Customer Reviews

นิยายลำดับสุดท้ายของนิยายชุดบ้านไร่ปลายฝัน วายุภัคมนตรา งานเขียนอีกเรื่องของคุณแพรณัฐ ที่ต้องบอกว่าเขียนได้สนุกบวกกับการสอดแทรกความรู้อีกเรื่อง เรื่องนี้ดูจะแปลกๆ กว่าเรื่องที่ผ่านมาเล็กน้อยตรงที่ลมของเราน่าจะเป็นเพียงผู้ชายคนเดียวในบรรดาพี่น้องที่มีนิสัยเจ้าชู้ เรื่องมีอยู่ว่าทิชากร หรือกะทิ นักเขียนลูกสาวอดีตหมอไสยเวท เอออกเดินทางจากกรุงเทพเพื่อมาหาแรงบัลดาลใจในการเขียนนิยายที่ไร่องุ่น ทำให้เธอต้องมาเจอกับวายุภัค หรือ ลม เจ้าของไร่องุ่นมาดเข้ม เพลย์บอยตัวพ่อ การเจอกันของทั้งคู่จึงไม่ค่อย HAPPY นัก เพียงแค่เจอกะทิสำหรับลมแล้ว กะทินี่จอมจุ้น เพ้อเจ้อ พูดมาก เป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญห่างไกลจากสเปกของผู้หญิงที่ลมชอบยิ่งนัก เมื่อเธอเข้ามาอยู่ในไร่องุ่นของลมและตั้งใจเก็บข้อมูลเกี่ยวกับไร่องุ่นและการทำไวท์เพื่อนำมาเขียนนิยายส่งสำนักพิมพ์ แต่เพราะเธอเป็นล๔กหมอไสยเวทย์จึงมีเซนต์รับรู้ว่าคุณลมกำลังโดนทำของใส่ หรือโดนของนั่นเอง (น่าจะโดนมาจากบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ของคุณลมนั่นแหละ)กะทิจึงพยายามจะเตือนลมเกี่ยวกับสิ่งที่เธอสัมผัสได้และหาวิธีช่วยลมต่าง ๆ แต่ลมกลับไม่เชื่อว่ากระทิพูดเรื่องจริง แต่ที่แย่ยิ่งกว่าเขากลับหาว่าเธอเพ้อเจ้ออีกต่างหาก แต่กะทิก็ไม่ได้ยอมแพ้และในที่สุดลมก็สัมผัสได้ถึงสิ่งแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และเมื่อเรื่องเลวร้ายผ่านพ้นไปลมจึงรู้ว่าผู้หญิงที่หวังดีและเป็นห่วงเขาคือกะทิ ด้วยความใกล้ชิดทำให้ความรักเริ่มเกิดขึ้นเรื่อยๆ จนที่สุดแล้วสายลมอย่างวายุภัคก็ต้องมาหยุดหัวใจไว้ที่ทิชากร สาวน้อยนักเขียนที่ลมมองว่าเธอเพ้อเจ้อ พูดมาก เปิ่น แต่นี่แหละคือทั้งหมดที่ทำให้เขารักเธอ เรื่องนี้ของคุณแพรณัฐก็เป็นเรื่องที่สนุกอีกเรื่องค่ะ แต่ว่านิดเดียวภาษาที่ใช้ในการเขียนบางคำอ่านยากและมีการใช้คำราชาศัพท์แทนด้วยบางครั้งจึงทำให้อ่านแล้วสะดุดเล็กน้อยค่ะ แล้วก็เรื่องไสยเวทย์ต่างๆ นาๆ ส่วนตัวมองว่าบางเรื่องเว่อร์ไปนิดนึง มันดูเกินจากความเป็นจริงไปสักเล็กน้อย เพราะว่าซีรี่เรื่องนี้ดูมันไม่ได้เว่อไปอะใน 3 เรื่องที่อ่าน ยกเว้นเรื่องแรก ธาราหิมาลัย คือเป็นอะไรที่เป็นไปได้ยากมากที่เจ้าชายต่างแดนมาหลงรักหญิงไทย อะไรประมาเนี้ย แต่สิ่งที่ดีและชอบคือเรื่อง ความรู้ที่ได้จากการอ่านเรื่องนี้ เกี่ยวกับไร่องุ่น กรรมวิธีในการผลิตและดูแลไวท์ อ่านแล้วนึกว่าเจ้าไวท์นี่เป็นลูกเลยที่เดียวต้องดูแลอย่างดี ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม และความแตกต่างระหว่างเหล้ากับไวท์ มานั่งนึก ๆ ก็จริงนะ ขอชมคนเขียนค่ะ เพราะนอกจากจะเก่งงานเขียนแล้วเรื่องนี้คุณแพรณัฐเขียนให้ผู้อ่านรู้สีกได้ว่าคนเขียนมีความรู้เรื่ององุ่นและไวท์เป็นอย่างดี อ่านสนุก เพลินดีค่ะ

นิยายลำดับสุดท้ายของนิยายชุดบ้านไร่ปลายฝัน วายุภัคมนตรา งานเขียนอีกเรื่องของคุณแพรณัฐ ที่ต้องบอกว่าเขียนได้สนุกบวกกับการสอดแทรกความรู้อีกเรื่อง เรื่องนี้ดูจะแปลกๆ กว่าเรื่องที่ผ่านมาเล็กน้อยตรงที่ลมของเราน่าจะเป็นเพียงผู้ชายคนเดียวในบรรดาพี่น้องที่มีนิสัยเจ้าชู้ เรื่องมีอยู่ว่าทิชากร หรือกะทิ นักเขียนลูกสาวอดีตหมอไสยเวท เอออกเดินทางจากกรุงเทพเพื่อมาหาแรงบัลดาลใจในการเขียนนิยายที่ไร่องุ่น ทำให้เธอต้องมาเจอกับวายุภัค หรือ ลม เจ้าของไร่องุ่นมาดเข้ม เพลย์บอยตัวพ่อ การเจอกันของทั้งคู่จึงไม่ค่อย HAPPY นัก เพียงแค่เจอกะทิสำหรับลมแล้ว กะทินี่จอมจุ้น เพ้อเจ้อ พูดมาก เป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญห่างไกลจากสเปกของผู้หญิงที่ลมชอบยิ่งนัก เมื่อเธอเข้ามาอยู่ในไร่องุ่นของลมและตั้งใจเก็บข้อมูลเกี่ยวกับไร่องุ่นและการทำไวท์เพื่อนำมาเขียนนิยายส่งสำนักพิมพ์ แต่เพราะเธอเป็นล๔กหมอไสยเวทย์จึงมีเซนต์รับรู้ว่าคุณลมกำลังโดนทำของใส่ หรือโดนของนั่นเอง (น่าจะโดนมาจากบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ของคุณลมนั่นแหละ)กะทิจึงพยายามจะเตือนลมเกี่ยวกับสิ่งที่เธอสัมผัสได้และหาวิธีช่วยลมต่าง ๆ แต่ลมกลับไม่เชื่อว่ากระทิพูดเรื่องจริง แต่ที่แย่ยิ่งกว่าเขากลับหาว่าเธอเพ้อเจ้ออีกต่างหาก แต่กะทิก็ไม่ได้ยอมแพ้และในที่สุดลมก็สัมผัสได้ถึงสิ่งแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และเมื่อเรื่องเลวร้ายผ่านพ้นไปลมจึงรู้ว่าผู้หญิงที่หวังดีและเป็นห่วงเขาคือกะทิ ด้วยความใกล้ชิดทำให้ความรักเริ่มเกิดขึ้นเรื่อยๆ จนที่สุดแล้วสายลมอย่างวายุภัคก็ต้องมาหยุดหัวใจไว้ที่ทิชากร สาวน้อยนักเขียนที่ลมมองว่าเธอเพ้อเจ้อ พูดมาก เปิ่น แต่นี่แหละคือทั้งหมดที่ทำให้เขารักเธอ เรื่องนี้ของคุณแพรณัฐก็เป็นเรื่องที่สนุกอีกเรื่องค่ะ แต่ว่านิดเดียวภาษาที่ใช้ในการเขียนบางคำอ่านยากและมีการใช้คำราชาศัพท์แทนด้วยบางครั้งจึงทำให้อ่านแล้วสะดุดเล็กน้อยค่ะ แล้วก็เรื่องไสยเวทย์ต่างๆ นาๆ ส่วนตัวมองว่าบางเรื่องเว่อร์ไปนิดนึง มันดูเกินจากความเป็นจริงไปสักเล็กน้อย เพราะว่าซีรี่เรื่องนี้ดูมันไม่ได้เว่อไปอะใน 3 เรื่องที่อ่าน ยกเว้นเรื่องแรก ธาราหิมาลัย คือเป็นอะไรที่เป็นไปได้ยากมากที่เจ้าชายต่างแดนมาหลงรักหญิงไทย อะไรประมาเนี้ย แต่สิ่งที่ดีและชอบคือเรื่อง ความรู้ที่ได้จากการอ่านเรื่องนี้ เกี่ยวกับไร่องุ่น กรรมวิธีในการผลิตและดูแลไวท์ อ่านแล้วนึกว่าเจ้าไวท์นี่เป็นลูกเลยที่เดียวต้องดูแลอย่างดี ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม และความแตกต่างระหว่างเหล้ากับไวท์ มานั่งนึก ๆ ก็จริงนะ ขอชมคนเขียนค่ะ เพราะนอกจากจะเก่งงานเขียนแล้วเรื่องนี้คุณแพรณัฐเขียนให้ผู้อ่านรู้สีกได้ว่าคนเขียนมีความรู้เรื่ององุ่นและไวท์เป็นอย่างดี อ่านสนุก เพลินดีค่ะ

นิยายเรื่องซ่อนรักในลมหนาว งานเขียนของ ณารา แค่ชื่อนักเขียนเท่านั้นจริงๆ ค่ะที่ซื้อเรื่องนี้มาอ่านเพราะค่อนข้างมั่นใจใจงานเขียนของนักเขียนท่านนี้ที่ไม่ทำให้ผิดหวัง แล้วชื่อเรื่องก็ดูน่าสนใจ(แอบคิดว่าน่าจะเป็นนิยายน้ำเน่า ยุงชุม ตามแนวที่เราชอบ) แต่พอได้อ่านแล้วไม่เชิงแนวน้ำเน่ามากนัก กลางๆ เรื่องก็เกี่ยวกับ ธรรศ พระเอกนักเรียนนอนที่กำลังจะเรียนจบและรับปริญญาในอีกไม่น่าน หนุ่มหล่อ บ้านรวย สาวกรี๊ด (ตามสไตล์พระเอกนิยายไทยทุกประการ) อยู่มาวันทางบ้านที่เมืองไทยเกิดล้มละลาย เนื่องจากธุรกิจของที่บ้านถูกโกง จึงทำให้ทางบ้านไม่สามารถส่งเงินมาให้ธรรศใช้ในการเรียน พระเอกสุดหล่อเลยต้องเผชิญกับอาการถังแตกเข้าอย่างจัง จากที่ใช้เงินเป็นเบี้ย ชีวิตสุขสบายก็ทำให้พระเอกรู้สึกจมไม่ลง และรู้สึกอับอายไม่อยากให้เพื่อนๆ ในกลุ่มที่รู้จักกันและคนรอบข้างรู้ว่าตอนนี้ที่บ้านของเขาล้มละลายไม่ได้รวยเช่นก่อนแล้ว ธรรศจึงหลบหน้าเพื่อนๆ ไม่มีที่ไป ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน นึกออกเพียงที่เดียวคือ ไปขออาศัยอยู่กับ พีรดา นางเอกของเรื่อง เธอแปลกใจยิ่งนักที่เห็นธรรศมาปรากฏตัวหน้าห้องและขอพักอยู่ด้วย พีรดาลำบากใจไม่น้อย ก็จะอะไรล่ะ ธรรศเป็นแฟนของเพื่อนนั่นก็คือ วิลาสินี แม้ว่าธรรศจะเป็นเพื่อนเธอก็จริงแต่ว่าผู้หญิงกับผู้ชายแม้เป็นเพื่อนกันก็ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะอยู่ด้วยกันลำพัง และอีกอย่างถ้าวิลาสินีรู้เข้าจะทำอย่างไร ทว่านางเอกก็ใจอ่อนเกินกว่าจะปฏิเสธการช่วยเหลือพระเอกที่กำลังอยู่ในสภาวะที่ลำบาก เมื่อพระเอกมาอยู่กับนางเอกก็เริ่มคิดได้เริ่มเปลี่ยนแปลงตังเองครั้งยิ่งใหญ่ (จะเรียนว่าเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยก็ว่าได้) จากผู้ชายหล่อรวย กลายมาเป็นชายหนุ่มที่ต้องทำงานเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนต่อให้จบการศึกษาซึ่งเหลือเพียงไม่กี่เดือน และได้รับการช่วยเหลือจากนางเอกเป็นอย่างดี ก็จะไม่ดีได้อย่างไร พีรดาหลงรักพระเอกมาเนิ่นนาน แต่ก็แค่แอบๆ รัก ไม่เคยเปิดเผยบวกกับพระเอกก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วจะให้เธอป่าวประกาศได้อย่างไร เรื่องนี้ตอนอ่านแรกๆ ไม่ค่อยชอบพระเอกเลย คือ ดูเป็นคนที่อ่อนแอมาก ปัญหาแค่เล็กน้อยพระเอกเราก็ท้อละ ดูไม่เข้มแข็งเลย มาดีขึ้นเอาตอนกลางๆ เรื่องที่เริ่มเป็นผู้เป็นคน แต่ชอบนางเอกที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นคนดีแล้วแล้วดูเก่ง ดูแมน ไม่อ่อนแอ วันเวลาที่อยู่ด้วยกันทำให้ทั้งสองคนรู้ใจตัวเอง พระเอกเองแม้จะมีแฟนอยู่แล้วแต่คนแรกที่นึกถึงในวันที่ไม่รู้จะไปพึ่งใครกับเป็นนางเอก นางเอกไม่ต้องพูดถึงรักพระเอกคนเดียวมานาน เรื่องนี้น่ารักและสนุกดี สนุกตรงที่มียัยวิลาสินี แฟนเก่าพระเอกและควบตำแหน่งนางร้ายนี่แหละเข้ามาป่าวเปี้ยนและคอนสร้างความบาดหมางให้กับคู่พระนางเพราะถ้าไม่มียัยวิลาสินี เรื่องนี้จะกล่อยๆ ไปเลย โดยรวมอ่านได้ลื่นไหล เป็นเรื่องที่อ่านแล้วไม่ได้ดราม่าจนเครียดแต่ก็ไม่ได้ตลกจนไร้สาระ

นิยายเรื่องซ่อนรักในลมหนาว งานเขียนของ ณารา แค่ชื่อนักเขียนเท่านั้นจริงๆ ค่ะที่ซื้อเรื่องนี้มาอ่านเพราะค่อนข้างมั่นใจใจงานเขียนของนักเขียนท่านนี้ที่ไม่ทำให้ผิดหวัง แล้วชื่อเรื่องก็ดูน่าสนใจ(แอบคิดว่าน่าจะเป็นนิยายน้ำเน่า ยุงชุม ตามแนวที่เราชอบ) แต่พอได้อ่านแล้วไม่เชิงแนวน้ำเน่ามากนัก กลางๆ เรื่องก็เกี่ยวกับ ธรรศ พระเอกนักเรียนนอนที่กำลังจะเรียนจบและรับปริญญาในอีกไม่น่าน หนุ่มหล่อ บ้านรวย สาวกรี๊ด (ตามสไตล์พระเอกนิยายไทยทุกประการ) อยู่มาวันทางบ้านที่เมืองไทยเกิดล้มละลาย เนื่องจากธุรกิจของที่บ้านถูกโกง จึงทำให้ทางบ้านไม่สามารถส่งเงินมาให้ธรรศใช้ในการเรียน พระเอกสุดหล่อเลยต้องเผชิญกับอาการถังแตกเข้าอย่างจัง จากที่ใช้เงินเป็นเบี้ย ชีวิตสุขสบายก็ทำให้พระเอกรู้สึกจมไม่ลง และรู้สึกอับอายไม่อยากให้เพื่อนๆ ในกลุ่มที่รู้จักกันและคนรอบข้างรู้ว่าตอนนี้ที่บ้านของเขาล้มละลายไม่ได้รวยเช่นก่อนแล้ว ธรรศจึงหลบหน้าเพื่อนๆ ไม่มีที่ไป ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน นึกออกเพียงที่เดียวคือ ไปขออาศัยอยู่กับ พีรดา นางเอกของเรื่อง เธอแปลกใจยิ่งนักที่เห็นธรรศมาปรากฏตัวหน้าห้องและขอพักอยู่ด้วย พีรดาลำบากใจไม่น้อย ก็จะอะไรล่ะ ธรรศเป็นแฟนของเพื่อนนั่นก็คือ วิลาสินี แม้ว่าธรรศจะเป็นเพื่อนเธอก็จริงแต่ว่าผู้หญิงกับผู้ชายแม้เป็นเพื่อนกันก็ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะอยู่ด้วยกันลำพัง และอีกอย่างถ้าวิลาสินีรู้เข้าจะทำอย่างไร ทว่านางเอกก็ใจอ่อนเกินกว่าจะปฏิเสธการช่วยเหลือพระเอกที่กำลังอยู่ในสภาวะที่ลำบาก เมื่อพระเอกมาอยู่กับนางเอกก็เริ่มคิดได้เริ่มเปลี่ยนแปลงตังเองครั้งยิ่งใหญ่ (จะเรียนว่าเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยก็ว่าได้) จากผู้ชายหล่อรวย กลายมาเป็นชายหนุ่มที่ต้องทำงานเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนต่อให้จบการศึกษาซึ่งเหลือเพียงไม่กี่เดือน และได้รับการช่วยเหลือจากนางเอกเป็นอย่างดี ก็จะไม่ดีได้อย่างไร พีรดาหลงรักพระเอกมาเนิ่นนาน แต่ก็แค่แอบๆ รัก ไม่เคยเปิดเผยบวกกับพระเอกก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วจะให้เธอป่าวประกาศได้อย่างไร เรื่องนี้ตอนอ่านแรกๆ ไม่ค่อยชอบพระเอกเลย คือ ดูเป็นคนที่อ่อนแอมาก ปัญหาแค่เล็กน้อยพระเอกเราก็ท้อละ ดูไม่เข้มแข็งเลย มาดีขึ้นเอาตอนกลางๆ เรื่องที่เริ่มเป็นผู้เป็นคน แต่ชอบนางเอกที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นคนดีแล้วแล้วดูเก่ง ดูแมน ไม่อ่อนแอ วันเวลาที่อยู่ด้วยกันทำให้ทั้งสองคนรู้ใจตัวเอง พระเอกเองแม้จะมีแฟนอยู่แล้วแต่คนแรกที่นึกถึงในวันที่ไม่รู้จะไปพึ่งใครกับเป็นนางเอก นางเอกไม่ต้องพูดถึงรักพระเอกคนเดียวมานาน เรื่องนี้น่ารักและสนุกดี สนุกตรงที่มียัยวิลาสินี แฟนเก่าพระเอกและควบตำแหน่งนางร้ายนี่แหละเข้ามาป่าวเปี้ยนและคอนสร้างความบาดหมางให้กับคู่พระนางเพราะถ้าไม่มียัยวิลาสินี เรื่องนี้จะกล่อยๆ ไปเลย โดยรวมอ่านได้ลื่นไหล เป็นเรื่องที่อ่านแล้วไม่ได้ดราม่าจนเครียดแต่ก็ไม่ได้ตลกจนไร้สาระ

นิยายเรื่องนี้ขอออกตัวก่อนเลยว่าอ่านแล้วชอบมาก ชอบที่สุดใน 3 เรื่องที่อ่าน จริงๆ คิดว่าเรื่องนี้คงไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่เพราะว่ามันไม่ค่อยตื่นเต้นนัก เพราะตัวพระเอกดูเป็นผู้ชายที่ฉลาด ขรึม ไม่ร้อนแรงเหมือนไฟ (อัคนี) ไม่เร้าใจเหมือนหนุ่มเจ้าชู้ในไร่องุ่นอย่างลม แต่เมื่อได้อ่านบอกตามตรงนะคะ วางไม่ลงเลยทีเดียวต้องอ่านแบบม้วนเดียวจบ ขอชมร่มแก้วคนเขียนเขียนได้ดีมาก คือเรื่องดำเนินไปแบบมีที่มาที่ไป มีแผนการ มีความน่ารักของตัวละคร และบวกกับความงดงามของบรรยากาศ เมื่อปฐพี อดิศวร ลูกชายคนโตของครอบครัวจบบริหารและเข้ามาบริหารงาน ธารารินทร์รีสอร์ท ต่อจากครอบครัว ดิน หนุ่มหล่อเจ้าแผนการ ฉลาดเป็นกรดวันหนึ่งต้องมาเผชิญหน้ารับมือกับ ชะเอม ที่ปลอมตัวเข้ามาสมัครงานในไร่หวังจะวางแผนทำลายชื่อเสียง ธารารินทรืรีสอร์ท เพื่อให้เพื่อของเธอยอมรับในตัวเธอและแม่เธอจึงได้รับข้อเสนอให้มาทำลายชื่อเสียงธารารินทร์รีสอร์ท ทำอย่างไรก็ได้ให้ชื่อเสียงของธารารินทร์รีสอร์ทเสื่อมเสีย จึงวางแผนเข้ามาทำงานในธารารินทร์รีสอรืทเอให้ง่ายต่อการทำงาน แต่ว่าดินเจ้าของรีสอร์ทที่ฉลาดและเจ้าแผนการหาใช่ไม่รู้เรื่องที่ชะเอมปลอมตัวเข้ามาในรีสอร์ท จึงทำการซ้อนแผนโดยรับเธอเข้าทำงานเพราะก็อยากรู้ไม่น้อยว่าที่เธอจะเข้ามาทำงานในรีสอรืทของเขาเธอต้องการทำอะไร ดีกว่าปล่อยคนร้ายไปไกลหูไกลตา สู้รับมาอยู่ใกล้ซะเลย และคอยจับตาดูทุกความเคลื่อนไหวของยัยตัวแสบทุกฝีก้าว ด้วยต้องเห็นต้องเจอ และการแอบตามและคอยจับตาดูชะเอมทุกการกระทำเกิดเป็นความเชยชิน จากความชินชาเริ่มมองเห็นความน่ารักในตัวชะเอม ความรักจึงค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นวันละเล็กวันละน้อย (อ่านไปยิ้มไป) และในที่สุดคุณดินก็หลงรักชะเอมเต็ม ๆ และยิ่งเมื่อรู้ความจริงทั้งหมดว่าเธอเป็นลูกใคร และปลอมตัวเข้ามาในดร่เพื่ออะไรจึงอดที่จะสงสารชะเอมไม่ได้ เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก แก่นแก้ว อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ภายใต้มาดอันเคร่งขรึมของคุณดิน แห่งธารารินทร์รีสอร์ทแต่เวลาที่อยู่กับนางเอกนะ อ่นละทวย บางครั้งแอบติงต๊อง นางเอกก็ได้ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันน่ารักมาก เอ๋อๆ โก๊ะ ๆ ดีชอบๆ ค่ะ ชอบเรื่องนี้ที่คุณดินดูโดเด่นกว่าพี่น้องคนอื่นขึ้นมา ดูจะเป็นพี่ชายคนโตด้วยมาด ภาระการงาน คาเรกเตอร์พระเอกกับนางเอกเรื่องนี้ชัดเจนมาก ทำให้ตัวพระนางเด่นออกมาจากละคร การันตีความสนุกสานอีกเรื่อง เรื่องนี้กระชับไม่เวิ่นเว้อ

นิยายเรื่องนี้ขอออกตัวก่อนเลยว่าอ่านแล้วชอบมาก ชอบที่สุดใน 3 เรื่องที่อ่าน จริงๆ คิดว่าเรื่องนี้คงไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่เพราะว่ามันไม่ค่อยตื่นเต้นนัก เพราะตัวพระเอกดูเป็นผู้ชายที่ฉลาด ขรึม ไม่ร้อนแรงเหมือนไฟ (อัคนี) ไม่เร้าใจเหมือนหนุ่มเจ้าชู้ในไร่องุ่นอย่างลม แต่เมื่อได้อ่านบอกตามตรงนะคะ วางไม่ลงเลยทีเดียวต้องอ่านแบบม้วนเดียวจบ ขอชมร่มแก้วคนเขียนเขียนได้ดีมาก คือเรื่องดำเนินไปแบบมีที่มาที่ไป มีแผนการ มีความน่ารักของตัวละคร และบวกกับความงดงามของบรรยากาศ เมื่อปฐพี อดิศวร ลูกชายคนโตของครอบครัวจบบริหารและเข้ามาบริหารงาน ธารารินทร์รีสอร์ท ต่อจากครอบครัว ดิน หนุ่มหล่อเจ้าแผนการ ฉลาดเป็นกรดวันหนึ่งต้องมาเผชิญหน้ารับมือกับ ชะเอม ที่ปลอมตัวเข้ามาสมัครงานในไร่หวังจะวางแผนทำลายชื่อเสียง ธารารินทรืรีสอร์ท เพื่อให้เพื่อของเธอยอมรับในตัวเธอและแม่เธอจึงได้รับข้อเสนอให้มาทำลายชื่อเสียงธารารินทร์รีสอร์ท ทำอย่างไรก็ได้ให้ชื่อเสียงของธารารินทร์รีสอร์ทเสื่อมเสีย จึงวางแผนเข้ามาทำงานในธารารินทร์รีสอรืทเอให้ง่ายต่อการทำงาน แต่ว่าดินเจ้าของรีสอร์ทที่ฉลาดและเจ้าแผนการหาใช่ไม่รู้เรื่องที่ชะเอมปลอมตัวเข้ามาในรีสอร์ท จึงทำการซ้อนแผนโดยรับเธอเข้าทำงานเพราะก็อยากรู้ไม่น้อยว่าที่เธอจะเข้ามาทำงานในรีสอรืทของเขาเธอต้องการทำอะไร ดีกว่าปล่อยคนร้ายไปไกลหูไกลตา สู้รับมาอยู่ใกล้ซะเลย และคอยจับตาดูทุกความเคลื่อนไหวของยัยตัวแสบทุกฝีก้าว ด้วยต้องเห็นต้องเจอ และการแอบตามและคอยจับตาดูชะเอมทุกการกระทำเกิดเป็นความเชยชิน จากความชินชาเริ่มมองเห็นความน่ารักในตัวชะเอม ความรักจึงค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นวันละเล็กวันละน้อย (อ่านไปยิ้มไป) และในที่สุดคุณดินก็หลงรักชะเอมเต็ม ๆ และยิ่งเมื่อรู้ความจริงทั้งหมดว่าเธอเป็นลูกใคร และปลอมตัวเข้ามาในดร่เพื่ออะไรจึงอดที่จะสงสารชะเอมไม่ได้ เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก แก่นแก้ว อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ภายใต้มาดอันเคร่งขรึมของคุณดิน แห่งธารารินทร์รีสอร์ทแต่เวลาที่อยู่กับนางเอกนะ อ่นละทวย บางครั้งแอบติงต๊อง นางเอกก็ได้ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันน่ารักมาก เอ๋อๆ โก๊ะ ๆ ดีชอบๆ ค่ะ ชอบเรื่องนี้ที่คุณดินดูโดเด่นกว่าพี่น้องคนอื่นขึ้นมา ดูจะเป็นพี่ชายคนโตด้วยมาด ภาระการงาน คาเรกเตอร์พระเอกกับนางเอกเรื่องนี้ชัดเจนมาก ทำให้ตัวพระนางเด่นออกมาจากละคร การันตีความสนุกสานอีกเรื่อง เรื่องนี้กระชับไม่เวิ่นเว้อ

นิยายเรื่องเป็นนิยายที่ชอบมากที่สุดตั้งแต่อ่านนิยายมา ชอบบรรยากาศในเรื่อง ชอบความรักความอบอุ่นของคุณย่าที่มีต่อน้องณี แม้ไม่มีพ่อแม่แต่ว่าคุณย่าก็เลี้ยงดูเธอมาด้วยความรักและความอบอุ่นจนทำให้เธอดูจะโชคดีและไม่รุ้สึกว่าชีวิตขาดอะไร และชอบพี่อาทิจผู้ชายที่แสนดีมากๆ เรื่องราวของอาทิจและดรุณี คนหนุ่มสาววัยรุ่นที่รักในอาชีพเกษตรกรรม มารับหน้าที่ในการดูแลแผ่นดินที่คุณย่ารักและโอบอุ้มดูแลทุกชีวิตต่อจากจากคุณย่า อาทิจ นักศึกษาวิทยาลัยเกษตร เรียนจบอนุปริญญา อาทิจตัดสินใจไม่เรียนต่อเพื่อเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้เรียนต่อเนื่องจากเป็นพี่ชายคนโต ประวิทย์พ่อของอาทิจจึงส่งอาทิจกลับไปที่ไร่ของย่าแดงเพื่อไถ่โทษสมัยที่ขโมยเงินย่าแดงและหนีออกจากบ้านมาเนื่องจากประวิทย์ไม่ต้องการทำงานหนักที่ไร่ ย่าแดงประทับใจในตัวอาทิจที่เป็นคนขยันอดทนและมักน้อย ย่าแดงและคนงานทุกคนในไร่ล้วยต้อนรับอาทิจและดีใจที่อาทิจจะมาช่วยงานที่ไร่ ยกเว้นดรุณี น้องสาวคนสุดท้องของย่าแดงมีศักด์เป็นย่าของอาทิจ แต่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือกกับย่าแดง ดรุณีไม่ค่อยชอบใจนักที่อาทิจเข้ามาทำงานที่ไร่ และเพียงไม่นานนักก็กลายเป็นคนโปรดของย่าแดง ทำให้ดรุณีหาเรื่องแกล้งอาทิจและบ่อยครั้งการกลั่นแกล้งก็เป็นผลทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ บานปลายกันไปใหญ่ และเมื่อนานวันเข้า การกระทำของอาทิจก็พิสูจน์ให้ดรุณีเห็นว่าอาทิจเป็นคนดี เข้ามาทำงานในไร่ด้วยใจรักและความตั้งใจอย่างแท้จริงไม่ได้เข้ามาเพื่อหวังหาประโยชน์จากย่าแดง วันเวลาทำให้ความรุ้สึกของอาทิจที่มีต่อดรุณีชัดเจนขึ้น ทั้งสองมีความรู้สึกดีๆ ให้กันทว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่นั้นไม่มีใครรู้ จนกระทั่งต้องห่างกันเนื่องจากอาทิจขอไปทำงานที่สวนอีกที่แทบไม่ได้เจอดรุณี จนมาทราบข่าวอีกทีคือ ย่าแดงเสีย และสิ่งสุดท้ายก่อนที่ย่าแดงจะเสียได้สั่งเสียให้อาทิจเป็นผู้ปกครองของดรุณีเนื่องจากหญิงสาวยังไม่บรรลุนิติภาวะ และวันเปิดพินัยกรรมคุณย่าแดงได้ยกที่ดินในไร่ทั้งหมดให้ดรุณีและอาทิจคนละครึ่ง (เป็นความตั้งใจที่ต้องการให้ทั้งสองคนแต่งงานกัน เนื่องจากย่าแดงพอจะรู้ว่าทั้งสองคนรักกัน) แต่กว่าความรักจะเดินทางมาสุดทาง ทั้งสองคนก็เจอบททดสอบที่หนักเอาเรื่อง และยิ่งคิดว่าดรุณีมีสายเลือดเดียวกันความรักยิ่งยากเข้าไปใหญ่ แต่สุดท้ายก็เฉลยว่าดรุณีเป็นเพียงลูกคนละพ่อกับตะวันนั่นเอง จึงทำให้ความรักไนไร่อันแสนอบอุ่นจบลงได้อย่างดงาม แค่ผู้แต่งเขียนบรรยายบรรยากาศในไร่ซะจนเห็นภาพก็คิดว่าคุ้มแล้วที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้ อ่านตั้งแต่สมัยมีให้ยืมในห้องสมุดที่โรงเรียน

นิยายเรื่องเป็นนิยายที่ชอบมากที่สุดตั้งแต่อ่านนิยายมา ชอบบรรยากาศในเรื่อง ชอบความรักความอบอุ่นของคุณย่าที่มีต่อน้องณี แม้ไม่มีพ่อแม่แต่ว่าคุณย่าก็เลี้ยงดูเธอมาด้วยความรักและความอบอุ่นจนทำให้เธอดูจะโชคดีและไม่รุ้สึกว่าชีวิตขาดอะไร และชอบพี่อาทิจผู้ชายที่แสนดีมากๆ เรื่องราวของอาทิจและดรุณี คนหนุ่มสาววัยรุ่นที่รักในอาชีพเกษตรกรรม มารับหน้าที่ในการดูแลแผ่นดินที่คุณย่ารักและโอบอุ้มดูแลทุกชีวิตต่อจากจากคุณย่า อาทิจ นักศึกษาวิทยาลัยเกษตร เรียนจบอนุปริญญา อาทิจตัดสินใจไม่เรียนต่อเพื่อเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้เรียนต่อเนื่องจากเป็นพี่ชายคนโต ประวิทย์พ่อของอาทิจจึงส่งอาทิจกลับไปที่ไร่ของย่าแดงเพื่อไถ่โทษสมัยที่ขโมยเงินย่าแดงและหนีออกจากบ้านมาเนื่องจากประวิทย์ไม่ต้องการทำงานหนักที่ไร่ ย่าแดงประทับใจในตัวอาทิจที่เป็นคนขยันอดทนและมักน้อย ย่าแดงและคนงานทุกคนในไร่ล้วยต้อนรับอาทิจและดีใจที่อาทิจจะมาช่วยงานที่ไร่ ยกเว้นดรุณี น้องสาวคนสุดท้องของย่าแดงมีศักด์เป็นย่าของอาทิจ แต่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือกกับย่าแดง ดรุณีไม่ค่อยชอบใจนักที่อาทิจเข้ามาทำงานที่ไร่ และเพียงไม่นานนักก็กลายเป็นคนโปรดของย่าแดง ทำให้ดรุณีหาเรื่องแกล้งอาทิจและบ่อยครั้งการกลั่นแกล้งก็เป็นผลทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ บานปลายกันไปใหญ่ และเมื่อนานวันเข้า การกระทำของอาทิจก็พิสูจน์ให้ดรุณีเห็นว่าอาทิจเป็นคนดี เข้ามาทำงานในไร่ด้วยใจรักและความตั้งใจอย่างแท้จริงไม่ได้เข้ามาเพื่อหวังหาประโยชน์จากย่าแดง วันเวลาทำให้ความรุ้สึกของอาทิจที่มีต่อดรุณีชัดเจนขึ้น ทั้งสองมีความรู้สึกดีๆ ให้กันทว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่นั้นไม่มีใครรู้ จนกระทั่งต้องห่างกันเนื่องจากอาทิจขอไปทำงานที่สวนอีกที่แทบไม่ได้เจอดรุณี จนมาทราบข่าวอีกทีคือ ย่าแดงเสีย และสิ่งสุดท้ายก่อนที่ย่าแดงจะเสียได้สั่งเสียให้อาทิจเป็นผู้ปกครองของดรุณีเนื่องจากหญิงสาวยังไม่บรรลุนิติภาวะ และวันเปิดพินัยกรรมคุณย่าแดงได้ยกที่ดินในไร่ทั้งหมดให้ดรุณีและอาทิจคนละครึ่ง (เป็นความตั้งใจที่ต้องการให้ทั้งสองคนแต่งงานกัน เนื่องจากย่าแดงพอจะรู้ว่าทั้งสองคนรักกัน) แต่กว่าความรักจะเดินทางมาสุดทาง ทั้งสองคนก็เจอบททดสอบที่หนักเอาเรื่อง และยิ่งคิดว่าดรุณีมีสายเลือดเดียวกันความรักยิ่งยากเข้าไปใหญ่ แต่สุดท้ายก็เฉลยว่าดรุณีเป็นเพียงลูกคนละพ่อกับตะวันนั่นเอง จึงทำให้ความรักไนไร่อันแสนอบอุ่นจบลงได้อย่างดงาม แค่ผู้แต่งเขียนบรรยายบรรยากาศในไร่ซะจนเห็นภาพก็คิดว่าคุ้มแล้วที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้ อ่านตั้งแต่สมัยมีให้ยืมในห้องสมุดที่โรงเรียน

มาถึงน้องชายคนเล็กสุดท้อง คุณชายรณพีร์ งานเขียนของแพรณัฐ เรื่องราวของคุณชายคนเล็กน้องสุดท้องในบรรดา 5 สิงห์แห่งจุฑาเทพ เรืออากาศโทหม่อมราชวงศ์รณพีร์ จุฑาเทพ นายทหารหนุ่มนักบินขับไล่ผู้สูงศักศ์(จะบอกว่าชอบคุณชายคนนี้ที่สุด แอบชอบหนุ่มในเครื่องแบบน่ะ เท่เป็นบ้า) คุณชายรณพีร์ชายหนุ่มเพลบอยที่ไม่เคยหลงรักสาวคนไหนแบบจริงๆ จังๆ สักคน แต่วันนี้ต้องมาแบกรับภาระอันหนักอึ้ง นั่นคือการรักษาคำมั่นสัญญาต่อราชกุลเทวพรม เพราะไม่มีตัวเลือกอีกแล้วคุณชายรณพีร์คือคุณชายคนสุดท้องที่ต้องต้องงานกับ หม่อมราชวงศ์วิรัมภา ธิดาคนเล็กของคุณชายเทวพันธ์ ที่เป็นคู่หมายนอกจากความสวยและชาติตระกูลแล้ว
ชายพีร์ก็ไม่เห็นอย่างอื่นในตัวหญิงสาวและมองว่าเธอเป็นน้องมาโดยตลอด เรื่องเกิดเมื่อวันหนึ่งพิมพรรณ คู่หมั้นของยอดยศ เพื่อนรักของชายพีร์ตั้งแต่สมัยเรียน มาปรึกษาเรื่องที่ยอดยศเริ่มเปลี่ยนไปและไม่ค่อยมีเวลาให้ ได้ข่าวว่าคู่หมั้นหนุ่มไปติดพันกับนางเอกสาว ไปเฝ้าที่กองถ่ายทั้งเช้าทั้งเย็น ทำให้พิมพรรณเสียใจเป็นอย่างมากเพราะเธอกับยอดยศเป็นคู่หมั้นกันและมีแผนว่าจะแต่งงานกันอีกไม่นานแต่วันนี้ยอดยศกลับเปลี่ยนไป
ชายพีร์จึงรับปากพิมพรรณว่าจะช่วยคุยกับเพื่อให้ และตามยอดยศไปที่กองถ่ายเพื่อดูว่ายอดยศไปหานางเอกสาวอย่างที่ตนรู้มานั้นจริงหรือไม่ แต่การไปกองถ่ายครั้งนี้กลับทำให้ชายพีร์หลงรักเพียงขวัญตั้งแต่แรกเห็น แต่เมื่อรู้ว่าเธอชื่อพียงขวัญ คนที่ยอดยศมาติดพัน ชายพีร์จึงได้มีแผนการเพื่อลองใจเพียงขวัญหลายครั้ง จนมั่นใจว่าเพียงขวัญไม่ได้เป็นอย่างที่คนอื่นพูดกัน ความรักของชายพีร์จึงเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ ชายพีร์คอยดูแลช่วยเหลือทั้งเพียงขวัญและครอบครัว ทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจพียงขวัญ แต่อุปสรรคก็ดันมากมายก่ายกอง คุณย่าไม่ปลื้มนี่ก็ว่าวุ่นแล้วยังมีเรื่องยัยวิไลรัมพามาแทรก ไหนจะเรื่องที่นางเอกของเราก็ใจแข็งเป็นบ้าเลย ดำเนินเรื่องตามสูตรเลย คือคุณย่าไม่ปลื้มเอาเงินฟาดหัว กว่าจะได้สมหวังในรักครั้งนี้โอ้พระเจ้าเหนื่อยแท้ เรื่องนี้ชอบตอนจบมากเลยค่ะ คือมันเป็นบทสรุปของแต่ละเรื่อง บรรดาคุณชายทั้งหลายก็มารวมตัวกันในงานเลี้ยงวันเกิดหม่อมย่า แต่ละคนก็ต่างมีลูกๆ ตัวน้อย ๆ กันครบทุกคนยกเว้นชายพีร์ที่กำลังอยู่ในท้องเพียงขวัญ และมารู้เอาตอนจบของคุณชายรณพีร์ว่ากรองแก้วเรียนจบพยาบาล คู่กับชายหมอเลย น่ารักมาก ลูกชายของชายภัทรนี่ถอบแบบพ่อมาไม่มีผิด ส่วนลูกชายของคนอื่นๆ ก็ถอดนิสัยพ่อมาเลย น่ารักมาก นอยายอ่านได้เรื่อยๆ นะคะไม่ถึงกับสนุกบู้เหมือนคูณชายรัชชานนท์ แต่ว่าน้ำเน่าพอๆ กับคุณชายพุฒิภัทร แต่ก็สนุกค่ะ

มาถึงน้องชายคนเล็กสุดท้อง คุณชายรณพีร์ งานเขียนของแพรณัฐ เรื่องราวของคุณชายคนเล็กน้องสุดท้องในบรรดา 5 สิงห์แห่งจุฑาเทพ เรืออากาศโทหม่อมราชวงศ์รณพีร์ จุฑาเทพ นายทหารหนุ่มนักบินขับไล่ผู้สูงศักศ์(จะบอกว่าชอบคุณชายคนนี้ที่สุด แอบชอบหนุ่มในเครื่องแบบน่ะ เท่เป็นบ้า) คุณชายรณพีร์ชายหนุ่มเพลบอยที่ไม่เคยหลงรักสาวคนไหนแบบจริงๆ จังๆ สักคน แต่วันนี้ต้องมาแบกรับภาระอันหนักอึ้ง นั่นคือการรักษาคำมั่นสัญญาต่อราชกุลเทวพรม เพราะไม่มีตัวเลือกอีกแล้วคุณชายรณพีร์คือคุณชายคนสุดท้องที่ต้องต้องงานกับ หม่อมราชวงศ์วิรัมภา ธิดาคนเล็กของคุณชายเทวพันธ์ ที่เป็นคู่หมายนอกจากความสวยและชาติตระกูลแล้ว
ชายพีร์ก็ไม่เห็นอย่างอื่นในตัวหญิงสาวและมองว่าเธอเป็นน้องมาโดยตลอด เรื่องเกิดเมื่อวันหนึ่งพิมพรรณ คู่หมั้นของยอดยศ เพื่อนรักของชายพีร์ตั้งแต่สมัยเรียน มาปรึกษาเรื่องที่ยอดยศเริ่มเปลี่ยนไปและไม่ค่อยมีเวลาให้ ได้ข่าวว่าคู่หมั้นหนุ่มไปติดพันกับนางเอกสาว ไปเฝ้าที่กองถ่ายทั้งเช้าทั้งเย็น ทำให้พิมพรรณเสียใจเป็นอย่างมากเพราะเธอกับยอดยศเป็นคู่หมั้นกันและมีแผนว่าจะแต่งงานกันอีกไม่นานแต่วันนี้ยอดยศกลับเปลี่ยนไป
ชายพีร์จึงรับปากพิมพรรณว่าจะช่วยคุยกับเพื่อให้ และตามยอดยศไปที่กองถ่ายเพื่อดูว่ายอดยศไปหานางเอกสาวอย่างที่ตนรู้มานั้นจริงหรือไม่ แต่การไปกองถ่ายครั้งนี้กลับทำให้ชายพีร์หลงรักเพียงขวัญตั้งแต่แรกเห็น แต่เมื่อรู้ว่าเธอชื่อพียงขวัญ คนที่ยอดยศมาติดพัน ชายพีร์จึงได้มีแผนการเพื่อลองใจเพียงขวัญหลายครั้ง จนมั่นใจว่าเพียงขวัญไม่ได้เป็นอย่างที่คนอื่นพูดกัน ความรักของชายพีร์จึงเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ ชายพีร์คอยดูแลช่วยเหลือทั้งเพียงขวัญและครอบครัว ทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจพียงขวัญ แต่อุปสรรคก็ดันมากมายก่ายกอง คุณย่าไม่ปลื้มนี่ก็ว่าวุ่นแล้วยังมีเรื่องยัยวิไลรัมพามาแทรก ไหนจะเรื่องที่นางเอกของเราก็ใจแข็งเป็นบ้าเลย ดำเนินเรื่องตามสูตรเลย คือคุณย่าไม่ปลื้มเอาเงินฟาดหัว กว่าจะได้สมหวังในรักครั้งนี้โอ้พระเจ้าเหนื่อยแท้ เรื่องนี้ชอบตอนจบมากเลยค่ะ คือมันเป็นบทสรุปของแต่ละเรื่อง บรรดาคุณชายทั้งหลายก็มารวมตัวกันในงานเลี้ยงวันเกิดหม่อมย่า แต่ละคนก็ต่างมีลูกๆ ตัวน้อย ๆ กันครบทุกคนยกเว้นชายพีร์ที่กำลังอยู่ในท้องเพียงขวัญ และมารู้เอาตอนจบของคุณชายรณพีร์ว่ากรองแก้วเรียนจบพยาบาล คู่กับชายหมอเลย น่ารักมาก ลูกชายของชายภัทรนี่ถอบแบบพ่อมาไม่มีผิด ส่วนลูกชายของคนอื่นๆ ก็ถอดนิสัยพ่อมาเลย น่ารักมาก นอยายอ่านได้เรื่อยๆ นะคะไม่ถึงกับสนุกบู้เหมือนคูณชายรัชชานนท์ แต่ว่าน้ำเน่าพอๆ กับคุณชายพุฒิภัทร แต่ก็สนุกค่ะ

นิยายชุดสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ชุด คุณชายพุฒิภัทร ผู้แต่ง เก้าแต้ม คุณชายพุฒิภัทร เป็นเรื่องของคุณชายหมอ ศัลยแพทย์หนุ่มที่เก่งที่สุดในประเทศไทยในขณะนั้น เนื่องจากจบจากต่างประเทศมาและหาศัลยแพทย์ที่มีฝีมือดีมาเทียบได้ยาก คุณชายพุฒิภัทรเป็น 1 ใน 5 สิงห์แห่งจุฑาเทพ เป็นบุตรของหม่อมหยก ลูกสาวเจ้าสัวใหญ่ภรรยาคนที่สาม และมีน้อยชายที่มีมารดาคนเดียวกันคือ หม่อมราชวงศ์รัชชานนท์ ทั้งสองมีเชื้อสายจีนและมีเจ้าสัวซ้งเป็นคุณตาซึ่งเป็นเจ้าของห้างหยกฟ้าห้างใหญ่และมีระดับในสมัยนั้น คุณชายพุฒิภัทร เป็นคนที่เงียบๆ และมีความจริงจังกับการทำงานเป็นอย่างมากไม่สนใจสาว ๆ หรือไม่ชอบไปเที่ยวยามราตรีเหมือนบรรดาน้องๆ วันๆ คุณชายหมอก็ใช้ชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลหรือวันหยุดพักผ่อนก็มักจะศึกษาหาความรู้ทางการแพทย์เพิ่มเติม จึงทำให้หม่อมย่าทั้งสองมองว่าคุณชายหมอเป็นคนที่เชื่อฟังและว่าง่ายที่สุดในบรรดาพี่ๆ น้อง ๆ จึงได้วางแผนจับคู่กับราชกุลเทวพรมตามคำสัญญา หลังจากที่พี่ชายใหญ่และชายรุจ ต่างก็ไม่ได้แต่งงานกับสาวๆ
จากวังเทวพรมสักคน ชายหมอนี่แหละที่ต้องมารับผิดชอบคำมั่นสัญญาต่อจากพี่ๆ โดยหม่อมย่าหมายตามารตี พยาบาลสาวที่ทำงานในโรงพยาบาลเดียวกับคุณชายหมอ ซึ่งหม่อมย่าทั้งสองเห็นว่าเหมาะสมกันยิ่งนักและมารตีเองก็ยินดีที่จะแต่งงานกับคุณชาพุฒิภัทรเพราะไม่ใช่แค่เพื่อรักษาคำสัญญาแต่เพราะคุณชายทั้งหล่อ เก่ง ที่สำคัญรวยมากๆ นั่นทำให้มารตีทำทุกอย่างเพื่อที่จะเข้ามาเป็นสะใภ้ของจุฑาเทพ แต่ก็มีเรื่องบังเอิญที่ทำให้ชายหมอได้เจอกับกรองแก้ว (นางเอก) เพราะชายพีร์เกิดอยากชมการประกวดนางสาวศรีสยามเข้าแต่ไม่มีใครไปเป็นเพื่อนชายภัทรจึงไปเป็นเพื่อนและที่นี่ทำให้เขาเจอกรองแก้วนางสาวศรีสยาม แล้วก็มีเหตบังเอิญเนื่องจากกรองแก้วเข้ามาประกวดเพราะต้องการเงินรางวัลไปรักษาพ่อ ไม่ได้ต้องการเป็นอนุของท่านพินิจ เพราะหลังรับตำแหน่งเธอต้องไปเป็นอนุของท่านพินิต กรองแก้วจึงแกล้งตกเวลา และทำให้เธอบาดเจ็บและคุณชายหมอก็เป็นคนรักษา เธอพยายามจะขออยู่โรงพยาบาลให้นานที่สุดทั้งที่หายแล้วแต่ก็ขออยู่ต่อทำให้ชายภัทรสงสัยและที่สุดนางเอกก็สารภาพเรื่องราวทั้งหมดชายภัทรจึงยื่นมือเข้ามาช่วยโดยการพาไปพักกับหม่อมเกตุ ซึ่งเป็นพี่สาวของมารตี และสร้างเรื่องจดทะเบียนและแต่งงานกับกรองแก้ว เพื่อให้นายพลพินิจเข้าใจว่ากรองแก้วมีสามีแล้วและยอมปล่อยเธอไปแต่เรื่องก็ไม่ได้จบง่ายๆ นายพลพินิจใช่จะยอมแพ้ง่ายๆ สั่งให้คนมาทำร้ายคุณชายหมอจนหม่อมย่าทนไม่ได้ขอร้องให้กรองแก้วปล่อยชายหมอไป กรองแก้วตัดสินใจกลับบ้านเพราะเธอไม่ต้องการให้คุณชายต้องมาเดือดร้อนเพราะเธออีกแล้ว แต่ด้วยความรักคุณชายไม่ยอมแพ้ตามไปหากรองแก้วถึงอยุธยาและทั้งสองคนก็ได้ลงเอยกัน แต่กว่าจะลงเอยก็ลำบากแทบแย่ เรื่องราวของคุณชายพุฒิภัทรก็โอเคนะคะ แต่ค่อนข้างจะน้ำเน่าไปหน่อยนึงถ้าเทียบกับเรื่องอื่น เพราะจากที่อ่านมาดูเรื่องของสะใภ้คนนี้จะเป็นไปได้ยากสุด เรื่องนี้ขอบอกตรงๆ ว่าชอบนิสัยคุณชายหมอสุดๆ เลยดูมั่นคงในความรักมากที่สุดในบรรดาคุณชายทั้ง 5 อ่านได้ไม่น่าเบื่อแต่ก็ไม่ได้ถึงกับสนุกมาก กลางๆ เรื่องแอบเนือยๆ นิดหน่อยค่ะ

นิยายชุดสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ชุด คุณชายพุฒิภัทร ผู้แต่ง เก้าแต้ม คุณชายพุฒิภัทร เป็นเรื่องของคุณชายหมอ ศัลยแพทย์หนุ่มที่เก่งที่สุดในประเทศไทยในขณะนั้น เนื่องจากจบจากต่างประเทศมาและหาศัลยแพทย์ที่มีฝีมือดีมาเทียบได้ยาก คุณชายพุฒิภัทรเป็น 1 ใน 5 สิงห์แห่งจุฑาเทพ เป็นบุตรของหม่อมหยก ลูกสาวเจ้าสัวใหญ่ภรรยาคนที่สาม และมีน้อยชายที่มีมารดาคนเดียวกันคือ หม่อมราชวงศ์รัชชานนท์ ทั้งสองมีเชื้อสายจีนและมีเจ้าสัวซ้งเป็นคุณตาซึ่งเป็นเจ้าของห้างหยกฟ้าห้างใหญ่และมีระดับในสมัยนั้น คุณชายพุฒิภัทร เป็นคนที่เงียบๆ และมีความจริงจังกับการทำงานเป็นอย่างมากไม่สนใจสาว ๆ หรือไม่ชอบไปเที่ยวยามราตรีเหมือนบรรดาน้องๆ วันๆ คุณชายหมอก็ใช้ชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลหรือวันหยุดพักผ่อนก็มักจะศึกษาหาความรู้ทางการแพทย์เพิ่มเติม จึงทำให้หม่อมย่าทั้งสองมองว่าคุณชายหมอเป็นคนที่เชื่อฟังและว่าง่ายที่สุดในบรรดาพี่ๆ น้อง ๆ จึงได้วางแผนจับคู่กับราชกุลเทวพรมตามคำสัญญา หลังจากที่พี่ชายใหญ่และชายรุจ ต่างก็ไม่ได้แต่งงานกับสาวๆ
จากวังเทวพรมสักคน ชายหมอนี่แหละที่ต้องมารับผิดชอบคำมั่นสัญญาต่อจากพี่ๆ โดยหม่อมย่าหมายตามารตี พยาบาลสาวที่ทำงานในโรงพยาบาลเดียวกับคุณชายหมอ ซึ่งหม่อมย่าทั้งสองเห็นว่าเหมาะสมกันยิ่งนักและมารตีเองก็ยินดีที่จะแต่งงานกับคุณชาพุฒิภัทรเพราะไม่ใช่แค่เพื่อรักษาคำสัญญาแต่เพราะคุณชายทั้งหล่อ เก่ง ที่สำคัญรวยมากๆ นั่นทำให้มารตีทำทุกอย่างเพื่อที่จะเข้ามาเป็นสะใภ้ของจุฑาเทพ แต่ก็มีเรื่องบังเอิญที่ทำให้ชายหมอได้เจอกับกรองแก้ว (นางเอก) เพราะชายพีร์เกิดอยากชมการประกวดนางสาวศรีสยามเข้าแต่ไม่มีใครไปเป็นเพื่อนชายภัทรจึงไปเป็นเพื่อนและที่นี่ทำให้เขาเจอกรองแก้วนางสาวศรีสยาม แล้วก็มีเหตบังเอิญเนื่องจากกรองแก้วเข้ามาประกวดเพราะต้องการเงินรางวัลไปรักษาพ่อ ไม่ได้ต้องการเป็นอนุของท่านพินิจ เพราะหลังรับตำแหน่งเธอต้องไปเป็นอนุของท่านพินิต กรองแก้วจึงแกล้งตกเวลา และทำให้เธอบาดเจ็บและคุณชายหมอก็เป็นคนรักษา เธอพยายามจะขออยู่โรงพยาบาลให้นานที่สุดทั้งที่หายแล้วแต่ก็ขออยู่ต่อทำให้ชายภัทรสงสัยและที่สุดนางเอกก็สารภาพเรื่องราวทั้งหมดชายภัทรจึงยื่นมือเข้ามาช่วยโดยการพาไปพักกับหม่อมเกตุ ซึ่งเป็นพี่สาวของมารตี และสร้างเรื่องจดทะเบียนและแต่งงานกับกรองแก้ว เพื่อให้นายพลพินิจเข้าใจว่ากรองแก้วมีสามีแล้วและยอมปล่อยเธอไปแต่เรื่องก็ไม่ได้จบง่ายๆ นายพลพินิจใช่จะยอมแพ้ง่ายๆ สั่งให้คนมาทำร้ายคุณชายหมอจนหม่อมย่าทนไม่ได้ขอร้องให้กรองแก้วปล่อยชายหมอไป กรองแก้วตัดสินใจกลับบ้านเพราะเธอไม่ต้องการให้คุณชายต้องมาเดือดร้อนเพราะเธออีกแล้ว แต่ด้วยความรักคุณชายไม่ยอมแพ้ตามไปหากรองแก้วถึงอยุธยาและทั้งสองคนก็ได้ลงเอยกัน แต่กว่าจะลงเอยก็ลำบากแทบแย่ เรื่องราวของคุณชายพุฒิภัทรก็โอเคนะคะ แต่ค่อนข้างจะน้ำเน่าไปหน่อยนึงถ้าเทียบกับเรื่องอื่น เพราะจากที่อ่านมาดูเรื่องของสะใภ้คนนี้จะเป็นไปได้ยากสุด เรื่องนี้ขอบอกตรงๆ ว่าชอบนิสัยคุณชายหมอสุดๆ เลยดูมั่นคงในความรักมากที่สุดในบรรดาคุณชายทั้ง 5 อ่านได้ไม่น่าเบื่อแต่ก็ไม่ได้ถึงกับสนุกมาก กลางๆ เรื่องแอบเนือยๆ นิดหน่อยค่ะ

นิยายเรื่องพระจันทร์เปื้อนฝุ่น เป็นนิยายเรื่องแรกที่ได้อ่านนามปากกาของผักบุ้ง ตั้งแต่เรื่องนี้ก็อ่านงานของผักบุ้งเรื่อยมา ชื่อเรื่องพระจันทร์เปื้อนฝุ่นนี่คือ เป็นการเปรียบเทียบชีวิตนางเอก อรอินทร์ จากที่เธอเกิดในชาติตระกูลที่สูงส่งแต่กลับถูกความแค้นของรุ่นพ่อแม่ลากลงมาแปดเปื้อนฝุ่นซึ่งชีวิตของอรอินทร์ เลวร้ายมากเธอถูกแม่(นางเอกเข้าใจว่าเป็นแม่แท้)ใช้งานสารพัด ต้องตรากตรำทำงานทุกอย่างเพื่อเลี้ยงปากท้องของเธอ บวกกับแม่และน้อง ถูกแม่ทำร้ายร่างกายและเมื่อแม่ต้องการเงินและเธอหาไม่ได้จริงๆ เธอจึงถูกนำมาขายในราคาถูกๆ เพื่อแลกเศษเงิน เธอถูกนำไปประมูลขาย ถูกขังไว้ในกรงไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยง บนเกาะแห่งหนึ่งซึ่งมีพระเอก เป็นเจ้าของเกาะ พระเอกเป็นคนประมูลตัวนางเอกไปเพราะความหมั่นไส้ที่ทำตัวเป็นผู้หญิงอย่างว่า ขายตัวแลกเงิน เมื่อเธอต้องการ พระเอกก็จัดให้ เธอกลายเป็นผู้หญิงของเจ้าของเกาะหากแต่ปราศจากอิสระและเสรีภาพ เธอต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงชั้นบนสุดของโรงแรม มีเพียงแม่บ้านที่คอยส่งอาหาร ไม่มีสิทธิ์ลงมาเดินเลน หรือเดินชมวิวอย่างที่ใจเธอต้องการ ชีวิตของเธอนอกจากจะต้องทำหน้าที่อย่างว่าให้คุ้มกับเงินที่พระเอกซื้อมาแล้ว ถ้าก็ไม่มีประโยชน์อย่างอื่น เธอรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ชีวิตที่เกิดมาตั้งแต่เล็กจนโตดูเหมือนเธอจะพบเจอกับคำว่าความสุขน้อยนิดเหลือเกิน แต่เมื่อวันเวลาล่วงเลยไป การที่คนสองคนได้อยู่ด้วยกันทำให้เกิดความผูกพัน พระเอกเริ่มจะหึงหวงและเป็นห่วงความรู้สึกของเธอมากขึ้น และปล่อยให้เธอสามารถมาเดินเล่นและพบปะผู้คนได้ เมื่อแม่เลี้ยงใจร้ายของเธอทราบว่าเธอกลายเป็นคนรักของเจ้าของโรงแรมอย่างหล่อและรวยมากๆ จึงเดินทางมาเพื่อจะมาขอเงิน แต่ไม่ได้เจออรอินทร์เจอแต่พระเอกของเรา พระเอกจึงให้เงินไปจำนวนหนึ่งถือเป็นการซื้อตัวนางเอกก็ว่าได้ เรื่องราวดำเนินไปเรื่อยๆ จนในที่สุดพระเอกก็รักนางเอกของเราขึ้นมาจริง เธอไม่ใช่ผู้หญิงงอย่างว่า ชีวิตของเธอน่าอดสูยิ่งนัก แต่ก็มีเรื่องเข้ามาให้ทั้งคู่เกิดไม่เข้าใจและผิดใจกันจนทำให้พระเอกลงโทษนางเอก (แต่การลงโทษของพระเอกเราโหดไปนิดนึงค่ะ ไม่เคยอ่านนิยายเรื่องไหนที่พระเอกลงโทษนางเอกร้ายอย่างนี้เลย) เมื่อแม่ของพระเอกมาเจอเข้าจึงรับไม่ได้อย่างที่สุดที่ลูกชายทำอย่างนี้กับผู้หญิง แล้วนางเอกเราก็ท้อง เมื่อท้องนี่แหละทำให้ครอบครัวของทั้งคู่ได้มาเจอกันเพื่อทำพิธีสู่ขอและทำให้ถูกต้องตามธรรมเนียมจึงทำให้ความจริงที่ถูกปิดบังเอไว้มานานแสนนานถูกเปิดเผย เธอเป็นลูกสาวคนเดียวที่หายไปตั้งแต่ยังเยาว์วัย เธอถูกพรากจากอกของแม่แท้ๆ ตั้งแต่ยังเล็กให้ต้องไปเผชิญชีวิตที่เลวร้าย เรื่องนี้อ่านแล้วอาจจะน้ำเน่าไปนิดแต่รู้สึกว่าสนุก สุข เศร้า เคล้าน้ำตา ครบรสค่ะ

นิยายเรื่องพระจันทร์เปื้อนฝุ่น เป็นนิยายเรื่องแรกที่ได้อ่านนามปากกาของผักบุ้ง ตั้งแต่เรื่องนี้ก็อ่านงานของผักบุ้งเรื่อยมา ชื่อเรื่องพระจันทร์เปื้อนฝุ่นนี่คือ เป็นการเปรียบเทียบชีวิตนางเอก อรอินทร์ จากที่เธอเกิดในชาติตระกูลที่สูงส่งแต่กลับถูกความแค้นของรุ่นพ่อแม่ลากลงมาแปดเปื้อนฝุ่นซึ่งชีวิตของอรอินทร์ เลวร้ายมากเธอถูกแม่(นางเอกเข้าใจว่าเป็นแม่แท้)ใช้งานสารพัด ต้องตรากตรำทำงานทุกอย่างเพื่อเลี้ยงปากท้องของเธอ บวกกับแม่และน้อง ถูกแม่ทำร้ายร่างกายและเมื่อแม่ต้องการเงินและเธอหาไม่ได้จริงๆ เธอจึงถูกนำมาขายในราคาถูกๆ เพื่อแลกเศษเงิน เธอถูกนำไปประมูลขาย ถูกขังไว้ในกรงไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยง บนเกาะแห่งหนึ่งซึ่งมีพระเอก เป็นเจ้าของเกาะ พระเอกเป็นคนประมูลตัวนางเอกไปเพราะความหมั่นไส้ที่ทำตัวเป็นผู้หญิงอย่างว่า ขายตัวแลกเงิน เมื่อเธอต้องการ พระเอกก็จัดให้ เธอกลายเป็นผู้หญิงของเจ้าของเกาะหากแต่ปราศจากอิสระและเสรีภาพ เธอต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงชั้นบนสุดของโรงแรม มีเพียงแม่บ้านที่คอยส่งอาหาร ไม่มีสิทธิ์ลงมาเดินเลน หรือเดินชมวิวอย่างที่ใจเธอต้องการ ชีวิตของเธอนอกจากจะต้องทำหน้าที่อย่างว่าให้คุ้มกับเงินที่พระเอกซื้อมาแล้ว ถ้าก็ไม่มีประโยชน์อย่างอื่น เธอรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ชีวิตที่เกิดมาตั้งแต่เล็กจนโตดูเหมือนเธอจะพบเจอกับคำว่าความสุขน้อยนิดเหลือเกิน แต่เมื่อวันเวลาล่วงเลยไป การที่คนสองคนได้อยู่ด้วยกันทำให้เกิดความผูกพัน พระเอกเริ่มจะหึงหวงและเป็นห่วงความรู้สึกของเธอมากขึ้น และปล่อยให้เธอสามารถมาเดินเล่นและพบปะผู้คนได้ เมื่อแม่เลี้ยงใจร้ายของเธอทราบว่าเธอกลายเป็นคนรักของเจ้าของโรงแรมอย่างหล่อและรวยมากๆ จึงเดินทางมาเพื่อจะมาขอเงิน แต่ไม่ได้เจออรอินทร์เจอแต่พระเอกของเรา พระเอกจึงให้เงินไปจำนวนหนึ่งถือเป็นการซื้อตัวนางเอกก็ว่าได้ เรื่องราวดำเนินไปเรื่อยๆ จนในที่สุดพระเอกก็รักนางเอกของเราขึ้นมาจริง เธอไม่ใช่ผู้หญิงงอย่างว่า ชีวิตของเธอน่าอดสูยิ่งนัก แต่ก็มีเรื่องเข้ามาให้ทั้งคู่เกิดไม่เข้าใจและผิดใจกันจนทำให้พระเอกลงโทษนางเอก (แต่การลงโทษของพระเอกเราโหดไปนิดนึงค่ะ ไม่เคยอ่านนิยายเรื่องไหนที่พระเอกลงโทษนางเอกร้ายอย่างนี้เลย) เมื่อแม่ของพระเอกมาเจอเข้าจึงรับไม่ได้อย่างที่สุดที่ลูกชายทำอย่างนี้กับผู้หญิง แล้วนางเอกเราก็ท้อง เมื่อท้องนี่แหละทำให้ครอบครัวของทั้งคู่ได้มาเจอกันเพื่อทำพิธีสู่ขอและทำให้ถูกต้องตามธรรมเนียมจึงทำให้ความจริงที่ถูกปิดบังเอไว้มานานแสนนานถูกเปิดเผย เธอเป็นลูกสาวคนเดียวที่หายไปตั้งแต่ยังเยาว์วัย เธอถูกพรากจากอกของแม่แท้ๆ ตั้งแต่ยังเล็กให้ต้องไปเผชิญชีวิตที่เลวร้าย เรื่องนี้อ่านแล้วอาจจะน้ำเน่าไปนิดแต่รู้สึกว่าสนุก สุข เศร้า เคล้าน้ำตา ครบรสค่ะ

เรื่องเงารักลิขิตใจ แต่งโดย ญาณา นิยายเล่มนี้อ่านสนุกมากๆค่ะ อ่านตอนแรกก็รู้สึกชอบเลย เรื่องรวมของเนตรลดา กับ อานัช ทั้งคู่แต่งงานกันเนื่องจากจันทรืดาวรีสอร์ทธุรกิจของครอบครัวเนตรลดา กำลังมีปัญหาเรื่องหนี้สอนและกำลังจะตกเป็นของคนอื่น ทำให้เนตรลดาคิดหนักและต้องการรักษาธุรกิจที่พ่อของเธอรักยิ่งเอาไว้ อานัช (พระเอก หลงรักนางเอกของเราตั้งแต่แรกเห็น) อานัช ยื่นข้อเสนอให้เนตรลดาแต่งงานกับเขาเพื่อแลกกับที่เขาจะเป็นคนจัดการเรื่องหนี้สินทั้งหมดของจันทร์ดาวรีสอร์ทและคืนมันให้กับเธอ ทั้งสองแต่งงานกันแต่ไม่นานนักอานัชก็กลับกรุงเทพเพราะเขาถูกรอบทำร้ายทำให้บาดเจ็บหนักจึงกลับกรุงเทพเพื่อรักษาตัวและเพื่อความปลอดภัยของตัวเขา และสิ่งที่แย่ยิ่งกว่าคืออานัชคิดว่าเนตรลดาอยู่เบื้องหลังการลอบทำร้ายเขา จะไม่ให้คิดได้อย่างไรเมื่อเธอถูกเขาบังคับให้แต่งงานและมีพันธะ ถ้าหากว่าเขาตายเธอก็จะเป็นอิสระ อานัชเสียใจมากยิ่งคิดว่าคนที่เขารักที่สุดเป็นคนทำร้ายเขาเขาจึงไม่อาจที่จะอยู่และมองหน้าเธอทุกวันได้ แล้ววันนึงอานัชก็กลับมาที่จันทร์ดาวรีสอร์ท การกลับมาครั้งนี้ทำให้ทั้งสองคนได้ดูแลกัน และอานัชก็คอยช่วยเหลือเธอตลอด จนอานัชแน่ใจแล้วว่าเธอไม่เกี่ยวกับการที่เขาโดนทำร้าย แต่ถ้าไม่ใช่เธอแล้วใครล่ะ การตามล่าหาคนร้ายก็เริ่มขึ้น โดยอานัชแลเนตรลดาต่างก็ไม่รู้ว่าคนที่ปองร้ายพวกเขาคือใคร ยิ่งนับวันที่ทั้งคู่ต้องหนีคนร้าย ต้องเผชิญชะตากรรมอันเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกัน ทำให้เนตลดาเริ่มใจอ่อนและเปิดใจรับในความรักความหวังดีของอานัช อานัชเองเมื่อมั่นใจว่าคนร้ายไม่ใช่คนที่รักเขาดีใจจนแทบบ้า ตั้งใจแล้วว่าจะทำทุกอย่างเพื่อเธอ เนตรลดาผู้หญิงที่เขารัก แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงแค่ภรรยาทางนิตินัยเท่านั้น ในทางพฤตินัยแล้วเธอยังคงเป็นสาวบริสุทธิ์แม้ว่าอานัชจะมีสิทธ์ในตัวเธอเต็มร้อยแต่เขาก็ไม่ทำ เขาตั้งใจว่าจะรอจนกว่าวันที่เธอพร้อมจะเป็นของเขาด้วยความสมัครใจ เรื่องราวเข้มข้น อ่านๆ ไปนี่อยากจะเปิดไปอ่านหน้าท้ายๆ ให้รู้ไปเลยว่าคนร้ายที่ปองร้ายเนตรลดาและอานัชคือใคร เดายากมาก เลยทำให้เราอ่านไปด้วยลุ้นความรักของพระนางก็ลุ้น ลุ้นว่าคนร้ายเป็นใครก็ลุ้นแล้วคนร้ายทำไปเพื่ออะไร ชอบตอนจบมากๆ เลยค่ะ นางเอกแอบแกล้งพระเอกด้วย น่าสงสารพระเอกเป็นบ้าเลยไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่นางเอกกลับ.....ไปหาอ่านและลุ้นกันเอาเอง จบได้งดงามและโรแมนติกมากคำสารภาพรักกลางเรือยอร์ชท่ามกลางทะแลกว้าง ฟินสุดๆ

เรื่องเงารักลิขิตใจ แต่งโดย ญาณา นิยายเล่มนี้อ่านสนุกมากๆค่ะ อ่านตอนแรกก็รู้สึกชอบเลย เรื่องรวมของเนตรลดา กับ อานัช ทั้งคู่แต่งงานกันเนื่องจากจันทรืดาวรีสอร์ทธุรกิจของครอบครัวเนตรลดา กำลังมีปัญหาเรื่องหนี้สอนและกำลังจะตกเป็นของคนอื่น ทำให้เนตรลดาคิดหนักและต้องการรักษาธุรกิจที่พ่อของเธอรักยิ่งเอาไว้ อานัช (พระเอก หลงรักนางเอกของเราตั้งแต่แรกเห็น) อานัช ยื่นข้อเสนอให้เนตรลดาแต่งงานกับเขาเพื่อแลกกับที่เขาจะเป็นคนจัดการเรื่องหนี้สินทั้งหมดของจันทร์ดาวรีสอร์ทและคืนมันให้กับเธอ ทั้งสองแต่งงานกันแต่ไม่นานนักอานัชก็กลับกรุงเทพเพราะเขาถูกรอบทำร้ายทำให้บาดเจ็บหนักจึงกลับกรุงเทพเพื่อรักษาตัวและเพื่อความปลอดภัยของตัวเขา และสิ่งที่แย่ยิ่งกว่าคืออานัชคิดว่าเนตรลดาอยู่เบื้องหลังการลอบทำร้ายเขา จะไม่ให้คิดได้อย่างไรเมื่อเธอถูกเขาบังคับให้แต่งงานและมีพันธะ ถ้าหากว่าเขาตายเธอก็จะเป็นอิสระ อานัชเสียใจมากยิ่งคิดว่าคนที่เขารักที่สุดเป็นคนทำร้ายเขาเขาจึงไม่อาจที่จะอยู่และมองหน้าเธอทุกวันได้ แล้ววันนึงอานัชก็กลับมาที่จันทร์ดาวรีสอร์ท การกลับมาครั้งนี้ทำให้ทั้งสองคนได้ดูแลกัน และอานัชก็คอยช่วยเหลือเธอตลอด จนอานัชแน่ใจแล้วว่าเธอไม่เกี่ยวกับการที่เขาโดนทำร้าย แต่ถ้าไม่ใช่เธอแล้วใครล่ะ การตามล่าหาคนร้ายก็เริ่มขึ้น โดยอานัชแลเนตรลดาต่างก็ไม่รู้ว่าคนที่ปองร้ายพวกเขาคือใคร ยิ่งนับวันที่ทั้งคู่ต้องหนีคนร้าย ต้องเผชิญชะตากรรมอันเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกัน ทำให้เนตลดาเริ่มใจอ่อนและเปิดใจรับในความรักความหวังดีของอานัช อานัชเองเมื่อมั่นใจว่าคนร้ายไม่ใช่คนที่รักเขาดีใจจนแทบบ้า ตั้งใจแล้วว่าจะทำทุกอย่างเพื่อเธอ เนตรลดาผู้หญิงที่เขารัก แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงแค่ภรรยาทางนิตินัยเท่านั้น ในทางพฤตินัยแล้วเธอยังคงเป็นสาวบริสุทธิ์แม้ว่าอานัชจะมีสิทธ์ในตัวเธอเต็มร้อยแต่เขาก็ไม่ทำ เขาตั้งใจว่าจะรอจนกว่าวันที่เธอพร้อมจะเป็นของเขาด้วยความสมัครใจ เรื่องราวเข้มข้น อ่านๆ ไปนี่อยากจะเปิดไปอ่านหน้าท้ายๆ ให้รู้ไปเลยว่าคนร้ายที่ปองร้ายเนตรลดาและอานัชคือใคร เดายากมาก เลยทำให้เราอ่านไปด้วยลุ้นความรักของพระนางก็ลุ้น ลุ้นว่าคนร้ายเป็นใครก็ลุ้นแล้วคนร้ายทำไปเพื่ออะไร ชอบตอนจบมากๆ เลยค่ะ นางเอกแอบแกล้งพระเอกด้วย น่าสงสารพระเอกเป็นบ้าเลยไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่นางเอกกลับ.....ไปหาอ่านและลุ้นกันเอาเอง จบได้งดงามและโรแมนติกมากคำสารภาพรักกลางเรือยอร์ชท่ามกลางทะแลกว้าง ฟินสุดๆ

นิยายเรื่องบ่วงรักคนพาล เขียนโดย พรรณ ติดตามผลงานของพรรณมาตลอดเพราะเป็นนักเขียนอีกคนที่รู้สึกว่าชื่นชอบในงานเขียนของนักเขียนคนนี้ เรื่องแรกที่ได้อ่านคือ ปักธงรักกลางใจแล้วก็ตามอ่านเรื่อยมาจนถึงเรื่องนี้ เรื่องราวของคุณครูอาสาคนสวย ที่มีหัวใจเป็นครูอย่างเต็มเปี่ยมย่างครูปลื้ม เพราะตั้งแต่สมัยที่เธอเป็นนักศึกษาเธอจะหาเวลาช่วงปิดภาคเรียนชวนเพื่อนๆ มาออกค่ายอาสาตามโรงเรียนในชนบทห่างไกลเสมอ เมื่อหญิงสาวเรียนจบเธอก็มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะกลับมาสร้าง รร เล็กๆ ในถิ่นที่ห่างไกลและเด็กขาดโอกาสทางการศึกษา การมาที่นี่ของหญิงสาวเธอได้เจอกับ คชา เพื่อสนิทของรวมพล(พระเอก) คชาคอยรับส่งดูแลช่วยเหลือครูปลื้มเรื่องการก่อสร้างโรงเรียนแห่งใหม่ คอยเป็นธุระให้ในหลายเรื่องๆ เพราะลำพังครูปลื้มคนเดียวงานก่อสร้างโรงเรียนคงเป็นเรื่องที่ยากมาก อยู่มาวันหนึ่งครูปลื้มก็โดนรถยนต์ขับมาอย่างเร็วเฉี่ยวจนเธอได้รับบาดเจ็บแต่เจ็บกายไม่เท่าไหร่ เจ็บใจนี่สิ เพราะรถที่เฉี่ยวเธอไม่แม้จะลงมาดูหรือถามว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง ทำให้ครูอาสาคนสวยหัวเสียและสาบส่งคนขับรถคนนั้น ทว่าผู้ชายคนนั้นที่ขับรถมาเฉี่ยวเธอก็คือ รวมพล พระเอกของเรื่องนี้นี่เอง นิสัยของรวมพลนี่ สุดๆ อะ คือถ้าเอาจริงๆ เลยนะเป็นผู้ชายที่แย่มากเนื่องด้วยพ่อหรือนายใหญ่เจ้าของเหมือง หรือพ่อของรวมพลแต่งงานใหม่ รวมพลก็แยกบ้านมาอยู่คนเดียวเพราะไม่อยากเห็นหน้าแม่เลี้ยงและใช้ชีวิตแบบหลุดโลกเลยทีเดียว คือ พอตกเย็นหลังจากที่ว่างจากการทำงานแล้วรวมพลก็เข้าผับ ดื่ม และพาสาวๆ ในผับมาต่อกันที่โรงแรม แบบว่าถ้าเจอผู้ชายแบบนี้เข้าไปคงไม่ไหว ครูปลื้มของเราเองก็เช่นกันเกียจขี้หน้านายเล็กรวมพลนี่เป็นบ้า นี่ถ้าเธอไม่เห็นแก่คชาเพื่อนที่แสนดีของรวมพล เธอคงไม่อยากที่จะเจอกับเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ด้วยความสวยของครูปลื้ม ไปต้องตาถูกใจรวมพลเข้าอย่างจังทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมา ไม่ได้ด้วยเลห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็เอาด้วนคาถาจริง ทำได้แม้กระทั่งข่มขืนครูปลื้มผู้แสนดี ฉากนี้ครูปลื้มน่าสงสารมากเลย พระเอกไม่รักษาน้ำใจครูปลื้มของเราเลย แม้จะเอ่ยปากว่าจะรับผิดชอบและจะแต่งงานด้วยแต่ว่าครูปลื้มก็ใจแข็งไม่เบา เรื่องราวมันสนุกตรงที่พระเอกนี่แหละค่ะ คือประมาณว่าหน้าตาก็ดี แถมรวยอีกต่างหาก เอาแต่ใจเป็นบ้า แต่เพราะว่าความน่ารักและความอ่อนหวานของครูปลื้มนี่แหละ ดัดนิสัยนายเล็ของเราซะอยู่หมัด เรื่องนี้สนุก เรื่องราวมีเหตุมีผล นางเอกดูเป็นผู้ใหญ่ดีค่ะ

นิยายเรื่องบ่วงรักคนพาล เขียนโดย พรรณ ติดตามผลงานของพรรณมาตลอดเพราะเป็นนักเขียนอีกคนที่รู้สึกว่าชื่นชอบในงานเขียนของนักเขียนคนนี้ เรื่องแรกที่ได้อ่านคือ ปักธงรักกลางใจแล้วก็ตามอ่านเรื่อยมาจนถึงเรื่องนี้ เรื่องราวของคุณครูอาสาคนสวย ที่มีหัวใจเป็นครูอย่างเต็มเปี่ยมย่างครูปลื้ม เพราะตั้งแต่สมัยที่เธอเป็นนักศึกษาเธอจะหาเวลาช่วงปิดภาคเรียนชวนเพื่อนๆ มาออกค่ายอาสาตามโรงเรียนในชนบทห่างไกลเสมอ เมื่อหญิงสาวเรียนจบเธอก็มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะกลับมาสร้าง รร เล็กๆ ในถิ่นที่ห่างไกลและเด็กขาดโอกาสทางการศึกษา การมาที่นี่ของหญิงสาวเธอได้เจอกับ คชา เพื่อสนิทของรวมพล(พระเอก) คชาคอยรับส่งดูแลช่วยเหลือครูปลื้มเรื่องการก่อสร้างโรงเรียนแห่งใหม่ คอยเป็นธุระให้ในหลายเรื่องๆ เพราะลำพังครูปลื้มคนเดียวงานก่อสร้างโรงเรียนคงเป็นเรื่องที่ยากมาก อยู่มาวันหนึ่งครูปลื้มก็โดนรถยนต์ขับมาอย่างเร็วเฉี่ยวจนเธอได้รับบาดเจ็บแต่เจ็บกายไม่เท่าไหร่ เจ็บใจนี่สิ เพราะรถที่เฉี่ยวเธอไม่แม้จะลงมาดูหรือถามว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง ทำให้ครูอาสาคนสวยหัวเสียและสาบส่งคนขับรถคนนั้น ทว่าผู้ชายคนนั้นที่ขับรถมาเฉี่ยวเธอก็คือ รวมพล พระเอกของเรื่องนี้นี่เอง นิสัยของรวมพลนี่ สุดๆ อะ คือถ้าเอาจริงๆ เลยนะเป็นผู้ชายที่แย่มากเนื่องด้วยพ่อหรือนายใหญ่เจ้าของเหมือง หรือพ่อของรวมพลแต่งงานใหม่ รวมพลก็แยกบ้านมาอยู่คนเดียวเพราะไม่อยากเห็นหน้าแม่เลี้ยงและใช้ชีวิตแบบหลุดโลกเลยทีเดียว คือ พอตกเย็นหลังจากที่ว่างจากการทำงานแล้วรวมพลก็เข้าผับ ดื่ม และพาสาวๆ ในผับมาต่อกันที่โรงแรม แบบว่าถ้าเจอผู้ชายแบบนี้เข้าไปคงไม่ไหว ครูปลื้มของเราเองก็เช่นกันเกียจขี้หน้านายเล็กรวมพลนี่เป็นบ้า นี่ถ้าเธอไม่เห็นแก่คชาเพื่อนที่แสนดีของรวมพล เธอคงไม่อยากที่จะเจอกับเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ด้วยความสวยของครูปลื้ม ไปต้องตาถูกใจรวมพลเข้าอย่างจังทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมา ไม่ได้ด้วยเลห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็เอาด้วนคาถาจริง ทำได้แม้กระทั่งข่มขืนครูปลื้มผู้แสนดี ฉากนี้ครูปลื้มน่าสงสารมากเลย พระเอกไม่รักษาน้ำใจครูปลื้มของเราเลย แม้จะเอ่ยปากว่าจะรับผิดชอบและจะแต่งงานด้วยแต่ว่าครูปลื้มก็ใจแข็งไม่เบา เรื่องราวมันสนุกตรงที่พระเอกนี่แหละค่ะ คือประมาณว่าหน้าตาก็ดี แถมรวยอีกต่างหาก เอาแต่ใจเป็นบ้า แต่เพราะว่าความน่ารักและความอ่อนหวานของครูปลื้มนี่แหละ ดัดนิสัยนายเล็ของเราซะอยู่หมัด เรื่องนี้สนุก เรื่องราวมีเหตุมีผล นางเอกดูเป็นผู้ใหญ่ดีค่ะ

เรื่องดวงใจอัคนี หนึ่งในนิยายชุดบ้านไร่ปลายฝัน เป็นเล่มที่สองต่อจากธาราหิมาลัย(แต่ไม่เคยอ่านเรื่องธาราหิมาลัยนะ เพราะดูจากละครแล้วเรื่องราวมันดูเว่อๆ ไปสักเล็กน้อย) ซีรี่ชุดนี้หามาอ่านหลังจากที่ได้ดูละครเลยเกิดอยากอ่านขึ้นมา เรื่องดวงใจอัคนี เรื่องนี้ค่อนข้างจะชอบในตัวของพระเอก แต่แอบรำคาญนางเองบ้างเล็กน้อยที่มัวแต่ปากแข็งไม่ยอมรับใจตัวเองสักที อัคนีเล่นลูกตื้อสารพัดกว่าจะชนะใจนางเอกของเราได้ เนื้อเรื่องประมาณว่าไฟกับจี๊ด ไม่ถูกกันเอาซะเลย สืบเนื่องมาจากความบาดหมางของสองตระกูลตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อแม่ ทำให้ถูกถ่ายทอดความบาดหมางมาจนถึงรุ่นลูกที่ไม่ถูกกันมาตั้งแต่ยังเด็ก และเมื่อทั้งไฟและจี๊ดโตพอที่จะเข้ามารับช่วงบริหารงานฟาร์มโคนมต่อจากพ่อแม่ ทั้งสองก็ต่างเข้ามาทำงานในฟาร์มโคนมและเป็นคู่แข่งกันตลอดในทุกๆ เรื่อง ๆทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน เจอหน้ากันทีไรไม่ได้กัดกันทุกที(จนบางครั้งแอบคิดว่า เอ่อจะทะเลาะกันบ่อยไปนะ) แต่ก็ด้วยนี่แหละเจอกันบ่อยปะทะกันทุกครั้งที่เห็นหน้า จนวันหนึ่งทั้งสองคนต้องไปงานแต่งานของเพื่อที่ต่างจังหวัด บังเอิญเป็นงานเดียวกันซะด้วยและด้วยงานเลี้ยงฉลองแต่งงานเป็นเหตุทำให้ทั้งสองคนดื่มหนัก เมาแบบไม่มีสติ จึงเกิดได้เสียกันขึ้น เอาล่ะยุ่งแล้วทีนี้ทั้งที่เกียจกันมากแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นจะทำอย่างไร จี๊ดเสียใจมากแต่ไฟก็ยินดีจะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงเริ่มเปลี่ยนไป จากความเกียจชังกลายมาเป็นความรักที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ แต่อุปสรรคในความรักนี่สิที่มันช่างเยอะแยะมากมายเหลือเกิน กว่าจะได้รักกัน เค้าโครงเรื่องก็ไม่ค่อยต่างจากนิยายทั่วไปที่มีความบาดหมางของสองตระกูลเป็นรักต้องห้าม ไม่มีทางรักกันได้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายแล้วตอนจบก็ HAPPY จริงๆ ถ่ายทอดออกมาเป็นละครแล้วสนุกมากแต่ว่านิยายอ่านแล้วก็เฉยๆ นะคะ สนุกมั้ยก็สนุก แต่สนุกแบบธรรมดา ชอบตัวละครไฟนะคะเพราะว่าดูตรง จริงจังดี แต่หลายคนอาจจะไม่ชอบที่พระเอกของเราใจร้อนเกินไปไม่ค่อยมีเหตุผล แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่าก็ตรงกับชื่อดี คือไฟ แต่ไม่ค่อยชอบตัวนางเอกเท่าไหร่ (ภาษาชาวบ้านอาจจะคิดว่าเล่นตัวจนน่าลำคาญ ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ นะคะ ^^) เรื่องนี้เป็นละครสนุกที่สุด แต่นิยายอ่านแล้วสนุกน้อยที่สุดในบรรดา 4 เรื่อง เรื่องนี้ออกแนวหวาน คนที่สอบอ่านแบบตบจูบ ก็คิดว่าโอเคค่ะ เรื่องนี้ซ่อนกลิ่นก็เขียนออกมาได้น่ารักดี ภาษาก็ลื่นไหลดีค่ะ แต่เราชอบอีก 2 เรื่องหลังมากว่า

เรื่องดวงใจอัคนี หนึ่งในนิยายชุดบ้านไร่ปลายฝัน เป็นเล่มที่สองต่อจากธาราหิมาลัย(แต่ไม่เคยอ่านเรื่องธาราหิมาลัยนะ เพราะดูจากละครแล้วเรื่องราวมันดูเว่อๆ ไปสักเล็กน้อย) ซีรี่ชุดนี้หามาอ่านหลังจากที่ได้ดูละครเลยเกิดอยากอ่านขึ้นมา เรื่องดวงใจอัคนี เรื่องนี้ค่อนข้างจะชอบในตัวของพระเอก แต่แอบรำคาญนางเองบ้างเล็กน้อยที่มัวแต่ปากแข็งไม่ยอมรับใจตัวเองสักที อัคนีเล่นลูกตื้อสารพัดกว่าจะชนะใจนางเอกของเราได้ เนื้อเรื่องประมาณว่าไฟกับจี๊ด ไม่ถูกกันเอาซะเลย สืบเนื่องมาจากความบาดหมางของสองตระกูลตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อแม่ ทำให้ถูกถ่ายทอดความบาดหมางมาจนถึงรุ่นลูกที่ไม่ถูกกันมาตั้งแต่ยังเด็ก และเมื่อทั้งไฟและจี๊ดโตพอที่จะเข้ามารับช่วงบริหารงานฟาร์มโคนมต่อจากพ่อแม่ ทั้งสองก็ต่างเข้ามาทำงานในฟาร์มโคนมและเป็นคู่แข่งกันตลอดในทุกๆ เรื่อง ๆทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน เจอหน้ากันทีไรไม่ได้กัดกันทุกที(จนบางครั้งแอบคิดว่า เอ่อจะทะเลาะกันบ่อยไปนะ) แต่ก็ด้วยนี่แหละเจอกันบ่อยปะทะกันทุกครั้งที่เห็นหน้า จนวันหนึ่งทั้งสองคนต้องไปงานแต่งานของเพื่อที่ต่างจังหวัด บังเอิญเป็นงานเดียวกันซะด้วยและด้วยงานเลี้ยงฉลองแต่งงานเป็นเหตุทำให้ทั้งสองคนดื่มหนัก เมาแบบไม่มีสติ จึงเกิดได้เสียกันขึ้น เอาล่ะยุ่งแล้วทีนี้ทั้งที่เกียจกันมากแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นจะทำอย่างไร จี๊ดเสียใจมากแต่ไฟก็ยินดีจะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงเริ่มเปลี่ยนไป จากความเกียจชังกลายมาเป็นความรักที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ แต่อุปสรรคในความรักนี่สิที่มันช่างเยอะแยะมากมายเหลือเกิน กว่าจะได้รักกัน เค้าโครงเรื่องก็ไม่ค่อยต่างจากนิยายทั่วไปที่มีความบาดหมางของสองตระกูลเป็นรักต้องห้าม ไม่มีทางรักกันได้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายแล้วตอนจบก็ HAPPY จริงๆ ถ่ายทอดออกมาเป็นละครแล้วสนุกมากแต่ว่านิยายอ่านแล้วก็เฉยๆ นะคะ สนุกมั้ยก็สนุก แต่สนุกแบบธรรมดา ชอบตัวละครไฟนะคะเพราะว่าดูตรง จริงจังดี แต่หลายคนอาจจะไม่ชอบที่พระเอกของเราใจร้อนเกินไปไม่ค่อยมีเหตุผล แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่าก็ตรงกับชื่อดี คือไฟ แต่ไม่ค่อยชอบตัวนางเอกเท่าไหร่ (ภาษาชาวบ้านอาจจะคิดว่าเล่นตัวจนน่าลำคาญ ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ นะคะ ^^) เรื่องนี้เป็นละครสนุกที่สุด แต่นิยายอ่านแล้วสนุกน้อยที่สุดในบรรดา 4 เรื่อง เรื่องนี้ออกแนวหวาน คนที่สอบอ่านแบบตบจูบ ก็คิดว่าโอเคค่ะ เรื่องนี้ซ่อนกลิ่นก็เขียนออกมาได้น่ารักดี ภาษาก็ลื่นไหลดีค่ะ แต่เราชอบอีก 2 เรื่องหลังมากว่า

นิยายเรื่องต้นรักริมรั้วของร่มแก้ว เรื่องนี้ตั้งแต่อ่าน ระหว่างอ่าน อ่านจบ อมยิ้มตลอดสนุกมากๆๆๆ เนื้อหาคร่าวๆ เป็นเรื่องของ กษิดิษฐ์ หรือ กบ และ นลิน หรือ บัว ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันและมีความสนิทสนมกันตั้งแต่เด็กๆ บ้านรั้วติดกันแถมยังเกิดห่างกันเพียงแค่วันเดียว ในเรื่องกบกับบัวต้องแต่งงานกันถึงสองครั้งเลยที่เดียว ครั้งแรกที่กบและบัวยอมแต่งงานกันก็เนื่องมาจากคุณย่าของกบเกิดป่วยและอยากให้ทั้งสองคนแต่งงานกัน ทั้งคู่จึงยอมแต่งงานกันตามที่คุณย่าต้องการเพื่อหวังให้อาการป่วยของคุณย่าดีขึ้น แต่เมื่อคุณย่าเสีย ทั้งคู่จึงหย่ากันแล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันไป กบ ไปเรียนต่อต่างประเทศ ส่วนบัวสมัครเข้าทำงานในบริษัทในประเทศไทย แต่เจ้านายของบัวกลับไม่ค่อยชอบใจนักที่พนักงานอย่างบัวเป็นคนโสดเพราะมองว่าคนโสดต่างจากคนมีครอบครัว เพราะคนที่มีครอบครัวแล้วจะมีความรับผิดชอบมากว่าคนโสด จึงทำให้ตำแหน่งหน้าที่การงานของบัวหยุดอยู่กับที่ ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งสักที เมื่อกบกลับมาเมืองไทย กบกับบัวได้เจอกันอีกครั้ง บัวจึงขอให้กบ ยอมแต่งงานแบบหลอกๆ กับเธออีกครั้งเพราะเธออยากเลื่อนตำแหน่งใจจะขาด กบยอมแต่งงานกับบัวเป็นครั้งที่สอง และหลังแต่งงานบัวก็ได้เลื่อนตำแหน่งสมใจ และบัวก็เกิดปิ้งหนุ่มคนหนึ่งเข้า เรื่องราวน่ารัก สนุกสนานจึงเริ่มขึ้น ชอบเวลาที่กบ พระเอกของเราแอบหึงหวงนางเอกโดยที่ไม่รู้ตัว และมีความหวังดีปกป้องนางเอกตลอด สิ่งที่กบพูดบนเวทีในงานแต่งงานครั้งที่สองประทับใจสุดๆ สิ่งที่พูดวันนั้นไม่ได้หลอกลวงเหมือนการแต่งงาน ทว่านั่นคือความรู้สึกจากใจของกบที่มีต่อบัว อ่านจบแล้วเฟ้อไปเลยทีเดียวเรื่องนี้ ร่มแก้วเขียนเรื่องนี้ออกมาได้ดีมาก ๆ สนุกและประทับใจ เป็นนิยายในดวงใจอีกเรื่อง เร็วๆ นี้นิยายเรื่องนี้จะเป็นละครให้ได้ดู กำลังรอดูจากที่เราเคยจินตนาการเองก็ว่สฟินแล้ว เป็นละครคงสนุกมากๆๆๆๆ

นิยายเรื่องต้นรักริมรั้วของร่มแก้ว เรื่องนี้ตั้งแต่อ่าน ระหว่างอ่าน อ่านจบ อมยิ้มตลอดสนุกมากๆๆๆ เนื้อหาคร่าวๆ เป็นเรื่องของ กษิดิษฐ์ หรือ กบ และ นลิน หรือ บัว ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันและมีความสนิทสนมกันตั้งแต่เด็กๆ บ้านรั้วติดกันแถมยังเกิดห่างกันเพียงแค่วันเดียว ในเรื่องกบกับบัวต้องแต่งงานกันถึงสองครั้งเลยที่เดียว ครั้งแรกที่กบและบัวยอมแต่งงานกันก็เนื่องมาจากคุณย่าของกบเกิดป่วยและอยากให้ทั้งสองคนแต่งงานกัน ทั้งคู่จึงยอมแต่งงานกันตามที่คุณย่าต้องการเพื่อหวังให้อาการป่วยของคุณย่าดีขึ้น แต่เมื่อคุณย่าเสีย ทั้งคู่จึงหย่ากันแล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันไป กบ ไปเรียนต่อต่างประเทศ ส่วนบัวสมัครเข้าทำงานในบริษัทในประเทศไทย แต่เจ้านายของบัวกลับไม่ค่อยชอบใจนักที่พนักงานอย่างบัวเป็นคนโสดเพราะมองว่าคนโสดต่างจากคนมีครอบครัว เพราะคนที่มีครอบครัวแล้วจะมีความรับผิดชอบมากว่าคนโสด จึงทำให้ตำแหน่งหน้าที่การงานของบัวหยุดอยู่กับที่ ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งสักที เมื่อกบกลับมาเมืองไทย กบกับบัวได้เจอกันอีกครั้ง บัวจึงขอให้กบ ยอมแต่งงานแบบหลอกๆ กับเธออีกครั้งเพราะเธออยากเลื่อนตำแหน่งใจจะขาด กบยอมแต่งงานกับบัวเป็นครั้งที่สอง และหลังแต่งงานบัวก็ได้เลื่อนตำแหน่งสมใจ และบัวก็เกิดปิ้งหนุ่มคนหนึ่งเข้า เรื่องราวน่ารัก สนุกสนานจึงเริ่มขึ้น ชอบเวลาที่กบ พระเอกของเราแอบหึงหวงนางเอกโดยที่ไม่รู้ตัว และมีความหวังดีปกป้องนางเอกตลอด สิ่งที่กบพูดบนเวทีในงานแต่งงานครั้งที่สองประทับใจสุดๆ สิ่งที่พูดวันนั้นไม่ได้หลอกลวงเหมือนการแต่งงาน ทว่านั่นคือความรู้สึกจากใจของกบที่มีต่อบัว อ่านจบแล้วเฟ้อไปเลยทีเดียวเรื่องนี้ ร่มแก้วเขียนเรื่องนี้ออกมาได้ดีมาก ๆ สนุกและประทับใจ เป็นนิยายในดวงใจอีกเรื่อง เร็วๆ นี้นิยายเรื่องนี้จะเป็นละครให้ได้ดู กำลังรอดูจากที่เราเคยจินตนาการเองก็ว่สฟินแล้ว เป็นละครคงสนุกมากๆๆๆๆ

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะเป็นแนวเดิมๆ ซ้ำๆ เป็นแนวที่ค่อนข้างมีอยู่เยอะมากในตลาดนิยาย เรื่องนี้ประมาณว่า ภูดิภัทร พระเอกสูญเสียน้องชายและเข้าใจว่านางเอกนั่นแหละเป็นคนที่ทำให้น้องชายเขาต้องตาย เขาจึงตั้งใจที่จะกลับมาเพื่อแก้แค้น เพียงรวี นางเอกของเราให้สาแก่ใจ แต่ทว่าเพียงรวีเด็กสาวผู้น่าสงสารเมื่อก่อนครอบครัวของเธอใช้ชีวิตอย่างอบอุ่นในต่างจังหวัดแต่เมื่อพ่อของเธอจากไปเธอและแม่จึงนำเงินก้อนสุดท้ายที่มีมาเปิดร้านอาหารที่อยู่ใกล้กับบ้านของคุณป้าที่เป็นพี่สาวแท้ของแม่ สักพักไม่นานแม่ของเธอก็จากไป (นี่แหละน้าชีวิตนางเอกนิยาย 55+) จากนั้นเธอก็ใช้ชีวิตอยู่ลำพังโดยมีพี่สาวซึ่งเป็นลูกของป้าให้ความเอ็นดูและเห็นเพียงรวีเป็นน้องสาวที่น่ารักคนนึง แต่พระเอกของเราภูดิภัทร ไม่เคยรู้เรื่องราวตื่นลึกหนาบางของน้องชายเท่าใดนักรู้แต่ว่าน้องชายสนิทกับเพียงรวี จึงดำเนินการจับตัวนางเอกไปที่เกาะและทำการจับนางเอกแต่งงานแต่ไม่ได้แต่งกับภูดิภัทรนะ พระเอกก็ปลอมตัวเป็นชาวเกาะสกปรกมอมแมม ให้นางเสียใจที่ตกเป็นภรรยาของคนสติไม่ดี และกลั่นแกล้งเพียงรวีทุกอย่าง (เรื่องนี้อ่านริมคลองนี่ยุงชุมเลยทีเดียว) คืออ่านแล้วเราเดาได้หมดอะค่ะ เพราะว่ามันแทบจะไม่ต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆ ที่พล็อตเรื่องเป็นแบบนี้เลย พระเอกแก้แค้นผิดตัว นางเอกไม่เกี่ยวตอนจบสำนึกผิด น่ะ อ่านแล้วเฉยๆนะคะเรื่องนี้ไม่ได้ฟินหรือเพ้อกับตัวหนังสือเท่าใดนัก ภาษาก็กลางๆ ไม่ค่อยได้ลุ้นหรือมีฉากแหวกๆ เท่าไหร่ และก็ไม่ค่อยหวานหรืออินเลิฟด้วย

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะเป็นแนวเดิมๆ ซ้ำๆ เป็นแนวที่ค่อนข้างมีอยู่เยอะมากในตลาดนิยาย เรื่องนี้ประมาณว่า ภูดิภัทร พระเอกสูญเสียน้องชายและเข้าใจว่านางเอกนั่นแหละเป็นคนที่ทำให้น้องชายเขาต้องตาย เขาจึงตั้งใจที่จะกลับมาเพื่อแก้แค้น เพียงรวี นางเอกของเราให้สาแก่ใจ แต่ทว่าเพียงรวีเด็กสาวผู้น่าสงสารเมื่อก่อนครอบครัวของเธอใช้ชีวิตอย่างอบอุ่นในต่างจังหวัดแต่เมื่อพ่อของเธอจากไปเธอและแม่จึงนำเงินก้อนสุดท้ายที่มีมาเปิดร้านอาหารที่อยู่ใกล้กับบ้านของคุณป้าที่เป็นพี่สาวแท้ของแม่ สักพักไม่นานแม่ของเธอก็จากไป (นี่แหละน้าชีวิตนางเอกนิยาย 55+) จากนั้นเธอก็ใช้ชีวิตอยู่ลำพังโดยมีพี่สาวซึ่งเป็นลูกของป้าให้ความเอ็นดูและเห็นเพียงรวีเป็นน้องสาวที่น่ารักคนนึง แต่พระเอกของเราภูดิภัทร ไม่เคยรู้เรื่องราวตื่นลึกหนาบางของน้องชายเท่าใดนักรู้แต่ว่าน้องชายสนิทกับเพียงรวี จึงดำเนินการจับตัวนางเอกไปที่เกาะและทำการจับนางเอกแต่งงานแต่ไม่ได้แต่งกับภูดิภัทรนะ พระเอกก็ปลอมตัวเป็นชาวเกาะสกปรกมอมแมม ให้นางเสียใจที่ตกเป็นภรรยาของคนสติไม่ดี และกลั่นแกล้งเพียงรวีทุกอย่าง (เรื่องนี้อ่านริมคลองนี่ยุงชุมเลยทีเดียว) คืออ่านแล้วเราเดาได้หมดอะค่ะ เพราะว่ามันแทบจะไม่ต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆ ที่พล็อตเรื่องเป็นแบบนี้เลย พระเอกแก้แค้นผิดตัว นางเอกไม่เกี่ยวตอนจบสำนึกผิด น่ะ อ่านแล้วเฉยๆนะคะเรื่องนี้ไม่ได้ฟินหรือเพ้อกับตัวหนังสือเท่าใดนัก ภาษาก็กลางๆ ไม่ค่อยได้ลุ้นหรือมีฉากแหวกๆ เท่าไหร่ และก็ไม่ค่อยหวานหรืออินเลิฟด้วย

นิยายเรื่องนี้อ่านแล้วเบาสมองมากเลยค่ะ สนุกนะ(โดนส่วนตัวชอบนิยายแนวฟาร์มนม ชมไร่ พระเอกเป็นพ่อเลี้ยงอะไรประมาณนี้อยู่แล้ว เรื่องนี้ฟาร์มรักฟาร์มเสน่หา เรื่องของสาวสวยเปรี่ยวปี๊ดนามว่า โมนา สาวมั่นใจที่วันๆ เอาแต่เที่ยวแตร่ใช้เงินเป็นเบี้ย อยู่มาวันปู่ของเธอหมดความอดทนกับพฤติกรรมการดื่มเหล้าและทำตัวลอยไปลอยมาของโมนา บังคับให้เธอหมั่นกับลูกชายอาเสี่ยซึ่งโมนาเรียกเค้าว่า ถุมารจีน(จินตนาการหน้ากุมารจีนไม่ออกเคยเห็นแต่กุมารไทย)จริงๆชื่อนายธูป นางเอกเรียกซะจบเลย โมนาค้านหัวชนฝาเธอไม่ยอมหมั่นกับนายกุมารจีนแน่ ๆ จึงวางแผนหนีการหมั้นซะเลย แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรคุณปู่ก็พาโมนาไปเที่ยวที่ฟาร์มวัวของคุณปู่ โมนาชอบบรรยากาศในไร่ของที่นี่มาก ปู่เอ่ยว่าหากโมนาชอบปู่จะยกให้แล้วก็ที่นี่เองที่ทำให้โมนาได้เจอกับหิมาลัย (พระเอก)หรือที่คนแถวนี้เรียกกันว่าผู้ใหญ่หิน ลูกชายกำนันริมธาร และแม่หยาดฟ้า หิมาลัยเรียนจบสถาปัตย์ แต่เป็นคนรักบ้านเกิดบวกกับกำนันริมธารได้ยกสมบัติทั้งหมดรวมทั้งฟาร์มวังให้หิมาลัยเป็นคนดูแล เขาจึงกลับมาพัฒนาบ้านเกิดพร้อมทั้งเข้าอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับเกษตรเพื่อนำความรู้มาพัฒนาฟาร์มรวมทั้งตั้งแหล่งรับซื้อน้ำนมดิบให้ชาวบ้านนำน้ำนมดิบมาขาย ชาวบ้านพอใจในผลงานจึงเลือกหิมาลัยให้เป็นผู้ใหญ่หินที่ชาวบ้านต่างรักใคร เรื่องนี้นางเอกโก๊ะพระเอกก็ตลกมาก ชอบตอนแรกเลยที่พระนางเจอกัน ผู้ใหญ่หินก็ดันผ้าหลุดต่อหน้าโมนาซะแล้ว อ่านไปอมยิ้มไปค่ะสำหรับนิยายเรื่องนี้ แก้เครียดเบาสมอง สนุกแถมได้กลิ่นไอบรรยากาศบ้านทุ่งและฟาร์มนมวัว

นิยายเรื่องนี้อ่านแล้วเบาสมองมากเลยค่ะ สนุกนะ(โดนส่วนตัวชอบนิยายแนวฟาร์มนม ชมไร่ พระเอกเป็นพ่อเลี้ยงอะไรประมาณนี้อยู่แล้ว เรื่องนี้ฟาร์มรักฟาร์มเสน่หา เรื่องของสาวสวยเปรี่ยวปี๊ดนามว่า โมนา สาวมั่นใจที่วันๆ เอาแต่เที่ยวแตร่ใช้เงินเป็นเบี้ย อยู่มาวันปู่ของเธอหมดความอดทนกับพฤติกรรมการดื่มเหล้าและทำตัวลอยไปลอยมาของโมนา บังคับให้เธอหมั่นกับลูกชายอาเสี่ยซึ่งโมนาเรียกเค้าว่า ถุมารจีน(จินตนาการหน้ากุมารจีนไม่ออกเคยเห็นแต่กุมารไทย)จริงๆชื่อนายธูป นางเอกเรียกซะจบเลย โมนาค้านหัวชนฝาเธอไม่ยอมหมั่นกับนายกุมารจีนแน่ ๆ จึงวางแผนหนีการหมั้นซะเลย แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรคุณปู่ก็พาโมนาไปเที่ยวที่ฟาร์มวัวของคุณปู่ โมนาชอบบรรยากาศในไร่ของที่นี่มาก ปู่เอ่ยว่าหากโมนาชอบปู่จะยกให้แล้วก็ที่นี่เองที่ทำให้โมนาได้เจอกับหิมาลัย (พระเอก)หรือที่คนแถวนี้เรียกกันว่าผู้ใหญ่หิน ลูกชายกำนันริมธาร และแม่หยาดฟ้า หิมาลัยเรียนจบสถาปัตย์ แต่เป็นคนรักบ้านเกิดบวกกับกำนันริมธารได้ยกสมบัติทั้งหมดรวมทั้งฟาร์มวังให้หิมาลัยเป็นคนดูแล เขาจึงกลับมาพัฒนาบ้านเกิดพร้อมทั้งเข้าอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับเกษตรเพื่อนำความรู้มาพัฒนาฟาร์มรวมทั้งตั้งแหล่งรับซื้อน้ำนมดิบให้ชาวบ้านนำน้ำนมดิบมาขาย ชาวบ้านพอใจในผลงานจึงเลือกหิมาลัยให้เป็นผู้ใหญ่หินที่ชาวบ้านต่างรักใคร เรื่องนี้นางเอกโก๊ะพระเอกก็ตลกมาก ชอบตอนแรกเลยที่พระนางเจอกัน ผู้ใหญ่หินก็ดันผ้าหลุดต่อหน้าโมนาซะแล้ว อ่านไปอมยิ้มไปค่ะสำหรับนิยายเรื่องนี้ แก้เครียดเบาสมอง สนุกแถมได้กลิ่นไอบรรยากาศบ้านทุ่งและฟาร์มนมวัว

ความสุขของกะทิ เรื่องนี้เคยอ่านตั้งแต่สมัยเรียน ม.ต้น เป็นวรรณกรรมที่โตมากับเด็กไทยจริงๆ เป็นหนังสือที่ดูจะไม่มีอะไรยุ่งยาก ภาษาชาวบ้าน แต่อ่านแล้วเข้าใจง่าย เข้าใจความสุขแบบบ้านๆ ที่ไม่ต้องวิ่งไข่วคว้า ชีวิตของกะทิที่ดำเนินไปมีเหตุมีผล อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้เรารู้สึกว่าความสุขอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ไหนไกลตัวเราเลย กะทิเด็ก 9 ขาวที่ไม่เคยได้เจอกับแม่เลย เธอเติบโตด้วยการเลี้ยงดูของตากับยายเป็นอย่างดี เสียงตะหวิวที่กระทบกับกะทะเป็นเหมือนนาฬิกาปลุกที่คอยปลุกกะทิให้ตื่นไปโรงเรียน ทุกวันยายจะทำอาหารสารพัดเมนูใส่ปิ่นโตให้กะทิ กะทิมีพี่ทองเด็กวัดเป็นเพื่อนคู่ใจไปไหนไปกัน กะทิเคยคิดอยากให้แม่มารับเธอที่โรงเรียนเหมือนเพื่อนคนอื่นบ้าง กะทิไม่เคยได้เจอแม่จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าแม่ของเธอหน้าตาเป็นยังไง แต่กะทิก็มีความสุขกับการเลี้ยงดูอย่างดีของตากับยายและยังมีทองเป็นคนที่เข้าอกเข้าใจกะทิเป็นอย่างดี และเป็นคนที่มีบุญคุณต่อกะทิ เพราะว่าพี่ทองเคยช่วยชีวิตกะทิไว้ตอนกะทิเป็นเด็กเล็ก น้าฏา และน้ากันต์ซึ่งเป็นคนที่ห่วงใยกะทิ และคอยหาสิ่งดีๆให้กะทิอยู่เสมอๆ และเป็นคนที่พูดปลอบใจกะทิในยามที่กะทิเศร้าโศกเสียใจ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ แม่ของกะทิ ที่ถึงแม้จะจากไปก่อนวัยอันควรแต่ก็จัดสิ่งต่างๆไว้ให้กะทิอย่างดิบดี ด้วยความรัก และเอาใจใส่จากใจแต่ในความสุขมีความเศร้า ในวิถีชีวิตที่สุขสงบนี้ กะทิต้องเผชิญประสบการณ์ทางอารมณ์ที่ต้องสูญเสียแม่ และในความเศร้านั้นก็มีความสุข กะทิไม่คิดจะโหยหาถึงพ่อที่อยู่ไกลโพ้นต่างแดน หากเลือกอยู่ในอ้อมกอดของตากับยาย และผ่านชีวิตอันควรจะทุกข์นั้นด้วยใจที่เข้มแข็ง อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้คนอ่านได้สัมผัสประสบการณ์ทางอารมณ์ของชีวิตเล็กๆ ในโลกเล็กๆ ของเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งอาจไม่ไกลจากชีวิตจริงของเราเลย เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพรุ่งนี้ชีวิตเราจะเจออะไร จะสุขหรือจะทุกข์ ไม่แปลกค่ะที่วรรณกรรมเรื่องนี้จะมีคุณค่าและควรค่าให้เด็กรุ่นต่อๆไปได้อ่าน

ความสุขของกะทิ เรื่องนี้เคยอ่านตั้งแต่สมัยเรียน ม.ต้น เป็นวรรณกรรมที่โตมากับเด็กไทยจริงๆ เป็นหนังสือที่ดูจะไม่มีอะไรยุ่งยาก ภาษาชาวบ้าน แต่อ่านแล้วเข้าใจง่าย เข้าใจความสุขแบบบ้านๆ ที่ไม่ต้องวิ่งไข่วคว้า ชีวิตของกะทิที่ดำเนินไปมีเหตุมีผล อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้เรารู้สึกว่าความสุขอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ไหนไกลตัวเราเลย กะทิเด็ก 9 ขาวที่ไม่เคยได้เจอกับแม่เลย เธอเติบโตด้วยการเลี้ยงดูของตากับยายเป็นอย่างดี เสียงตะหวิวที่กระทบกับกะทะเป็นเหมือนนาฬิกาปลุกที่คอยปลุกกะทิให้ตื่นไปโรงเรียน ทุกวันยายจะทำอาหารสารพัดเมนูใส่ปิ่นโตให้กะทิ กะทิมีพี่ทองเด็กวัดเป็นเพื่อนคู่ใจไปไหนไปกัน กะทิเคยคิดอยากให้แม่มารับเธอที่โรงเรียนเหมือนเพื่อนคนอื่นบ้าง กะทิไม่เคยได้เจอแม่จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าแม่ของเธอหน้าตาเป็นยังไง แต่กะทิก็มีความสุขกับการเลี้ยงดูอย่างดีของตากับยายและยังมีทองเป็นคนที่เข้าอกเข้าใจกะทิเป็นอย่างดี และเป็นคนที่มีบุญคุณต่อกะทิ เพราะว่าพี่ทองเคยช่วยชีวิตกะทิไว้ตอนกะทิเป็นเด็กเล็ก น้าฏา และน้ากันต์ซึ่งเป็นคนที่ห่วงใยกะทิ และคอยหาสิ่งดีๆให้กะทิอยู่เสมอๆ และเป็นคนที่พูดปลอบใจกะทิในยามที่กะทิเศร้าโศกเสียใจ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ แม่ของกะทิ ที่ถึงแม้จะจากไปก่อนวัยอันควรแต่ก็จัดสิ่งต่างๆไว้ให้กะทิอย่างดิบดี ด้วยความรัก และเอาใจใส่จากใจแต่ในความสุขมีความเศร้า ในวิถีชีวิตที่สุขสงบนี้ กะทิต้องเผชิญประสบการณ์ทางอารมณ์ที่ต้องสูญเสียแม่ และในความเศร้านั้นก็มีความสุข กะทิไม่คิดจะโหยหาถึงพ่อที่อยู่ไกลโพ้นต่างแดน หากเลือกอยู่ในอ้อมกอดของตากับยาย และผ่านชีวิตอันควรจะทุกข์นั้นด้วยใจที่เข้มแข็ง อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้คนอ่านได้สัมผัสประสบการณ์ทางอารมณ์ของชีวิตเล็กๆ ในโลกเล็กๆ ของเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งอาจไม่ไกลจากชีวิตจริงของเราเลย เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพรุ่งนี้ชีวิตเราจะเจออะไร จะสุขหรือจะทุกข์ ไม่แปลกค่ะที่วรรณกรรมเรื่องนี้จะมีคุณค่าและควรค่าให้เด็กรุ่นต่อๆไปได้อ่าน

เรื่องนี้หามาอ่านเพราะหลังจากที่ได้ดูละตรที่เคนและแอนเล่น เป็นเรื่องของการเริ่มต้นชีวิตคู่และชีวิตครอบครัวของหนุ่มสาวอย่างลัลนารีกับตุลา ความเป็นสาวมั่นและกลัวจะถูกผู้หญิงอื่นมาแย่งพี่ตู่ไป(ในละครพระเอกจะชื่อตุล) เธอจึงเป็นฝ่ายขอเขาแต่งงานก่อนโดยผ่านการเขียนลงในหน้ากระดาษของหนังสือที่เธอซื้อให้พี่ตู่ในวันเกิดและเขาก็ตอบรับแต่โดยดี ทั้งคู่แต่งงานกันในที่สุดแต่ชีวิตคู่ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด เพราะความที่ลัลนารีเป็นคนขี้หึงตัวแม่ ทำให้คิดเล็กคิดน้อยและบ้าดูหมอ จนวันนึงไปเจอยายแก่ๆทำนายว่าจากนี้อีกหนึ่งปี ลัลนารีจะต้องหย่าขาดกับตุลาแน่ และยังให้สมุดบันทึกเก่าๆมาเล่มนึง ความหวาดระแวงบวกกับความอยากรู้อยากเห็นทำให้ลัลนารีเปิดบันทึกเล่มนั้นจนสามารถไปเห็นเหตุการณ์อีก 365 วันได้จริงๆ ออกแนวเพ้อเกินความเป็นจริงไปนิดหน่อยในส่วนของการจินตนาการที่นางเอกมโนขึ้นเองว่าตัวเอกไปอนาคตมาแล้วเจอกับอะไรบ้าง อ่านแล้วบางครั้งก็รู้สึกรำคาญนางเอกที่บางครั้งก็ไร้เหตุผลสิ้นดี แต่พระเอกก็นะบางทีก็เงียบเกิน จนทำให้บางเรื่องที่จริงๆ แล้วเล็กมากดันใหญ่โตขึ้นมา สรุปแล้วเรื่องนี้ก็สนุกดีค่ะแต่ว่าเราอาจจะไม่ค่อยอินนักเพราะยังไม่มีประสบการณ์ตรง ทำให้เรารำคาญนางเอกเวลาหึงมากๆ (แต่คิดว่าผู้หญิงถ้ามีแบบนี้จริงก็คงโวยวายเหมือนลันนารีนี่แหละ) เรืื่องนี้ไม่ได้หนักเกินไปและก็ไม่ได้รักหวานหยาดเยิ้ม จะมีก็แค่ตอนจบที่หวานจนน้ำตาลเรียกพี่ บางทีอาจจะหวานไปด้วย55

เรื่องนี้หามาอ่านเพราะหลังจากที่ได้ดูละตรที่เคนและแอนเล่น เป็นเรื่องของการเริ่มต้นชีวิตคู่และชีวิตครอบครัวของหนุ่มสาวอย่างลัลนารีกับตุลา ความเป็นสาวมั่นและกลัวจะถูกผู้หญิงอื่นมาแย่งพี่ตู่ไป(ในละครพระเอกจะชื่อตุล) เธอจึงเป็นฝ่ายขอเขาแต่งงานก่อนโดยผ่านการเขียนลงในหน้ากระดาษของหนังสือที่เธอซื้อให้พี่ตู่ในวันเกิดและเขาก็ตอบรับแต่โดยดี ทั้งคู่แต่งงานกันในที่สุดแต่ชีวิตคู่ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด เพราะความที่ลัลนารีเป็นคนขี้หึงตัวแม่ ทำให้คิดเล็กคิดน้อยและบ้าดูหมอ จนวันนึงไปเจอยายแก่ๆทำนายว่าจากนี้อีกหนึ่งปี ลัลนารีจะต้องหย่าขาดกับตุลาแน่ และยังให้สมุดบันทึกเก่าๆมาเล่มนึง ความหวาดระแวงบวกกับความอยากรู้อยากเห็นทำให้ลัลนารีเปิดบันทึกเล่มนั้นจนสามารถไปเห็นเหตุการณ์อีก 365 วันได้จริงๆ ออกแนวเพ้อเกินความเป็นจริงไปนิดหน่อยในส่วนของการจินตนาการที่นางเอกมโนขึ้นเองว่าตัวเอกไปอนาคตมาแล้วเจอกับอะไรบ้าง อ่านแล้วบางครั้งก็รู้สึกรำคาญนางเอกที่บางครั้งก็ไร้เหตุผลสิ้นดี แต่พระเอกก็นะบางทีก็เงียบเกิน จนทำให้บางเรื่องที่จริงๆ แล้วเล็กมากดันใหญ่โตขึ้นมา สรุปแล้วเรื่องนี้ก็สนุกดีค่ะแต่ว่าเราอาจจะไม่ค่อยอินนักเพราะยังไม่มีประสบการณ์ตรง ทำให้เรารำคาญนางเอกเวลาหึงมากๆ (แต่คิดว่าผู้หญิงถ้ามีแบบนี้จริงก็คงโวยวายเหมือนลันนารีนี่แหละ) เรืื่องนี้ไม่ได้หนักเกินไปและก็ไม่ได้รักหวานหยาดเยิ้ม จะมีก็แค่ตอนจบที่หวานจนน้ำตาลเรียกพี่ บางทีอาจจะหวานไปด้วย55