นวันที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เป็นวันแรกด้วย เมื่อตอนบ่ายที่ย้ายของเข้ามาเธอก็ชวนเขามา แต่เขาก็ติดนัดลูกค้า เรื่องนั้นเธอยอมอภัยให้ได้ แต่พอมาถึงตอนนี้แพรสายโกรธจนไม่สนใจเหตุผลใดๆ ของเขาอีกแล้ว หญิงสาวขบริมฝีปาก ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ

            “แพร...” มีเสียงเรียกเธอดังขึ้นมาอีก “แพร ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาช้าเลยนะ ขอผมขึ้นไปคุยข้างบนได้ไหม” ชายหนุ่มบอกเสียงอ่อน

            “ไม่ต้อง...! จะบอกอะไรก็บอกมา แล้วมินก็กลับไปเลย ไม่ต้องขึ้นมาแล้ว”

            “โธ่...แพร เอ่อ...” เสียงเขาชะงักไป “เดี๋ยวก่อนนะแพร มีคนเขาจะใช้เครื่อง ผมจะตามเขาขึ้นไปแล้วนะ”

            “อย่านะ...ต้องพูดกันให้รู้เรื่องก่อน ขึ้นมาแพรก็ไม่เปิดประตูให้หรอก แพรยังรอมินได้เป็นชั่วโมงเลย มินรอสักชั่วโมงก็คงไม่เป็นไรหรอก”

            “จะให้พูดตรงนี้หรือแพร มันเกะกะคนอื่นเขานะ เอ่อ... เดี๋ยวผมกดมาใหม่นะ”

            มินเขยิบตัวหลีกให้คนอื่นเข้ามาใช้เครื่องกดไปหาห้องอื่นก่อน ผู้ชายคนนั้นยิ้มให้เขาอย่างเห็นใจ เขาคงได้ยินเสียงเขียวๆ ของแพรสาย มินถอยมายืนรออยู่ มือล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อ อย่างน้อยตลับกำมะหยี่นุ่มมือที่อยู่ในนั้นก็ช่วยให้กำลังใจในการงอนง้อเธอต่อไป

            เขากดเครื่องตอบรับอีกครั้ง ลอบถอนใจเบาๆ ก่อนจะพยายามพูดให้รวบรัดที่สุด

            “แพร... ที่ผมมาช้าก็เพราะ ผมจำแหวนผิดวง เลยต้องเอากลับไปเปลี่ยน มันถึงได้ช้า”

            มีเสียงถามมาว่า

            “ซื้อแหวนมาทำไม”

            มินไม่อยากพูดตอนนี้ เขาจึงนิ่ง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงกริ๊ก บานประตูกระจกก็เปิดออก ชายหนุ่มหลุดยิ้มออกมาในที่สุด เขาถอนใจอย่างโล่งอกก่อนจะเดินเข้าไปที่ลิฟต์

            เมื่อได้ยินเสียงกริ่งหน้าประตู หญิงสาวก็หยุดยิ้มแกล้งตีหน้าขรึมขณะที่เดินมาเปิดประตู แต่แล้วภาพที่เห็นตรงหน้าก็ทำให้เธอถึงกับเอามือทาบอก น้ำตาซึมออกมาทันทีโดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าประตู มือยื่นแหวนเพชรมาตรงหน้า เขาอมยิ้มแล้วบอกกับเธออย่างเขินๆ ว่า

            “แต่งงานกับผมนะ...แพร”

            แพรสายเอานิ้วปาดน้ำตา อีกมือแตะริมฝีปาก พูดอะไรไม่ออก แต่ก็ยื่นมือซ้ายไปให้เขาแต่โดยดี มินจับมือนั้นมาอย่างแผ่วเบาแล้วสวมแหวนเพชรรูปหัวใจเม็ดเดียวกลางตัวเรือนให้เธอ แต่พอสวมเข้าไปถึงกลางนิ้ว ชายหนุ่มก็หน้าเสีย เมื่อแหวนติดแน่นอยู่ตรงข้อนิ้ว เขาไม่กล้าดันเข้าไปเพราะกลัวเธอจะเจ็บ แพรสายเห็นสีหน้าคนรักแล้วก็ดึงมือกลับมา พยายามดันแหวนจนมันสวมเข้าไปจนได้ ก่อนจะโผเข้าไปกอดเขาเต็มแรง หญิงสาวแอบกางนิ้วดูแหวนเพชรเรือนงามบนนิ้วนางซ้ายของตัวเองอย่างสุดจะปลื้ม แต่พอเห็นชัดๆ แพรสายก็ทำหน้าแหย เธอรีบผละออกจากตัวเขา

            “ตอนแรกมินเอาแหวนอะไรมาเหรอ”

            “รูปหยดน้ำ...” มินบอก คำตอบของเขายิ่งทำให้แพรสายอยากจะร้องกรี๊ดออกมาดังๆ

             “ผมจำผิดใช่ไหม ผมรู้...” ชายหนุ่มพูดอย่างมั่นใจ “ซื้อเสร็จออกจากร้านมาตั้งไกลแล้วถึงนึกได้ว่าแพรชี้รูปหัวใจต่างหาก ก็เลยต้องเสียเวลากลับไปเปลี่ยนอีก ดีนะที่นึกได้เสียก่อน ถ้าผมหยิบแหวนผิดมาล่ะก็มีหวัง...”

            ชายหนุ่มไม่พูดแต่ทำท่าเอานิ้วปาดคอตัวตัวเอง แพรสายได้แต่อมยิ้ม มองแหวนในมือตาละห้อย

            “คิดอะไรอยู่หรือแพร”

            “เปล่า...”

            “งั้นเข้าไปข้างในกันเถอะ ผมหิวจะแย่อยู่แล้ว”

            “จะมาบ่นทำไม ก็ใครล่ะที่มาช้า”

            มินแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน “ทำไมไม่เปิดไฟล่ะ” เขาถามเมื่อปิดประตูห้อง

            “เดี๋ยวสิ...จุดเทียนก่อน”

            “อย่าเลยแพร...มันมองไม่เห็น เปิดไฟเถอะ หิวจนตาลายแล้ว เดี๋ยวก็จิ้มผิดจิ้มถูกหรอก”

            “มินน่ะ...ไม่โรแมนติกเลย” หญิงสาวบ่น แต่ก็ยอมเปิดไฟแต่โดยดี

            “คืนนี้แพรสวยจัง” ชายหนุ่มบอกอย่างเอาใจ

            “ไม่ต้องมาทำปากหวานเลย เดี๋ยวแพรเอาพวกนี้ไปอุ่นก่อน” เธอพูดพร้อมกับหยิบจาน สเต็กบนโต๊ะหายเข้าไปในครัว ก่อนจะตะโกนออกมา

            “มินเปิดไวน์เลยสิ”

            ไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็กลับมาพร้อมกับจานอาหาร มินรินไวน์ลงในแก้วเจียระไนที่หญิงสาวเตรียมไว้ เมื่อเธอนั่งลงแล้ว เขาก็ยกแก้วขึ้น

            “สำหรับห้องใหม่ แล้วก็ว่าที่เจ้าสาวของผม”

            แพรสายหยิบแก้วไวน์ของตัวเองขึ้นแตะแก้วเขา

            “หวังว่าวันงานของเรา เจ้าบ่าวของแพรคงจะไม่มาสายอีกนะ”

            “โธ่...แพร วันนี้ผมมาช้าแต่ได้แหวนที่ถูกใจแพรมา ยังดีกว่ามาทันแต่ได้แหวนหยดน้ำนั่นมานะ”

            แพรสายแยกเขี้ยวฝืนยิ้ม เธอต้องรีบตัดบทก่อนที่ตัวเองจะสติแตกพูดอะไรที่ทำลายบรรยากาศออกมาเสียก่อน

            “ช่างมันเถอะ...มิน”

 

            “นี่...คนขี้เซา ตื่นหรือยัง อย่าบอกนะว่าพึ่งตื่น เก้าโมงกว่าแล้วนะจ๊ะ จำได้หรือเปล่าว่าเรานัดถ่ายรูปที่สตูดิโอตอนสิบโมง แพรแต่งตัวเสร็จแล้วนะ” เสียงหญิงสาวร่าเริงมาตามสาย

            เขาชอบจังเวลาที่เธออารมณ์ดี หญิงสาวจะอบอุ่น อ่อนโยนและน่ารักเหมือนนางฟ้าใจดี เสียงของเขาที่ตอบเธอไปจึงพลอยอ่อนโยนไปด้วย

             “ผมตื่นตั้งนานแล้ว แต่งตัวเสร็จแล้วด้วย กำลังจะออกจากห้อง นี่...กำลังล็อคห้อง ได้ยินเสียงไหม ผมว่าจะแวะไปหาแพรก่อนแล้วค่อยไปด้วยกันดีไหม” ชายหนุ่มแนบหูโทรศัพท์มือถือไว้กับไหล่ขณะไขกุญแจล็อคห้อง

            “โอ๊ย...ไม่ทันหรอก...มิน มินไปเจอแพรที่สตูดิโอเลยดีกว่า ขืนย้อนไปย้อนมาก็ไม่ทันกันพอดี แพรจะได้ออกไปเลยไม่ต้องรอมินด้วย เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ” เธออุทานขึ้น มีเสียงสัญญาณจากเครื่องตอบรับภายในดังลอดเข้ามาในโทรศัพท์

            “แปลกจังใครมาหาแต่เช้า” เธอพูดเข้ามาในโทรศัพท์แล้วก็เงียบไป แต่ยังไม่ได้วางสาย

            มินรออยู่ครู่หนึ่ง แพรสายก็พูดกลับมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเต็มที “ทายสิว่าใครมาหาแพรแต่เช้า”

            “ใคร...”

            “รุ่นน้องสุดที่รักของมินน่ะสิ”

            “ข้าวน่ะเหรอ...!” มินร้องออกมาอย่างรำคาญใจ นึกหงุดหงิดขึ้นมาทันทีที่คนๆ นี้เกิดโผล่มาในวันดีๆ แบบนี้ เขารีบบอกหญิงสาว

            “อย่าเปิดประตูให้เขาเข้ามาในห้องนะ...แพร” ชายหนุ่มรีบบอก “ไม่งั้นล่ะก็...วันนี้เราไม่ได้ไปถ่ายรูปกันแน่” เขาแทบจะจินตนาการได้ถึงความยุ่งยากต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นแน่นอนจากผู้หญิงคนนี้

            ขณะเดียวกันเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าฝ่ายนั้นไม่น่าจะรู้จักที่อยู่ของแพรสาย          

            “เดี๋ยวก่อน...แพร เขาไปที่นั่นถูกได้ยังไง...ผมไม่เคยบอกเขาเลยนะ” มินชักเป็นกังวลขึ้นมา

            “แพร...ผมว่าบอกรปภ.ให้จัดการเถอะ อย่าเปิดประตูให้เขาเข้ามาเด็ดขาดเลยนะ ผมจะรีบไปหาแพรเดี๋ยวนี้”

            แต่แพรสายกลับหัวเราะ

             “มิน...เป็นอะไรไป ไม่เห็นต้องกลัวเขาขนาดนั้นเลย รู้ไหม...ยิ่งไปทำเป็นกลัว เขาจะยิ่งได้ใจ เราไม่จำเป็นต้องหลบหน้าเขาหรอก แพรเปิดประตูให้เขาขึ้นมาแล้ว เดี๋ยวแพรจะพูดกับเขาให้รู้เรื่องไปเลย ไม่อย่างนั้นเขาก็วุ่นวายกับเราไม่รู้จักจบสิ้นสักที รับรองว่าแพรจัดการได้ เขาบอกว่าจะขอคุยกับแพรห้านาที ดูสิว่าจะคุยเรื่องอะไร อยากรู้เหมือนกัน จะได้พูดกันให้รู้เรื่องไปเลย มินไม่ต้องห่วงหรอก แพรจะได้บอกเขาด้วยว่าเรากำลังจะแต่งงานกันแล้ว เขาจะได้ตัดใจจากพ่อรูปหล่อของแพรสักที รู้ไหม...แพรว่าที่เขายังตามตื้อมินอยู่ก็เพราะมินไปใจดีกับเขา แล้วผู้หญิงคนนี้ก็เป็นคนประเภทชอบคิดไปเองด้วย เขาคิดว่ามินก็มีใจให้เขา แพรรู้ว่ามินเป็นคนใจดีแต่เขาไม่คิดแบบนั้นน่ะสิ เฮ้อ...มีแฟนเสน่ห์แรงก็ลำบากอย่างนี้ล่ะเรา” แพรสายพูดอย่างอารมณ์ดี

            มินยังไม่วางใจ แต่ก็ไม่อยากทำตัวตื่นตูม ถึงอย่างไรขวัญข้าวก็เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียว ถึงพฤติกรรมหลายๆ อย่างของเธอจะเหลือรับก็ตาม บางทีแพรสายอาจจะมีวิธีจัดการกับเธอได้ดีกว่าเขา

            เสียงแพรสายยังฟังดูสบายๆ เมื่อเธอพูดต่อว่า “มิน...พรุ่งนี้แพรว่ามินเอาพวกเสื้อผ้ามาก่อนดีกว่า แพรเตรียมที่ในตู้ไว้ให้แล้ว แพรอยากจัดตู้เสื้อผ้าก่อน...จริงๆ มินย้ายเข้ามาอยู่เลยก็ได้นะ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ตอนนี้มินน่ะเป็น นายมิน พรรณพนิชแล้วนะ” เธอพูดแล้วก็หัวเราะชอบใจ

            เมื่อวานเขากับแพรสายพึ่งไปจดทะเบียนสมรสกันมา มินกำลังจะพูดก็พอดีมีเสียงกริ่งที่หน้าประตูดังลอดเข้ามา ขวัญข้าวคงมาถึงหน้าห้องแล้ว

            “เดี๋ยวนะมิน แพรไปเปิดประตูให้เขาก่อน”

            เสียงแพรสายหายไปอีก มินได้ยินเสียงเธอพูดกับขวัญข้าวแว่วๆ ว่าให้นั่งรอเธอก่อน แล้วก็กลับมาพูดกับมิน

            “มิน...เดี๋ยวแพรจะคุยกับเขาไม่นานหรอก ท่าทางเขาดูแย่มากเลยมิน” หญิงสาวลดเสียงลง        “แพรไม่อยากว่าเขาหรอกนะ แต่ตอนนี้สารรูปเขาอย่างกับคนบ้าแน่ะ เหม็นสาบด้วย เอาล่ะ...ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวแพรจัดการเอง มินไปรอที่สตูดิโอเลย แพรไปใกล้กว่ามิน แพรขับรถไปสิบกว่านาทีเอง พอกลับมาแพรมีอะไรจะให้มินดูด้วย เจ๋งมากเลย” ขณะที่เธอพูด มินก็ได้ยินเสียงไม้แขวนเสื้อกระทบกัน แพรสายคงกำลังอยู่ในห้องแต่งตัว

            “อะไรเหรอ...แพร บอกตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ” มินถาม

            “เถอะน่า มินต้องมาเห็นเอง บอกตอนนี้ก็ไม่ตื่นเต้นน่ะสิ เอาล่ะ...เดี๋ยวเจอกันจ้ะ ว๊าย...!”           เสียงแพรสายร้องขึ้นเหมือนตกใจ แต่เสียงของเธอเบาลง เหมือนหันหน้าออกไปจากโทรศัพท์ มินได้ยินเสียงเธอต่อว่าขวัญข้าวอยู่แว่วๆ          

            “ฉันบอกให้รออยู่ข้างนอกไง เข้ามาในห้องนอนของฉันทำไม เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

            “มีอะไรหรือเปล่า...แพร” มินถาม เขาไม่สบายใจเลย

            “ไม่มีอะไรหรอกมิน...โอเค เท่านี้ก่อนนะ แพรชักไม่อยากคุยกับยายนี่เสียแล้วสิ ดูสิเดินดุ่ยๆ เข้ามาในห้องนอนของเราเฉยเลย” เสียงเธอเบาลงอีก คงหันไปพูดกับขวัญข้าว

            “นี่เธอ...ออกไปสิ มายืนซึมอยู่ได้ ทำหน้าทำตายังกะผีดิบ ออกไปจากห้องนอนของฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่มีมารยาทเลย ไม่งั้นฉันจะไม่คุยกับเธอแล้วนะ

            แล้วเธอก็กลับมาพูดกับเขา “แพรว่าแพรคิดผิดจริงๆ ด้วยที่ให้เข้ามา อุ้ย...แย่จัง แบต ฯ จะหมดแล้ว เดี๋ยวแพรไปชาร์จต่อในรถแล้วค่อยคุยกันนะ บ้ายบายจ้ะ...มิน”

           

            นั่นเป็นคำพูดประโยคสุดท้ายที่เขาได้ยินจากเธอ

รายละเอียด

คำโปรย พรายพรางเงา

 

มิน สถาปนิกหนุ่มต้องพบกับฝันร้าย เมื่อ แพรสาย ดาราสาววัยรุ่น คนรักของเขาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจากห้องพักในคอนโดฯ หรูหราของเธอเอง

ขวัญข้าว รุ่นน้องสมัยเรียนและแอบหลงรักมินมานาน พยายามทำทุกอย่างให้มินหันมาสนใจตัวเองโดยไม่สนใจว่ามินกับแพรสายกำลังจะแต่งงานกัน และหล่อนคือคนที่อยู่กับแพรสายเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่ดาราสาวจะหายตัวไป

มินพยายามบังคับให้หล่อนบอกว่าแพรสายหายไปไหน แต่ขวัญข้าวกลับกระโดดตึกฆ่าตัวตายไปต่อหน้าเขา ทิ้งความหวังที่จะได้รู้ถึงชะตากรรมของแพรสายให้ร่วงหล่นลงไปพร้อมกับร่างของหล่อน

มินต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าฆ่าแฟนตัวเองแล้วเอาศพไปซ่อน ขณะที่ขวัญข้าวไม่ตาย แต่กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ในห้องไอซียู

แล้ววันหนึ่ง มินก็ได้พบกับสองสาวพี่น้อง นัจรสและนททิรัย นัจรสประสบอุบัติเหตุสาหัส แต่หล่อนกลับฟื้นจากอาการโคม่าอย่างปาฏิหารย์ แต่หลังจากนั้น นททิรัยแอบสังเกตเห็นว่ามีบางสิ่งอันดำมืดแอบแฝงมากับการรอดชีวิตของพี่สาว ซึ่งลึกลับน่ากลัวและหาคำอธิบายไม่ได้

ในที่สุด นททิรัยก็เริ่มมั่นใจว่าพี่สาวของตัวเองที่กลับมาจากโคม่านั้นไม่ใช่พี่คนเดิมของตัวเอง แต่เป็นใครคนหนึ่งที่นำพาให้ชีวิตของเธอและมินไปพบกับความสยองขวัญจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (87 รายการ)

www.batorastore.com © 2024