ศึกรักนางพญา (นางแก้ว) (EBOOK)

ศึกรักนางพญา (นางแก้ว) (EBOOK)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: ศึกรักนางพญา
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 37.50 บาท
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ตอนที่1 พิษสงนางจิ้งจอกเงิน

                                                                .

                ที่เมืองหลวง

                ภายในจวนของแม่ทัพเฉินเฮ่อ มีผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งบัณฑิต และขุนนางต่างเข้ารุดอวยพรวันเกิดให้กับแม่ทัพเฉินเฮ่อ งานมงคลนี้องค์ไท่จื่อเฉียนเทียน(ท้องฟ้า)เสด็จมาเป็นการส่วนพระองค์ ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงความสำคัญของแม่เฉินเฮ่อได้ไม่น้อยเลย

                แม่เฉินเฮ่อเข้าถวายบังคมต่อเบื้องพระพักตร์ ไท่จื่อตรัสอวยพร

                “ขอให้ท่านมีอายุยืนดั่งสนพันปี”

                “ขอบพระทัย”

                “เฟ่ยหลงอยู่ที่ใด”ไท่จื่อตรัสถาม

                ยังไม่ทันที่แม่ทัพเฉินเฮ่อจะทูลตอบ พอดีกับเฉินเฟ่ยหลง ชายร่างสูงสง่า ใบหน้าคมคายเย่อหยิ่ง และดูทระนงไม่น้อยได้เดินเข้ามา พร้อมถวายบังคม หลังจากได้รับอนุญาตให้ลุกขึ้นรัชทายาทก็ขอพระราชทานอนุญาตจากองค์ฮ่องเต้ไปสนทนาตามลำพังกับเฉินเฟ่ยหลง(มังกรบิน) ผู้เป็นสหายสนิท และขุนพลคู่พระทัย

                ขณะเดินเข้าสวนพักผ่อน ไท่จื่อตรัสถาม

                “งานวันเกิดบิดาทั้งที แต่ลูกชายคนโตกลับหายหน้าไปที่ใดมา”

                ภายใต้แสงนวลของจันทรา และแสงจากโคมไฟซึ่งสาวใช้ส่องทาง ปรากฏว่าเฉินเฟ่ยหลงมีสีหน้าเข้มไปนิด ไม่ตอบว่ากระไร เขาเป็นคนไม่ช่างพูดนัก ดังนั้นไท่จื่อจึงเดาว่า

                “ที่แท้อาจจะแอบไปพบนางในดวงใจ”

                “พอดีนางติดตามมากับท่านแม่ของนาง เราจึงมีโอกาสได้พบกันบ้าง”

                “พวกเจ้าหมั้นหมายกันแล้วไม่น่าที่จะเกรงประเพณีใด บิดาเจ้าช่างเคร่งครัดต่อกฎระเบียบขงจื๊อเสียจริง”

                “กฎระเบียบที่ทำให้บ้านเมืองเป็นสุข สตรีอยู่ในขอบเขตที่สงบเสงี่ยมเจียมตัว ล้วนดีแล้วสำหรับบุรุษผู้ที่ต้องรบทัพจับศึก เราะหากมุ่งจับทัพเบื้องหน้าเบื้องหลังไร้คุณธรรม ไหนเลยจะเป็นสุขได้”

                “เมื่อหมั้นหมายมาแต่เยาว์อายุเจ้าก็สมควรแล้ว ไยไม่แต่งงานกันเสียทีเล่าเฟ่ยหลง หรือเจ้าจะรอจนเทียนเอ๋อช้าเกินควร”

                เฉินเฟ่ยหลงหัวร่ออกมาคำหนึ่ง เมื่อนึกถึงหญิงคนรัก ก่อนย้อนทูลไปว่า

                “พระองค์ก็ยังไม่มีชายา ช่างน่าแปลกไม่น้อยเช่นกัน”

                “ข้าอึดอัดใจ ข้าอยากไปให้พ้นจากการควบคุมของพระมารดาเสียที”

                เฉินเฟ่ยหลงได้แต่ลอบถอนใจ เดาเหตุการณ์ภายหน้าได้ไม่ถูกจริงๆ ขงจื๊อสั่งสอน ให้เหล่าสตรีต้องเชื่อสาม คุณธรรมสี่ ซึ่งคู่หมั้นของเขาเป็นหญิงที่ดีงามตามคำสอนของขงจื๊อเช่นนั้น

                เชื่อสาม คือ เมื่อยังไม่ออกเรือน ต้องเชื่อบิดา  สอง ออกเรือนแล้วเชื่อฟังสามี สามหากสามีตายให้เชื่อบุตรชาย

คุณธรรมสี่  คือ มีศีลธรรม พูจาดี กิริยาดี และมีฝีมือ

                แต่ฮองเฮากลับไม่ตั้งมั่นในเชื่อสามคุณธรรมสี่ โดยไม่มีใครกล้าขัดขวาง พระนางอยู่หลังม่านไม้ไผ่ชักนำการว่าราชการของฮ่องเต้  อีกทั้งไท่จื่อมีกำลังพลไม่มากพอที่จะคัดค้าน จึงดูเหมือนพระองค์อ่อนแอนัก ดังนั้นเมื่อนางพญาเป็นใหญ่ พวกขุนนางกังฉิน ซึ่งเป็นญาติข้างฮองเฮาจึงมีอำนาจล้นวัง พวกสอพลอเข้าประจบไม่ขาดสาย

                “ไข่มุกราตรีของพระมารดาหาย ยิ่งเป็นเหตุให้ทหารที่ดีต้องตายหลายคนแล้ว เราเองไม่รู้จะยับยั้งหรือทำประการใดดี ทั้งที่มีข่าวเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า เป็นฝีมือนางจิ้งจอกขาว ขุนพลสือตามจับนาง หากนางไปมาไร้ร่องรอย ขุนพลสือผู้ภักดีต่อเราจึงเป็นคนล่าสุดที่จะต้องโทษ พรุ่งนี้จะมีการลงโทษแล้ว เราไม่สบายใจสักนิด”

                “ขุนพลสือคือมือขวาของท่านพ่อของข้า เห็นทีครานี้ท่านพ่อคงต้องออกหน้ารับ”

                “หากท่านแม่ทัพทำไม่สำเร็จจะเข้าทางพระมารดาทันที มิแย่หรือ ในเมื่อนางหาทางลิดรอนกำลังท่านแม่ทัพอยู่แล้ว”

                “เราจะตามนางจิ้งจอกชั่วคนนั้นให้ได้ด้วยตัวเองทีเดียว”เฉินเฟ่ยหลงเอ่ยคำมั่น “นางโจรผู้นี้ช่างเกิดมารกแผ่นดินโดยแท้ นางมีค่าเทียบไม่ได้กับเม็ดกรวดสักเม็ดเดียว”

                ลมหอมหอบหนึ่งพัดพามากับสายลม สองบุรุษผู้มีฐานะมั่นคงสูดดมเข้าจมูกจึงได้รับรู้ว่ามิได้อยู่ตามลำพัง…น่าจะมีสตรีอยู่ด้วย หากว่าสตรีผู้ใดซ่อนตัวได้เงียบกริบเช่นนี้

                เฟ่ยหลง ตวาดถามเสียงดัง

                “นั่นใคร”

                “เจ้าอยากพบใคร เราก็ย่อมเป็นคนผู้นั้น”เสียงหวานกังวานพร้อมเสียงหัวเราะเยาะเล็กแหลมตามมา เฉินเฟ่ยหลงทะยานตามเสียงนั้น เงาขาวทาบดวงจันทร์

บุรุษหนึ่งไล่ล่า อีกหญิงหนึ่งชูมุกราตรีเปล่งประกายโอ้อวด

                เฉินเฟ่ยหลงอุทาน

                “นางโจรจิ้งจอกเงิน”เขาเร่งติดตาม หากนางทะยานขึ้นไปตามบนหลังคา ทะยานลิ่วราวสายลมพัดผ่าน ในที่สุดนางเข้าซอย โผขึ้นต้นไม้ แล้วหายไปราวกับว่านางไม่เคยมาปรากฏตัวกระนั้น

การพบกันในครั้งแรกนี้ ย่อมทำให้เฉินเฟ่ยหลงรู้พิษสงและฝีมือของอีกฝ่ายเป็นพื้นฐานแล้วว่า เขาได้พบสุดยอดโจรแผ่นดินที่เขาปรามาสว่า ก้อนกรวดมีค่ามากกว่านาง

หากแท้จริงฝีมือนางจิ้งจอกเลื่องชื่อลือชาได้ปรากฏแก่ตนเองแล้วว่า นางมีวิชาตัวเบาลอย ล้ำเลิศ เหินไปมาได้เหมือนวิญญาณไร้ตัวตน อีกทั้งนางยังเข้ามายังจวนแม่ทัพโดยไร้ร่องรอย

…นางเป็นสุดยอดฝีมืออย่างไม่อาจประมาทได้ต่างหากเล่า!!!

                                …………………

                หากว่า หน้าที่ที่จะต้องตามเอามุกราตรีกลับคืนมา ต้องตกเป็นหน้าที่ของตระกูลเฉินเพื่อรักษาชีวิตขุนพลคู่ใจ เรื่องนี้เฟ่ยหลงคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด เพราะไม่ช่วยย่อมไม่ได้ การเสียคนดีมีฝีมือ ยิ่งทำให้กังเฉินอ่อนแอ และฐานะของไท่จือยิ่งไม่มั่นคง

                วันนี้มีสายฝนตกพรำ เฟ่ยหลงกางร่มฝ่าสายฝนพรำไปศาลเจ้าร้าง ซึ่งชายหนุ่มผู้คงเค้าสง่างามชอบไปไหว้เป็นประจำ หากระหว่างทางเขายังสามารถผ่านครอบครัวตระกูลตู้ ดังนั้นเฟ่ยหลงจึงได้อดแวะเสียไม่ได้ เวลาเดียวกับที่เขาก้าวผ่านประตูสกุลตู้เข้ามา  ปราดแรกที่เขาพบคือสาวงาม กางร่ม กำลังเดินเข้าจวนพร้อมสาวใช้ติดตามจำนวนหนึ่ง เฟ่ยหลงรีบทักด้วยหัวใจแช่มชื่น

                “เทียนเอ๋อ”

เสียงชายในดวงใจทำให้เทียนเอ๋อหยุดฝีเท้า หันกลับมามอง นางยกร่มสูงยิ่งขึ้นจึงทำให้ชายหนุ่มได้พบเห็นใบหน้างดงามหมดจดของอีกฝ่าย  เฟ่ยหลงยิ้มด้วยความชื่นชมในตัวคู่หมั้นหมายสายตาบุรุษย่อมอดเลื่อนมองเอวกลมกลึงและคำนึงถึงเรือนร่างในเสื้อผ้าพลิ้วงองามอย่างคิดเป็นเจ้าของมิได้ เขาคิดผิดหรือ มิใช่สักนิด เขาคือคู่หมั้นของนาง ในไม่ช้าเขาย่อมเป็นเจ้าของนาง อย่างว่าแต่เรือนร่าง แม้เวลานี้เขาย่อมรู้ซึ้งแก่ใจว่านางมีใจมั่นคงต่อเขาอย่างไม่แปรผันเฉกเดียวกับเขานั่นเอง เสียงกังวานใสเปล่งออกมาจากกลีบปากบางระเรื่อแดงด้วยทาชาด

“เฟ่ยหลงท่านกำลังไปที่ใดหรือ”

“เราไปศาลเจ้าร้าง แต่อดมาพบเจ้าก่อนมิได้ แต่เสียดายที่วันนี้ฝนไม่เป็นใจให้เราได้สนทนากับเจ้านานว่านี้ เจ้ารีบเข้าจวนไปเถอะเดี๋ยวไม่สบาย”

เมื่อเทียนเอ๋อ ทอดสายตาสานสบความหวานเยิ้มของดวงตาบุรุษรูปงามผู้เปิดเผยความในใจผ่านดวงตาจนหมดสิ้น นางรีบเบือนหน้าเมิน หลุบตามองพื้นด้วยความเขินอาย หากยังถามกลับมาว่า

“ท่านชอบไปที่นั่นเสมอ ที่นั่นมีสิ่งใดดีหรือ ข้าฟังว่าเป็นวัดร้างที่มีพระรูปแปลกประหลาดกว่าพระทั่วไป”

“พระปฏิมาที่นั่นศักดิ์สิทธิ์นัก เราเคยไปขอพร ให้มีสาวงามมาเป็นคู่ เราคู่ยังสมใจ”คำท้ายหยอดหวาน เทียนเอ๋อจึงได้ก้มหน้าเอียงอายเดินลิ่วเข้าจวน แต่ไม่วายทิ้งรอยยิ้มไว้ให้ชายชวนฝัน

เฟ่ยลงมองรอยยิ้มของคนรักด้วยใจปีติ รอยยิ้มสตรี มีที่มาว่า หากสตรีคนเดียวกันมีให้บุรุษหนึ่งเดียวสามครั้ง นั่นย่อมหมายความว่านางมีใจให้ เทียนเอ่อย่อมใช้อุบายนี้ฝากบอกเฟ่ยหลงอย่างชาญฉลาด และไม่มีผู้ใดสงสัย

เฟ่ยหลงมีแต่ความอิ่มเอิบใจ จึงเร่งฝีเท้าไปที่ศาลเจ้ารกร้าง ห่างไกลอยู่นอกเมืองทันที

การเดินทางหลายลี้ จึงถึงศาลเจ้าเก่าแก่

ศาลเจ้าแห่งนี้ไม่มีคนดูแล แต่ยังสะอาดไร้หยากไย่ เพราะคนที่ยังเคารพยังให้ความสำคัญในเรื่องความสะอาดทุกครั้ง และเมื่อบุคคลใดเข้าไปสักการะ คน คนนั้นจักต้องทำความสะอาดก่อน เฟ่ยหลงก็เช่นกัน

หากวันนี้แปลกที่ มีสตรีนางหนึ่งก้มกราบน้าพระพุทธรูปประทับนั่งสงบ มีพระพักตร์งดงามอ่อนช้อย ไม่ได้มีรูปทรงพระวรกายอ้วนท้วนดังวัดอื่น จึงเห็นเป็นสิ่งประหลาด ทั้งพระองค์มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ดังนั้นวัดเล็กนี้จะนับเป็นเพียงศาลเจ้าย่อมได้ แต่ผู้ที่ให้การเคารพนับถือ เป็นเพราะความนิ่งสงบของพระพักตร์ทั้งพระเนตรมองต่ำ มีแววปราณีต่อสรรพสัตว์ทุกผู้นี้เอง

สตรีนางนั้นกราบงามสามครา แล้วจึงประคองตัวเองลุกขึ้น ขณะหมุนกายออกจึงได้พบเฟ่ยหลง ยืนหลบอยู่ข้างทางเข้าอย่างคนรักษามารยาท ไม่อยู่กับสตรีแปลกหน้าตามลำพัง แม้แต่ในศาลเจ้าไร้คนมองก็ตามที

“เอ่อ”นางชะงัก เฟ่ยหลงรีบกล่าวอย่างไม่ให้นางตกใจ

“ตามสบายเถอะแม่นาง”นางเยื้อนยิ้มให้น้อยๆ

“เจ้าทำธุระให้เรียบร้อยก่อน ข้าไม่รีบร้อนนัก”

นางยิ้มรับอีกครา

“แปลกทีเดียว ข้านึกว่ามีแต่ข้าที่นับถือพระปฏิมารูปแปลกองค์นี้คนเดียวเสียอีก”

“ข้านับถือท่านมานานแล้ว”เฟ่ยหลงเอ่ยเมื่อนางกล่าวขึ้นมาก่อน

สตรีโฉมงามเหลือบสายตามองที่ร่มของนางแล้วแกล้งลืมเดินเลี่ยงออกมา เฟ่ยหลงเข้าไปภายใน พอเห็นร่มจึงรีบนำออกมาให้อย่างคนมีน้ำใจ

“เจ้าคงลืมร่มเสียแล้ว”

นางทำเป็นนึกขึ้นได้หันมารับร่ม ส่งยิ้มให้กับเฟ่ยหลง ชายหนุ่มกลืนความยินดีไว้แน่นสนิท เขาไม่มีความยินดีด้วยรอยยิ้มสามคราของหญิงอื่น นอกจากผู้เป็นคู่หมั้นเพียงคนเดียว

ดังนั้นเมื่อส่งร่มให้นางแล้วเขาหมุนกายเข้าไปกราบพระพุทธรูป เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่เบานักว่า

 “ข้าแต่พระปฏิมา บัดนี้ข้านำความทุกข์ร้อนมาวิงวอนขอพรจากพระองค์อีกคราหนึ่ง เพราะชีวิตคนดีต้องมาล้มตายเพราะนางมารจิ้งจอกเงินนับร้อยคนแล้ว โปรดชี้แนะแนวทางให้กับข้าช่วยกำจัดมารด้วยเถิด”

เสียงสะท้อน แม้สายฝนจะยิ่งกระหน่ำ

เบื้องในวิงวอน เบื้องนอกล้วงหยิบมุกราตรีออกมาจากอกเสื้อพร้อมโยนเล่นคราหนึ่งก่อนเดินจากไป เสียงร่ำร้องในอกของสตรีโฉมงามระริกระรี้ที่อยากกู่ก้องออกมาว่า

...หากแลกด้วยหัวใจเจ้า  ข้าอาจจะยอมก็ได้เฟ่ยหลง!

                                               

ท้องฟ้าดำทะมึนด้วยเค้าเมฆฝน เฟ่ยหลงสาวเท้าเร็วมากขึ้นเพื่อกลับจวนพักของเทียนเอ๋อ เพราะเป็นเส้นทางที่ใกล้กว่าที่พักของตนเอง

หากเขาไม่รู้เลยว่า มีสตรีสาวแต่งกายรัดกุมติดตามไปอย่างเงียบราวกับเงามืดของตนเอง

เฟ่ยหลงเข้าไปในสภาพตัวเปียกแม้ไม่มาก หากเทียนเอ๋อรีบเข้ามาดูแลพร้อมหาผ้าใหม่มาให้เปลี่ยน การมีผ้าใหม่เป็นเรื่องยุ่งยาก หากว่าในกรณีบ้านมีฐานะเป็นถึงขุนนางใหญ่ไม่ใช่เรื่องยากสักนิด

เพียงเฟ่ยหลงสวมใส่เสื้อผ้าออกมาจากห้องไม่ทันไรบ่าวไพร่บ้านตนเองก็ออกมาบอกข่าว ด้วยท่าทางเร่งร้อนแล้ว เฟ่ยหลงจึงต้องรีบกลับอีกครา เทียนเอ๋อทำท่ามาส่ง หากเฟ่ยหลงบอกกล่าวด้วยความห่วงใยในสุขภาพของนาง นางยอมรับฟังเขาอย่างกุลสตรีที่ดี

เฟ่ยหลงกลับจวน เขาก็ยังไม่ล่วงรู้ว่าจิ้งจอกเงินตามเขามาจนถึงจวนที่พัก สายฝนกลบเสียงเหินทะยานสู่หลังคา ซึ่งนางขึ้นไปกบดานเงียบ แม้สายฝนยังกระหน่ำไม่หยุด

ไม่มีที่ใดเลยในจวนแห่งนี้ที่จิ้งจอกเงินจะไม่ทราบว่าห้องไหนเป็นห้องใคร นางเป็นคนมากมีความสามารถอย่างน่ากริ่งเกรงจริงๆ

ที่ห้องโถง

แม่ทัพเฉินเฮ่อนั่งรอบุตรชายคนโตเพราะมีปัญหาเร่งด่วนที่จะปรึกษาหารือกัน เฟ่ยหลงไปนั่งใกล้บิดา

“ท่านพ่อมีเรื่องเร่งด่วนใช่เรื่องนางจิ้งจอกหรือเปล่าครับ”

“ใช่...การตามหานางเป็นการเสียกำลังพลไม่ใช่น้อย อีกทั้งเราโดนบีบบังคับโดยฮองเฮาเอาชีวิตขุนพลมาเป็นหลักประกัน บีบให้เรารีบลงมือ”

“ลูกจะควานหาตัวนางให้ได้”

“หาทางได้ก็ใช่ว่าจะได้มุกราตรีคืน งานนี้พ่อเห็นว่าน่าที่จะปิดประกาศท้าประลองกับนางดีกว่า”

“ท้าประลอง”เฟ่ยหลงทวนคำ “โจรที่ไหนจะมาเสนอหน้ายิ่งนางคนชั่วแล้วไม่มีทางหรอกครับท่านพ่อ”

“เจ้ามีวิธีดีกว่านี้หรือ อย่าเอาเรื่องระดมกำลังตามหานางมาเจรจา เพราะนางไปมาไร้ร่องรอย ขนาดนางสร้างขุมกำลังนับพันพวกเรายังไม่สามารถตามนางได้”

เฟ่ยหลงมีสีหน้าวิตกกังวลไม่น้อย เมื่อขบคิดไม่ออกเขายิ่งพาลชิงชังคนสร้างความเดือดร้อนมาให้มากขึ้น

ฝ่ายคนลอบมองกลอกตาไปมาด้วยความคิดแยบยลบางอย่าง ก่อนจุดยิ้มมุมปากแล้วทะยานจากไปทันที คงปล่อยให้สองพ่อลูกร่วมกันวางแผนเพื่อให้แยบยลในการตามล่าจิ้งจอกเงินผู้ไปมาไร้ร่องรอย และมีวิทยายุทธ์สูงส่งยากหาใครเทียมทัน

เรื่องนี้เฟ่ยหลงย่อมทราบดี เพราะเขานับว่ามีวิทยายุทธ์ล้ำเลิศมากแล้วยังไม่สามารถติดตามวิชาตัวเบาของนางได้ แม้ไม่เคยปะมือกัน เขาก็ต้องย่อมไม่ประมาทแม้อีกฝ่ายจะเป็นสตรี

...วิชาพิสดารของนางร่ำเรียนมาจากสำนักใดไม่ปรากฏ  ส่วนเขาเรียนรู้มาจากเส้าหลินจึงถนัดเพลงหนักมากกว่าเพลงไร้ร่องรอย

อย่างที่กล่าวเรียกกันว่า “วิชานอกรีตไร้กฎเกณฑ์” หากเป็นที่ร่ำลือ นางจิ้งจอกมากมีฝีมือ

                                                ………

ที่ถ้ำกว้าง กลางหุบเขาหมื่นบุบผา ภายนอกหนาแน่นไปด้วยป่าไม้ ภายในดุจแดนสวรรค์ และที่แห่งนั้นราวกับทิพย์วิมานเป็นที่อยู่ของพรรคจิ้งจอกขาว พรรคซึ่งตั้งมาเพื่อล้มล้างคนรวยช่วยคนดี สมุนนับพันเชื่อฟังประมุขผู้สวมชุดรุ่มร่ามและไม่มีใครได้เห็นโฉมหน้านางอย่างแท้จริง เพราะนางปิดบังด้วยหน้ากากจิ้งจอกน่าชัง

ล้มล้างกังฉินคือเป้าหมายพรรคนี้ หากในสายตาทางการกลับมองว่าพรรค หยินหู(จิ้งจอกเงิน)มีการเคลื่อนไหวเพื่อล้มล้างราชวงศ์

อู๋ซิ่น(ไร้ใจ)คือสมุนมือขวามันพาร่างใหญ่เข้าไปหาประมุขซึ่งอยู่กับอี้หลันสาวใช้คนสนิท

“นายหญิงมีป้ายประกาศจับท่านออกทั่วเมือง พร้อมรางวัลให้ผู้จับได้”

“ข้าไม่มีความกังวลเจ้าอย่างสนใจไป แต่เจ้านำจดหมายฉบับนี้ส่งให้จวนแม่ทัพ”

“จดหมาย”อู๋ซิ่นทอดตามองดูแผ่นกระดาษผูกมัดด้วยเชือกป่าน

“ข้าได้กำหนดรางวัลนำจับตัวข้าเองแล้วอย่ากังวลไป”

“ท่านคิดทำอะไรกันแน่นายหญิง”

“คนโลภมีอยู่ทุกที่ แม้แต่ในถิ่นของเรา สักวันต้องมีการเปิดเผยแม้เราจะเลี้ยงดูพวกมันอย่างดี แต่ ก่อนให้พวกมันลงมือเราลงมือก่อนดีกว่า”

“เอ่อครับนายหญิง”

อู๋ซิ่นแม้ตัวใหญ่มาก หากเขาได้รับการถ่ายทอดวิชาตัวเบามาจากจิ้งจอกเงิน ดังนั้นการเดินทางออกจากหุบเขาโดยเร็ว

“นายหญิงท่านคิดการใดคะ”

อี้หลันก้มถามนางผู้นั่งอย่างสง่างามบนเก้าอี้นุ่มดั่งบัลลังก์

ประมุขพรรคจิ้งจอกเงิน ทอดตามองผ่านไปที่หงส์หยกงดงามตัวหนึ่ง หากดูก็รู้ว่ามันถูกหักไปครึ่งหนึ่งจากข้างลำตัว ซึ่งน่าที่จะเป็นหงส์คู่

“หงส์นี้หมายถึงความซื่อสัตย์และภักดี หากคนกังฉินมันยังสามารถใส่ร้ายให้ตระกูลข้าจนต้องหนีตาย แล้วฟ้ายังเข้าข้างคนโฉด ให้ครอบครัวข้าต้องชดใช้ในสิ่งที่ไม่ได้ก่อ สหายพ่อข้าออกชื่อช่วยเหลือได้ แต่มันกลับไม่ช่วย แล้วใยข้าต้องมอบผู้ชายดีๆให้เป็นสามีของลูกสาวมันด้วยเล่า”

“ท่านหมายถึง”

“ข้าจะไปเที่ยวเล่นสักสามเดือน เจ้าอย่าได้เป็นห่วงอี้หลัน เพียงแต่เจ้าปิดความลับนี้ให้มิดชิด และรายงานความเคลื่อนไหวให้ข้ารู้ทุกระยะ”

“ค่ะนายหญิง”อี้หลันรับคำอย่างซื่อสัตย์

                               

ฝ่ายอู๋ซิ่นมาถึงข้างจวนแม่ทัพ หากอยู่ในที่ลับ มันปล่อยธนูออกจากแล่ง ที่ลูกศรผูกติดจดหมายฉบับหนึ่ง ทันเจาะจงเมื่อแม่ทัพลงจากหลังม้าหลังจากออกจากวัง

เสียงธนูแหวกอากาศทำให้แม่กังเฉินเฮ่อรีบเบี่ยงกายหลบ เฟ่ยหลงตกใจคิดว่าบิดาถูกลอบสังหาร

“มีคนร้าย อากัง อาจิน”เขาสั่งน้องชายคนรองกังหลง (มังกรเหล็ก) และคนสุดท้องจินหลง (มังกรทอง) ซึ่งรีบรับคำ เฟ่ยหลงเข้าไปดูบิดา

จึงเห็นธนูเฉี่ยวข้างแก้มพอได้เลือดซิบๆ แม้แผลเล็ก หากเฟ่ยหลงแสดงความเป็นห่วงบิดาด้วยความกตัญญูยิ่งนัก

“ท่านพ่อเป็นไรหรือไม่”

“มันจงใจให้พลาด” แม่ทัพเฉินเฮ่อกล่าวอย่างเจ็บใจ “บัดซบที่สุด นี่เป็นฝีมือใครกัน วิยายุทธ์ของมันเยี่ยมนัก”

กล่าวพลางสองพ่อลูกมองไปที่ธนูซึ่งปักอยู่บนต้นสน เฟ่ยหลงรีบตามไปดึงออกมาดู ดูจดหมายให้กับบิดาด้วยความเคารพ แม่ทัพเฉินเฮ่อแกะออกอ่านดูได้ครู่หนึ่งจึงกำกระดาษนั้นจนแน่น สีหน้าแสดงความโกรธอย่างเห็นได้ชัด

“มีอะไรครับท่านพ่อ”

“นางจิ้งจอกให้เราสองพ่อลูกให้ขึ้นผาดั้นเมฆตามลำพัง มันสั่งเราหากวางกำลังคนมันจะทิ้งมุกราตรีให้สาบสูญไป”

“ท่านพ่อเราไม่อาจเชื่อใจนางได้ ในเมื่อนางเจาะจงสถานที่เองนางย่อมมีความประสงค์ชั่วร้าย”

แม่ทัพลูบรอยแผลที่ได้รับจากลูกธนู ก่อนเอ่ย

“นางเป็นเกาทันธ์ที่ไม่รู้แหล่ง นางสังหารพ่อได้แต่กลับยั้งมือ นางโจรคนนี้นิสัยแปลกเสียแล้ว “

“ท่านพ่ออย่าบอกว่าจะทำตามที่นางยื่นข้อเสนอ”

“เราถูกบีบให้ไม่มีทางเลือก ไม่ได้มุกราตรีเราก็ตายอยู่ดี เมื่อนางเปิดทาง แม้จะเป็นทางอันตรายเราย่อมต้องไป นางบอกมีข้อแลกเปลี่ยนกับเราสามข้อ”

“แลกเปลี่ยน เฮ่อะ! ของสูงค่ากว่ามุกราตรียังมีสิ่งใดอีกเล่า...นางช่างสมฉายาความชั่วของนางนัก”

เฟ่ยหลงผรุสวาท ก่อนกำมือแน่น แค้นใจที่ตนเองเป็นนายทหารระดังขุนพล หากต้องยอมทำตามดจรเลื่องชื่ออย่างจิ้งจอกเงิน ซึ่งนางได้แสดงให้เขารู้ถึงฝีมือ บัดนี้นางกลับมีข้อแลกเปลี่ยน

...ของสูงค่ากว่ามุกราตรีคือสิ่งใดกัน?

“เหตุใดเราเราต้องฟังนางเป็นโจร ย่อมไม่มีสัจจะ เราไม่สามารถเชื่อถือนางนะครับ”

“พ่อจะไปเพราะพ่อไม่มีทางเลือกแล้วเฟ่ยหลง นางมีหนทางเดียวให้เราได้เดิน ไม่เดินไม่ได้”

“เช่นนั้นให้ลูกไปเองเถอะ ท่านพ่อย่าได้เสี่ยงไปเลย ข้าคนเดียวหากเป็นอะไรยังไม่สำคัญเท่าท่านพ่อเป็น”

“แม่ทัพกลัวตายจะเป็นผู้นำคนได้เยี่ยงไรกัน พ่อจะไปกับเจ้าตามที่นางเสนอมา”กล่าวจบเดินเข้าจวนไม่ยี่หระต่อบาดแผลเล็กน้อยที่ได้รับจากลูกธนู

แต่เมื่อฮูหยินเฉินได้พบเห็นแผลแม้เพียงเล็กน้อยก็ตกใจ รีบหายามารักษาให้สามีทันที


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (74 รายการ)

www.batorastore.com © 2024