ชุดครอบครัวรัก 1 ทางรักสายที่สาม (แพรเพชร)

ชุดครอบครัวรัก 1 ทางรักสายที่สาม (แพรเพชร)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: ทางรักสายที่สาม
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 97.50 บาท
ประหยัด: 52.50 บาท ( 35.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ทางรักสายที่สาม  

ของ…..สายธาร

1.

            มนชยาขับรถด้วยความรู้สึกหงุดหงิดนิด ๆ สายตามองหาสิ่งที่ต้องการตลอดเส้นทาง และหญิงสาวก็มองนาฬิกาที่ข้อมือบ่อย ๆ  เวลามันไม่รอท่าเลยจริง ๆ เธอจะต้องรีบไปที่กองถ่ายอย่างเร็วที่สุดภายในชั่วโมงนี้ แต่เวลานี้เธอยังไม่ได้พบในสิ่งที่ต้องการเลย หงุดหงิดเสียจนต้องถอนใจยาว ๆ ออกมาหลายครั้งติด ๆ กัน

            พลันสายตาของหญิงสาวก็อ่านพบป้ายข้อความหนึ่งข้างทางที่เขียนบอกชัดเจนและสวยงามว่า

            “บ้านเช่าบรรยากาศดี  สะอาด ปลอดภัย  นารีเฮ้าส์ เข้าซอย 50 เมตร “

            หญิงสาวหักพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้าไปทันทีอย่างแคล่วคล่อง มนชยาเป็นสาววัยยี่สิบกว่า ๆ บุคลิกท่าทางเหมือนผู้ชายหล่อ ๆ แต่หน้าหวานไปนิดหนึ่ง ผมเธอซอยสั้นแบบเก๋ ระต้นคอและปรกหน้าผากนิดหน่อยและเธอก็สวมแว่นตากรอบดำกระจกใสเก๋ไก๋ ท่าทางเก๋ไก๋จนน่ามองซ้ำแล้วซ้ำอีก

            นารีเฮ้าส์ ป้ายใหญ่ชัดเจนตรงหน้า หญิงสาวเข้าไปจอดที่บ้านหลังแรกเพราะเขียนไว้ว่า “ต้องการบ้านเช่าติดต่อที่นี่ “ หญิงสาวเห็นตรงเทอเรทเล็ก ๆ หน้าห้องทำงานมีชายหนุ่มสองคนนั่งอยู่ แล้วมนชยาก็เปิดประตูก้าวลงจากรถสปอร์ตสีแดงของตนเอง

            “สวัสดีครับ...มีอะไรให้รับใช้เชิญเลยครับ...” ชายหนุ่มหนึ่งในสองคนที่นั่งอยู่ลุกขึ้นยืนต้อนรับทันทีที่มนชยาก้าวเท้าย่างเข้าไป

“ต้องการบ้านเช่าหนึ่งหลัง และขอทราบราคารวมทั้งรายละเอียดต่างๆ ด้วย”  มนชยาบอกเสียงไม่ดังนัก แต่น้ำเสียงของหล่อนมีอำนาจประหลาดทำให้อีกคนที่นั่งอยู่เงยหน้าขึ้นมองอย่างทึ่ง

“คนอะไรเสียงมีกังวานเพราะและมีอำนาจอย่างประหลาด... หน้าตาก็เก๋ดี เหมือนผู้หญิงหล่อๆ มากกว่าจะเป็นผู้หญิงสวยๆ” ราชเดชนึกในใจเมื่อมองอย่างสำรวจในผู้หญิงวัยสาวตรงหน้า หล่อนยืน ไม่นั่งท่าทางเกรงเหมือนนางเสือ เขาไม่เคยเห็นท่าทางแบบนี้จากผู้หญิงที่ไหนมาก่อนเลย

“ได้ครับได้...ได้เลย....”  นเรศหันมาทางเพื่อนรักเพราะความจริงเขาเป็นแค่เพื่อนราชเดชเท่านั้น ราชเดชเป็นบุตรชายเจ้าของบ้านเช่านับสิบหลังในซอยนี้

“เฮ้ยเดช ใบอะไรๆ อยู่ไหนวะไปหามาเร็ว”

“อยู่นี่ครับคุณ” ราชเดชลุกขึ้นแล้วรีบเดินไปหยิบรายละเอียดเป็นกระดาษสองสามแผ่นมาส่งให้

“เดือนละหกพันห้าร้อยบาท ล่วงหน้าสองเดือน ค่าน้ำค่าไฟต่างหาก ตกลงว่าฉันจะเช่า เอ้อ นี่เงินล่วงหน้าสองเดือน พรุ่งนี้ฉันจะมานะ” หล่อนพูดง่ายทำตามที่พูดอย่างรวดเร็ว “ฉันจะไปธุระ งานยังไม่เสร็จพรุ่งนี้ค่อยบอกฉันว่าจะให้อยู่หลังไหน...”

“เอ้อ คุณจะไม่ดูบ้านก่อนหรือครับ”ราชเดชทักท้วง

“ไม่จำเป็น อย่างไรฉันก็อยู่ได้ บอกมาเพียงว่าหลังไหนเท่านั้นแหละ”

“หลังนี้แหละครับหลังนี้ ข้างๆ ออฟฟิศนี่ฝรั่งเพิ่งย้ายไปเมื่อเช้า คุณมาอยู่ได้เลยพรุ่งนี้...”

มนชยาพยักหน้า หล่อนเดินไปจากตรงนั้นด้วยมาดที่มองแล้วราชเดชและนเรศก็ได้แต่มองตากัน

“รถราคาแพงเสียด้วย...ท่าทางจะลูกเศรษฐีนะเดช...”

“อย่ายุ่งเรื่องชาวบ้านน่าป๋อง มันเรื่องของเขานะ แกละชอบจุกจิกนิสัยเหมือนผู้หญิงนัก เดี๋ยวคุณแม่ฉันลงมาแกก็โดนด่าเอาอีกหรอก ไม่เข้าท่าเลย”

“แหม..ก็ชาวบ้านอย่างนี้น่ายุ่งไหมล่ะแกเอ๋ย”

“ฉันห้ามแกยุ่ง ไม่งั้นเห็นดีกัน” ราชเดช ทำเสียงแข็งกับเพื่อนไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องดุเพื่อนด้วย รู้แต่ว่ารู้สึกเหมือนจะหวง ๆ ผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุและเหตุผลเลย

“อ้าว เป็นงั้นไป เฮ้อ เพื่อนหนอเพื่อนทำอะไรก็ไม่ถูกใจ เออนี่ เราไปหากินเหล้ากันที่ไหนดีล่ะเย็นนี้ ของโปรดแกไม่ใช่หรือ เรื่องนี้พูดได้ทั้งคืนสบายมากนี่...”

“ฉันตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะไปกินแถวรัชดา มีสวนอาหารเปิดใหม่สองสามร้าน เราต้องไปลุย” ราชเดชหันมาบอกเพื่อน เมื่อนึกถึงเหล้า  ชายหนุ่มก็ทำท่าว่าจะลืมแม่สาวคนนั้นไปเสียอย่างกะทันหัน ราชเดชติดเหล้ามากกว่าติดผู้หญิง ติดจนต้องกินทุกวันจนมารดาอ่อนระอา คุณนายคิดว่าราชเดชไปติดผู้หญิงเสียยังจะดีกว่า

“เมื่อไหร่แกจะเลิกเหล้าวะนายเดช ฉันเบื่อที่ต้องไปนั่งเฝ้าแกจังเลย อกก็ไม่หัก สาวๆ รุมตอมออกหึ่งไป กลับไม่สนใจสนแต่เหล้า มันเป็นอย่างไรวะ”

“แกถามฉันมาสามปีแล้วมั้ง คำตอบก็ไม่ได้ แล้วก็ยังจะถาม...” ราชเดชหัวเราะเบาๆ ขำเพื่อนที่เพียรถามแต่เรื่องนี้พอๆ กับมารดาเขานั่นแหละ

แต่กับมารดาเขาตอบได้เลยว่า

“ผมติดนี่ครับ วันไหนไม่ได้กินเหมือนจะลงแดงตายพยาธิมันร้อง”

“แม่จะหาซื้อยาเบื่อเหล้ามาให้แกกิน  รวมทั้งยาถ่ายพยาธิด้วย  เอาให้มันตายเลย”

“ก็เท่ากับคุณแม่ฆ่าผมเลยแหละครับ อย่าเลย ผมกินแล้วก็กลับบ้านไม่ได้เสียหายอะไรที่ไหน คุณแม่อย่าห่วงเลยเงินทองเราก็มีพอกินพอใช้ ผมเองก็กินนิดหน่อยเท่านั้น”

“แม่ไม่ว่าหรอกเรื่องเงินนั่นน่ะ แม่กลัวแกจะไม่มีเมียมากกว่า กลัวสาวๆ เขาไม่รัก คนขี้เมาอย่างนี้ใครเขาจะสนใจล่ะลูก”

ราชเดชหัวเราะเมื่อนึกถึงคำมารดา ท่านกลัวเขาจะหาเมียไม่ได้ เพราะเวลานี้อายุเขายี่สิบห้าปีแล้ว เรียนจบมาสามปีก็ช่วยมารดาดูแลหอพักและบ้านเช่าของท่านไม่ได้ไปทำงานที่ไหนเพราะความที่เป็นลูกชายคนเดียว เขามีน้องสาวอีกคนหนึ่งแต่เรียนอยู่เมืองนอกและแต่งงานไปแล้วกับสามีชาวอเมริกัน ราชเดชจึงต้องช่วยมารดาเพราะท่านก็ไม่มีใคร ลูกจ้างมีสองสามคนก็อยู่ในสัดส่วนของเขา

ราชเดชรักแม่มาก เขาติดแม่และไม่ทันได้คิดเรื่องแต่งงานกับใคร ในเรื่องเพศตรงข้าม เขาก็มีเหมือนกัน หลายคนที่เข้ามาในชีวิต แต่ก็ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ราชเดชยังไม่คิดรักใคร กิจการหอพักของมารดามีแต่สาวๆ มาเช่าอยู่ เขารู้เห็นเรื่องราวสาวๆ เหล่านั้นมามาก เลยไม่ชอบเท่าไหร่ที่เขาชอบเห็นจะมีเรื่องเดียวคือเหล้านี่แหละ ทุกเย็นเขาจะต้องนั่งดื่มเหล้า แล้วก็ฟังเพลง เมามากก็หลับไปเท่านั้นเองชีวิตเขา

เทพบุตรขี้เมา...นี่คือสมยานามที่สาวชาวหอพักตั้งให้เขา

“ตกลงจะไปไหน...” ราชเดชหันมามองหน้าเพื่อน

“หน้าตาแกก็ดี๊ดี ดีกว่าฉันตั้งมากมาย ทำไมแกจึงขี้เมา” นเรศยังรำพึงรำพัน

“นี่หากแกไม่เมานะฉันว่าสาวๆ จะต้องมารุมรักแกมากกว่าเดิมหลายเท่า แกจะเลือกเมียได้ตามแกพอใจ”

“นั่นละ นั่นละคำตอบของฉัน ฉันไม่อยากมีสาวๆ มากรุมรักมากมายหลายหลวง ฉันก็เลยต้องเมาทุกวันแบบนี้ แกคิดดูซิ หากว่าคนอย่างฉันมีเมีย มันคงน่าขำพิลึกและคนอย่างแกก็จะมาหัวเราะใส่หน้าฉันทุกวัน”

“อ้าว ทำไม ทำไมฉันต้องไปหัวเราะแกวะ”

“ก็...ไม่รู้เว้ย ฉันว่าแกขำแน่ ฉันนึกแล้วยังขำตัวเองเลย เทพบุตรขี้เมามีเมีย โธ่ ใครที่มาเป็นเมียฉันก็คงจะซวยบรมเลยแกเอ๊ย...”

“แกชอบพูดเป็นเล่น”

คุณนายนารีเดินลงบันไดมา คุณนายใช้ที่ทำการและบ้านอยู่ด้วยกันเลย เพราะไม่ยุ่งยากกิจการบ้านเช่าของเธอเป็นไปด้วยดี เพราะอยู่กันตามสัดส่วนแต่หอพักข้างๆ บ้านนี่ค่อนข้างวุ่นวายเพราะส่วนมากจะเป็นสาวๆ นักเรียน นักศึกษาทั้งนั้น เรื่องวุ่นวายจึงมีบ้างเป็นธรรมดา แต่ราชเดชต้องปกครองสาวๆ  เหล่านั้นได้ค่อนข้างดี

“คุยอะไรกันสองหนุ่ม ตาป๋องนี่ไม่มีที่ไปเลยนะแก วันหยุดทีไรมาหาตาเดชทุกทีนี่  สาวๆ ที่ไหนทำไมไม่ไปติดเขามั่งฮึ มาติดลูกชายแม่อย่างนี้เดี๋ยวก็มีข้อครหาหรอก”

“ครหา...เอ ยังไงครับ”

 

“ก็ แบบว่าตุ๊ดๆ เกย์ๆ อะไรนั่นไง แบบสาวๆ ชาวหอของแม่น่ะ มีทอมมีดี้ หลายคู่โลกมันวิปริตไปแล้วแกไม่รู้หรือ” คุณนายอารมณ์ดีเสมอสำหรับลูกและเพื่อนของลูกชายที่คบหากันมานานนม

“ไม่รู้หรอกครับ นี่หากรู้ ผมก็คงไม่มาติดแบบเพื่อนหรอก ล่อมันนานแล้วไอ้เดชนี่นะ ความจริงมันก็หล่อดีนะครับ เอ๊ หรือว่าจะเอาดี”

“โดนเตะแน่ลองดูซี...ลองดู...” ราชเดชว่า แล้วสามคนก็หัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน

วันต่อมาราชเดชเดินลงมาชั้นล่าง  เขานั่งทำงานเกี่ยวกับบัญชีอยู่คนเดียว ใจเขานึกถึงผู้หญิงคนเมื่อวานนี้ หล่อนจะมาวันนี้ ป่านนี้น่าจะมาได้แล้ว เดี๋ยวบ่ายนี้เขามีนัดกินเหล้ากับเพื่อนฝูงอีกเบ้อเริ่มก็จะไม่เจอกันหรอก

“ตาเดช....บ้านมิสเตอร์เครส นั่นใครจะมาอยู่หรือ แม่เห็นแกให้คนไปกวาด”

ราชเดชไม่ทันตอบ รถเก๋งสปอร์ตสีแดงสวยคันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอด พอจอดสนิท สาวมาดเก๋คนเมื่อวานก็เปิดประตูด้านคนขับก้าวลงมา มนชยาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม เธอปัดผมด้วยมือขวา ก่อนจะมองลอกแว่นตามาทางเขาและมารดา

“คนนี้แหละครับคุณแม่ที่จะมาอยู่ เมื่อวานนี้เขามัดจำเอาไว้แล้ว” ราชเดชกระซิบบอก

“งั้นหรือ ท่าทางเหมือนผู้ชายนะ ไปบริการเขาหน่อยนะลูก หรือว่าจะให้ตาแก้ว...” คุณนายนารีมองหญิงสาวผู้นั้นอย่างเพ่งพิศ ท่าทางน่ารักดี เหมือนผู้ชายสวย ๆ คนหนึ่ง

“ผมเองครับ...” ราชเดชคว้ากุญแจจากที่แขวน เขาเดินออกไปหาหล่อนที่ยืนมองซ้ายมองขวา เขายิ้มให้เธอก่อนอย่างเป็นมิตร แต่หล่อนทำหน้าเฉย ๆ

“หลังนี้หรือคุณ...ฉันจะได้ถอยรถเข้าไป...” เจ้าหล่อนเอ่ยปากถามเขาเสียงดังกังวานน่าฟัง

“ครับผม...ถอยไปได้เลย นี่กุญแจ...” เขายื่นกุญแจให้หล่อน ก่อนจะเดินตามไปดูการถอยรถของหล่อนไม่ไกลนัก เขาแน่ใจว่าหล่อนจะต้องชอบบ้านหลังกะทัดรัดนี่มาก

 

มารดาเขานั้นออกแบบบ้านได้สวยมาก แม้จะหลังเล็กก็สวยงามลงตัว มีหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ และมีห้องครัวห้องรับแขกขนาดน่ารัก

ถอยรถจอดได้ที่แล้ว มนชยาก็ก้าวลงมาอีก

ราชเดชมองไม่เห็นว่าในรถมีใครคนหนึ่งอยู่ในนั้นเพราะรถของมนชยาติดฟิล์มกรองแสงจนหนาทึบมืดสนิท มองไม่เห็นอะไรในรถ กระทั่งประตูรถเปิดออกมา

ราชเดชก็ตะลึงลาน

สาวน้อยหน้าหวานยิ้มสวยผมหยิกยาวนั้นรับกับใบหน้าที่หวานละมุน เจ้าหล่อนอยู่ในชุดกระโปรงลูกไม้ขาว ที่คอแขนมีเครื่องประดับมุกสีชมพูเข้าชุดกัน หล่อนงามเหมือนนางฟ้าน้อยๆ

“พี่ชยาขา...นี่หรือบ้านใหม่ของเรา อุ๊ย สวยจัง ชุมาชอบค่ะ” หล่อนเดินมากอดแขนมนชยา ต่อหน้าต่อตาราชเดชและต่อหน้าคุณนายนารีที่เดินตามมาทีหลังนั่นด้วย

“ที่รักขา ชุมาชอบจริงๆ นี่ค่ะ รางวัล...” หล่อนเขย่งปลายเท้าจูบหน้าผากมนชยาและเท่านั้น ราชเดชก็ถอยกลับในใจเขาสั่นไหวประหลาดเมื่อเห็นภาพนั้น

“คุณแม่ครับ  เอ่อคือว่า ...”  เขาทำสีหน้าประหลาดกับมารดา

“แกเอ๋ย โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว แกหมุนให้ทันโลกหน่อยเถอะ สองคนนั่นเป็นแบบที่สาวหอเคยเป็น แต่ท่าทางจะมากกว่าสาวหอนะ เล่นอยู่ด้วยกันอย่างนี้เป็นหลักเป็นฐานแบบนี้ เฮ้อ พ่อแม่รู้หรือเปล่านะ”

ราชเดชทำตาปริบๆ เขานึกอะไรไม่ออก นอกจากนึกแต่ว่า เสียดายเหลือเกินเท่านั้น

                                    000000000000000000000000000

 

“เฮ้ย...อุแม่เจ้า...เดช เดช...มานี่เร็ว ฉันตาฝาดไปหรือเปล่า มีนางฟ้ามาเดินหน้าบ้านแก เดช เดชเว้ย...” เสียงเอะอะของนเรศทำให้ราชเดชหันมองตามไป

“ไอ้บ้า เงียบเดี๋ยวนี้นะ นั่นเขาคนที่มาเช่าบ้านใหม่...”

“เรอะ ทำไมสวยเป็นบ้าขนาดนี้...” นเรศครางแผ่ว จ้องมองเจ้าของร่างนั้นอย่างไม่วางตา

ร่างของอรชุมาเดินยิ้มหวานเข้ามาในสำนักงานบ้านเช่า หญิงสาวอยู่ในชุดกระโปรงติดกัน สีม่วงหวานใส รองเท้าสานสีสวยหวานเข้ากับชุดที่เจ้าหล่อนสวมอยู่

“คุณคะ...แถวๆ นี้มีร้านแบบว่า เอ้อ พวกสะดวกซื้อน่ะค่ะ ชุมาอยากได้กาแฟให้พี่ชยา”

“มี...มีครับมี...” นเรศรีบรุกขึ้น ทำท่าเหมือนจะบริการเต็มที่ “เดินออกไปนิดเดียวเองครับออกไปนี่ก็เลี้ยวซ้ายแล้วสักสิบเมตรก็เลี้ยวขวา...เอ้อ เอางี้ ผมจะพาไป”

“เฮ้ย...” ราชเดชเกาหัว

“แกร้องทำไมเดช เราเป็นเจ้าถิ่น เราต้องเทคแคร์เขา แกเป็นเจ้าของบ้านเช่าแท้ๆ ไม่รู้จักบริการเลย ฉันแค่เป็นเพื่อนแกยังเอาใจเขาเลยเพราะอยากให้เขาอยู่กับเราอย่างสบายใจ เชิญครับคุณ เชิญเลยผมจะพาคุณไปเอง จะช่วยถือของให้ด้วยหากว่าไม่รังเกียจ....”

“รังเกียจแน่...” มนชายเดินตามหลังอรชุมามา สายตาหล่อนวาววับ “ชุมา ไปกับพี่”

“พี่ชยา...” อรชุมาเดินไปเกาะแขนมนชยาท่าทางเหมือนคนรัก “แหม นึกว่าจะไม่ตามมา ชุมากำลังจะเดินไปซื้อของจำเป็นที่ขาด”

“คือ...ผมจะพาคุณนี่ไป...” นเรศยิ้มปูเลี่ยน

“ไม่ต้อง” มนชยาตาเขียว “ฉันพาไปเอง คนอื่นไม่จำเป็นต้องเกี่ยว ไปชุมาเดินไปกับพี่...ทีหลังไม่ต้องแวะเวียนมาตรงนี้ก่อนที่พี่จะอนุญาต จำไว้นะ”

“ค่ะ...” อรชุมาพยักหน้า และสองสาวก็เดินคู่กันไปต่อหน้าชายหนุ่มทั้งสองที่มองตามไปด้วยความรู้สึกต่างกัน แต่ที่แน่ ๆ สักพักเดียว สองหนุ่มก็ส่ายหน้ากับตัวเองพร้อม ๆ กันนั่นแหละ

“ไงจ๊ะ สองหนุ่ม หน้าแตกเย็บได้ไหมนี่...” คุณนายนารีเดินหัวเราะลงบันไดมา เธอเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ยืนฟังอยู่เงียบ ๆ

“ตาเดช แกบอกเพื่อนเสียทีซิจ๊ะว่าสองสาวคนนั้นไม่ใช่สาวๆ ทั่วไปที่จะยิ้มให้ได้ง่ายๆ เขามีเจ้าของแล้ว ถึงจะป่าเดียวกันก็เถอะ...”

“คุณแม่...อะไรกันครับนี่..”  นเรศ มองหน้ามารดาเพื่อนอย่างงุนงง

“ทำหน้างงเหมือนพ่อเดชเมื่อวานนี้เลย ทำไม๊ทำไมหนุ่มสองคนนี้ถึงไม่ทันสมัยกับเขาเลยน้า... ดูแค่นี้ก็ดูไม่ออกว่าสองสาวนั่นเป็นอย่างไร” คุณนายหัวเราะจนหน้าแดง

“เดช...หมายความว่าไงวะ”  นเรศขยับมาถามเพื่อน แววตายังไม่หายแคลงใจ

“ไม่รู้ว่ะ” ราชเดชส่ายหน้าไปมา เขาเองก็ตื้อจนวันนี้ เขาบอกความรู้สึกไม่ถูก ที่จริงเขาก็เคยเห็น ที่หอพักของมารดานั้นเคยมีหญิงสาวสองคนมาพักอยู่บ่อย ๆ ทำท่าเป็นคู่รักกันแต่ไม่ขนาดนี้เลย ขนาดนี้ท่าทางจะหนักแน่นมั่นคงจริงจังเสียจนน่าหวั่นไหว แบบไม่มีเหตุผลนี่แหละ

“คุณแม่...”  ที่สุดนเรศก็หันไปหามารดาของเพื่อนอีกเมื่อไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจสักที

“ทำไมโง่นักเราน่ะ...แค่นี้ก็ดูไม่ออกแล้วจะไปทำอะไรนี่....รู้จักคำว่าทอมดี้ไหม...ทอมกับดีน่ะ”

“ทอม ดี้...” นเรศเข่าอ่อน

“ใช่...นี่ละทอมดี้ ดีนะ ที่แกไม่โดนยายทอมหน้าเก๋คนนั้นตะบันหน้าเอาโทษฐานที่คิดไปจีบแฟนเขา”

“จริงหรือนี่...”  คราวนี้ครางเลย

“ร้อยสิบเปอร์เซ็นต์เลยย่ะ”

“แหม...เสียดาย...เสียดายจริงๆ ยายหนูเอ๋ย ทำไมเห็นกงจักรเป็นดอกบัวแบบนั้น แล้วอย่างนี้เธอก็คงเห็นผู้ชายเฉยๆ เฮ้อ...หนักใจจริงๆ”

“แกหนักใจเรื่องอะไรป๋อง...”

“ฉันอยากจีบเขาว่ะ” นเรศบอกเพื่อนจริงๆ ตายังลอยอยู่ “เดช...แกจะช่วยฉันไหม หากว่าฉันจะจีบแม่ดี้แสนสวยคนนั้น”

รายละเอียด

คำนำ

 

          ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ และความรักคือสิ่งที่ดีงาม บางคนอาจจะบอกว่าความรักมักทำให้คนตาบอด ความรักทำให้คนมีความทุกข์ ไม่มีใครที่จะไม่มีความทุกข์เพราะความรัก บางคนฆ่าตัวตายเพราะความรักบางคนทุกข์เพราะความรักจนชั่วชีวิต แต่ถึงอย่างไร ผู้เขียนก็ยังคิดเสมอว่า ความรักคือสิ่งที่ดีงามสวยงามเสมอ หากโลกไม่มีความรัก โลกจะไม่มีสีสันไม่มีความสุขในใจของคนทั้งโลก คนเราไม่รู้จักความรักที่แท้จริง จึงแพ้ภัยตัวเอง แล้วก็ไปกล่าวหาว่าความรักทำให้คนเป็นทุกข์

            ที่จริงแล้วความรักไม่เคยทำให้คนเป็นทุกข์เลย เราจะมีความสุขทุกครั้งที่ได้รู้สึกรักใครสักคนจริงไหมคะ หรือเราลองรักใคร ๆ หลาย ๆ คนดูซิคะ เป็นรักแบบใจบริสุทธิ์สะอาดจริง ๆ นะคะ อย่าหลง บางคน หลง ไม่ได้รัก ที่ผิดหวัง อกหัก เป็นทุกข์ นั้นเพราะคนบางคนรักไม่เป็น ปล่อยให้ความหลงเข้ามาเกาะในจิตใจ เราต้องรักให้เป็นรักแบบไม่มีเงื่อนไข อะไรจะเกิดก็ได้ เรายอมรับ เราพร้อม เพราะเรามีความรัก รักเขา รักทุกคนอย่าให้เราหลงเขา หากหลงแล้วเราจะคิดว่า เขาต้องเป็นของเราคนเดียว

            เราทุกคนที่เกิดมานั้นไม่มีใครเป็นของใครหรอกค่ะ แม้แต่ตัวเราเอง เราก็ยังครองอยู่ตลอดกาลไม่ได้เลยทุกอย่างต้องเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา เพราะฉะนั้นเวลาเรามีความรัก เราก็อย่าหลงนะคะ เมื่อเราไม่หลง เราก็จะไม่ทุกข์ เราจะมองเห็นแต่ความรักที่ในสะอาด และมีความสุขอยู่ทุกทิวาราตรีกาล

                                                                                    ขอบคุณที่มีความรักให้กัน

                                                                                                แพรเพชร


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (84 รายการ)

www.batorastore.com © 2025