ชุดครอบครัวแห่งความรัก ตราบดินสิ้นฟ้าจะรักเธอ (แพรเพชร)

ชุดครอบครัวแห่งความรัก ตราบดินสิ้นฟ้าจะรักเธอ (แพรเพชร)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: ตราบดินสิ้นฟ้าจะรัก
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 37.50 บาท
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ตราบสิ้นดินฟ้า...จะรักเธอ

บทประพันธ์ของ ... แพรเพชร

บทที่1

            หญิงสาวลงจากเครื่องบินด้วยท่าทางมาดมั่น ร่างสูง ๆ นั้นมองดูงดงามและน่าประทับใจแก่ผู้พบเห็นทุกคนที่ได้เห็นร่างนั้นก้าวเดินไปตามทางเดิน เธออยู่ในชุดกางเกงสีดำสวมเสื้อโอเว่อร์โค้ทสีขาวตัวใหญ่แต่ไม่หนานัก เสื้อตัวในที่โผล่พ้นโอเว่อร์โค้ทนั้นสีม่วงสดและมีผ้าพันคอสีขาวขนปุกปุยผืนใหญ่ผูกมาอย่างหลวม ๆ

            ที่สะดุดตาของผู้พบเห็นนั่นก็คือใบหน้าที่สวยสดงดงามแบบไทย ๆ นั้นล้อมกรอบด้วยผมยาวสวยที่ เป็นดำมันยาวหนาและยาวจนถึงกลางหลังของเจ้าตัวโดยไม่มีอะไรมารวบไว้เลย หญิงสาวปล่อยให้มันยาวลงมาอย่างนั้นเลย

            ในยามที่เธอสะบัดหน้าไปทางใดทางหนึ่งผมเธอพลิ้วสวยจนคนต้องมองตาม

            หญิงสาวมีกระเป๋าสะพายใบใหญ่มาใบเดียวสีชมพูอ่อน ๆ มือขวาถือเอกสารบางอย่างเหมือนผู้โดยสารคนอื่น ๆ

            หญิงสาวเหมือนกำลังมองหาคนมารับ พอมาถึงตรงที่ใครต่อใครก็ชอบมารอรับ มาถือป้ายชูหาคนที่เดินทางมาเธอก็ค่อย ๆ ชะลอฝีเท้า เหมือนจะมองหาใครสักคน

            แม่เราอยู่ไหนน้า.....สวยกว่าเก่าแค่ไหนก็ไม่รู้

            ขณะสอดส่ายสายตาหาคนที่จะมารับ พรรณวดีก็รำพึงในใจของตนเอง หญิงสาวเพิ่งบินกลับจากเมืองนอกหลังจากที่จากบ้านไปเสียนานหลายปี จนเรียนสำเร็จนี่แหละจึงได้กลับมา

            “ก็ไหนว่าจะมารับเรา คนเยอะขนาดนี้ ทำไมไม่ทำป้ายนะแม่...”ใจเสียไปเหมือนกันเมื่อยังมองไม่เห็นคนมารับในวันนี้ วันที่เธอก้าวลงจากเครื่องบินเป็นวันแรก หากแม่ไม่มากเพราะเอ๊กซิเด๊นซ์อะไรสักอย่าง เราจะไปหาใครที่ไหนล่ะนี่ ไม่รู้จักใครที่ไหนสักคนเลยในเมืองไทย “

            ร่างสูงของหญิงสาวหยุดเดิน มองไปทางฝูงชนที่มากมายและส่งเสียงดังแซงแซ่ไปหมดทั่วบริเวณนั้น

            แล้วสายตาของหญิงสาวก็ไปกระทบเข้ากับร่างของใครคนหนึ่ง

            แม่หรือเปล่านะ.....

           

            “หนูแดง...แม่อยู่ทางนี้จ้ะ...” คุณผกามาศเรียกหาลูกสาวด้วยความดีใจในวันนี้ที่มารับลูกสาวที่เพิ่งกลับจากประเทศอังกฤษ พรรณวดีรูปร่างสูงกว่าเก่าเมื่อห้าปีที่แล้วหล่อนยังตัวผอมเล็กนิดเดียวเท่านั้นเอง

            พรรณวดีกระพริบตาถี่ๆ หลายครั้ง ผู้หญิงวัยกลางคนที่ยังสวยพริ้งแต่งกายเลิศหรูไม่มีเค้าว่าจะแก่ลงตามวัยและเวลาที่ผ่านไปเลย นั่นไงแม่จริง ๆ ด้วย

            “หนูแดง....แม่เองจ้ะ หนูแดง ..”

            “คุณแม่...”  หล่อนเดินตรงมาหาวางกระเป๋าลงกับพื้นยกมือไหว้อย่างอ่อนหวานเรียบร้อยไม่มีเค้าของความเป็นสาวหัวนอกอย่างที่คุณผกามาศเคยนึกแต่อย่างใด

            นานแล้วที่ลูกสาวจากไป จากไปจนไกลสุดฟ้า นับตั้งแต่สิ้นบุญของพ่อพรรณวดี คุณผกามาศก็ตัดสินใจที่จะส่งลูกสาวคนนี้ไปเรียนต่อตามคำของพ่อเธอที่สั่งไว้

            “โธ่ คุณแม่ ...นั่นมันเมื่อห้าปีที่แล้วนะคะ แดงตัดผมไปสามครั้งแล้วค่ะ สามหรือสี่นี่แหละค่ะ มันยาวไวค่ะ... ไหน คุณแม่มากับใครหรือเปล่า หากไม่มี...เราไปกันเถอะค่ะ คนทำไมมองหนูแดงจังไม่รู้...” พรรณวดีสังเกตเห็นเมื่อเธอก้าวมาหาแม่มีคนมองเธอเป็นจุดเดียวกันเลย

            เธอไม่รู้หรอกว่าเพราะหน้าตาท่าทางที่สวยสง่าสะดุดตาสะดุดใจคนที่มองเห็นจนทุกคนต้องหันมามองเธอเป็นจุดเดียว

            รวมทั้งชายสองวัยที่ยืนอยู่ด้านหลังมารดาด้วย สองคนใส่สูทต่างสีกัน คนหนึ่งสีน้ำเงินท่าทางมีอายุ อีกคนสีฟ้าอายุน้อยกว่าหน้าตาดี เสียแต่ไม่มีรอยยิ้มเลยสักนิดเดียว

            เขาคือคุณพิศักดิ์กับกับลูกชาย คนที่หน้าตาไม่มีรอยยิ้มเลยนั่นแหละ

            วันนี้ที่ภาสุไม่อยากจะมากับบิดาเพราะเขาคิดว่าเรื่องงานน่าจะสำคัญกว่าการมารับลูกสาวของแม่เลี้ยงเขานั่นเอง จริงอยู่เขารักแม่เลี้ยงคนนี้ยอมรับว่าคุณผกามาศเป็นผู้หญิงที่ดี แต่เขาว่าไม่จำเป็นเลยที่ต้องตะกายมารับยายหนูท่าทางเหมือนดาราคนนี้ตั้งแต่เช้ามืด

            น่าจะมารับกันเอง แล้วเย็นก็ค่อยเจอกันก็ได้

            ดูสิคนมองใหญ่แล้ว ก็ทำตัวเหมือนดาราเลยนี่ สวยซะขนาดนั้น

            ภาสุค่อนวาในใจ ทั้ง ๆ ที่ก็รู้แก่ใจว่าหญิงสาวคนนี้สวยเองโดยธรรมชาติไม่ได้แต่งเติมอะไรเลย ทั้งหน้าตาและการแต่งตัวก็ธรรมดา แต่ทำไมคนจ้องมองเธอนักก็ไม่รู้

            สงสัยจะมีออร่าละกระมัง

            “อุ๊ยตายลืมไป...แม่มากับคุณลุงจ๊ะ คุณลุงพิศักดิ์คนที่แม่พูดถึงในจดหมาย ...สวัสดีคุณลุงเสียนะลูก เราต้องไปอยู่กับเขา”

            “อ้าว...” ลูกสาวร้องออกมาสีหน้าตระหนก

            “สวัสดีท่านก่อนลูก เดี๋ยวแม่จะเล่าให้ฟังนะจ๊ะ คุณพี่คะ นี่ลูกสาวค่ะ...ยายหนูแดงของอิฉัน...”

            “ยินดีนะลูกที่ได้รู้จัก...” คุณพิศักดิ์มองหน้าพรรณวดีอย่างพึงพอใจ ลูกเลี้ยงเขาสวยอย่างนึกไม่ถึงเลย ท่าทางที่แสดงออกมานั่นก็น่าทึ่งไม่เหมือนสาวหัวนอก แถมยังไหว้สวยเสียกว่าคนไทยที่อยู่เมืองไทยอีก

            “แล้วนี่ลูกชายคุณลุงจ๊ะหนูแดง...เรียกเธอว่าคุณพี่ เธอชื่อ ภาสุ ทำงานกับคุณพ่อเธอที่บริษัท ไป เราไปกันเถอะค่ะ”

            “สวัสดีค่ะ คุณ...” พรรณวดีไม่กล้ารียกเขาตามที่มารดาแนะนำ ก็หน้าเขาเหมือนคนเสียที่ไหน ไม่มองไม่ยิ้มอะไรทั้งนั้น แล้วอย่างนี้จะทำยังไง เชอะ คนอะไร ไม่มีมารยาทเสียเลย ช่างเถอะนึกว่าไหว้ลมไปก็แล้วกัน....

            “สวัสดีค่ะ คุณ “

            เขาพยักหน้านิด ๆ  เท่านั้นและหญิงสาวก็เชิดหน้าใส่ทันทีเหมือนกัน

            “ทำไมไม่พูดกับน้องสักคำล่ะ  ภาสุ “ คุณพิศักดิ์มองหน้าบุตรชาย ที่ทำท่าถอนใจยาว ๆ

            “เอ้อ...ครับสวัสดีครับ “

            เห็นลูกชายพูดได้เท่านั้น คนเป็นพ่อก็โคลงศีรษะ ก่อนจะหันมาทางสองแม่ลูกที่ยืนยิ้มแหย ๆ อยู่ และคุณผกามาศยังกอดเอวลูกสาวเอาไว้แน่นเพราะความรักและความคิดถึงที่จากกันไปเสียนาน

            “เอ้า เรากลับบ้านกันเถอะนะ เดี๋ยวค่อยไปคุยกันที่บ้านลูก แม่เขาจะเล่าให้ฟังเองนะ ส่ง

ที่บ้านแล้วลุงจะเลยไปที่ทำงานเลย หนูก็อยู่กับแม่นะลูกนะ ลุงกับพี่จะไปทำงานก่อน “

            หญิงสาวพยักหน้าเดินตามคนทั้งสามไปจนถึงรถ เป็นรถเบ๊นซ์หรูและคนขับก็ท่าทางสุภาพมาก หญิงสาวนั่งมากับมารดากอดเอวไว้แน่นโดยมีคุณพิศักดิ์นั่งมาด้วยที่เบาะหลังส่วนภาสุนั่งตอนหน้ากับคนขับ เมื่อส่งหญิงสาวกับมารดาถึงบ้านหลังใหญ่แล้ว รถเบ๊นซ์ก็เคลื่อนออกไปจากบ้านอีกครั้ง

            คุณผกามาศพาลูกสาวเข้ามานั่งในห้องนอนใหญ่ห้องหนึ่งที่เตรียมไว้ให้ลูกสาวซึ่งพรรณวดีก็ทำสีหน้างง ๆ อยู่

รายละเอียด

คำนำจากสำนักพิมพ์

            ในโลกแห่งความฝันและจินตนาการของทั้งผู้อ่านและนักเขียนนั้นมักจะตรงกันเสมอนิยายขนาดสั้นแนวรักหวานหวนกลับคืนมาสู่บรรณพิภพอีกครั้งหนึ่งหลังจากห่างหายไปนานหลายปีเพราะจากภาวะเศรษฐกิจและภาวะที่อิ่มตัวของการเสพของผู้อ่าน แต่นิยายรักขนาดสั้นแบบครอบครัวก็เป็นนิยายที่ประโลมโลก โลกขาดสิ่งนี้ได้ไม่นานนักหรอก เพราะเป็นสิ่งที่ประเทืองอารมณ์คนโดยส่วนมาก นิยายรักเริ่มเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น ด้วยภาวะหลาย ๆ ด้านที่ทำให้เกิดมีความต้องการขึ้นมา ตลาดเริ่มต้องการนิยายเพื่อท่านผู้อ่าน และท่านผู้อ่านก็ต้องการนิยายไปประเทืองอารมณ์ของท่าน ทางสำนักพิมพ์สำรวจความคิดความเห็นความต้องการของท่านผู้อ่านตลอดเวลา และเมื่อถึงวันนี้ สำนักพิมพ์จึงได้นำนิยายรักมาทำเป็นโครงการเล็ก ๆ ชื่อโครงการว่า “รักวรรณกรรมไทย “ ชุดครอบครัวรัก 1 ขึ้น โดยหวังว่าจะมี 2- 3 ไปเรื่อย ๆ เพื่อสมานอารมณ์ของท่านผู้อ่านให้ติดต่อกันไปเรื่อย ๆ แบบไม่ให้สะดุดลงตามทางแต่อย่างใด ขอให้ท่านผู้อ่านติดตามผลงานของโครงการนี้ไปตลอดนะคะเพื่อความสุข เพื่ออาหารของสมองเราค่ะ

                                                                                    ด้วยรักจากสำนักพิมพ์


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (80 รายการ)

www.batorastore.com © 2024