Customer Reviews

เอาชีวิตรอดด้วยเงิน 30 บาท : เล่ม 9 ชุด ครอบครัวตึ๋งหนืด 
5
มีเงินแค่ 30 บาทให้พอใช้ในแต่ละวัน จะเอาตัวรอดได้จริงๆหรอเนี่ยย เป็นอีกตอนหนึ่งของครอบครัวตึ๋งหนืดที่สนุกมากๆค่ะ
โดย: ClaireC. วันที่เขียนรีวิว: 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ฮือออ TOT คือที่ร้องไห้นี่ไม่ใช่อะไรนะ แบบว่าผู้รีวิวร้องไห้คิดถึงหนังสือเล่มนี้ง่ะ ย้ายบ้านไปละไม่ได้เก็บกลับมาด้วย หายไปเลยย แงๆๆ อยากจะบอกว่า มารู้จักหนังสือ ครอบครัวตึ๋งหนืด ครั้งแรกกะเล่มนี้นะ (ไปเจอราคาพิเศษในร้านเซเว่นอ่า) แล้วแบบ อ่านละชอบมากๆเลยง่ะ ได้ค้นพบว่า เฮ้ย!!! ครอบครัวนี้เจ๋งว่ะ ถึงจะดูขี้งกมหาตืดไปหน่อย แต่ก็เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตอย่างประหยัดด้วยนะ ประหยัดกันทั้งครอบครัวเลยเล่มนี้ โดยเฉพาะคนที่เป็นแม่ ( T^T แอบดีใจนิดๆที่นี่แค่การ์ตูนนะไม่ใช่เรื่องจริง แต่เอ๊ะ!! จะมีครอบครัวจอมประหยัดสุดๆแบบนี้จริงๆรึเปล่านะ หรือผู้รีวิวยังไม่เคยเห็นเองต่างหากล่ะ) ผู้รีวิวไม่ใช่เด็กนะ แต่ติดการ์ตูนซีรีย์เรื่องนี้งอมแงมเลย วางแผนไว้แล้ว ว่าจะซื้อมาให้ได้ครบทุกเล่ม ทำไมน่ะหรอ เพราะมันเป็นการ์ตูนความรู้ไง อ่านสนุกและมีความรู้ด้วย (ถ้าผู้รีวิวมีลูกจะซื้อแบบนี้ให้อ่าน จะได้รู้จักการประหยัดอดออมตั้งแต่เด็กๆ) ในตอนนี้ เอาชีวิตรอดด้วยเงิน 30 บาท เป็นแนวทางที่ดีมากๆในการประหยัด ใช้เงินด้วยงบประมาณที่จำกัด อ่านแล้วจะต้องทึ่ง ในสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลย ว่าชนะหรือผ่านมาได้ด้วยการใช้เงิน 30 บาทเอาตัวรอดมาได้ยังไง แอบยกตัวอย่างนิดๆ อยากมีห้องเป็นของตัวเอง ใช้เงินแค่ 30 บาทก็ได้แล้ว ว้าว!! แล้วทำได้ด้วยจริงๆนะ นอกจากเล่มนี้จะมีเนื้อหาเป็นการ์ตูนแล้ว ก็มีบทความสั้นๆแทรกระหว่างตอนถึงวิธีการประหยัดที่น่าสนใจเยอะแยะเลยล่ะค่ะ อ่านได้ทุกเพศทุกวัย มีความรู้และสนุกสุดๆ และเป็น 4 สี ตลอดทั้งเล่มด้วยล่ะ มาเริ่มประหยัดกันตั้งแต่วันนี้เลยมั้ยคะ ด้วยเงิน 30 บาท จะทำไรได้อีกนะ ต้องติดตามจ้า
Small Bites Big Flavor ฟิงเกอร์ฟู้ดสำหรับโอกาสพิเศษที่บ้านและงานเลี้ยง
5
เชื่อมั้ยคะ ว่าอาหารประเภทนี้จะสร้างสีสันงานปาร์ตี้ของคุณให้ดูหรูหรามีระดับขึ้นมาได้เลย
โดย: ClaireC. วันที่เขียนรีวิว: 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เพื่อนๆรู้จักอาหาร ฟิงเกอร์ฟู้ด finger food กันบ้างมั้ยคะ ชอบทานกันรึเปล่า ใครเคยลองทำหรือเคยชิมมาบ้างรึยังคะ ผู้รีวิวเคยทำอาหารแบบนี้ตอนงานวันเกิดตัวเองค่ะ งานวันเกิดคนอื่นด้วย คำเล็กๆ น่ารักและอร่อยด้วยค่ะ อ้อ!! สำหรับใครที่ไม่รู้จักผู้รีวิวจะแนะนำให้รู้จักนะคะ พวกนี้ก็คืออาหารคำเล็กๆ กินแบบพอดีคำน่ะค่ะ แค่มีไม้จิ้มฟันปักไว้ในถาดเสิร์ฟใบใหญ่ๆ หลายๆแบบ มีทั้งที่เป็นแบบขนมปัง เมี่ยง อาหารชิ้นเล็กๆ ทั่วๆไปแล้วแต่ไอเดียและฝีมือของผู้ทำจะสร้างสรรค์ออกมาค่ะ อืมม...อาหารคำเล็กๆแบบนี้เรียกกันหลายชื่อนะคะ เคยได้ยินชื่อไหนมาบ้างรึเปล่าเอ่ย ฟิงเกอร์ฟู้ด, สมอล ไบท์, คานาเป้, ออเดิร์ฟ,แอบปิไทเซอร์ หรือ อาหารเรียกน้ำย่อย (แต่หยิบหม่ำๆหลายๆชิ้นเข้าก็อิ่มจริงจังได้นะเออ) ทำก็ง่ายนะ สนุกด้วย ใครคิดเริ่มอยากจะลองทำดูซักตั้งแต่ยังนึกอะไรไม่ออก ลองซื้อหนังสือเล่มนี้ไปสิคะ เหมาะมากๆเลยสำหรับงานปาร์ตี้ต่างๆ (ยิ่งถ้าขี้เกียจทำกับข้าวเยอะๆแบบเดิมๆ) ลองทำคานาเป้ด้วยแซนด์วิช ซูชิ ผัก ฯลฯ หนังสือเล่มนี้มีทั้งของคาว หวาน อาหารชิ้นเล็กนี่ต้องเรียกเสียงกรี๊ดจากผู้คนที่มาร่วมงานได้เยอะแน่ๆค่ะ ได้กินเมนูโน้น เมนูนี้ อย่างละนิดอย่างละหน่อย อร่อย ไม่จำเจด้วยค่ะ หนังสือเล่มนี้เนื้อหาดีค่ะ อธิบายละเอียด แนะนำวัตถุดิบดีๆ วิธีการห่อ ม้วน ดีไซน์ ฯลฯ ผู้รีวิวคิดว่า ถึงเป็นมือใหม่หัดทำ ก็ทำออกมาอร่อยนะคะ ต่อไปนี้ผู้อ่านก็จะมีเมนูสร้างสรรค์ มาเอาใจแขกร่วมงานเพิ่มขึ้นแล้วค่ะ ลองทำดูนะคะ ทำเป็นอาหารว่างไปโรงเรียนไปทำงานก็ดีค่ะ ^ ^
Smoothies น้ำปั่นเพื่ออาชีพ
4
น้ำปั่นรสผลไม้แสนสดชื่น เครื่องดื่มปั่นใส่ไข่มุก เราเองก็ทำได้ไม่ยากค่ะ หนังสือเล่มนี้บอกสูตรไว้แล้ว ต้องติดใจแน่นอนค่ะ
โดย: ClaireC. วันที่เขียนรีวิว: 09 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

มีใครไม่ชอบกินน้ำปั่นบ้าง สมูทตี้ เครื่องดื่มยอดฮิตหันไปทางไหนก็เจอ ร้านกาแฟ ไม่ว่าจะบนห้างหรือแผงร้านค้า หรือรถเข็นข้างทางก็เริ่มมีขายเป็นเมนูเสริมกันเยอะ เครื่องดื่มชนิดนี้นี่มันเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราจริงๆนะคะ ประเทศไทยร้อนอบอ้าว (หลายๆคนเขาแอบแขวะไว้ว่า ประเทศไทยมี 3 ฤดู 1.ฤดูร้อน 2 ฤดูร้อนสุดๆ 3.ฤดูร้อนตับแตก ประมาณนั้นค่ะ ฟังดูตลกร้ายแต่มันก็จริงนะคะ) น้ำปั่นรสผลไม้ รสชอคโกแลต ฯลฯ ปั่นผสมกับน้ำแข็งเป็นเกล็ด เนื้อเดียวกันนี่รสสัมผัสมันชื่นใจสุดๆไปเลยเนอะว่ามั้ย นอกจากจะอร่อย ชื่นใจแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย โดยเฉพาะสมูทตี้ปั่นจากผลไม้สด ผู้รีวิวคิดว่า ตามร้านส่วนมากเขาจะผสมน้ำเชื่อมแต่งกลิ่นรสผลไม้ลงไปผสมเยอะนะ แทนที่พวกเราจะกินได้ประโยชน์ กลายเป็นว่าสมูทตี้ทำให้อ้วนไปเลย เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะได้ประโยชน์จริงๆ ทำไมไม่มาลองทำดื่มเองซะเลยล่ะค่ะ หนังสือ Smoothies เครื่องดื่มเพื่ออาชีพนี่เขารวบรวมสูตรอร่อยๆไว้ แนะนำอุปกรณ์ วัตถุดิบดีๆมาเป็นแนวทางให้เราได้เลือกสรรมาทำ เป็นแนวทางให้ทุกคนที่สนใจได้ทำเครื่องดื่มที่มีประโยชน์กับตัวเอง และต่อยอดเป็นอาชีพได้ด้วยค่ะ (ผู้รีวิวลองทำแล้ว รู้มั้ยคะว่า ในราคาแก้วละ 30-40 บาทที่เราไปซื้อมานี่ เราทำกินเองได้ปริมาณจุใจและอร่อยกว่ามากค่ะ) เรามั่นใจได้เลยว่าผลไม้ วัตถุดิบของเราสดใหม่ ไม่มีสารปรุงแต่ง ถ้าทำขาย เราก็เอาข้อดีตรงนี้ไปตีตลาดได้ค่ะ ถ้าเราขายสมูทตี้มีประโยชน์หรืออัดแน่นไปด้วยคุณภาพ ถึงจะราคาสูงกว่าเจ้าอื่นนิดหน่อย แต่ลูกค้าต้องยอมควักตังซื้อแน่นอนค่ะ ใครๆก็ชอบของดีๆใช่มั้ยคะ ^ ^
ไข่เจียวกรอบ ไข่เจียวฟู ไข่เจียวทรงเครื่อง
5
มีใครมั่งที่ไม่ชอบกินไข่เจียว ถ้าเบื่อไข่เจียวอมน้ำมันแบบเดิมๆแล้วล่ะก็ ลองซื้อเล่มนี้ไปทำไข่เจียวอื่นๆบ้างมั้ยคะ
โดย: ClaireC. วันที่เขียนรีวิว: 08 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เอื๊อกก!!( -.,-) ไม่มีอะไรค่ะ นั่นเป็นเสียงกลืนน้ำลายของผู้รีวิวเองค่ะ ก็ตอนที่นั่งเขียนรีวิวอยู่นี่ ไม่รู้ห้องใครทอดไข่เจียวง่ะ หอมมม จังเลยย แงๆๆ อยากกินจัง เพื่อนๆชอบกินไข่เจียวกันบ้างมั้ยคะ ผู้รีวิวนี่เหมือนมันเป็นอาหารโปรดมาตั้งแต่เด็กเลยนะ ชอบกินมาตั้งแต่นั่งเก้าอี้แล้วขายังไม่แตะพื้นเลย แต่ขาสั้นๆเล็กๆคู่นี้ ยาวพอที่จะยันหมาออกไปให้พ้นรัศมีเก้าอี้ได้ค่ะ (อย่าเลียนแบบนะ ไม่ดี) เพราะความอร่อย กลิ่นหอมของไข่เจียว หมาก็เลยมาขอส่วนแบ่ง (แย่ง) บ่อยๆค่ะ แต่หมาไม่เคยโกรธผู้รีวิวนะ เราสนิทกันค่ะ ถึงจะอร่อยก็กินไม่เคยหมด ไข่เจียวจานเดียวเราแบ่งกันกินตลอดเลยล่ะ (ผู้รีวิวอิ่มแล้วถึงให้กินนะ ไม่ใช่สลับกันกินกะหมาคนละคำ อย่าเข้าใจผิดน้า TOT) ไข่เจียวนี่อร่อยก็จริง แต่ถ้ากินแบบเดียว ซ้ำๆ เดิมๆ มันก็ต้องมีเบื่อกันมั่งแหละจริงมั้ย แถ่นแท้นน!! ผู้รีวิวเลยไปซื้อหนังสือเล่มนี้มาค่ะ เมนูไข่เจียวเดิมๆต้องตกกระทะไปเลย เมื่อก่อนทอดเองทีไร ทำได้แค่เปลี่ยนไส้ หมูสับมั่ง ใส่พริกนิดๆมั่ง ใส่กุ้งมั่ง แต่เล่มนี้สอนให้ผู้รีวิวได้ทำไข่เจียวแบบแหวกแนวขึ้นไปอีกค่ะ แล้วก็ค้นพบตัวเองว่า ไข่เจียวกรอบเป็นเมนูที่ผู้รีวิวชอบที่สุดละ หนังสือเล่มนี้เนื้อหาดีมากๆค่ะ ละเอียดมาก บอกหมดไม่มีกั๊ก เทคนิคในการทำไข่เจียวแต่ละแบบทำยังไง ทอดยังไงไม่อมน้ำมัน ประวัติไข่เจียว ฯลฯ (อืมม ดีจังเนอะ ไหนๆกินละก็ให้ความรู้อีกต่างหาก) ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ไข่เจียว ซื้อติดครัวไว้เลยนะคะ อ่า หิวแล้วง่ะ ขอตัวไปทอดไข่เจียวกินก่อนน้า บ๊ายบาย
คุกกี้ แสนอร่อย
5
ใครชอบทานคุกกี้มากๆ ใครสนใจจะเปิดร้านคุกกี้โดยเฉพาะ เล่มนี้เหมาะกับคุณมากๆค่ะ
โดย: ClaireC. วันที่เขียนรีวิว: 08 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

คุกกี้ ขนมคลาสสิคตัวนี้ คงไม่มีใครตอบมาว่า “ไม่เคยกิน” แน่ๆ ความกรุบกรอบของมัน ใครได้กินกับชา กาแฟ โกโก้ เครื่องดื่มอื่นๆ มันแสนจะเข้ากั๊นเข้ากัน หยิบๆไปมา แปปเดียวเพลินหมดกล่องหมดจานไปแบบไม่รู้ตัว และส่วนมากคนไทยมักจะรู้จักและนิยมคุกกี้แบบกรอบกันมากกว่า โดยเฉพาะรสคลาสสิค คุกกี้เนย กาแฟ รสนม ใบเตย ชอคโกแลตชิพ ฯลฯ ผู้รีวิวเองก็ชอบกินคุกกี้มาตั้งแต่ยังเด็ก คุกกี้กล่องแดงที่ส่วนมากจะได้จากการจับของขวัญ คุกกี้ไฮโซ กลิ่นหอมหวานตราตรึงอยู่ในความทรงจำอย่างร้านดังร้านนึงที่ขึ้นชื่อเรื่องเบเกอรี่ เค้กอลังการ สวย ไปจนคุกกี้แบบกล่องกลิ่นและรสชาติอร่อยสุดยอดจนถึงปัจจุบัน (น่าจะรู้กันนะคะ สมัยนั้นร้านเบเกอรี่ไม่ค่อยมีมากเท่าไร มีไม่กี่เจ้า และตอนนี้ก็ยังมีชื่อเสียงอยู่ และสาขาเยอะมาก) หรือบางคนเคยทำคุกกี้ประเภทนี้มาบ่อยแล้ว เริ่มเบื่อ ลองมาทำคุกกี้ชนิดอื่นๆกันบ้างมั้ยล่ะคะ “คุกกี้แสนอร่อย” เล่มนี้ผู้รีวิวแนะนำเลยค่ะ ว่าผู้อ่านที่ชอบคุกกี้มากๆต้องซื้อแน่ๆ ยิ่งใครไม่มีตาชั่งไว้ตวงของคงกรี๊ดกร๊าดใหญ่ เล่มนี้แค่มีถ้วยตวงของแห้ง ก็ทำคุกกี้อร่อยๆได้เยอะมากเลยค่ะ แล้วคุณผู้อ่านจะตาโตเลย ถ้าได้เจอสูตรคุกกี้แปลกๆ ที่น้อยคนนักจะรู้จัก เช่น คุกกี้ลิ้นแมว? คุกกี้ลินเซอร์? คุกกี้แบบนิ่ม? (ตัวแบบนิ่มนี่ผู้รีวิวเคยทำไปให้เพื่อนชิมแล้วค่ะ กลายเป็นว่าเพื่อนเพิ่งเคยกิน เลยกล่าวหาผู้รีวิวว่าอบไม่สุก เพราะมันไม่กรอบ ฮ่าๆๆ) ยิ่งใครอยากเปิดร้านคุกกี้ อย่าพลาดเล่มนี้นะคะ แน่นอนว่าสกิลการทำคุกกี้ของคุณผู้อ่านจะอัพขึ้นไปเยอะเลยค่ะ แนะนำๆ
Cake Pops
5
เค้กป๊อป เค้กปั้นก้อนเล็กๆน่ารัก เสียบไม้มาแล้วจ้าา เคยลองทำกันรึยังคะ
โดย: ClaireC. วันที่เขียนรีวิว: 08 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เค้กป๊อบ \^0^/ เย้!! ผู้รีวิวชอบที่สุดเลย ถึงจะทำไม่ค่อยบ่อยนัก แต่ถ้าไปเที่ยวเดินตลาดหรือเดินห้าง พอมีตังจะซื้อกลับมากินที่บ้านด้วย แต่ก็เอามาถ่ายรูปเก็บไว้ก่อนนะ เชยชมให้หนำใจก่อน ละค่อยๆกัดละเลียดๆกิน ทำไมน่ะหรอ ก็มันน่ารักง่า ทำใจงาบทีเดียวทั้งคำไม่ได้หรอกนะ ตอนเรียนอยู่ ม.ปลาย ผู้รีวิวเคยซื้อเค้กป๊อปแบบน่ารักๆให้แฟน เขาชอบมากๆ ยืนยิ้มหวาน แบ่งกันกินก็น่ารักดี อ่า ถ้าใครยังนึกไม่ออกว่าเค้กป๊อปมันเป็นยังไง อย่าไปนึกถึงป๊อปคอร์นนะคะ เพื่อนผู้รีวิวชอบสับสนว่ามันน่าจะเป็นเค้กใส่ป๊อปคอร์น แต่จริงๆมันคือเค้กก้อนเล็กๆ เอามาปั้น ชุบชอคโกแลตเคลือบ เอามาแต่งหน้า เสียบไม้อมยิ้ม cake pop ภาษาอังกฤษก็คือเค้กเสียบไม้นั่นแหละค่ะ ส่วน popcorn ไม่ใช่ข้าวโพดเสียบไม้ แต่เป็นข้าวโพดคั่ว ที่มีคำว่า pop มันคือเสียงดัง แป๊ะๆๆ เวลาคั่วข้าวโพดแล้วมันดัง ระเบิดเป็นเสียงดัง ป๊อป ที่ฝรั่งเขาได้ยินกันค่ะ (เข้าใจละนะ อันนี้ไม่มีหนังสือ ผู้รีวิวมาบอกเองเฉยๆ) ด้วยความน่ารักของมัน เด็กๆน่าจะชอบเป็นพิเศษค่ะ หนังสือเล่มนี้ นอกจากจะให้ไอเดียต่างๆในการทำเค้กป๊อปแล้ว ยังมีสูตรเนื้อเค้กอร่อยๆหลายสูตรให้อบก่อนเอามาทำเค้กป๊อปด้วยค่ะ มีคำแนะนำ การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ วัตถุดิบ ด้วย ผู้รีวิวคิดว่าเค้กป๊อปเหมาะมากๆที่จะทำเป็นเค้กของชำร่วย แจกในงานปาร์ตี้ต่างๆ อันเล็กๆน่ารัก เอาไปทำขายก็โอนะคะ ถ้าใช้ต้นทุนในการทำถูกหน่อย ทำก้อนเล็กๆ ลายน่ารักๆ ขายเด็กๆในโรงเรียนอันละ 10 บาทก็ได้ค่ะ ไม่แพงไป น่ารักด้วย น่าจะขายดีมากๆเลยค่ะ ลองทำกันดูนะคะ
เค้กสุขภาพ
5
เย้ๆๆ ที่นี้ใครที่กำลังควบคุมน้ำหนักอยู่ ก็กินเค้กอร่อยๆกับเขาบ้างได้ซะทีนะ (กินได้แต่อย่าเยอะไปล่ะ)
โดย: ClaireC. วันที่เขียนรีวิว: 08 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

พูดถึงเค้ก นึกถึงเค้ก ครีมรสละมุน เนื้อสัมผัสนุ่มๆเบาละลายในปาก ใครบ้างจะอดใจไหว เคยได้ยินรึเปล่าคะ ที่เขาเปรียบเปรยเพื่อนสนิทของผู้หญิง ถ้าไม่ใช่คนก็คือเพชร ถ้าไม่ใช่เพชรต้องเป็นขนม เพราะของแบบนี้เหมือนมันเกิดมาเพื่อผู้หญิงจริงๆนะ โดยเฉพาะความอร่อยเป็นพิเศษของขนมเค้กนี่ โอ้ยย ละลายเลย ผู้ชายบางคนก็เผลอตัวเผลอใจไปด้วย ยิ่งเห็นรส เห็นเค้กโปรดที่ชอบแล้วอยู่ในช่วงไดเอต หรือควบคุมน้ำหนักอยู่ล่ะ? T^T ฮือๆๆ มันทรมานน่าดูเลยนะ ถ้าเผลอตัวเผลอใจ อ้ำ!! เข้าไปแล้วล่ะก็ อะเฮื้ออ!! งานงอก อร่อยปาก ลำบากร่างกาย ต้องออกกำลังเผาผลาญแคลอรี่รีดน้องเค้กออกไปจากร่างอีก เคยมี Moment นี้กันบ้างมั้ยคะ แต่ตอนนี้ รองศาสตราจารย์จริยา เดชกุญจร เขียนหนังสือ Cake สุขภาพ มาช่วยชีวิตพวกเราแล้ว เย้ๆๆ แถมเป็นหนังสือที่จัดทำขึ้นมาเพื่อเอาใจคนรักสุขภาพและกำลังควบคุมน้ำหนักอยู่อีกต่างหาก สำหรับผู้รีวิวยังไม่เคยทดลองสูตรจากหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ แต่คิดว่ามันต้องอร่อยมาๆแน่เลย ส่วนผสมแต่ละอย่างนี่มาจากธรรมชาติล้วนๆ เค้กหน้าตาน่ากินมาก ที่สำคัญเป็นเค้กที่ไม่มีครีมซะส่วนใหญ่ น่าจะถูกใจใครๆหลายคน ส่วนผสมมาจากผลไม้ ธัญพืชต่างๆ ที่ตัวผู้รีวิวเองยังประหลาดใจมากค่ะ ว่าเอาไปมิกซ์กันแล้วมันน่าจะดูไม่เวิร์กนะ แต่เฮ้ยย!! หน้าตามันออกมาดูดีอ่ะ ใครเคยเห็นบ้าง เค้กมังคุดงี้ เค้กอัญชัญ เค้กดอกคำฝอย ในเล่มก็มีบอกคุณประโยชน์ของผักผลไม้ สมุนไพรต่างๆด้วยนะคะ โอ้ ว้าวว!! ผู้ใหญ่กับผู้สูงอายุน่าจะชอบเป็นพิเศษนะคะ เค้กนุ่มๆ รสชาติไทยๆ แถมมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย แหมม...ผู้รีวิวเริ่มอยากจะลองทำซักสูตรแล้วสิคะ ^_^ แหะๆ
เดซาโตะ
5
Dessert เดซาโตะ ขนมเบเกอรี่สไตล์ญี่ปุ่นประยุกต์โดยเชฟคนไทย สูตรดีๆ อร่อยๆทั้งนั้นค่ะ ผู้อ่านต้องชอบแน่ๆ
โดย: ClaireC. วันที่เขียนรีวิว: 08 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เดซาโตะ? ชื่อฟังดูคิกขุอาโนเนะเนอะ ^^ ง่า ไม่มีหน้าปกไม่เป็นไร ชื่อของหนังสือเล่มนี้คือหนังสือทำขนมค่ะ โดยเชฟคนไทยเรา ไปเรียนทำขนมที่ญี่ปุ่นมา แล้วเอาสูตรมาดัดแปลงทำเบเกอรี่อร่อยๆ จนเป็นหนังสือเล่มนี่ละค่ะ ที่รวบรวมขนมต่างๆไว้ เดซาโตะ คำนี้มาจากคำว่า Dessert เดสเซิร์ท ที่เป็นภาษาอังกฤษ แปลว่าขนม ยังไงล่ะคะ เพียงแต่พี่ยุ่นเขาพูด มักจะติด โตะๆ ตึๆ พ่วงมาเป็นคำสร้อยด้านหลัง เป็นหนังสือทำขนมเบเกอรี่ที่น่าซื้อมากๆค่ะ ผู้รีวิวแนะนำสำหรับคนที่ชอบทำขนมหลากหลายนะคะ ไม่ผิดหวังแน่ ส่วนมากเป็นเมนูดังๆ น่ากิน น่าอร่อย เป็นที่รู้จักในร้านเบเกอรี่ ซึ่งถ้าผู้อ่านมีหนังสือเล่มนี้ ก็คงเพลินกับการทำขนมหลายๆแบบค่ะ ผู้รีวิวชอบหนังสือทำเบเกอรี่ หรือทำอาหารของสำนักพิมพ์แสงแดดก็ตรงที่ เขามีรูปประกอบทุกหน้า และเป็นไปตามสเต็ป อธิบาย ให้รูปประกอบที่ละเอียดมากๆค่ะ เหมาะมากเลย สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มทำเบเกอรี่ต่างๆ อยากลองทำทานที่บ้านบ้าง ทำเป็นของฝากเพื่อนหลายๆคนก็ไม่มีปัญหาค่ะ เช่น แบบ เพื่อนคนนี้ชอบกินเค้ก คนนี้ชอบกินชอคโกแลต อีกคนอยากกินพุดดิ้ง ไม่ต้องวิ่งวุ่นหาซื้อหนังสือแบบแยกเล่มให้เสียเงินหลายบาท ผู้รีวิวลองทำฮันนี่โทสต์ หนึ่งในเมนูในหนังสือแล้วค่ะ ชอบมากกกก >< ถ้าไปกินที่ร้านเบเกอรี่ชื่อดัง เสียเงิน 200 อัพ แต่ทำเอง รวมวัตถุดิบทั้งหมดที่จะออกมาเป็นฮันนี่ โทสต์ แค่ 100 นิดๆ เครื่องแน่นๆเยอะๆไม่มีกั๊กค่ะ เราทำเองใส่ลงไปให้เต็มที่โลดค่ะ (อ้วนเพิ่มขึ้นอันนี้ตัวใครตัวมันนะจ้า) อิอิ
choux etc. เอแคลร์ ชูส์ครีม ชูส์เพสทรีอื่นๆ
5
Choux creme >.< Eclair ขนมพองๆ สอดไส้ครีมอร่อย วันนี้มีหนังสือรวบรวมการทำไว้หมดแล้วค่ะ
โดย: ClaireC. วันที่เขียนรีวิว: 08 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ใครที่ชื่นชอบรสชาติของซูส์ครีม หรือที่รู้จักกันดีว่าเอแคลร์ (จริงๆแล้วข้อแตกต่างของตัวขนมนี่มันก็มีนะคะ ลักษณะกลมๆ ลูกใหญ่ๆจริงๆแล้ว เขาเรียกว่าชูส์ครีม ลูกเล็กๆกลมๆ เรียกว่า โพรฟิตเตอโรล ส่วนที่รูปร่างยาวๆนี่ต่างหากล่ะคะที่เรียก เอแคลร์ เพราะคำว่า เอแคลร์ มันแปลว่าสายฟ้าฟาด ลักษณะมันเลยยาวๆแบบนั้นค่ะ อันนี้ผู้รีวิวเอาความรู้มาฝากเองนะคะ ไม่มีอยู่ในหนังสือค่ะ) ผู้รีวิวขอแนะนำหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ สำหรับเฉพาะคนที่ชื่นชอบชูส์ครีมสไตล์ต่างๆ สนุกกับการทำชูส์ครีม เอแคลร์เป็นพิเศษ เล่มนี้รวบรวมไว้หมดเลยค่ะ รวมไปถึงชูส์ครีม ลักษณะอื่นๆที่เราไม่ค่อยได้เห็นมาก่อนด้วย มีรูปร่างแปลกตา ชื่อเรียกที่ต่างกันออกไปอีก วิธีการทำตามขั้นตอนแบบเสต็ป มีรูปภาพประกอบทุกหน้าค่ะ เนื้อหาอธิบายการทำก็ค่อนข้างละเอียดด้วย โอกาสที่จะทำออกมาแย่ คงเกิดขึ้นได้น้อยมากค่ะ ถ้าผู้อ่านทำตามที่หนังสือบอกเป๊ะๆแล้ว ผู้รีวิวเคยลองทำแล้วค่ะ ติดใจมากๆเลย เอาไปฝากเพื่อนๆด้วย ผลลัพธ์มันเกินคาดจริงๆค่ะ ที่สำคัญ หนังสือเล่มนี้ก็ทำให้ผู้รีวิวได้รู้ว่า มีชูส์ครีมก้อนเล็กๆที่ใส่ไส้คาวด้วย เพราะปกติเราจะคุ้นเคยกับคัสตาร์ด วิปครีม ฯลฯ แต่นี่ ว้าววว!! มีรสชาติใหม่ๆ น่าลองจังเลย (แต่หนก่อนผู้รีวิวยังไม่ได้ลองทำไส้คาวเลยนะคะ รอเตาอบใหม่ละจัดซะเลยดีกว่า) ผู้อ่านคนไหน ถ้ามีโอกาสได้ซื้อไว้บ้างแล้ว ทำรสไส้คาวออกมาเป็นยังไง มารีวิวเพิ่มเติมได้นะคะ อืมมม ถ้าประยุกต์รสชาติให้มีไส้ใหม่ๆด้วย โหยย >< คงน่าอร่อยสุดๆเลยนะคะ
2
ชื่อหนังสือกับเนื้อหาข้างใน ตั้งไปคนละทิศทางเลย หนังสือธรรมดามาก ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรดีๆ แบบที่ตั้งไว้
โดย: ClaireC. วันที่เขียนรีวิว: 07 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

หนังสือเคล็ดลับของคนรักเบเกอรี่ Bakery Lover เป็นหนังสือที่ชื่อดูน่าสนใจนะคะ แต่สำหรับผู้รีวิว พอเปิดอ่านเข้าไปแล้ว ค่อนข้างผิดหวังต่ะ ที่ชื่อเรื่องมันบอกว่า “เคล็ดลับของคนรักเบเกอรี่” แต่เนื้อหาด้านใน มันไม่ได้มีเคล็ดลับดีๆอะไรเลย เป็นแค่ประวัติเหล่าคนดังที่มีฝีมือในการทำเบเกอรี่ คล้ายๆบทสัมภาษณ์เอามาเรียบเรียงใหม่ กับสูตรขนมธรรมดาๆที่ไม่มีอะไรพิเศษ แค่เอามาประยุกต์นิดหน่อย ให้มันแหวกแนวไปนิดเดียว ซึ่งขัดกับชื่อเรื่องที่น่าดึงดูดใจของเล่มนี้มาก เนื้อหาภายในเล่มนี้โดยสรุปก็แค่แนะนำคนดังที่มีฝีมือในการทำขนม แทรกกับสูตรในการทำขนมง่ายๆธรรมดาๆ ก็แค่นั้นเองค่ะ ผู้รีวิวแนะนำนะคะ ว่าใครกำลังมองหาเคล็ดลับในการทำเบเกอรี่จริงๆ ให้มองข้ามเล่มนี้ไปค่ะ เล่มนี้จะหนักไปแค่ แนวคิด คำคมทิ้งท้ายว่าเบเกอรี่ในสไตล์บุคคลเหล่านั้น มีนิยามว่าอะไรมากกว่า แต่ถ้าใครชื่นชอบ ออกตามหาคนดังที่มีฝีมือในการทำเบเกอรี่ แรงบันดาลใจของพวกเขา ก็เลือกเล่มนี้ค่ะ ( ใน 25 คนในเล่มนี้ ผู้รีวิวเคยได้ยินชื่อและรู้จัก เห็นสูตรขนมในเว็บบ่อยกว่าใครเลย คือ แม่สลิ่ม ค่ะนอกนั้นสำหรับผู้รีวิวที่ชื่นชอบทำขนม ไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยินชื่อคนอื่นที่เหลือเลย) สำหรับผู้อ่าน บางทีน่าจะรู้จักพวกเขามากกว่าผู้รีวิวนะคะ ส่วนเนื้อหาเมนูขนม 1 คนต่อ 1 สูตร ต่อ 1 ประวัติ ผู้รีวิวมีความเห็นส่วนตัวนะ เขาควรจะเปลี่ยนชื่อหนังสือเล่มนี้จะดีกว่าค่ะ ตัดคำว่า “เคล็ดลับของ” ออกซะ เป็น คนรักเบเกอรี่ Bakery lover แค่นี้พอ จบ!!!
5
เมื่อสาวไทยไปใช้ชีวิตร่วมกะสามีที่ญี่ปุ่น เรื่องราวฮาๆก็ได้เกิดขึ้น
โดย: ClaireC. วันที่เขียนรีวิว: 04 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ญี่ปุ่นโอ๊ะโย๊ะโหยว เรื่องราวของสาวไทย ไปใช้ชีวิตอยู่กับสามีชาวญี่ปุ่น เล่าเรื่องต่างๆในชีวิตประจำวันและการทำงานของเธอแล้วมาเขียนเป็นหนังสือ ในรูปแบบการ์ตูน 3-4 ช่อง รูปไม่ได้สวยมากมายค่ะ แต่เป็น 4 สี แล้วก็น่ารักไปอีกแบบค่ะ ตอนผู้รีวิวไปอ่านหนังสือเล่มนี้เข้า ไปเจออยู่ตรงโซนหนังสือลดราคา 30-60% ค่ะ เข้าใจว่าน่าจะเป็นหนังสือเก่าแล้ว และมันก็จริงด้วยค่ะ เห็นชื่อเรื่องสะดุดตาเลยลองหยิบมานั่งอ่าน พออ่านแล้ว โอ๊ยย ฮามากค่ะ เรื่องที่เขาเล่าเกี่ยวกะสามีของเขา ก็เรื่องผัวเมียทั่วไปล่ะค่ะ มันจะฮาตรงที่ได้ดูรูปวาดประกอบไปด้วยค่ะ เล่าธรรมดาคงฮาไม่เท่าไร ที่ตลกเพราะส่วนมาก ผู้เขียนเขาสื่อออกมาว่า สามีเขาอายุ 40 กว่าๆแล้ว แต่ก็ยังติดนิสัยขี้เล่นแบบเด็กๆ ขี้งอนแบบเด็กๆค่ะ เช่น ผู้เขียนเขาทำงานเป็นพนักงานซูชิที่ญี่ปุ่นค่ะ จะมีบางวันที่เพื่อนร่วมงานปั้นซูชิแอบกินกันและแบ่งมาให้ผู้เขียนทานด้วย พอผู้เขียนกลับบ้านไปกินข้าวกล่องตอนเที่ยงเป็นอาหารเย็น สามีเขาเห็น พอเขาเล่าไปว่ากินซูชิที่ทำงานไปละตอนเที่ยง สามีเขาก็อิจฉา งอนค่ะ ว่าทีเขาเองทำไมได้กินข้าวกล่องชืดๆ (งอนที่ผู้เขียนไม่ได้ซื้อมาฝากเขาบ้างประมาณนั้นอ่าค่ะ) อย่างว่าอ่ะนะ คนญี่ปุ่นชอบทานซูชิมาก แต่คุณภรรยาไม่ได้ทำอาหารแบบนี้ให้กินบ่อยๆ ประหยัดๆเอาค่ะ ผู้เขียนคนนี้เขามีบล็อกส่วนตัวด้วยนะคะ bluemood.exteen.com กับ Facebook Bluemood Ojichan
นิทานกริมม์หฤโหด
4
ใครชอบนิทานแนวแฮปปี้เอนดิ้ง คงผิดหวังหน่อยนะคะ นิทานเรื่องนี้มาแบบ Hardcore สมเรื่องค่ะ
โดย: ClaireC. วันที่เขียนรีวิว: 31 มกราคม พ.ศ. 2558

สองพี่น้องตระกูลกริมม์ ชื่อนี่คุ้นๆหูกันบ้างมั้ยคะ เคยได้ยินชื่อนี่กันบ้างรึเปล่านะ ผ่านๆคุ้นๆหูก็ยังดี อ่า...ถ้าไม่เคยได้ยินก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบการอ่านนิทานที่หลุดแนวออกไปอีก (แนวโหดๆ) ก็คงรู้จักพี่น้องตระกูลกริมม์ดีจริงๆอ่ะ เอ่อ...ใครกำลังมองหานิทานน่ารักมุ้งมิ้ง Happy ending อาจจะรับไม่ได้หรือผิดหวังนะคะ ผู้รีวิวขอโทษด้วยน้า แต่มันก็ไม่ได้โหดจนแหวะไปหรอกนะ แต่อาจจะสะเทือนอารมณ์น้ำหูน้ำตาไหล อ่านไปสตั้นไป อึ้งกิมกี่ว่างั้น เอ่อ...ยังไงก็ตาม ผู้รีวิวฝากเตือนนิดนึง เรื่องนี้ขอให้เด็กที่อายุประมาณ 15 ปีขึ้นไปละจิตใจไม่อ่อนไหวมากเท่าไรอ่านได้นะคะ แต่สำหรับเด็กเล็กๆยังไร้เดียงสาอยู่ ปล่อยให้เค้าไปเพลิดเพลิน กับความสวยงามของนิทานคลาสสิคก่อนเถอะคะ พอถึงวัยอันสมควรแล้ว ค่อยพาน้องๆไปทำความรู้จักกับพี่น้องตระกูลกริมม์ทีหลังก็แล้วกันนะ อ่า... ผู้ใหญ่อาจจะบอกทำไมเอานิทานบ้าๆบอๆแบบนี้มาล่ะ คือ นิทานนี้มันเป็นจุดกำเนิดนิทานคลาสสิคที่น้องๆหนูๆ เราๆเคยอ่านมานะคะ เช่น บ้านขนมหวาน หนูน้อยหมวกแดง ราพันเซล ฯลฯ แล้วค่ายการ์ตูน Disney และอื่นๆ เอาไปรีเมคเป็นเวอร์ชั่น Happy ending นิทานสุดโหดนี่ ไม่ได้มีแค่พี่น้องสองคนนั่นคนเดียวนะคะที่แต่ง คนอื่นก็มี ยกตัวอย่างนิดๆจากนิทานของคนอื่นละกัน เจ้าหญิงนิทราถูกข่มขืนตอนหลับอยู่ คลอดลูกออกมา ลูกดูดนิ้วเอาเสี้ยนพิษที่ตำมือออกแล้วถึงตื่น ราชินีรู้เข้าสั่งให้คนครัวไปจับเด็กมาสับเป็นชิ้นๆปรุงอาหาร ฯลฯ โหดมั้ยละคะ
โลกใบนี้โคจรรอบกระทะกับหม้อเหล็ก (และต้นไม้ด้วย) (คณา คชา)
5
หนังสือรางวัลชนะเลิศ รางวัลแว่นแก้ว ปี 2544 ค่ะ นานมากๆเลยเนอะ แต่ความสนุกไม่ได้หายไปตามกาลเวลานะคะ
โดย: ClaireC. วันที่เขียนรีวิว: 30 มกราคม พ.ศ. 2558

เรื่องนี้ผู้รีวิวได้อ่านตอนอายุ 12-13 ค่ะ เก็บมาอ่านได้หลายปี แต่แล้วมันก็หายไปแล้วค่ะ คนรู้จักให้มา (แต่เป็นฉบับวรรณกรรม หนังสือของ คณา คชา) ค่ะ แต่คิดว่าฉบับนี้ก็น่าจะเรื่องเดียวกันแหละค่ะ แค่เปลี่ยนหน้าปกให้ดูน่ารักขึ้น เรื่องราวของ ตั้งกะเต้ เพื่อนสนิท 2 คน เดินทางไปหาความฝันของตัวเองด้วยกัน คนหนึ่งอ้วน คนหนึ่งผอม คนหนึ่งฝันอยากเป็นกุ๊กทำอาหาร อีกคนอยากเป็นนักพฤกษศาสตร์ แล้วก็เดินทางมาเจอเมืองๆหนึ่ง ที่ผู้คนแปลกประหลาดมาก ผู้คนแต่งตัวเหมือนกันหมดทุกคน เป็นระเบียบเรียบร้อยมาก เมืองนี้ไม่มีต้นไม้ขึ้นเลยแม้แต่ต้นเดียว อากาศร้อนจัด แสงสะท้อนจากตึกและอาคารในเมืองนี้ทำจากโลหะ ขณะที่งุนงงกันกับความแปลกประหลาดของเมืองนี้ ทั้งสองก็ถูกจับไปหาเจ้าเมือง สั่งปรับข้อหาแต่งตัวไม่เป็นระเบียบ เพื่อที่จะหาตังจ่ายค่าปรับ ตั้งจึงขอเปิดร้านอาหารเพื่อจะได้ขายหาเงินมาจ่าย แต่ปรากฏว่า ชาวเมืองที่นี่ไม่กินอะไรเป็นอาหารเลย ยกเว้นแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป!! แล้วแบบนี้ตั้งกะเต้จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าปรับล่ะ จะคิดเมนูอะไรออก จะขายของต่อได้ยังไงนะ หนังสือเล่มนี้ชนะเลิศอันดับ 1 ปี 2544 รางวัลแว่นแก้วนะคะ จัดว่าไม่ธรรมดาเลย เรื่องราวต้องสนุกมากๆแน่นอน ไปเอาใจช่วยตั้งกับเต้กันเถอะว่าสุดท้ายเรื่องราวจะจบลงยังไง เนื้อเรื่องดีมากๆค่ะ ผูกเรื่องสัมพันธ์กันโอเคเลย ถ้ามีรางวัลสิ่งแวดล้อมด้วย เรื่องนี้ก็อาจจะชนะเหมือนกันค่ะ น่านับถือมากๆที่ผูกเรื่องทำอาหารไว้กับต้นไม้ได้ มีแอบเสียดสีด้าน ค่านิยม ไว้เล็กๆด้วย ถ้าได้อ่านแล้วจะเข้าใจที่ผู้รีวิวบอกแน่ๆค่ะ
พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เรื่อง ทองแดง (ฉบับการ์ตูน)
5
เด็กๆเดี๋ยวนี้จะรู้บ้างมั้ยน้าา ว่าในหหลวงมีสุนัขตัวโปรดด้วย อยากรู้จักคุณทองเเดงเป็นพิเศษล่ะก็ อย่าพลาดนะ
โดย: ClaireC. วันที่เขียนรีวิว: 30 มกราคม พ.ศ. 2558

คุณทองแดง คุณทองแดงขา >///< ชื่อบ้านๆแต่เรียกว่าคุณ ฟังแล้วดูไฮโซมากเลยเนอะ อ๊ายย!!! แต่ชื่อนี้ไม่ใช่ชื่อของคนนะคะคุณผู้อ่าน ผู้รีวิวเรียกชื่อ “คุณทองแดง” สุนัขตัวโปรดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่างหากค่ะ เพศเมียนะคะ ผู้รีวิวได้อ่านประวัติ คุณทองแดงมาตั้งแต่ยังเด็กเลยค่ะ แต่ก็ไม่ได้เด็กมากนะคะ ตอนที่หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ออกมา ผู้รีวิวอ่านแล้ว ก็พลันอยากเลี้ยงหมาที่บ้านบ้าง อยากจะตั้งชื่อให้ว่า ทองแดงด้วย แต่ก็ต้องอดค่ะ ที่บ้านมีคนแพ้ขนสัตว์ แงๆๆ T^T ทำไมน่ะหรอคะ เพราะความน่ารัก ความจงรักภักดี ฉลาด และนอบน้อมของคุณทองแดงน่ะสิคะ หมาตัวอื่นต้องอายเลย ชีวิตของคุณทองแดงทำให้สุนัขหลายตัวและคนหลายคนพากันน่าอิจฉามากๆเลยนะคะ เขาเป็นแค่ลูกสุนัขจรจัด แต่มีบุญวาสนา ได้เข้าถวายตัวเป็นสุนัขทรงเลี้ยงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ ในหนังสือเขียนไว้ว่า ตอนมาครั้งแรก คุณทองแดงร้องไห้มาตลอดทางเลย ใครๆพยายามปลอบยังไงก็ไม่หยุดร้อง (เหมือนเด็กๆน่ะค่ะ ยังไม่หย่านมแม่ ก็คงรักแม่ ติดแม่ประมาณนั้นมั้งคะ) จนมาถึงที่หมายแล้ว ก็ค่อยๆคลานเข้าไปสบพระเพลา (ตัก)ของในหลวง ถวายตัวเสร็จแล้วก็หลับปุ๋บคาพระเพลาเลย (น่ารักน่าเอ็นดูจังนะคะ นึกภาพออกเลย) แต่หนังสือฉบับการ์ตูนก็มีภาพนะคะ ไม่ต้องจินตนาการก็ได้เห็นภาพแล้วล่ะ สิ่งที่ผู้รีวิวประทับใจอีกอย่างคือ คุณทองแดงเป็นสุนัขที่มีความกตัญญูมาก กับแม่มะลิ อืมม...ถ้าอยากรู้จักคุณทองแดงมากกว่านี้ คุณผู้อ่านต้องชอบหนังสือเล่มนี้มากๆค่ะ ผู้รีวิวแนะนำ 5 ดาวเลย
พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เรื่อง พระมหาชนก ฉบับการ์ตูน ภาพสีตลอดเล่ม
5
หนังสือในความทรงจำวัยเด็กของผู้รีวิวเลยค่ะ เป็นพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โดย: ClaireC. วันที่เขียนรีวิว: 30 มกราคม พ.ศ. 2558

หนึ่งในหนังสือพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เดิมเป็นทศชาติของพระพุทธเจ้าก่อนจะมาประสูติค่ะ ตอนนั้นผู้รีวิวยังเป็นเด็กอยู่เลย น่าจะอยู่ช่วงประถมต้น เพื่อนของป้าซื้อมาให้เป็นของขวัญวันเกิด เป็นพระมหาชนก ฉบับการ์ตูน ปกติตอนนั้นชอบอ่านแต่การ์ตูนขำขันตามแบบฉบับเด็กๆ การ์ตูนตัวหนังสือเยอะๆไม่ชอบอ่าน ผู้รีวิวดีใจมากๆค่ะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือเล่มนี้ แล้วออกมาในฉบับการ์ตูน ชัย ราชวัตร เป็นคนวาดค่ะ เด็กน้อยอย่างผู้รีวิว ณ เวลานั้นเลยมีโอกาสได้อ่านหนังสือดีๆแบบนั้น ตัวหนังสืออ่านง่าย เส้นคมชัด รูปภาพสวยมากๆค่ะ ดูอลังการมาก ฉากที่ผู้รีวิวประทับใจมากๆคือ ตอนที่เรือสำเภาล่ม พระมหาชนกเสวยเนยใสจนอิ่มท้องก่อนกระโดดลงทะเล แล้วใต้น้ำเบื้องล่าง มีฝูงสัตว์ร้ายในทะเลกำลังไล่เขมือบลูกเรือ คนอื่นๆที่กำลังกระเสือกกระสนว่ายน้ำ เอาชีวิตรอด (มันน่าประทับใจตรงไหนเนี่ย) อิอิ รูปปลา รูปสัตว์ทะเล กับเหตุการณ์ใต้น้ำ มันดูสมจริงมากค่ะ วาดออกมาได้ดูน่ากลัวมาก (จนตอนเด็กๆมีอยู่ช่วงนึงไม่กล้าลงเล่นน้ำทะเลเลย กลัวสัตว์ร้ายคาบไปกินแบบลูกเรือพระมหาชนก คิดไปได้เนอะ) ตอนนั้นผู้รีวิวอ่านออกเสียงค่ะ อ่านให้แม่นมฟัง อ่านไปถามไปตามประสาเด็ก เพราะยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่ตอนโตนี้เข้าใจแล้วนะคะ เป็นหนังสือที่มีคุณค่ามากๆค่ะ เพิ่มความผูกพันในครอบครัวและอ่านได้สบายตา เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ไม่แน่ใจว่าเด็กสมัยนี้ อายุประมาณ 12-13 ปีขึ้นไป ได้มีโอกาสอ่านหนังสือการ์ตูนดีๆแบบนี้บ้างหรือยัง ไม่อยากให้พลาดเรื่องนี้เลยค่ะ
www.batorastore.com © 2024