เล่ห์เหลี่ยมอสูร (สลิลฉัตร) (EBOOK)

เล่ห์เหลี่ยมอสูร (สลิลฉัตร) (EBOOK)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: เล่ห์เหลี่ยมอสูร
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 240.00 บาท 60.00 บาท
ประหยัด: 180.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

เล่ห์เหลี่ยมอสูร

บทนำ

 

          “ถ้าคุณยังทำรุ่มร่ามกับฉันอีก...ฉันจะเรียนคณะบดีมหาวิทยาลัยว่าคุณทำมิดีมิร้ายกับฉัน” สาวน้อยขู่ฟ่อพร้อมกับถอยหลังกรูดจนชิดติดกำแพงห้อง ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความตื่นกลัวเช่นเดียวกับเนื้อตัวที่สั่นเทา

            “เธอไม่กล้าทำหรอก เพราะเธอจะจบหรือไม่ก็อยู่ที่ใบผ่านงานที่ทางบริษัทจะออกให้ แล้วถ้าเธอยังดื้อดึงพยศใส่ฉันแบบนี้ ก็อย่าได้หวังเลยว่าเธอจะไดเรียนจบ” รอยยิ้มมุมปากอย่างคนที่เหนือกว่าฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร ร่างสูงก้าวตามติดประชิดร่างบางก่อนจะทาบมือแกร่งลงบนแพงเพื่อกักขังเหยื่อสาวแสนหวาน ชายหนุ่มเพ่งพินิจดวงหน้าสวยหวานก่อนจะก้มลงประกบปิดริมฝีปากเล็กๆสีชมพูระเรื่ออย่างอดใจไม่อยู่ มือหนาที่ทาบบนกำแพงแปรเปลี่ยนเป็นโอบรัดรางบางที่ดิ้นรนขัดขืนสุดกำลัง

“อื๊ย อื้อ” จินนี่ครางประท้วงในลำคอเมื่อริมฝีปากร้อนกดทับลงมาอย่างหนักหน่วงเพิ่มแรงกดบดเคล้าจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บ

“รู้ไหมว่าปากเธอมันหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งเสียอีกนะ แล้วเนื้อตัวเธอก็หวานจนฉันอยากจะขย้ำแล้วขย้ำอีก” แอนดี้พูดเสียงพร่าชิดแก้มใสที่แดงก่ำก่อนจะปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ

“คุณมันซาตานกลับชาติมาเกิด ฉันเกลียดคุณ!” เสียงหวานแหวใส่ก่อนจะรีบวิ่งหนีออกไปจากห้องทำงานของชายหนุ่มอย่างเร็ว

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่1 ข่าวดีที่เคลือบยาพิษ

 

เสียงออดหมดชั่วโมงเรียนของนักศีกษาปี4 คณะจิวเวอรี่ดีไซน์ของมหาวิทยาลัยฮ่องกงดังขึ้นก่อนที่อาจารย์และนักศึกษาต่างพากันทยอยออกจากห้องบรรยายและหนึ่งในนั้นก็คือจินนี่ โหยวสาวน้อยเรียนดีแต่สถานะทางบ้านไม่ค่อยเอื้ออำนวยนักแต่ด้วยความขยันและไม่ย่อท้อจินนี่จึงไปทำงานพิเศษที่ร้านกาแฟหลังจากเลิกเรียนทุกวันเพื่อเป็นค่าหนังสือรวมทั้งค่ากินค่าใช้ที่หญิงสาวพยายามประหยัดและอดออมเพื่อเก็บไว้เป็นค่าเทอม

“จินนี่ อาจารย์ฝ่ายแนะแนวเรียกพบเธอน่ะ”

“ขอบใจจ๊ะ” หญิงสาวยิ้มขอบคุณเพื่อนสาวที่เดินมาบอกก่อนที่เธอจะรีบสาวเท้าไปยังห้องแนะแนวที่อยู่บนตึกใหญ่ของมหาลัย

ก๊อก! ก๊อก !ก๊อก!

จินนี่เคาะประตูห้องก่อนจะสาวเท้าเข้าไปด้านใน ซึ่งมีอาจารย์แนะแนวนั่งรออยู่ที่โต๊ะทำงานด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับพยักหน้าในเชิงบอกให้หญิงสาวนั่งลง

“อาจารย์มีอะไรจะใช้หนูหรือคะ” จินนี่ถามเสียงใสหลังจากทรุดกายลงนั่ง

“พอดีบริษัท AW Gemsเขาส่งจดหมายมาขอนักศึกษาไปฝึกงานที่บริษัทเขา อาจารย์เห็นว่าเธอผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีบวกกับเงินเดือนในการฝึกงานก็ค่อนข้างสูงอาจารย์เลยคิดว่าน่าจะเหมาะกับเธอ แต่ไม่รู้ว่าเธอจะสนใจหรือเปล่าเพราะเห็นเธอมีงานพิเศษที่ร้านกาแฟอยู่แล้วใช่ไหมจ๊ะ” อาจารย์สาวซึ่งรู้กันกับตัวแทนของบริษัท AW Gemsที่ระบุให้หญิงสาวเข้าไปฝึกงาน

รอยยิ้มแห่งความดีใจเด่นชัดบนในหน้าเนียนใสและแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง จินนี่ตอบรับอย่างไม่คิดมาก เพราะหญิงสาวเคยได้ยินชื่อเสียงของบริษัท AW Gemsนี้มาบ้างว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของวงการอัญมณีมีนักออกแบบที่เป็นถึงระดับแชมป์รวมทั้งนักออกแบบอัญมณีจากต่างประเทศที่เข้ามาร่วมงานกับที่นี่ ซึ่งถือว่าเป็นโชคของเธอโดยแท้ จินนี่คิดในใจพลางรับเอกสารรายละเอียดจากอาจารย์แนะแนวมาอ่านรายละเอียดและข้อตกลงต่างๆ

“เธอเอาไปอ่านก่อนก็ได้นะแล้วค่อยตัดสินใจ แต่ต้องให้คำตอบก่อนปิดภาคเรียนในวันศุกร์นี้นะจ๊ะ” อาจารย์สาวยิ้มให้ลูกศิษย์สาวที่ลุกจากเก้าอี้แล้วโค้งศีรษะเล็กเพื่อเป็นการขอบคุณก่อนจะก้าวออกจากห้องด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวัง

จินนี่เดินออกมาจนใกล้ถึงทางออกของมหาวิทยาลัยโดยมิได้สังเกตเห็นรถสปอร์ตสีดำเงาที่ติดฟิลม์ทึบทั้งคันจนมองไม่เห็นบุคคลภายในรถที่ค่อยๆขับตามเธอมาตั้งแต่หญิงสาวก้าวออกจากห้องแนะแนวจนมาถึงหน้ามหาวิทยาลัย

สายตาดุจพญาเหยี่ยวของแอนดี้ วู นักธุรกิจหนุ่มที่เพิ่งขึ้นแท่นมาเฟียทางด้านการส่งออกจิวเวอรี่ในระดับภาคพื้นเอเชีย ชายหนุ่มจับจ้องทุกอิริยาบถของสาวน้อยแก้มใสที่ทำให้เขาแทบคลั่งและหลงติดบ่วงเสน่ห์ของเธอตั้งแต่แรกพบที่ร้านกาแฟจิลเลียนที่หญิงสาวทำงาน จนเขามีโอกาสได้ชิดใกล้และลิ้มรสหวานของกลีบปากนุ่มสีกุหลาบก็ทำให้เลือดในกายของเขาพลุ่งพล่านจนแทบจะอยากจะกลืนกิน

‘เธอหนีฉันไม่พ้นหรอกแม่นกน้อยแสนหวาน ฉันจะกลืนกินเธอชนิดลืมวันลืมคืนเลยคอยดู’

แอนดี้คิดในใจอย่างหมายมั่นก่อนจะเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วของรถสปอร์ตหรูคู่กายราคาแปดหลักผ่านหน้าหญิงสาวที่เขาคิดจะกักไว้เชยชม

ร่างบางที่กำลังจะก้าวออกจากหน้ารั้วสถานศึกษาเพื่อรอรถประจำทางไปทำงานพิเศษหลังเลิกเรียน ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำที่หญิงสาวทำทุกวัน ในระหว่างทีร่างบางยืนรอรถประจำทางอยู่นั้นรถนิมิคูเปอร์ของเพื่อนสนิทในกลุ่มอย่างโจอี้ เหวินทายาทเจ้าของภัตตาคารเหวินอี้อันเลื่องชื่อก็ค่อยจอดเทียบเพื่อเรียกให้เพื่อนสาวขึ้นรถไปกับเขา จินนี่รีบสาวเท้าก้าวขึ้นรถอย่างเร็วไวเนื่องจากเป็นจุดยืนรอรถประจำทาง อาจจะผิดในเรื่องระเบียบกฎหมายของบ้านเมือง  

“จะไปทำงานหรือจินนี่” โจอี้ถามเพื่อนสาวหลังจากขับเคลื่อนรถออกจากจุดยืนรอรถประจำทาง

“ใช่จ๊ะ ว่าแต่โจล่ะไม่มีเรียนแล้วหรือวันนี้” หญิงสาวถามกลับพร้อมกับมองสองข้างทางที่เต็มไปด้วยรถลาที่วิ่งขวักไขว่ จินนี่มองดูเวลาจากนาฬิกาข้อมือเรือนเล็กๆที่เก่าจนสายหนังเริ่มเปื่อยยุ่ย

“ไม่มีแล้วล่ะ โจส่งงานอาจารย์หมดแล้วตอนนี้ก็เลยสบายเหลือแต่ฝึกงานกับทำเรื่องขอจบเท่านั้นจ๊ะ”

ทันทีที่ได้ยินคำว่าฝึกงานใบหน้าหวานใสก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ มือบางกอดแฟ้มเอกสารไว้แน่นจนสารถีหนุ่มที่นั่งข้างอดถามด้วยความสงสัยไม่ได้

“ยิ้มแก้มปริแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า”

“สมกับที่คบกันมาหลายปีจริงๆเลยนะโจอี้ก็วันนี้อาจารย์เรียกเราไปพบแล้วก็บอกว่าบริษัท AW Gems ต้องการนักศึกษาฝึกงาน อาจารย์ก็เลยถามเราว่าสนใจหรือเปล่าพร้อมกับให้เอกสารรายละเอียดมาให้เราอ่านก่อนตัดสินในด้วยน่ะจ๊ะ” หญิงสาวร่ายยาวพร้อมกับยิ้มหวานอย่างมีเสน่ห์จนเพื่อนชายที่แอบมีใจให้อย่างโจอี้ ถึงกับหายใจสะดุด

“แล้วงานที่ร้านกาแฟจิลเลียนล่ะ จินนี่จะทำต่อหรือเปล่า”

คำถามของเพื่อนชายทำเอาหญิงสาวหน้าเจื่อนลงทันที เพราะเธอรักและผูกพันกับงานละเจ้าของร้านที่แสนจะใจดีรวมทั้งเพื่อนร่วมงานที่ดีกับเธอเสมอมาคอยช่วยเหลือมาตลอดสามปีที่ทำงานกันมา

“เราคงต้องลาออกนะ เพราะงานออกแบบอัญมณีเป็นงานที่เราฝันมาตลอดนะ เมื่อโอกาสมาอยู่ในมือแล้วเราก็คงต้องเลือกเพื่ออนาคตและก็เพื่อแม่ด้วย” เสียงหวานพูดอย่างเต็มไปด้วยความหวังแม้จะเจือด้วยความเสียใจกับการที่ต้องแลกกับงานที่เคยทำมาก็ตาม

สารถีหนุ่มค่อยชะลอรถก่อนจะเข้าจอดเทียบยังหน้าร้านกาแฟจิลเลียนซึ่งเป็นที่ทำงานของเพื่อนสาว “ขอบใจนะโจที่อุตส่าห์ขับรถมาส่ง” ร่างบางหันมาพูดกับเพื่อนชายก่อนที่จะเปิดประตูรถเพื่อก้าวเข้าไปยังด้านในของร้าน

 

ณ บริษัท AW Gemsอันเลื่องชื่อด้านอัญมณี

 

ร่างสูงในชุดสูทสีดำยี่ห้อหรูฝั่งยุโรปซึ่งตรงกับบุคลิกและรูปร่างสูงใหญ่ของผู้สวมใส่อย่างมาเฟียป้ายแดงเช่นแอนดี้ วูยิ่งนักด้วยความสูงที่เกิน180 บวกกับรูปร่างที่มีมัดกล้ามอย่างนักกีฬาสุขภาพดี

“รบกวนคุณจัดโต๊ะทำงานให้ผมเพิ่มอีกชุด” ชายหนุ่มสั่งงานกับเลขาหน้าห้องของเขาทันทีที่มาถึง

“เอ่อ คุณแอนดี้คะ จะให้จัดไว้ที่ไหนคะ” มิเชลเลขาฯส่วนตัววัยกลางคนถามด้วยความสงสัยว่าเจ้านายของเธอจะรับพนักงานเพิ่มหรือยังไง

“ในห้องทำงานผม”

ชายหนุ่มพูดเสียงเข้มก่อนจะก้าวเข้าห้องทำงานของตนเนื่องจากเขามีงานด่วนที่ต้องสะสางก่อนที่บิดาของเขาจะกลับมารวมทั้งเรื่องสาวน้อยแก้มใสที่เขาต้องดึงเธอมาเป็นผู้หญิงของเขาให้ได้ ในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังเคลียร์กับยอดการสั่งซื้อของลูกค้ารวมทั้งตรวจดูผลกำไรของไตรสามที่ผ่านมาเสียงโทรศัพท์ภายในก็ดังขึ้นจนชายหนุ่มจำต้องละสายตาจากเอกสารตรงหน้าเพื่อรับสาย

“แอนดี้ พูดสายครับ” นักธุรกิจหนุ่มพูดเสียงเรียบหลังจากยกหูโทรศัพท์

“ป๊าเอง แกยุ่งอยู่หรือเปล่า” เสียงทรงอำนาจปลายสายเอ่ยขึ้น

“ไม่ครับ ป๊ามีอะไรหรือเปล่า”

ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามปรับให้เป็นปกติมากที่สุดเพราะไม่อยากให้บิดาของเขาได้รู้ว่าเขานั้นหวั่นเกรงต่อการกลับมาของผู้เป็นบิดา

“พอดีมีออร์เดอร์พิเศษจากเพื่อนป๊า ก็เลยโทรมาแจ้งแกก่อน ส่วยรายละเอียดเดี๋ยวป๊าจะให้เลขาฯเมล์ไปให้แกอีกที” 

ชายหนุ่มวางสายด้วยความโล่งใจ หลังจากที่รู้ว่าบิดาของเขายังไม่มีกำหนดในการกลับมาฮ่องกง เขาจะได้จัดการกับเรื่องส่วนตัวที่เขาหมายมั่นไว้ให้เสร็จก่อนที่บิดาของเขาจะรู้เรื่อง เพราะถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูของมิสเตอร์อลัน วู เขาคงมีหวังได้โดนบ่นยกใหญ่รวมทั้งจินนี่ก็จะไม่ปลอดภัยด้วย

แอนดี้เปิดลิ้นชักในโต๊ะทำงานเพื่อหยิบรูปภาพของสาวน้อยผิวขาวผมยาวสีน้ำตาลทองเป็นกายยามต้องแสงแดด แต่นั่นก็ยังไม่โดดเดนตรึงใจเท่ากับแก้มเนียนใสแดงระเรื่อน่าเอาริมฝีปากไปกดแนบยิ่งนักและที่ร้ายกาจจนเขาแทบคลั่งคือริมฝีปากอิ่มสวยสีชมพูแสนหวานที่เขาอยากจะลิ้มรสอีกครั้ง

‘ใกล้เวลาที่ฉันจะได้เธอมาครอบครองแล้วสินะ จินนี่’

มือหนาไล้ลงบนภาพถ่ายของหญิงสาวที่เขาได้มาจากนักสืบอย่างหลงใหลก่อนจะก้มลงจุมพิตแผ่วที่ภาพถ่ายนั้นอีกครั้งก่อนจะเก็บลงลิ้นชักตามเดิม ชายหนุ่มนั่งทำงานอย่างลืมเวลากว่าจะรู้ตัวก็ต่อเมื่อมิเชลเลขาฯหน้าห้องของเขาเข้ามาถามก่อนเวลาเลิกงานตามหน้าที่ของเลาขาฯมืออาชีพ

“คุณแอนดี้จะอยู่ทำงานต่อหรือว่าจะกลับคะ” เลขาฯหน้าห้องเข้ามาถามชายหนุ่มตามกน้าที่หลังจากเลยเวลาเลิกงานมาพักใหญ่

“ผมขอทำงานต่ออีกสักพัก ใกล้เวลาเลิกงานคุณก็กลับได้เลยคุณมิเชล”

เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มยืนยันจะทำงานตามเดิมเลขาฯสาวรุ่นพี่จึงกลับมายังโต๊ะทำงานเพื่อเก็บของใช้ส่วนตัวและปิดอุปกรณ์ทำงานเพื่อเตรียมกลับบ้าน

‘เฮ้อ เสร็จซะที’

แอนดี้พูดกับตัวเองหลังจาตรวจเอกสารเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มยกข้อมือเพื่อดูเวลาจากนาฬิกาเรือนหลักแสนซึ่งบอกเวลาใกล้จะสามทุ่ม ชายหนุ่มคว้ากระเป๋าเอกสารก้าวออกจากห้องทำงานตรงไปยังรถคู่กายที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถของผู้บริหาร ชายหนุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ทันทีหลังจากก้าวเข้าด้านใน จุดหมายปลายทางในความคิดของแอนดี้ตอนนี้คือร้านกาแฟจิลเลียนเท่านั้นซึ่งมันก็ใกล้เวลาปิดร้านเข้าไปเต็มทีชายหนุ่มจึงต้องเร่งความเร็วเครื่องยนต์เพื่อไปให้ทันก่อนที่หญิงสาวจะเลิกงาน

และด้วยความเร็วและความแรงของรถสปอร์ตทำให้ใช้เวลาเพียงสี่สิบนาทีก็มาถึงยังหน้าร้านกาแฟที่จินนี่ทำงาน แต่ดูเหมือนจะช้าไปเพราะไฟในร้านดับมืดประตูร้านปิดสนิท ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะค่อยขับรถไปยังตามทางอย่างช้าๆฉับพลันสายตาเฉียบคมก็สะดุดตากับสาวน้อยร่างบางที่เดินอยู่ริมฟุตบาทจนชายหนุ่มขับรถเข้าไปไปจนในระยะที่มองได้ชัดเจน

‘จินนี่ ใช่เธอจริงๆแม่นกน้อยของฉัน’ ชายหนุ่มยิ้มพรายด้วยความดีใจก่อนจะบีบแตรรถเพื่อเรียกให้หญิงสาวหันมา

หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันไปมองต้นเสียงด้วยความแปลกใจระคนสงสัยว่าใครกันที่บีบแตรเรียกเธอจนเมื่อกระจกรถค่อยๆลดระดับลงจนเห็นผู้เป็นเจ้าของรถใบหน้าหวานถึงกับเปลี่ยนสีทันที

“คุณ!” หญิงสาวรีบสาวเท้าจ้ำอ้าวๆอย่างไม่รีรอ

ชายหนุ่มไม่ลดละขับรถไล่ตามจนมาดักด้านหน้าหญิงสาวในจังหวะที่ร่างบางกำลังจะข้ามไปอีกฝั่งเพื่อหนีเขา แอนดี้เปิดประตูรถแล้วก้าวพรวดไปยึดแขนเล็กๆของคนตัวเล็ก

“เธอหนีฉันทำไม” ชายหนุ่มถามเสียงเครียดพลางบีบต้นแขนกลมกลึงนั้นสุดแรงจนหญิงสาวนิ่งหน้าด้วยความเจ็บ

“ปล่อย ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ คนน่ารังเกียจ” จินนี่แหวใสพร้อมกับดิ้นรนให้หลุดพ้นจากมือแกร่งที่แข็งแรงปานคีมเหล็ก

“มันจะมากไปแล้วนะสาวน้อย เธอรู้หรือเปล่าว่ากำลังพูดอยู่กับใคร”

 แอนดี้ออกแรงบีบรัดต้นแขนบางก่อนจะกระชากหญิงสาวให้เข้าไปยังด้านในรถก่อนจะปิดประตูฝั่งที่เด็กสาวนั่งส่วนชายหนุ่มก็รีบกลับมายังด้านในฝั่งคนขับ

จินนี่เปิดประตูรถเตรียมจะก้าวลงทันทีเมื่อชายหนุ่มกำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ แต่โชคก็ไม่เข้าข้างเธอเลยสักนิดเมื่อชายหนุ่มกระชากร่างของเธอกลับมานั่งตามเดิมก่อนจะดึงเข็มขัดนิรภัยคาดให้กับหญิงสาวเพื่อความปลอดภัยและกันการหลบหนี

“คุณปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันเป็นห่วงแม่”

จินนี่อ้อนวอนหวังจะให้ชายหนุ่มเห็นใจและปล่อยเธอไป แต่ดูจะไร้วี่แววเพราะนอกจากเขาจะไม่สนใจแล้วยังเร่งสปีดเครื่องยนต์เพิ่มความเร็วจนจินนี่รู้สึกกลัว หญิงสาวหันไปตบกระจกรถฝั่งที่เธอนั่งเมื่อชายหนุ่มหยุดรถเพื่อรอสัญญาไฟจราจร

ปึง!ๆๆ

“ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ” หญิงสาวตะโกนเสียงลั่นด้วยหวังว่ารถคันที่รอสัญญาณไฟด้านข้างจะได้ยิน

“เงียบ! ฉันบอกให้เงียบ” เสียงกร้าวตวาดก้องลั่นรถจนคนที่ร้องโวยวายถึงกับหน้าซีดปากสั่นหยุดร้องโวยวายทันทีด้วยความกลัว

แอนดี้เหยียบคันเร่งเมื่อเห็นสัญญาไฟเปิดทางให้รถในเลนของเขา ก่อนที่ชายหนุ่มจะเร่งความเร็วของเครื่องยนต์รถหรู ไม่นานแอนดี้ก็มาถึงเซฟเฮ้าส์ส่วนตัวซึ่งเขามักจะมาพักยามที่ต้องการพักผ่อนจริงๆ ร่างสูงก้าวลงจากรถด้วยสีหน้านิ่งเฉยต่างสายสายตาที่กำลังติช่วงไปด้วยเปลวเพลิง

ปึง!!

ชายหนุ่มปิดประตูรถดังสนั่นทำเอาร่างบางที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ในรถถึงกับสะดุ้ง แอนดี้เดินอ้อมาอีกฝั่งก่อนจะเปิดประตูรถฝั่งที่คนตัวเล็กนั่งอยู่ มือแกร่งคว้าต้นแขนบอบบางแล้วออกแรงกระชากเพื่อลากหญิงสาวเข้าไปด้านในเซฟเฮ้าส์

“ลงมาแม่นกน้อย” ชายหนุ่มสั่งเสียงแข็งพร้อมกับออกแรงกระชากร่างบางในทันที

“ไม่ ฉันไม่ลงไปกับคุณ ปล่อยฉันนะไม่งั้นฉันร้องให้คนช่วย” จินนี่ขู่ฟ่อพร้อมกับยึดเบาะนั่งเป็นหลัก

“เก็บเสียงไว้ร้องครางบนเตียงดีกว่ามั้งสาวน้อย ยิ่งเธอพยศฉันก็ยิ่งชอบ” คำพูดและแววตาที่บ่งบอกถึงความต้องการทำเอาหญิงสาวถึงกับตัวชาดวงตาคู่สวยเบิกกวางด้วยความตกใจ

แอนดี้ยิ้มมุมปากแล้วก้มลงปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยให้หญิงสาวก่อนจะตัดสินใจช้อนร่างบางที่พยายามขืนตัวเองขึ้นอุ้มแล้วสาวเท้ายาวๆเข้าด้านในเซฟเฮ้าส์ซึ่งถูกตกแต่งในสไตล์วินเทจที่เน้นสีขาวและสีดำเป็นหลัก

“ไม่นะ ฉันขอร้องล่ะ อย่าทำอะไรฉันเลย” เสียงหวานอ้อนวอนร้องขอพร้อมกับดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดแกร่ง  ดวงตาคู่สวยเริ่มร้อนผ่าวเมื่อรับรู้ถึงชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นว่าเธอคงหนีไม่พ้นอุ้งมือซาตานหน้าหยกคนนี้

นักธุรกิจหนุ่มโยนร่างบางลงบนเตียงกว้างขนาดคิงส์ไซด์ภายในห้องนอนของเขาทันที วินาทีแรกที่แผ่นหลังสัมผัสกับที่นอนสาวน้อยก็ถึงกับหน้าซีดตัวสั่นกระถดถอยด้วยความหวาดกลัวผู้ชายตรงหน้านี้จับหัวใจ มือบางฉวยหมอนใบโตขว้างใส่ร่างสูงที่กำลังคืบคลานเข้ามาก่อนจะกระโจนหนีลงไปอีกด้านหนึ่งของเตียง

“เธอหนีฉันไม่พ้นหรอกจินนี่” แอนดี้คว้าร่างบางแล้วเหวี่ยงกลับลงมาบนเตียงใหญ่อีกครั้งก่อนที่ชายหนุ่มจะโถมทับร่างบางเพื่อกักร่างบางไว้ใต้ร่าง

“อย่า ได้โปรดอย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ” จินนี่อ้อนวอนอย่างหวาดหวั่น

“ฉันจะทำให้เธอสุขสบายสาวน้อย เพียงแค่เธอยอมให้ฉันเชยชมเนื้อตัวและความสาวอันแสนหวานของเธอ” แอนดี้กระซิบเสียงพร่าชิดกกหูเนียนบางของหญิงสาวใต้ร่าง

“ไม่มีวัน และฉันก็ไม่ได้ต้องการสุขสบายด้วยวิธีการที่คุณกำลังจะยัดเยียดให้ เพราะฉันมีคนรักอยู่แล้ว” จินนี่โกหกคำโตเรื่องที่เธอมีคนรักเพราะอยากให้เลิกยุ่งกับเธอหากรู้ว่าเธอมีแฟนแล้ว

ร่างสูงด้านบนชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดกระแทกใจจากหญิงสาว ความรู้สึกเจ็บร้าวในอกคล้ายกับมีเหล็กแหลมนับพันทิ่มแทงให้เขารู้เจ็บเจียนตาย แอนดี้เพ่งพินิจใบหน้าเนียนสวย จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากสีหวานและแก้มใสแดงระเรื่ออย่างรู้สึกกระหาย และเขาคงต้องเป็นบ้าหากจะต้องเสียเธอไปให้กับคนอื่น 

“งั้นเธอก็คงต้องเลิกกับมันแล้วล่ะ เพราะนับจากเวลานี้เธอต้องเป็นของฉัน ของฉันเท่านั้น”

แอนดี้ประกาศกร้าวก่อนจะก้มลงซุกไซ้ซอกคอขาวนวล มือหนารวบข้อมือบางทั้งสองข้างที่พยายามดันร่างกายหนาหนักของเขาให้ออกห่างไว้เหนือศีรษะได้รูปสวย ในขณะที่มืออีกข้างทำหน้าที่ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเหยื่อสาวจนเผยให้เห็นเนื้อนวลขาวละลานตาจนนักธุรกิจหนุ่มผู้โชกโชนในเกมรักถึงกับกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเรือนร่างเย้ายวนปรากฏต่อสายตา

“ดะ ได้โปรด อย่าทำอะไรฉันเลย” หญิงสาวอ้อนวอนเสียงสั่น ดวงตาคู่สวยปริ่มไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความอดสูใจต่อโชคชะตาของตัวเอง

“เห็นทีจะไม่ได้แล้วล่ะสาวน้อย เพราะฉันกระสันอยากจะฝากฝังในตัวเธอใจแทบขาด” คำพูดแสนร้ายกาจหลุดมาจากริมฝีปากสีเข้ม

“คนเลว เห็นแก่ตัว คิดแต่เรื่องน่ารังเกียจ ฉันจะแจ้งความถ้าคุณล่วงเกินฉันไปมากกว่านี้” จินนี่บริภาษใส่รวมทั้งพยายามขู่ชายหนุ่มอย่างเหลืออด

“ฉันรับรองว่าเรื่องน่ารังเกียจที่เธอว่าจะทำให้เธอครางด้วยความเสียวซ่านแทบขาดใจ” แอนดี้แสยะยิ้มอย่างน่ากลัวก่อนที่มือหนาจะลูบไล้ไปตามผิวเนื้อขาวเนียนตั้งแต่ต้นขาเรียวสวยไล่ขึ้นไปยังเอวคอดกิ่วจนมาหยุดที่ทรวงอกอวบใหญ่เกินตัวที่แค่เพียงชายหนุ่มสัมผัสหัวใจของเขาก็เต้นระส่ำ

“ยะ อย่า เอามือสกปรกของคุณออกไป ฉัน...”

เสียงหวานร้องห้ามได้เพียงเท่านั้นเมื่อริมฝีปากสีเข้มบดเคล้าลงมาบนกลีบปากสีกุหลาบอย่างหนักหน่วงก่อนจะแทรกลิ้นร้อนเข้าไปซอกซอนรสหวานภายในอุ้งปากสวยอย่างกระหายในรสหวาน แอนดี้ถึงกับครางด้วยความพึงใจในรสชาติหวานล้ำของอุ้งปากเรียวสวยเผลอจูบตอบย่างไม่ประสาแต่สามารถเร่งเชื้อไฟแห่งความปรารถนาได้อย่างไม่น่าเชื่อ มือแกร่งปล่อยข้อมือบางให้เป็นอิสระเมื่อรู้สึกว่าหญิงสาวเบื้องใต้สิ้นฤทธิ์ลง

จินนี่สั่นสะท้านจากจุมพิตเร่าร้อนแต่นั่นยังไม่สร้างความหวาดหวั่นเท่ากับอุ้งมือแกร่งที่บีบเคล้นขยำทรวงอกอวบอย่างเน้นหนักจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บ

“อื้อ อื๊ย”

เสียงหวานครางประท้วงในลำคอ เมื่อถูกริมฝีปากร้อนรุกอย่างหนักหน่วง ลิ้นร้ายเกี่ยวรัดลิ้นนุ่มจนหญิงสาวถึงกับอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงขัดขืนใด

‘หึๆ ฉันจะขย้ำเธอทั้งคืนเลยแม่นกน้อยของฉัน’

คนที่กำลังเมามันกับของเล่นชิ้นสวยคิดในใจก่อนจะถอนจุมพิตร้ายจะกลีบปากบางที่บวมเจ่อเพราะแรงบดเคล้าอย่างเอาแต่ใจก่อนจะลากไล้ริมฝีปากหนาไปตามลำคอขบเม้มตามแรงอารมณ์ที่กำลังร้อนขึ้นทุกขณะจนเป็นรอยช้ำจ้ำแดง มือแกร่งยังคงเพลิดเพลินกับการเคล้นคลึงดอกบัวคู่งาม

“อ๊ะ อ๊า ไม่...”

หญิงสาวถึงกับครางกระเส่าเมื่อริมฝีปากร้อนครอบครองยอดทรวงสีทับทิม ปลายลิ้นร้อนไล้วนยอดถันอย่างหยอกเย้าก่อนจะดูดดุนราวกับกระหายใคร่อยาก มือแกร่งที่ยังคงสำรวจทุกตารางนิ้วบนเรือนกายบอบบางที่บิดเร้าอยู่ใต้ร่างแกร่ง

“หน้าอกเธอนี่ใหญ่เกินตัวกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะ ขยำเต็มมือฉันดีจริงๆ” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองร่างบางเบื้องใต้ที่นอนหอบหายใจสะท้าน หลังจากลิ้มรสยอดทรวงสีหวานจนแดงช้ำ

ร่างสูงยิ้มมุมปากเมื่อถึงเวลาที่เขาต้องกินของหวานตรงหน้านี้เสียที ชายหนุ่มผละจากร่างบางเพื่อจัดการอาภรณ์หรูยี่ห้อดังที่เป็นสิ่งขวางกั้นความปรารถนาที่กำลังพลุ่งพล่านอย่างขีดสุดก่อนจะทาบทับลงมาอีกครั้งพร้อมกับกอดรัดฟอนเฟ้นไปตามจุดอ่อนไว้ต่างๆของกายสาว

“คน สารเลว ฉันเกลียดคุณ” จินนี่แหวใส่พร้อมกับออกแรงผลักร่างสูงที่กำลังจะสร้างตราบาปบนกายเธอเพราะความเห็นแก่ตัว

“ถ้าฉันสารเลวเธอไม่มีแรงมาด่าฉันแบบนี้หรอกนะจินนี่” ชายหนุ่มเค้นเสียงรอดไรฟันอย่างเดือดดาลในคำพูดของหญิงสาว

“ไม่มีคนดีๆที่ไหนเขาทำแบบคุณหรอกเพราะมันน่ารังเกียจ น่าขยะแขยง”

หญิงสาวหาได้รู้ไม่ว่าคำพูดของเธอที่โพล่งออกไปเสมือนพิษร้ายที่ย้อนกลับมาฆ่าเธอ เพราะนอกจากมันจะไม่ทำให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำมันยังเพิ่มแรงกระตุ้นให้ชายหนุ่มทำกับเธอรุนแรงกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ

“งั้นก็เธอก็คงต้องรังเกียจและขยะแขยงตัวเองด้วยเพราะฉันจะทำให้เธอรู้จักคำว่าการเสพสมระหว่างชายหญิงมันทั้งสนุกและเร้าใจขนาดไหน บางทีเธออาจจะติดใจจนเป็นฝ่ายมาขอให้ฉันทำให้ก็ได้” แอนดี้จ้องลึกไปที่ดวงตาคู่สวยที่แดงก่ำมิใช่เพราะร้องไห้ แต่เธอกำลังโกรธจัดจนแทบจะฆ่าเขาเลยก็ว่าได้

“สารเลว ฉันเกลียดคุณ ได้ยินไหม ฉันเกลียดคุณ” หญิงสาวเน้นคำว่าเกลียดเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกสึกเจ็บ

“ห้ามเธอพูดคำว่าเกลียดฉันอีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันใจร้าย”

“ฉันจะพูดก็เพราะคุณมันน่ารังเกียจ ฉันเกลียดคุณ ได้ยินไหม ฉันกะ...” เสียงหวานพูดยังไม่ทันจบประโยคก็ถูกจุมพิตร้อนลงทัณฑ์อย่างหน่วงจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บไปทั่วกลีบปากนุ่ม

มือแกร่งยึดข้อมือบางทั้งสองข้างกดไว้บนที่นอนด้วยมือแกร่งเพียงข้างเดียว ก่อนที่มือข้างที่ว่างจะกอบกุมบีบเคล้นทรวงอกสวยเต็มแรง ขาแกร่งแทรกกลางขาเรียวทั้งสองข้างของหญิงสาวก่อนจะบดเบียดความยิ่งใหญ่บนสวนดอกไม้ที่เริ่มฉ่ำเยิ้ม

  “เธอได้ลุกเป็นไฟแน่แม่สาวน้อย”

แอนดี้ยังคงข่มขวัญเหยื่อสาวหลังจากมอบจุมพิตลงทัณฑ์แสนร้ายกาจ มือแกร่งละจากความนุ่มหยุ่นล้นมือ ค่อยไล้ผ่านลงมายังหน้าท้องแบนราบไล่ต่ำลงมายังเนินเนื้อแห่งกายสาวก่อนจะกดแทรกนิ้วร้ายเข้าไปด้านในหลืบลึก ร่างบางถึงกับสะดุ้งเมื่อชายหนุ่มขยับนิ้วแกร่งเข้าออกอย่างช้าๆก่อนจะเร่งจังหวะเพิ่มความแรงในการกดแทรกเข้าไปภายในความอ่อนนุ่ม

" อะ...อ๊ะ!...มะ...ไม่..."

หญิงสาวครางกระเส่า เมื่อชายหนุ่มสร้างความเสียวซ่านให้กับเธอได้อย่างมากมาย และเธอก็ต้องร้องออกมาเสียงดังอีกครั้ง เมื่อเขาได้สะกิดปมแห่งความรู้สึกภายในตัวเธอ แอนดี้เองก็พลุ่งพล่านด้วยอารมณ์และวามต้องการที่ไม่ต่างกับหญิงสาว เสียงหวานครางเป็นระยะๆ สร้างความเขารู้สึกเรียกร้องให้กับชายหนุ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...เขาต้องการเธอ...เดี๋ยวนี้ !!!

ชายหนุ่มดึงนิ้วแกร่งออกจากเนินเนื้อแห่งกายสาวที่อ่อนนุ่มฉ่ำเยิ้มก่อนจะส่งความแข็งขืนเข้าแทรกลึกลงไปในกายสาว

“กรี๊ดด! เจ็บ ฉันเจ็บ ออกไป เอามันออกไป”

จินนี่กรีดร้องอย่างเจ็บปวด ดวงตากลมเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความร้าวรานอย่างสุดจะทน เมื่อร่างสูงพยายามเดินหน้าฝ่าความคับแน่นรัดตึงที่บีบรัดความเป็นชายของเขาจนปวดร้าว ชายหนุ่มตัดสินใจเดินหน้ากระแทกแก่นกายในครั้งเดียวจนสุดทาง

“โอ้...เดี๋ยวเธอก็จะรู้สึกดี เชื่อฉันสิสาวน้อย” แอนดี้พูดเสียงพร่าพลางขยับสะโพกสอบเข้าใส่ร่างบางอย่างหนักหน่วง กระแทกกระทั้นถาโถมเข้าใส่ร่างบางอย่างเอาแต่ใจ

 “พะ พอ ซักที ฉันขอร้อง อื้อ…อื๊ย” หญิงสาวอ้อนวอนกระท่อนกระแท่นตามจังหวะถาโถมเข้าใส่ของร่างหนา

“ยัง มันยังไม่พอ ฉันต้องการมากกว่านี้” ร่างสูงกระแทกแก่นกายเข้าใส่ร่างบางอย่างบ้าคลั่งไม่นำพาต่อความเจ็บปวดของหญิงสาวเลยสักนิด ชายหนุ่มปล่อยมือบางเพื่อเปลี่ยนมากอบกุมบั้นท้ายขาวเนียน บีบขยำไปตามแรงอารมณ์ดิบเถื่อนจนผิวขาวๆของหญิงสาวเป็นรอยแดงก่อนจะรั้งสะโพกผายขึ้นรับแรงกระแทกที่อัดใส่ไม่ยั้ง

“อ๊ะ อ๊ะ มะ ฉันไม่ไหวแล้ว”

 จินนี่สั่นสะท้านไปตามแรงกระแทกกระทั้นที่ถาโถมเข้าใส่เธออย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทรวงอกคู่สวยกระเพื่อมไหวขึ้นลงราวกับเรียกร้องชวนเชิญให้อีกฝ่ายสัมผัส

“เดี๋ยวเธอจะรู้สึกมากกว่านั้นอีก”

ชายหนุ่มโน้มหน้าลงไปดื่มกลืนยอมถันสีทับทิมที่สั่นไหวเรียกความเสียวซ่านให้กับหญิงสาวมากขึ้นไปอีกเมื่อถูกจู่โจมอย่างหนักหน่วง แอนดี้เร่งจังหวะถาโถมกระแทกเข้าใส่รัวเร็วกระชั้นชิดในช่วงใกล้จะสิ้นสุดแห่งความปรารถนา

“อ่าห์.../กรี๊ดดดด” เสียงทุ้มครางกระหึ่มของชายหนุ่มสอดประสานกับเสียงหวานของจินนี่เมื่อถึงจุดปะทุแห่งความหฤหรรษ์พร้อมด้วยสายธารแห่งรักที่ระเบิดใส่ข้างในกายหญิงสาวจนเธอรู้สึกร้อนผ่าวไปถึงช่องท้องและความฉ่ำเยิ้มที่ไหลเอ่อมาตามเรียวขา

“เธอนี่มันของหวานชั้นเยี่ยมจริงๆ ฉันชักติดใจเธอแล้วสิ”ร่างสูงล้มตัวลงนอนแผ่หลาหลังจากถอนแก่นกายออกจากความฉ่ำชื้นแห่งกายสาวที่บวมช้ำจากแรงกระแทกกระทั้นอย่างเอาแต่ใจ

“ปล่อยฉันไปได้หรือยัง” หญิงสาวถามเสียงแผ่ว ดวงหน้าหวานเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่เอ่อไหลไม่ขาดสายด้วยความเสียใจกับโชคชะตาและสิ่งที่สูญเสียไป

แอนดี้หยัดกายขึ้นมองร่างบางไล่สายตาสำรวจไปทั่วทั้งร่างที่เขาเพิ่งจะเชยชม ใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากสีหวานที่บวมเจ่อ ลำคอระหงที่เต็มไปด้วยรอยจ้ำจากแรงปรารถนาที่ยากจะห้ามไหว ทรวงอกคู่งามเต็มไม้เต็มมือที่เขาบีบขยำอย่างเน้นหนัก จนมาถึงเนินสาวที่บวมช้ำและที่ทำให้แอนดี้ถึงกับตกใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ รอยเลือดที่ไหลเต็มสองขาเรียวเพราะแรงที่เขาถาโถมโรมรันจนหญิงสาวถึงกับบอบช้ำ

“เธอนอนพักให้สบายก่อนแล้วฉันจะไปส่งเธอเอง” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะก้มลงจุมพิตแผ่วที่หน้าผากเนียนมน

“ชิส์…ขยะแขยง” จินนี่สะบัดหน้าหนีสัมผัสอบอุ่นนั้นด้วยความรังเกียจ เพราะทุกการกระทำของชายหนุ่มมันทำให้เธอรู้สึกสกปรก มืดมนจนอยากจะตายเสียให้ได้

“ปากเธอน่ะมีไว้ให้ฉันจูบและมอบความสุขให้ฉันในบทเรียนครั้งหน้า แต่ถ้ายังพ่นคำด่าใส่ฉันอีกแม้แต่คำเดียวจะทำเหมือนอย่างเมื่อกี้กับเธอยันเช้าเลยคอยดู” มือแกร่งบีบลงบนแก้มเนียนใสจนเป็นรอยแดงพร้อมกับจ้องมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะที่พยายามข่มใจเพราะชายหนุ่มไม่อยากจะทำร้ายหญิงสาวไปมากกว่านี้

ร่างสูงลุกขึ้นจากเตียงในตรงไปคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำขึ้นมาสวมใส่อย่างลวกๆก่อนจะเดินกลับมานั่งข้างๆร่างบางที่นอนร้องไห้อย่างน่าสงสาร ชายหนุ่มรู้ตัวว่าเขาทำรุนแรงเกินไปแต่เขาก็ห้ามความรู้สึกและความต้องการไม่ได้จริงๆ แอนดี้ก้มลงพรมจูบลงบนไหล่มนอย่างแผ่วเบาด้วยต้องการปลุกปั่นให้หญิงสาวพร้อมกับเกมรักที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง

จินนี่พยายามเบี่ยงร่างหลบสัมผัสร้อน หญิงสาวรู้สึกเหนื่อยล้าและยังเจ็บร้าวบริเวณส่วนล่างที่เพิ่งถูกจู่โจมอย่างหนัก

“ยะ อย่า กรุณาสงสารฉันเถอะค่ะ” หญิงสาวร้องขอความเห็นใจจากชายหนุ่มที่กำลังถูกซาตานสิงร่างครอบงำจนไม่หลงเหลือความเห็นใจใดๆนอกจากความต้องการของตัวเองเท่านั้น

“ฉันกำลังให้ความกรุณากับเธออยู่นี่ไงสาวน้อย”

น้ำเสียงแหบพร่าชิดซอกคอระหงที่เต็มไปด้วยรอยช้ำจ้ำแดงจากการขบเม้มด้วยแรงอารมณ์ แอนดี้ลากไล้ริมฝีปากร้อนผะแผ่วในขณะที่มือแกร่งกอดผลักร่างบางที่ยังสะอื้นไห้ให้นอนหงายลงบนที่นอนอีกครั้งก่อนจะกอบกุมความอวบใหญ่ขยำเต็มแรงด้วยความมันในอารมณ์

“พอสักที ฉันไม่ไหวแล้ว ได้โปรด” หญิงสาวร้องขอเสียงเครือ มือไม้ปัดป่ายผลักไสร่างแกร่งพัลวัน

“แต่ฉันยังต้องการ ได้ยินไหมสาวน้อยว่าฉันยังกระหายในตัวเธออยู่” แอนดี้คร่อมร่างบางก่อนที่ปลดสายเสื้อคลุมแล้วจัดการดำเนินเพลงรักที่เร่าร้อนลงบนเรือนกายบอบบางอีกครั้งอย่างหนักหน่วงไม่ต่างจากครั้งแรก ทุกจังหวะของแรงกระหน่ำตอกย้ำความเจ็บปวดให้กับสาวน้อยที่นอนกัดฟันข่มความรู้สึกปวดร้าวราวกับตุ๊กตาที่ยอมให้อีกฝ่ายกระทำตามอำเภอใจด้วยรู้ว่าแม้เธอจะขัดขืนผลสุดท้ายก็มีแต่เจ็บวันยังค่ำ

“โอว...พระเจ้า ให้ความรู้สึกดีเหลือเกิน อ่าห์...” แอนดี้ครางอย่างสุขสมหลังจากกายแกร่งกระแทกในจังหวะสุดท้ายก่อนจะกดแช่ความแข็งขืนเพื่อปลดปล่อยสายธารแห่งความกระสันลงในกายสาว ชายหนุ่มฟุบลงบนทรวงอวบนุ่มหยุ่นที่ให้ความรู้สึกสบายมากกว่าหมอนหนุนใบไหนๆ

“ลงไป...ลงไปจากตัวฉันได้แล้ว” จินนี่ออกปากไล่เสียงแข็ง แววตาเย็นชาไร้ความรู้สึกปรากฏเด่นชัดจนร่างสูงที่เงยขึ้นสบสายตาถึงกับรู้สึกชาวาบไปถึงสันหลัง แอนดี้ลุกขึ้นจากร่างบางโดยไมลืมที่จะคว้าเสื้อคลุมสวมทับก่อนจะลุกขึ้นก้าวออกจากห้องด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกใดผิดกับหญิงสาวที่ถึงกับร้องไห้ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะทนจนกระทั่งหลับไปในที่สุดด้วยความอ่อนเพลีย

‘ฉันขอโทษ แต่มันห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ’ แอนดี้พูดกับตัวเองก่อนจะตรงไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่มเพื่อหาเครื่องดื่มดีกรีแรงดับความร้อนรุ่มในใจ

 

รุ่งสางของวันใหม่ที่ไม่ค่อยสดใสนักสำหรับหญิงสาวที่สูญเสียสิ่งหวงแหนในชีวิตไป จินนี่มองไปรอบๆห้องไม่เห็นคนใจร้ายเธอจึงค่อยๆหยัดกายขึ้นจากที่นอนแต่หญิงสาวก็ต้องฟุบลงไปอย่างสุดทนเมื่อความเจ็บปวดบริเวณช่วงล่างแล่นปราดกระทบความรู้สึกทุกอณูจนจินนี่จะต้านทานไหว

“โอ๊ย!” ใบหน้าหวานเหยเกด้วยความรู้สึกเจ็บร้าว พลางยกมือขึ้นกุมท้องน้อย หญิงสาวเหลือบมองรอยเลือดด่างดวงบนเตียงกว้างน้ำตาเจ้ากรรมก็พลันเอ่อล้นด้วยความเสียใจกับสิ่งที่ถูกคนใจร้ายพรากไปอย่างป่าเถื่อน จินนี่ค่อยๆก้าวลงจากเตียงอย่างช้าๆ ทุกก้าวที่หญิงสาวฝืนเดินสร้างความเจ็บลึกภายในกายให้กับเธอยิ่งนัก แต่หญิงสาวก็จำต้องฝืนทนเมื่อเหลือบมองดูเวลาจากนาฬิกาบนผนังห้องก็ยิ่งทำให้เธอรีบแต่งตัว

‘ป่านนี้แม่คงเป็นห่วงเราแย่แล้ว’ หญิงสาวพึมพำเบาๆขณะพยายามฝืนก้าวเดินไปยังประตูห้อง แต่ยังไม่ทันที่เธอจะก้าวไปถึงร่างสูงก็ก้าวเข้ามาด้วยสีหน้าที่สร้างความหวาดหวั่นให้กับจินนี่ยิ่งนัก

“มีแรงลุกขึ้นมาแล้วหรือ” ชายหนุ่มถามเสียงกระด้างปราศจากความรู้สึกอ่อนโยนหรือความเป็นห่วงอย่างคนที่เคยผูกพันกันทางร่างกายควรจะทำ

“จะกลับบ้าน” หญิงสาวตอบสั้นๆ ดวงตาบวมช้ำจ้องมองคนถามราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ พร้อมกับพยายามกัดฟันฝืนเดินโดยไม่สนใจสายตาดุๆของผู้เป็นเจ้าของห้องเลยสักนิด

“ฉันบอกแล้วไงว่าจะไปส่ง”

แอนดี้ช้อนร่างบางขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมกอดเพื่อพาหญิงสาวกลับไปที่เตียงนอนฉับพลันสายตาเฉียบคมก็เหลือบไปเห็นรอยเลือดแห่งพรหมจรรย์ที่เขาเป็นคนพรากมาอย่างเลือดเย็น แม้ลึกๆจะรู้สึกอิ่มเอมใจแต่เขาก็รู้สึกสงสารหญิงสาวอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อทุกอย่างดำเนินมาถึงจุดที่วกกลับเขาก็ต้องเดินหน้าต่อไป ชายหนุ่มสลัดความกังวลใจทั้งหมดรีบปลีกตัวเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย

ผ่านไปเกือบสี่สิบนาทีที่หญิงสาวนั่งรอด้วยความกังวลใจถึงมารดา จนร่างสูงก้าวออกจากห้องแต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำยี่ห้อหรูดูภูมิฐานในมาดนักธุรกิจจนหญิงสาวถึงกับเผลออายๆหลบสายตาคมทันทีที่ชายหนุ่มจ้องมองมาที่เธอ

“เธอหิวหรือเปล่า ฉันจะได้พาเธอทานข้าวก่อนจะไปส่งที่บ้าน” ชายหนุ่มถามน้ำเสียงนุ่มนวล

หญิงสาวไม่ตอบได้แต่ก้มหน้าส่ายศีรษะเบาๆก่อนจะค่อยๆเดินออกจากห้องด้วยความเจ็บแปลบภายใน โดยมีร่างสูงก้าวตามหลังหญิงสาวมาด้วยความเป็นห่วงจนไปถึงรถสปอร์ตคู่กายที่จอดนิ่งอยู่หน้าเซฟเฮ้าส์ จินนี่บอกชายหนุ่มให้จอดที่หน้าถนนใหญ่เพราะเธอต้องการนั่งรถโดยสารกลับเองเพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มรู้จักบ้านของเธอ

“จอดตรงนี้ล่ะ ฉันจะลง” จินนี่บอกกับซาตานร้ายที่ทำลายเธอด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง

“ฉันบอกแล้วไงว่าจะไปส่งเธอที่บ้าน ถ้าเธอไม่ให้ฉันไปส่ง ฉันจะตีรถกลับไปที่เซฟเฮ้าส์วิมานรักของเราใหม่อีกรอบดีไหม” แอนดี้งัดไม้ตายที่หญิงสาวไม่มีทางปฏิเสธและก็ดูเหมือนจะได้ผล เพราะนอกจากหญิงสาวจะยอมให้เขาไปส่งที่บ้านแล้วตลอดทางเธอนั่งนิ่งคล้ายกลับคิดหนัก ไม่นานชายหนุ่มก็เลี้ยวรถเข้าไปตามทางเล็กๆเกือบหนึ่งกิโลเมตรจากถนนใหญ่กว่าจะถึงอพาร์ทเม้นท์เล็กๆที่ดูเก่าซอมซ่อแถมยังจอแจไปด้วยผู้คนหลากหลายอาชีพและที่น่ากลัวคือพวกขี้เมาที่นอนอยูตรงทางเข้าอพาร์ตเม้นท์ดังกล่าวอย่างไม่สนใจผู้ที่เดินเข้าเลยสักนิด

“ขอบคุณที่มาส่ง” จินนี่รีบก้าวออกจากตัวรถอย่างเร็วเมื่อมาถึงที่พักโดยไม่สนใจแม้แต่จะหันมามองสายตาอาวรณ์ของคนชายหนุ่มที่มาส่งเธอ

‘ฉันจะทำให้เธอมีความสุขกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แม่นกน้อยของฉัน’ แอนดี้คิดในใจขณะขับเคลื่อนรถคู่กายออกจากบริเวณนั้นเพื่อตรงไปยังบริษัทฯ

จินนี่พยายามปรับสีหน้าไม่ให้ดูผิดปกติเพื่อไม่ให้มารดาของเธอรู้ถึงความทุกข์ใจที่เธอได้รับ มือบางเปิดประตูเข้าไปด้านในห้องพักก็พบกับร่างมารดาเธอนอนหลับอยู่บนโซฟา หญิงสาวโผเข้าไปกอดร่างซูบผอมที่นอนนิ่งด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้มารดาเธอต้องมานั่งรอ

“มาแล้วหรือลูก หายไปไหนมาทั้งคืนทำไมเพิ่งกลับมาป่านนี้ แล้วนี่หนูกินข้าวมาแล้วหรือยัง” ผู้เป็นมารดาถามด้วยความเป็นห่วงพลางลุกขึ้นไปยังโต๊ะที่ตั้งสำรับอาหารไว้ให้กับหญิงสาวตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อนำไปอุ่นให้

“จินนี่ขอโทษนะคะที่ทำให้แม่เป็นห่วง พอดีหนูทำโอทีหารถกลับไม่ได้เลยพักกับพี่ที่ทำงานน่ะค่ะ” หญิงสาวปดด้วยใจข่มขื่นพลางโอบกอดมารดาแล้วค่อยๆประคองร่างซูบผอมไปยังห้องนอน ก่อนที่หญิงสาวจะรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไปมหาวิทยาลัยเพื่อให้คำตอบในเรื่องงานกับอาจารย์ หญิงสาวกลับมายังห้องตัวเองเพื่ออาน้ำชำระล้างกายล้างคราบสกปรกที่ถูกซาตานร้ายฝากฝังไว้ จินนี่เปลื้องชุดที่ตัวเองสวมลงในตะกร้าผ้าก่อนจะคว้าผ้าขนหนูพันกายเดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่ได้สังเกตร่องรอยที่คนใจร้ายตีตราไว้บนผิวกายเธอ

หญิงสาวปลดผ้าขนหนูออกจากร่างแขวนไว้ในมุมห้อง มือบางเปิดก๊อกฝักบัวให้สายน้ำไหลรินรดร่างกายที่เต็มไปด้วยสัมผัสของผู้ชายคนนั้น จินนี่ถึงกับสะดุ้งเมื่อสัมผัสจุดอ่อนไหวที่บอบช้ำความรู้สึกเจ็บร้าวในอกแล่นปราดขึ้นมาอย่างเฉียบพลันดวงตาคู่สวยร้อนผ่าว หยาดน้ำใสๆเอ่อล้นไปตามสายน้ำที่ไหลผ่านเรือนกาย

เวลาล่วงเลยไปร่วมชั่วโมงหญิงสาวจึงก้าวออกจากห้องน้ำด้วยสภาพจิตใจที่เริ่มดีขึ้น เมื่อเธอคิดถึงมารดาและอนาคตที่สดใสในงานที่เธอรักและโอกาสดีๆที่มีเข้ามา ฉะนั้นเธอจะไม่ยอมแพ้เพียงเพราะความโชคร้ายที่ไปเจอซาตานใจมารอย่างชายหนุ่ม จินนี่เลือกชุดเป็นเสื้อยืดสีชมพูใส่คู่กับกระโปรงสั่นเหนือเข่าสีขาวทำให้เธอดูสดใสมากยิ่งขึ้น หญิงสาวส่องกระจกเพื่อสำรวจตัวเองแต่แล้วหญิงสาวก็ต้องตกใจกับรอยช้ำจ้ำแดงทั่วลำคอ มือบางคว้าตลับแป้งสีเดียวกับผิวทาลงบนรอยแดงด้วยหวังจะกลบร่องรอยน่ารังเกียจนั้น แต่ดูเหมือแป้งนั้นจะไม่ได้ช่วยปกปิดอย่างที่เธอหวังไว้สุดท้ายจินนี่ก็ต้องใช้วิธีปล่อยผมยาวสยายเพื่ออำพรางรอยน่าเกลียดจากฝีมือของคนใจร้าย

เมื่อสำรวจจนเรียบร้อยจินนี่จึงคว้ากระเป๋าเป้ขึ้นสะพายโดยที่ไม่ลืมหยิบแฟ้มเอกสารที่เธอตัดสินใจจะไปเซ็นชื่อต่อหน้าอาจารย์พร้อมกับส่งคืนให้ในคราวเดียว

รายละเอียด

โปรย
“ไม่ต้องทำเป็นมารยาบีบน้ำตากับฉันหรอกนะสาวน้อยเพราะไม่ว่าอย่างไรที่ไหนหรือเมื่อไหร่ ถ้าฉันต้องการปลดปล่อยเธอก็ต้องพร้อมที่จะเป็นเครื่องสนองความอยากของฉันได้ทุกเวลา” ชายหนุ่มพูดเสียงเหี้ยมพร้อมกับรวบข้อมือบางทั้งสองข้างกดลงกับที่นอนด้วยมือแกร่งเพียงข้างเดียว ในขณะที่มือหนาอีกข้างดึงทึ้งชุดสวยที่ขาดวิ่นหลุดจากเรือนกายบอบบางเผยให้เห็นความงามที่เขาเชยชมมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ยิ่งได้เชยชม ยิ่งได้สัมผัสความต้องการของเขากลับยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคู
“ไม่...อย่านะ ได้โปรดเถอะคุณแอนดี้” หญิงสาวร้องห้ามด้วยความหวาดกลัวกับการกระทำอันป่าเถื่อนของอสูรร้ายเอาแต่ใจ
“อ้อนวอนร้องขอทั้งๆที่เธอเพิ่งจะด่าว่าฉันมันเป็นคนชั่ว คนเห็นแก่ตัวไม่มีหัวใจ เดี๋ยวเธอก็จะได้รู้บทรักของคนชั่วมันไม่มีหัวใจมันจะรุนแรงไปถึงแก่นใจเธอเลยหรือเปล่า” รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฏบนริมฝีปากหยักได้รูปที่ก้มลงขบเม้มรอยช้ำรอยเดิมเพื่อตีตราย้ำชัดอีกครั้งว่าเขาคือเจ้าของเธอเพียงผู้เดียว

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (77 รายการ)

www.batorastore.com © 2024