Customer Reviews

สนทนาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันด้วย MIND MAP
4
เป็นหนังสืออ่านง่ายใช้งานได้จริงค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สนทนาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันด้วย mind map เป็นอีกเล่มหนึ่งที่อยากจะแนะนำให้หามาอ่านกันนะคะ เป็นหนังสือสอนภาษาอังกฤษที่ตอบโจทย์การเรียนภาษาเพื่อการสื่อสารได้ดีมากเลยทีเดียว ด้วยการยกตัวอย่างสถานการณ์ต่างๆในชีวิตประจำวันทำให้การเรียนภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ ยิ่งมีเรื่องของ mind map เข้าช่วยด้วยอีก ก็ทำให้สามารถจดจำศัพท์แล้วก็รูปประโยคต่างๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เนื้อหาค่อนข้างคอบคลุมดีมากค่ะมีทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องการติดต่อกับผู้คน การเดินทาง การนัดหมาย เรียกว่าถ้าอ่านแล้วได้นำไปใช้จริงด้วยก็จะยิ่งคล่องขึ้นแน่นอน ผู้เขียนเค้าจะอธิบายโดยเริ่มจากหลักการใช้ภาษาในเรื่องนั้นๆก่อนค่ะว่ามีหลักการยังไง แล้วก็จะสรุปออกมาเป็นแผนภาพ หรือว่า mind map เพื่อทบทวนความเข้าใจ จากนั้นก็จะมีการยก situation หรือว่า สถานการณ์ตัวอย่างมาสอนเพื่อให้เข้าใจวิธีการใช้งานมากยิ่งขึ้น แล้วก็จะปิดท้ายด้วยเรื่อง vocabulary หรือว่าคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนั้นๆ ก็จะอธิบายเป็นแบบนี้ไปในทุกเรื่องนะคะ เราว่าอ่านเข้าใจง่ายดีค่ะ ที่สำคัญคือจำง่ายด้วยเพราะมีแผนภาพช่วย แต่ข้อเสียก็คืออาจจะเป็นเรื่องของคำศัพท์อะค่ะ เราว่ายังน้อยแล้วก็ศัพท์ง่ายไปหน่อย ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าทำออกมาสำหรับผู้อ่านกลุ่มไหน แต่เข้าใจว่าผู้เขียนน่าจะเน้นไปที่เรื่องของประโยคสนทนามากกว่าคำศัพท์อะค่ะ ก็แน่ละนะชื่อหนังสือก็บอกอยู่ 555 แต่ศัพท์ง่ายเกินไปจริงๆนะ เหมือนศัพท์ของเด็กอนุบาลเลย เล่มนี้เราว่าเหมาะกับการอ่านเพื่อนำไปใช้จริงมากกว่าอ่านเป็นหนังสือเรียนนะคะ
4
มาศึกษาวิธีกดจุดรักษาสุขภาพกันค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ศาสตร์การแพทย์แบบจีน ถ้าดูเผินหลายเรื่องก็ดูโอเวอร์ยังไงๆอยู่นะคะ ออกแนวหนังจีนกำลังภายใน แต่เดิมยอมรับเลยว่าเราเองก็ไม่ค่อยจะเชื่อถือแพทย์แผนจีนซักเท่าไหร่ เราว่าไม่ใช่แต่เราคนเดียว คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ก็คงไม่ค่อยเชื่อกัน วันเวลาเปลี่ยนไป โลกการแพทย์ก็เปลี่ยนตามค่ะ ตอนนี้แพทย์แผนจีนกำลังกลายเป็นกระแสการักษาโรคในแบบที่เรียกว่าแพทย์ทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องของการกดจุดก็เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจมากๆค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าคนจีนโบราณเค้าจะเก่งขนาดนี้ รู้ได้ไงว่าจุดไหนเป็นจุดไหน กดไปแล้วจะช่วยรักษาความเจ็บป่วยตรงนั้นตรงนี้ได้ นี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่เราคิดว่าทำให้หนังสือเล่มนี้ดูน่าสนใจ เพราะเป็นเรื่องที่ศึกษาเอง ลงมือทำเอง รักษาด้วยตัวเองได้ จริงๆจะเรียกว่าเป็นการกดจุดเพื่อรักษาก็อาจจะไม่ถูกนัก เพราะว่าเค้าสอนเรื่องกดจุดเพื่อป้องกันโรคแล้วก็กดจุดเพื่อบำรุงรักษาสุขภาพด้วย โดยเฉพาะคุณผู้หญิงเรื่องกดจุดเสริมความงามนี่น่าจะชอบกัน รูปภาพประกอบในหนังสือชัดเจนดีมากๆค่ะ อารมณ์เหมือนอ่านตำรานักเรียนหมอเลย ละเอียดดี อ่านแล้วดูรูปประกอบ ทำให้เข้าใจง่ายมากๆ นอกจากเรื่องกดจุดเพื่อเสริมความงามแล้วก็ยังมีเรื่องกดจุดเพื่อแก้อาการปวดเมื่อย คลายเหนื่อย กดจุดที่ช่วยให้ผอมก็มีด้วย ผู้อ่านจะได้เรียนรู้หลักการต่างๆ เทคนิคในการกดจุด และวิธีการกดที่ถูกต้อง ไม่ต้องกลัวว่าจะทำไม่เป็นค่ะ เราลองทำมาแล้ว ง่ายมาก แล้วก็รู้สึกดีมากๆด้วย
4
หนังสือสุขภาพที่อ่านสนุกจริงๆค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนว่าหนังสือเล่มนี้คืออะไร ไข 100 สมการอายุยืนก็จะเป็นหนังสือที่รวบรวมปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อการมีอายุยืน ซึ่งปัจจัยที่ว่านี้ก็จะมีทั้งปัจจัยที่เป็นบวก ก็คือปัจจัยที่จะทำให้เรามีอายุยืน และปัจจัยที่เป็นลบ ซึ่งก็คือ ปัจจัยที่จะทำให้เรามีอายุสั้นลงนั่นเอง พอผู้อ่านอ่านจบก็จะลองเอาปัจจัยที่ตรงกับตัวคุณมาบวกลบกันดู ก็จะได้บทสรุปเกี่ยวกับสุขภาพของตัวคุณเอง เห็นมั้ยคะว่าน่าสนุกดีนะคะ เป็นหนังสือแนวสุขภาพที่เราไม่เคยอ่านมาก่อน และแหวกแนวไปจากเล่มอื่นๆดี แบบนี้อ่านได้ยาวเลยค่ะ ไม่น่าเบื่อ ประมาณว่าเรากำลังทำแบบทดสอบสุขภาพของตัวเราเองอยู่เลย อ่านไปก็เหมือนกับว่าได้มีโอกาสทบทวนพฤติกรรมหรือว่าความคิดของตัวเองในด้านต่างๆ ซึ่งเค้าก็จะแบ่งออกเป็นหมวดๆอะค่ะ มีหมวดสภาพจิตใจ สภาพร่างกาย สภาพแวดล้อมรอบตัว การจัดการกับโรคภัยไข้เจ็บ การตัดสินใจละความเสี่ยง ในส่วนของตัวเลขที่นำมาอ้างอิงก็มาจากงานวิจัยของสถาบันต่างๆอะค่ะ เราก็ไม่รู้นะคะว่าเชื่อถือได้แค่ไหน แต่ก็ไม่เสียหายที่จะลองดู อย่างที่บอกว่าหนังสือเล่มนี้ช่วยให้เราได้มีโอกาสทบทวนตัวเองในด้านต่างๆ แล้วก็ปรับปรุในส่วนที่เป็นปัจจัยด้านลบของตัวเอง บางเรื่องเราคิดว่าทำถูกแล้ว แต่ในหนังสือกลับผิดซะงั้นบางเรื่องเราคิดว่าไม่ถูก แต่กลับกลายเป็นปัจจัยด้านดีที่ช่วยให้อายุยืนขึ้นก็มี แนะนำเลยสำหรับเล่มนี้ ขอให้ 10 เต็ม 10
รักษาอาการเจ็บป่วย โดยไม่ใช้ยา
4
สัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในการรักษาโรค
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เราคงเคยได้ยินวิธีการรักษาอาการเจ็บป่วยโดยไม่ใช้ยากันมาบ้างใช่มั้ยคะ เราเข้าใจว่าการรักษาด้วยวิธีนี้น่าจะดีต่อสุขภาพมากกว่าการรักษาด้วยการใช้ยา แต่ส่วนใหญ่เราก็ยังไม่รู้ว่าดีกว่ายังไง และที่สำคัญก็คือยังไม่รู้ว่าถ้าไม่ใช้ยารักษาโรคแล้ว จะต้องใช้วิธีการอะไรในการรักษา ถ้าผู้อ่านสงสัยแบบเรา ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูค่ะ รับรองว่าผู้อ่านจะได้ความรู้มากขึ้นอย่างแน่นอน หลักๆของหนังสือเล่มนี้ก็คือการรักษาโรคด้วยวิธีธรรมชาติบำบัดอะค่ะ ซึง่ในหนังสือก็มีแนะนำไว้หลายโรค อย่างเช่นโรคยอดฮิตอย่างโรคมะเร็ง โรคอ้วน โรคไขมันในเลือด หรือว่าโรคเบสิคๆอย่างปวดหัวเป็นไข้ ก็รักษาได้ เอาโรคง่ายๆอย่างไข้หวัดมาเป็นตัวอย่างละกัน ผู้เขียนบอกว่าด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด ปล่อยให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเอง โดยไม่ต้องกินยาปฏิชีวนะ ก็สามารถหายจากโรคได้ภายในเวลา 1 วัน 1 คืน ต่างจากเมื่อก่อนที่ใช้ยาปฏิชีวนะรักษากลับต้องนอนซมเป็นอาทิตย์กว่าจะหาย เราเองก็ลองพิสูจน์มาด้วยตัวเองแล้วค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้หายป่วยเร็วขนาดนั้น แต่ก็รู้สึกได้เลยว่าต่างตอนที่รักษาด้วยการกินยาพอสมควร ที่รู้สึกได้ชัดเจนมากที่สุดก็คือ ตอนป่วยจะไม่มีอาการซึมหรือง่วงเลยค่ะ อาจจะรู้สึกเมื่อยเนื้อ เมื่อยตัว ปวดหัว ตัวร้อน ก็เป็นเรื่องปกติ วิธีการรักษาของเราคือดื่มน้ำเยอะๆ ใช้ชีวิตนอกบ้านมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไม่เอาแต่นอนซมอยู่บนเตียง เน้นกินผักผลไม้ทุกมื้อ เหมือนที่หนังสือบอก เท่าที่ลองทำมาก็รู้สึกได้เลยว่าธรรมชาติมันมหัศจรรย์จริงๆค่ะ ตั้งแต่ตอนนั้นเราก็พยายามจะไม่กินยาอีกเลย
รู้ก่อนป่วย ช่วยชีวิต
4
รุ้ทันโรค เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สำหรับรู้ก่อนป่วยช่วยชีวิตเล่มนี้ก็ตามชื่อหนังสือเลยค่ะ เป็นการรวบรวมความรู้เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆกับเกร็ดความรู้เสริมเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการดูแลรักษาป้องกันสุขภาพ เพื่อที่ผู้อ่านจะได้รู้ตัวล่วงหน้าและสามารถเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับอันตรายที่จะเกิดขึ้นหรือว่าสามารถป้องกันไม่ให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ทันเวลา ส่วนโรคที่เขียนไว้ในหนังสือก็มีทุกแบบอะค่ะ ตั้งแต่โรคร้ายแรงจนไปถึงโรคสามัญประจำบ้านต่างๆ ครอบคลุมดีนะคะ เนื้อหา ภาษา วิธีการนำเสนอ อ่านง่าย สบายตา ทำให้เรื่องเข้าใจยากกลายเป็นเรื่องเข้าใจง่าย ยอมรับเลยว่าหลังจากอ่านเล่มนี้จบ รู้สึกกลัวไม่กล้าทำอะไรแล้วค่ะ 555 กินนู่นก็เสี่ยง ทำอย่างนั้นก็อันตราย อย่างนี้ก็ไม่แนะนำ กลายเป็นวิตกจริตไปซะหมด ล้อเล่นนะคะ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ เอาเป็นว่าอ่านแล้วก็เข้าใจมากขึ้น รู้ว่าเราควรต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ทั้งในเรื่องการกิน การนอน การออกกำลังกาย หรือว่าการทำงาน เราว่าข้อดีของหนังสือเล่มนี้คือความหลากหลายค่ะ คือมีโรคหลาหลายมาให้อ่าน ทำให้อ่านได้เรื่อยๆไม่น่าเบื่อ บางเรื่องก็ต้องลุ้นว่าจะเกิดกับตัวเองรึเปล่า (มีหลายโรคเลยค่ะ^^) อย่างที่บอกว่าอ่านได้เรื่อยๆเพลินๆ อันไหนตรงกับตัวเราก็เอาไปปรับแก้ได้ค่ะ วิธีการไม่ได้ยุ่งยากอะไร แถมไม่ต้องลงทุนเยอะด้วยปิดท้ายด้วยเรื่องงานวิจัยน่ารู้ อันนี้ก็อ่านสนุก มีหลายเรื่องที่แบบว่า เห้ย!!! มีแบบนี้ด้วยหรอ อย่างเช่นเรื่องการเข้าสังคมช่วยรักษาโรคมะเร็งได้ ผู้หญิงยิ่งสูงยิ่งเสี่ยงเป็นมะเร็ง ฟังเพลงโปรดช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว เป็นต้น
ไก่ย่าง ไก่ทอด
4
เมนูไก่อร่อยๆ ห้ามพลาดเลยนะคะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สำหรับเมนูไก่ เราว่าเป็นเมนูที่เห็นกันเยอะนะคะ ที่เห็นบ่อยๆก็น่าจะเป็นไก่ย่าง ไก่ทอด รสชาติความอร่อยก็คงแตกต่างกันไป แต่บางร้านนี่ก็ไม่ไหวอะค่ะ เนื้อเหนี่ยวมาก เคี้ยวทีฟันแทบหลุด ถ้าเป็นเมนูไก่ ส่วนใหญ่แล้วเราจะไม่ค่อยได้ทำกินเองที่บ้านซักเท่าไหร่ จะซื้อจากร้านประจำมากินมากกว่า แต่ร้านประจำที่ว่าดันเป็นร้านอินดี้ เปิดขายตามอารมณ์ วันไหนอยากกินก็ไม่ค่อยจะขาย เราก็เลยหาหนังสือเล่มนี้มาติดบ้านไว้ ให้แม่ทำให้กินแทน สำหรับจุดเด่นของเมนูไก่ในเล่มนี้ก็น่าจะอยู่ที่ความนุ่มของเนื้อไก่แล้วก็ความหอมอะค่ะ โดยเฉพาะเมนูไก่ย่าง จะหอมมาก เป็นกลิ่นใหม่ๆที่เราไม่ค่อยคุ้นเคยเหมือนกับไก่ย่างที่ขายกันทั่วไป ที่ว่าหอมนี่ หอมทั้งเมนูไทยแล้วก็เมนูเทศเลยค่ะ มีเมนูแปลกๆที่เราไม่เคยกินมาก่อนก็อย่างเช่นไก่ย่างกะทิสด ไก่ย่างทันดูรี แล้วก็ไก่ย่างไสตล์ฝรั่งอย่างเช่นไก่ย่างจาไมกา ไก่ย่างเนปาล ไก่ย่างบาหลี ในส่วนของเมนูไก่ทอดก็มีที่น่าสนใจอย่างเช่น ไก่ทอดน้ำมะพร้าวอ่อน ไก่ทอดน้ำปลาสมุนไพรกรอบ ไก่ทอดคอร์นเฟลค ไก่ทอดใบเตย ไก่ทอดนาโกย่า สองเมนูนี้อร่อยไม่แพ้กันค่ะ แล้วแต่คนชอบ นอกเหนือจากเรื่องของเมนูแล้วก็จะมีในส่วนของเทคนิคในการย่าง การทอด และการหมักไก่ให้ได้รสชาติที่ดี เราว่าเป็นเทคนิคที่โอเคเลยค่ะ ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆจนอาจมองข้าม แต่ปรากฏว่าเรื่องเล็กๆแบบนี้กลายเป็นเคล็ดลับที่ทำให้ไก่อร่อยขึ้น
Marketing on Facebook ฉบับพื้นฐาน (ใหม่ล่าสุด)
3
เรียนรู้เบสิคการตลาดบนเฟสกันค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เราเป็นคนหนึ่งที่เห็นพวกร้านค้าที่ขายของตามเฟสบุ๊คแล้วเกิดความรู้สึกอยากจะขายของขึ้นมากับเค้ามั่ง แต่ติดตรงที่กลัวค่ะ กลัวเจ๊ง 555 คือเรากับเพื่อนๆมีของที่จะขายนะคะ แต่กลัวว่าจะโฆษณาไม่เป็น กลัวว่าจะเข้าไม่ถึงลูกค้า ไม่รู้ว่าจะทำตลาดยังไง ถึงแม้จะมีคนบอกกันมาเยอะว่าการทำตลาดผ่านเฟสบุ๊คนั้นง่ายกว่าการทำตลาดผ่านสื่ออื่นๆก็ตาม เราเลือกซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านเพราะติดใจตรงคำพูดของผู้เขียนที่ว่า หนังสือเล่มนี้เป็นทั้งเรื่องของศาสตร์และศิลป์ในการทำตลาดด้วยเฟสบุ๊ค ซึ่งเราสนใจในเรื่องของศิลปะว่าเค้าจะสอนอะไรเราบ้าง แต่ก็ต้องแอบผิดหวังนิดนึงเพราะว่าเนื้อหาจะเน้นไปที่เรื่องของศาสตร์มากกว่าเรื่องของศิลป์ ที่บอกว่าเป็นเรื่องของศาสตร์ก็คือหนังสือจะเน้นไปที่เรื่องของการอธิบายโครงสร้างของเฟสบุ๊คอะค่ะ คือสอนให้เรารู้ว่าเฟสบุ๊คทำงานยังไง ให้เราได้เห็นภาพรวมก่อน พอเราเข้าใจภาพรวมว่ามันทำงานยังไง มีเครื่องมือให้เราเลือกใช้อะไรได้บ้าง เราก็จะเห็นภาพของหลักการตลาดที่จะเอามาใช้ได้ เราว่าหนังสือแนวนี้ก็จะประมาณนี้อะค่ะ คือเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีความรู้พื้นฐาน อ่านแล้วก็เข้าใจหลักการคร่าวๆ พอที่จะเริ่มต้นลงมือทำได้ ต้องอาศัยเวลาลองผิดลองถูกไปซักพัก ถึงจะมีประสบการณ์แล้วเกิดเป็นศิลปะขึ้นมาเอง เสียดายอยากให้หนังสือเพิ่มเทคนิคที่เป็นประสบการณ์จริงจากคนที่เคยผิดพลาดมาแล้วให้มากกว่านี้ ถ้าทำได้ก็จะเป็นอีกเล่มที่เพอร์เฟ็คมากๆค่ะ
4
ลองทำ ลองชิม เมนูเนื้ออร่อยๆกันค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ปกติเราไม่ใช่คนชอบกินเนื้อซักเท่าไหร่ค่ะ เท่าที่เคยกินมายังไม่เคยเจอร้านไหนทำได้อร่อยถูกปาก ส่วนใหญ่ถ้าจะกินก็คงเป็นเมนูในเล่มนี้ละค่ะที่ทำกินเองเป็นประจำ เพราะอร่อยสุดแล้วเท่าที่เคยกินมา เราว่าเป็นสูตรที่เนื้อนุ่มดีค่ะ ในส่วนของรสชาติก็ถือว่าอร่อยห้าดาวเลย มีเมนูโปรดที่เราเคยทำกินก็อย่างเช่น ข้าวหน้าเนื้อขมิ้น เนื้อผัดน้ำมันหอย เนื้อย่างซอสพริกขี้หนู แกงเขียวหวานเนื้อ แล้วก็เนื้อพันเบคอน เมนูเนื้อนี่เราทำกินเฉพาะที่เป็นอาหารไทยเท่านั้นนะคะ เหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก เพราะว่าคิดไปเองว่าถ้าเป็นเมนูฝรั่งที่ทำจากเนื้อน่าจะทำยากเท่านั้นเอง แต่ถ้าใครทำกับข้าวเก่งๆคงหายห่วงแน่นอนเพราะว่าขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากมากมาย แต่สำหรับเรายังไม่กล้าทำเพราะกลัวเสียของ ^^ จริงๆอยากให้มีเมนูมากกว่านี้อีกซักนิดนะคะ เอาเป็นเมนูในแบบที่มักจะทำจากหมูหรือเนื้ออย่างอื่นก็น่าจะช่วยให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น น่าจะช่วยให้กินได้ง่ายกว่านอกจากเรื่องของเมนูอาหารแล้วก็ยังมีในส่วนของเทคนิคการเลือกซื้อ ทั้งประเภทเนื้อนุ่มมาก ปานกลาง และนุ่มน้อย การปรุงเนื้อวัวในแบบต่างๆ ระดับความสุกของเนื้อ 7 ระดับเป็นยังไง ชนิดของเนื้อวัวที่นิยมนำมาปรุงเป็นอาหาร แล้วก็มีแผนภาพโครงสร้างและชิ้นเนื้อส่วนต่างๆของวัว เอาเป็นว่าอ่านจบนี่แทบจะเป็นกูรูด้านเนื้อวัวกันเลยทีเดียว ถ้าเป็นเมนูไทยรับประกันความอร่อยนะคะ แต่ถ้าเป็นเมนูนอก อันนี้คงต้องลองทำกันเอง
Basic ภาษาอังกฤษ เตรียมตัวง่าย ใช้งานคล่อง
4
เรียนภาษาอังกฤษเพื่อการเดินทางได้แบบง่ายๆค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สำหรับภาษาอังกฤษเตรียมตัวง่าย ใช้งานคล่อง เล่มนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนังสือสอนภาษาอังกฤษภาคสนามก็ว่าได้ค่ะ คือเป็นหนังสือสำหรับคนที่จะเดินทางไปต่างประเทศเอาไว้เป็นคู่มือหรือตัวช่วยทางภาษา ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศแต่ทักษะทางภาษาของตัวเองยังไม่แข็งแรงซักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นหนังสือแบบเบสิคๆนะคะ ไม่ใช่ภาษายากๆ เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีทักษะทางภาษาเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าผู้อ่านพอมีความรู้อยู่บ้าง อ่านแล้วก็จะรู้สึกว่าง่ายไปหน่อยค่ะ แต่สำหรับตัวเราเองเราคิดว่าหนังสือแบบนี้มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ ถ้าใครอยากเก่งภาษาในแบบที่สื่อสาได้ก็ต้องลองไปลุยต่างประเทศด้วยตัวเองใช่มั้ยคะ เล่มนี้ก็จะเป็นตัวช่วยให้คุณกล้ามากขึ้น มั่นใจมากขึ้น อย่างน้อยก็ไม่หลงทางกลับประเทศไทยไม่ถูกแน่นอน ผู้อ่านสามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจหายห่วงเรื่องภาษาค่ะ เค้าจะสอนตั้งแต่ตอนอยู่ที่สนามบิน การเดินทางในต่างประเทศ การท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ การสนทนาเวลาที่ต้องเจอสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน เราว่าครบถ้วนเพียงพอที่จะทำให้ผู้อ่านสามารถไปต่างประเทศคนเดียวได้ค่ะ จริงๆก็อยากทดลองวิชาดูเหมือนกันนะคะ แต่ติดตรงที่ยังไม่มีใครสนับสนุนงบประมาณ 555 คงต้องเขียนรีวิวเก็บตังไปก่อนละกัน ^^ ลืมบอกไปว่าคำศัพท์ในหนังสือไม่ยากเลยค่ะ ไม่จำเป็นต้องรู้ศัพท์เยอะก็สามารถพูดได้ ผู้เขียนเค้าเน้นไปที่เรื่องของการสื่อสารให้เข้าใจมากกว่าเรื่องของการใช้ภาษาสวยๆอะค่ะ เป็นอีกเล่มที่ห้ามพลาดเลยนะคะ
เปิดร้านออนไลน์ ค้าขายง่าย ทำได้จริง
4
เริ่มต้นเปิดร้านออนไลน์ไปกับหนังสือเล่มนี้ค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สำหรับเปิดร้านออนไลน์ค้าขายง่าย ทำได้จริงเล่มนี้ น่าจะเรียกว่าเป็นคู่มือสำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ทั้งหลายที่ต้องการจะขายสินค้าออนไลน์บนอินเตอร์เน็ตค่ะ หลายคนไม่รู้จะเริ่มต้นนับหนึ่งยังไงในโลกของการซื้อขายออนไลน์ก็สามารถใช้หนังสือเล่มนี้เป็นคู่มือได้ ดังนั้นสำหรับเล่มนี้ก็จะปูพื้นฐานความรู้กันในแบบที่เรียกว่าจากศูนย์เลยค่ะ เริ่มจากข้อดีต่างๆของการขายสินค้าออนไลน์ อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีก่อนเปิดร้าน สินค้าที่น่าสนใจสำหรับการขายบนอินเตอร์เน็ต แหล่งขายส่งสินค้าดังๆ การแนะนำเว็บไซต์ขายของออนไลน์ฟรี แล้วก็ลงลึกไปถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการบริหารจัดการภายในร้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคา เรื่องการคำนวณต้นทุน กำไร กาชำระราคาและการจัดส่งสินค้า ที่สำคัญคือมีเรื่องของเทคนิคสำหรับร้านค้าที่พึ่งเปิดใหม่ ทำยังไงถึงจะสามารถเป็นที่สนใจของลูกค้าได้ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ทั้งหลายต้องไม่พลาดนะคะ ความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้ก็คือการอธิบายอย่างเป็นขั้นเป็นตอนค่ะ จัดลำดับเรื่องที่ต้องรู้ก่อนหลังไปทีละเสตปได้ดี ทำให้มือใหม่เข้าใจง่าย ได้ไอเดียในการวางแผนการเปิดร้าน แถมยังมีเคล็ดลับจากพ่อค้าแม่ค้าที่มีประสบการณ์มาแนะนำให้ในแต่ละขั้นตอนอีกด้วย ช่วยเพิ่มความมั่นใจขึ้นได้เยอะ หนังสือเล่มนี้ตอบโจทย์ความกังวลของพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ได้ในหลายๆเรื่องๆค่ะ คงเป็นเพราะผู้เขียนเองเคยขายของออนไลน์มาก่อน ก็เลยสามารถเอาประสบการณ์ตรงมาถ่ายทอดได้โดยตรง รับรองเลยว่าเล่มนี้เล่มเดียวเอาอยู่ ลองทำความเข้าใจดูค่ะ ไม่ยากอย่างที่คิด
4
อ่านสนุกได้ความรู้สำหรับสาวๆค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สำหรับลับเฉพาะผู้หญิงถึงผู้หญิงฉบับออนไลน์เล่มนี้ ผู้เขียนต้องการที่จะเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางเพศของผู้หญิงให้กับบรรดาสาวๆวัยรุ่นทั้งหลายเพื่อให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องค่ะ เหตุผลง่ายๆก็คือสาวๆวัยรุ่นอาจจะรู้สึกอายเวลาที่ต้องไปปรึกษาพูดคุยเรื่องบางเรื่องกับพ่อแม่โดยตรง พวกเธอก็อาจจะไปปรึกษากันเองระหว่างเพื่อนๆซึ่งแน่นอนว่าเพื่อนๆก็อาจจะให้ความรู้แบบผิดบ้างถูกบ้าง ผู้เขียนเค้าก็เลยเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาให้เหมือนเป็นเพื่อนของน้องๆที่จะให้ความรู้ที่ถูกต้องจริงๆเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพอนามัยแล้วก็เรื่องทางเพศ รูปแบบการเขียนน่าสนใจมากๆค่ะ การมีตัวละครผู้หญิงสองคนเป็นตัวละครหลักในการเดินเรื่องประกอบกับการ์ตูนน่ารักๆเป็นเสน่ห์ที่จะช่วยให้นองๆอยากอ่าน อยากติดตามไปตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นลักษณะของภาษาง่ายๆแบบอธิบายให้เพื่อนฟังในแบบที่ไม่ต้องกลัวเขินกลัวอายกันเลย แต่รับรองเลยว่าได้สาระความรู้ไปเต็มๆ เราลองให้เพื่อนผู้ชายอ่านดู เค้าก็บอกว่าอ่านสนุกเข้าใจง่ายนะคะ น่าจะเอาไปใช้เป็นสื่อการสอนในโรงเรียนด้วย อยากให้ลองอ่านจริงๆค่ะ เป็นความรู้ใกล้ตัวในชีวิตประจำวันที่หลายคนอาจจะรู้สึกว่าไม่ควรเอามาพูดกัน แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยค่ะ เป็นเรื่องที่ควรต้องรู้ด้วยซ้ำ ต้องขอบคุณผู้เขียนที่ทำหนังสือดีๆแบบนี้ออกมานะคะ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอ่านการ์ตูนดีๆเล่มหนึ่งเลยค่ะ อ่านเพลินจริงๆ ที่สำคัญได้ความรู้ในแบบที่ไม่ปวดสมองด้วย แนะนำเลยค่ะสำหรับเล่มนี้ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
4
เข้าใจชีวจิตมากขึ้นจากเล่มนี้ค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การใช้ชีวิตแบบชีวจิตเป็นแนวทางการใช้ชีวิตที่ถูกพูดถึงกันมาซักพักใหญ่แล้วนะคะ แต่เรารู้สึกว่าคนในสังคมยังปฏิบัติตัวตามแนวทางการใช้ชีวิตแบบนี้กันน้อยอยู่ ทั้งที่ในความเป็นจริง ทุกคนน่าจะรู้ดีว่าการใช้ชีวิตแบบใกล้ชิดธรรมชาตินั้นมีข้อดีมากมายอย่างไร แต่ก็คงเพราะมีข้อจำกัดหลายๆอย่าง ทำให้คนส่วนใหญ่คิดแต่ก็ทำไม่ได้ สำหรับกูไม่แน่ ก็มีความหมายประมาณว่าให้เราเตือนตัวเองว่ากูไม่แน่ ไม่ได้เก่งมาจากไหน ร่างกายกูยังต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างถูกต้องนะ ร่างกายกูไม่ใช่เครื่องจักรที่จะสามารถทำงานหนักได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เมื่อเรารู้แบบนี้แล้วก็ต้องหันมาเปลี่ยนแปลงตัวเองในการใช้ชีวิตให้ถูกต้องตามแนวชีวจิต ในหนังสือก็จะบอกเล่าประสบการณ์ของผู้เขียนทั้งที่เป็นประสบการณ์ตรงและประสบการณ์ของคนรู้จัก ควบคู่ไปกับการรักษาสุขภาพ ก็ตามสูตรของหนังสือแนวนี้นะคะ ก็จะมีการพูดถึงการกิน การนอน การพักผ่อน การทำงาน การออกกำลังกาย ส่วนใหญ่เราจะเน้นไปที่การปฏิบัติตัวมากกว่าเรื่องความรู้ทางโภชนาการ ทดลองทำตามแบบที่หนังสือบอก ถามว่ายุ่งยากมั้ย ก็นิดหน่อยค่ะ แต่คิดว่าในระยะแรกก็จะเป็นแบบนี้ เพราะเป็นระยะปรับตัว แต่พอเวลาผ่านไปซักพักก็น่าจะลงตัวขึ้น สำหรับคนที่สนใจหนังสือแนวนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็คงอ่านได้เรื่อยๆ แต่สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหันมาสนใจการดูแลรักษาสุขภาพ ไม่แนะนำให้อ่านเล่มนี้เป็นเล่มแรกค่ะ เพราะคุณอาจหมดกำลังใจไปซะก่อน เนื้อหาค่อนข้างเยอะนะคะ แล้วก็มีเรื่องทางการแพทย์พอสมควร อาจจะหนักไปซักหน่อยสำหรับมือใหม่
Talk to Your Child in English 2 + DVD
4
เรียนรู้ประโยคง่ายๆในชีวิตประจำวันไปพร้อมๆกับลูกๆ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สำหรับหนังสือ Talk to Your Child in English 2 เล่มนี้เป็นหนึ่งในหนังสือชุดการสอนภาษาให้กับหนูน้อยเพื่อการสร้างเด็ก 2 ภาษานะคะ เล่มนี้ก็เป็นเล่มที่ 2 ซึ่งจะว่าด้วยเรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เรื่องอขงการเดินทาง และก็เรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วยค่ะ เป็นหนังสือที่จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ในการพูดภาษาอังกฤษกับลูกๆ ในสถานการณ์ต่างๆนะคะ แน่นอนก็ต้องเป็นเรื่องประโยคสนทนาซึ่งก็จะเป็นประโยคง่ายๆอะค่ะ ไม่ต้องเก่งภาษาอังกฤษเป็นทุนเดิมก็พูดได้ แล้วก็จะมีคำแปลเป็นภาษาไทยมาให้ แถมด้วยคำศัพท์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง และส่วนที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องโครงสร้างประโยคค่ะ คือผู้เขียนเค้าจะยกตัวอย่างประโยคสนทนามาให้ แล้วก็อธิบายว่าประโยคนั้นๆมีโครงสร้างยังไง เพื่อที่ว่าผู้อ่านจะได้เอาไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์อื่นๆได้ด้วย ไม่ใช่จำแค่ประโยคที่ยกมาเป็นตัวอย่างเท่านั้น ถึงแม้จะดูเป็นประโยคเบสิคง่ายๆนะคะ แต่เราคิดว่าเด็กๆน่าจะเข้าใจได้ง่าย และคุณพ่อคุณแม่เองก็สื่อสารกับลูกได้ง่ายด้วยค่ะ ตอบโจทย์สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ในเรื่องของการสอนลูกๆเป็นภาษาอังกฤษ ย้ำเลยค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องเก่งอังกฤษก็สามารถพูดได้ ยิ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวันด้วยแล้วยิ่งง่าย ถ้าได้ฝึกพูดกับลูกๆบ่อยๆรับรองว่าภาษาอังกฤษของคุณพ่อคุณแม่เองและก็ของลูกๆต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน เป็นการฝึกฝนไปพร้อมๆกันอย่างเป็นธรรมชาติ การเรียนแบบนี้ไม่เครียด แต่สนุกมากกว่าค่ะ พ่อแม่จะได้เห็นพัฒนาการทางภาษาของลูกๆที่เป็นรูปธรรมจริงๆ
4
เป็นหนังสือสำหรับคนที่อยากฝึกพูดต่อสาธารณะค่ะ ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้เยอะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สำหรับสบายๆเมื่อจับไมค์พูดอังกฤษ เล่มนี้จะเป็นหนังสือสอนการพูดภาษาอังกฤษต่อสาธารณะในโอกาสต่างๆค่ะจะเป็นหนังสือที่ใช้เฉพาะโอกาสไปซักหน่อย ไม่ใช่การสอนการพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันนะคะ เนื้อหาก็จะแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆค่ะ ส่วนแรกจะว่าด้วยเรื่องหลักการพูดต่อสาธารณะ ในส่วนนี้จะหนักไปทางทฤษฎีหน่อยค่ะ บางทีอ่านไปก็น่าเบื่อนิดนึง แต่ก็จะมีส่วนที่เป็นประโยชน์ดีเหมือนกัน อย่างเช่นแผนภาพที่จะช่วยให้เราเข้าใจขั้นตอนการพูดของเราในโอกาสต่างๆว่าเราจะต้องจัดลำดับเรื่องที่จะพูดก่อนหลังยังไง ช่วยให้สามารถจัดลำดับความคิดแล้วก็เรื่องที่จะพูดได้ดียิ่งขึ้นค่ะ ในส่วนที่ว่าด้วยเรื่องทฤษฎีนี้ เราอ่านไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ค่ะ เพราะว่าจะสนใจเรื่องตัวอย่างการพูดมากกว่า อีกเรื่องที่น่าสนใจก่อนที่จะเข้าเรื่องของตัวอย่างก็คือเรื่อง เคล็ดลับในการพูดให้ประทับใจ เรื่องนี้อ่านสนุกดีค่ะ ได้เทคนิคแล้วก็หลักการที่จะทำให้การพูดของเราสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ฟังได้ เราว่าเป็นส่วนที่น่าสนใจที่สุดของหนังสือเล่มนี้เลยก็ว่าได้ น่าสนใจมากกว่าตัวอย่างการพูดด้วยซ้ำไป เพราะว่าบางทีเราก็มีเรื่องที่จะพูดอยู่แล้ว แต่ถ้าจัดลำดับหรือเทคนิคในการพูดไม่ดี ก็จะทำให้พูดสะดุดไม่น่าฟัง สุดท้ายในเรื่องของตัวอย่างก็จะมีตัวอย่างการพูดเพื่อมารยาททางสังคมและธุรกิจ เช่นการพูดในงานอวยพร งานมอบรางวัล งานการกุศล งานพิธีเปิด การพูดในงานแสดงความอาลัยในโอกาสต่างๆ งานพิธีกร งานประชุม การสัมภาษณ์ต่อสาธารณชน เป็นต้น ตัวอย่างที่ยกมาก็เข้าใจง่าย อธิบายเป็นขั้นตอนดีมากเลยค่ะ
4
ได้สำนวนใหม่ๆเพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สำหรับสำนวนสะเด็ด (Everyday Expressions) เล่มนี้ก็เป็นเล่มที่ 3 นะคะ เป็นหนังสือสอนภาษาอังกฤษที่รวบรวมสำนวนเอาไว้มากมายเป็นร้อยสำนวนเลยค่ะ สำนวนที่ถูกรวบรวมเอาไว้ในหนังสือเล่มนี้ บางสำนวนก็เป็นสำนวนในแบบของชาวต่างชาติแท้ๆอะค่ะ เราคนไทยอาจจะไม่เก็ทว่าทำไมต้องพูดแบบนั้น สำนวนแบบนี้ก็อาจจะจำยากซักหน่อยเพราะไม่ใช่สำนวนที่เราคุ้นเคย แต่ถ้าเป็นสำนวนอีกแบบก็จะเป็นสำนวนที่ใกล้เคียงกับสำนวนแบบไทยนะคะ อันนี้ก็สบายเลยไม่ต้องทำความเข้าใจยาก อ่านรอบเดียวก็จำได้แล้ว แต่ปัญหาก็คือมีน้อยไปหน่อยค่ะสำนวนแบบไทย ส่วนใหญ่จะเป็นสำนวนของฝรั่งมากกว่า แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ผู้เขียนเค้ามีคำอธิบายไว้ค่อนข้างชัดเจนเลยว่าสำนวนนั้นๆมีที่มาที่ไปยังไง พร้อมทั้งมีการยกตัวอย่างประกอบเวลาที่จะนำสำนวนไปใช้ด้วยค่ะ อันนี้ก็ช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้นเยอะ แถมยังมีการขยายความสำนวนนั้นๆออกไปอีกค่ะ เหมือนเป็นการเสริมเกร็ดความรู้เข้าไป ช่วยให้เราเข้าใจความหมายและวิธีการใช้สำนวนนั้นๆมากขึ้น ในส่วนของข้อเสียของหนังสือเล่มนี้ เราว่าน่าจะเป็นเรื่องของการจัดรูปเล่มนะคะ เราว่ายังไม่น่าสนใจแล้วก็อ่านยากไปซักนิด เพราะว่าจะเป็นการเอาสำนวนมาอธิบายต่อๆกันไปเรื่อยอะค่ะ บางสำนวนก็ไม่ได้เกี่ยวกัน เราว่าจะมีการจัดสำนวนออกเป็นกลุ่มๆ น่าจะช่วยให้อ่านและจำง่ายมากกว่า สำนวนไหนมีความหมายเหมือนหรือว่าใกล้เคียงกันก็จัดไว้ในกลุ่มเดียวกัน แบบนี้น่าจะทำให้หนังสือดูน่าสนใจมากกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ
www.batorastore.com © 2024