Customer Reviews

ขอแนะนำหนังสือเกี่ยวกับการสอนภาษาเล่มนี้เลยค่ะ “ภาษาญี่ปุ่น กิน ช็อป เที่ยว” พูดถึงญี่ปุ่นที่ตัวผู้อ่านเองสนใจอ่านหนังสือเล่มนี้เลยนะคะ เพราะว่าประเทศญี่ปุ่นเนี่ยเป็นประเทศแรกเลยที่อยากไปเที่ยวสักครั้งในชีวิตค่ะ เลยทำให้อยากศึกษาเป็นกรณีพิเศษ เมื่อได้ลองค้นหาหนังสือไปเรื่อยๆก็มาสะดุดตากับเจ้าเล่มนี้นี่แหละค่ะ เนื้อหาในเล่มนี้จะมีสอนตั้งแต่ขั้นพื้นฐานเป็นต้นไปเลยค่ะ แต่ก็จะไม่ถึงขนาดละเอียดมาก ยกตัวอย่างนะคะ ในเล่มก็จะแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆที่สำคัญๆนะคะ เช่น การสอนทำความรู้จักเกี่ยวกับตัวอักษรญี่ปุ่นทำให้เราสามารถอ่านได้ และยังสามารถสื่อสารกับชาวญี่ปุ่นได้บ้างอีกด้วย ในเล่มนี้นะคะเนื้อหาส่วนใหญ่จะรวบรัดมากเลยค่ะ เหมือนๆกับคู่มือไว้ใช้สำหรับท่องเที่ยวเลยมีบอกทั้งการเลือกร้านอาหาร ตามมาด้วยเรื่องราวต่างๆที่สำคัญที่ควรรู้ภายในร้านอาหาร แล้วก็ไปถึงเรื่องการช็อป คงเป็นจุดประสงค์หลักๆเลยล่ะค่ะสำหรับการเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น มีเนื้อหาบอกเรื่องย่านช็อปปิ้งที่ฮิตที่สุดในโตเกียว วิธีการแลกเงินหรือรวมไปถึงวิธีการคำนวณเงินเย็นเป็นเงินบาท และที่สำคัญจะพลาดไม่ได้เลยนะคะก็ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางในญี่ปุ่น มีบอกรายละเอียดเกือบหมดเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นรถไฟ ต้องปฏิบัติอย่างไร ที่ขายตั๋วโดยสาร มีบอกถึงเรื่องมารยาทในการโดยสารรถไฟญี่ปุ่นเลยนะคะ และอื่นๆที่สำคัญค่ะ มีไปถึงเรื่องการขึ้นรถเมล์ และรถแท็กซี่ในญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ แถมยังแนะนำที่พักในญี่ปุ่นแล้วจะลืมไม่ได้เลยนะคะคือการอาบน้ำแร่และการแช่น้ำพุร้อนค่ะ ไม่งั้นนี่ถือว่าไปไม่ถึงญี่ปุ่นกันเลย ในเล่มก็จะมีบอกเกี่ยวกับพวกป้ายต่างๆ คำเตือนตามสถานที่ต่างๆด้วยนะคะ ตอนท้ายของเล่มยังแอบมีบอกเรื่องรวมแหล่ง กิน ช็อป เที่ยว ในย่านที่ฮิตที่สุดในโตเกียวด้วยล่ะค่ะ สรุปว่าพออ่านแล้วอยากไปไวๆเลยอ่ะ สำหรับผู้ที่สนใจที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ขอแนะนำเลยนะคะ หนังสือเล่มนี้มีบอกรายละเอียดที่สำคัญๆไว้เกือบหมดเลยค่ะ ขนาดเล็กเหมาะสำหรับพกพาไปไหนมาไหนด้วยค่ะ ราคาก็ไม่แพง รายละเอียดภายในก็เข้าใจง่ายค่ะไม่วิชาการอัดแน่นเกินไปจนมันกลายเป็นความน่าเบื่อแล้วทำให้ไม่อยากอ่าน แถมเนื้อหาบางช่วงบางตอนก็จะมีรูปภาพจริงประกอบด้วยให้ดูตามไปด้วยทำให้เราไม่ต้องคอยจินตนาการไปเองเลยค่ะ หรือจะใช้ไว้อ่านเพื่อศึกษาภาษาญี่ปุ่นเฉยๆก็ยังได้นะคะ จำง่ายดีค่ะแต่กรณีนี้หนังสือเล่มนี้เนื้อหาคงไม่ค่อยครบครันมากเท่าไหร่สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนแบบจริงจังนะคะ

ขอแนะนำหนังสือเกี่ยวกับการสอนภาษาเล่มนี้เลยค่ะ “ภาษาญี่ปุ่น กิน ช็อป เที่ยว” พูดถึงญี่ปุ่นที่ตัวผู้อ่านเองสนใจอ่านหนังสือเล่มนี้เลยนะคะ เพราะว่าประเทศญี่ปุ่นเนี่ยเป็นประเทศแรกเลยที่อยากไปเที่ยวสักครั้งในชีวิตค่ะ เลยทำให้อยากศึกษาเป็นกรณีพิเศษ เมื่อได้ลองค้นหาหนังสือไปเรื่อยๆก็มาสะดุดตากับเจ้าเล่มนี้นี่แหละค่ะ เนื้อหาในเล่มนี้จะมีสอนตั้งแต่ขั้นพื้นฐานเป็นต้นไปเลยค่ะ แต่ก็จะไม่ถึงขนาดละเอียดมาก ยกตัวอย่างนะคะ ในเล่มก็จะแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆที่สำคัญๆนะคะ เช่น การสอนทำความรู้จักเกี่ยวกับตัวอักษรญี่ปุ่นทำให้เราสามารถอ่านได้ และยังสามารถสื่อสารกับชาวญี่ปุ่นได้บ้างอีกด้วย ในเล่มนี้นะคะเนื้อหาส่วนใหญ่จะรวบรัดมากเลยค่ะ เหมือนๆกับคู่มือไว้ใช้สำหรับท่องเที่ยวเลยมีบอกทั้งการเลือกร้านอาหาร ตามมาด้วยเรื่องราวต่างๆที่สำคัญที่ควรรู้ภายในร้านอาหาร แล้วก็ไปถึงเรื่องการช็อป คงเป็นจุดประสงค์หลักๆเลยล่ะค่ะสำหรับการเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น มีเนื้อหาบอกเรื่องย่านช็อปปิ้งที่ฮิตที่สุดในโตเกียว วิธีการแลกเงินหรือรวมไปถึงวิธีการคำนวณเงินเย็นเป็นเงินบาท และที่สำคัญจะพลาดไม่ได้เลยนะคะก็ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางในญี่ปุ่น มีบอกรายละเอียดเกือบหมดเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นรถไฟ ต้องปฏิบัติอย่างไร ที่ขายตั๋วโดยสาร มีบอกถึงเรื่องมารยาทในการโดยสารรถไฟญี่ปุ่นเลยนะคะ และอื่นๆที่สำคัญค่ะ มีไปถึงเรื่องการขึ้นรถเมล์ และรถแท็กซี่ในญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ แถมยังแนะนำที่พักในญี่ปุ่นแล้วจะลืมไม่ได้เลยนะคะคือการอาบน้ำแร่และการแช่น้ำพุร้อนค่ะ ไม่งั้นนี่ถือว่าไปไม่ถึงญี่ปุ่นกันเลย ในเล่มก็จะมีบอกเกี่ยวกับพวกป้ายต่างๆ คำเตือนตามสถานที่ต่างๆด้วยนะคะ ตอนท้ายของเล่มยังแอบมีบอกเรื่องรวมแหล่ง กิน ช็อป เที่ยว ในย่านที่ฮิตที่สุดในโตเกียวด้วยล่ะค่ะ สรุปว่าพออ่านแล้วอยากไปไวๆเลยอ่ะ สำหรับผู้ที่สนใจที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ขอแนะนำเลยนะคะ หนังสือเล่มนี้มีบอกรายละเอียดที่สำคัญๆไว้เกือบหมดเลยค่ะ ขนาดเล็กเหมาะสำหรับพกพาไปไหนมาไหนด้วยค่ะ ราคาก็ไม่แพง รายละเอียดภายในก็เข้าใจง่ายค่ะไม่วิชาการอัดแน่นเกินไปจนมันกลายเป็นความน่าเบื่อแล้วทำให้ไม่อยากอ่าน แถมเนื้อหาบางช่วงบางตอนก็จะมีรูปภาพจริงประกอบด้วยให้ดูตามไปด้วยทำให้เราไม่ต้องคอยจินตนาการไปเองเลยค่ะ หรือจะใช้ไว้อ่านเพื่อศึกษาภาษาญี่ปุ่นเฉยๆก็ยังได้นะคะ จำง่ายดีค่ะแต่กรณีนี้หนังสือเล่มนี้เนื้อหาคงไม่ค่อยครบครันมากเท่าไหร่สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนแบบจริงจังนะคะ

วันนี้จะมาแนะนำหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ อ่านแล้วได้ความสนุกสนานแถมยังได้ความรู้ต่างๆที่คุณผู้อ่านบางท่านอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อนเกี่ยวกับประเทศเกาหลีอีกด้วย ในปัจจุบันนี้เชื่อว่าหลายๆคนก็คงจะนิยมอะไรหลายๆอย่างที่เป็นเกาหลีอยู่ด้วยใช่มั้ยละคะ ไม่ว่าจะเป็นดารานักร้อง รวมไปถึงซีรีส์เกาหลีอีกหลายๆเรื่องเลย ตัวผู้อ่านเองคิดว่าคงจะเป็นประเทศที่ใครต่อใครหลายคนใฝ่ฝันว่าอยากจะบินไปเที่ยว ไปช้อปปิ้งซื้อเครื่องสำอางต่างๆนาๆ(อันนี้สำหรับคุณผู้อ่านเพศหญิง)ให้ได้ใช่มั้ยล่ะคะ ตัวผู้อ่านเองก็อยากจะไปเที่ยวให้ได้สักครั้งเหมือนกันค่ะ เลยขอมาศึกษาดูซะหน่อย หนังสือเล่มนี้คือ กบนอกกะลา ตอน กิมจิ ตอนนี้เป็นตอนที่ 121 แล้วนะคะ ที่ตัวผู้อ่านเองสะดุดตาแล้วเอามาอ่านคงจะหนีไม่พ้นเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับประเทศเกาหลีเนี่ยแหละค่ะ ชื่อตอนก็บอกอยู่แล้วนะคะ ว่ากิมจิ เนื้อหาในเล่มก็จะพูดถึง กิมจิซึ่งเป็นอาหารประจำชาติของที่นี่เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะชาวเกาหลีส่วนใหญ่จะชอบมากๆสามารถกินได้ทุกวันเลยอ่ะ แต่ส่วนมากพวกเขาจะนิยมเก็บไว้กินช่วงฤดูหนาว ชอบจนถึงขนาดที่มีการจัด เทศกาลกิมจิขึ้นมาเลยนะคะ ตัวผู้อ่านเคยลองกินนะคะก็พอกินได้ค่ะ แต่ทุกวันนี่อาจจะไม่ไหวจริงๆ 555 ในเล่มก็จะมีการเล่าเรื่องตั้งแต่เริ่มไปเที่ยวเกาหลี ความเป็นมาของเทศกาลกิมจิ แอบมีประวัติเกี่ยวกับเรื่องผีๆที่เล่าลือกันมาว่าน่ากลัวมากของเกาหลีด้วยนะคะ แถมยังมีสูตรเครื่องปรุงลับที่ใช้ทำกิมจิอีกต่างหาก โดยส่วนตัวตัวผู้อ่านเองชอบหนังสือการ์ตูนประเภทออกแนวสารคดีประวัติศาตสตร์อยู่แล้วด้วยค่ะ เพราะถ้าให้อ่านแบบรายละเอียดเยอะๆเป็นเล่มๆจะรู้สึกว่าเบื่อค่ะ แต่หนังสือเล่มนี้ไม่ทำให้เบื่อเลยเพราะเป็นการเล่าแบบที่ใช้ภาพการ์ตูนพร้อมทั้งมีตัวละครสมมติน่ารักๆทำให้มีสีสันน่าอ่านมากเลย อ่านง่ายเนื้อหาไม่เยอะบอกเล่าให้เข้าใจผ่านรูปภาพ มีการบรรยายประวัติศาสตร์และความเป็นมาของหัวเรื่องต่างๆได้อย่างเข้าใจง่าย ขอแนะนำเลยนะคะเพราะว่าเป็นหนังสือที่สามารถอ่านได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ คุณพ่อคุณแม่ซื้อให้คุณลูกอ่านก็ดีนะคะทำให้เขาได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แถมยังได้ความรู้อีกด้วย ดีกว่าให้เล่นเกมอยู่แต่กับหน้าจอคอมคิดว่าหนังสือแบบนี้เด็กๆคงจะชอบค่ะ แถมยังได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากๆด้วย ราคาก็ไม่แพงนะคะ เพราะเป็นภาพสีทั้งเล่มอ่านไปก็จินตนาการไปเพลินๆดีค่ะ

วันนี้จะมาแนะนำหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ อ่านแล้วได้ความสนุกสนานแถมยังได้ความรู้ต่างๆที่คุณผู้อ่านบางท่านอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อนเกี่ยวกับประเทศเกาหลีอีกด้วย ในปัจจุบันนี้เชื่อว่าหลายๆคนก็คงจะนิยมอะไรหลายๆอย่างที่เป็นเกาหลีอยู่ด้วยใช่มั้ยละคะ ไม่ว่าจะเป็นดารานักร้อง รวมไปถึงซีรีส์เกาหลีอีกหลายๆเรื่องเลย ตัวผู้อ่านเองคิดว่าคงจะเป็นประเทศที่ใครต่อใครหลายคนใฝ่ฝันว่าอยากจะบินไปเที่ยว ไปช้อปปิ้งซื้อเครื่องสำอางต่างๆนาๆ(อันนี้สำหรับคุณผู้อ่านเพศหญิง)ให้ได้ใช่มั้ยล่ะคะ ตัวผู้อ่านเองก็อยากจะไปเที่ยวให้ได้สักครั้งเหมือนกันค่ะ เลยขอมาศึกษาดูซะหน่อย หนังสือเล่มนี้คือ กบนอกกะลา ตอน กิมจิ ตอนนี้เป็นตอนที่ 121 แล้วนะคะ ที่ตัวผู้อ่านเองสะดุดตาแล้วเอามาอ่านคงจะหนีไม่พ้นเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับประเทศเกาหลีเนี่ยแหละค่ะ ชื่อตอนก็บอกอยู่แล้วนะคะ ว่ากิมจิ เนื้อหาในเล่มก็จะพูดถึง กิมจิซึ่งเป็นอาหารประจำชาติของที่นี่เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะชาวเกาหลีส่วนใหญ่จะชอบมากๆสามารถกินได้ทุกวันเลยอ่ะ แต่ส่วนมากพวกเขาจะนิยมเก็บไว้กินช่วงฤดูหนาว ชอบจนถึงขนาดที่มีการจัด เทศกาลกิมจิขึ้นมาเลยนะคะ ตัวผู้อ่านเคยลองกินนะคะก็พอกินได้ค่ะ แต่ทุกวันนี่อาจจะไม่ไหวจริงๆ 555 ในเล่มก็จะมีการเล่าเรื่องตั้งแต่เริ่มไปเที่ยวเกาหลี ความเป็นมาของเทศกาลกิมจิ แอบมีประวัติเกี่ยวกับเรื่องผีๆที่เล่าลือกันมาว่าน่ากลัวมากของเกาหลีด้วยนะคะ แถมยังมีสูตรเครื่องปรุงลับที่ใช้ทำกิมจิอีกต่างหาก โดยส่วนตัวตัวผู้อ่านเองชอบหนังสือการ์ตูนประเภทออกแนวสารคดีประวัติศาตสตร์อยู่แล้วด้วยค่ะ เพราะถ้าให้อ่านแบบรายละเอียดเยอะๆเป็นเล่มๆจะรู้สึกว่าเบื่อค่ะ แต่หนังสือเล่มนี้ไม่ทำให้เบื่อเลยเพราะเป็นการเล่าแบบที่ใช้ภาพการ์ตูนพร้อมทั้งมีตัวละครสมมติน่ารักๆทำให้มีสีสันน่าอ่านมากเลย อ่านง่ายเนื้อหาไม่เยอะบอกเล่าให้เข้าใจผ่านรูปภาพ มีการบรรยายประวัติศาสตร์และความเป็นมาของหัวเรื่องต่างๆได้อย่างเข้าใจง่าย ขอแนะนำเลยนะคะเพราะว่าเป็นหนังสือที่สามารถอ่านได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ คุณพ่อคุณแม่ซื้อให้คุณลูกอ่านก็ดีนะคะทำให้เขาได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แถมยังได้ความรู้อีกด้วย ดีกว่าให้เล่นเกมอยู่แต่กับหน้าจอคอมคิดว่าหนังสือแบบนี้เด็กๆคงจะชอบค่ะ แถมยังได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากๆด้วย ราคาก็ไม่แพงนะคะ เพราะเป็นภาพสีทั้งเล่มอ่านไปก็จินตนาการไปเพลินๆดีค่ะ

วันนี้มาเอาใจคุณผู้อ่านที่รักสุขภาพกันอีกแล้วนะคะ กับหนังสือเล่มนี้เลย “ น้ำ พลังมหัศจรรย์เพื่อสุขภาพดี” หลายๆคนคงทราบดีนะคะว่าน้ำมีความสำคัญต่อร่างกายมากเพียงใด สำหรับผู้ที่ดื่มน้ำมากๆก็จะช่วยทำให้ดูอ่อนเยาว์ ผิวพรรณเปล่งปลั่งชุ่มชื่น ไม่แห้ง ไม่ลอก แถมยังหาง่ายและราคาถูกแบบสุดๆ ในร่างกายของคนเราก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบร่วมอยู่ด้วยค่ะ หนังสือเล่มนี้มีประโยชน์อย่างมากเลยล่ะค่ะ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งใกล้ๆตัวที่เราดื่มกันเป็นประจำ หัวข้อหลักๆขอเรื่องนะคะ ยกตัวอย่างเช่น พลังบำบัดของน้ำ ความสำคัญของน้ำต่อสุขภาพ ความสัมพันธ์ของน้ำที่จะช่วยบรรเทาโรคภัยต่างๆ วารีบำบัด การแช่น้ำ เป็นต้น เป็นไงล่ะคะแค่หัวข้อในเล่มก็น่าสนใจมากๆแล้วใช่มั้ยคะ โดยส่วนตัวแล้วผู้อ่านเองคิดว่าหนังสือเล่มนี้มีประโยชน์เหมาะสำหรับคุณผู้อ่านทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ เพราะว่าเนื้อหาในหนังสือได้บอกให้คุณผู้อ่านได้รับรู้ถึงความสำคัญของน้ำ แถมในเล่มยังมีแนะนำถึงปริมาณที่ควรดื่มในแต่ละวัน เวลาไหนที่ควรดื่มน้ำมากเวลาไหนที่ไม่ควรดื่มน้ำเยอะๆจะทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ รวมไปถึงประโยชน์อื่นๆของน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำร้อน น้ำเย็น รวมไปถึงน้ำแข็งอีกด้วย และยังได้มีเนื้อหาของวิธีการบำบัดรักษาโรคต่างๆได้ด้วยน้ำ (คือตอนผู้อ่านเองอ่านมาถึงก็แอบงงว่าแค่น้ำเนี่ยยะมันรักษาโรคได้ด้วยหรอ) ยิ่งหัวข้อวารีบำบัดนี่ยิ่งน่าสนใจมาก เพราะว่าไม่รู้จักมาก่อนค่ะว่ามันคืออะไรหว่า วารีบำบัดเนี่ย เมื่อได้อ่านรายละเอียดแล้วก็ค่อยหายสงสัยค่ะ แถมคุณผู้อ่านทุกท่านยังจะได้ทราบถึงอาการต่างๆเวลาร่างกายของเราขาดน้ำทั้งแบบธรรมดาและแบบเรื้อรังว่าจะมีอาการอย่างไร ทำให้มีผลเสียต่อสุขภาพแค่ไหน แล้วควรจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เห็นมั้ยล่ะคะว่าหนังสือเล่มนี้ช่วยแก้ไขข้อข้องใจ และยังทำให้เรารู้จักกับความสำคัญของสิ่งที่เราพบเจอทั่วไปในชีวิตประจำวันของเราอีกด้วยค่ะ ราคาก็ไม่แพงเลยนะคะ เนื้อหาไม่เยอะมากค่ะอ่านแค่แป๊บเดียวก็จบแล้ว แถมยังมีการบรรยายเป็นหัวข้อต่างๆทำให้ทำความเข้าใจได้ง่ายเนื้อหาของแต่ละหัวข้อก็ไม่เยอะจนทำให้ขี้เกียจอ่านค่ะ ขนาดของหนังสือเล่มนี้ก็เล็กกะทัดรัดสามารถพกพาไปอ่านนอกบ้านได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างสะดวกสบายเลยค่ะ แนะนำสำหรับผู้ที่สุขภาพยังไม่ค่อยแข็งแรง หรือผู้ที่อยากดูเด็กกว่าวัย มีผิวสวยให้ลองซื้อมาอ่านดูนะคะแล้วจะรู้ว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

วันนี้มาเอาใจคุณผู้อ่านที่รักสุขภาพกันอีกแล้วนะคะ กับหนังสือเล่มนี้เลย “ น้ำ พลังมหัศจรรย์เพื่อสุขภาพดี” หลายๆคนคงทราบดีนะคะว่าน้ำมีความสำคัญต่อร่างกายมากเพียงใด สำหรับผู้ที่ดื่มน้ำมากๆก็จะช่วยทำให้ดูอ่อนเยาว์ ผิวพรรณเปล่งปลั่งชุ่มชื่น ไม่แห้ง ไม่ลอก แถมยังหาง่ายและราคาถูกแบบสุดๆ ในร่างกายของคนเราก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบร่วมอยู่ด้วยค่ะ หนังสือเล่มนี้มีประโยชน์อย่างมากเลยล่ะค่ะ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งใกล้ๆตัวที่เราดื่มกันเป็นประจำ หัวข้อหลักๆขอเรื่องนะคะ ยกตัวอย่างเช่น พลังบำบัดของน้ำ ความสำคัญของน้ำต่อสุขภาพ ความสัมพันธ์ของน้ำที่จะช่วยบรรเทาโรคภัยต่างๆ วารีบำบัด การแช่น้ำ เป็นต้น เป็นไงล่ะคะแค่หัวข้อในเล่มก็น่าสนใจมากๆแล้วใช่มั้ยคะ โดยส่วนตัวแล้วผู้อ่านเองคิดว่าหนังสือเล่มนี้มีประโยชน์เหมาะสำหรับคุณผู้อ่านทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ เพราะว่าเนื้อหาในหนังสือได้บอกให้คุณผู้อ่านได้รับรู้ถึงความสำคัญของน้ำ แถมในเล่มยังมีแนะนำถึงปริมาณที่ควรดื่มในแต่ละวัน เวลาไหนที่ควรดื่มน้ำมากเวลาไหนที่ไม่ควรดื่มน้ำเยอะๆจะทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ รวมไปถึงประโยชน์อื่นๆของน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำร้อน น้ำเย็น รวมไปถึงน้ำแข็งอีกด้วย และยังได้มีเนื้อหาของวิธีการบำบัดรักษาโรคต่างๆได้ด้วยน้ำ (คือตอนผู้อ่านเองอ่านมาถึงก็แอบงงว่าแค่น้ำเนี่ยยะมันรักษาโรคได้ด้วยหรอ) ยิ่งหัวข้อวารีบำบัดนี่ยิ่งน่าสนใจมาก เพราะว่าไม่รู้จักมาก่อนค่ะว่ามันคืออะไรหว่า วารีบำบัดเนี่ย เมื่อได้อ่านรายละเอียดแล้วก็ค่อยหายสงสัยค่ะ แถมคุณผู้อ่านทุกท่านยังจะได้ทราบถึงอาการต่างๆเวลาร่างกายของเราขาดน้ำทั้งแบบธรรมดาและแบบเรื้อรังว่าจะมีอาการอย่างไร ทำให้มีผลเสียต่อสุขภาพแค่ไหน แล้วควรจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เห็นมั้ยล่ะคะว่าหนังสือเล่มนี้ช่วยแก้ไขข้อข้องใจ และยังทำให้เรารู้จักกับความสำคัญของสิ่งที่เราพบเจอทั่วไปในชีวิตประจำวันของเราอีกด้วยค่ะ ราคาก็ไม่แพงเลยนะคะ เนื้อหาไม่เยอะมากค่ะอ่านแค่แป๊บเดียวก็จบแล้ว แถมยังมีการบรรยายเป็นหัวข้อต่างๆทำให้ทำความเข้าใจได้ง่ายเนื้อหาของแต่ละหัวข้อก็ไม่เยอะจนทำให้ขี้เกียจอ่านค่ะ ขนาดของหนังสือเล่มนี้ก็เล็กกะทัดรัดสามารถพกพาไปอ่านนอกบ้านได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างสะดวกสบายเลยค่ะ แนะนำสำหรับผู้ที่สุขภาพยังไม่ค่อยแข็งแรง หรือผู้ที่อยากดูเด็กกว่าวัย มีผิวสวยให้ลองซื้อมาอ่านดูนะคะแล้วจะรู้ว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

วันนี้ขอรีวิวหนังสือเอาใจคุณผู้อ่านในกลุ่มสาวๆกันหน่อยดีกว่าค่ะ เผื่อคุณผู้อ่านคนไหนกำลังมองหาคู่มือความสวยงามและการดูแลรูปร่างตัวเองแบบทำง่ายๆราคาสบายกระเป๋าด้วยตัวเองอยู่ ขอแนะนำเล่มนี้เลยค่ะ “227 วิธีทำสวย ผอม โดยไม่เสียตังค์(เยอะ)” คุณผู้อ่านหลายคนอาจจะแอบสงสัยว่าทำไมตัวผู้อ่านเองชอบรีวิวหนังสือประเภทนี้บ่อยจัง ตอบได้คำเดียวเลยค่ะเพราะเป็นผู้หญิงนี่คะก็ต้อวอยากสวยบ้างเป็นธรรมดา แต่ต้องสวยแบบประหยัดงบนะคะ 555 เพราะทุกวันนี้เดินไปไหนมาไหนเราก็จะเห็นแต่คนสวยๆเต็มไปหมดเลยอ่ะ แล้วก็กลับมาคิดว่านี่เขาสวยจริงหรือทำศัลยกรรมมากันแน่นะ อารมณ์ก็เลยประมาณว่าเค้าอยากสวยมั่งง่ะ แต่ไม่มีตังทำศัลยกรรมก็เลยต้องค่อยๆดูแลตัวเองไปเรื่อยๆดีกว่า ส่วนเนื้อหาในเล่มนี้ก็จะพูดถึงอาหารการกิน โดยจะบอกหัวข้อ อาหารที่กินแล้วสวยกับอาหารที่ยิ่งกินยิ่งให้โทษ รายละเอียดคร่าวๆก็จะอธิบายถึงอาหารที่ควรจะรับประทานคือจะได้ประโยชน์อย่างไร แล้วก็ควรทานอาหารประเภทไหน และก็อาหารประเภทใดที่ไม่ควรกิน เมื่อกินไปแล้วจะทำลายทั้งสุขภาพ ทำให้สะสมก่อเกิดโรค และยังทำให้อ้วนอีกด้วย และก็จะมีการ Mix&Match การแต่งตัว เพราะตัวผู้อ่านเองเชื่อว่าในตู้เสื้อผ้าของสาวๆทุกคนเนี่ยจะต้องมีเสื้อผ้าเก็บอยู่มากมายจนเลือกใส่ไม่ถูกเลยใช้มั้ยล่ะค่ะ หนังสือเล่มนี้จะทำให้การนำเอาเสื้อผ้าแต่ละชุดมาปรับเปลี่ยนใส่ให้เข้ากันโดยไม่ตกยุค เพราะแฟชั่นเนี่ยเป็นสิ่งที่มาไวไปไวเป็นอย่างมาก จะให้เสียเงินซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆตามทุกครั้งมันก็ดูจะเป็นการสิ้นเปลืองมากๆเลยใช่มั้ยล่ะคะ เพราะบางครั้งเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้เนี่ยใส่เพียงแค่ครั้งสองครั้งเองค่ะ พอแฟชั่นมาใหม่ก็ซื้อใหม่ไปเรื่อยๆ สรุปเลยนะคะหนังสือเล่มนี้จะเป็นทางออกให้สาวๆที่ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดได้ดีทีเดียวเลยล่ะค่ะ เป็นอีกเล่มหนึ่งที่ตัวผู้อ่านเองปลื้มและปฏิบัติตามอยู่บ้างค่ะ ส่วนเรื่องราคานี่ก็ถือว่าไม่แพงนะคะ คิดว่าคุ้มอยู่ที่จะซื้อมาค่ะ อ่านไปเรื่อยๆทำตามไปเรื่อยๆเท่านี้คุณผู้อ่านที่รักสุขภาพและความสวยงามทุกท่านก็จะมีทั้งสุขภาพ และวินัยในการรับประทานที่ดี ทำให้หุ่นสวยเป๊ะ แถมยังได้สูตรการเลือกเสื้อผ้าในตู้มา Mix&Match กันด้วยนะคะ ในเล่มเนื้อหาก็จะเป็นการเล่ารายละเอียดแบบบรรยายมากกว่าค่ะ มีรูปภาพให้ดูนิดหน่อยได้เนื้อความเน้นๆเลยล่ะค่ะ เห็นมั้ยล่ะคะว่ามีประโยชน์จริงๆค่ะ

วันนี้ขอรีวิวหนังสือเอาใจคุณผู้อ่านในกลุ่มสาวๆกันหน่อยดีกว่าค่ะ เผื่อคุณผู้อ่านคนไหนกำลังมองหาคู่มือความสวยงามและการดูแลรูปร่างตัวเองแบบทำง่ายๆราคาสบายกระเป๋าด้วยตัวเองอยู่ ขอแนะนำเล่มนี้เลยค่ะ “227 วิธีทำสวย ผอม โดยไม่เสียตังค์(เยอะ)” คุณผู้อ่านหลายคนอาจจะแอบสงสัยว่าทำไมตัวผู้อ่านเองชอบรีวิวหนังสือประเภทนี้บ่อยจัง ตอบได้คำเดียวเลยค่ะเพราะเป็นผู้หญิงนี่คะก็ต้อวอยากสวยบ้างเป็นธรรมดา แต่ต้องสวยแบบประหยัดงบนะคะ 555 เพราะทุกวันนี้เดินไปไหนมาไหนเราก็จะเห็นแต่คนสวยๆเต็มไปหมดเลยอ่ะ แล้วก็กลับมาคิดว่านี่เขาสวยจริงหรือทำศัลยกรรมมากันแน่นะ อารมณ์ก็เลยประมาณว่าเค้าอยากสวยมั่งง่ะ แต่ไม่มีตังทำศัลยกรรมก็เลยต้องค่อยๆดูแลตัวเองไปเรื่อยๆดีกว่า ส่วนเนื้อหาในเล่มนี้ก็จะพูดถึงอาหารการกิน โดยจะบอกหัวข้อ อาหารที่กินแล้วสวยกับอาหารที่ยิ่งกินยิ่งให้โทษ รายละเอียดคร่าวๆก็จะอธิบายถึงอาหารที่ควรจะรับประทานคือจะได้ประโยชน์อย่างไร แล้วก็ควรทานอาหารประเภทไหน และก็อาหารประเภทใดที่ไม่ควรกิน เมื่อกินไปแล้วจะทำลายทั้งสุขภาพ ทำให้สะสมก่อเกิดโรค และยังทำให้อ้วนอีกด้วย และก็จะมีการ Mix&Match การแต่งตัว เพราะตัวผู้อ่านเองเชื่อว่าในตู้เสื้อผ้าของสาวๆทุกคนเนี่ยจะต้องมีเสื้อผ้าเก็บอยู่มากมายจนเลือกใส่ไม่ถูกเลยใช้มั้ยล่ะค่ะ หนังสือเล่มนี้จะทำให้การนำเอาเสื้อผ้าแต่ละชุดมาปรับเปลี่ยนใส่ให้เข้ากันโดยไม่ตกยุค เพราะแฟชั่นเนี่ยเป็นสิ่งที่มาไวไปไวเป็นอย่างมาก จะให้เสียเงินซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆตามทุกครั้งมันก็ดูจะเป็นการสิ้นเปลืองมากๆเลยใช่มั้ยล่ะคะ เพราะบางครั้งเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้เนี่ยใส่เพียงแค่ครั้งสองครั้งเองค่ะ พอแฟชั่นมาใหม่ก็ซื้อใหม่ไปเรื่อยๆ สรุปเลยนะคะหนังสือเล่มนี้จะเป็นทางออกให้สาวๆที่ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดได้ดีทีเดียวเลยล่ะค่ะ เป็นอีกเล่มหนึ่งที่ตัวผู้อ่านเองปลื้มและปฏิบัติตามอยู่บ้างค่ะ ส่วนเรื่องราคานี่ก็ถือว่าไม่แพงนะคะ คิดว่าคุ้มอยู่ที่จะซื้อมาค่ะ อ่านไปเรื่อยๆทำตามไปเรื่อยๆเท่านี้คุณผู้อ่านที่รักสุขภาพและความสวยงามทุกท่านก็จะมีทั้งสุขภาพ และวินัยในการรับประทานที่ดี ทำให้หุ่นสวยเป๊ะ แถมยังได้สูตรการเลือกเสื้อผ้าในตู้มา Mix&Match กันด้วยนะคะ ในเล่มเนื้อหาก็จะเป็นการเล่ารายละเอียดแบบบรรยายมากกว่าค่ะ มีรูปภาพให้ดูนิดหน่อยได้เนื้อความเน้นๆเลยล่ะค่ะ เห็นมั้ยล่ะคะว่ามีประโยชน์จริงๆค่ะ

สำหรับนิยายเรื่องนี้นะคะที่ตัดสินใจเอามาอ่านเลยก็เพราะชื่อเรื่องเลยค่ะ เรื่องนี้เลยค่ะ "วิญญาณป่วนรัก" ผลงานสนุกๆจากผู้แต่ง อรพิม แบบว่าคือความรู้สึกแรกที่เห็นชื่อหนังสือเลยนะคะ คือ นางเอกเป็นผีหรอหรือว่ายังไงอ่ะมันน่าสนใจดีนะ ว่าแล้วก็ขอหยิบเอามาอ่านซะหน่อยดีกว่า เรามาเริ่มเนื้อหาคร่าวๆของเรื่องนี้กันเลยดีกว่าค่ะ เรื่องราวจะเริ่มขึ้นโดยมีพี่น้องหญิงสาวฝาดแฝดคู่หนึ่ง ทั้งคู่มีชื่อที่คล้ายกัน ผู้เป็นแฝดพี่ชื่อว่า “ขอขวัญ” ส่วนแฝดคนน้องมีชื่อว่า “เข็มขาว” แต่สาเหตุของเรื่องราววุ่นวายทั้งหมดมันไม่ได้เกิดจากสองสาวนี้นะคะ มันเกิดจากคุณยมทูต(มีเรื่องลึกลับมาเกี่ยวอีกแล้วๆ) ที่เพิ่งเริ่มทำงานได้แป๊บเดียวเรียกง่ายๆว่าเป็นยมทูตมือใหม่ไฟแรง(เอ่อ...ยมทูตนี่เขามีมือใหม่ด้วยหรอเป็นความคิดส่วนตัวค่ะอิอิ) ดันเอาวิญญาณมาผิดนี่สิคะ ซึ่งจริงๆแล้ววิญญาณที่ยมทูตจะต้องเอามานั้นคือวิญญาณของขอขวัญ แต่นี้ไม่รู้ว่าด้วยความที่เป็นฝาแฝดกันหรือเปล่าทำให้สับสนดันไปเอาวิญญาณของเข็มขาวมาแทนนี่สิ เรื่องวุ่นๆมันก็เลยตามมาตั้งแต่ตรงนี้เลยล่ะค่ะ เพราะด้วยความที่เป็นวิญญาณเข็มขาวจึงได้ไปแอบเห็นคดีฆาตกรรมที่ร้ายไปกว่านั้นคนที่จะถูกฆาตกรรมดันมาเป็นขอขวัญพี่สาวขอเธอซะด้วยสิ ตอนแรกว่าจะให้ การันย์ เพื่อนคนสนิทมาช่วยพี่สาวตนเองแต่ตอนนี้เข็มขาวเป็นวิญญาณอยู่เนี่ยสิ ความช่วยเหลือนี้จึงจะไปตกอยู่ที่ วศิน คุณผู้อ่านเริ่มจะสงสัยแล้วใช่มั้ยล่ะคะว่าทำไม การันย์ช่วยไม่ได้แต่วศินช่วยได้ ลองไปซื้อหามาอ่านกันดูนะคะรับรองไม่มีผิดหวังแน่นอนค่ะ โดยเรื่องนี้มีการฆาตกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทำให้มีการสืบคดีต่างๆ เนื้อเรื่องเลยจะออกแนวสืบสวนสอบสวนบวกกับความรักกุ๊กกิ๊กของพระเอกนางเอกทั้งสองคู่ ลืมบอกไปค่ะว่าความน่าสนใจของเรื่องนี้คือมีพระเอกนางเอกสองคู่เลยล่ะคะ อ่านไปก็ลุ้นไปนะคะว่าเรื่องราวตอนจบมันจะเป็นอย่างไร สังสัยด้วยนะคะว่าสรุปใครกันแน่ที่เป็นคนร้ายที่จ้องจะเอาชีวิตของขอขวัญ เนื้อเรื่องบางตอนก็อาจจะทำให้คุณผู้อ่านสับสนนะคะแต่อ่านไปก็จะค่อยๆเฉลยออกมาเองค่ะ แล้วทั้งสี่คู่เนี่ยจะมาลงเอยกันได้อย่างไร สำหรับคุณผู้อ่านที่ชอบนิยายแนวสืบเรื่องต่างๆมีฉากแอบหวานๆของแต่ละคู่พระนาง แนะนำเลยค่ะ เป็นนิยายที่สนุกอ่านแล้วอารมณ์ดีเหมาะกับคุณผู้อ่านทุกเพศทักวัยเลยค่ะ

สำหรับนิยายเรื่องนี้นะคะที่ตัดสินใจเอามาอ่านเลยก็เพราะชื่อเรื่องเลยค่ะ เรื่องนี้เลยค่ะ "วิญญาณป่วนรัก" ผลงานสนุกๆจากผู้แต่ง อรพิม แบบว่าคือความรู้สึกแรกที่เห็นชื่อหนังสือเลยนะคะ คือ นางเอกเป็นผีหรอหรือว่ายังไงอ่ะมันน่าสนใจดีนะ ว่าแล้วก็ขอหยิบเอามาอ่านซะหน่อยดีกว่า เรามาเริ่มเนื้อหาคร่าวๆของเรื่องนี้กันเลยดีกว่าค่ะ เรื่องราวจะเริ่มขึ้นโดยมีพี่น้องหญิงสาวฝาดแฝดคู่หนึ่ง ทั้งคู่มีชื่อที่คล้ายกัน ผู้เป็นแฝดพี่ชื่อว่า “ขอขวัญ” ส่วนแฝดคนน้องมีชื่อว่า “เข็มขาว” แต่สาเหตุของเรื่องราววุ่นวายทั้งหมดมันไม่ได้เกิดจากสองสาวนี้นะคะ มันเกิดจากคุณยมทูต(มีเรื่องลึกลับมาเกี่ยวอีกแล้วๆ) ที่เพิ่งเริ่มทำงานได้แป๊บเดียวเรียกง่ายๆว่าเป็นยมทูตมือใหม่ไฟแรง(เอ่อ...ยมทูตนี่เขามีมือใหม่ด้วยหรอเป็นความคิดส่วนตัวค่ะอิอิ) ดันเอาวิญญาณมาผิดนี่สิคะ ซึ่งจริงๆแล้ววิญญาณที่ยมทูตจะต้องเอามานั้นคือวิญญาณของขอขวัญ แต่นี้ไม่รู้ว่าด้วยความที่เป็นฝาแฝดกันหรือเปล่าทำให้สับสนดันไปเอาวิญญาณของเข็มขาวมาแทนนี่สิ เรื่องวุ่นๆมันก็เลยตามมาตั้งแต่ตรงนี้เลยล่ะค่ะ เพราะด้วยความที่เป็นวิญญาณเข็มขาวจึงได้ไปแอบเห็นคดีฆาตกรรมที่ร้ายไปกว่านั้นคนที่จะถูกฆาตกรรมดันมาเป็นขอขวัญพี่สาวขอเธอซะด้วยสิ ตอนแรกว่าจะให้ การันย์ เพื่อนคนสนิทมาช่วยพี่สาวตนเองแต่ตอนนี้เข็มขาวเป็นวิญญาณอยู่เนี่ยสิ ความช่วยเหลือนี้จึงจะไปตกอยู่ที่ วศิน คุณผู้อ่านเริ่มจะสงสัยแล้วใช่มั้ยล่ะคะว่าทำไม การันย์ช่วยไม่ได้แต่วศินช่วยได้ ลองไปซื้อหามาอ่านกันดูนะคะรับรองไม่มีผิดหวังแน่นอนค่ะ โดยเรื่องนี้มีการฆาตกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทำให้มีการสืบคดีต่างๆ เนื้อเรื่องเลยจะออกแนวสืบสวนสอบสวนบวกกับความรักกุ๊กกิ๊กของพระเอกนางเอกทั้งสองคู่ ลืมบอกไปค่ะว่าความน่าสนใจของเรื่องนี้คือมีพระเอกนางเอกสองคู่เลยล่ะคะ อ่านไปก็ลุ้นไปนะคะว่าเรื่องราวตอนจบมันจะเป็นอย่างไร สังสัยด้วยนะคะว่าสรุปใครกันแน่ที่เป็นคนร้ายที่จ้องจะเอาชีวิตของขอขวัญ เนื้อเรื่องบางตอนก็อาจจะทำให้คุณผู้อ่านสับสนนะคะแต่อ่านไปก็จะค่อยๆเฉลยออกมาเองค่ะ แล้วทั้งสี่คู่เนี่ยจะมาลงเอยกันได้อย่างไร สำหรับคุณผู้อ่านที่ชอบนิยายแนวสืบเรื่องต่างๆมีฉากแอบหวานๆของแต่ละคู่พระนาง แนะนำเลยค่ะ เป็นนิยายที่สนุกอ่านแล้วอารมณ์ดีเหมาะกับคุณผู้อ่านทุกเพศทักวัยเลยค่ะ

เป็นนิยายเรื่องแรกเลยอ่ะที่จบแบบคาดไม่ถึง ไม่ขอบอกดีว่าว่าตอนจบเป็นแบบไหน แต่บอกได้ว่าเศร้าสุดๆล่ะค่ะ กับเรื่อง “Raindrop in Winter กาลครั้งหนึ่งหัวใจ...หยุดไว้ที่เธอ” บอกตรงๆเลยนะคะว่าแค่ชื่อเรื่องนี่เดาเรื่องไม่ถูกจริงๆค่ะ เริ่มเรื่องมาก็จะเล่าถึงนางเอกของเรื่อง “รินะ” เธอเป็นนักดนตรีค่ะ เป็นที่มีความเพียบพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นฐานะทางบ้าน หน้าที่การงาน และรวมไปถึงรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม และยังมีผู้ชายที่รักเธอและคอยดูแลเธอเป็นอย่างดี แต่เธอก็รู้สึกว่ามันน่าเบื่อผู้ชายคนนี้ถึงจะดีกับเธอมากแต่ก็ยังไม่ใช่คนที่เธอรัก จนวันหนึ่งเธอได้ฝันถึงสถานที่แปลกๆแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งที่เธอต้องการ ในระหว่าที่เธอกำลังกลับไปยังคอนโดของตัวเองอยู่นั้น เธอได้ยินเสียงกล่องดนตรีแบบเดียวกับที่ได้ยินในความฝันแล้วเดินตามเสียงนั้นไปทันที จนได้มาพบกับกระท่อมหลังเล็กๆเก่าๆหลังหนึ่งในนั้นมีเพียงชั้นวางหนังสือเก่าๆตั้งอยู่เจอหนังสือที่มีรูปกุญแจเมื่อเปิดอ่านไปเรื่อยๆก็ได้เห็นกล่องไม้โบราณวางอยู่ เห็นสร้อยสีเงินอยู่ด้านในจึงตัดสินใจสวมมันแล้วทันใดนั้นก็มีแสงสว่างวาบแล้วพาเธอมายังโลกคู่ขนานชื่อว่า มาบิรุส แล้วเธอก็ได้พบกับ “โรเจอร์” ทั้งคู่รู้สึกดีต่อกันตั้งแต่แรกพบ และนี่เองที่เป็นเหตุการณ์เริ่มเรื่องนี้ มีหลายๆเหตุการณืที่ทำให้ทั้งสองคนต้องไปผจญภัยเพื่อล้างพัธนาการที่รินะได้สัญญาไว้ แต่เมื่อทำสำเร็จก็ได้มีเรื่องราวที่ทำให้ทั้งสองต้องพรากจากกัน โดยส่วนตัวของผู้อ่านเองไม่ค่อยชอบนิยายแนวนี้สักเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีฉากที่ทำให้หัวเราะ จะออกแนวผู้ใหญ่หน่อยๆไม่ใช่นิยายรักวัยรุ่นพระเอกทะเลาะกับนางเอกแล้วสุดท้ายรักกันอะไรประมาณนี้ค่ะ ก็เป็นแบบแหวกแนวที่เคยอ่านดีค่ะไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่สนุกนะคะ นิยายดำเนินเรื่องแบบแนวหวานๆแล้วหักมุกมาเป็นเศร้าซะงั้นมีแฝงการผจญภัยด้วยเล็กน้อย คิดว่าการเลือกซื้อนิยายสักเล่มคงจะเป็นไปตามความชอบของแต่ละคนใช่มั้ยล่ะคะ ส่วนเรื่องนี้ถ้าคุณผู้อ่านที่ชอบนิยายแนวเศร้าๆ การดำเนินเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปแล้วมาพลิกตอนจบที่หลังอาจจะชอบก็ได้ค่ะ ช่วงตอนที่อ่านก็ลุ้นนะคะว่าสรุปแล้วนางเอกจะเลือกใครระหว่างผู้ชายแสนดีที่อยู่ในโลกปัจจุบันกับผู้ชายที่ตนเองรักตั้งแต่แรกเห็นในโลกคู่ขนาน ถ้าคุณผู้อ่านอยากทราบตอนจบก็ลองซื้อหามาอ่านดูนะคะ ก็สนุกไปอีกแบบหนึ่งค่ะ

เป็นนิยายเรื่องแรกเลยอ่ะที่จบแบบคาดไม่ถึง ไม่ขอบอกดีว่าว่าตอนจบเป็นแบบไหน แต่บอกได้ว่าเศร้าสุดๆล่ะค่ะ กับเรื่อง “Raindrop in Winter กาลครั้งหนึ่งหัวใจ...หยุดไว้ที่เธอ” บอกตรงๆเลยนะคะว่าแค่ชื่อเรื่องนี่เดาเรื่องไม่ถูกจริงๆค่ะ เริ่มเรื่องมาก็จะเล่าถึงนางเอกของเรื่อง “รินะ” เธอเป็นนักดนตรีค่ะ เป็นที่มีความเพียบพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นฐานะทางบ้าน หน้าที่การงาน และรวมไปถึงรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม และยังมีผู้ชายที่รักเธอและคอยดูแลเธอเป็นอย่างดี แต่เธอก็รู้สึกว่ามันน่าเบื่อผู้ชายคนนี้ถึงจะดีกับเธอมากแต่ก็ยังไม่ใช่คนที่เธอรัก จนวันหนึ่งเธอได้ฝันถึงสถานที่แปลกๆแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งที่เธอต้องการ ในระหว่าที่เธอกำลังกลับไปยังคอนโดของตัวเองอยู่นั้น เธอได้ยินเสียงกล่องดนตรีแบบเดียวกับที่ได้ยินในความฝันแล้วเดินตามเสียงนั้นไปทันที จนได้มาพบกับกระท่อมหลังเล็กๆเก่าๆหลังหนึ่งในนั้นมีเพียงชั้นวางหนังสือเก่าๆตั้งอยู่เจอหนังสือที่มีรูปกุญแจเมื่อเปิดอ่านไปเรื่อยๆก็ได้เห็นกล่องไม้โบราณวางอยู่ เห็นสร้อยสีเงินอยู่ด้านในจึงตัดสินใจสวมมันแล้วทันใดนั้นก็มีแสงสว่างวาบแล้วพาเธอมายังโลกคู่ขนานชื่อว่า มาบิรุส แล้วเธอก็ได้พบกับ “โรเจอร์” ทั้งคู่รู้สึกดีต่อกันตั้งแต่แรกพบ และนี่เองที่เป็นเหตุการณ์เริ่มเรื่องนี้ มีหลายๆเหตุการณืที่ทำให้ทั้งสองคนต้องไปผจญภัยเพื่อล้างพัธนาการที่รินะได้สัญญาไว้ แต่เมื่อทำสำเร็จก็ได้มีเรื่องราวที่ทำให้ทั้งสองต้องพรากจากกัน โดยส่วนตัวของผู้อ่านเองไม่ค่อยชอบนิยายแนวนี้สักเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีฉากที่ทำให้หัวเราะ จะออกแนวผู้ใหญ่หน่อยๆไม่ใช่นิยายรักวัยรุ่นพระเอกทะเลาะกับนางเอกแล้วสุดท้ายรักกันอะไรประมาณนี้ค่ะ ก็เป็นแบบแหวกแนวที่เคยอ่านดีค่ะไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่สนุกนะคะ นิยายดำเนินเรื่องแบบแนวหวานๆแล้วหักมุกมาเป็นเศร้าซะงั้นมีแฝงการผจญภัยด้วยเล็กน้อย คิดว่าการเลือกซื้อนิยายสักเล่มคงจะเป็นไปตามความชอบของแต่ละคนใช่มั้ยล่ะคะ ส่วนเรื่องนี้ถ้าคุณผู้อ่านที่ชอบนิยายแนวเศร้าๆ การดำเนินเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปแล้วมาพลิกตอนจบที่หลังอาจจะชอบก็ได้ค่ะ ช่วงตอนที่อ่านก็ลุ้นนะคะว่าสรุปแล้วนางเอกจะเลือกใครระหว่างผู้ชายแสนดีที่อยู่ในโลกปัจจุบันกับผู้ชายที่ตนเองรักตั้งแต่แรกเห็นในโลกคู่ขนาน ถ้าคุณผู้อ่านอยากทราบตอนจบก็ลองซื้อหามาอ่านดูนะคะ ก็สนุกไปอีกแบบหนึ่งค่ะ

เนื่องจากเป็นวัยรุ่นยุคใหม่นะคะต้องยอมรับเลยว่าเดี๋ยวนี้เป็นยุคไอทีจริงๆค่ะ มีการติดต่อสื่อสารผ่านทางอินเตอร์เน็ตมากมายหลายรูปแบบ และที่สำคัญเลยนะคะคิดว่าผู้ใช้โทรศัพท์มือถือจะต้องรู้จักเป็นอย่างดีแน่ๆเลยค่ะ กับเจ้า Line ที่มีคนทั่วโลกนั้นต่างโหลดไว้แชทเยอะแยะมาก ส่วนในประเทศไทยนั้นมีประมาณ 15 ล้านคนใช้งานอยู่ ในเมื่อมีความนิยมเยอะขนาดนี้เราก็น่าจะมาทำความรู้จักกับแอพตัวนี้ให้มากขึ้นนะคะ เรามีเรียนรู้วิธีเล่น Line ไปกับหนังสือเล่มนี้กันเลยค่ะ “เล่น Line ง่ายนิดเดียว” โดยเนื้อหาต่างๆของหนังสือเล่มนี้นะคะ จะช่วยตอบปัญหาต่างๆที่คุณผู้อ่านสงสัยในแอพตัวนี้อย่างดีทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่เริ่มต้น ว่า Line รองรับกับอุปกรณ์ใดบ้าง คุณสมบัติเด่นๆที่ทำให้ผู้คนนิยมอย่างมากมาย วิธีลงทะเบียนใช้งานในแบบต่างๆ วิธีลบแอคเคาท์ที่เราไม่ได้ใช้แล้ว การแอดรายชื่อเพื่อนด้วยวิธีต่างๆ การบล็อครายชื่อซ่อนรายชื่อ ตลอดจนถ้าเกิดจะเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่จะทำอย่างไรไม่ให้แชทเก่าๆที่เคยคุยไว้หายไป ไม่ให้รายชื่อเพื่อนที่มีอยู่หาย และเก็บสติ๊กเกอร์ที่ซื้อมาไว้ได้อย่างไร และยังมีการบอกเทคนิคเกี่ยวกับว่าถ้าเราอยากได้สติ๊กเกอร์ไลน์แบบที่ลายน่ารักๆของต่างประเทศจะต้องทำอย่างไร และในเล่มนี้ยังบอกถึงเคล็ดลับวิธีขายของออนไลน์ผ่านแอพนี้ด้วยค่ะ เดี๋ยวนี้กิจการขายของออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมบนโลกออนไลน์มากๆค่ะ เพราะทั้งสะดวกและประหยัดเวลา ไม่ต้องเดินเลือกซื้อตามห้าง ตามตลาดนัดต่างๆอีกต่อไป นอกจะมีแชทแล้วก็ยังมีวิธีใช้ Timeline เจ้าตัวนี้แหละค่ะที่จะเป็นแหล่งข้อมูลให้ลูกค้าได้เข้ามาดูสินค้าของเราที่จะขายออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีพวกแอพเสริมต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น พวกเกมส์ ถ่ายรูป ประมาณนี้นะคะ โดวยส่วนตัวของผู้อ่านเองคิดว่ารายละเอียดเยอะดีค่ะ บอกตั้งแต่เริ่มต้นเลย เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มหัดเล่นเลยล่ะค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนถ้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้จะทำให้เก่งไปเลยล่ะค่ะ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นค่ะเพราะเนื้อหาบางอย่างเราอาจจะยังไม่เคยได้รู้ว่ามันทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ คือรู้ลึกจริงๆค่ะ ตัวเนื้อหาด้านในก็น่ารักสีสันสดใสดีค่ะ อ่านแล้วสบายตาเพราะเป็นสีทั้งเล่ม ก็คุ้มกับราคานะคะ เพราะคิดว่าอนาคตพวกแอพแชทออนไลน์ประเภทนี้ก็คงจะมีออกมาใหม่ๆอีกมากมาย ถ้าเรารู้พื้นฐานแอพไว้บ้างแล้วต่อไปไม่ว่าจะออกมาใหม่เราก็สามารถนำมาประยุต์ใช้ได้เหมือนกันค่ะ หนังสือเล่มนี้และรีวิวก็คงจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ตัดสินใจเลือกซื้อหาหนังสือประเภทนี้อยู่นะคะ...^_^

เนื่องจากเป็นวัยรุ่นยุคใหม่นะคะต้องยอมรับเลยว่าเดี๋ยวนี้เป็นยุคไอทีจริงๆค่ะ มีการติดต่อสื่อสารผ่านทางอินเตอร์เน็ตมากมายหลายรูปแบบ และที่สำคัญเลยนะคะคิดว่าผู้ใช้โทรศัพท์มือถือจะต้องรู้จักเป็นอย่างดีแน่ๆเลยค่ะ กับเจ้า Line ที่มีคนทั่วโลกนั้นต่างโหลดไว้แชทเยอะแยะมาก ส่วนในประเทศไทยนั้นมีประมาณ 15 ล้านคนใช้งานอยู่ ในเมื่อมีความนิยมเยอะขนาดนี้เราก็น่าจะมาทำความรู้จักกับแอพตัวนี้ให้มากขึ้นนะคะ เรามีเรียนรู้วิธีเล่น Line ไปกับหนังสือเล่มนี้กันเลยค่ะ “เล่น Line ง่ายนิดเดียว” โดยเนื้อหาต่างๆของหนังสือเล่มนี้นะคะ จะช่วยตอบปัญหาต่างๆที่คุณผู้อ่านสงสัยในแอพตัวนี้อย่างดีทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่เริ่มต้น ว่า Line รองรับกับอุปกรณ์ใดบ้าง คุณสมบัติเด่นๆที่ทำให้ผู้คนนิยมอย่างมากมาย วิธีลงทะเบียนใช้งานในแบบต่างๆ วิธีลบแอคเคาท์ที่เราไม่ได้ใช้แล้ว การแอดรายชื่อเพื่อนด้วยวิธีต่างๆ การบล็อครายชื่อซ่อนรายชื่อ ตลอดจนถ้าเกิดจะเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่จะทำอย่างไรไม่ให้แชทเก่าๆที่เคยคุยไว้หายไป ไม่ให้รายชื่อเพื่อนที่มีอยู่หาย และเก็บสติ๊กเกอร์ที่ซื้อมาไว้ได้อย่างไร และยังมีการบอกเทคนิคเกี่ยวกับว่าถ้าเราอยากได้สติ๊กเกอร์ไลน์แบบที่ลายน่ารักๆของต่างประเทศจะต้องทำอย่างไร และในเล่มนี้ยังบอกถึงเคล็ดลับวิธีขายของออนไลน์ผ่านแอพนี้ด้วยค่ะ เดี๋ยวนี้กิจการขายของออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมบนโลกออนไลน์มากๆค่ะ เพราะทั้งสะดวกและประหยัดเวลา ไม่ต้องเดินเลือกซื้อตามห้าง ตามตลาดนัดต่างๆอีกต่อไป นอกจะมีแชทแล้วก็ยังมีวิธีใช้ Timeline เจ้าตัวนี้แหละค่ะที่จะเป็นแหล่งข้อมูลให้ลูกค้าได้เข้ามาดูสินค้าของเราที่จะขายออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีพวกแอพเสริมต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น พวกเกมส์ ถ่ายรูป ประมาณนี้นะคะ โดวยส่วนตัวของผู้อ่านเองคิดว่ารายละเอียดเยอะดีค่ะ บอกตั้งแต่เริ่มต้นเลย เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มหัดเล่นเลยล่ะค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนถ้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้จะทำให้เก่งไปเลยล่ะค่ะ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นค่ะเพราะเนื้อหาบางอย่างเราอาจจะยังไม่เคยได้รู้ว่ามันทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ คือรู้ลึกจริงๆค่ะ ตัวเนื้อหาด้านในก็น่ารักสีสันสดใสดีค่ะ อ่านแล้วสบายตาเพราะเป็นสีทั้งเล่ม ก็คุ้มกับราคานะคะ เพราะคิดว่าอนาคตพวกแอพแชทออนไลน์ประเภทนี้ก็คงจะมีออกมาใหม่ๆอีกมากมาย ถ้าเรารู้พื้นฐานแอพไว้บ้างแล้วต่อไปไม่ว่าจะออกมาใหม่เราก็สามารถนำมาประยุต์ใช้ได้เหมือนกันค่ะ หนังสือเล่มนี้และรีวิวก็คงจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ตัดสินใจเลือกซื้อหาหนังสือประเภทนี้อยู่นะคะ...^_^

เห็นหน้าปกแล้วรู้สึกสะดุดตามากเลยค่ะ เลยต้องหยิบมาลองเปิดๆดูคร่าวๆหน่อย ใช่เลยอ่ะน่ารักน่าอ่านมากกับหนังสือเล่มนี้ “ผอม สวยได้ สไตล์กรุ๊ป B” อุ้ยกรุ๊ป B นี่มันกรุ๊ปเลือดช้านนี่นา ว่าแล้วก็สอยกลับบ้านมาเป็นที่เรียบร้อย หลังจากอ่านไปเรื่อยๆจนจบนะคะก็ได้เวลามารีวิวความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้ให้คุณผู้อ่านท่านอื่นๆได้รับทราบกันบ้างแล้วล่ะค่ะ เนื้อหาเล่มนี้ก็ตามชื่อหนังสือเลยค่ะ เพิ่งรู้หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนกันนะคะว่าการลดหรือการเพิ่มของน้ำหนักเนี่ยมันขึ้นอยู่กับกรุ๊ปเลือดด้วยนะจะบอกให้ เนื้อหาจะแบ่งไปเป็นบทๆค่ะ แต่ละบทก็จะแยกเป็นหัวข้อย่อยๆนะคะ ขอรีวิวแบบคร่าวๆแล้วกันนะคะ เริ่มกันเลยค่ะ บทที่ 1 นะคะ จะเป็นหัวข้อที่ทำให้เราได้รู้เลยค่ะว่ากรุ๊ปเลือดกับร่างกายนี่มันมีความสำคัญมากกว่าที่คุณคิดค่ะ เช่น อาหารที่เรารับประทานกันประจำทุกวันเนี่ยอาจจะไม่เหมาะสำหรับแต่ละกรุ๊ปเลือด เพราะบางทีทุกคนอาจจะสังเกตรอบๆข้างแบบว่าเอ๊ะทำไมคนนี้กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนแต่ทำไมตัวเองกินแค่นี้ก็อ้วนขึ้นๆตลอดเลย การออกกำลังกายให้ตรงตามคุณสมบัติของแต่ละกรุ๊ปเลือด บทที่ 2 นะคะ จะเป็นเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานสำหรับคนกรุ๊ปบีเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นนิสัย ลักษณะเด่นของร่างกาย ควรระมัดระวังที่จะเสี่ยงเป็นโรคอะไรเป็นพิเศษ ที่จะขาดไม่ได้เลยก็จะป็นอาหารต่างๆที่คนกรุ๊ปบีควรรับประทานค่ะ จะมีบอกทั้งที่เหมาะสมและไม่เหมาะสมเลยค่ะ บทที่ 3 นะคะพอพูดถึงอารหารแล้วเราก็ตามมาด้วยเมนูอาหารที่จะช่วยลดน้ำหนักของคนกรุ๊ปบีค่ะ มีทั้งสูตรอาหารไดเอ็ต และอาหารชนิดต่างๆที่ทานแล้วจะไม่ทำให้อ้วน การออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับคนกรุ๊ปบี ส่วนบทที่ 4 บทสุดท้ายนะคะ จะบอกถึงการมช้ชีวิตแบบไดเอ็ตของคนกรุ๊ปบีค่ะโดยรายละเอียดจะบ่งบอกถึงว่าอาหารจะไม่ใช่ปัจจัยเดียวหรอกนะคะที่จะทำให้เราผอมสวยได้ การใช้ชีวิตประจำวันที่มีวินัยการกินก็สำคัญมากๆเช่นกันค่ะ สรุปว่าหนังสือเล่มนี้ตอบโจทย์ของคนกรุ๊ปบีที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักได้ดีทีเดียวค่ะ เนื้อหาข้างในส่วนมากจะบรรยายเป็นรูปภาพน่ารักๆแทรกคำพูดที่เป็นรายละเอียดบ้างเล็กน้อย ทำให้ในเล่มนี้จะไม่มีแต่เนื้อหาลายๆตามากจนเกินไป ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่ทำให้คุณผู้อ่านเบื่อแน่นอนค่ะ มีการยกตัวอย่างอาหารชนิดต่างๆ สามารถนำมาปรับใช้ในการรับประทานอาหารแต่ละวันในชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอนค่ะ

เห็นหน้าปกแล้วรู้สึกสะดุดตามากเลยค่ะ เลยต้องหยิบมาลองเปิดๆดูคร่าวๆหน่อย ใช่เลยอ่ะน่ารักน่าอ่านมากกับหนังสือเล่มนี้ “ผอม สวยได้ สไตล์กรุ๊ป B” อุ้ยกรุ๊ป B นี่มันกรุ๊ปเลือดช้านนี่นา ว่าแล้วก็สอยกลับบ้านมาเป็นที่เรียบร้อย หลังจากอ่านไปเรื่อยๆจนจบนะคะก็ได้เวลามารีวิวความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้ให้คุณผู้อ่านท่านอื่นๆได้รับทราบกันบ้างแล้วล่ะค่ะ เนื้อหาเล่มนี้ก็ตามชื่อหนังสือเลยค่ะ เพิ่งรู้หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนกันนะคะว่าการลดหรือการเพิ่มของน้ำหนักเนี่ยมันขึ้นอยู่กับกรุ๊ปเลือดด้วยนะจะบอกให้ เนื้อหาจะแบ่งไปเป็นบทๆค่ะ แต่ละบทก็จะแยกเป็นหัวข้อย่อยๆนะคะ ขอรีวิวแบบคร่าวๆแล้วกันนะคะ เริ่มกันเลยค่ะ บทที่ 1 นะคะ จะเป็นหัวข้อที่ทำให้เราได้รู้เลยค่ะว่ากรุ๊ปเลือดกับร่างกายนี่มันมีความสำคัญมากกว่าที่คุณคิดค่ะ เช่น อาหารที่เรารับประทานกันประจำทุกวันเนี่ยอาจจะไม่เหมาะสำหรับแต่ละกรุ๊ปเลือด เพราะบางทีทุกคนอาจจะสังเกตรอบๆข้างแบบว่าเอ๊ะทำไมคนนี้กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนแต่ทำไมตัวเองกินแค่นี้ก็อ้วนขึ้นๆตลอดเลย การออกกำลังกายให้ตรงตามคุณสมบัติของแต่ละกรุ๊ปเลือด บทที่ 2 นะคะ จะเป็นเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานสำหรับคนกรุ๊ปบีเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นนิสัย ลักษณะเด่นของร่างกาย ควรระมัดระวังที่จะเสี่ยงเป็นโรคอะไรเป็นพิเศษ ที่จะขาดไม่ได้เลยก็จะป็นอาหารต่างๆที่คนกรุ๊ปบีควรรับประทานค่ะ จะมีบอกทั้งที่เหมาะสมและไม่เหมาะสมเลยค่ะ บทที่ 3 นะคะพอพูดถึงอารหารแล้วเราก็ตามมาด้วยเมนูอาหารที่จะช่วยลดน้ำหนักของคนกรุ๊ปบีค่ะ มีทั้งสูตรอาหารไดเอ็ต และอาหารชนิดต่างๆที่ทานแล้วจะไม่ทำให้อ้วน การออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับคนกรุ๊ปบี ส่วนบทที่ 4 บทสุดท้ายนะคะ จะบอกถึงการมช้ชีวิตแบบไดเอ็ตของคนกรุ๊ปบีค่ะโดยรายละเอียดจะบ่งบอกถึงว่าอาหารจะไม่ใช่ปัจจัยเดียวหรอกนะคะที่จะทำให้เราผอมสวยได้ การใช้ชีวิตประจำวันที่มีวินัยการกินก็สำคัญมากๆเช่นกันค่ะ สรุปว่าหนังสือเล่มนี้ตอบโจทย์ของคนกรุ๊ปบีที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักได้ดีทีเดียวค่ะ เนื้อหาข้างในส่วนมากจะบรรยายเป็นรูปภาพน่ารักๆแทรกคำพูดที่เป็นรายละเอียดบ้างเล็กน้อย ทำให้ในเล่มนี้จะไม่มีแต่เนื้อหาลายๆตามากจนเกินไป ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่ทำให้คุณผู้อ่านเบื่อแน่นอนค่ะ มีการยกตัวอย่างอาหารชนิดต่างๆ สามารถนำมาปรับใช้ในการรับประทานอาหารแต่ละวันในชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอนค่ะ

หลังจากอ่านจบแล้วก็ขอเข้ามารีวิวสักหน่อย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคุณผู้อ่านที่สนใจกำลังจะเลือกซื้อนิยายวัยรุ่นน่ารักๆออกแนวค่อนข้างไปทางเด็กๆเลย มาอ่านสักเรื่องหนึ่งนะคะ เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ตัวผู้อ่านเองขอแนะนำเลยล่ะค่ะ เป็นนิยายเล่มแรกๆที่ตัวผู้อ่านเองเริ่มอ่านเลยนะค่ะ เพราะช่วงแรกๆขี้เกียจอ่านเล่มหนาๆค่ะ เนื้อเรื่องนะคะจะออกแนวประมาณว่านางเอกของเรื่องซึ่งมีนามว่า “ฝ้าย” เป็นเด็กสาวมัธยมที่รักการเขียนนิยายเป็นชีวิตจิตใจอยากจะเป็นนักเขียนนิยายชื่อดังเลย ฝ้ายได้เขียนนิยายขึ้นมาหนึ่งเรื่องแล้วก็ได้นำไปเสนอกับทางสำนักพิมพ์ เผื่ออาจจะได้ตีพิมพ์วางขายบนร้านหนังสือชั้นนำกับเขาบ้าง เพราะฝ้ายต้องการเงินเพื่อส่งตัวเองเรียน ไม่อยากจะเป็นภาระให้คุณแม่กับพี่สาว แต่เนื้อเรื่องนิยายที่ฝ้ายเขียนนั้นมันดันไม่ถูกใจเจ๊เจ้าของสำนักพิมพ์น่ะสิคะ จะออกเป็นแนวรักเพ้อฝันเจ้าหญิงกับเจ้าชายในนิทานมากไปหน่อย แล้วแถมยังโดนเจ๊ยิงคำถามที่แสนเจ็บช้ำน้ำใจของเธอ คือ น้องฝ้ายยังไม่เคยมีแฟนใช้มั้ยคะ เชื่อว่าสาวๆคนไหนโดนถามแบบนี้คงไปไม่เป็นเลยล่ะค่ะ 555 นี่แหละค่ะเป็นเหตุการณ์ทำให้นางเอกกับพระเองของเรื่องได้มาพบเจอกัน สาเหตุจากนางเอกต้องการสัมภาษณ์ผู้ชายเกี่ยวกับเวลาที่มีความรักมีแฟนนั่นแหละจะรู้สึกอย่างไร ควรทำตัวอย่างไรเพื่อที่จะมาปรับแต่งให้นิยายของตนเองดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น พูดถึงพระเอกของเรื่องกันบ้างดีกว่าค่ะ พระเอกของเรื่องมีนามว่า “วิ” (ชื่อเต็มลองติดตามอ่านดูนะคะ) วิเป็นหนุ่มแบดบอยและเพลย์บอยมากค่ะ ชอบคบผู้หญิงทีละหลายๆคน ขี้หลี ขี้เก๊ก หลงตัวเองที่สุด วิเป็นสมาชิกของกลุ่ม เซล ซึ่งประกอบไปด้วยอีกสองหนุ่มสุดฮอตเช่นกัน นั้นคือ ชาย และเรน จากเหตุการณืที่เล่ามานั้นทำให้พระเอกนางเอกของเราได้พบเจอกันบ่อยขึ้นจนเกิดเป็นความรัก สรุปนะคะนิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้อ่านทุกวัยจริงๆค่ะโดยเฉพาะวัยรุ่นน่าจะชอบ เพราะพระเอกนางเอกดูจะแตกต่างกันมาก นางเอกจะออกแนวเอ๋อๆ ส่วนพระเอกนี่ก็กวนสุดๆสงสัยแล้วใช่มั้ยล่ะคะว่าสุดท้ายเนี่ยเขามารักกันได้อย่างไร ฉากเลิฟซีนนี่ไม่ค่อยมีเลยค่ะ เด็กๆสามารถอ่านได้แน่นอน การดำเนินเรื่องก็เป็นไปแบบเรื่อยๆเข้าใจง่ายมากๆค่ะ เล่มไม่หนาด้วยอ่านแป๊บเดียวก็จบทำให้อ่านซ้ำได้หลายๆรอบเลยล่ะค่ะ ก็สนุกนะคะไม่มีฉากไหนที่ทำให้เราเครียด มีแอบเขินเวลาพระเอกง้อนางเอกก็จะน่ารักแบบเด็กๆค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังค่ะกับผู้แต่งคนนี้ กระต่ายขาว...

หลังจากอ่านจบแล้วก็ขอเข้ามารีวิวสักหน่อย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคุณผู้อ่านที่สนใจกำลังจะเลือกซื้อนิยายวัยรุ่นน่ารักๆออกแนวค่อนข้างไปทางเด็กๆเลย มาอ่านสักเรื่องหนึ่งนะคะ เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ตัวผู้อ่านเองขอแนะนำเลยล่ะค่ะ เป็นนิยายเล่มแรกๆที่ตัวผู้อ่านเองเริ่มอ่านเลยนะค่ะ เพราะช่วงแรกๆขี้เกียจอ่านเล่มหนาๆค่ะ เนื้อเรื่องนะคะจะออกแนวประมาณว่านางเอกของเรื่องซึ่งมีนามว่า “ฝ้าย” เป็นเด็กสาวมัธยมที่รักการเขียนนิยายเป็นชีวิตจิตใจอยากจะเป็นนักเขียนนิยายชื่อดังเลย ฝ้ายได้เขียนนิยายขึ้นมาหนึ่งเรื่องแล้วก็ได้นำไปเสนอกับทางสำนักพิมพ์ เผื่ออาจจะได้ตีพิมพ์วางขายบนร้านหนังสือชั้นนำกับเขาบ้าง เพราะฝ้ายต้องการเงินเพื่อส่งตัวเองเรียน ไม่อยากจะเป็นภาระให้คุณแม่กับพี่สาว แต่เนื้อเรื่องนิยายที่ฝ้ายเขียนนั้นมันดันไม่ถูกใจเจ๊เจ้าของสำนักพิมพ์น่ะสิคะ จะออกเป็นแนวรักเพ้อฝันเจ้าหญิงกับเจ้าชายในนิทานมากไปหน่อย แล้วแถมยังโดนเจ๊ยิงคำถามที่แสนเจ็บช้ำน้ำใจของเธอ คือ น้องฝ้ายยังไม่เคยมีแฟนใช้มั้ยคะ เชื่อว่าสาวๆคนไหนโดนถามแบบนี้คงไปไม่เป็นเลยล่ะค่ะ 555 นี่แหละค่ะเป็นเหตุการณ์ทำให้นางเอกกับพระเองของเรื่องได้มาพบเจอกัน สาเหตุจากนางเอกต้องการสัมภาษณ์ผู้ชายเกี่ยวกับเวลาที่มีความรักมีแฟนนั่นแหละจะรู้สึกอย่างไร ควรทำตัวอย่างไรเพื่อที่จะมาปรับแต่งให้นิยายของตนเองดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น พูดถึงพระเอกของเรื่องกันบ้างดีกว่าค่ะ พระเอกของเรื่องมีนามว่า “วิ” (ชื่อเต็มลองติดตามอ่านดูนะคะ) วิเป็นหนุ่มแบดบอยและเพลย์บอยมากค่ะ ชอบคบผู้หญิงทีละหลายๆคน ขี้หลี ขี้เก๊ก หลงตัวเองที่สุด วิเป็นสมาชิกของกลุ่ม เซล ซึ่งประกอบไปด้วยอีกสองหนุ่มสุดฮอตเช่นกัน นั้นคือ ชาย และเรน จากเหตุการณืที่เล่ามานั้นทำให้พระเอกนางเอกของเราได้พบเจอกันบ่อยขึ้นจนเกิดเป็นความรัก สรุปนะคะนิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้อ่านทุกวัยจริงๆค่ะโดยเฉพาะวัยรุ่นน่าจะชอบ เพราะพระเอกนางเอกดูจะแตกต่างกันมาก นางเอกจะออกแนวเอ๋อๆ ส่วนพระเอกนี่ก็กวนสุดๆสงสัยแล้วใช่มั้ยล่ะคะว่าสุดท้ายเนี่ยเขามารักกันได้อย่างไร ฉากเลิฟซีนนี่ไม่ค่อยมีเลยค่ะ เด็กๆสามารถอ่านได้แน่นอน การดำเนินเรื่องก็เป็นไปแบบเรื่อยๆเข้าใจง่ายมากๆค่ะ เล่มไม่หนาด้วยอ่านแป๊บเดียวก็จบทำให้อ่านซ้ำได้หลายๆรอบเลยล่ะค่ะ ก็สนุกนะคะไม่มีฉากไหนที่ทำให้เราเครียด มีแอบเขินเวลาพระเอกง้อนางเอกก็จะน่ารักแบบเด็กๆค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังค่ะกับผู้แต่งคนนี้ กระต่ายขาว...

ในที่สุดหลังจากได้เป็นเจ้าของแล้วนะคะกับนิยายเรื่อง “มารร้ายคู่หมายรัก” ยอมรับนะคะว่าหน้าปกของเรื่องก็งั้นๆเรียบๆธรรมดามากค่ะ แบบคิดว่าเอ่อชื่อคนแต่งเด่นมากค่ะ คือ คุณอัญชรีย์ แต่พอลองหยิบมาแล้วพลิกไปด้านหลังอ่านเรื่องย่อแล้วนะคะ มันน่าสนใจมากๆไม่ค่อยได้อ่านนิยายแนวๆนี้ซะเท่าไหร่ แบบว่าเข้าเรื่องเลยแล้วกันค่ะ พระเอกของเรื่องเนี่ยน่าสนใจแบบสุดๆค่ะเพราะเขาเป็นถึงคุณหมอศัลยแพทย์เชียวค่ะ แล้วที่ต่างไปกว่านั้นคือที่คุณผู้อ่านทุกท่านอาจจะจินตนาการไว้แล้วว่าพระเอกเป็นคุณหมอจะต้องเป็นคนที่เรียบร้อย สุขุม ดูเป็นผู้ใหญ่ใช่มั้ยค่ะ หยุดความคิดนี้ได้เลยค่ะเพราะคุณหมอของเรื่องนี้ก็มีครบทุกอย่างเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความกวนประสาท ปากเสีย หลงตัวเองนิดหน่อย แต่ด้วยความที่มีอาชีพเป็นหมอจริงๆแล้วลึกๆเขาเป็นคนจิตใจดีมากเลยค่ะ มาพูดถึงนางเอกบ้างค่ะนางเอกของเรื่องนั้นมีอาชีพเป็นนักแสดงนางเอกสาวสวยค่ะ ทุกอย่างดีหมดค่ะไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณที่ขาวผ่อง หน้าตาสวยแต่ติดที่สูงแค่ 155 เซนติเมตรนี่สิค่ะ ดูจากการเริ่มเรื่องแล้วพระเอกกับนางเอกของเรื่องนี้ไม่น่าจะโคจรมาพบกันได้ใช่มั้ยคะ แต่นิยายเรื่องนี้ซะอย่างมันต้องมีเหตุการณ์สิมันเริ่มมาจากลูกพี่ลูกน้องของนางเอกเป็นรุ่นพี่ของคุณหมอศัลแพทย์สุดหล่อคนนี้น่ะสิคะ แต่เหตุการณ์จริงๆก็คือดันมีปาปารัชซี่มาพบการนอนห้องเดียวกันของพระเอกนางเอกนี่สิค่ะเลยทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและมีเหตุการณ์อื่นๆตามมาอีกมากเลยค่ะ(อยากรู้ละเอียดแนะนำลองหาซื้อมาอ่านนะคะอิอิ) เมื่อมีพระเอกนางเอกตามประสานิยายผู้ใหญ่หน่อยๆก็จะต้องมีนางร้ายด้วยค่ะ ในที่นี้คือ พลอยพัทธค่ะ รู้สึกไม่ชอบมากเธอเหมือนเด็กมีปัญหาขาดความอบอุ่น ต้องการความรักอ่ะค่ะ เป็นเด็กที่หลงตัวเอก แถมยังมาหลงรักพระเอกของเราอีก ขอสรุปเลยแล้วกันนะคะชอบหนังสือเล่มนี้ค่ะ ชอบคาแร็กเตอร์ของพระเอกค่ะเขาเป็นคนกวนๆแต่ก็น่ารักดี ส่วนตัวนางเอกก็จะออกแนวใสๆ ขี้งอน ช่วงหลังๆก็จะมีการต่อปากต่อคำกับพระเอกทำให้นิยายเล่มนี้มีสีสันมากยิ่งขึ้น อ่านไปก็หัวเราะไป เขินไปกับบางฉากที่แอบมีเลิฟซีนของทั้งสองคน รู้สึกว่าไม่เสียดายเงินที่ซื้อมาเก็บไว้เลยค่ะ ดีกว่าเวลาถ้าเกิดอยากอ่านอีกรอบแล้วไปหาซื้อไม่ได้นี่คงแย่น่าดูเลยค่ะ สำหรับคุณผู้อ่านที่ชื่นชอบนิยายแนวๆนี้ก็ไม่ควรพลาดเลยจริงๆนะคะ

ในที่สุดหลังจากได้เป็นเจ้าของแล้วนะคะกับนิยายเรื่อง “มารร้ายคู่หมายรัก” ยอมรับนะคะว่าหน้าปกของเรื่องก็งั้นๆเรียบๆธรรมดามากค่ะ แบบคิดว่าเอ่อชื่อคนแต่งเด่นมากค่ะ คือ คุณอัญชรีย์ แต่พอลองหยิบมาแล้วพลิกไปด้านหลังอ่านเรื่องย่อแล้วนะคะ มันน่าสนใจมากๆไม่ค่อยได้อ่านนิยายแนวๆนี้ซะเท่าไหร่ แบบว่าเข้าเรื่องเลยแล้วกันค่ะ พระเอกของเรื่องเนี่ยน่าสนใจแบบสุดๆค่ะเพราะเขาเป็นถึงคุณหมอศัลยแพทย์เชียวค่ะ แล้วที่ต่างไปกว่านั้นคือที่คุณผู้อ่านทุกท่านอาจจะจินตนาการไว้แล้วว่าพระเอกเป็นคุณหมอจะต้องเป็นคนที่เรียบร้อย สุขุม ดูเป็นผู้ใหญ่ใช่มั้ยค่ะ หยุดความคิดนี้ได้เลยค่ะเพราะคุณหมอของเรื่องนี้ก็มีครบทุกอย่างเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความกวนประสาท ปากเสีย หลงตัวเองนิดหน่อย แต่ด้วยความที่มีอาชีพเป็นหมอจริงๆแล้วลึกๆเขาเป็นคนจิตใจดีมากเลยค่ะ มาพูดถึงนางเอกบ้างค่ะนางเอกของเรื่องนั้นมีอาชีพเป็นนักแสดงนางเอกสาวสวยค่ะ ทุกอย่างดีหมดค่ะไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณที่ขาวผ่อง หน้าตาสวยแต่ติดที่สูงแค่ 155 เซนติเมตรนี่สิค่ะ ดูจากการเริ่มเรื่องแล้วพระเอกกับนางเอกของเรื่องนี้ไม่น่าจะโคจรมาพบกันได้ใช่มั้ยคะ แต่นิยายเรื่องนี้ซะอย่างมันต้องมีเหตุการณ์สิมันเริ่มมาจากลูกพี่ลูกน้องของนางเอกเป็นรุ่นพี่ของคุณหมอศัลแพทย์สุดหล่อคนนี้น่ะสิคะ แต่เหตุการณ์จริงๆก็คือดันมีปาปารัชซี่มาพบการนอนห้องเดียวกันของพระเอกนางเอกนี่สิค่ะเลยทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและมีเหตุการณ์อื่นๆตามมาอีกมากเลยค่ะ(อยากรู้ละเอียดแนะนำลองหาซื้อมาอ่านนะคะอิอิ) เมื่อมีพระเอกนางเอกตามประสานิยายผู้ใหญ่หน่อยๆก็จะต้องมีนางร้ายด้วยค่ะ ในที่นี้คือ พลอยพัทธค่ะ รู้สึกไม่ชอบมากเธอเหมือนเด็กมีปัญหาขาดความอบอุ่น ต้องการความรักอ่ะค่ะ เป็นเด็กที่หลงตัวเอก แถมยังมาหลงรักพระเอกของเราอีก ขอสรุปเลยแล้วกันนะคะชอบหนังสือเล่มนี้ค่ะ ชอบคาแร็กเตอร์ของพระเอกค่ะเขาเป็นคนกวนๆแต่ก็น่ารักดี ส่วนตัวนางเอกก็จะออกแนวใสๆ ขี้งอน ช่วงหลังๆก็จะมีการต่อปากต่อคำกับพระเอกทำให้นิยายเล่มนี้มีสีสันมากยิ่งขึ้น อ่านไปก็หัวเราะไป เขินไปกับบางฉากที่แอบมีเลิฟซีนของทั้งสองคน รู้สึกว่าไม่เสียดายเงินที่ซื้อมาเก็บไว้เลยค่ะ ดีกว่าเวลาถ้าเกิดอยากอ่านอีกรอบแล้วไปหาซื้อไม่ได้นี่คงแย่น่าดูเลยค่ะ สำหรับคุณผู้อ่านที่ชื่นชอบนิยายแนวๆนี้ก็ไม่ควรพลาดเลยจริงๆนะคะ

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มต่อของเรื่อง Angel and Me รักร้ายละลายใจยัยนางฟ้าตัวร้าย แค่เรื่องราวมาผูกโยงกันนิดหน่อยค่ะสามารถอ่านข้ามเล่มได้โดยทั้งเซตนี้จะมีทั้งหมด 3 เล่มด้วยกัน และผู้แต่งเป็นคนเดียวกันค่ะ คือ ลูกชุบ ก็เป็นอีกคนเลยนะคะที่แต่งนิยายออกมาได้สนุกและน่าติดตามค่ะ เล่มนี้มีชื่อเรื่องว่า “Me and Demonจอมวายร้ายนายปีศาจ” ที่ดิฉันอ่านมานะคะก็สนุกดีค่ะ พระเอกนางเอกต่างกันคนละขั้วมากๆ เนื้อเรื่องโดยรวมๆนะคะจะเป็นประมาณว่า มีโรงเรียนอยู่สองแห่งที่มีผู้อำนวยการคนเดียวกัน และโรงเรียนทั้งสองนี้ตั้งอยู่ใกล้กันมากอยู่แค่ฝั่งตรงข้ามกันเอง ความแตกต่างนะหรอคะ คือ โรงเรียนหนึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติอันดับหนึ่งของประเทศที่ได้รับการยกย่องให้เป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด ใครที่จะเข้ามาเรียนได้ต้องมีเงินและเป็นลูกหลานของนักเรียนรุ่นเก่าๆทั้งนั้น ส่วนอีกโรงเรียนหนึ่งก็ต่างกันแบบสุดขั้วเป็นโรงเรียนเอกชนอันดับหนึ่งที่ติดอันดับในความร้ายกาจเพราะได้รวบรวมเด็กที่แย่ที่สุดมาไว้ในที่นี้เลย เรื่องราวมันเกินขึ้นจากน้องชายของมะลิ มะลินี่คือนางเอกของเรื่องค่ะ ได้โดนแบล็กเมลล์โดยที่มีข้อแลกเปลี่ยนให้นางเอกของเราต้องเข้าไปขโมยรูปจากกล้องวงจรปิดในโรงเรียนฝั่งตรงข้าม นั่นเองเป็นเหตุให้เธอพบกับ ฟินิกส์พระเอกของเรื่องซึ่งเขานั้นเป็นประธานโรงเรียนที่ดีที่สุดในประเทศ มะลิได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของโรงเรียนจะได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนนั้น ทั้งคู่ได้พบเจอกันและต่างคนต่างช่วยกันทำภารกิจที่ตนได้รับมอบหมายมา จนทำให้เกิดเป็นความรักความผู้พันธ์ของผู้ชายที่หล่อ เนี้ยบ เป็นผู้คอยดูแลกฎต่างๆของโรงเรียน แล้วส่วนนางเอกก็จะออกแนวต๊อง ซุ่มซ่าม ไม่ทันคนสักเท่าไหร่ ทำให้เป็นคู่พระนางที่สลับขั้วกันมาก เนื้อหาโดยย่อๆว่าน่าติดตามแล้วนะคะ ถ้าคุณผู้อ่านลองได้มาเริ่มอ่านแล้วจะทำให้วางไม่ลงเลยล่ะ เพราะมีทั้งภารกิจบ้าๆบอๆ ที่เพื่อนของนางเอกเขียนมาให้ทำ โดยเฉพาะข้อที่ฟินและแอบลุ้นตามสุดๆเลยนะคะ คือ ข้อที่ต้องจูบกับประธานนักเรียนแล้วจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพระเอกของเรา อ่านไปก็แอบลุ้นฉากสวีทเล็กๆของพระเอกปากแข็งค่ะ สำหรับผู้อ่านที่ชอบอ่านนิยายแนวนักเรียนวัยรุ่นน่ารักๆนิยายเล่มนี้ก็ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ไม่เลวเลยล่ะค่ะ มีทั้งความแสบของทั้งตัวพระเอกนางเอกรวมไปถึงเพื่อนคนอื่นๆในโรงเรียนทั้งสองแห่งก็เข้ามามีบทบาททำให้เนื้อเรื่องดำเนินไปมีเหตุมีผลว่าฉากนี้เป็นมาอย่างไร น่าจับจองเป็นเจ้าของจริงๆค่ะ

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มต่อของเรื่อง Angel and Me รักร้ายละลายใจยัยนางฟ้าตัวร้าย แค่เรื่องราวมาผูกโยงกันนิดหน่อยค่ะสามารถอ่านข้ามเล่มได้โดยทั้งเซตนี้จะมีทั้งหมด 3 เล่มด้วยกัน และผู้แต่งเป็นคนเดียวกันค่ะ คือ ลูกชุบ ก็เป็นอีกคนเลยนะคะที่แต่งนิยายออกมาได้สนุกและน่าติดตามค่ะ เล่มนี้มีชื่อเรื่องว่า “Me and Demonจอมวายร้ายนายปีศาจ” ที่ดิฉันอ่านมานะคะก็สนุกดีค่ะ พระเอกนางเอกต่างกันคนละขั้วมากๆ เนื้อเรื่องโดยรวมๆนะคะจะเป็นประมาณว่า มีโรงเรียนอยู่สองแห่งที่มีผู้อำนวยการคนเดียวกัน และโรงเรียนทั้งสองนี้ตั้งอยู่ใกล้กันมากอยู่แค่ฝั่งตรงข้ามกันเอง ความแตกต่างนะหรอคะ คือ โรงเรียนหนึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติอันดับหนึ่งของประเทศที่ได้รับการยกย่องให้เป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด ใครที่จะเข้ามาเรียนได้ต้องมีเงินและเป็นลูกหลานของนักเรียนรุ่นเก่าๆทั้งนั้น ส่วนอีกโรงเรียนหนึ่งก็ต่างกันแบบสุดขั้วเป็นโรงเรียนเอกชนอันดับหนึ่งที่ติดอันดับในความร้ายกาจเพราะได้รวบรวมเด็กที่แย่ที่สุดมาไว้ในที่นี้เลย เรื่องราวมันเกินขึ้นจากน้องชายของมะลิ มะลินี่คือนางเอกของเรื่องค่ะ ได้โดนแบล็กเมลล์โดยที่มีข้อแลกเปลี่ยนให้นางเอกของเราต้องเข้าไปขโมยรูปจากกล้องวงจรปิดในโรงเรียนฝั่งตรงข้าม นั่นเองเป็นเหตุให้เธอพบกับ ฟินิกส์พระเอกของเรื่องซึ่งเขานั้นเป็นประธานโรงเรียนที่ดีที่สุดในประเทศ มะลิได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของโรงเรียนจะได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนนั้น ทั้งคู่ได้พบเจอกันและต่างคนต่างช่วยกันทำภารกิจที่ตนได้รับมอบหมายมา จนทำให้เกิดเป็นความรักความผู้พันธ์ของผู้ชายที่หล่อ เนี้ยบ เป็นผู้คอยดูแลกฎต่างๆของโรงเรียน แล้วส่วนนางเอกก็จะออกแนวต๊อง ซุ่มซ่าม ไม่ทันคนสักเท่าไหร่ ทำให้เป็นคู่พระนางที่สลับขั้วกันมาก เนื้อหาโดยย่อๆว่าน่าติดตามแล้วนะคะ ถ้าคุณผู้อ่านลองได้มาเริ่มอ่านแล้วจะทำให้วางไม่ลงเลยล่ะ เพราะมีทั้งภารกิจบ้าๆบอๆ ที่เพื่อนของนางเอกเขียนมาให้ทำ โดยเฉพาะข้อที่ฟินและแอบลุ้นตามสุดๆเลยนะคะ คือ ข้อที่ต้องจูบกับประธานนักเรียนแล้วจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพระเอกของเรา อ่านไปก็แอบลุ้นฉากสวีทเล็กๆของพระเอกปากแข็งค่ะ สำหรับผู้อ่านที่ชอบอ่านนิยายแนวนักเรียนวัยรุ่นน่ารักๆนิยายเล่มนี้ก็ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ไม่เลวเลยล่ะค่ะ มีทั้งความแสบของทั้งตัวพระเอกนางเอกรวมไปถึงเพื่อนคนอื่นๆในโรงเรียนทั้งสองแห่งก็เข้ามามีบทบาททำให้เนื้อเรื่องดำเนินไปมีเหตุมีผลว่าฉากนี้เป็นมาอย่างไร น่าจับจองเป็นเจ้าของจริงๆค่ะ

เชื่อว่าหลายๆคนคงจะรู้จักกับการสอบ ก.พ. ใช่มั้ยค่ะ ซึ่งการสอบ ก.พ. นี้ทางหน่วยงานในภาครัฐจะมีการจัดขึ้นให้สอบในทุกๆปีเพื่อคัดเลือกสรรหาบุคคลที่สนใจเข้ารับราชการ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาปริญญาตรีที่จบใหม่ หรือผู้ที่จบการศึกษาจนเข้าสู่วัยทำงานแล้วก็ตาม เพื่อใช้คะแนนที่สอบก.พ. มาประะกอบการคัดเลือกเข้ามาทำงานในส่วนของราชการ ซึ่งคาดว่าหลายๆอาจจะอยากทำงานเกี่ยวกับราชการ โดยการสอบนี้จะแบ่งเป็นการสอบโดยวัดความรู้ทั่วไปจะเป็นการทดสอบเกี่ยวกับวิชาเลขและภาษาไทย พร้อมทั้งมีการทดสอบความรู้ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษอีกด้วยค่ะ ซึ่งดิฉันก็เป็นคนหนึ่งค่ะที่สนใจจะร่วมสมัครสอบก.พ.และได้เลือกซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน จึงอยากจะมารีวิวให้กับหนังสือเล่มนี้เพื่อให้ผู้ที่เตรียมตัวจะสอบทุกท่านได้ตัดสินใจในการเลือกซื้อหนังสือมาอ่านติวก่อนสอบค่ะ ชื่อหนังสือ คือ “คู่มือสอบภาษาอังกฤษ ภาค ก. (ก.พ.) และหน่วยงานราชการอื่นๆ” โดยเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จะเป็นแนวข้อสอบภาษาอังกฤษของก.พ.ค่ะ จะมีการแบ่งเป็นสองภาคใหญ่ๆในเล่มนี้นะคะ แยกออกมา คือ ไวยากรณ์ หรือ Grammar และการอ่านเพื่อความเข้าใจ หรือ Reading Comprehension จากที่ได้อ่านมาแล้วนะคะ เนื้อหาเข้าใจง่ายมากๆค่ะรู้สึกเหมือนกับได้เริ่มเรียนใหม่เลยมีการอธิบายอย่างเป็นระบบเป็นขั้นตอนที่เราควรรู้เรียงจากง่ายๆแล้วจากนั้นก็ค่อยๆเพิ่มเลเวลยากขึ้นๆทำให้ผู้อ่านไม่สับสน มีทั้งการยกตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น แต่ละภาคที่กล่าวไปก็จะมีบทย่อยๆรองลงมา ซึ่งในแต่ละบทที่แยกมานั้นด้านหลังของบทจะมีแบบฝึกหัดให้ลองทบทวนที่อ่านผ่านมาก่อนหน้าแต่ละบทว่าเราจะสามารถทำได้คะแนนเท่าไหร่ มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษมากน้อยเพียงไร รวมไปถึงยังมีคำศัพท์ที่ควรทราบต่างๆให้ท่องจำในเล่มด้วยค่ะ จะรู้สึกเหมือนว่าได้ลงมือทำข้อสอบจริงๆเลยล่ะค่ะ มีการให้ฝึกอ่านบทความและข่าวอยู่ในเล่มในตอนที่เราต้องใช้เนื้อเรื่องมาตอบคำถามในส่วนนี้รู้สึกว่ายากค่ะแต่หนังสือเล่มนี้ก็พอจะช่วยให้เข้าใจการจับใจความสำคัญได้มากเลยค่ะ คาดว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่สนใจจะสอบเข้ารับราชการ หรืออาจจะให้เป็นหนังสือที่ไว้อ่านเพื่อพัฒนาด้านภาษาอังกฤษของตนเองก็ได้ เพราะสังคมในปัจจุบันนี้แถมประเทศไทยยังจะต้องก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนด้วยแล้ว ดิฉันจึงคิดว่าภาษาอังกฤษมีความสำคัญมากๆค่ะ สำหรับผู้ที่มองหาหนังสือที่มีเนื้อหาสาระครบถ้วนและอธิบายรายละเอียดอย่างเข้าใจง่ายๆก็ขอแนะนำหนังสือเล่มนี้ไว้พิจารณาด้วยค่ะ

เชื่อว่าหลายๆคนคงจะรู้จักกับการสอบ ก.พ. ใช่มั้ยค่ะ ซึ่งการสอบ ก.พ. นี้ทางหน่วยงานในภาครัฐจะมีการจัดขึ้นให้สอบในทุกๆปีเพื่อคัดเลือกสรรหาบุคคลที่สนใจเข้ารับราชการ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาปริญญาตรีที่จบใหม่ หรือผู้ที่จบการศึกษาจนเข้าสู่วัยทำงานแล้วก็ตาม เพื่อใช้คะแนนที่สอบก.พ. มาประะกอบการคัดเลือกเข้ามาทำงานในส่วนของราชการ ซึ่งคาดว่าหลายๆอาจจะอยากทำงานเกี่ยวกับราชการ โดยการสอบนี้จะแบ่งเป็นการสอบโดยวัดความรู้ทั่วไปจะเป็นการทดสอบเกี่ยวกับวิชาเลขและภาษาไทย พร้อมทั้งมีการทดสอบความรู้ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษอีกด้วยค่ะ ซึ่งดิฉันก็เป็นคนหนึ่งค่ะที่สนใจจะร่วมสมัครสอบก.พ.และได้เลือกซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน จึงอยากจะมารีวิวให้กับหนังสือเล่มนี้เพื่อให้ผู้ที่เตรียมตัวจะสอบทุกท่านได้ตัดสินใจในการเลือกซื้อหนังสือมาอ่านติวก่อนสอบค่ะ ชื่อหนังสือ คือ “คู่มือสอบภาษาอังกฤษ ภาค ก. (ก.พ.) และหน่วยงานราชการอื่นๆ” โดยเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จะเป็นแนวข้อสอบภาษาอังกฤษของก.พ.ค่ะ จะมีการแบ่งเป็นสองภาคใหญ่ๆในเล่มนี้นะคะ แยกออกมา คือ ไวยากรณ์ หรือ Grammar และการอ่านเพื่อความเข้าใจ หรือ Reading Comprehension จากที่ได้อ่านมาแล้วนะคะ เนื้อหาเข้าใจง่ายมากๆค่ะรู้สึกเหมือนกับได้เริ่มเรียนใหม่เลยมีการอธิบายอย่างเป็นระบบเป็นขั้นตอนที่เราควรรู้เรียงจากง่ายๆแล้วจากนั้นก็ค่อยๆเพิ่มเลเวลยากขึ้นๆทำให้ผู้อ่านไม่สับสน มีทั้งการยกตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น แต่ละภาคที่กล่าวไปก็จะมีบทย่อยๆรองลงมา ซึ่งในแต่ละบทที่แยกมานั้นด้านหลังของบทจะมีแบบฝึกหัดให้ลองทบทวนที่อ่านผ่านมาก่อนหน้าแต่ละบทว่าเราจะสามารถทำได้คะแนนเท่าไหร่ มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษมากน้อยเพียงไร รวมไปถึงยังมีคำศัพท์ที่ควรทราบต่างๆให้ท่องจำในเล่มด้วยค่ะ จะรู้สึกเหมือนว่าได้ลงมือทำข้อสอบจริงๆเลยล่ะค่ะ มีการให้ฝึกอ่านบทความและข่าวอยู่ในเล่มในตอนที่เราต้องใช้เนื้อเรื่องมาตอบคำถามในส่วนนี้รู้สึกว่ายากค่ะแต่หนังสือเล่มนี้ก็พอจะช่วยให้เข้าใจการจับใจความสำคัญได้มากเลยค่ะ คาดว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่สนใจจะสอบเข้ารับราชการ หรืออาจจะให้เป็นหนังสือที่ไว้อ่านเพื่อพัฒนาด้านภาษาอังกฤษของตนเองก็ได้ เพราะสังคมในปัจจุบันนี้แถมประเทศไทยยังจะต้องก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนด้วยแล้ว ดิฉันจึงคิดว่าภาษาอังกฤษมีความสำคัญมากๆค่ะ สำหรับผู้ที่มองหาหนังสือที่มีเนื้อหาสาระครบถ้วนและอธิบายรายละเอียดอย่างเข้าใจง่ายๆก็ขอแนะนำหนังสือเล่มนี้ไว้พิจารณาด้วยค่ะ

หนังสือเรื่อง “เกมลึกลับลุ้นรักข้ามดินแดน” เป็นนิยายเล่มที่สองของผู้แต่งที่ชื่อหนูการ์ตูนเลยค่ะ เรื่องนี้ก็เป็นนิยายออกแนวแฟนตาซีเล็กๆนะคะ เรื่องราวต่างๆล้วนเกิดขึ้นจากแผ่นเกมส์แค่ 2 แผ่นค่ะ เป็นแผ่นเกมส์ที่ขายตามร้านเกมส์ทั่วไปนี่แหละ สาเหตุมาจากนางเอกของเรื่องชื่อ ใบเฟิร์น ได้ไปร้านเกมส์แล้วได้ไปสะดุดตากับแผ่นเกมส์แผ่นหนึ่งซึ่งมีปกสีดำซึ่งมันดูลึกลับน่าค้นหามาก อีกทั้งพี่พนักงานสาวสวยที่ขายยังให้ฟรีอีกด้วย นางเอกของเราก็เลยได้กลับมาเล่นที่บ้านของเธอเอง เมื่อเปิดแผ่นมาก็ได้มีการให้ตั้งชื่อตัวละครที่กำหนดมา โดยใบเฟิร์น ได้รับบทบาทเป็นเจ้าหญิงและทันใดนั้นเองที่จอโทรทัศน์ก็มีแสงสว่างวาบออกมาดูดเธอไปยังอีกดินแดนหนึ่งคาดว่าน่าจะเป็นโลกภายในเกมส์นั่นเอง ใบเฟิร์นได้ไปโผล่อยู่ในป่าแห่งหนึ่งจนมาพบเข้ากับ เคนโด้ พระเอกของเรื่องนี้เองค่ะ เคนโด้ก็ได้ถูกดูดมาจากแผ่นเกมส์แผ่นนั้นเหมือนกัน แต่คาดว่าน่าจะเข้ามาก่อนใบเฟิร์น และยังได้มาเป็นลูกชายของบุคคลในเผ่าเวทที่เขาอาศัยอยู่ตั้งแต่แรกที่โดนดูดเข้ามา เขาก็ได้พาใบเฟิร์นไปยังที่อยู่ของเผ่าเวท และใบเฟิร์นยังได้พบกับเจ้าลูกกวาดมังกรที่หาได้ยาก นิยายเรื่องนี้มีความน่าตื่นเต้น และเนื้อหาแปลกดีค่ะ มีทั้งโดนแผ่นเกมส์ดูดเข้ามาแถมยังเข้ามาทั้งพระเอกนางเอกด้วยอีก ยังมีทั้งการที่นางเอกต้องฝึกการใช้พลังเวทต่างๆที่พระเอกจะต้องสอน เพราะ ใบเฟิร์นได้รับบทบาทเป็นเจ้าหญิงซึ่งเป็นความหวังของเผ่าเวทที่จะช่วยจัดการกับเผ่าปีศาจ ตอนหลังก็มีตัวละครที่เป็นเผ่าปีศาจเพิ่มเข้ามาค่ะ เนื้อเรื่องชวนติดตามว่านางเอกและพระเอกของเรื่องจะได้กลับสู่โลกปัจจุบันหรือไม่ แล้วเผ่าปีศาจจะหาตัวของเจ้าหญิงใบเฟิร์นเจอหรือไม่และถ้าเจอแล้วเผ่าปีศาจต้องการตัวนางเอกไปทำอะไร เนื้อหาที่อ่านก็พอจะเดาตอนจบได้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไรค่ะ ชอบพระเอกนางเอกที่เจอกันครั้งแรกแบบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่เพราะเคนโด้ดันคิดว่าใบเฟิร์นเป็นปีศาจเลยโดนจับมัดแถมยังแกล้งเธอสารพัด และทั้งคู่ก็กลายเป็นคู่กัดกันไปเรียบร้อย แล้วเวลาที่พระเอกนางเอกอยู่ด้วยกันก็จะทะเลาะกันแบบน่ารักๆค่ะ สำหรับผู้ที่ชอบอ่านนิยายแนวแฟนตาซีแบบเรียบๆง่ายๆเล่มนี้ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีทางหนึ่งเลยค่ะ ด้วยเล่มและจำนวนหน้าที่ไม่เยอะมาก แป๊บเดียวก็อ่านจบไม่ต้องรอติดตามลุ้นมากๆเหมือนนิยายเล่มหนาๆอื่นๆค่ะ

หนังสือเรื่อง “เกมลึกลับลุ้นรักข้ามดินแดน” เป็นนิยายเล่มที่สองของผู้แต่งที่ชื่อหนูการ์ตูนเลยค่ะ เรื่องนี้ก็เป็นนิยายออกแนวแฟนตาซีเล็กๆนะคะ เรื่องราวต่างๆล้วนเกิดขึ้นจากแผ่นเกมส์แค่ 2 แผ่นค่ะ เป็นแผ่นเกมส์ที่ขายตามร้านเกมส์ทั่วไปนี่แหละ สาเหตุมาจากนางเอกของเรื่องชื่อ ใบเฟิร์น ได้ไปร้านเกมส์แล้วได้ไปสะดุดตากับแผ่นเกมส์แผ่นหนึ่งซึ่งมีปกสีดำซึ่งมันดูลึกลับน่าค้นหามาก อีกทั้งพี่พนักงานสาวสวยที่ขายยังให้ฟรีอีกด้วย นางเอกของเราก็เลยได้กลับมาเล่นที่บ้านของเธอเอง เมื่อเปิดแผ่นมาก็ได้มีการให้ตั้งชื่อตัวละครที่กำหนดมา โดยใบเฟิร์น ได้รับบทบาทเป็นเจ้าหญิงและทันใดนั้นเองที่จอโทรทัศน์ก็มีแสงสว่างวาบออกมาดูดเธอไปยังอีกดินแดนหนึ่งคาดว่าน่าจะเป็นโลกภายในเกมส์นั่นเอง ใบเฟิร์นได้ไปโผล่อยู่ในป่าแห่งหนึ่งจนมาพบเข้ากับ เคนโด้ พระเอกของเรื่องนี้เองค่ะ เคนโด้ก็ได้ถูกดูดมาจากแผ่นเกมส์แผ่นนั้นเหมือนกัน แต่คาดว่าน่าจะเข้ามาก่อนใบเฟิร์น และยังได้มาเป็นลูกชายของบุคคลในเผ่าเวทที่เขาอาศัยอยู่ตั้งแต่แรกที่โดนดูดเข้ามา เขาก็ได้พาใบเฟิร์นไปยังที่อยู่ของเผ่าเวท และใบเฟิร์นยังได้พบกับเจ้าลูกกวาดมังกรที่หาได้ยาก นิยายเรื่องนี้มีความน่าตื่นเต้น และเนื้อหาแปลกดีค่ะ มีทั้งโดนแผ่นเกมส์ดูดเข้ามาแถมยังเข้ามาทั้งพระเอกนางเอกด้วยอีก ยังมีทั้งการที่นางเอกต้องฝึกการใช้พลังเวทต่างๆที่พระเอกจะต้องสอน เพราะ ใบเฟิร์นได้รับบทบาทเป็นเจ้าหญิงซึ่งเป็นความหวังของเผ่าเวทที่จะช่วยจัดการกับเผ่าปีศาจ ตอนหลังก็มีตัวละครที่เป็นเผ่าปีศาจเพิ่มเข้ามาค่ะ เนื้อเรื่องชวนติดตามว่านางเอกและพระเอกของเรื่องจะได้กลับสู่โลกปัจจุบันหรือไม่ แล้วเผ่าปีศาจจะหาตัวของเจ้าหญิงใบเฟิร์นเจอหรือไม่และถ้าเจอแล้วเผ่าปีศาจต้องการตัวนางเอกไปทำอะไร เนื้อหาที่อ่านก็พอจะเดาตอนจบได้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไรค่ะ ชอบพระเอกนางเอกที่เจอกันครั้งแรกแบบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่เพราะเคนโด้ดันคิดว่าใบเฟิร์นเป็นปีศาจเลยโดนจับมัดแถมยังแกล้งเธอสารพัด และทั้งคู่ก็กลายเป็นคู่กัดกันไปเรียบร้อย แล้วเวลาที่พระเอกนางเอกอยู่ด้วยกันก็จะทะเลาะกันแบบน่ารักๆค่ะ สำหรับผู้ที่ชอบอ่านนิยายแนวแฟนตาซีแบบเรียบๆง่ายๆเล่มนี้ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีทางหนึ่งเลยค่ะ ด้วยเล่มและจำนวนหน้าที่ไม่เยอะมาก แป๊บเดียวก็อ่านจบไม่ต้องรอติดตามลุ้นมากๆเหมือนนิยายเล่มหนาๆอื่นๆค่ะ

หนังสือเล่มนี้แค่ชื่อเรื่องก็น่าอ่านมากแล้วค่ะ “The Sixth Sense ญาณสื่อรัก” เป็นเล่มแรกของ ซีรีส์ The Sixth Sense เลยค่ะ สำหรับคนที่ชอบอ่านนิยายแนวเรื่องเร้นลับหรือพวกสัมผัสที่หกต่างๆน่าจะชอบซีรีส์ชุดนี้นะคะ เล่าถึงรายละเอียดคร่าวๆของหนังสือเล่มนี้ก่อนเลยแล้วกันค่ะ เรื่องทั้งหมดจะมีจุดเริ่มต้นที่เหมือนกันเลยค่ะ คือ ทั้งห้าสาวผู้มีสัมผัสที่หก ได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกันจึงทำให้เกิดเรื่องราวขึ้นในตอนที่ไปรับน้องต่างจังหวัดทำให้ทั้งห้าสาวได้มาสนิทกันจนกระทั่งเรียนจบก็ได้เปิดบริษัทซิกส์เซนส์ขึ้นมา เพื่อใช้ความสามารถพิเศษของแต่ละคนให้เป็นประโยชน์ ในเล่มนี้จะพูดถึง ญาณิน ผู้ที่มีญาณวิเศษจะสามารถติดต่อสื่อสารกับวิญญาณต่างๆได้ขณะที่อยู่ในสมาธิ เคสของญาณินถือเป็นเคสแรกของบริษัทเลยเธอต้องเข้าไปช่วยเหลือพระเอก คือ ติณห์ ชายหนุ่มผู้ที่เรียนจบมาจากเมืองนอกและยังเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องผีสางเลยแม่แต่นิดเดียว ติณห์กลับมาเมืองไทยโดยหวังที่จะสร้างรีสอร์ตริมน้ำในที่ที่คุณตาของเขา หรือคุณหลวงพิชัยภักดีทิ้งเป็นมรดกไว้ให้ คุณหลวงได้ขอร้องให้ญาณินช่วยเหลือติณห์ในการสร้างรีสอร์ตให้สำเร็จ ญาณินเป็นคนเดียวที่สามารถติดต่อคุณหลวงได้ แต่ที่ดินผืนนี้เป็นพื้นที่ที่งดงามมากมีแต่คนอยากได้จึงทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆนาๆขึ้นมากมาย ไหนจะต้องพบกับเพนนีเพื่อนของติณห์ที่แอบหลงรักเขามานาน พ่อของเพนนีที่จ้องจะฮุบที่ดินผืนนี้มาเป็นของตัวเอง และกำนันพงษ์ ผู้ที่คอยช่วยเหลือติณห์ในเรื่องการสร้างรีสอร์ตนี้อยู่เสมอ โดยทั้งคู่นั้นไม่รู้เลยว่าต้องพบเจอกับอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นจากทั้งฝีมือคนและผี ส่วนตัวชอบอ่านนิยายแนวนี้อยู่แล้วค่ะ เนื้อเรื่องรวมๆดีค่ะเป็นเกี่ยวกับผีก็จริงแต่ก็มีความหวานน่ารักของพระเอกนางเอกแทรกอยู่ด้วย มีการเล่าถึงการที่คนเราทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วเป็นนิยายที่ทั้งสนุกและแฝงข้อคิดด้วยค่ะ ความสนุกตื่นเต้นมีแทบตลอดทั้งเรื่องค่ะทั้งหนีผีหนีคน มีการใช้คาถามนต์ดำต่อสู้กัน คนที่คิดว่าดีก็กลับพลิกล็อก มีการต้องสืบให้รู้ด้วยว่าความจริงแล้วใครคือฆาตกรที่ฆ่าคุณหลวง เนื้อเรื่องน่าติดตามอยากรู้ว่าตัวละครทั้งหมดนี้ข้องเกี่ยวกันอย่างไร มีการเล่าถึงสมัยก่อนที่คุณหลวงยังมีชีวิตอยู่ เนื้อหารายละเอียดเล่มนี้ค่อนข้างเยอะพอสมควรค่ะ คิดว่าน่าจะเพราะเป็นเล่มแรกเลยมีการเล่าโดยละเอียด สรุปแล้วน่าติดตามมีไว้เป็นเจ้าของทั้งห้าเล่มเลยค่ะ คอนเฟิร์ม ^_^

หนังสือเล่มนี้แค่ชื่อเรื่องก็น่าอ่านมากแล้วค่ะ “The Sixth Sense ญาณสื่อรัก” เป็นเล่มแรกของ ซีรีส์ The Sixth Sense เลยค่ะ สำหรับคนที่ชอบอ่านนิยายแนวเรื่องเร้นลับหรือพวกสัมผัสที่หกต่างๆน่าจะชอบซีรีส์ชุดนี้นะคะ เล่าถึงรายละเอียดคร่าวๆของหนังสือเล่มนี้ก่อนเลยแล้วกันค่ะ เรื่องทั้งหมดจะมีจุดเริ่มต้นที่เหมือนกันเลยค่ะ คือ ทั้งห้าสาวผู้มีสัมผัสที่หก ได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกันจึงทำให้เกิดเรื่องราวขึ้นในตอนที่ไปรับน้องต่างจังหวัดทำให้ทั้งห้าสาวได้มาสนิทกันจนกระทั่งเรียนจบก็ได้เปิดบริษัทซิกส์เซนส์ขึ้นมา เพื่อใช้ความสามารถพิเศษของแต่ละคนให้เป็นประโยชน์ ในเล่มนี้จะพูดถึง ญาณิน ผู้ที่มีญาณวิเศษจะสามารถติดต่อสื่อสารกับวิญญาณต่างๆได้ขณะที่อยู่ในสมาธิ เคสของญาณินถือเป็นเคสแรกของบริษัทเลยเธอต้องเข้าไปช่วยเหลือพระเอก คือ ติณห์ ชายหนุ่มผู้ที่เรียนจบมาจากเมืองนอกและยังเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องผีสางเลยแม่แต่นิดเดียว ติณห์กลับมาเมืองไทยโดยหวังที่จะสร้างรีสอร์ตริมน้ำในที่ที่คุณตาของเขา หรือคุณหลวงพิชัยภักดีทิ้งเป็นมรดกไว้ให้ คุณหลวงได้ขอร้องให้ญาณินช่วยเหลือติณห์ในการสร้างรีสอร์ตให้สำเร็จ ญาณินเป็นคนเดียวที่สามารถติดต่อคุณหลวงได้ แต่ที่ดินผืนนี้เป็นพื้นที่ที่งดงามมากมีแต่คนอยากได้จึงทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆนาๆขึ้นมากมาย ไหนจะต้องพบกับเพนนีเพื่อนของติณห์ที่แอบหลงรักเขามานาน พ่อของเพนนีที่จ้องจะฮุบที่ดินผืนนี้มาเป็นของตัวเอง และกำนันพงษ์ ผู้ที่คอยช่วยเหลือติณห์ในเรื่องการสร้างรีสอร์ตนี้อยู่เสมอ โดยทั้งคู่นั้นไม่รู้เลยว่าต้องพบเจอกับอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นจากทั้งฝีมือคนและผี ส่วนตัวชอบอ่านนิยายแนวนี้อยู่แล้วค่ะ เนื้อเรื่องรวมๆดีค่ะเป็นเกี่ยวกับผีก็จริงแต่ก็มีความหวานน่ารักของพระเอกนางเอกแทรกอยู่ด้วย มีการเล่าถึงการที่คนเราทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วเป็นนิยายที่ทั้งสนุกและแฝงข้อคิดด้วยค่ะ ความสนุกตื่นเต้นมีแทบตลอดทั้งเรื่องค่ะทั้งหนีผีหนีคน มีการใช้คาถามนต์ดำต่อสู้กัน คนที่คิดว่าดีก็กลับพลิกล็อก มีการต้องสืบให้รู้ด้วยว่าความจริงแล้วใครคือฆาตกรที่ฆ่าคุณหลวง เนื้อเรื่องน่าติดตามอยากรู้ว่าตัวละครทั้งหมดนี้ข้องเกี่ยวกันอย่างไร มีการเล่าถึงสมัยก่อนที่คุณหลวงยังมีชีวิตอยู่ เนื้อหารายละเอียดเล่มนี้ค่อนข้างเยอะพอสมควรค่ะ คิดว่าน่าจะเพราะเป็นเล่มแรกเลยมีการเล่าโดยละเอียด สรุปแล้วน่าติดตามมีไว้เป็นเจ้าของทั้งห้าเล่มเลยค่ะ คอนเฟิร์ม ^_^

มาอีกแล้วๆนิยายของผู้แต่งสุดโปรดของเราเอง คือ.... แสตมป์เบอรี่ ค่ะ หนังสือเล่มนี้ก็สนุกไม่แพ้หลายๆเรื่องที่เคยอ่านมาเลยล่ะค่ะ สำหรับเรื่อง “10 Days with Handsome Guy จะบ้าตาย...ห้ามรักนายสุดหล่อ” จะมาในแนวแบบนิยายวัยรุ่นน่ารักกุ๊กกิ๊ก เรื่องย่อๆจะประมาณว่านางเอกของเรื่อง คือ ไอโฟน เป็นผู้หญิงที่รักแฟนมากๆ แฟนหนุ่มของเธอมีชื่อว่า ซิท เรื่องเกิดจากที่ว่าในวันเกิดของซิทเขาอยากได้ของขวัญชิ้นหนึ่งเป็นรองเท้าที่มียี่ห้อและราคาของมันนั้นแพงมากๆ ด้วยความที่ไอโฟนเป็นคนรักแฟนมาก จึงไปที่ร้านขายของนั้นแล้วคิดว่าในวันเกิดปีนี้จะต้องซื้อรองเท้าคู่นี้เป็นของขวัญให้ซิทให้ได้ เมื่อไอโฟนไปมองดูรองเท้าคู่นั้นและทืท่าว่าอยากได้มันมาก ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเหมือนเขาจะรู้ความต้องการของเธอ โดยที่มีข้อเสนอมาแลกเปลี่ยนง่ายๆกับไอโฟน ชายหนุ่มคนนั้นได้ซื้อรองเท้าคู่ที่เธอต้องการมาให้ แต่ไม่ได้ให้ฟรีๆนะคะ คือมันมีข้อแลกเปลี่ยนกันด้วยการให้นางเอกของเราใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายที่ หล่อสุดๆเท่มากๆคนหนึ่ง นั่นก็คือ ยูเค พระเอกของเรื่องนี้เอง โดยข้อตกลงที่ว่านั่นคือตลอด 10 วันที่อยู่ด้วยกันห้ามตกหลุมรักยูเคเด็ดขาด และจะต้องปฏิบัติตามกฎการอยู่ร่วมกันที่ชายหนุ่มคนนั้นตั้งขึ้นมา ถ้าทำได้จะถือว่าเธอเป็นฝ่ายชนะ และได้รองเท้าไปแบบฟรีๆเลย ฝั่งพระเอกก็ต้องทำให้นางเอกหลงรักให้ได้ แล้วทั้งสองคนที่อยู่ร่วมกันได้ใช้ชีวิตในแต่ละวันร่วมกันก็ทำให้เกิดเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว แต่ว่าติดที่ไอโฟนมีแฟนแล้วนี่สิ แต่ซิทแฟนของเธอก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไรเลย ลับหลังก็แอบคุยกับผู้หญิงคนอื่นไปทั่วโดยที่ไอโฟนไม่เคยรู้เลย หนังสือเล่มนี้แสตมป์เบอรี่เขียนได้น่ารักมากค่ะ ส่วนตัวชอบมากแบบว่าอิจฉานางเอกกันเลยทีเดียวที่ได้อยู่กับหนุ่มหล่อตั้งสิบวันแหนะ เนื้อเรื่องเดาได้ไม่ค่อยยากเท่าไหร่ค่ะ มีการเดินเรื่องที่เข้าใจง่ายสรุปเป็นวันๆจนครบทั้ง 10 วันว่ามีเรื่องราวอะไรต่างๆเกิดขึ้นกับทั้งพระเอกและนางเอกบ้าง อ่านไปก็ลุ้นไปค่ะว่านางเอกจะทำได้หรือเปล่าที่ไม่หลงรักพระเอก การใช้คำพูดของนางเอกก็จะออกแนวตลกๆอ่านแล้วสามารถทำให้คลายเครียดหัวเราะได้เลยเป็นปกติของผู้แต่งคนนี้ค่ะ แล้วสรุปว่านางเอกจะเลือกใครกันแน่ เพราะถ้าครบกำหนด 10 วันแล้ว เธอก็จะต้องออกจากยูเคไปเพื่อกลับไปอยู่กับแฟนของตัวเอง สรุปแล้วสนุกค่ะอ่านเพลินๆได้เรื่อยๆค่ะ

มาอีกแล้วๆนิยายของผู้แต่งสุดโปรดของเราเอง คือ.... แสตมป์เบอรี่ ค่ะ หนังสือเล่มนี้ก็สนุกไม่แพ้หลายๆเรื่องที่เคยอ่านมาเลยล่ะค่ะ สำหรับเรื่อง “10 Days with Handsome Guy จะบ้าตาย...ห้ามรักนายสุดหล่อ” จะมาในแนวแบบนิยายวัยรุ่นน่ารักกุ๊กกิ๊ก เรื่องย่อๆจะประมาณว่านางเอกของเรื่อง คือ ไอโฟน เป็นผู้หญิงที่รักแฟนมากๆ แฟนหนุ่มของเธอมีชื่อว่า ซิท เรื่องเกิดจากที่ว่าในวันเกิดของซิทเขาอยากได้ของขวัญชิ้นหนึ่งเป็นรองเท้าที่มียี่ห้อและราคาของมันนั้นแพงมากๆ ด้วยความที่ไอโฟนเป็นคนรักแฟนมาก จึงไปที่ร้านขายของนั้นแล้วคิดว่าในวันเกิดปีนี้จะต้องซื้อรองเท้าคู่นี้เป็นของขวัญให้ซิทให้ได้ เมื่อไอโฟนไปมองดูรองเท้าคู่นั้นและทืท่าว่าอยากได้มันมาก ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเหมือนเขาจะรู้ความต้องการของเธอ โดยที่มีข้อเสนอมาแลกเปลี่ยนง่ายๆกับไอโฟน ชายหนุ่มคนนั้นได้ซื้อรองเท้าคู่ที่เธอต้องการมาให้ แต่ไม่ได้ให้ฟรีๆนะคะ คือมันมีข้อแลกเปลี่ยนกันด้วยการให้นางเอกของเราใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายที่ หล่อสุดๆเท่มากๆคนหนึ่ง นั่นก็คือ ยูเค พระเอกของเรื่องนี้เอง โดยข้อตกลงที่ว่านั่นคือตลอด 10 วันที่อยู่ด้วยกันห้ามตกหลุมรักยูเคเด็ดขาด และจะต้องปฏิบัติตามกฎการอยู่ร่วมกันที่ชายหนุ่มคนนั้นตั้งขึ้นมา ถ้าทำได้จะถือว่าเธอเป็นฝ่ายชนะ และได้รองเท้าไปแบบฟรีๆเลย ฝั่งพระเอกก็ต้องทำให้นางเอกหลงรักให้ได้ แล้วทั้งสองคนที่อยู่ร่วมกันได้ใช้ชีวิตในแต่ละวันร่วมกันก็ทำให้เกิดเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว แต่ว่าติดที่ไอโฟนมีแฟนแล้วนี่สิ แต่ซิทแฟนของเธอก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไรเลย ลับหลังก็แอบคุยกับผู้หญิงคนอื่นไปทั่วโดยที่ไอโฟนไม่เคยรู้เลย หนังสือเล่มนี้แสตมป์เบอรี่เขียนได้น่ารักมากค่ะ ส่วนตัวชอบมากแบบว่าอิจฉานางเอกกันเลยทีเดียวที่ได้อยู่กับหนุ่มหล่อตั้งสิบวันแหนะ เนื้อเรื่องเดาได้ไม่ค่อยยากเท่าไหร่ค่ะ มีการเดินเรื่องที่เข้าใจง่ายสรุปเป็นวันๆจนครบทั้ง 10 วันว่ามีเรื่องราวอะไรต่างๆเกิดขึ้นกับทั้งพระเอกและนางเอกบ้าง อ่านไปก็ลุ้นไปค่ะว่านางเอกจะทำได้หรือเปล่าที่ไม่หลงรักพระเอก การใช้คำพูดของนางเอกก็จะออกแนวตลกๆอ่านแล้วสามารถทำให้คลายเครียดหัวเราะได้เลยเป็นปกติของผู้แต่งคนนี้ค่ะ แล้วสรุปว่านางเอกจะเลือกใครกันแน่ เพราะถ้าครบกำหนด 10 วันแล้ว เธอก็จะต้องออกจากยูเคไปเพื่อกลับไปอยู่กับแฟนของตัวเอง สรุปแล้วสนุกค่ะอ่านเพลินๆได้เรื่อยๆค่ะ