กามเทพลงทัณฑ์ + เทพบุตรแป๊ะยิ้ม (สุชีรา)
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )
เนื้อหาบางส่วน
กามเทพลงทัณฑ์
เขาถูกหล่อนโขกสับอย่างไม่หลงเหลือความเห็นใจเขาก็ยัง
เห็นหล่อนเป็นคนดีอยู่นั่นแหละเป็นเพราะอะไรงั้นเหรอก็เพราะเขา
หลงรักหล่อนแบบถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นแล้วน่ะสิ…
ด้วยรัก
สุชีรา
1…
ความโกรธแค้นในตัวชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นต้นเหตุให้พี่สาวของหล่อนต้องจบชีวิตลงอย่างน่าสงสารทำให้ปรางค์แก้วต้องการแก้แค้นแทนพี่ทั้งที่ยังไม่รู้สาเหตุแน่ชัดว่ารวีเสียชีวิตด้วยฝีมือของใคร
แต่ในจดหมายของรวีระบุชื่อนทีไว้หลายคำ หล่อนพร่ำต่อว่าเขาในจดหมายและเอ่ยลาเขาด้วยหยดเลือดหลังจากนั้นรวีก็เสียชีวิตในห้องนอนของหล่อน
งานศพของรวีผ่านไป 1 อาทิตย์ นทีชายหนุ่มที่มีชื่ออยู่ในจดหมายก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางความโกรธแค้นของปรางค์แก้ว หล่อนแทบจะกระโจนเข้าบีบคอเขาให้ตายคามือ
“นายออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ คนเลวๆ อย่างนายไม่สมควรมาเสนอหน้าที่นี่ ออกไป”
“คุณครับ ผมไม่รู้เรื่องนะครับ ผมเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกนะครับ”
ชายหนุ่มงุนงงกับความโกรธของหญิงสาวตรงหน้า เขาไม่เคยเห็นหน้าหล่อนเพิ่งเห็นก็นาทีนี้แล้วหล่อนรู้จักชื่อเขาได้อย่างไร
“ไอ้เลว ยังจะมีหน้ามาตอแหลอีก นายเพิ่งเคยมาที่นี่แล้วนายรู้จักรวีได้ยังไง รักกับรวีได้ยังไง พอได้สมใจก็ชิ่งหนี คนอย่างนายเขาเรียกไอ้หน้าตัวเมีย”
“คุณ..คุณด่าผมมากเกินไปแล้วนะ ผมเพิ่งเคยมาที่นี่แล้วไอ้เรื่องบ้าๆ ที่คุณกำลังพูดถึงผมก็ไม่รู้ ถ้าผมรู้ว่ามาถึงไอ้ไร่บ้าๆ นี่แล้วมาเจอผู้หญิงหน้าตาดีแต่เป็นบ้าเที่ยงพาลกัดชาวบ้านเขาไปทั่วยังงี้ผมก็ไม่มาหรอก”
“ไอ้ชั่ว แกว่าใคร แกว่าฉันบ้าเหรอ ได้เลยในเมื่อว่าฉันบ้า ฉันก็จะบ้าให้สะใจ”
ปรางค์แก้วถลาเข้าไปหาชายหนุ่ม หล่อนคว้าไม้ที่วางอยู่ใกล้มือติดไปด้วยและโดยที่นทีไม่ทันหลบและทุกคนที่ยืนอยู่รอบข้างไม่คิดว่าหญิงสาวเจ้าของไร่จะกล้าทำ หล่อนยกไม้ในมือขึ้นแล้วฟาดเปรี้ยงลงบนศีรษะของนทีเต็มแรง
“โอ๊ย…”
เขาร้องเพียงเท่านั้น ร่างสูงโปร่งก็ทรุดฮวบลงกองกับพื้น เลือดสีแดงสดไหลทะลักจากศีรษะลงสู่ต้นคอขาวสะอาดของเขา ปกเสื้อเชิ้ตสีครีมรับน้ำที่กำลังไหลลงมาชุ่มชื้นไปจนถึงตัวเสื้อ
“คุณพระช่วย แกทำอะไรลงไปยัยปรางค์ ทำอะไรลงไป ตายมั้ยนั่นน่ะ ช่วยเขาหน่อยเร็วๆ พาไปหาหมอเร็วๆ ไอ้สน ไอ้ครามไปเอารถมาเร็ว”
ชิดชมเจ้าของไร่ปรางค์แก้วคนเดิมถึงกับเข่าอ่อนไปกับภาพที่เห็นตรงหน้า หลานสาวคนเล็กของหล่อนเป็นบ้าไปแล้ว
ปรางค์แก้วเป็นหลานสาวคนที่สองของชิดชมหลังจากที่มารดาของปรางค์แก้วเสียชีวิตด้วยโรคไตวาย ชิดชมจึงพาหลานสาวมาทำไร่ซึ่งหล่อนก่อร่างสร้างไร่ไว้นานแล้ว
รวีหลานสาวอีกคนขอตามมาทำไร่ด้วยแต่บิดามารดาของหล่อนห้ามจึงต้องกลับกรุงเทพฯ แต่รวีก็มาเที่ยวไร่ที่สระบุรีบ่อยครั้ง หล่อนช่วยปรางค์แก้วทำงานในไร่ไม่ไหวจึงรับอาสาติดต่อซื้อปุ๋ยให้ ปรางค์แก้วยินดีเป็นอย่างยิ่ง
นับจากนั้นมารวีเป็นฝ่ายจัดซื้อปุ๋ยเข้าไร่ ตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยที่มาเสนอปุ๋ยต้องผ่านรวีเพียงคนเดียวและเพราะงานนี้ทำให้รวีรู้จักกับตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการภูมิภาคทีเดียว
รวีพูดถึงนทีให้ปรางค์แก้วกับป้าชิดชมฟังบ่อยๆ แต่ทั้งสองไม่เคยเห็นหน้านทีสักครั้งเพราะรวีนัดเจอกับชายหนุ่มในกรุงเทพฯ เท่านั้น
ความรักของรวีหวานชื่นได้เพียงปีเดียว หล่อนก็ซึมเศร้าไป ปรางค์แก้วสอบถามจึงรู้ว่านทีเปลี่ยนใจไปคบผู้หญิงคนใหม่ เขาบอกเลิกกับรวีอย่างโหดร้ายที่สุด
“ปรางค์ ฉันจะทำยังไงดี เขาขอเลิกกับฉัน เขาอ้างว่าจะไปดูงานต่างประเทศ แต่เขาไม่ได้ไปที่ไหน เขาอยู่ในกรุงเทพฯนี่แหละ ฉันเห็นเขาไปกับผู้หญิงคนใหม่”
รวีฟูมฟายน้ำตาจนปรางค์แก้วพลอยโกรธชายหนุ่มที่รวีหลงรักไปด้วย ปรางค์แก้วได้แต่ปลอบใจพี่สาวผู้ซึ่งเป็นลูกป้าแต่รวีก็ไม่ดีขึ้นหล่อนเก็บตัวไม่พูดคุยกับใครและไม่ค่อยมาไร่ปรางค์แก้วเหมือนเมื่อก่อน
สุดท้ายรวีก็ตัดสินใจหนีความเจ็บช้ำ หนีทุกคนไปด้วยยานอนหลับ 1 ขวด หล่อนหลับสบายไปแล้วแต่ความแค้นยังคงอยู่กับปรางค์แก้ว
หญิงสาวยืนนิ่งตกตะลึงเมื่อเห็นเลือดสีแดงไหลเลอะใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่ม ไม้ในมือหล่นลงพื้นตั้งแต่เมื่อไหร่หล่อนไม่รู้ หล่อนรู้เพียงว่าหล่อนกำลังเป็นฆาตกร หล่อนโกรธแค้นผู้ชายคนนี้มากเกินไปหรือเปล่า ร่างสูงระหงโอนเอนแล้วทรุดกองกับพื้นไปอีกคน
“ยัยปรางค์ ยัยปรางค์”
ชิดชมร้องเสียงหลงเมื่อเห็นร่างของหลานสาวสุดที่รักล้มลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้นหญ้า สำอางกับนิตยาวิ่งเข้าประคองนายสาวไว้ ความโกลาหลเกิดขึ้นครู่ใหญ่ทุกอย่างก็สงบลง
รถของไร่ปรางค์แก้วแล่นทะยานออกจากบ้านไร่ด้วยความเร็ว คนเจ็บ 1 คนและคนเป็นลมอีก 1 คนกำลังต้องการความช่วยเหลือจากคุณหมอในตัวอำเภอ
ปรางค์แก้วหมดสติเพราะความตกใจที่เห็นเลือดไหลราวกับท่อประปารั่วและความกลัวซึ่งหล่อนเพิ่งรู้ตัวว่าทำรุนแรงกับชายหนุ่มแปลกหน้า
ชิดชมเดินไปเดินมาหลายสิบรอบ สาวใหญ่เป็นห่วงหลานสาวพอๆ กับเป็นห่วงชายหนุ่ม ครู่ใหญ่คุณหมอก็ออกมาจากห้องฉุกเฉิน ชิดชมเดินตรงเข้าไปหาหมอ
“คุณหมอคะ เป็นไงบ้างคะ”
“ปลอดภัยแล้วครับ”
“แล้วหลานสาวดิฉันล่ะคะ”
“ไม่เป็นอะไรครับแค่ตกใจเท่านั้น”
“โล่งอก ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ คุณน้ารอรับยาที่ห้องจ่ายยาได้เลยนะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
ชิดชมถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่หล่อนก็จำไม่ได้รู้แต่ว่าการถอนหายใจครั้งนี้รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าทีเดียว
สาวใหญ่จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายของชายหนุ่มทั้งหมดและพากลับไร่ปรางค์แก้วเพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับรวี นทีบอกว่าเพิ่งเคยมาที่ไร่เป็นครั้งแรกก็คงจะจริงเพราะระหว่างที่เขาคบหากับรวี หญิงสาวไม่เคยพามาที่ไร่สักครั้ง
“คุณป้าคะ ปรางค์ไม่อยากเห็นหน้าไอ้หมอนั่น คุณป้าอย่าพาเขาไปที่ไร่เรานะคะ”
ปรางค์แก้วเอ่ยขึ้นเมื่อหล่อนเดินมาถึงรถขณะที่สนประคองนทีตามมา
“ยัยปรางค์แกทำกับเขาเกือบตายแล้วยังจะใจดำไม่ให้ที่พักเขาอีกเรอะ ดีเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่แจ้งความเอาผิดกับแกน่ะ”
“แต่เขาทำให้รวีตายนะคะคุณป้า”
“ป้าว่าอย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลย กลับถึงไร่แล้วค่อยว่ากัน สนพาพ่อคนนี้นั่งหน้าคู่กับแก ฉันกับยัยปรางค์จะนั่งหลังเอง นิดขึ้นรถ”
ชิดชมออกคำสั่งกับคนงานของหล่อน ปรางค์แก้วได้แต่ไม่พอใจ หล่อนไม่อยากให้ผู้ชายใจร้ายคนนี้เข้าไปเหยียบบ้านไร่ของหล่อน
นทีรู้สึกเจ็บระบมที่แผลเมื่อเวลาผ่านไป ฤทธิ์ยาชาหมดความปวดก็เริ่มทำงาน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงหน้าตาดีคนนี้จึงใจคอโหดร้ายนัก หล่อนโกรธแค้นเขาด้วยเรื่องอะไร
“คุณป้าครับ ผม..”
นทีเอ่ยขึ้นขณะรถแล่นห่างโรงพยาบาลออกมาได้ครู่ใหญ่
“มีอะไรเหรอ เจ็บแผลมั้ย ป้าต้องขอโทษแทนหลานสาวป้าด้วย ยัยปรางค์โกรธมากไปหน่อย”
ชิดชมถามด้วยความห่วงใยจริงๆ ไม่ใช่แค่อยากเอาใจชายหนุ่มเท่านั้น
“นั่นสิครับ ผมอยากรู้ว่าคนที่นี่โกรธผมเรื่องอะไร ผมมาเสนอขายปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพที่ไร่นี้เป็นรายแรก ถ้าไม่สนใจปุ๋ยของผมก็บอกกันดีๆ ไม่ใช่โกรธเกรี้ยวถึงกับเอาเป็นเอาตายกันยังงี้”
เขาพูดในสิ่งที่อยากพูดอยากระบาย เขาสลบไปหลายนาทีกว่าจะฟื้นขึ้นที่โรงพยาบาล ผู้หญิงหน้าสวยจิตใจโหดร้าย ทำกับเขาเกินธรรมดา
“ป้าขอโทษแทนยัยปรางค์ด้วย เอางี้นะคืนนี้คุณพักที่บ้านไร่ของเรา พรุ่งนี้ค่อยกลับแล้วก็ปุ๋ยที่คุณเอามาเสนอขาย ป้าจะซื้อทั้งหมด”
“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกครับ แค่อธิบายความโหดร้ายของหลานสาวคุณป้าให้ผมเข้าใจแค่นั้นก็พอ”
“นายอย่ามาว่าฉันโหดร้ายนะ นายนั่นแหละโหดร้ายทำร้ายจิตใจผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งได้อย่างเลือดเย็น นายสมควรตายน่ะดีแล้ว”
ปรางค์แก้วเสียงดังลั่นรถ ความโกรธยังกรุ่นอยู่ในใจของหล่อน หล่อนจะไม่มีวันยกโทษให้กับเขาในเมื่อกล้ามาเหยียบไร่ปรางค์แก้ว เจ้าของไร่ก็จะต้อนรับให้เจ็บแสบที่สุด
“ผมทำร้ายใคร ผมยังไม่เคยทำร้ายจิตใจผู้หญิงคนไหนเลยนะคุณ”
เขาเหลียวมองหล่อน ใบหน้าบึ้งโกรธของหล่อนจ้องมายังเขา ดวงตาคู่สวยขุ่นขวาง หล่อนเป็นอะไรเป็นบ้ารึเปล่า
“เอาล่ะๆ หยุดคุยก่อนนะถึงไร่แล้วป้าจะอธิบายให้คุณฟัง ยัยปรางค์เงียบได้แล้ว”
ทุกคนเงียบตามคำสั่งชิดชม สนเร่งความเร็วเมื่อเหลือบมองกระจกส่องหลังเห็นสายตาที่มองมาของเจ้านายใหญ่ ไม่นานนักรถก็แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านไม้ชั้นครึ่ง บ้านชิดชมซึ่งสาวใหญ่ตั้งตามชื่อของหล่อนหลังจากเนรเทศตัวเองออกมาทำไร่ทิ้งความสับสนวุ่นวายของเมืองกรุงไว้เบื้องหลัง
ชื่อไร่ชิดชมเปลี่ยนเป็นปรางค์แก้วเมื่อสองสามปีที่ผ่านมา ชิดชมยกไร่ให้หลานสาวดูแลแทนตัวหล่อนเป็นเพียงที่ปรึกษาและคอยช่วยเหลือเป็นบางครั้งเท่านั้น
นทีก้าวลงจากรถรู้สึกมึนศีรษะ เขาเซไปข้างหน้าแล้วล้มลงกับพื้น สนวิ่งเข้ามาประคองลุกขึ้นยืนเช่นเดิม ชิดชมมองอาการของชายหนุ่มแล้วเขาขับรถกลับไม่ไหวแน่จึงหันมาสั่งนิตยา
“นิด จัดห้องพักสำหรับแขกด่วน สนประคองคุณเขาขึ้นไปนั่งพักก่อน”
“คุณป้า คุณป้าจะให้ไอ้หมอนี่พักบ้านเรางั้นเหรอคะ”
ปรางค์แก้วร้องขึ้นทันที
“ใช่จ้ะ เขาขับรถไม่ไหวหรอก เราทำผิดเราต้องรับผิดชอบ แกต้องคอยดูแลเขาจนกว่าเขาจะหาย”
“คุณป้า..”
หญิงสาวร้องเสียงดังไม่เข้าใจว่าป้าของหล่อนคิดอะไรอยู่ หล่อนจะไม่ทำตามที่ป้าสั่งและจะทำให้ผู้ชายคนนี้เจ็บปวดมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าทีเดียว…
******