ฟาร์มรักเสน่หา + พ่อหม้ายหัวใจโสด (สุชีรา)
ประหยัด: 52.50 บาท ( 35.00% )
เนื้อหาบางส่วน
ฟาร์มรักเสน่หา
เขามีฟาร์มเลี้ยงม้าพันธุ์ที่ใหญ่มาก และเนื้อที่บางส่วนทำเป็น รีสอร์ทด้วย หล่อนก็เป็นลูกค้าที่หลงใหลในธรรมชาติมาก หล่อนเข้ามาพักผ่อนเพื่อต้องการความสงบแต่กลายเป็นการพักผ่อนที่วุ่นวายและน่าปวดหัวที่สุด แต่หล่อนก็มีความสุขและสนุกกับความวุ่นวายนั้น…
ด้วยรักจากใจ
สุชีรา
1…
อรอินทุ์สะพายเป้เดินมาหยุดยืนมองป้ายชื่อฟาร์มไชยอาชาที่ทำด้วยปีกไม้แผ่นใหญ่แล้วยิ้มกว้างพร้อมกับถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เฮ้อ ถึงเสียที วันนี้ฉันจะได้นอนพักให้สบายอารมณ์ที่รีสอร์ทไชยอาชา ฉันจะได้เห็นหน้าเจ้าของฟาร์มกับรีสอร์ทที่ชื่อเดียวกันแล้ว อยากรู้จังว่าจะหล่อเท่เหมือนในทีวีหรือเปล่า”
หญิงสาวเดินยิ้มเข้าไปในรั้วของรีสอร์ทหรือฟาร์มไชยอาชา หล่อนเคยเห็นไชยวัฒน์ในทีวีเมื่อเดือนก่อน เขามาออกรายการสู้เพื่อฝัน เขาเป็นชายหนุ่มในสเป็คของผู้หญิงหลายคนรวมทั้งตัวหล่อนด้วยแต่หล่อนไม่คิดไกลถึงขั้นอยากเป็นแฟนกับเขา เพียงแค่อยากได้เจอตัวจริงเท่านั้นก็พอ สิ่งที่หล่อนต้องการในขณะนี้คือพักผ่อนให้สบายใจแล้วกลับไปทำงานต่อ งานที่น่าเบื่อกว่าจะลาพักร้อนได้ก็ต้องหาเหตุมาอ้างหลายอย่าง
“หัวหน้าคะให้อินทุ์ลาเถอะค่ะ อินทุ์ไม่เคยลาเลยนะคะ ให้พี่แอ๋วทำไปก่อนสิคะ ยังน้องใหม่ที่มาฝึกงานอีก นั่นก็เก่งนะคะหัวหน้า”
“แต่ไม่มีใครเก่งเท่าคุณ”
“หัวหน้าไม่ต้องมายอหรอกค่ะ เพราะยังไงอินทุ์ก็จะลาพักไม่งั้นอินทุ์จะหยุดไปเฉย ๆ ไม่แน่อาจจะลาออกไปเลยก็ได้”
“เอาล่ะ ๆ ผมให้คุณลา แค่อาทิตย์เดียวนะ”
“ค่ะหัวหน้า”
อรอินทุ์รีบเผ่นออกจากห้องผู้จัดการทันทีเพราะถ้าขืนชักช้าอาจไม่ได้ลาถึง 1 อาทิตย์ตามที่ขอเพราะหล่อนเป็นนักประชาสัมพันธ์ที่เก่งพอตัว ผู้จัดการจึงไม่อยากให้หล่อนลาไม่ว่าจะลาพักร้อนหรือลาออก
เขาต้องการบุคลากรมีฝีมือมากกว่าความสวยอย่างเดียว สำหรับอรอินทุ์แล้วหล่อนมีทั้งความสวยและฝีมือจึงเป็นที่รักของผู้พบเห็นและเจ้านาย แอ๋วเดินยิ้มเข้ามายืนขวางอรอินทุ์ไว้เพราะรู้ว่าอรอินทุ์ลาพักร้อนไปเที่ยว
“ยัยอินทุ์หัวหน้าให้ลาได้แล้วเหรอยิ้มหน้าบานเชียวนี่”
“ค่ะ อินทุ์ถึงได้รีบออกมานี่ไงคะกลัวแกเปลี่ยนใจให้ลาแค่ 2 วัน”
สองสาวต่างวัยหัวเราะคิก พอดีสาวหน้าใสเดินยิ้มเข้ามา
“หัวเราะอะไรกันคะพี่แอ๋วพี่อินทุ์”
น้ำทิพย์ก้าวเข้ามายืนข้างอรอินทุ์ หล่อนเพิ่งเข้ามาทำงานและกำลังอยู่ในช่วงทดลองงานหรือฝึกงานนั่นเอง หล่อนอยากทำงานเก่งเหมือนอรอินทุ์จึงเรียนรู้ทุกอย่างที่อรอินทุ์สอน
“หัวเราะเรื่องลาพักร้อนของยัยอินทุ์น่ะสิ ยัยอินทุ์กลัวหัวหน้าไม่ยอมให้ลาพักนานเลยรีบออกมา ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป น้ำกับพี่ต้องทำงานหนักกว่าเดิมอีกเท่าตัวเพราะยัยคนเก่งชิ่งหนีไปเที่ยว”
“แหมพี่แอ๋วไม่ถึงอย่างนั้นหรอกค่ะ อินทุ์ไม่ได้หนีไปไหนแค่ไปพักผ่อนสมองอาทิตย์เดียวเอง ขากลับจะซื้อขนมมาฝากนะอย่าน้อยใจนะคะคุณพี่ น้ำล่ะชอบกินอะไรพี่จะซื้อมาฝาก”
“น้ำกินได้หมดแหละค่ะ พี่อินทุ์ซื้อมาเถอะค่ะไม่ปล่อยให้ของเสียแน่ค่ะ”
“อย่างนี้เขาเรียกว่าตะกละ”
แอ๋วแทรกขึ้นแล้วทั้งสามสาวก็หัวเราะพร้อมกัน อรอินทุ์กลับหอพักจัดเสื้อผ้าลงกระเป๋าออกเดินทางทันทีและขณะนี้หล่อนก็กำลังเดินยิ้มเข้าไปที่ออฟฟิศของรีสอร์ทเพื่อต้องการเข้าพักผ่อนที่รีสอร์ทแห่งนี้
“สวัสดีค่ะ มีบ้านพักว่างบ้างมั้ยคะ”
อรอินท์ยิ้มให้หญิงสาวที่นั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ในบ้านไม้ชั้นเดียวที่ตกแต่งเป็นออฟฟิศเล็ก ๆ กัลยาเองก็ยิ้มรับหญิงสาวหน้าตาสดใสที่เดินยิ้มเข้ามาหา
“สวัสดีค่ะ เชิญนั่งก่อนค่ะ”
อรอินทุ์ทำตามที่กัลยาเชื้อเชิญ
“ดื่มน้ำก่อนนะคะ ขอเวลาเช็คห้องพักครู่หนึ่งค่ะ”
กัลยายกน้ำเย็นมาให้อรอินทุ์แล้วเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์เปิดสมุดเช็คห้องพักครู่เดียวก็เดินยิ้มมาที่หญิงสาวที่นั่งรออยู่
“เหลือบ้านพักอยู่หลังเดียวค่ะ นอกนั้นเต็มหมดเลยค่ะ”
“เหลือหลังเดียวเหรอคะ งั้นก็เลือกไม่ได้สิคะ”
“ค่ะ แต่ว่าถ้าคุณไม่ชอบทางรีสอร์ทเราจะพาไปพักที่รีสอร์ทใกล้ๆ นี่ได้ค่ะ”
“ขอดูบ้านก่อนได้มั้ยคะ”
“ได้ค่ะ แต่ว่าต้องเดินไปไกลนะคะ ตอนนี้ไม่มีคนอยู่เลยค่ะ ไม่มีรถว่างเลย”
“เดินไปไกลกี่กิโลฯคะ”
“ไม่ถึงกิโลฯหรอกค่ะ แต่ไม่มีใครไปพัก”
“ทำไมคะ มีผีสิงเหรอคะ”
ท่าทางที่อรอินทุ์ถามออกมาทำให้กัลยาหัวเราะ
“เปล่าหรอกค่ะ เขาไม่อยากเดินไกล เพราะเราไม่มีรถบริการ”
“เหรอคะ แต่คนที่มาพักมีรถมาไม่ใช่เหรอคะ”
“ค่ะ แต่ไกล เพื่อนเลยไม่ไป อีกอย่างบ้านพักหลังนี้ไม่เปิดให้ลูกค้าพัก แต่ถ้าที่นี่เต็มหมดก็จะให้พักค่ะ”
“ทำไมถึงไม่ให้ใครพักล่ะคะ”
“เจ้าของบ้านหวงค่ะ ตอนแรกไม่ยอมให้เปิดบ้านแต่ระยะหลังนี่อนุญาตแล้วค่ะเพราะที่พักเต็มหมด”
“ถ้าอย่างนั้นอินทุ์ขอพักบ้านหลังนี้ค่ะ ค่าเช่าเท่าไหร่คะ อินทุ์จอง 1 อาทิตย์ค่ะ”
“พักเป็นอาทิตย์เลยเหรอคะ”
“ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นพี่ลดให้เป็นพิเศษค่ะ”
“ถ้าลดพิเศษก็ต้อง 50 เปอร์เซ็นต์สิคะ”
อรอินทุ์หัวเราะก่อนกัลยาหัวเราะตาม สองสาวรู้สึกถูกชะตากันอย่างบอกไม่ถูก อรอินทุ์คุยกับกัลยาระหว่างที่รอจ่ายค่าที่พัก
“พี่ชื่ออะไรคะ ทำงานที่นี่นานหรือยัง”
“พี่เหรอคะ ชื่อกัลยาค่ะ เรียกพี่กัลคำเดียวก็ได้นะคะ พี่ทำงานที่นี่ตั้งแต่รีสอร์ทเปิดค่ะ แล้วน้องล่ะคะ”
“นี่เลยค่ะพี่ อรอินทุ์ คนน่ารักที่สุดค่ะ”
หญิงสาวยื่นบัตรประชาชนให้กัลยาดูแล้วหัวเราะกับคำพูดของตัวเอง กัลยาพลอยหัวเราะไปด้วย และแอบชื่นชอบอรอินทุ์อยู่เงียบ ๆ อยากให้พี่ชายของหล่อนเจอกับหญิงสาวคนนี้จังเลย
อยากให้พี่ชายที่เคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลาเจอคนยิ้มง่าย อารมณ์ดีอย่างอรอินทุ์มากกว่าคนอารมณ์ร้อนเอาแต่ใจอย่างรังสิมา ลูกสาวนักธุรกิจเหล็กเส้นที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้
“คุณอินทุ์เป็นคนน่ารักจริง ๆ ค่ะ พี่เห็นด้วย”
“อย่าเรียกคุณเลยค่ะ เรียกอินทุ์คำเดียวก็พอ ทีนี้พี่กัลบอกอินทุ์มาว่าจะต้องเดินไปบ้านพักกี่กิโลฯ”
“ 700 เมตรเองค่ะ แต่พี่ว่าอินทุ์นั่งรออยู่ที่นี่สักครู่เผื่อพี่ตรีกับพี่หลองกลับมาจะได้ให้ไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะอินทุ์เดินไปเองดีกว่าชมนกชมไม้ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ถึง มีต้นไม้ร่มรื่นตลอดทางอย่างนี้ไม่ไกลหรอกค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นนั่งคุยกับพี่อีกสักครู่ก่อนนะคะ ให้แม่บ้านทำความสะอาดก่อน”
“แม่บ้านไปยังไงคะเดินไปหรือเปล่า”
“แม่บ้านอยู่ใกล้บ้านใหญ่ค่ะ ขี่จักรยานมาแป๊บเดียวค่ะ”
“อ้าว.แล้วที่นี่ไม่มีจักรยานเหรอคะ”
“ไม่มีหรอกจ้ะ มีแต่ม้า”
“ม้าเหรอคะ”
“จ้ะ”
กัลยายิ้มรับคำถามของหญิงสาวและท่าทางที่ดูตื่นเต้นของหล่อนทำให้กัลยาพอจะรู้ว่าอรอินทุ์ยังไม่เคยเห็นม้าและถ้าได้เห็นคงตื่นมากกว่านี้เป็น 10 เท่าทีเดียว
“ที่นี่หัดให้ขี่ม้าบ้างหรือเปล่าคะ”
“ไม่หรอกค่ะ กลัวแขกเป็นอันตราย เพราะม้าที่ฟาร์มหัดไว้ไม่กี่ตัว ส่วนมากเราจะใช้กันเองมากกว่า”
“แต่ถ้าแขกยอมเป็นอันตรายเพราะอยากขี่ม้าล่ะคะจะสอนให้มั้ย”
กัลยาหัวเราะแล้วถามอรอินทุ์ทีเล่นทีจริง
“ถามพี่อย่างนี้แสดงว่าอินทุ์อยากขี่ม้าแล้วล่ะสิ”
“ค่ะ..แต่ก็กลัว”
คำท้ายหล่อนทำหน้ากลัว ๆ ไปด้วย กัลยาหัวเราะอีกครั้งแล้วว่า
“ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ เอาไว้พี่จะบอกเจ้าของฟาร์มให้นะคะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่กัล อินทุ์ก็พูดไปอย่างนั้นเอง”
กัลยายิ้มแล้วหันไปที่โทรศัพท์ หล่อนโทร.บอกให้สมหญิงทำความสะอาดบ้านพักหลังพิเศษแล้วหันมาชวนอรอินทุ์คุยต่อครู่ใหญ่ ๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหล่อนเดินไปรับแล้วเดินกลับมานั่งตรงหน้าอรอินทุ์
“เด็กทำความสะอาดบ้านเรียบร้อยแล้วค่ะ อินทุ์เข้าพักได้แล้วค่ะ”
“ค่ะ ขออาบน้ำให้สบายอารมณ์แล้วก็นอนสักตื่น ค่อยออกเดินเที่ยว”
กัลยายิ้มยื่นกุญแจบ้านพักให้อรอินทุ์แล้วเดินมาส่งถึงทางแยกที่จะเดินไปทางบ้านพัก อรอินทุ์เดินชมนกชมไม้ไปเรื่อย ๆ ต้นไม้ใหญ่ ๆ อากาศร่มรื่นทำให้หล่อนเดินเพลินลืมระยะทางเกือบกิโลเมตรไปเสียสนิทไม่นานนักหล่อนก็ก้าวเข้ามายืนในบ้านหลังเล็กน่าอยู่
“บ้านน่าอยู่จังเลย ขออาบน้ำนอนก่อนเถอะน่ะ”
หล่อนรื้อเสื้อผ้าออกแขวนในตู้เสื้อผ้าอย่างรวดเร็วแล้วโดดเข้าห้องน้ำอาบน้ำอย่างมีความสุข กลับออกมาคว้าเสื้อแขนในตัวมาสวมกางเกงขาสั้นสวมตามแล้วหันไปหาขนมปังที่ซื้อติดกระเป๋ามา
“ขนมปังสองชิ้นน้ำอีกหนึ่งแก้ว แค่นี้ก็นอนได้แล้วเรา”
หล่อนตลบผ้าคลุมเตียงออกแล้วโดดขึ้นเตียงกลิ้งไปกลิ้งมาครู่เดียวก็หลับไป ความเหนื่อยอ่อนที่นั่งรถหลายชั่วโมงและเดินจากออฟฟิศ รีสอร์ทมาถึงบ้านพักหลังนี้ทำให้หญิงสาวหลับสนิทและหลับนานเกิน 2 ชั่วโมง
“พี่ไชยคะ กัลเปิดบ้านหลังเล็กให้แขกพักแล้วนะคะ”
กัลยาโทรศัพท์บอกไชยวัฒน์หลังจากที่ให้กัญแจกับอรอินทุ์และเดินไปส่งหล่อนตรงทางแยกแล้ว
“หลังอื่นเต็มหมดแล้วเหรอ”
“ค่ะ”
“ทำไมไม่บอกให้เขาไปพักรีสอร์ทอื่น พี่ไม่อยากให้ใครพักกัลก็รู้แล้วนี่ยังไง ทำไมไปใจอ่อนให้คนอื่นมาพัก”
“ก็..เอ่อ..เธอไม่ยอมไปพักที่อื่น เธอชอบที่นี่”
เสียงกัลยาอ่อนลงเมื่อพี่ชายเสียงแข็งและติดจะโกรธหล่อนด้วย ไชยวัฒน์เป็นลูกชายลุงของหล่อน ลุงกับป้าเสียไปนานแล้วทิ้งมรดกตกทอดมาถึงลูกชายคนเดียว
ไชยวัฒน์เรียนด้านบริหารและปศุสัตว์จากต่างประเทศ เขาจึงหันเข้ามาทำฟาร์มม้าพันธุ์และดึงหล่อนเข้ามาช่วยด้านบัญชีและเมื่อคิดเปิด รีสอร์ทไชยวัฒน์ไม่มีเวลาดูแลให้หล่อนเข้ามาดูทั้งหมดโดยมีธาตรีและฉลองเข้ามาช่วย ส่วนพรพจน์ซึ่งเป็นอาคนเล็ก ไชยวัฒน์ให้เป็นผู้จัดการฟาร์มช่วยงานเขาอีกคน
“คนที่พักเป็นผู้หญิงเหรอ มากับใคร สามีรึเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นรีบไปบอกให้ย้ายออกเดี๋ยวนี้ พี่ไม่อนุญาต”
“เธอมาคนเดียวค่ะ”
กัลยารีบตอบพี่ชายเพราะกลัวจะอารมณ์เสียมากไปกว่านี้ ไชยวัฒน์เงียบไปครู่หนึ่ง
“ถ้างั้นไม่เป็นไร แค่นี้นะทีหลังห้ามไม่ให้ใครพักทั้งนั้น”
“ค่ะ”
ไชยวัฒน์วางโทรศัพท์แล้วหันมาทำงานของเขาต่อ พรพจน์นั่งมองหน้าหลานชายอยู่นานกว่านาทีจนหลานรู้ตัว
******