คู่ชีวิต (ชูวงศ์)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: -
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 37.50 บาท
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทที่ ๑

เชื่อฉันเถอะ คุณภา ไอ้ลูกไม้แบบนี้น่ะฉันเคย

โดนมาแล้ว แล้วก็เข็ดมาแล้ว เพราะความสงสารเธอ

หรอกนะจึงได้อุตส่าห์เตือน”

เสียงแจ๋วๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งที่ดังมาจากห้องชั้น

ล่าง ซึ่งใช้เป็นห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร และห้องรับแขก

นั้น สามารถตรึงขาของชัชวาล นักสืบหนุ่มแห่ง ซี.ไอ.ดี.

ที่กำลังจะก้าวขึ้น บันไดให้หยุดอยู่กับที่ ในฉับพลันเขา

วางกระเป๋าเดินทางใบย่อมๆ ลงอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

ถอยหลังพิงราวบันไดไว้ พลางล้วงเอาซองบุหรี่ยับยู่ยี่ใน

กระเป๋าเสื้อ มาเทลงบนฝ่ามือ แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีเหลืออยู่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เลยแม้แต่มวนเดียว เขาก็ขยำมันเสียแล้วขว้างไปเสีย

ไกลอย่างหงุดหงิด

“สงสารเรื่องอะไรกันยะ แม่แก้วเจียระไน?”

แต่ทันใดนั้น คำถามในใจของเขาก็ได้รับคำตอบ

“ทีแรกฉันก็เป็นคนไม่ขี้หึงเหมือนกับเธอนี่แหละ

ไว้ใจเขาเสมอ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรเป็นเชื่อหมดทุกอย่าง

เขาว่าจะไปไหน ธุระอะไร ค้างกี่คืนๆ ไม่เคยไม่เคยที่จะ

ปริปากซักถามหรือต่อว่าต่อขาน”

เสียงสูงเสียงต่ำทำนองนี้ชัชวาลจำได้ ดีว่าเป็น

เสียงของเจียระไนรัตน์ แม่หม้ายสาวทรงเครื่อง ผู้มี

นิวาสสถานอยู่ติดกับบ้านของเขานั่นเอง

ขณะนั้น เสียงของหล่อนก็เจื้อยแจ้วออกมาอีก

“แล้วผล? พอได้ท่า พ่อเจ้าประคุณก๊อบินปร๋อไป

เลยทิ้งให้เราเฝ้าแต่ตรอมใจอยู่คนเดียวโดยไม่เหลียว

แล”

น้ำเสียงของหล่อนแทบจะทำให้ผู้ฟังพลอยเศร้า

หากจะไม่นึกเห็นภาพใบหน้าที่แย้มระรื่นอยู่เป็นนิจสิน

ของหล่อนนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แต่คุณเทพของเธอผิดกับชัชของฉันมากนี่คะ

คุณเจียระไน”

เสียงใสๆ ของวิภามาศที่รักของเขาเอ่ยค้านขึ้น

“คุณเทพรูปหล่อกว่าชัชตั้งเป็นกอง ท่าทางก็

สมาร์ทกว่า รวยกว่าซ้ำยังติดจะ...เจ้าชู้อยู่สักหน่อย”

ประโยคท้ายพูดไม่ค่อยเต็มเสียง ด้วยความเกรงใจสหาย

สาว

“อุ๊ย ไม่จริงหรอกคุณภา ใครว่าเทพหล่อกว่าคุณ

ชัช ฉันขอค้านทีเดียว คุณชัชของเธอน่ะ tall, dark and

handsome เก๋ออกจะตาย ไม่แหยเหมือนเทพสักนิด”

มาถึงตอนนี้ชัชวาลชักอารมณ์ดีขึ้น ปรารภกับ

ตัวเองว่า

‘เออแน่ะ วันนี้แก้วเจียระไนแอบชมโฉมเราได้’

แต่เมื่อได้ยินคำ พูดที่หล่อนเสริมท้าย เขาก็รู้

สาเหตุที่หล่อนอุตส่าห์เอ่ยชมเขาในทันที!

“รูปร่างอย่างคุณชัชงี้ผู้หญิงคงติดแกกรอไปเลย

ทีเดียวแหละ ยิ่งไม่มีเธอคอยคุมยังงี้ด้วย ก๊อพากัน

เพลิดเพลินเจริญใจไปเท่านั้น ผู้ชายน่ะเธอ พูดก็พูดเถอะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ภาษิตถึงได้ว่า...ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คด

เหมือนหนึ่งในน้ำใจชาย ยังไงล่ะ

‘ภาษิตของใครกันแม่คุณ’

ชายหนุ่มนึกขัดคออยู่ในใจ

‘ไม่เคยได้ยินที่ไหนสักที น่ากลัวแกจะดัดแปลง

มาจากภาษิตของสุนทรภู่ เมื่อตอนผัวแกเลิกร้างห่างเห

เสน่หาไปนี่เองแหละ...สาธุ! ฉันขอขอบคุณสวรรค์แทน

แกเหลือเกินนายเทพเอ๋ย ที่รอดพ้นจากบ่วงสวาทของแม่

แก้วเจียระไนไปได้

“แต่ชัชไม่ใช่คนเจ้าชู้นี่คะ คุณเจียระไน เขาไม่เคย

สนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษเลย แล้วส่วนมากผู้หญิงที่

เขารู้จักก็เป็นเพื่อนๆ ของฉันเองทั้งนั้น” วิภามาศยังคง

พยายามแก้แทนสามีของหล่อนอย่างน่ารักตามเคย

‘คนดีของชัช’

เขานึกอยากวิ่งเข้าไปกอดหล่อนไว้แล้วรางวัลจูบ

ให้ตรงดวงใจอันเข้มแข็งนั้น

“เอาอีกแล้ว คุณภา...” แม่หม้ายสาวลากลิ้นยาว

อย่างเหนื่อยใจทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พูดเท่าไหร่ๆ ก็ไม่ฟัง เขาจะมาเจ้าชู้ให้เธอเห็นได้

ยังไง๊ ถ้าทำยังงั้น เขาก็โง่เต็มที่น่ะซี อย่างเช่นเขาจะไปหา

ผู้หญิงอื่น เขาก็จะบอกเธอว่า ไปแกะรอยอ้ายเสือนั่น

อ้ายเสือนี่ ต้องค้างเท่านั้นคืนเท่านี้คืน เธอก็เชื้อเชื่อ” ทำ

เสียงคล้ายสมเพช                                            

“ดูแต่เทพซิ เวลาเขาจะไป...”

หล่อนพูดค้างอยู่เพียงนั้น ก็ต้องตกตะลึงตาค้าง

เมื่อเห็นชัชวาลเดินขึ้นบันไดมา วิภามาศพลอยเหลียว

หน้ามามอง ครั้นเห็นว่าเป็นสามีของหล่อน หญิงสาวก็

รีบลุกขึ้น เดินมาหาเขา รับกระเป๋าเดินทางจากมือสามี

พลางกล่าวทักเสียงหวาน

“ชัช มาพอดีทีเดียว เหนื่อยมากไหมคะ นั่งพัก

ตรงนี้ก่อนนะคะ ภาจะเอาน้ำส้มมาให้” แล้วหล่อนก็ถือ

กระเป๋าหายเข้าไปข้างใน

ชัชวาลกระแทกตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่ภรรยาเลื่อนให้

ทำท่าคล้ายกับเพิ่งเห็นสตรีสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า

“อ้าว สวัสดีครับ คุณแก้ว...เอ๊ย เจียระไนรัตน์”

เขาเกือบหลุดปากเรียกหล่อนว่า ‘แก้วเจียระไน’ ออกไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

จริงๆ ด้วยความเคยชิน

“มานานแล้วหรือยังครับ?”

“นานแล้วละค่ะ กำลังจะกลับ ก็พอดีคุณชัชมา”

แม่หม้ายสามีร้างตอบเจื่อนๆ หล่อนไม่รู้ว่าชัชวาลได้ยิน

คำพูดของหล่อนเมื่อสักครู่หรือเปล่า จึงพยายามชวนพูด

กลบเกลื่อน

“เป็นยังไงคะ หายไปหลายวัน จับผู้ร้ายได้ไหม

คะ?”

“ไม่ได้จับหรอกครับ” เขาตอบพร้อมกับเอื้อมมือ

หยิบบุหรี่ในหีบที่โต๊ะรับแขกออกมาจุดสูบ ควันอัน

หอมหวนของมันช่วยผ่อนคลายอารมณ์อันตึงเครียดไป

ได้

“เพียงแต่สืบเท่านั้น เมื่อสืบได้ว่าใครเป็นตัวการมี

หลักฐานแน่นอนแล้วก็ให้ตำรวจจัดการต่อไป” เขาชี้แจง

พลางหันไปรับแก้วน้ำส้มคั้น ที่วิภามาศนำมาส่งให้

ยกขึ้น ดื่มรวดเดียวหมดแล้วก็ลุกขึ้นยืน พูดกับ

หล่อนว่า

“ภาจ๊ะ เธอคุยกับคุณจาระไนรัตน์ไปพลางๆ ก่อน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นะจ๊ะ ฉันขอเข้าไปอาบน้ำผลัดเสื้อผ้าสักประเดี๋ยว” เขา

แกล้งเรียก ‘เจียระไน’ ให้เพี้ยนเป็น ‘จาระไน’ ให้สมกับ

ความช่างจาระไนของหล่อน พอพูดจบก็หันไปก้มศีรษะ

ให้อาคันตุกะสาว แล้วก็เดินขึ้นบันไดไปชั้นบน

เมื่อชัชวาลอาบน้าเสร็จและเดินเข้าไปในห้องนอน

เพื่อแต่งตัวนั้น เขาต้องหยุดชะงักอยู่แค่ประตูห้องเมื่อ

เห็นวิภามาศกำลังยืนพิงขอบหน้าต่าง หันข้างให้เขาด้วย

ท่าทางระทดระทวย สายตามองไปข้างหน้าอย่างใจลอย

แสงสีชมพูครํ่าของอาทิตย์อัสดงอาบผิวอันนวลใยของ

หล่อนแลดูเป็นสีส้มปนชมพูช่างเกลี้ยงเกลาละมุนละไม

น่าทะนุถนอมราวจะเย้ยเจ้า ‘เฟลมิซันเซท’ สามสี่ดอกที่

ปักอยู่ในแจกันบนโต๊ะเล็กข้างเตียงให้ได้อาย

เขาขยับจะเข้าไปกอดร่างน้อยนั้น เสียให้สมกับ

ความคิดถึงที่ต้องจากไปเสียหลายวัน แต่อาการทอด

ถอนใจยาวของหล่อน ได้ยับยั้ง เขาไว้

‘ภาคงมีเรื่องกลุ้มใจอะไรสักอย่างเป็นแน่’

เขาคิด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

‘น่ากลัวจะเป็นเพราะปากอยู่ไม่สุขของแม่ก้อน

กรวดเจียระไนนั่นเสียเป็นแน่แท้

เพื่อเป็นการหยั่งใจหล่อนดู ชายหนุ่มจึงแกล้ง

ท่องกลอนภาษิตขึ้นลอยๆ

“ถึงเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลัก มีคนผลักบ่อย

เข้าเสายังไหว...”

วิภามาศสะดุ้งหันมาทางเขา แววตาอันหม่น

หมองเปลี่ยนเป็นฉงน เมื่อเอ่ยถามเขาด้วยเสียงเรียบๆ

ว่า

“ชัชทราบหรือคะ ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่?”

“นั่นไหมล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มอย่างมีชัย

“นึกแล้วไม่มีผิด ยังไงๆ เสียเธอก็ต้องสะดุ้งสะ

เทือนต่อไอ้การยุให้รำตำให้รั่วของแม่หม้ายผัวระอาคน

นี้

“เธอได้ยินที่คุณเจียระไนพูดหรือคะชัช ตายจริง”

หล่อนทำตาโต หัวเราะอย่างขบขันพลางออกตัวว่า

“แต่ฉันไม่ได้สะดุ้งสะเทือนอย่างเธอว่านี่คะ ฉัน

ยังแก้ตัวแทนเธอเสียด้วยซ้ำไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จริงรื้อ ที่ว่าไม่สะดุ้งสะเทือนน่ะ?” เขาทำเสียง

ล้อเลียน พลางเดินเข้าไปกอดหล่อนไว้ ไม่ฟังเสียงที่หญิง

สาวร้องห้ามว่าตัวเขายังเปียกนั้นเลย

“เธอแก้ตัวแทนฉันไปอย่างนัน้ หรือเธอเชื่อใจผัว

ของเธอจริงๆ ล่ะจ๊ะ ภาจ๋า

“เซี้ยวจังชัชนี่ ดูซิ ทำเขาเปี ยกหมด อาบน้ำแล้วก็

ไม่รู้จักเช็ดตัว” หล่อนไถลดุแกมหัวเราะ ถือโอกาสไม่

ตอบคำถามเขา เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ในตู้มาส่ง

ให้สามี ปากก็เร่งว่า

“เร็วเข้าเถอะค่ะชัช กับข้าวจะเย็นเสียหมด เมื่อ

วานนี้ภาแกงขี้เหล็กไว้ให้ นึกว่าเธอจะกลับตั้งแต่เมื่อวาน

นี้เสียอีก...” หล่อนชะงักและรีบกลบเกลื่อนถ้อยคำที่

คล้ายๆ ตัดพ้อต่อว่าเสียทันที

“แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ภาอุ่นไว้ให้ชัชถ้วยหนึ่ง

วันนี้เนื้อย่างยิ่งเปื่อยอร่อยกว่าเมื่อวานเสียอีก

“โธ่ภาจ๋า เธออยากจะต่อว่า ว่าฉันเถลไถลก็ว่า

มาเถอะจ้ะ ฉันคิดว่าฉันจะสบายใจกว่าการที่เธอไม่ต่อ

ว่าไม่ซักไซ้ไล่เรียงอะไรเลยยังงี้เสียอีก” เขายังไม่ยอมเช็ด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตัวแต่กลับเดินตามทำเสียงออดอ้อนเหมือนทารก

“ซิจ๊ะภา ฉันอยากให้เธอถามว่า ฉันแอบไปทำ

เจ้าชู้กับผู้หญิงที่ไหนมา หรือหาว่าฉันชอบทอดทิ้งเธอไว้

คนเดียว หรืออะไรๆ ทำนองนี้อย่างเมียทั้งหลายเขาทำ

กับผัวเลวๆ ของเขาน่ะ ฉันจะได้แก้ตัวให้เธอสบายใจ

ยังไงล่ะจ๊ะ

“เอ๊ะ ชัชนี่” หญิงสาวทำหน้าดุเสียงเขียว แต่ยิ้ม

“มีเมียไม่ขี้หึ้ง กลับไม่ชอบ เธออยากให้ฉันเป็น

อย่างคุณเจียระไนยังงั้นหรือคะ?”

“โอ๊ะโย๋” ชายหนุ่มหลับตาปี๋

“ถ้าถึงขนาดนั้นละก็ ฉันเห็นจะ...”

“หนีไปเหมือนอย่างคุณเทพบ้าง?” หล่อนต่อให้

แต่ทำเสียงคล้ายถาม

“เปล่าจ้ะ ต่อให้เธอร้ายกาจกว่าแม่แก้วเจียระไน

สักห้าเท่า ชัชก็จะหนีไปจากเธอไม่รอดแน่นอน มันรู้สึก

เหมือนเหลือแต่ร่างงั้นแหละ เวลาอยู่ห่างเธอน่ะ” เขาทำ

เป็นพูดติดตลก แต่ก็แฝงความรู้สึกจริงใจไว้ด้วย

หญิงสาวทำเป็นไม่สนใจ จัดแจงช่วยเช็ดตัวให้เขา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หยิบเสื้อป่านขาวคอกลมและกางเกงแพรสีแดงมาวางให้

ที่ปลายเตียงแล้วก็เดินออกจากห้องไป โดยไม่ลืมเร่งเขา

อีกครั้งหนึ่ง

“แต่งตัวเร็วๆ เข้าค่ะ ภาจะไปยกกับข้าวละ ชักช้า

เดี๋ยวอดนะคะ


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (80 รายการ)

www.batorastore.com © 2024