พลิกล็อคนัก คิดว่ารักจะไม่หวาน (เทียนธีรา)

พลิกล็อคนัก คิดว่ารักจะไม่หวาน (เทียนธีรา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: พลิกล็อคนักคิดว่ารัก
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 119.00 บาท 77.35 บาท
ประหยัด: 41.65 บาท ( 35.00% )

เนื้อหาบางส่วน

อาจารย์คนใหม่

 

ห้องเลกเชอร์ของภาควิชาค่อนข้างจะคับแคบไปถนัดตาเมื่อรุ่นพี่ปีสี่และรุ่นน้องปีสามต้องมาเรียนรวมกันในวิชาบังคับมันคงไม่เป็นเช่นนี้หากว่าเมื่อเทอมที่แล้วอาจารย์ที่สอนประจำไม่ลาคลอด และทางภาควิชาไม่สามารถหาคนสอนแทนได้เนื่องจากวิชานี้เป็นวิชาเฉพาะทาง

นักศึกษาทั้งสองชั้นปีต่างตื่นเต้นไม่น้อย เพราะมีข่าวแพร่สะพัดตั้งแต่วันเปิดเทอมวันแรกว่ามีอาจารย์มาบรรจุใหม่ เพิ่งจบด็อกเตอร์จากต่างประเทศมาหมาดๆ ซึ่งจะเป็นผู้สอนวิชานี้ให้กับพวกเขา

เสียงจ้อกแจ้กจอแจเงียบลงไปชั่วขณะ เมื่อ ‘ด็อกเตอร์พฤกษ์ พัฒนชาติ’ อาจารย์คนใหม่ของภาควิชาก้าวเข้ามาในห้องโดยมีผู้ช่วยสอนหอบเอกสารกองโตตามหลังเข้ามา ทว่าไม่มีใครในห้องสนใจคนที่เดินตามหลังหรือเอกสารกองโตนั้นเลย สายตาทุกคู่ต่างพุ่งไปยังร่างสูงเกือบหกฟุตซึ่งแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายทางเล็กๆ สีกรมท่า ยัดชายลงในกางเกงสแล็กเนื้อดี ช่วงล่างเป็นรองเท้าหนังยี่ห้อดังสีดำมันปลาบ บุคลิกอันสุดเนี้ยบและความหล่อเหลาตามแบบฉบับผู้ชายไทยหน้าอินเตอร์นั้นสามารถสะกดนักศึกษาในห้องให้สนใจได้พอๆ กับความทึ่ง เพราะคะเนแล้วอายุของอาจารย์คนใหม่น่าจะไม่ถึงสามสิบดีด้วยซ้ำ

ผู้ช่วยสอนวางเอกสารกองใหญ่นั้นไว้บนโต๊ะหน้าห้องแล้วกลับออกไปอย่างรู้หน้าที่ ขณะที่อาจารย์คนใหม่ขยับมายืนตรงกลางห้องพร้อมกับกระดาษหนึ่งแผ่นในมือ

‘คัคนางค์’ นักศึกษาชั้นปีที่สามถือปากกาและเปิดสมุดที่ยังว่างเปล่าค้างไว้ ขณะที่ดวงตากลมโตจ้องมองอาจารย์คนใหม่เช่นเดียวกับนักศึกษาคนอื่นๆ ในห้อง แน่นอนว่าโต๊ะประจำของเด็กเรียนเช่นเธอก็คือด้านหน้าสุด ดังนั้นถ้าจะมีใครสักคนที่ได้อยู่ใกล้กับผู้ชายซึ่งมีฐานะเป็นอาจารย์คนใหม่มากที่สุด หนึ่งในนั้นก็รวมเธออยู่ด้วย

แก้มใสร้อนผ่าวๆ ขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล เมื่อได้ยินเสียงของอาจารย์ดังขึ้นเป็นประโยคแรก เขาไม่ได้หล่อแค่หน้าตา แม้แต่เสียงพูดก็ยังหล่อเหลาชวนเคลิ้มเหมือนกับเสียงคนพากย์‘ไมเคิล สกอฟิลด์’ พระเอกซีรีส์ดังอย่าง ‘Prison Break’ ที่เธอดูแล้วดูอีกไม่ต่ำกว่าห้ารอบจนจำได้ทุกช็อต

“เนื่องจากผมเพิ่งจะมาสอนพวกคุณเป็นคาบแรก ดังนั้นผมจึงขอเช็กชื่อก่อน จะได้รู้ว่าใครหน้าตาเป็นยังไง”

แม่เจ้าโว้ย...ไม่ได้แทนตัวว่า ‘อาจารย์’ แต่แทนตัวว่า ‘ผม’ ซะด้วย ดูไว้ตัว หยิ่งทะนง ห่างเหินนิดๆ แต่ขอโทษเถอะ คำคำนั้นเหมือนจะกวักมือเรียกเอาหัวใจของสาวๆ และเก้งกวางแถวนี้ไปครองแบบไม่ต้องเสียเวลาทำแต้ม

เด็กไอคิวสูงเรียนเก่ง แต่ไม่เด่นเรื่องรักอย่างคัคนางค์เหมือนจะหลุดเฟรม เมื่อถูกเล่นงานด้วยความหล่อ น้ำเสียง และวิธีการพูดของอาจารย์ด็อกเตอร์พฤกษ์

เรื่องแอบปลื้มอาจารย์มันคงเป็นธรรมดาของนักศึกษาสาวๆ ละ แต่สำหรับเธอนี่เพิ่งครั้งแรก จึงไม่รู้ว่าจะจัดการกับความตื่นเต้นของตัวเองอย่างไรดี

“อารดา...”

แม้ชื่ออารดาจะขึ้นต้นด้วยตัว อ.อ่าง แต่ ‘ยัยโอ๋’ เพื่อนสนิทและรูมเมทของคัคนางค์กลับเป็นรหัสแรกของภาควิชา เพราะชื่อเก่านั้นมีอักษร ก.ไก่ นำหน้า จึงถูกอาจารย์พฤกษ์เอ่ยเรียกชื่อก่อนใคร

“มาค่ะ...”

เสียงอารดาขานรับอยู่ด้านหลังสุดของห้อง แม้ว่าเวลาอยู่นอกห้องเรียนคัคนางค์กับอารดาจะสนิทสนมกันราวกับเป็นเงาของกันและกัน แต่เวลาเรียนทั้งสองมักจะแยกกันนั่ง ขณะที่เด็กเรียนอย่างคัคนางค์ชอบนั่งหน้าสุด อารดาซึ่งเรียนๆ เล่นๆ ชิลๆกับทุกอย่างตามประสาลูกคนมีอันจะกินกลับนั่งหลังสุดเป็นประจำ

“คัคนางค์...”

เพราะมัวแต่ฟังเสียงและมองหน้าหล่อๆ นั้นเพลิน เจ้าของชื่อจึงลืมที่จะขานรับ จนคนเรียกต้องเรียกซ้ำแต่คราวนี้เสียงเข้มกว่าเดิม

“คัคนางค์!”

“เอ่อ...มาค่ะ”

คัคนางค์รีบยกมือพร้อมกับขานตอบ ตาคมกล้าที่บ่งบอกความลุ่มลึกทอดมองมายังนักศึกษาเจ้าของชื่อครู่หนึ่ง แต่เป็นครู่หนึ่งที่คัคนางค์รู้สึกเหมือนถูกเหวี่ยงให้ขึ้นไปลอยเคว้งปนปุยเมฆแสนสวยก่อนจะหัวหมุนติ้วๆ เมื่อได้สบตากับตาคมกล้าคู่นั้น

แก้มใสที่ร้อนผ่าวๆ ก่อนหน้านี้แดงซ่านคล้ายกำลังจับไข้ มือไม้เย็นเฉียบ หัวใจเต้นแรงตึกๆ จนกลัวคนในห้องจะได้ยิน คัคนางค์รู้สึกว่าตัวเองต้องละลายเป็นน้ำแน่ๆ ถ้าสบตากับอาจารย์พฤกษ์นานกว่านั้นแค่เสี้ยววินาทีเดียว ความประหม่าอายอย่างรุนแรงทำให้ต้องรีบหลบตาลงมองสมุดและกดปากกาในมือเล่นแก้เก้อ 

พฤกษ์หันเรียกนักศึกษาคนต่อไป พร้อมกับเดินเลยโต๊ะหน้าไปยังกลางห้อง ส่วนเด็กเรียนซึ่งยังก้มหน้างุดอยู่แก้ปัญหาอาการผิดปกติของร่างกายและหัวใจตัวเอง ด้วยการเขียนอะไรยุกยิกๆ ลงในสมุดเลกเชอร์เล่มใหม่ที่เตรียมมาจดวิชานี้โดยเฉพาะ

จู่ๆ ชั่ววูบหนึ่งของความคิดด้านหื่นๆ ที่เพิ่งจะถูกปลุกให้ตื่นมาเมื่อครู่นี้ก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่า หน้าตาของอาจารย์คนใหม่หล่อขนาดนี้แล้วแผ่นหลังจะน่าซบเหมือนพระเอกเกาหลีหรือเปล่า  ใบหน้าเนียนใสไร้เครื่องสำอางแต่งเติมจึงหันหลังขวับไปค้นหาคำตอบทันที

ตากลมโตมองแผ่นหลังกว้างนั้นอย่างซึมซับเหมือนกับกำลังบันทึกข้อมูลและประมวลผลแบบยุ่งเหยิงไปพร้อมกัน ภาพในจินตนาการผุดขึ้นมาอีกอย่าง อาจารย์พฤกษ์เหมือนกับพระเอกการ์ตูนญี่ปุ่นตัวโตๆ ยืนนิ่งๆ ให้นางเอกการ์ตูนตาหวานกอดซบอยู่ด้านหลัง

สุดท้ายคัคนางค์ก็แยกไม่ออกว่าอาจารย์คนใหม่เหมือนพระเอกชาติไหนมากที่สุด แล้วผู้หญิงคนไหนจะโชคดีได้เป็นนางเอกและซบแผ่นหลังของเขา

แล้วถ้าเป็นเราล่ะ...?

แอร๊ย...คิดอะไรบ้าๆ ยัยคัคนางค์!

เพราะมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับจินตนาการต่างๆ นานาของตัวเองเกี่ยวกับอาจารย์คนใหม่ จึงไม่รู้ตัวว่าตอนนี้สมุดเลกเชอร์ได้ถูกเพื่อนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ แอบจิ๊ก แล้วส่งต่อไปด้านหลังแบบมือต่อมือจนถึงมืออารดาจอมแสบในที่สุด

เมื่อมีวัตถุดิบในมือ มีหรือที่หัวโจกระดับลายครามของรุ่นจะละเว้นการ ‘กลั่นแกล้ง’ ซึ่งเป็นงานอดิเรกและงานถนัดที่สุดของอารดาเลยก็ว่าได้

เรื่องเรียนหนูตั้งใจแบบนี้มั้ยลูก?

“อาจารย์คะ หนูขอขัดจังหวะแป๊บหนึ่งค่ะ” อารดายกมือขึ้นขณะที่อาจารย์ยังขานชื่อนักศึกษาในห้องไม่ครบดี

พฤกษ์หันไปทางต้นเสียง เห็นว่าเป็นคนที่ตัวเองเรียกเป็นชื่อแรก จึงขยับเข้าไปใกล้คนที่กำลังยกมืออยู่หลังห้อง

“มีอะไรหรือเปล่าอารดา”

“พอดีมีคนฝากข้อความมาถามอาจารย์น่ะค่ะ หนูขออนุญาตยืนนะคะ” ว่าแล้วอารดาก็ลุกขึ้นยืน ทำให้สายตาคนทั้งห้องหันมายังเธอเป็นตาเดียวกัน รวมทั้งคัคนางค์ด้วย

“จะถามอะไรผม ว่ามาสิ”

“หนูไม่ได้จะถามเองหรอกค่ะ แต่เพื่อนหนูเขียนข้อความมาถามอาจารย์ว่า...คนอะไรหล่อชะมัด แบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่า หล่อวัวหายควายล้ม หล่อจนต้องร้องขอชีวิต หล่ออะไรเบอร์นั้น”

สิ้นเสียงของอารดา ลูกคู่หลายสิบคนซึ่งรับลูกกันเป็นประจำก็ปรบมือและเป่าปากดังขึ้นตามหลังอย่างรู้จังหวะทันที

“ฮิ้ววววว”

เอ๊ะ...ทำไมฟังดูคุ้นๆ เหมือนที่เราเขียนในสมุดเมื่อกี้เลย คัคนางค์คิดพลางก้มลงมองสมุดของตัวเองซึ่งตอนนี้มันอันตรธานหายไปจากโต๊ะเรียบร้อย ครั้นพอหันไปมองยังมือของคนที่กำลังยืนอ่านอยู่นั้น!

Chip-หายแล้วมั้ยล่ะ!!??

          ไม่ใช่สิ...ที่หายไปนั่นคือสมุดเลกเชอร์ของเธอต่างหากไม่ใช่ชิปอะไรทั้งนั้น

          แล้วจะรอช้าอยู่ทำไมกัน...เพื่อนๆ ในรุ่นต่างก็รู้ดีว่ายัยโอ๋รูมเมทของเธอนั้นขี้แกล้งและแสบแค่ไหน!

          เด็กเรียนผู้เป็นเจ้าของสมุดลุกพรวดพราดขึ้นด้วยความตกใจและลืมตัว พุ่งวาบไปหาคนที่กำลังถือสมุดของตนอยู่อย่างรีบร้อน พลอยทำให้คนอื่นๆ ในห้องรู้ไปโดยปริยายว่าสมุดเล่มนั้นเป็นของใคร

          “ยัยโอ๋บ้า เอาสมุดเราคืนมาเลยนะ”

          “เอ๊า! นี่สมุดแกเหรอ เรานึกว่าของคนอื่นซะอีก แสดงว่าคนที่สงสัยว่า ‘หล่อแบบวัวหายควายล้ม’ เป็นยังไง นี่ก็แกใช่ป่ะ” อารดาหรี่ตาล้อเลียนและยิ่งหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นคัคนางค์หน้าแดงแจ๋เป็นลูกชุบถูกย้อมสีเช่นนั้น

          “เอาละทุกคนเงียบ” เสียงของอาจารย์พฤกษ์ดังขึ้นอย่างเฮี้ยบๆ หลังจากที่ปล่อยให้ลูกศิษย์เล่นสนุกมาพักใหญ่ “อารดานั่งลง ส่วนคัคนางค์ตามผมมาหน้าห้อง”

          เรื่องที่เล่นกันขำๆ ชักจะไม่ขำเสียแล้ว เมื่อสีหน้านิ่งๆ ของด็อกเตอร์พฤกษ์บ่งบอกว่าไม่ได้สนุกสนานด้วยแต่อย่างใด อารดานั่งลงหน้าเจื่อนๆ รู้ตัวว่าแกล้งเพื่อนแรงเกินไป ส่วนคัคนางค์เดินก้มหน้างุดตามอาจารย์ออกไปยืนหน้าห้องตามคำสั่ง

          “ตอนแรกผมเข้าใจว่าตัวเองมาสอนนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย แต่ดูจากพฤติกรรมของพวกคุณแล้ว มันเหมือนกับเด็กมัธยมซะมากกว่า ในเมื่อพวกคุณทำตัวเหมือนเด็ก ดังนั้นผมเองก็คงต้องลงโทษพวกคุณในแบบที่เด็กถูกทำโทษเช่นกัน”

          ห้องทั้งห้องเงียบกริบลงราวกับป่าช้า เมื่ออาจารย์สุดหล่อไม่ได้ใจดีเหมือนหน้าตา พฤกษ์เดินไปหยิบเอาไม้บรรทัดพลาสติกแบบหนาบนโต๊ะอาจารย์มาถือไว้ในมือ แล้วหันไปถามเด็กสาวที่ยืนก้มหน้างุดอยู่หน้าชั้น

          “เอาละ คุณชื่ออะไรนะ”

          “คัคนางค์ค่ะ” คัคนางค์ได้แต่ตอบเสียงอ่อยๆ อายจนแทบอยากจะมุดพื้นห้องหนี เพราะไม่เคยถูกใครจับจ้องอย่างตำหนิติเตียนรุนแรงเช่นนี้มาก่อน

          “คุณเขียนหนังสือมือไหน?”

          “ขวาค่ะ”

          “ถ้างั้นแบมือซ้ายมา” เขาออกคำสั่งเสียงเข้มกับลูกศิษย์สาวที่เพิ่งจะเจอหน้ากันได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงดี แต่เธอและเพื่อนๆ ก็คิดจะลองของเสียแล้ว

          คัคนางค์แบมือซ้ายและยื่นไปตรงหน้า เห็นไม้บรรทัดก็รู้แล้วว่าตัวเองจะถูกลงโทษอย่างไร แม้จะผ่านชีวิตประถมและมัธยมมาหลายปี แต่ก็ยังไม่เคยถูกคุณครูลงโทษแบบนี้มาก่อน เพราะเธอเป็นเด็กดีมาตลอด ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จะลิ้มลองรสชาติความเจ็บที่เกิดจากการถูกไม้บรรทัดฟาด

          เพียะ!

          เสียงไม้บรรทัดกระทบกับฝ่ามืออ่อนบางเต็มแรงดังสนั่นทั่วห้องที่เงียบกริบ ร่างบางสะดุ้งโหยงพร้อมๆ กับที่ฝ่ามือขาวๆ เป็นรอยแดงขึ้นมาทันตา

          “ผมหวังว่าคราวหน้าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ในชั้นเรียนอีก ไม่อย่างนั้นผมจะตัดสิทธิ์สอบคุณ” พฤกษ์ยังไม่วายกำราบลูกศิษย์ต่อด้วยการคาดโทษเสียงดุ

“ค่ะ...” คัคนางค์รับคำเสียงเบาสุดเบา ความเจ็บยังไม่เท่าความอาย เพื่อนๆ ในชั้นปีเดียวกันมองมาอย่างเห็นใจเพราะรู้ดีว่าคัคนางค์เป็นคนเช่นไร แต่รุ่นพี่ปีสี่กลับมองอย่างตำหนิอย่างรุนแรง พอๆ กับอาจารย์พฤกษ์

“เอาชีทที่วางอยู่บนโต๊ะไปแจกให้เพื่อนๆ แล้วกลับเข้าไปนั่งเรียน”

          คนที่เพิ่งถูกลงโทษหมาดๆ หอบชีทกองโตนั้นไปแจกจ่ายให้เพื่อนๆ และรุ่นพี่ตามคำสั่งของอาจารย์ หลังจากแจกเสร็จเธอก็กลับมานั่งประจำที่ของตัวเอง ด็อกเตอร์พฤกษ์จึงค่อยเริ่มสอน

สามชั่วโมงของการเรียนคาบแรกผ่านไปแบบที่คัคนางค์แทบเรียนไม่รู้เรื่องเลย ความคิดของเธอวกวนอยู่แต่กับรอยไม้บรรทัดแดงๆ บนฝ่ามือ แม้ว่าตอนนี้ความเจ็บจะคลายลงจนเกือบไม่หลงเหลือแล้ว แต่มันก็ยังฝังใจเธออยู่ดี

          ไม่ใช่แต่คัคนางค์ที่นั่งซึม อารดาเองก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเหมือนกัน โดยตั้งใจเอาไว้ว่าเมื่ออาจารย์ออกจากห้องแล้วเธอจะรีบไปขอโทษคัคนางค์ทันที เห็นท่าทางจ๋อยๆ ของเพื่อนรักก็อดโมโหตัวเองไม่ได้ สู้ให้อาจารย์ลงโทษเธอยังดีเสียกว่าให้คัคนางค์ถูกทำโทษ ทั้งๆ ที่เพื่อนเธอไม่ได้ทำอะไรผิด เธอต่างหากที่ผิดเต็มประตู

          “เดี๋ยวก่อนโอ๋ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” เพียงรุ้งซึ่งเป็นพี่รหัสของอารดาเรียกเอาไว้ก่อนที่อารดาจะลุกจากโต๊ะ ทำให้อารดาต้องอยู่คุยกับพี่รหัสก่อน

          “มีอะไรเหรอพี่เพียง พอดีโอ๋รีบ”

          “เรื่องอาจารย์พฤกษ์”

          อารดาแอบถอนหายใจอย่างเซ็งๆ รู้ว่าพี่รหัสจะพูดอะไร แต่ตอนนี้คนที่เธออยากพูดเรื่องนี้ด้วยมากที่สุดก็คือคัคนางค์ไม่ใช่เพียงรุ้ง

          “โอ๋ยังไม่ว่างคุย เอาไว้วันหลังได้มั้ย โอ๋รีบจริงๆ นะ”

“เอาอย่างนั้นก็ได้โอ๋ ถ้างั้นโอ๋ตามเพื่อนโอ๋มาคุยกับพี่หน่อยก็แล้วกัน”

“พี่เพียงจะว่าอะไรนางเหรอ ถ้าจะว่าก็ว่าโอ๋เถอะ เรื่องนี้โอ๋เป็นคนผิด” อารดายืดอกรับแทนทันที เมื่อคิดว่าพี่รหัสตัวเองจะต้องตำหนิคัคนางค์แน่ๆ นอกจากเพียงรุ้งจะสวย เรียนเก่ง เป็นประธานรุ่น ยังถือระบบรุ่นพี่รุ่นน้องและกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เพื่อนๆ ในรุ่นเดียวกันและรุ่นน้องต่างก็เกรงใจเพียงรุ้งกันทั้งนั้น แล้วมีหรือที่ครั้งนี้เพียงรุ้งจะละเว้นเพื่อนสนิทของเธอ

“เราเพิ่งบอกพี่ว่ารีบไม่ใช่เหรอ ไปบอกเพื่อนเรามาคุยกับพี่ พี่จะรอในนี้” เพียงรุ้งตัดบทพร้อมทั้งมองน้องรหัสด้วยแววตาดุๆ ทำให้อารดาไม่อยากตอแย พอๆ กับไม่อยากบอกคัคนางค์

หน้าห้องเลกเชอร์เงียบหมดแล้วตอนที่อารดาออกมา แต่มันก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอ ที่จะรู้ว่าตอนนี้เพื่อนๆ คงรวมตัวกันอยู่ใต้ตึกหรือไม่ก็แยกย้ายกันไปหาอะไรกินที่โรงอาหารแล้ว และก็จริงอย่างที่อารดาคาดไว้ เพราะตอนนี้ม้าหินอ่อนใต้ตึกมีเพียงคัคนางค์นั่งอยู่ตามลำพัง ส่วนเพื่อนๆ คนอื่นๆ กำลังทยอยเดินกันไปยังโรงอาหาร

“ทำไมมาช้านักล่ะโอ๋” คัคนางค์หันไปทักเมื่อเห็นอารดาเดินตรงเข้ามาหา

“เราคุยกับพี่เพียงอยู่ พี่รหัสเรามีเรื่องจะคุยกับแกน่ะ”

“คงเป็นเรื่องอาจารย์พฤกษ์สินะ”

“เฮ้ย...เราขอโทษว่ะ เราไม่คิดว่ามันจะบานปลายแบบนี้”

“ช่างมันเถอะ เดี๋ยวเราไปหาพี่เพียงก่อน รอเราไปกินข้าวด้วยล่ะ”

“อืม”

ร่างบางลุกจากโต๊ะโดยไม่ลืมหยิบสมุดเจ้าปัญหากับชีทติดมือขึ้นตึกไปด้วย ส่วนอารดานั่งลงแทนที่และได้แต่มองตามเพื่อนสนิทอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก

 

 

        “เห็นโอ๋บอกว่าพี่เพียงมีเรื่องอยากคุยกับนางเหรอคะ”

คัคนางค์เอ่ยขึ้นหลังจากกลับเข้ามาในห้องเลกเชอร์ซึ่งตอนนี้ปิดไฟเรียบร้อยแล้ว แต่แสงสว่างจากด้านนอกก็มากพอที่จะทำให้เห็นว่าเพียงรุ้งนั่งรออยู่อย่างที่อารดาบอก ความจริงเพียงรุ้งเป็นรุ่นพี่ที่คัคนางค์ให้ความนับถือและชื่นชมมากตั้งแต่เข้าปีหนึ่งใหม่ๆ เพราะรุ่นพี่คนนี้เพียบพร้อมไปเสียทุกเรื่อง แต่ไม่คิดว่าวันนี้เธอต้องมาเผชิญหน้ากับคนที่ตัวเองชื่นชมด้วยเรื่องที่ตัวเองคาดไม่ถึงเช่นนี้

“พี่ขอพูดตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อมเลยก็แล้วกัน พี่ว่าที่เราทำไปน่ะมันไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่”

“นางทำอะไรคะที่พี่เพียงว่าไม่เหมาะสม ความจริงนางเป็นผู้ถูกกระทำมากกว่านะคะพี่เพียง” รุ่นน้องอย่างคัคนางค์ไม่มีเจตนาจะยอกย้อน แต่ที่พูดเช่นนั้นเพื่อชี้แจงให้เพียงรุ้งมองอีกมุมและเพื่อปกป้องตัวเอง

“แล้วสาเหตุมันมาจากไหนล่ะ ไม่ใช่เพราะเพื่อนๆ ของเราไปแซวอาจารย์และเราแสดงออกนอกหน้าว่าชอบอาจารย์ในทำนองชู้สาวหรอกเหรอ พวกเราเป็นนักศึกษานะนาง แสดงออกอะไรควรต้องมีขอบเขตและให้เกียรติอาจารย์บ้าง”

“นางขอโทษแทนเพื่อนๆ ด้วยค่ะ ถ้าทำให้พี่เพียงไม่พอใจ แต่เพื่อนๆ ของนางไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกินอาจารย์หรอกนะคะ คงแค่อยากสร้างบรรยากาศให้ครื้นเครงไปตามประสาเท่านั้นเอง วิชาอื่นๆ ก็เย้าอาจารย์เล่นเป็นประจำ”

“วิชาอื่นๆ เป็นยังไงพี่ไม่รู้ แต่วิชาที่เรียนรวมกันกับรุ่นพี่แบบนี้พี่ยอมไม่ได้ และเรื่องนี้คนที่ผิดเต็มๆ ก็คือเรา”

“นางอาจจะผิดที่ผลุนผลันลุกไปเอาสมุดที่เพื่อนของนางหยิบไป แต่นางก็ถูกอาจารย์ทำโทษต่อหน้าคนทั้งห้องด้วยการตีมือแล้ว พี่เพียงคิดว่านางจะสำนึกไม่ได้เหรอคะ”

          “พี่เตือนด้วยความหวังดีในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้อง สาเหตุมันเริ่มจากการที่นางเขียนอะไรไม่เหมาะสมลงไปในสมุดเล่มนั้นไม่ใช่เหรอ ถ้านางไม่เขียน เพื่อนๆ จะแกล้งนางได้ยังไง ไปคิดตริตรองให้ดีเถอะนาง ไม่ใช่มาเถียงพี่ฉอดๆ แบบนี้ หรือต้องให้อาจารย์เอ่ยปากออกมาเองว่าเราเป็นผู้หญิงน่าไม่อายล่ะ ถึงตอนนั้นคงได้รู้ว่าการอับอายจริงๆ มันเป็นยังไง” เพียงรุ้งเสียงแข็งใส่ เมื่อรุ่นน้องต่อปากต่อคำในลักษณะของผู้ร้ายที่เถียงคอเป็นเอ็น

          “นางรับรองว่าจะไม่มีวันนั้น และถ้าไม่จำเป็นนางจะไม่พูดกับอาจารย์อีก พี่เพียงสบายใจได้ค่ะ”

          “พี่ก็หวังว่านางจะทำได้อย่างที่พูด”

          พูดจบเพียงรุ้งก็หยิบสมุดหนังสือบนโต๊ะแล้วก้าวออกจากห้องไป แต่คนที่ถูกเรียกขึ้นมาต่อว่ากลับขยับตัวไปไหนไม่ได้ คัคนางค์ยืนนิ่งเพื่อข่มความรู้สึกทั้งหลายทั้งปวงเอาไว้นานหลายนาที กว่าจะทำใจให้ออกไปเผชิญโลกภายนอกได้

          เท้าที่กำลังจะก้าวพ้นประตูห้องชะงักกึก ก่อนจะรีบถอยฉากกลับเข้ามาในห้องดังเดิม เมื่อตาเหลือบไปเห็นร่างสูงของคนที่เพิ่งเป็นประเด็นเดินออกมาจากห้องพักอาจารย์ คัคนางค์เดาว่าอาจารย์พฤกษ์คงจะกำลังลงลิฟต์ไปทานอาหารกลางวัน เธอจึงต้องแอบอยู่ในห้องนั้นจนกว่าเขาจะลงไป 

          หากแต่คัคนางค์คาดผิดถนัด เพราะคนที่ทำท่าจะตรงไปกดลิฟต์กลับเดินตรงมายังห้องเลกเชอร์ สาวน้อยต้องรีบขยับไปหลบอยู่หลังประตูพลางกลั้นหายใจขณะที่อาจารย์หนุ่มเดินมาถึง ร่างสูงหยุดอยู่หน้าห้อง โน้มตัวฝ่าความมืดเข้ามาข้างใน จังหวะนั้นหัวใจของคัคนางค์เต้นแรงระทึก เธอพยายามยืนตัวลีบที่สุด เพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับเขาในตอนนี้ หลังจากผ่านเหตุการณ์เมื่อเช้านี้มาเธอก็ไม่อยากเผชิญหน้ากับอาจารย์พฤกษ์ตามลำพัง อีกทั้งเพิ่งรับปากกับรุ่นพี่ไปว่าจะไม่พบปะพูดคุยกับเขาอีกหากไม่จำเป็น

สาวน้อยยืนภาวนาว่าขออย่าให้พฤกษ์เข้ามาในห้องและเจอเธอเลย ไม่อย่างนั้นเธออาจจะต้องทำสิ่งที่เป็นการเสียมารยาทคือวิ่งหนีเขา แต่สุดท้ายโชคก็เข้าข้างเธอ เพราะพฤกษ์แค่ยื่นมือมาจับลูกบิดประตูแล้วดึงมันปิดลง

รายละเอียด

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน

          พลิกล็อคนักคิดว่ารักจะไม่หวาน เป็นนิยายฉบับสั้นกะทัดรัดมากถึงมากที่สุด มาแบบไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ค่ะ มันเกิดจากความฝันก่อนจะตื่นนอนเมื่อสองสามวันที่แล้วนี่เอง มันฟินยังไงก็ไม่รู้ จึงนำมาเขียนได้เป็นเรื่องราวสั้นๆ น่ารักๆ ให้ได้อ่านได้ฟินไปด้วยกัน

          มาคั่นเวลาก่อนที่เรื่อง คะนึงรัก จะมานะคะ อ่านง่ายๆ สบายๆ แป๊บๆ ก็จบ แต่สิ่งที่จะได้แน่นอนก็คือความฟินที่นานาตั้งใจจะมอบให้ค่ะ

 

รักค่ะ

เทียนธีรา


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (84 รายการ)

www.batorastore.com © 2025