Customer Reviews

นวนิยายชุด ซีรีส์เกาะรัก : นิยายรักสองเรา
4
โดย: จตุพร_07 วันที่เขียนรีวิว: 09 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

“นิยายรักสองเรา” เป็นนิยายอีกหนึ่งเล่มในชุดเกาะรักค่ะ นางเอกของเรื่อง “พรรัตนา” ได้บัตรเข้างานที่เกาะไข่มุกมาฟรีๆจากเพื่อนสนิทที่ไม่สามารถไปร่วมงานได้ นี่แหละค่ะจุดเริ่มต้นของนิยายเรื่องนี้และทำให้นางเอกได้พบกับ “ภูประพันธ์” พระเอกของเรื่องนี้นิเอง

ความรู้สึกหลังอ่านจบ โดยส่วนตัวคิดว่านิยายเรื่องนี้นิยายที่อ่านได้เรื่อยๆ เพราะเป็นนิยายรักเต็มตัว(ชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้ว) ดังนั้นจึงไม่มีฉากให้ต้องเครียดหรือปมคดีฆาตรกรรมโหดๆให้สะเทือนใจ เน้นความรักและความสัมพันธ์ของตัวพระนางเป็นหลักและดำเนินเรื่อง

ถ้าถามดิฉัน ดิฉันชอบคาเรกเตอร์ของนางเอกเรื่องนี้นะคะ เธอดูเป็นคนสดใสร่าเริงและมีน้ำใจ ไม่แปลกที่ใครๆจะอยากอยู่ใกล้และยอมแพ้เสียงออกอ้อนของเธอไม่เว้นกระทั้งพระเอก ครั้งแรกที่เจอกันทั้งคู่ต่างประกาศชัดค่ะ ว่าไม่มีทางชอบอีกฝ่ายๆแน่ๆ เพราะไม่ใช่สเปค แต่ทำไมทำมา นางเอกดันได้มาเป็นผู้ช่วยพระเอกซะงั้น งานนี้เลยต้องอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน อีกอย่างที่ชอบคือนางเอกเป็นคนพูดตรงค่ะ เธอเคยชมพระเอกในตอนที่ยังไมได้รักเขาด้วยนะคะว่า “คุณหล่อจัง” หรือบางทีความตรงของเธอก็ทำให้เกิดคำพูดสองแง่สองง่าม คือในเชิงลึกอีตาพระเอกคงคิดเองเออเองมากกว่า เพราะนางเอกยังไม่ได้มีทีท่าว่าจะตกหลุมรักง่ายๆในช่วงต้นเรื่อง ตรงข้ามกับพระเอกที่นับวันยิ่งประทับใจในตัวเธอ ในช่วงเวลานั้นที่เกาะก็มีกองถ่ายหนังเรื่อง “เกาะรัก” และทำให้นางเอกสนิทสนมกับพระเอกของหนังเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเกย์ พระเอกมีแอบแสดงอาการหึงหวงด้วยนะเออ เอ๊ะ หรือว่าไม่แอบ คือเขาค่อนข้างแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนค่ะ ว่าชอบนางเอก อยู่ด้วยกันไปมา เลยขอเป็นแฟนซะเลย

ปมของเรื่องนี้ก็มีให้น่าตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะมีคนร้ายบุกเข้าบ้านทำลายทรัยพ์สินของพระเอก ทุกคนเลยช่วยกันสืบหาตัวคนร้ายค่ะ แอบหงุดหงิดตำรวจเล็กๆที่ไม่สามารถช่วยพระเอกจับคนร้ายได้ เหมือนพระเอกต้องพยายามหาทางเอง จนสามารถรู้ว่าใครคือคนร้าย ช่วงก่อนจบเรื่องมีดราม่าความรักของพระนางนิดหน่อย เมื่อมีเรื่องให้ทั้งคู่เข้าใจผิดกัน และพระเอกด้วยความโมโหเลยพลั้งปากบอกนางเอกว่า “แต่งงานแล้ว” นางเอกก็ช็อคสิคะ แต่หลังจากทำตัววอนน่าโดนตบไปแล้ว พระเอกเลยตามไปง้อและสารภาพว่าเขาแค่โกหกเพราะโมโห จบท้ายด้วยการขอนางเอกแต่งงานซะเลย เรื่องราวจึงจบแบบแฮปปี้ บทสนทนาเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะ แต่อ่านแล้วไม่ได้ติดขัดค่ะ โดยเฉพาะฉากที่พระเอกนางเอกตอบโต้กัน เขียนได้น่ารักดี
ฤทธิ์ร้ายหวงรัก (มณีจันท์)
5
โดย: จตุพร_07 วันที่เขียนรีวิว: 08 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

“ฤทธิ์ร้าย หวงรัก” เป็นนิยายของมณีจันท์ที่ออกเล่มแรกกับสำนักพิมพ์คำต่อคำค่ะ หากใครคุ้นชื่อ หมอเนธ เกรซ อะไรทำนองนี้มาบ้างแล้ว เรื่องนี้ก็มีชื่อพวกเขาโผล่มาสร้างสีสันด้วยนะคะ เซอร์ไพส์เล็กน้อยค่ะสำหรับเรื่องนี้เพราะปกตินิยายของมณีจันท์คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีฉากเลิฟซีนเกิดขึ้นค่อนข้างไว แต่สำหรับเรื่องนี้พระเอกยอมอดทนรอ ไม่น่าเชื่อใช่ไหมคะ กว่าจะมีอะไรกับนางเอกป่านไปเกือบจะจบเล่มแล้วค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ความรู้สึกหลังการอ่านนิยายเรื่องนี้จบ คือ ชอบค่ะ โดยปกตินิยายของมณีจันท์ดิฉันจะมีแค่ชอบเลยกับไม่ชอบ ไม่มีตรงกลางหรือเฉยๆ ดังนั้นนิยายเรื่องนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ดิฉันชื่นชอบ ไม่ใช่ว่าฉากไม่ชอบไม่มีนะคะ แต่ดิฉันขอกล่าวถึงฉากที่ดิฉันชอบก่อน อันดับแรกเลย พลอตนิยายน่าติดตามค่ะ แม้จะเว่อร์หรือเหนือความจริงไปนิด ตามนิยายสไตล์มณีจันท์ที่มีพระเอก หล่อ รวย เริ่ด เพอร์เฟคสุดๆ เรื่องนี้พระเอกมีเชื้อไทยด้วยน๊า ฉากที่เจอกับนางเอกครั้งแรกนินาประทับใจมากค่ะ นางเอกแอบเข้ามาขโมยดอกไม้ในรั้วบ้านของเขา ในขณะที่พระเอกกำลังพาเพื่อนของเธอมาอึ๊บ T-T เอิ่ม แรงใช่เล่น ตั้งแต่นั้นมาพระเอกก็ให้ความสนใจนางเอกมาโดยตลอด ดิฉันไม่ทราบแน่ชัดค่ะ ว่าความรู้สึกของพระเอกที่มีต่อนางเอกคืออะไรในตอนนั้น ระหว่างรักหรือแค่อยากได้ แต่ก็ประทับใจที่เขาอดทนรอนางเอกมาตลอด คือไม่ว่าจะรักหรือไม่รัก ดิฉันก็ฟิน ณ จุดนี้ ส่วนนางเอกของเรื่อง เป็นสาวสวย (แม้จะไม่ได้สวยที่สุดในเรื่อง เพราะมีคนเจิ่ดๆอย่าง เกรซ มาให้เปรียบเทียบ) มีสมอง เธอก็มีความรู้สึกดีต่อพระเอกไม่ต่างกันค่ะ แต่ดิฉันว่า หากใครเจอพระเอกไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยคงจะตายด้านไปแล้ว เมื่อหญิงชายเกิดปิ๊งกัน พระเอกก็ไม่รอช้าเข้าไปเสนอให้นางเอกมาอยู่ด้วยจ้า โอ๊ยยจะบ้าตาย แต่นางเอกไม่ไปเพราะ….? อยากรู้ใช่ไหมคะ ติดตามอ่านในเรื่องเลยค่ะ
ปมของเรื่องนี้ก็น่าติดตามไม่น้อยค่ะ มีทั้งคดียาเสพติด และตามหาตัวคนร้ายที่ฆ่าแม่นางเอกกับเพื่อนนางเอก(คนที่พระเอกเกือบได้อึ๊บนะแหละค่ะ) ดิฉันว่าผู้เขียนสามารถเขียนได้ดีนะคะ เพราะอ่านแล้วลุ้นระทึกตามไปด้วย พวกคนร้ายพันพันกันไปมาจนเดาไม่ออกค่ะ ว่าตัวไหนเป็นคนร้ายกันแน่ แถมเรื่องยังโยงไปถึงธุรกิจของหมอเนธกับของเกรซด้วย ฉากนี้ก็ต้องติดตามเองเหมือนกันค่ะว่าพระเอกและนางเอกจะแก้เกมหรือวางแผนต้อนคนร้ายยังไง แต่รับรองว่าระดับคุณหวงแล้วไม่มีแผนธรรมดาแน่นอน

มาถึงฉากที่ไม่ชอบของเรื่อง ถ้าหลักๆเลยคือเหมือนพระเอกจะพยายามข่มขืนนางเอกด้วยค่ะ คือคำว่าข่มขืนน่าจะหมายถึงการไม่เต็มใจและถูกผู้ชายกระทำรุนแรงไรงี้เนอะ อ่านแล้วไม่ได้รู้สึกว่านางเอกไม่ยอมนะคะ พระเอกยังบอกเลยว่า “ไม่น่าจะมีคนไหนที่ถูกข่มขืนแล้วมีความสุขเหมือนนางเอก” อารมณ์นี้ หรืออาจะเป็นเพราะพระเอกยอมรอนางเอกมานานแล้ว นางเอกเลยเต็มใจอันนี้ดิฉันก็ตอบไม่ได้เพราะไม่ใช่นางเอก เลยไม่อยากให้ผู้เขียนใช้คำว่าข่มขืนค่ะ มันดุรุนแรงไปนิดกับคนอ่านอย่างดิฉัน เอาจริงๆ ดิฉันที่ไม่ตะหงิดกับฉากเลิฟซีนฉากนี้นะคะ เพราะถ้าพระเอกจะข่มขืนคงทำนานแล้ว ดังนั้นสถานการณ์นี้ จึงเหมือนเขารอนางเอกมานานมากกว่า นอกนั้นคะแนนรวมนิยายเรื่องนี้โอเคค่ะ สำหรับดิฉัน
นวนิยายชุด ซีรีส์เกาะรัก : ทะเลหวาม
4
โดย: จตุพร_07 วันที่เขียนรีวิว: 08 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

“ทะเลหวาม” เป็นหนึ่งนิยายในเซตเกาะรักค่ะ เป็นเรื่องราวของนางเอกที่เดินทางไปกับกองถ่ายหนังเพื่อตามหาพี่สาวที่หายตัวไปบนเกาะไข่มุก ทำให้ได้พบกับพระเอกและตามสืบการหายตัวไปของพี่สาวเธอ

หากใครเป็นสาวกของ Bigger คงรู้ๆแนวอยู่แล้วใช่ไหมคะ ว่าฉากเลิฟซีนของเจ๊บิ๊กอ่านแล้วจิ้นขนาดไหน เรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเท่าไหร่ค่ะ แต่อาจจะเบากว่าเรื่องอื่นๆที่ผ่านมา นางเอกของเรื่องเธอมีบางอย่างที่ทำให้พระเอกสะดุดตาตั้งแต่แรกพบ ความรู้สึกของพระเอกในตอนแรกอาจจะเป็นแค่อยากได้เธอ แอบคอยติดตามสอดแนมนางเอกตลอด ความจริงแล้วพี่สาวนางเอกได้มาแต่งงานกับพ่อพระเอกค่ะ และได้มาใช้ชีวิตอยู่บนเกาะนี้ นางเอกเลยเริ่มสืบความจริงจากคนใกล้ตัวอย่างพระเอกก่อน แต่พระเอกของเรากวนโอ๊ยไม่ธรรมดา ไม่ยอมบอกอะไรนางเอกเลย เพราะกลัวว่าถ้าเธอรู้ความจริงจะกลับไปกรุงเทพฯ ไม่ยอมอยู่บนเกาะต่อ ดูสิค่ะ แผนพ่อคุณร้ายขนาดไหน พยายามหาทางผูกนางเอกไว้ใกล้ตัวเพื่อสานสัมพันธ์ นางเอกพอรู้ก็เขินสิคะ มีหนุ่มหล่อรวยขนาดนั้นมาชอบ (แม้จะยังไม่แน่ใจก็ตามทีเหอะว่าชอบหรืออยากได้เฉยๆ) เรื่องนี้ดีหน่อยค่ะ ที่ตัวนางร้ายมีคนเดียว แต่ก็ไม่สามารถสร้างความร้าวฉานได้ เพราะทุกคนต่างชอบนางเอก พวกตรึมค่ะตั้งแต่เลขาฯยันคนรับใช้ของพระเอก

มาต่อกันที่การหายตัวไปของพี่สาวนางเอกกันดีกว่าค่ะ มีข่าวแว่วเข้าหูให้นางเอกสะเทือนใจว่าพี่สาวเธอไม่ได้หายไปไหนหรอกนะ แท้จริงแล้วหนีตามชู้ไปต่างหากเพราะทนใช้ชีวิตคู่กับคนแก่คราวพ่อไม่ไหว ตอนแรกนางเอกก็ไม่เชื่อค่ะ ว่าพี่สาวเธอจะเป็นคนแบบนั้นเลยยิ่งอยากตามล่าหาความจริง งานนี้ผู้ไม่หวังดีเลยได้โอกาสใส่ความพระเอกเลย ว่าพระเอกเนี่ยแหละเป็นชู้กับพี่สาวเธอ… เอาล่ะสิคะ งานนี้นางเอกจะทำอย่างไร ในเมื่อเธอก็เริ่มหวั่นไหวไปกับพระเอก อาจจะถึงขั้นรักแล้วด้วยซ้ำ ซึ่งฉากนี้ดิฉันว่านางเอกงี่เง่านิดหน่อยค่ะที่เหมือนจะแอบหลงเชื่อคนไม่ดี แต่ก็นะ ระยะเวลาที่พระเอกนางเอกได้รู้จักกันมันไม่นานนักเลยทำให้ทั้งคู่ไม่ได้รู้จักนิสัยใจคอกันอย่างถ่องแท้ อ่า ไม่ใช่สิ ผู้เขียนบรรยายให้พระเอกเป็นคนรักที่ดีนะคะ เอาใจใส่นางเอกทุกรายละเอียด เป็นห่วงเป็นใย คอยถามไถ่ แม้จะเอาแต่ใจบ้างจนมีบางฉากที่การกระทำของเขาน่าโดนเตะไปบ้างก็ตามที แต่ก็ให้อภัยได้ค่ะ เพราะความรักที่เขามีให้นางเอก แสดงออกมาอย่างเด่นชัด คือ ดิฉันฟินแทนนางเอกเลยก็ว่าได้

จุดจบของเรื่องจะแลยหมดค่ะ ว่าพี่สาวนางเอกหายไปไหน ซึ่งดิฉันว่าถ้าไม่เฉลยก็ไมได้แปลกอะไร แต่การเฉลยทำให้ความสัมพันธ์ของพระเอกนางเอกไม่ตั้งอยู่บนความหวาดระแวง รักกันได้อย่างหมดใจ สรุปว่าทะเลหวามเป็นนิยายอีกเรื่องที่อ่านได้สบายๆค่ะ ฉากเลิฟซีนหวานๆตามสไตล์เจ๊บิ๊ก หากใครชอบลองไปหาอ่านดูนะคะ
นวนิยายชุด รักฉบับเซเลบ : 9 เล่ห์ รัก ร้าย (ณารา)
4
โดย: จตุพร_07 วันที่เขียนรีวิว: 08 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

“9 เล่ห์ รัก ร้าย” เป็นนิยายในชุด รักฉบับเซเลบค่ะ ถือว่าเป็นเล่มแรกของชุดก็ว่าได้ เนื่องจากเนื้อเรื่องในชุดนี้มีการเชื่อมโยงกันที่ตำแหน่งเจ้าหญิงแห่งวงการเซเลบ และนางเอกของเรื่องนี้คือ “ปุษยามาลย์” ดำรงตำแหน่งนี้อยู่ ซึ่งเธอเริ่มอายุมากแล้ว จึงมีเซเลบรุ่นน้องหลายคนหวังที่จะช่วงชิงตำแหน่งของเธอ ดังนั้นนางเอกจึงต้องหาทางรักษาตำแหน่งของเธอเอาไว้ โดยการตามจีบผู้ชาย (พระเอกนิเอง) แข่งกับเซเลบรุ่นน้อง (นางร้าย) แต่ถ้าไม่อ่านเรียงกันตามเล่มก็ไม่เป็นไรค่ะ แค่การอ่านเรียงไทม์ไลน์โดยใช้ตำแหน่งเจ้าหญิงแห่งวงการเป็นตัววัดก่อนหลังจะทำให้ได้อรรถรสเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง

ความพิเศษของนิยายเซตนี้ เป็นนิยายที่ไม่ใช่แค่เพียงนิยายค่ะ แต่เป็นนิยายในรูปแบบ How to ด้วยนะเออ อย่างช่วงเริ่มต้นบทใหม่จะมี How to ใส่กรอบเล็กๆสวยๆ เพื่อแนะนำผู้หญิงอย่างเราๆ และเนื้อเรื่องก็จะตรงกับ How to นั้นๆค่ะ

ความรู้สึกหลังการอ่านคือ เป็นนิยายที่สนุกอีกเรื่องสำหรับดิฉัน คาเรกเตอร์นางเอกจะออกแนวสาวมั่น เชิด สวย รวย เก่ง ก็แหมไม่งั้นคุณเธอจะได้รับตำแหน่งเป็นถึงเจ้าหญิงหรือคะจริงไหม และด้วยความหมั่นไส้แม่สาวเซเลบรุ่นน้อง หรืออย่างไรก็ไม่รู้ นางเอกเลยเดินหน้าจีบผู้ชายคนเดียวกับนาง พระเอกเรื่องนี้เป็นคุณหมอค่ะ หน้าออกสไตล์เกาหลี จนมีคนแอบตั้งฉายาให้ด้วยนะคะว่า “หมอน่าเกา” ซึ่งไม่ยอมหลงเสน่ห์นางเอกเสียที ตอนแรกนางเอกคิดว่าเขาจะจีบได้ง่ายๆ เพราะคิดว่าเขาดูบ้านๆไม่มีอะไรเหมาะสมกับเธอเลยสักนิด (คือจีบเพื่อความสะใจว่างั้นเถอะค่ะ จะได้เอาไปเย้ยรุ่นน้องได้) แต่พอได้เข้าไปทำความรู้จักอยู่ใกล้ชิดกับพระเอกตามแผนการที่เธอได้วางไว้ ก็ยิ่งทำให้เธอประทับใจในตัวเขามากขึ้นเรื่อยๆ หลายๆอย่างที่เธอแกล้งทำหรือจัดฉากให้เขาประทับใจ แต่พอตอนหลัง ได้พระเอกคอยเตือนคอยบอก นางเอกเลยปรับปรุงตัวค่ะ เพราะเนื้อแท้เธอเป็นคนดีอยู่แล้ว มาที่ตัวร้ายของเรื่องนี้กันบ้าง เธอร้ายแบบเปิดเผย ร้ายแบบน่าโดนตบมาก แต่โชคดีที่นางเอกไม่ดิ้นตามไปด้วย แถมเพื่อนสนิทนางเอกยังคอยช่วยเหลือด้วย ลืมบอกไปค่ะว่าเพื่อนสนิทนางเอกเป็นพวกมีสัมผัสพิเศษด้วยนะ เรื่องความรักอะไรประมาณนี้ เป็นเพื่อนตายไม่ทิ้งนางเอกด้วยอีกต่างหาก

ปมหลักของเรื่องไม่มีอะไรนอกจากความรักของพระนาง เพราะเป็นนิยายรัก แต่ตอนจบของเรื่องเซอร์ไพส์พอสมควรเลย เมื่อพระเอกมีบางอย่างที่เก็บซ่อนไว้ จนมาเฉลยตอนหลังใกล้จบเรื่อง เล่นเอานางเอกลมแทบจับ แต่แหมคนมันรักไปแล้ว เธอจะปล่อยเขาไปหานางร้ายก็ใช่เรื่อง เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้ตอนจบของเรื่องเป็นเช่นไรต้องลองไปอ่านดูค่ะ ไม่สปอยหรอก อิอิ

ฤดูดาว (ปกใหม่)
5
โดย: จตุพร_07 วันที่เขียนรีวิว: 07 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

ดิฉันไม่เคยอ่านหนังสือของคุณหมอพงศกรมาก่อน จนกระทั่งได้ของขวัญจากพี่คนหนึ่งเป็นนิยายเรื่อง “ฤดูดาว”ค่ะ ด้วยความหนาของนิยายเรื่องนี้แค่เห็นตัวเล่มก็แทบจอด แต่อ่านคำโปรยจากปกด้านหลังแล้วทำให้ดิฉันตัดสินหยิบขึ้นมาอ่านในทันที เนื่องจากโดนส่วนตัวแล้วชอบนิยายแนวข้ามภพข้ามชาติอยู่แล้วค่ะ เรื่องราวเริ่มเมื่อ “ดรสา” นางเอกของเราเดินทางไปที่ “ผาช้างร้อง” เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของผู้เป็นแม่นั่นคือการพัฒนาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของที่นั่น เมื่อนางเอกเข้าไปตอนแรกแน่นอนค่ะว่าต้องเกิดเสียงต่อต้านและไม่เชื่อใจคนเมืองกรุงแบบเธอแน่ๆ แถมยังมีกลุ่มคนบางส่วนจะขายที่ดินให้แก่ “ดร.สินธพ” พระเอกนิเองค่ะ โดยที่เขาติดต่อขอซื้อเพื่อต้องการขยายสวนส้ม

ความตื่นเต้นของนิย่ายเรื่องนี้คือ ช่วงที่นางเอกเดินทางไปที่ผาช้างร้อง เป็นช่วงที่ใกล้ถึง “ฤดูดาว” ซึ่งคนเฒ่าคนแก่ว่ากันว่า เป็นช่วงที่ดอกเอื้องแสนเพ็ง จะกลายร่างเป็นนางอั้วแสนเพ็งและได้พบกับแถนเมืองแมน คนรักของเธอ เพื่อจะได้อยู่ร่วมกัน หลังจากที่ต้องพลัดพรากจากกันมาแสนนาน กล่าวกันว่าแปดสิบปีดอกไม้นี้จะบานหนึ่งครั้ง ในชีวิตคนเราแต่ละคนจึงมีโอกาสเห็นฤดูดาวและดอกเอื้องบานแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ดังนั้นจึงมีผู้คนมากมายทั้งดีชั่วต่างมุ่งมั่นที่จะเห็นดอกไม้ รวมถึงครอบครองด้วย จึงต้องมีองครักษ์ปกป้องดอกเอื้องไม่ให้ใครเข้าใกล้คือแมงมุมพิษเรียกกันว่า “กะนาแปะย้อง” ซึ่งเชื่อกันว่ามันจะทำร้ายแต่คนไม่ดี

ช่วงที่ลุ้นของเรื่องก็อย่างที่บอกค่ะ ว่ามีคนไม่ดีอยากครอบครองดอกไม้สูงค่าอย่างเอื้องแสนแพ็ง ดังนั้นกลุ่มคนดีจึงร่วมกันช่วยปกป้อง ให้ดอกไม้ไม่ถูกทำลายจะได้กลับไปอยู่กับชายคนรัก คงไม่ต้องสืบนะคะว่าใครเป็นฝ่ายปกป้อง ปิ๊งป่อง ก็ต้องนางเอกกับพระเอกสิคะ ตอนแรกๆมีฉากปะทะคารมของพระเอกนางเอกด้วยน้า แต่ตอนหลังทั้งคู่ก็เข้าใจกัน และรู้สึกดีต่อกันค่ะ เอาจริงๆอธิบายไม่ถูกเลยว่าทั้งคู่ไปรักกันตอนไหน แต่อ่านแล้วไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลกนะคะ เพราะคำพูดอะไรต่างๆและการบรรยายทำให้สื่อว่าทั้งคู่รู้สึกดีๆต่อกันค่ะ ใครที่คาดหวังความรักแบบหวานๆคงหาไม่ได้จากเรื่องนี้ แต่ถ้าถามเรื่องความซาบซึ้ง ฉากที่ร่วมกันต่อสู้เพื่อปกป้องดอกเอื้อง เป็นฉากเรียกน้ำตาของเรื่องนี้ก็ว่าได้ค่ะ ความเสียสละที่จะช่วยเหลือดอกไม้ของกลุ่มคนดีเป็นอะไรที่ตรึงใจดิฉันมาก ฉากจบก็แค่นางเอกชวนพระเอกมานอนดูดาวในฤดูดาวอีกครั้ง คำพูดง่ายๆค่ะ ไม่ต้องบรรยายมาก แต่หว๊านวานน อ่านแล้วยิ้มเลย สรุปสั้นๆง่ายๆว่า “ชอบ”ค่ะ สำหรับนิยายเรื่องนี้
หวานลับเล่ห์ (เนวิกา)
5
โดย: จตุพร_07 วันที่เขียนรีวิว: 07 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

ดิฉันมีโอกาสได้อ่าน “หวานลับเล่ห์”ด้วยความที่ถูกใจหน้าปกสีสวย หวานๆ สมชื่อเรื่อง จึงหยิบไปจ่ายเงินในบูทจากงานหนังสือค่ะ และนิยายเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องแรกที่ดิฉันได้อ่านผลงานของคุณเนวิภา พลอตของนิยายเรื่องนี้ไมได้แปลกมากค่ะ เป็นเรื่องราวของฝาแฝดหญิงคู่หนึ่ง เมื่อแฝดพี่หายไป ด้วยสาเหตุบางประการ แฝดคนน้องด้วยความอยากรู้เรื่องราวความจริงจึงปลอมตัวสวมรอยเป็นแฝดคนพี่เพื่อเข้าไปสืบข้อมูลและสาเหตุที่พี่สาวเธอหายตัวไป จนได้รู้ความจริงและหาพี่สาวจนพบค่ะ

ถึงพลอตจะไม่แปลกแหวกแนวมาก แต่นิยายเรื่องนี้ก็มีเสน่ห์ในตัวของมันค่ะ เริ่มจากคาเรกเตอร์ของตัวละคร อย่างคู่แฝด นิสัยนิต่างกันสุดขั้วเลยนะคะ คนพี่จะเป็นแนวสาวมั่น สวย เริ่ด ไม่ค่อยแคร์ใคร ส่วนคนน้องสดใสร่าเริง มีแต่คนเอ็นดู รวมถึงคู่หมั้นของแฝดพี่ด้วย แฝดพี่เลยเข้าใจผิดว่าคู่หมั้นรักน้องสาว เหมือนเป็นปมในใจอย่างเดียวของนางเลยก็ว่าได้ เพราะทั้งคู่หมั้นกันเพราะความเห็นชอบว่าเหมาะสมกันตามที่ผู้ใหญ่ได้ตกลงไว้ บ้านอยู่ใกล้กันอีกต่างหาก เขาเลยเปรียบเหมือนพี่ชายข้างบ้านสำหรับฝาแฝด ทีนี้เรื่องยุ่งๆเริ่มเกิดเมื่อแฝดน้องปลวมตัวเข้าไปในบริษัทของพี่สาวเพราะพี่สาวหายตัวไป และได้เจอกับเจ้านายหนุ่มรูปหล่อ อีตาเจ้านายเนี่ยก็มีปมหลังฝังใจเกี่ยวกับอดีตความรักครั้งก่อนของตัวเองเลยทำให้เขาไม่คิดจะเปิดรับใครเข้ามาในหัวใจอีก แต่เมื่อได้ใกล้ชิดกับแฝดคนน้องที่เขาเข้าใจว่าเป็นแฝดพี่ที่มีคู่หมั้นแล้ว แม้จะเริ่มหวั่นไหวกับเธอ แต่ก็ต้องห้ามใจไม่ให้ไปหลงรักคนมีเจ้าของ เหมือนต้องห้ามใจกันไปมาทั้งคู่ค่ะ เพราะแฝดคนน้องก็ชอบพระเอกเหมือนกัน ตอนแรกเธออาจจะเห็นว่าเขาดูดุๆขรึมๆ แต่พอได้ทำงานใกล้ชิดเลยได้สัผัสเนื้อแท้ของความอ่อนโยน จึงเริ่มหลงรักโดยไม่รู้ตัว ชอบฉากที่ทั้งคู่ไปที่ญี่ปุ่น ซึ่งเหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่เจ้านายเริ่มหวั่นไหวกับลูกน้องสาวปลอมๆ ความน่ารักของทั้งคู่ทำให้อ่านแล้วยิ้มไม่หุบ เลยทีเดียว โดยเฉพาะแฝดคนน้องเนี่ยแหละค่ะ ผู้เขียนบรรยายบทพูดเธอได้ขำชวนน่าหยิกน่าตีมาก >//<

ส่วนปมหลักใหญ่ๆของเรื่องนี้ คือ การตามหาคนร้ายที่ใส่สารไม่ปลอดภัยลงในขนมหวาน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักให้แฝดคนน้องต้องมาพัวพันกับเจ้านายพี่สาวนิแหละค่ะ เพราะบริษัทนี้เป็นบริษัทนำเข้าขนมหวานจากญี่ปุ่น ส่วนคู่หมั้นพี่สาวก็เริ่มแสดงพิรุธให้เห็น่ว่าเขามีบางอย่างปิดบังไว้ งานนี้แฝดคนน้องเลยต้องทำงานหนัก ทั้งสืบหาคนร้ายและสืบว่าพี่สาวเธอไปอยู่ไหน เป็นนิยายที่สนุกอีกเรื่อง ผู้เขียนปูเรื่องได้น่าติดตามดีค่ะ มีฉากฮาๆให้ขำกับพฤติกรรมตัวละครด้วย ถึงจะมีปมก็ไม่ใช่ปมเครียดมากมาย ตอนจบถือว่าจบได้ดีทีเดียว แนะนำค่ะ
ชาติเสือ พันธุ์มังกร (ปราณธร)
5
โดย: จตุพร_07 วันที่เขียนรีวิว: 07 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

“ชาติเสือ พันธุ์มังกร” เป็นนิยายอีกเล่มที่ดิฉันชอบมากๆ ปกติไม่นิยมอ่านนิยายที่ตัวละครมีชื่อจีนเท่าไหร่นัก เพราะอ่านยากและจำยากค่ะ แต่ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาจากเพื่อนๆหลายคน จึงไม่ลังเลที่จะหยิบขึ้นมาอ่าน แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ นิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นนิยายรักโรแมนติกหรอกนะคะ ค่อนข้างจะหนัก และสะเทือนอารมณ์ตั้งแต้ต้นยันจบ ดังนั้น ใครที่คิดจะอ่าน แต่ไม่ชอบแนวนี้ อย่าฝืนใจค่ะ ไม่งั้นจะเครียดเกินไป แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาด้านนี้ ฟันธงค่ะ ว่าต้องชอบและประทับใจเหมือนดิฉัน

เรื่องดำเนินโดยใช้ชีวิตของพระเอกเป็นแกนหลัก เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงราวๆ พ.ศ.2506-2517 พระเอกของเรา “ทรงวาด” หรือมีชื่อจีนเก๋ๆว่า "ลิ้มบุ่นโฮ่ว" เป็นชาวจีนที่ครอบครัวอพยพมาอยู่เมืองไทย อย่างที่รู้ๆกันค่ะว่าสมัยก่อนชาวจีนมักไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีนัก พระเอกแม้จะได้ครอบครัวไทยที่เป็นตำรวจชั้นสูงอุปการะ แต่เมื่อพบว่าเขาเป็นคนจีนจึงถูกไล่ออกจากโรงเรียนทั้งๆที่ใกล้จะจบแล้ว น่าเศร้าเนอะ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวเลยก้ว่าได้ค่ะ เพราะชะตาชีวิตของพระเอกพลิกผัน เพราะเขาไม่อยากรับกิจการโรงน้ำชาของที่บ้าน เลยต้องหาทางเพื่อให้หลุดพ้นจากกิจการที่เขาไม่ชอบ นิแหละค่ะ เริ่มราวต่างๆเลยตามมา
อย่างที่บอกไว้นะคะ ว่าชื่อจีนเป็นอะไรที่จำค่อนข้างยากสำหรับดิฉัน ดังนั้นชื่อที่ดิฉันให้ความสนใจหลักๆ คือแค่ของพระเอกและ “เตียงจู”ที่เป็นนางเอกค่ะ สปอยให้เลยก็ได้ว่าพระเอกเรื่องนี้เลี้ยงต้อย เขาพบนางเอกตั้งแต่ยังเด็กๆ และเอามาอยู่ด้วยกัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในช่วงต้นๆเรื่องจึงเหมือนผู้ใหญ่และเด็กในปกครองมากกว่า พระเอกถูกชะตากับนางเอกนั่นแน่นอนอยู่แล้วเพราไม่เช่นนั้นคงไม่รับเธอมาเลี้ยงดู ส่วนนางเอกก็ให้ความสำคัญกับพระเอกคล้ายๆว่าเขาเป็นเจ้าชีวิตก็ไม่ปาน เพราะถือว่าเขาให้ชีวิตใหม่เธอ ช่วงแรกๆที่พระเอกสร้างเนื้อสร้างตัว ได้นางเอกและคนสนิทหลายๆคนเนี่ยแหละค่ะ เป็นกำลังใจ ให้ผ่าฟันอุปสรรค

จุดเด่นของนิยายเรื่องนี้ ที่ดิฉันชื่นชอบมากที่สุดคือ ข้อมูลการเขียนแน่นมาก ผู้เขียนบรรยายได้บรรยากาศเหมือนหลุดไปอยู่ในยุคนั้นจริงๆ สมัยที่ยังแบ่งก๊กแบ่งเหล่า และตำรวจมีการปกครองในเยาวราชในรูปแบบพิเศษ เขียนได้น่าติดตามมากค่ะ ส่วนเรื่องรองลงมาคือ การต่อสู้กับชะตาชีวิตของพระเอก เขาทุ่มเทแรงทั้งกายใจฝ่าฟันเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของคนไทย อยากมีชื่อไทย ทำมาหากินโดยสุจริตบนผืนแผ่นดินไทย อ่านแล้วนับถือจริงๆค่ะ ที่เขาให้ความสำคัญและอยากเป็นคนของแผ่นดินไทยขนาดนั้น คาเรกเตอร์พระเอกเรื่องนี้คงบอกไม่ได้ว่าตัวเขาดีและขาวสะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะจะให้ดีครบร้อยคงฝ่าฟันกับพวกเลวๆยากไปหน่อย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าไม่มีตัวละครไหนขาวได้ครบร้อยหรอกค่ะ แต่พระเอกก็ไม่ได้ดำจนกลายเป็นคนชั่วร้าย ทุกอย่างทีเหตุผลในการกระทำของตัวมันเอง

เดี๋ยวจะหาว่ามีแต่ปมหนักๆเครียด ฉากหวานๆของเรื่องก็มีนะคะ ตอนที่นางเอกโตและพระเอกก็เริ่มรักนางเอก ฮ่าๆๆ เอาจริงๆไม่รู้ไปรักกันตอนไหน น่าจะเป็นความผูกพันธ์ของทั้งคู่มากกว่า น่ารักดีค่ะ ไม่หวานจนเลี่ยน ความรักของพระนางเป็นความรักที่ปกป้องดูแลและให้กำลังใจกันและกัน ไม่ได้มีแค่ความเสน่หา เอาเป็นว่าอย่าช้าอยู่เลยค่ะ ไปหามาอ่านดีกว่า อ่านแล้ววางไม่ลงจริงๆ
วิวาทหวาน
5
โดย: จตุพร_07 วันที่เขียนรีวิว: 07 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

หลายคนคงเคยเห็นนามปากกา err_or มาก่อนใช่ไหมคะ “วิวาทหวาน” ผู้เขียนเปลี่ยนนามปากกาใหม่เป็น “เพลงพรรษ” ค่ะ ชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้วว่า วิวาท “หวาน” ดังนั้นเนื้อเรื่องข้างในก็คงต้องฉากหวานๆให้จิกหมอนจนมือเจ็บกันไปข้าง
เปิดฉากมาแม้จุดเริ่มต้นของการเจอกันครั้งแรกระหว่างพระเอกกับนางเอกจะไม่ค่อยประทับใจนัก เพราะเขาดันทำตัวสมฉายา “ป๋าหมาก” นินทานางเอก แล้วดั๊นนนนนบังเอิญที่เจ้าตัวเข้ามาได้ยินพอดี จึงเกิดศึกน้ำลายย่อมๆขึ้น พระเอกแอบเรียกนางเอกว่า “คุณเห็ด” ด้วย ร้ายกาจจริงๆ แต่แหม ขึ้นชื่อว่านางเอกก็ต้องมีดีเนอะ แน่นอนว่านอกจากฝีปากแล้ว หน้าตาก็มีส่วนสำคัญให้พระเอกสนใจค่ะ แม้เธอจะไมได้สวยจัดเหมือนแฟนคนเก่าๆของเขา(ผู้เขียนบอกมาว่างั้น) แต่เรียกได้ว่าทั้งหน้าตาและการกระทำดึงดูดพระเอกให้เข้าหาได้อย่างดีเลยทีเดียว ก็แหมเธอเป็นคนสวยใจงามรักสัตว์นิคะ เปิดร้าน pet salon ด้วยนะ อิอิ

ทำตัว “ป๋าหมาก” แอบเนียนใกล้นางเอกไปสักพัก พี่แกเล่นขอเป็นแฟนเฉยเลย สารภาพเลยค่ะ ว่าฉากขอเป็นแฟนดิฉันเขินแทนนางเอก อายม้วนไปหลายตลบ เอาเป็นว่าฉากที่พระนางคุยกัน อาจจะมีปะคารมกันบ้างแต่ความหวานมีมากกว่า อ่านไปยิ้มไปกับความน่ารักของทั้งคู่

เดี๋ยวจะคิดว่านิยายเรื่องนี้มีแต่ฉากหวานให้ฟิน เปล่าค่ะ มีฉากดราม่าไม่น้อย มีประเด็นคนที่มีเรื่องกับนางเอกโดนทำร้าย นางเอกเองก็โดนข่มขู่ด้วย งานนี้เลยเริ่มมีลุ้นๆบ้าง ส่วนตัวร้ายหญิง อย่างแฟนเก่าพระเอก นางไมได้ร้ายแบบโจ้งแจ้ง โผล่มาแปบเดียวก็หายไปค่ะ เลยไม่รำคาญเท่าไหร่ แต่การกระของนางนิสิค่ะ ฝังเป็นปมในใจพระเอกมาตลอดเวลา ทำให้มีบางฉากที่พระเอกจะมีโมเมนต์งี่เง่าให้น่าโดนนางเอกตบเกรียนสักที แต่เหมือนผู้เขียนสร้างนางเอกเรื่องนี้ให้เธอเป็นคนค่อนข้างมีเหตุผลไม่ง๊อแง๊ง เอะอะงอนตุ๊บป่องให้พระเอกตามง้องอนฝ่ายเดียว ชอบนางเอกตรงนี้แหละค่ะ มีจุดยืนและเหตุผลเสมอ เป็นคนซื่อตรงต่อความรู้สึกตัวเองด้วย จิตใจอ่อนโยน อย่างฉากที่เธออยู่กับพวกเจ้าสี่ขา ก็เป็นอีกฉากที่น่าประทับใจค่ะ แผ่อิทธิพลให้พระเอกชอบพวกเจ้าขนปุยด้วยอีกต่างหาก สวยแล้วใจดีมีเมตตาก็ไม่แปลกเนอะ ที่มีจะหนุ่มมาหมายปอง รวมถึงเพื่อนพระเอกด้วย หุหุ งานนี้จะเป็นรักสามเศร้ารึเปล่านะ ตอนใกล้ๆจบ จะเฉลยประเด็นที่นางเอกโดนขู่ หรือการที่คนใกล้ตัวนางเอกถูกทำร้ายด้วยว่าเพราอะไร คือมันเหมือนมีหลายๆเหตุการณ์ที่ช่วยให้เข้าใจผิดด้วยนะคะ ต้องลองไปอ่านเอง
ตอนจบของเรื่องถือว่าจบได้โอเคนะคะ มีบทให้เจ้าสี่ขาได้พูดด้วย น่ารักมากๆ ความจริงนิยายเรื่องนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวความรักระหว่างคนกับน้องหมามาตั้งแต่ต้นเรื่องแหละค่ะ ยิ่งตอนใกล้จบยิ่งเห็นได้ถึงความรักระหว่างคนและหมา ดิฉันอ่านไปน้ำตาเริ่มคลอๆ (หลงคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกซะเอง) ใครที่ชอบนิยายน่ารัก อ่านสบาย ไม่ดราม่าไป มีปมนิดๆให้ติดตาม แนะนำเรื่องนี้เลยค่ะ

คุณแจ๋วอินเตอร์ (ณารา)
4
โดย: จตุพร_07 วันที่เขียนรีวิว: 07 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

“คุณแจ๋วอินเตอร์” เป็นผลงานอีกเรื่องของ “ณารา” หากใครคาดหวังว่าเรื่องนี้จะมีเลิฟซีนหวือหวาละก็ ขอบอกว่าคิดผิดจ้า เพราะเป็นผลงานไม่กี่เรื่องของคุณณาราที่เป็นโรแมนติกคอมเมดี้ เรื่องมีอยู่ว่าน้าสาวของนางเอก เห็นว่าลูกของเพื่อนบ้าน (พระเอกนิเอง)อาจจเป็นเด็กมีปัญหา และส่งผลทำให้เธอตกอยู่ในภาวะนอนหลับไม่เพียงพอ จึงขอความช่วยเหลือจากหลาน ซึ่งมีดีกรีเป็นนักจิตวิทยาเด็กจากอเมริกา คุณนางเอกเธอเลยตกลงช่วยเหลือน้าประกอบกับสงสารเด็กที่ไม่มีแม่ ด้วยการปลอมตัวเข้าไปเป็นคนใช้บ้านพระเอก เนื่องจากพี่เลี้ยงคนเก่าลาออกเพราะทนพฤติกรรมลูกพระเอกไม่ไหว พลอตก็คล้ายๆกับนิยายปลอมตัวทั่วๆไปค่ะ นางเอกปลอมตัวเข้าไปในบ้านพระเอก พระเอกไม่รู้ว่าปลอมตัวมา ตอนจบก็รักกัน แฮปปี้เอนดิ่ง หากใครคาดหวังปมยุ่งๆ หรือฆาตรกรรมเลือดสาดละก็ ไม่มีฉากนั้นแน่ๆในนิยายเล่มนี้

ความรู้สึกหลังอ่านจบคือ เป็นนิยายที่อ่านได้เรื่อยๆอีกเรื่อง ส่วนตัวประทับใจนิยายพวกแนวดราม่าหรือมีปมนิดๆของคุณณารามากกว่า สำหรับแนวคอมเมดี้ไม่ถึงกับไม่สนุกค่ะ มีฉากขำๆกับการปลอมตัวนางเอกไม่น้อย จากสาวผู้ดี มีชาติตระกูล ต้องปลอมไปเป็นคนใช้พูดไม่ชัดอีกด้วย แปลงโฉมยกใหญ่ไรงี้ พระเอกก็ได้แต่งงว่าทำไมลูกๆเขาถึงเชื่อฟังสาวใช้ และนอกจากเธอจะสามารถดูแลเด็กๆได้แป็นอย่างดีแล้ว กับพ่อเด็ก นางเอกก็เริ่มหวั่นไหวค่ะ เพราะเขาเป็นคนดี ด้านพระเอกเองก็ชอบพฤติกรรมของสาวใช้คนใหม่ไม่น้อย จนเกิดเป็นความประทับใจเล็กๆ หลงรักโดนไม่รู้ตัว แต่นางเอกเป็นสาวใช้นิค่ะ พระเอกเลยอาจจะตะหงิดนิดนึงถ้าจะเลือกเธอมาเป็นภรรยา นางเอกเลยอยากรู้ว่าพระเอกเป็นคนดีอย่างที่เธอคิดไว้หรือเปล่า เลยวางแผนเพื่อพิสูจน์ รักแท้ ฉากที่นางเอกสลับตัวไปมา ระหว่างเป็นสาวใช้กับกลับไปเป็นตัวตนที่แท้จริง เป็นอีกฉากที่ดิฉันชอบ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมถึงชอบ แต่อ่านแล้วให้ฟีลลิ่งแบบร่วมลุ้นไปกับนางเอกด้วยว่าเมื่อไหร่เธอจะถูกจับได้ เพราะมีหลายครั้งที่ความเกือบแตก ส่วนคู่รองคือเพื่อนของพระเอกกับน้าสาวนางเอกก็เป็นอีกคู่ที่น่ารักค่ะ น้าสาวนางเอกก็แสบไม่ใช่ย่อย ไม่งั้นคงไม่เรียกนางเอกมาช่วยหรอกจริงไหมคะ ดังนั้นคู่น้าสาวกับเพื่อนพระเอกจึงเข้ามาช่วยสร้างสีสันให้นิยายสนุกเพิ่มขึ้นค่ะ ท้ายๆเรื่องความจริงที่นางเอกปลอมตัวมาจะถูกเปิดเผย แต่ไม่บอกนะคะว่าเปิดเผยได้ยังไง ส่วนความรักของพระนางจะลงเอยยังไง ต้องไปติดตามในเล่มเองค่ะ
ชีวิตมั่งคั่งด้วยกระเป๋าสตางค์ใบเดียว
5
โดย: จตุพร_07 วันที่เขียนรีวิว: 07 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

ผดิฉันได้หนังสือ “ชีวิตมั่งคั่งด้วยกระเป๋าสตางค์ใบเดียว” มาเพราะเห็นว่าเป็นหนังสือติดอันดับขายดีในร้านหนังสือหลายๆสาขาค่ะ ประกอบกับรูปร่างหน้าตามีขนาดกะทัดรัด หน้าปกดูเรียบง่าย ดิฉันเลยคิดว่าคงจะใช้เวลาอ่านไม่นาน อ่อ ลืมบอกไป ว่าหนังสือเล่มนี้เขียนโดยผู้เขียนชาวญี่ปุ่นค่ะ ดังนั้นเนื้อหาจึงอ้างอิงสังคมของญี่ปุ่นไม่น้อย
พอเปิดหน้าสารบัญปุ๊บ จะพบว่าหนังสือเล่มนี้ถูกแบ่งเป็นสี่บทใหญ่ ไล่จากสิ่งใกล้ตัวอย่างกระเป่าสตางค์ค่ะ ชื่อหนังสือก็บอกอยู่แล้ว แสดงว่ากระเป๋าสตางค์ต้องมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะส่งผลต่อการเก็บเงิน การใช้จ่ายต่างๆ ในเล่มนี้ผู้เขียนแนะนำให้ใช้กระเป๋าสตางค์ทรงยาว ซึ่งส่วนมากสาวๆก็ใช้กันอยู่แล้ว จึงขอโฟกัสไปที่เพศชายที่ส่วนมากชอบใช้กระเป๋าสตางค์แบบพับ อยากรู้ใช่ไหมคะ ว่าทำไมกระเป๋าสตางค์ทรงยาวถึงมีอำนาจและค่ควรกับเงินมากกว่ากระเป๋าสตางค์แบบพับ ผู้เขียนได้อธิบายไว้ในหนังสือค่ะ ซึ่งดิฉันก็เห็นด้วยไม่น้อยกับความจริงที่ผู้เขียนพยายามบอก
การที่เงินจะอยู่กับเรา เราก็ต้องรักมันใช่ไหมคะ หนังสือเล่มนี้ได้ชี้แจ้งอย่างนั้นเช่นกัน คือดิฉันชอบตรงที่ผู้เขียนพยายามนำเสนอชีวิตในอดีตของเขาที่เคยร่ำรวยมาก่อน แต่ต้องมาลำบากเพราะมีเหตุการณ์บางอย่างทำให้เขารู้จักคุณค่าของเงินมากขึ้น เวลามีเงินถ้าเราไม่มีสติก็ชีวิตจบค่ะ ถ้าเรามีสติและรอบคอบกับการใช้เงินจะทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าเงินจะหนีหายเราไปไหน ตรงข้ามกับคนที่ใช้เงินอย่างขาดการวิเคราะห์ อย่างที่หนังสือเล่มนี้จะสอนเสมอว่าให้คิดให้ดีก่อนที่จะซื้ออะไรสักชิ้น ส่วนอีกข้อที่ดิฉันชอบจากหนังสือเล่มนี้คือ มีการเล่าว่าสังคมที่ญี่ปุ่น เวลาให้เงินหรือรับเงิบใคร พวกเศรษฐีจะทำกันแบบสุภาพ เพราะมีความรู้สึกดีๆกับเงิน ซึ่งเป็นอะไรที่ดิฉันเพิ่งเคยได้ยิน แต่ถือเป็นการกระทำที่น่ารักนะคะ น่าเอาอย่างค่ะ

มีบ้างที่ในหนังสือเล่มนี้กล่าวมา แล้วดิฉันต้องปรับหาวิธีใช้กับตัวเอง เพราะบางอย่างจะเป็นสไตล์ของญี่ปุ่น ไม่ถึงกับอ่านแล้วไม่เข้าใจ ถือว่าได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มด้วย แต่ที่ผู้เขียนแนะนำ และคิดว่าทำได้ไม่ยากสำหรับทุกคนคือการตั้งเป้าหมายในการเก็บเงินค่ะ ดิฉันว่ามันเป็นเพราะเมื่อเรารู้เป้าหมายเราจะสามารถคำนวณได้ว่าเราต้องเก็บเงินเท่าไหร่ยังไง หรือควรเอาไปลงทุนเพื่อประโยชนต่างๆ

ดิฉันว่าถ้าจะให้ได้ประโยชน์จริงๆ ผู้อ่านควรนำไปปฏิบัตตามด้วยค่ะ ถามว่าหนังสือแนะนำดีไหม ในเบื้องต้นทำให้เห็นภาพเฉยค่ะ ว่าเราจะมีเงินเยอะๆได้อย่างไร จากการเก็บตัวอย่างและศึกษาเศรษฐีชาวญี่ปุ่นของผู้เขียน ดังนั้น ถ้าใครสนใจ พออ่านเล่มนี้จบแล้ว อย่าลืมทำตามคำแนะนำด้วยนะคะ
ความรู้สึกดี...ที่เรียกว่ารัก มุกดา...มายารัก (ภัสรสา)
5
โดย: จตุพร_07 วันที่เขียนรีวิว: 04 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

“มุกดา... มายารัก” เป็นนิยายหนึ่งในชุด Love Jewelry อัญมณีแห่งรัก โดยเรื่องนี้ได้นำอัญมณี “มุกดา,มุกดาหาร หรือ จันทรกานต์” มาเป็นตัวดำเนินเรื่องค่ะ โดยที่เค้าว่ากันว่ามุกดาเป็นอัญมณีแห่งความรัก ผู้ใดได้ครอบครองจะเป็นผู้มีเสน่ห์ และเมื่อวันเกิดครบรอบยี่สิบปีของ “แก้วมุกดา” นางเอกของเรา ได้ของขวัญเป็นจี้มุกดา เธอก็รู้สึกว่าตัวเองมีเสน่ห์น่ารักมากขึ้น เลยทำให้ผู้ชายหลายคนเข้ามาชื่นชอบเธอ ร้ายแรงที่สุดคือใช้เพื่อนเธอเป็นทางผ่านเธอให้ได้รู้จักเธอ เจอแบบนี้เพื่อนนางเอกก็แค้นสิคะ เลยให้นางเอกหักอกผู้ชายที่หลอกลวงตนเป็นว่าเล่น จนได้มาเจอกัน “นิชภัทร” จิตรกรหนุ่ม ครั้งนี้แตกต่างกันออกไปค่ะ(แหงเสะ ก็ตานี่เป็นพระเอกไงละคะ) เพราะนางเอกรู้สึกว่ายิ่งชอบและยิ่งผูกพันกันกับเขามากขึ้นทุกวัน แต่กรรมมาตามทันเพราะพระเอกดันเข้าใจผิดว่านางเอกหลอกลวงตน เลยหนีหน้าหายตาไป จนกระทั่งมีข่าวตามหาอัญมณีที่หายไปซึ่งเป็นของตระกูล “ กิจพนิช” เพื่อค้นหาทายาทที่แท้จริง นางเอกจึงเดินทางไปตามประกาศในหนังสือพิมพ์เพื่อคืนของที่ไม่ใช่ของตน โดยไม่รู้เลยว่าพระเอกเป็นคนในตระกูลนั้นค่ะ เริ่มสนุกแล้วใช่ไหมคะ ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องจะเป็นอย่างไรต่อ ตามไปอ่านในเรื่องได้เลยค่ะ

ความรู้สึกส่วนตัวหลังอ่านจบคือ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่สนุกอีกเรื่องค่ะ แม้ไม่ลุ้นเรื่องทายาทของตระกูล หรือต้องหาทางให้อีกฝ่ายยอมคืนอัญมณี เพราะรู้อยู่แล้วว่านางเอกไม่ใช่และนางเอกก็ยอมคืน ดังนั้นเรื่องนี้จึงโฟกัสที่พระเอกกับนางเอกมากกว่าว่าความเข้าใจผิดของเขานั้นจะส่งผลเช่นไรกับเธอ ไม่แปลกหรอกค่ะ ที่ต้นเรื่องพระเอกจะยังโกรธนางเอกอยู่ แต่ไม่ใช่ว่าเขาหมดรักนะคะ ไม่งั้นคงไม่ทำของต่างหน้า ที่นางเอกชอบไว้ดู แต่จะให้อภัยง่ายๆคงจะไม่ใช่แนว (เอิ่มม ความจริงถ้าใจเย็นฟังนางเอกอธิบายเรื่องคงจะจบไปแล้วค่ะ ไม่เกินสิบหน้า) ส่วนนางเอกตอนแรกเหมือนจะสนุกและภูมิใจกับเสน่ห์ของตนเอง ซึ่งฉากนั้นดิฉันไม่ชอบชีอย่างแรง เพราะการเอาความรู้สึกคนอื่นมาล้อเล่นคงไม่ใช่เรื่องตลก แม้ว่าอีกฝ่ายจะหลอกใช้เพื่อนเธอก่อนก็ตาม พอหลอกหลายๆครั้ง นางเอกเริ่มรู้สึกตัวว่าไม่ควรทำ แต่ก็สายไปเพราะตอนนั้นเธอได้เสียพระเอกไปแล้ว ฉากนี้ในนิยายดราม่ามากค่ะ สงสารทั้งนางเอกและพระเอก รำคาญเพื่อนนางเอกด้วยที่ไม่เข้าใจเพื่อนเลย พอทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้ง นางเอกก็พยายามจะอธิบายความจริงให้เขาฟังค่ะ ตอนแรกพระเอกไม่ยอมฟัง จนในที่สุดพระเอกก็รู้ความจริง (ส่วนที่ว่ารู้ได้อย่างไรติดตามในเรื่องค่ะ) เลยเข้าใจกันเสียที ความรักของทั้งคู่จึงกลับมางอกเงยอีกครั้ง ซึ่งตอนจบก็มีฉากให้ได้ชุ่มชื่นหัวใจเล็กๆหลังจากดราม่ามาเกือบค่อนเรื่อง เย้
รักต้องอุ้ม
5
โดย: จตุพร_07 วันที่เขียนรีวิว: 04 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

“รักต้องอุ้ม” หรืออีกชื่อเรื่องหนึ่งที่คุ้นเคยกันดีคือ “อลเวงรัก... ครอบครัวกำมะลอ” เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตที่พลิกผันในชั่วข้ามคืนของ “ลันตา” นางเอกของเราค่ะ ไหนจะตกงานเอย เงินไม่มีเอย ดั๊นนนโชคดีได้ลูกมาโดยไม่ต้องมีสามี แต่ด้วยความไม่อยากให้ลูก(ที่เก็บมาได้)ขาดพ่อ ความซวยเลยตกไปอยู่กับ “สิปาดัน” พระเอกของเรานิเอง เพราะเป็นเพื่อนสนิทนางเอกมาตั้งแต่เด็ก เลยต้องมารับบทบาทเป็นพ่อของเจ้าหนูน้อย ให้นางเอก เป็นที่มาของเรื่องราววุ่นๆ ต่างๆ

ดิฉันได้มีโอกาสอ่านนิยายเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยที่ยังใช้ชื่อ “อลเวงรัก... ครอบครัวกำมะลอ” ความรู้สึกหลังอ่านจบ ขอแยกระหว่างพลอตกับการบรรยายของผู้เขียนนะคะ เรื่องพลอตนับว่าแปลกใหม่ดีค่ะ จากคำโปรยหลังปก ทำให้น่าติดตาม การดำเนินเรื่องก็สนุกตั้งแต่เริ่มต้นเลยค่ะ นางเอกนิเป็นตัวฮา เพราะเธอคิดและทำอะไรไม่ค่อยปกติเหมือนชาวบ้าน พระเอกเป็นนักบินสุดหล่อ มีสาวๆติดตรึม แต่นางเอกสะกัดดาวรุ่ง หลอกให้สาวๆเข้าใจว่าเขามีลูกเมียแล้ว พระเอกเลยเงิบไป ปมเด่นของเรื่องที่ชวนให้ติดตามคงหนีไม่พ้นว่า พ่อแม่เด็กที่แท้จริงคือใคร ความจริงค่อยๆเปิดเผยให้ค่อยๆลุ้นกันทีละนิด สลับกันระหว่างบทบาทความสัมพันธ์ใหม่ของพระนาง แม้ตอนแรกทั้งคู่จะเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน แต่พอมาใช้ชีวิตจริงอยู่ร่วมกันเลยต้องปรับตัวใหม่กันทั้งคู่ แถมนางเอกยังไปกุเรื่องโกหกให้ทุกคนเข้าใจว่าเด็กเป็นลูกของเธออีก เรื่องเลยวุ่นวายไปกันใหญ่ ความจริงแล้วทั้งพระเอกและนางเอกต่างแอบรักกันมานานแล้วแต่ไม่เคยรู้ตัว คือเพื่อนๆรอบข้างดูออกนะคะ ว่าทั้งคู่รู้สึกพิเศษต่อกัน ดังนั้นดิฉันว่าการที่นางเอกโกหกและให้พระเอกมารับสมอ้างว่าเป็นพ่อ เลยถือเป็นโอกาสดีของพระเอกมากกว่าที่นางเอกย้ายมาอยู่ด้วย มีการเปลี่ยนสรรพนามเรียกแทนกันด้วยนะเออ เพราะกลัวลูกจะจดจำคำไม่ดีไรงี้

ตอนกลางๆเรื่องจะเริ่มมีการเปิดเผยแล้วค่ะว่าเด็กเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ช่วงนี้ของเรื่องดราม่าปนซึ้งพอสมควรนะคะ นางเอกกับพระเอกรักเด็กคนนั้นเหมือนลูกไปแล้วด้วย แต่ในเมื่อไม่ใช่ลูกตัวเองก็จำต้องคืนเขาไป ส่วนการที่นางเอกเก็บเด็กได้ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีกเช่นกันค่ะ สาเหตุนั้นดิฉันไม่ขอบอกนะคะ เพราะจะเป็นการสปอยเกินไป แต่นิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า สุดท้ายคนที่ไว้ใจร้ายที่สุด ~~~ เรื่องมันเศร้าค่ะ T-T พอหมดเรื่องเศร้าๆปุ๊บ ผู้เขียนก็มีฉากหวานๆมาให้ฟินเบาๆระหว่างทั้งคู่ หากใครชอบนิยายที่อ่านง่าย พลอตและเรื่องน่ารัก ลองไปหามาอ่านนะคะ ไม่ผิดหวังแน่นอน
ร้ายพ่ายรัก
4
โดย: จตุพร_07 วันที่เขียนรีวิว: 04 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

“ร้ายพ่ายรัก” เป็นนิยายที่ผู้เขียนได้บอกไว้ว่ามีแรงบันดาลใจมาจากซีรี่ส์เกาหลีชื่อดังเรื่อง “The Heirs” ดังนั้นอย่าแปลกใจนะคะถ้า เกิดว่า “ราชันย์” พระเอกของเรื่องจะมีลักษณะนิสัยร้ายๆ เหมือนพระรองของซีรี่ส์ ชีวิตของพระเอกช่างรันทดค่ะ เป็นลูกนอกสมรส เมียแต่งของพ่อก็ไม่ชอบเลยหาทางทำให้เขาต้องระหกระเหินไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง โดยใช้ “สไบแพร” นางเอกซึ่งเป็นลูกสาวของแม่บ้านมาเป็นเหยื่อ พระเอกเลยต้องไปใช้ชีวิตโดดเดี่ยวตั้งแต่เด็ก ไม่มีใครสนใจ กลายเป็นคนไร้รัก โถ่ น่าสงสารจริงๆพ่อคุณ

แล้ววันหนึ่ง เมื่อพระเอกโตขึ้น (ผู้เขียนระบุไว้ในเล่มค่ะว่าอยู่ในวัยเบญจเพส) เขาได้กลับมาเมืองไทย เพื่อทวงคืนทุกอย่างที่เคยเป็นของเขา ทำให้ได้พบกับนางเอกอีกครั้ง พระเอกก็ไม่รอช้าแสดงว่าป่าเถื่อนใส่เลยค่า ทั้งข่มขู่ แกล้งสารพัด แต่นางเอกเรื่องนี้เป็นนางเอกสไตล์นิยายไทยค่ะ อ่อนหวาน มองโลกในแง่ดี ไม่มีพิษมีภัย ดูใสซื่อน่าแกล้ง ที่สำคัญพี่ชาย(ต่างแม่)ของพระเอกก็แอบหลงรักนางเอกอยู่ด้วยนะคะ เสน่ห์แรงทีเดียว คาเรกเตอร์ก็คนละแบบกับพระเอกเลยเพราะพี่ชายคนนี้ เป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ต่อมาจะกล่าวถึงตัวร้ายของเรื่องนี้กันบ้าง ตัวร้ายเรื่องนี้แสดงออกอย่างเปิดเผยว่า ฉันร้ายนะยะ มาตั้งแต่เริ่มเรื่อง ไม่ต้องสืบให้เหนื่อยค่ะ แถมเป็นตัวร้ายครบวงจรอีกต่างหาก คนเดียวของเรื่องที่ทำให้เกิดปมของนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา

ความสัมพันธ์ระหว่างนางเอกกับพระเอกสำหรับนิยายเรื่องนี้ ดิฉันว่าไม่มากไปหรือน้อยไป แม้ช่วงแรกๆ จะให้ความรู้สึกว่านางเอกกลัวพระเอก แต่ด้วยความเป็นคนดีและเห็นใจผู้อื่น ทำให้พระเอกค่อยๆเปิดรับเธอมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะนางเอกมีลักษณะคล้ายแม่ของเขา เขาจึงค่อยๆหลงรักได้ไม่ยาก แต่จะให้จีบแบบคนปกติ พระเอกเรื่องนี้ทำไม่เป็นหรอกนะคะบอกเลย ชอบแอ๊บโหดต่อหน้านางเอกประจำ นางเอกเลยสับสนเล็กๆ ว่าตกลงอีตานี่จีบเธอจริงหรือเปล่า ประชดประชันเธอกับพี่ชายตัวเองอีก น่าหมั่นไส้จริงๆ ให้อภัยตรงความดีที่เขาไม่เคยทอดทิ้งให้นางเอกเดียวดายเวลานางเอกต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งดิฉันคิดว่านางเอกคงหลงรักเขาตรงจุดนี้เช่นกัน เห็นแบบนี้คนรอบข้างดูออกหมดนะคะว่าเขาชอบนางเอก ตอนหลังทั้งคู่ได้มาทำงานร่วมกัน นางเอกเป็นเลขาฯ ส่วนตัวพระเอก เลยทำให้ทั้งคู่มีโอกาสได้ใกล้ชิดสนิทสนม และก็เป็นเพราะนางเอกอีกเนี่ยแหละค่ะ ที่เข้ามาช่วยพระเอกหาหลักฐานเอาผิดคนร้าย จนเกือบจะถูกสั่งเก็บเพราะดันไปรู้ความลับของฝ่ายนั้นเข้า แต่พระเอกมาช่วยทัน นิแหละค่ะ ข้อดีของการไปใช้ชีวิตในต่างแดนของพระเอก เพราะเขาได้ไปเรียนรู้ทักษะหลายๆมา พร้อมด้วยคอนเนคชั่นกับคนหลายๆกลุ่ม ทำให้แผนของคนร้ายไม่สำเร็จหลายครั้งเพราะจุดนี้ด้วยค่ะ (ฉันละปลื้มแทนนางเอกจริงๆ ) ส่วนตอนหลังๆของเรื่อง มีให้ตื่นเต้นนิดหน่อยคือพระเอกซ้อนแผนเพื่อล่อให้คนร้ายติดกับเพื่อจะได้ปิดบัญชีกันเสียที จุดท้ายคนร้ายเลยได้รับกรรม เรื่องเลยจบแบบแฮปปี้ค่ะ
Anything is Possible คิดให้ไกล...ไปให้ถึง
4
โดย: จตุพร_07 วันที่เขียนรีวิว: 04 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

“Anything is possible คิดให้ไกล ไปให้ถึง” เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาให้กำลังให้แด่คนช่างฝัน จากคำโปรยปกหลังที่ว่า ‘หนังสือเล่มนี้จะเติมเต็มพลังแห่งความเชื่อมั่น และเสริมสร้างพลังใจในการดำเนินชีวิตของคุณ’ อือหือ โปรยมาขนาดนี้ หากใครต้องการกำลังใจ ลองหามาอ่านดูค่ะ
สำหรับดิฉัน ความเห็นส่วนตัวคิดว่าหนังสือเล่มนี้อ่านไม่ยาก ตัวหนังสือไม่มากนัก ทำให้สบายตาและใช้เวลาในการอ่านไม่นาน ไม่ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจอะไรให้วุ่นวายมากมายค่ะ หลังจากพูดเรื่องรูปลักษณ์ไปแล้ว ต่อมาดิฉันขอพูดถึงเนื้อหาภายใน ทางผู้เขียนเองจะมีการปูทางจากเรื่องที่ทำความเข้าใจง่ายๆ เบื้องต้นก่อน ให้เห็นก่อนว่าความคิดของคนเรานั้นมีพลังที่จะนำไปสู่การทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่หลายๆเรื่องได้ ถ้าหากความคิดนั้นมีระบบมากเพียงพอ เพราะทุกคนต่างมีฝัน ความฝันของแต่ละคน จะเล็กหรือใหญ่ ก็ไม่ถือว่าผิดแต่อย่างใด ดังนั้นในบทแรกจะอธิบายให้เห็นถึงนักฝันแต่ละประเภทค่ะ เช่น บางคนฝันแต่ไม่ลงมือทำ ส่วนในหนังสือเล่มนี้ได้บอกไว้ว่า ประเภทของคนที่น่ากลัวและควรหลีกห่างที่สุดคือ ‘นักทำลายฝัน’ นั่นเอง

ผู้เขียนได้ย้ำเสมอค่ะ ว่าความคิดเล็กๆ นำไปสู่สิ่งใหญ่ได้เสมอ และตัวเราเองต้องกล้าที่จะเป็นกระจกให้ตัวเอง นั่นคือ “Want to be somebody” ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า ความเป็นตัวของเราเองเนี่ยแหละค่ะ ดีที่สุด แต่ต้องเป็นมุมที่เราพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปเป็นคนที่ดีกว่า เพื่อจะได้ก้าวเข้าใกล้ความฝันขึ้นทีละสเตป และการที่เรามีแบบอย่างที่ดีอาจจะถือได้ว่าคนๆนั้นมีต้นทุนสูงกว่าคนอื่นๆ เช่น การถูกเลี้ยงดูและอยู่ในครอบครัวที่ทำการเลี้ยงดูมาด้วยความรักความเข้าใจ การคบเพื่อนก็เช่นกันค่ะ เพราะเพื่อนก็เป็นกลุ่มคนที่เราใช้ชีวิตประจำวันคลุกคลีกับเขา หลายๆคนอาจจะใช้เวลาอยู่กับเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ด้วยซ้ำ ดังนั้นหากใครมีเพื่อนดีก็โชคดีไป

บทต่อมาจะกล่าวถึงการสอนตัวเอง การสอนตัวเองจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นนักพัฒนา และหากเราต้องการสอนคนอื่น การสอนตัวเองคือวิธีที่ดีที่สุดค่ะ เพราอะไรหรือคะ ผู้เขียนได้บอกไว้ว่าเป็นเพราะการสอนที่ดีที่สุดไม่ใช่การสอนด้วยคำพูด แต่ต้องเป็นการสอนด้วยการกระทำ ซึ่งเคสนี้ใช้ได้กับการช่วยเหลือตัวเองเช่นเดียวกัน เพราะถ้าหากเราไม่ช่วยตัวเอง คงยากที่ใครจะสามารถยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเราค่ะ ดังคำกล่าวที่ว่า ‘อัตตาหิ อัตตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน’ และเมื่อเราพัฒนาตัวเองได้ในระดับที่เราเห็นว่าโอเคแล้ว ก็ไม่ยาก ที่จะออกเดินทางตามฝัน บทท้ายๆ จึงเป็นการให้กำลังใจ แนวๆ ฝันให้ไกลแล้วจงไปให้ถึงค่ะ
60 วันฉันจะ(ไม่)รักเธอ
4
โดย: จตุพร_07 วันที่เขียนรีวิว: 03 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

“60 วันฉันจะ(ไม่)รักเธอ” เป็นผลงานของ ศิราพิชญ์ อีกนามปากกาของ Shayna ค่ะ โดยส่วนตัวอ่านเพราะชอบคำโปรยปกหลัง ผู้เขียนได้ไอเดียมากจาก เรียลลิตี้โชว์ The Bachelor เลยนำมาประยุกต์กับนิยายเรื่องนี้ ให้นางเอกเข้าไปร่วมรายการเรียลลิตี้ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อให้สาวๆมาค้นหารักแท้ของพระเอกที่เป็นแคซาโนวาตัวพ่อ ใครที่ชนะนอกจากจะได้พระเอกกลับบ้าน งานนี้ยังแถมเงินรางวัลและรถอีกต่างหาก คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มใช่ไหมคะ เพียงแต่นางเอกของเราไม่ได้มีจุดประสงค์ในการเข้าไปเพื่ออยากเป็นรักแท้ของพระเอก เธอออกจะขยะแขยงแคซาโนวาอย่างเขาเสียด้วยซ้ำ แต่นางเอกเข้าไปเพื่อหาข้อมูลประกอบการเขียนนิยายเรื่องใหม่ของเธอ

ความรู้สึกหลังอ่าน คือ เป็นนิยายที่อ่านได้เรื่อยๆอีกเล่มหนึ่งค่ะ นางเอกเป็นสาวสวยนักเขียนที่ต้องการพลอตใหม่ๆในการเขียนนิยาย เลยจำใจต้องไปสมัครรายการ ส่วนพระเอกก็ชอบทำตัวลั้นล้า เลยมาออกรายการนี้ที่เป็นเทปแรกเพื่อเรียกเรทติ่งให้กระฉูด มีพลังจิตในการอ่านในคนด้วยนะเออ เท่มากๆ ช่วงแรกของเรื่องดิฉันรู้สึกว่าเรื่องจะดำเนินค่อนข้างเอื่อยๆไปนิดหน่อย แต่ผู้เขียนก็พยายามสอดแทรกบทสนทนาที่มีความตลกมาเป็นระยะ เลยทำให้ไม่เบื่อมากค่ะ ความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกนางเอก ตอนแรกไม่ค่อยดีนัก อย่างที่บอกไปข้างต้นค่ะ นางเอกของเราเกลียดพวกเจ้าชู้หน้าม้อ แต่พระเอกดันมีครบ เธอเลยไม่หลงเสน่ห์ความหล่อรวยของเขาเหมือนสาวๆนางอื่นในรายการ ต่อหน้านางเอกก็ทำตัวเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่ในใจคือมีแต่เสียงด่าพระเอกประมาณนั้น หึหึ พระเอกก็ต้องรู้ถูกไหมคะ เพราะฮีมีพลังจิต พอรู้ว่านางเอกด่าปุ๊บเลยอยากเอาชนะแกล้งทำตัวมาวนเวียน ป่วนเปื้ยนให้นางเอกอยากจะบ้าวันละหลายเวลา ส่วนตัวละครอื่นๆในเรื่องก็มีทั้งฝ่ายดีและตัวร้ายค่ะ อย่างสาวๆที่เข้ามาร่วมรายการ บางคนก็อยากเป็นผู้ชนะจนยอมทำเรื่องไม่ดีใส่ร้ายคนอื่นให้พระเอกมองไม่ดีไรงี้ แต่นางเอกโชคดีค่ะ ที่เจอสาวน่ารักๆดีๆ จนสนิทกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพระเอกมีพลังวิเศษหรือเปล่า เขาเลยทันพวกตัวร้ายไม่โง่ให้ถูกหลอก ซึ่งนับเป็นข้อดีของนิยายเรื่องนี้ค่ะ เพราะดิฉันไม่ต้องทนให้พวกตัวร้ายได้ใจรังแกนางเอกได้สำเร็จ อิอิ นางเอกแม้ตอนแรกจะไม่ชอบพระเอก แต่พอได้รู้จักตัวตนของเขาจริงๆ ความอคติที่มีก็ค่อยๆเลือนหายไปค่ะ ประกอบกับพระเอกหันมาจีบนางเอกจริงจัง เลยอยากพิสูจน์ตัวเองให้นางเอกรู้ว่า เขาจะเป็นคนดีของเธอได้ ฮิ้วววว หากใครชอบนิยายสไตล์นี้ก็ลองไปหามาอ่านกันดูนะคะ
www.batorastore.com © 2024