Love Operation ผลลัพธ์คือหัวใจ

Love Operation ผลลัพธ์คือหัวใจ

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789746048491
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 249.00 บาท 196.71 บาท
ประหยัด: 52.29 บาท ( 21.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทที่ 1

 

ย่านธุรกิจยามเช้าเป็นเวลาเร่งด่วน พนักงานออฟฟิศทั้งหลายต่างมุ่งหน้าสู่สถานที่ทำงานของตนซึ่งเป็นอาคารสูงลิบลิ่วเรียงรายเป็นแนวใจกลางเมืองหลวง จะมีแปลกแยกไปคงเป็นอาคารกระจกสี่ชั้น แม้ทุกด้านจะล้มรอบด้วยตึกสูงระฟ้า แต่อาคารสำนักงานนี้กลับโดดเด่นออกมาราวกับคนแคระหนึ่งเดียวในเมืองยักษ์ ตัวอาคารมิได้ปลูกชิดกับตึกที่รายล้อม รอบอาคารถูกเว้นเป็นพื้นที่สีเขียวโดยการจัดสวนหลากแบบ และมีมุมน้ำตกไว้เพื่อให้พนักงานได้มองออกมาเห็นความร่มรื่น หรือสามารถมาเดินพักผ่อนยามเที่ยงได้

หญิงสาวรูปร่างเพรียวบางกึ่งวิ่งกึ่งกระโจนผ่านพนักงานรักษาความปลอดภัยตรงประตูหน้า ส่งยิ้มทักทายให้ราวฟ้าแลบแวบเดียวหาย และฉีกยิ้มให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์โดยไม่มีการแวะทักทาย มือซ้ายเปิดกระเป๋าสะพายใบโต มือขวาหยิบบัตรพนักงานอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาแปะลงบนเครื่องอ่านบัตรหน้าประตูเข้าสำนักงาน เมื่อมีสัญญาณตอบรับว่าการบันทึกเสร็จสิ้น นาฬิกาหน้าปัดเครื่องอ่านบัตรก็บอกเวลา 09.30 น.

“เยส” เจ้าของสถิติอันเยี่ยมยอดชูกำปั้นขึ้นอย่างมีชัย

ประชาสัมพันธ์ผู้คุ้นเคยกับสถิตินี้อยู่ทุกวี่วันก็ยังอดยกนิ้วโป้งให้เหมือนเคยไม่ได้ หญิงสาวเจ้าของสถิติยอดเยี่ยมจึงส่งยิ้มให้อีกครั้ง ก่อนเดินเข้าสำนักงานไปยังห้องทำงานของตัวเอง

“ตัวแดงล่ะสิ” จิรยาหรือเจ๋ ทักผู้กระหืดกระหอบเข้ามาในห้องเมื่อเข็มยาวปัดเลยหกไปสามขีด อันเป็นเวลาซึ่งเกินจากบริษัทกำหนดว่าเป็นเวลาเข้างานปกติ

“ระดับนี้แล้ว ตัวน้ำเงินคนสุดท้ายต่างหาก” เจ้าตัวพูดอย่างลำพองในความสามารถที่ทำสถิติได้เมื่อครู่ เปิดลิ้นชักส่วนตัว นำกระเป๋าสะพายใส่ลงไป และใช้เท้าดันปิดอันเป็นนิสัยประจำ

“ทำไมมือยาวจังจ๊ะคุงเพลงพรรษ” พอลล่า ลูกครึ่งสาวสวยประชดประชันตามประสากุลสตรีผิดหน้าตา แต่คนโดนทักจะสำนึกก็หาไม่ ทำหน้าตากวนอวัยวะที่ใช้ปิดลิ้นชักเมื่อกี้ส่งมาให้คนทักแทนคำบอกอย่างดื้อดึงว่า ‘ฉันจะทำ มีอะไรไหม’ ผู้ทักจึงสะบัดค้อนงอนๆ ให้เสียหนึ่งหน

“แล้วโผล่มาที่นี่แต่เช้าทำไมคะคุณคำหล้า”

พอลล่า ผู้โดนแปลงชื่อให้เป็นสาวไทยภาคอื่นอันมิใช่ภาคกลางค้อนขวับอีกครั้งกับคำถามธรรมดา แต่หากแปลแล้วจะได้ความว่า ‘  งานการตัวเองไม่มีทำหรืออย่างไร ถึงมานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ที่นี่’ แต่ใช่ว่าพอลล่าจะโกรธเคือง ด้วยผู้พูดคือเพลงพรรษ สาวหน้าใสไร้สีสันสังเคราะห์มาแต่งแต้ม ดวงตาวาวแจ่มใสภายใต้กรอบแว่นหนาสีฟ้า ผมยาวมุ่นไว้ด้านหลังด้วยตะเกียบปักผมสุดเก๋ เธอและเพลงพรรษเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เริ่มทำงานที่นี่

คำหล้า เอ๊ย พอลล่า ลูกครึ่งอเมริกัน-ไทย ทำงานอยู่แผนกวิศวกรรมในตำแหน่งธุรการ หรือภาษาง่ายๆ เรียกว่า ‘เบ๊’ ต้องทำทุกอย่างตั้งแต่ถ่าย (เอกสาร) แบบ (แปลนก่อสร้าง) จัดทำบันทึก ดูแลเก็บรักษาเอกสาร แล้วแปลนแต่ละโครงการน้อยเสียเมื่อไหร่ ม้วนทีอย่างกับเสาตอม่อสะพานของโครงการนั้นๆ เชียว นับว่าเป็นงานกรรมกรสุดๆ แตกต่างจากรูปร่างบอบบางของเจ้าตัวยิ่งนัก จึงเป็นที่มาให้เพลงพรรษและเพื่อนๆ แอบค่อนขอดให้เธอเป็นลูกครึ่งสายพันธุ์อเมริกันบราห์มัน...แน่นอนเจ้าตัวย่อมไม่เคยรู้

ส่วนห้องอันเป็นสถานที่ต้นเรื่องนี้มีป้ายบอกด้านหน้าว่า ‘Adminstration Department’ หรือเป็นภาษาไทยบ้านๆ ว่า ‘แผนกจับฉ่าย’ ทำมันทุกอย่าง อะไรขาด ตก บกพร่อง มาลงที่นี่หมด ส้วมตัน น้ำไม่ไหล หลอดไฟขาด กระดาษาหมด เรียกเพียงพริ๊งเดียว เดี๋ยว ‘จับฉ่าย’ จัดการให้ได้ แต่ใช่ว่าจะได้ทำแต่งานแบบนี้ ขนาดคนแผนกบัญชีป่วย เลขาฯ แผนกบุคคลลาคลอด ก็ยังมาดึงคนแผนกจับฉ่ายไปทำงานแทน งกจริงๆ เอ๊ย บริหารจัดการได้ดีจริงๆ

“SRN News รายงานว่าจะมีผู้ตรวจมา” พอลล่ารายงานข่าวล่ามาเร็วให้เพื่อนได้รู้กันหลังจากอมพะนำไว้เป็นนานสองนานเพื่อรอให้ทุกคนมาครบ จะได้ไม่ต้องพูดซ้ำหลายรอบ แต่จนแล้วจนรอดสมาชิกก็ไม่ครบอยู่ดี ครั้นจะอมพะนำเอาไว้อีกก็เกรงว่าปากบางแก้วอย่างเพลงพรรษจะออกอาละวาดจิกปนเหน็บจนหมดอารมณ์ที่จะรายงานข่าวไปเสีย

“SRN ฉันรู้ว่าหมายถึงสาระแนนิวส์ แต่ไอ้ผู้ตรวจนี่คืออะไรอ่ะพอลล่า” จิรยาถามทั้งๆ ที่ยังจ้องช่องสนทนาทั้งแปดช่องของโปรแกรมแชตยอดนิยม นับว่าเป็นผู้มีความสามารถสูงในการทำหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกันโดยสติไม่กระเจิงได้ สิ้นปีน่าเสนอชื่อเป็นพนักงานดีเด่ (น) จริงๆ

“ผู้ตรวจสอบภายใน” พอลล่าต่อคำให้สมบูรณ์ แล้วคนที่รู้อยู่แล้วก็ทำหน้าเมื่อย เพราะคำว่าผู้ตรวจมันแปลเป็นอย่างอื่นไม่ได้หรอก แต่ที่ถามเพราะอยากรู้ว่าจะมาทำไม ในเมื่อไม่ใช่ฤดูกาลที่จะต้องมาสักหน่อย และถ้ามาจริง ผู้ซึ่งทำงานเกี่ยวข้องกับแผนกบัญชีอย่างจิรยา ทำไมไม่รู้เรื่อง หรือไม่ได้รับการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าสักนิด ไม่ทันที่จะมีใครทำการเหน็บแกมหยอกก็มีเสียงทักท้วงทะลุลางปล้องมาจากหน่อไม้หนึ่งหน่อมุมห้อง

“หมอสูติฯ อ่ะนะ” สิ้นเสียง กล่องกระดาษทิชชูก็ปลิวเข้าสู่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำจากฝีมือพนักงานดีเด่ (น) สิ้นปีนี้...ขนาดใช้แค่หางตาเล็งนะนั่น

แปะ

“เจ็บนะเจ๊เจ๋” ต่อยศ หนุ่มเพียงหนึ่งเดียวของแผนกจับฉ่ายหากไม่นับรวมผู้จัดการแผนกโอดครวญ

“กล่องกระดาษ ไม่ใช่กล่องเครื่องมือช่าง เดี๋ยวปาด้วยพรินเตอร์ซะหรอก”

“เงียบไปเลยต่อย-ศ” พลงพรรษเข้าร่วมด้วยช่วยเพื่อนหลังจากไปชงกาแฟ และถือกลับมานั่งที่โต๊ะของตัวเอง

“ผมชื่อต่อ-ยศ ถ้าจะเรียกพยางค์เดียวก็เรียกต๋อยได้ไหมพี่”

“ต๋อย เดี๋ยวนี้กล้าหือแล้วเหรอ” พอลล่าผู้เห็นความเหนียมและเจียมตนในความเป็นหน่อไม้เพียงหน่อเดียวท่ามกลางดงตำแยอดแซวไม่ได้

“ไม่ได้หรอกพี่พอลล่า ไม่ปรามกันมั่งเดี๋ยวได้ใจ”

“เหรอ ไอ้คุณต๋อย” ทั้งสองเจ๊หันจากภารกิจที่ตัวเองหมกมุ่นมาจ้องหน้าไม้ผิดป่าด้วยยิ้มหวานปานจะฆ่าให้ตาย และก็ทำให้คนปรามหัวหด หน้าแหย กลับสู่โหมดเต่าในกระดองทันที

“เรียกต่อย-ศเหมือนเดิมก็ได้ครับ เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใครดี”

“ก็แค่นั้นแหละ” แล้วทั้งสองเจ๊ก็หันไปจดจ่อกับภารกิจแชตมือระวิง และการเติมกาเฟอีนเข้าสู่กระแสเลือดต่อไป

“แล้วหมอสูติฯ จะมาทำไมอ่ะพี่พอลล่า กำหนดตรวจร่างกายประจำปียังอีกตั้งหลายเดือนไม่ใช่เหรอ แล้วคราวนี้ทำไมมีตรวจภายในด้วยอ่ะ” ต่อยศซักถามในหัวข้อที่ตัวเองยังไม่ได้รับความกระจ่างต่อทันที แต่แทนที่จะได้รับคำตอบ กลับได้เป็นการส่ายหน้ากึ่งหนักใจ กึ่งรันทดจากหัวหน้าฝ่ายข่าว

“ต๋อยเอ๊ย”

หน้าฉงนของต่อยศยังคงองศาเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อคำถามที่ออกไปได้รับกลับมาเพียงการส่ายหน้าจากหญิงสาวต่างแผนก ไม่ทันที่ต่อยศจะทำการย้อนกลับไปคิดถึงคำถามเมื่อกี้นี้ว่าถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ไทยหรือไม่ ถึงทำให้คนได้รับคำถามทำหน้าราวกับเบื่อโลกเสียเต็มประดา หนึ่งในสองเจ๊ก็สงเคราะห์ด้วยการเอาแฟ้มบางฟาดใส่ไหล่คนหัวขี้เลื่อยให้สักที “เค้าเป็นผู้ตรวจสอบภายใน ไม่ใช่หมอสูติฯ ตรวจภายในย่ะ”

“แล้วมันต่างกันตรงไหนเจ๊ หรือไม่ได้เป็นหมอก็ตรวจภายในได้ หมอเถื่อนอันตรายนะเจ๊ อย่าไปตรวจเชียว” หน้าตาฉงนของหน่อไม้เปลี่ยนเป็นห่วงใยเจ๊ๆ อย่างสุดซึ้ง และวาดหวังว่าเจ๊ๆ นั้นจะซาบซึ้งใจในความห่วงใยและการตักเตือนด้วยความหวังดีจากเขา

นั่น...มันยังมีหน้ามาเตือนอีก

“น้องตู” สองเจ๊แทบจะเอาหัวโขกโต๊ะกับคำตักเตือนอย่างหวังดีของน้องร่วมแผนก

หนึ่งแขกประจำก็มีความรู้สึกไม่ต่างกัน มือทั้งสองยกมาแตะขมับ “ฉันล่ะปวดหัว”

ขณะที่สามสาวกำลังลังเลว่าควรจะไปห้องพยาบาลเพื่อหายาแก้ปวดหัวกิน หรือว่าไปห้องครัวหาเกลือไอโอดีนมาหยอดปากเพื่อนร่วมแผนก โพสต์อิทสีแสบตาก็แปะกลางหน้าผากหน่อยไม้แสนซื่อ แถมมันยังรับมุกนิงเป็นผีจีนโดนยันต์ซะอีกแน่ะ

เจ้าของโพสต์อิทคืออัครพงษ์ ผู้จัดการแผนกจับฉ่าย หนุ่มหล่อและโสด เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทุกแผนก แม้แต่ผู้ชายด้วยกันก็ยังแอบเหล่ด้วยความอิจฉา ยกเว้นแต่สาวๆ จับฉ่ายและหนึ่งแขกที่ไม่ได้กรี๊ดกร๊าดกับรูปลักษณ์นั้นแม้แต่น้อย

“ไปดูไฟแผนกบัญชีทีซิ เค้าโทรมาเฉ่งตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” แต่คนรับคำสั่งยังนิ่งเฉย

“จะไปดีๆ หรือจะให้ยันส่งไป คุณต่อย-ศ”

“ครับคุณอัคร” ต่อยศดึงกระดาษส่งคืนให้ก่อนจะโดนอนุเคราะห์ยันส่งไปยังแผนกบัญชีโดยไม่ต้องเดินเอง

“เพลง เอาเครื่องเขียนไปส่งที่บัญชีด้วย”

“ค่ะคุณอัคร”

ลูกน้องสองคนแยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย แต่หนึ่งแขกประจำยังคงนั่งอ้อยอิ่งไม่ยอมกลับไปทำงานของตัวเอง “แล้วเมื่อไหร่จะกลับไปประจำคอกเสียทีครับคุณพอลล่า”

ผู้โดนไล่เบ้ปากใส่อย่างไม่เกรงกลัว ปากคอหัวหน้าลูกน้องแผนกนี้เหมือนกันหมด ถ้าเก็บมาเป็นอารมณ์ คนที่จะหงุดหงิดก็คือตัวเธอเอง ดังนั้นคำค่อนนั่นจึงไม่สามารถกวนตะกอนอารมณ์ของพอลล่าได้แต่อย่างใด หญิงสาวเปิดปากมิใช่เพื่อโต้เถียง แต่เพื่ออธิบายให้อีกฝ่ายใช้คำได้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย “ถ้าคุณอัครหมายถึงห้องชั้นสองที่พอลล่านั่งประจำอยู่ เค้าเรียกห้องทำงานค่ะคุณอัคร ส่วนคอกเอาไว้ขังวัว”

แต่อัครพงษ์หาได้ฟังคำอธิบายนั้นไม่ “เห็นเพลงบอกว่าเราเป็นลูกครึ่งอเมริกันบราห์มันไม่ใช่เหรอ”

ขนาดว่าไม่เก็บเอามาเป็นอารมณ์ แต่เมื่อรับรู้ว่าโดนแปลงสายพันธุ์เป็นวัว สายตาพิฆาตจากลูกครึ่งสาวก็จิกไปยังเพื่อนรักซึ่งกำลังหอบเครื่องเขียนเต็มอ้อมแขนทันที เมื่อโดนแฉว่าแอบค่อนเพื่อนเอาไว้ว่าอย่างไร ท่าทางหอบเครื่องเขียนของเพลงพรรษก็ลุกลี้ลุกลนราวกับกำลังหอบทองร้อยกิโลกรัมหนีก็ไม่ปาน

“ยัยเพลง” แล้ววิญญาณกุลสตรีผู้เพียบพร้อมก็ลุกลี้ลุกลนราวกับกำลังหอบทองร้อยกิโลกรัมหนีก็ไม่ปาน

“ยัยเพลง” แล้ววิญญาณกุลสตรีผู้เพียบพร้อมก็หลุดออกจากร่างพอลล่า

ไอ้คุณอัคร ทำลูกน้องกระอักเข้าแล้วไหมล่ะ...ปากเล็กอิ่มพะงาบสรรเสริญเจ้านายแบบไร้เสียง ก่อนจะกระโจนหนีวัวกระทิงที่กำลังติดสปีดวิ่งเข้าใส่ ทั้งห้องกว้างจึงเหลือเพียงสาวนักแชตซึ่งยังรักษาระดับความเร็วการพิมพ์ได้ไม่มีตก และไม่สนว่าโลกจะถล่ม ดินจะทลายแต่อย่างใด

อัครพงษ์ดึงเก้าอี้ลูกน้องให้ออกห่างจากคอมพิวเตอร์ แต่เข้าตัวก็ยังสู้ด้วยการจิกเท้าไว้กับพื้นโดยไม่ยอมละมือที่กำลังพิมพ์ตอบด้วยความเร็วสูง แต่มีหรือแรงใช้แค่เท้าจิกจะสู้แรงมือแข็งแรงกว่าได้

“วันนี้ไม่มีงานด่วนนี่คุณอัคร เจ๋เล่นได้นะ” สาวนักแชตแก้มป่องเมื่อหัวหน้าทำการปิดหน้าต่างสนทนาทุกช่องพร้อมลงชื่อออกจากโปรแกรมให้เรียบร้อย

“ให้หมอสูติฯ ของนายต่อย-ศกลับก่อนค่อยเล่น รู้จักไหม ผักชีโรยหน้า” เป็นการยืนยันแน่นอนว่าวันนี้จะมีผู้ตรวจมา แม้จะเป็นการบอกอย่างกะทันหัน แต่ในเมื่อแผนกบัญชีนั้นทำงานเป็นปัจจุบันอยู่แล้ว ต่อให้ไม่ได้บอกล่วงหน้าก็ไม่มีปัญหาในการตรวจสอบ

“เจ้าค่า” ลูกน้องผู้รู้งานเริ่มทำการโรยผักชีทันทีด้วยการจัดของบนโต๊ะ รวมถึงแฟ้มบัญชีให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

อัครพงษ์กวาดสายตาทั่วห้อง และเดินไปยังด้านหลังอันเป็นห้องครัวขนาดเล็กๆ “แล้ววันนี้เจ๊ใหญ่เราไปไหน”

“อยู่นี่ค่า” เสียงแหลมปรี๊ดซึ่งเจ้าตัวพยายามดัดให้เหมือนผู้หญิงดังมาจากหน้าห้อง แม้จะแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นหญิงเต็มตัว แต่เสียงอันเป็นลักษณะเฉพาะยังไงก็เปลี่ยนไม่ได้

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (73 รายการ)

www.batorastore.com © 2024