เล่ห์รักเปลวพิศวาส (เทียนธีรา) (EBOOK)

เล่ห์รักเปลวพิศวาส (เทียนธีรา) (EBOOK)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: เล่ห์รักเปลวพิศวาส
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 250.00 บาท 62.50 บาท
ประหยัด: 187.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

วันนี้ที่เจอเธอ

 

สายลมเอื่อยๆ ที่พัดพลิ้วหวิวไหวมากระทบกับต้นหูกวางต้นใหญ่ซึ่งสูงตระหง่านโดดเด่นอยู่ริมถนนเป็นระยะๆ พอจะช่วยทำให้ความร้อนอบอ้าวในยามบ่ายแก่ๆ ผ่อนคลายลงได้บ้าง เมื่อมองไปยังสวนหย่อมที่อยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้น ก็เห็นลำน้ำพุพุ่งทะยานขึ้นด้านบนอย่างต่อเนื่อง สายน้ำแตกกระเซ็นให้ความชุ่มชื้นกับต้นหญ้าเล็กๆ อยู่รอบๆ จนดูมีชีวิตชีวาท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุซึ่งกำลังสาดส่องลงบนพื้นถนนจนทำให้สายตาคู่สวยดุจประกายเพชรต้องหรี่มองพร้อมบังยกมือป้องแสงที่หน้าผากอย่างใจจดใจจ่อเนื่องด้วยกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง

รถเมอร์เซเดสเบนซ์สปอร์ตเอสแอลเครุ่นใหม่ล่าสุดบ่งบอกถึงฐานะและรสนิยมของผู้ขับได้เป็นอย่างดีกำลังแล่นใกล้เข้ามายังบริเวณสี่แยกไฟแดง รถคันดังกล่าวก็ชะลอความเร็วลงเมื่อสัญญาณไฟจราจรสีแดงสว่างวาบขึ้น ‘รัชภาคย์ รักเกียรติธนาคุณ’ หนุ่มหล่อวัยสามสิบปี แตะเบรกอย่างคล่องแคล่วและหยุดรถหลังเส้นสีขาวก่อนจะถึงทางม้าลายเพื่อให้คนเดินข้ามถนน อีกงสองนาทีต่อมามือหนาก็เลื่อนไปเปลี่ยนเกียร์แบบอัตโนมัติเพื่อเตรียมออกรถเมื่อเห็นสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว ทันใดนั้น!! เท้าที่กำลังแตะคันเร่งก็เปลี่ยนมากระทืบเบรกแทบไม่ทัน เมื่ออยู่ๆ ก็มีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งพรวดพราดออกมาจากข้างถนน

เอี๊ยดดด!!!

เสียงเบรกลากล้อรถดังพร้อมๆ กับร่างบางของหญิงสาวคนนั้นล้มกลิ้งลงไปนอนกลางถนนในเสี้ยววินาที ท่ามกลางสายตาของคนนับสิบที่มองเห็นเหตุการณ์อย่างตกใจ รัชภาคย์รีบเปิดประตูรถและวิ่งลงมาดูคนที่ถูกรถของเขาชนด้วยความร้อนใจ

“คุณครับ! คุณครับ!” ชายหนุ่มเข้ามาประคองร่างคนที่นอนอยู่ขึ้นไว้ในอ้อมแขนอย่างเป็นห่วง แต่แล้วอะดรีนาลีน[1] ในร่างกายเขาก็หลั่งผิดปกติไปชั่วขณะ เมื่อเห็นใบหน้าสวยหวานของคู่กรณีอย่างเต็มตาเป็นครั้งแรก ดวงตากลมโตที่ล้อมกรอบด้วยแพขนตางอนยาวคู่นั้นราวกับสิ่งมหัศจรรย์บางอย่างในโลกที่สามารถสะกดเขาจนไม่อาจถอนสายตาไปได้ง่ายๆ

“จ...จ...เจ็บ…” เสียงของหญิงสาวดังขึ้นแผ่วๆ ก่อนที่สติของเธอจะดับวูบไป ปลุกให้รัชภาคย์หายจากอาการตกตะลึงในนาทีนั้น ชายหนุ่มจึงรีบช้อนร่างบางไปที่รถของตัวเองทันที ก่อนจะแตะคันเร่งและหมุนพวงมาลัยมุ่งหน้าตรงไปยังโรงพยาบาลซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดในตอนนั้น

ทันทีที่รถเมอร์เซเดสเบนซ์สปอร์ตเข้ามาจอดยังหน้าตึกของโรงพยาบาล หญิงสาวผู้นั้นก็ถูกพาไปที่ห้องฉุกเฉินโดยมีรัชภาคย์ตามไปดูอาการอย่างเป็นห่วง แต่เขาถูกห้ามให้รออยู่แค่หน้าห้องเพื่อรอฟังอาการจากปากของหมอเท่านั้น และอีกหนึ่งชั่วโมงหมอก็กลับออกมา รัชภาคย์รีบตรงเข้าไปถามอย่างร้อนใจ

“เป็นไงบ้างครับหมอ”

“คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ โชคดีที่มีแค่อาการฟกช้ำและรอยถลอกตามร่างกายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หมอคงต้องให้นอนพักดูอาการที่โรงพยาบาลสักสองสามวันก่อน เพื่อตรวจให้แน่ใจอีกครั้ง”

“ขอบคุณมากครับหมอ ขอบคุณจริงๆ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อรู้ว่าอาการของคู่กรณีไม่หนักหนาอย่างที่กังวลไว้แต่แรก

 

รัชภาคย์เดินตามพยาบาลไปยังห้องพิเศษที่ตัวเองได้จองไว้ เขารีบ เปิดประตูเข้าไปในห้องทันที ลำขายาวแข็งแรงก้าวตรงไปยังเตียงผู้ป่วยซึ่งตอนนี้มีร่างบางของหญิงสาวที่ถูกรถเขาชนนอนอยู่บนนั้นโดยที่เธอยังคงหลับอยู่

ตาคู่คมเผลอจ้องหญิงสาวอย่างไม่ตั้งใจแต่ความสวยหวานนั้นดึงดูดจนไม่อาจละสายตาจากใบหน้านวลได้ง่ายๆ ดวงตาของเธอหลับพริ้มขนตางอนยาวประดับดวงตายามหลับชวนให้น่ามองอย่างประหลาด จมูกโด่งเล็กๆ เชิดขึ้นน้อยๆ บ่งบอกนิสัยของเจ้าตัวว่าคงจะแสนงอนไม่เบา ริมฝีปากบางนั้นยังคงเป็นสีชมพูระเรื่อจางๆ เผยอขึ้นราวกับจะเชิญชวนให้ชิมรสหวานของมัน หน้าอกอวบทั้งสองข้างเบียดเสื้อตัวโคร่งของโรงพยาบาลขึ้นมาอวดความกลมกลึงต่อสายตาคนมอง เรียวแขนเรียวเล็กรับกับช่วงเอวคอดอย่างสมส่วน

ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดให้ก้มหน้าลงไปหาริมฝีปากบางนั้นอย่างลืมตัว แต่ดูเหมือนผู้เป็นเจ้าของจะรู้ว่ามีคนกำลังจะรุกรานจึงขยับตัวและลืมตาขึ้นทำให้ชายหนุ่มต้องรีบเขยิบออกห่างโดยอัตโนมัติทันที

ปริมามองไปรอบๆ ห้องอย่างไม่คุ้นสายตา พร้อมๆ กับคำถามที่ผุดขึ้นใจว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหนและมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แล้วพลันสายตาคู่สวยของหญิงสาวก็สะดุดกับร่างของใครคนหนึ่งซึ่งกำลังยืนมองมายังเธออย่างไม่วางตา ผู้ชายคนนี้จัดว่าหล่ออย่างร้ายกาจ ใบหน้าคมเข้ม คิ้วหนาดกดำ ดวงตายาวรีสีน้ำตาล รับกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยัก ผิวขาวละเอียด รูปร่างสูงตระหง่านเต็มไปด้วยพละกำลังสมกับเป็นชายชาตรีทุกกระเบียดนิ้ว ดวงตาคมกริบคู่นั้นทำให้ปริมาหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลจนเธอเองก็ตกใจไม่น้อยกับปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นของตัวเอง หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ เพื่อไล่ความรู้สึกนั้นออกไปจากหัวใจ และบอกตัวเองว่า

...นี่มันเพิ่งแค่เริ่มต้นเท่านั้น เธอจะต้องไม่หวั่นไหวกับผู้ชายคนนี้โดยเด็ดขาด!!...

“คุณฟื้นแล้วเหรอครับผมตกใจแทบแย่” เสียงทุ้มน่าฟังของเขาช่างสมกับใบหน้าที่หล่อเหลาของผู้เป็นเจ้ายิ่งนัก ปริมาแทบจะหาข้อติในตัวผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลยสักอย่าง

“เอ่อ ค่ะ คุณเป็นคนพาฉันมาส่งที่นี่เหรอคะ”

หญิงสาวตอบเป็นประโยคแรกพร้อมกับจ้องมองเขาอย่างเต็มตา ไม่ว่าจะเพ่งพิศมุมไหนผู้ชายคนนี้ก็ทรงเสน่ห์ชวนให้ลุ่มหลงจนใจสั่นแรงระรัวราวกับจะทะลุออกมานอกอก

“ครับ ผมเป็นคนขับรถชนคุณ แล้วก็พาคุณมาส่งโรงพยาบาล คุณเจ็บมากมั้ย” ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้เตียงที่เธอนอนอยู่ รัศมีบางอย่างในตัวเขาทำให้ปริมารู้สึกหวิวๆ แปลกๆ แต่รัชภาคย์กลับรู้สึกพอใจเมื่อมองเห็นแววตาตื่นกลัวราวกับลูกกวางน้อยหลงฝูงของเธอ จนเขาต้องระบายยิ้มบางๆ ออกมาซึ่งยิ่งเสริมให้ใบหน้าคมนั้นหล่อเหลาขึ้นเป็นทวีคูณ

“ก็ไม่มากเท่าไหร่ แต่ยังมึนๆ ค่ะ” ปริมาบอกอย่างพยายามรวบรวมสติไม่ให้จดจ่ออยู่ที่เขามากจนเกินไป

“ผมดีใจนะที่คุณไม่เป็นอะไรมาก แต่หมอบอกว่าคุณต้องนอนโรงพยาบาลสักสองสามวันนะครับ”

“สามวันเลยเหรอ” หญิงสาวพูดแผ่วเบาเหมือนน้ำเสียงบ่นของเด็กขี้งอแง

“ครับ” ชายหนุ่มอมยิ้ม นัยน์ตาคมไหวระริกอย่างอดนึกขำไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้มีอะไรหลายๆ อย่างที่ตรึงตาตรึงใจเขาตั้งแต่ครั้งแรกเห็นและพอได้คุยด้วยก็ยิ่งทำให้อยากใกล้ชิดมากขึ้นกว่าเดิมอีก

และก่อนที่ปริมาจะได้พูดอะไรต่อ ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาอย่างเร่งรีบ ทำให้การพูดคุยของทั้งสองคนต้องหยุดชะงักไป ผู้ที่เข้ามาใหม่นั้นก็คือแม่พิมและพ่อทองซึ่งเป็นพ่อและแม่ของปริมานั่นเอง ทั้งสองคนตกใจไม่น้อยเมื่อได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าลูกสาวถูกรถชนจึงต้องรีบขับรถจากต่างอำเภอเข้ามาดูอาการของ  ปริมาที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัดแห่งนี้

“ปริม!”

คนเป็นแม่กระวีกระวาดเข้ามากอดลูกสาวคนเดียวเอาไว้อย่างห่วงใยทันที

“เจ็บตรงไหนบ้างลูก” นางเอ่ยถามต่อพร้อมกับสำรวจไปทั่วร่างของลูกสาวอย่างละเอียดถี่ถ้วน

ชื่อเล่นของหญิงสาวถูกเรียกให้ได้ยินเป็นครั้งแรก ‘ปริม’ ชื่อนี้ช่างน่ารักสมตัวเสียจริง รัชภาคย์แอบยิ้มอย่างพึงพอใจ

“ปริมไม่เป็นอะไรจ้ะแม่ รถแค่เฉี่ยวๆ เอง พอดีได้คุณเขาช่วยพามาส่งโรงพยาบาลน่ะจ้ะ” ปริมาคลี่ยิ้มเพื่อให้ผู้เป็นมารดาคลายความกังวลใจพร้อมกับเอ่ยถึงรัชภาคย์ทำให้สายตาของบุพการีสูงวัยทั้งสองจับจ้องไปที่เขาพร้อมกันอย่างเพิ่งนึกได้ว่ามีบุคคลอื่นอยู่ในห้องนี้ด้วย

“สวัสดีครับ” รัชภาคย์ยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม “ผมเป็นคนขับ รถชนน้องเขาต้องขอโทษด้วยนะครับสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น”

“มันเป็นอุบัติเหตุน่ะพ่อหนุ่ม ปริมไม่เป็นอะไรมากพวกเราก็สบายใจแล้ว” พ่อทองบอกเรียบๆ รัชภาคย์ยกมือไหว้เพื่อขอบคุณในความกรุณาของครอบครัวนี้อีกครั้งที่ไม่ถือโทษโกรธเขา

“ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาตมาดูแลคุณปริมจนกว่าจะหายดีนะครับ และก็ไม่ต้องห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาล ผมจะรับผิดชอบให้เอง” ชายหนุ่มเอ่ยอาสาพร้อมทั้งถือโอกาสเรียกชื่อเล่นตามที่พ่อแม่ของเธอเรียกทันที

พ่อทองพยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงอนุญาตอย่างรู้สึกถูกชะตากับบุคลิกและความเป็นสุภาพบุรุษของชายหนุ่มคนนี้ไม่น้อย รัชภาคย์จึงขอตัวกลับหลังจากที่พ่อแม่ของปริมาบอกเขาว่าจะเป็นคนเฝ้าหญิงสาวเองในคืนนี้

 

รัชภาคย์ขับรถมาถึงบ้าน เขาก็ตรงขึ้นไปยังห้องของตัวเองและอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวเข้านอน ก่อนจะล้มตัวลงที่เตียงกว้าง ‘ปริม’ ชื่อและใบหน้าหวานๆ ของเธอผุดขึ้นในความคิดของเขาอีกครั้ง วันนี้เขาเกือบจะขโมยจูบเธอเพียงเพราะรู้สึกว่าเธอช่างดึงดูดจนเขาอดใจไม่อยู่ ทั้งๆ ที่ปกติผู้ชายอย่างเขามีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าใส่ ชายหนุ่มขยับตัวอย่างหงุดหงิดกับปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นกับร่างกายของตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

 

เช้าวันรุ่งขึ้น...

รัชภาคย์หอบดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่เข้ามาในห้องคนป่วยในขณะที่ปริมานอนอยู่เตียงตามลำพังเพราะพ่อทองและแม่พิมกลับบ้านไปอาบน้ำตั้งแต่เช้าตรู่

“มาแล้วครับ” เขาทักทายพร้อมกับยิ้มอวดฟันขาวสะอาดเป็นระเบียบ

ชายหนุ่มก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องมาแต่เช้าขนาดนี้ รู้แต่ว่าเมื่อคืนเขาแทบจะนอนไม่หลับเมื่อคิดถึงดวงหน้าสวยหวานของคนที่กำลังนอนอยู่ อยากให้ถึงตอนเช้าเร็วๆ เพื่อจะได้มามองเธอใกล้ๆ แบบนี้ ใบหน้าหล่ออดหัวเราะตัวเองไม่ได้ที่มีอาการเหมือนหนุ่มน้อยแรกรักซึ่งมีอาการทุรนทุรายอยากเจอหน้าสาวอยู่ตลอดเวลา

“มาแต่เช้าจังเลยนะคะ...” เสียงแผ่วหวานเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งยิ้มบางๆ อย่างทักทายพลางถือโอกาสมองเขาอย่างสำรวจ วันนี้เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีน้ำเงินเข้มปลดกระดุมสองเม็ดบนเผยให้เห็นหน้าอกกำยำและกล้ามเนื้อแข็งแรงจนนึกจะลองสัมผัสเล่น หญิงสาวอยากจะโกหกตัวเองว่าไม่ได้หัวใจกระตุกเพียงเพราะสบตากับผู้ชายตรงหน้า แต่หัวใจดวงน้อยที่กำลังแกว่งไหวมันย้ำชัดว่าเธอเกิดอาการเช่นนั้นจริงๆ

“เอาดอกไม้มาเยี่ยมคนป่วย ไม่รู้จะชอบหรือเปล่านะครับ”

“ไม่เห็นต้องลำบากเลยค่ะ” หญิงสาวพูดและทำท่าจะลุกขึ้นนั่ง ชายหนุ่มจึงวางดอกไม้และรีบเข้าไปช่วยประคองให้ปริมานั่งพิงหัวเตียง แต่ในขณะที่ถอยมือกลับ มือหนาก็เฉียดไปโดนยอดอกของเธอเข้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ ชายหนุ่มขนลุกเกรียวขึ้นมาทันที อะไรบางอย่างแข็งขึงและขยายตัวขึ้นเป็นลำ ร่างกายเขาเหมือนตอบสนองต่อสัมผัสเล็กๆ น้อยๆ นั้นอย่างรวดเร็ว

“ขอโทษครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเมื่อรู้สึกว่าปริมาก็ตัวแข็งทื่อไปเช่นกัน

“เอ่อ...ค่ะ” เสียงหวานตอบเบาๆ ด้วยน้ำเสียงเก้อเขินพร้อมกับหลุบตาลงเพื่อปิดบังความหวั่นไหวของตัวเอง ใบหน้าเรียวมนแดงก่ำเป็นลูกตำลึงสุกอย่างชวนมอง

“ปริมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย” หญิงสาวรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเมื่อรู้สึกว่าห้องทั้งห้องเงียบไปชั่วขณะได้ยินแต่เพียงเสียงลมหายใจของเขาและเธอดังผาดแผ่วเท่านั้น

“เอ่อ... ลืมไป ผมชื่อกันต์ครับ” เขาแนะนำตัวเอง ก่อนจะยื่นนามบัตรไปให้กับเธอ

ปริมารับมาและกวาดสายตาลงไปดูตัวหนังสือบนบัตรนั้น รัชภาคย์ รักษ์เกียรติธนาคุณ เจ้าของธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง ‘ไม่ผิดตัวแน่’ หญิงสาวคิดในใจอย่างสมหวังเมื่อแผนการของเธอเริ่มก้าวหน้าไปอีกขั้น

“นามสกุลยาวจังเลยนะคะ” เธอหัวเราะเบาๆ แต่ดูเหมือนจะทำให้โลกทั้งใบสดใสขึ้นมาทันที

...ผู้หญิงคนนี้มีอะไรหลายอย่างที่น่าทึ่งและดึงดูดเขาได้อย่างไม่ยากเย็นเลย...

 รัชภาคย์ตาพร่าไปชั่วขณะ

“ปริมสนใจอยากใช้นามสกุลนี้บ้างไหมล่ะครับ” เขาเรียกอย่างสนิทสนมและถามอย่างสัพยอก อะไรบางอย่างบอกเขาในนาทีนั้นว่าได้ตกหลุมรักเธอคนนี้เข้าแล้ว ‘รักแรกพบ’ รัชภาคย์บอกตัวเองก่อนจะยิ้มน้อยๆ ออกมา ในขณะที่ปริมาตอบคำถามนั้นของเขาอยู่ในใจ

...ทำไมเธอจะไม่อยากให้นามสกุลนี้ แต่เป็นกับอีกคนหนึ่งที่เขาไม่มีวันจะหวนกลับมาหาเธอแล้ว...

แววตาเธอหม่นลงไปเล็กน้อยเมื่อหวนคิดมาถึงเรื่องนี้ รัชภาคย์สังเกตเห็นความผิดปกตินั้นทันทีและไม่แน่ใจว่าตัวเองพูดอะไรผิดจึงทำให้ปริมามีอาการเช่นนี้

“อาการคุณเหมือนคุณที่เพิ่งอกหัก” เขาพูดตามที่ตัวเองรู้สึกและจ้องมองลึกลงไปในดวงตาคู่สวยราวกับจะสำรวจหาสิ่งผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในนั้น

“อกหักอะไรกันคะ” ปริมาแสร้งยิ้ม แพขนตาคู่สวยกะพริบปริบๆ เพื่อกลบเกลื่อนพิรุธ

“แล้วโกรธผมหรือเปล่าที่บอกว่าอยากให้ปริมาใช้นามสกุลด้วย”

“คนเจ้าชู้ก็อย่างนี้แหละค่ะ” จมูกเรียวย่นใส่

“เปล่านะครับ ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน”

ปริมาแอบยิ้มในใจกับคำตอบนั้น “นี่เราเพิ่งรู้จักกันได้สองวันเองนะคะ”

“ปริมเชื่อเรื่องรักแรกพบหรือเปล่า”

หญิงสาวส่ายหัวน้อยแทนคำตอบว่าไม่เชื่อ

“ถ้าอย่างนั้นผมจะพิสูจน์ให้ปริมเห็นเองว่าเรื่องนี้มีอยู่จริงและหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก”

“แน๊ะ...” เธอขมวดคิ้วมุ่นแล้วหัวเราะ

ทำไมเรื่องมันง่ายกว่าที่คิดเอาไว้ตอนแรกซะอีก รัชภาคย์ตกหลุมพรางอย่างรวดเร็วจนเธอเองก็ตั้งตัวไม่ติด หญิงสาวรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันทีเมื่อมองใบหน้าคมเข้มที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นของเขา จนเธอเองนึกอยากจะหลบหลีกให้พ้นจากสถานการณ์อันชวนใจอ่อนนี้สักพัก

“จะลุกไปไหนครับปริม” เขาเอ่ยถามเมื่อเห็นร่างบางทำท่าจะลุก

“ปริมจะไปห้องน้ำค่ะ” หญิงสาวบอก เขาจึงรีบเข้ามาช่วยประคอง

มือใหญ่สอดเข้าไปที่เอวคอด ทันทีที่ถูกเขาสัมผัสบริเวณนั้นร่างกายก็เกิดอาการปวดร้าวคล้ายกับมีกระแสไฟฟ้าแรงสูงส่งผ่านมากับมือข้างนั้นแล้วแผ่ซ่านไปยังบริเวณท้องน้อยจนเกิดอาการขมวดเกร็งจน แขนขาอ่อนแรง

ปริมากลั้นหายใจ ดวงตากลมแป๋วสบกับตาคมเข้มชั่วขณะ ริมฝีปากหยักของเขาและลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดไปทั่วดวงหน้าสวยหวานของเธอก่อให้เกิดความรัญจวนใจอย่างประหลาด ชีพจรเต้นระรัวจนแทบจะเป็นบ้าคลั่ง ร่างบางสั่นระริก ปฏิกิริยาทั้งหมดเหล่านั้นทำเอาหญิงสาวอ่อนเปลี้ย หมดเรี่ยวแรงไปดื้อๆ

รัชภาคย์รวบร่างนั้นเข้ามากอดไว้ เมื่อเห็นปริมาทำท่าราวกับกำลังจะล้มลงไป ดวงตาสองดวงสบตากันในระยะใกล้ชิดเป็นครั้งแรก นัยน์ตาของเขาช่างวาววับทำให้โลหิตของปริมาฉีดขึ้นหน้า หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก

“คุณเป็นอะไรครับ” เขาพูดขึ้นอย่างเป็นห่วงหญิงสาวตรงหน้า น้ำเสียงเขาช่างฟังทุ้มหูเหลือเกิน ปริมารู้สึกกลัวใจตัวเองขึ้นมาทันที นี่แค่เพิ่งเริ่มต้นเขายังมีอิทธิพลกับหัวใจดวงเล็กๆ มากขนาดนี้ แล้วต่อไปเธอจะทนใจแข็งได้สักแค่ไหน ‘ต้องได้สิปริมา’ หญิงสาวย้ำเตือนกับตัวเอง

“ปริมรู้สึกหน้ามืดค่ะ” เสียงหวานเอ่ยแก้เก้อพร้อมกับร่างที่ยืนโงนเงน

“งั้นเดินช้าๆ นะครับ” ชายหนุ่มบอกอย่างเป็นห่วงแล้วค่อยๆ ประคองเธอพาเดินไปยังประตูห้องน้ำก่อนจะยืนรออยู่ตรงนั้น

ปริมาเข้าไปในห้องน้ำและมองดูตัวเองผ่านกระจกในห้องน้ำ ใบหน้าของเธอยามนี้มีสีแดงเรื่อๆ ปรากฏขึ้นมาให้เห็นชัดเชน

...นี่เธอกำลังหน้าแดงอย่างนั้นหรือ!?...

ปริมาถามตัวเอง รัชภาคย์เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์อย่างเหลือร้าย ยิ่งใกล้เขาก็ยิ่งอันตราย เธอจะต้านทานเขาได้มากสักแค่ไหนนะ

หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากใช้เวลาอยู่ในนั้นนานกว่าสิบนาที รัชภาคย์ยังยืนรออยู่เหมือนเดิม ชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ทัน และโดยที่ปริมาไม่ทันตั้งตัว เขาก็ช้อนตัวเธอขึ้นไว้ในวงแขน

“คุณจะทำอะไร!” ปริมาตกใจเมื่อถูกเขาประชิดตัวแบบนั้น

“ขอโทษนะครับ ผมแค่ไม่อยากให้ปริมเดิน” เขาอธิบายพร้อมกับยิ้มให้อย่างอบอุ่น ปริมาตัวแข็งทื่อไปอีกครั้งกับท่าทางที่เขาแสดงออกอย่างสนิทสนมคล้ายกับเป็นคู่รักกัน หน้าอกกว้างของเขาช่างกลัดแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามให้โลหิตสูบฉีดแรงไปทั่วร่างแต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยจนนึกอยากจะซบใบหน้าลงบนหน้าอกนั้น...

 รัชภาคย์พาเธอมาวางลงที่เตียงคนป่วยอย่างเบามือ ราวกับกลัวเธอจะแตกหัก พลางหลุบตาลงมองริมฝีปากบางรูปกระจับที่ยวนตายวนใจอย่างเผลอไผลอยู่ชั่วขณะ เขาต้องใช้กำลังใจอย่างมากในการหักห้ามความต้องการของตัวเองไม่ให้ก้มลงประทับจูบและตักตวงเอาความหวานที่ใกล้แค่เอื้อม

 ทันทีที่ร่างสูงถอยห่าง ปริมาก็ลอบถอนหายใจเบาๆ อย่างโล่งออกเมื่อเหตุการณ์น่าระทึกใจระหว่างเขาและเธอจบลง

“ปริมโกรธผมเหรอครับ”เขาถามเมื่อเห็นเธอเงียบไป

“ปะ...เปล่าค่ะ” ถึงปากจะตอบเขาออกไปแต่ก็ยังดูเลื่อนลอย

“ผมขอโทษนะ ผมก็แค่เป็นห่วงปริม” รัชภาคย์พูดเสียงทุ้มน้ำเสียงอบอุ่น

“คุณนี่ท่าจะคล่องเรื่องจีบผู้หญิงนะคะ” ปริมาเหน็บแนม

“แสดงว่าปริมรู้ว่าผมกำลังจีบคุณอยู่...” ปากพูด แต่ตากลับจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวยของเธอ นัยน์ตาคมกริบคู่นั้นราวกับมีพลังดึงดูดมหาศาล หัวใจของปริมาเต้นผิดจังหวะอีกครั้งเมื่อต้องเผชิญกับสายตาวาววามวิบวับทอประกายบ่งบอกความรู้สึกที่หลากหลายของเขา

“พูดอย่างนี้กับผู้หญิงทุกคนหรือเปล่าคะ”

“พูดกับปริมเป็นคนแรก” เขาตอบได้อย่างไม่ต้องคิดมาก

“ปริมจะพยายามเชื่อค่ะ” เธอปรายหางตามองเขา “ถึงจะฟังดูไม่น่าเชื่อเลยสักนิดก็ตาม”

“โธ่ปริมครับ ใจคอจะไม่ยอมเชื่ออะไรผมเลยเหรอ” เขาแสร้งโวยวายประท้วงออกอาการงอนๆ เหมือนเด็กถูกขัดใจ แต่ก็ทำให้ปริมายิ้มได้

“อย่าลืมว่าเราเพิ่งรู้จักกันนะคะ”

“ย้ำจังนะครับ แล้วสักวันผมจะทำให้ปริมเชื่อใจผมให้ได้” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างมุ่งมั่น

“ลิเกค่ะ” หญิงสาวย่นจมูกใส่พร้อมกับหัวเราะ และคนถูกหัวเราะก็ต้องหน้างอ

...เวลาคนหล่อหน้างอนี่ก็น่าดูรักไปอีกแบบนะ...

ปริมารีบสลัดความคิดที่เผลอไผลของตัวเองออกไปทันทีที่ตั้งสติได้

“ปากเก่งแบบนี้ น่าจับมาจูบลงโทษซะให้เข็ด” เขายื่นหน้าเข้ามาพูดใกล้ๆ จนหญิงสาวรู้สึกได้ถึงลมอุ่นๆ จากริมฝีปากหยักสวยนั้น

“คุณ!” มือบางรีบยกขึ้นผลักเขาออกห่าง

“นี่เห็นว่าป่วยอยู่นะ ไม่งั้นคุณปริมคนสวยโดนจูบแน่ๆ” รัชภาคย์พูดอย่างคาดโทษทีเล่นทีจริงและหลิ่วตามองคนตรงหน้าอย่างนึกอยากจะจูบเธอขึ้นมาจริงๆ

“อย่ามาหาเรื่องเอาเปรียบซะให้ยาก” หญิงสาวเบ้ปาก สะบัดหน้าหนีเพื่อหลบสายตาวาววามที่จ้องมองมาแทบจะไม่กะพริบ

“เฮ้อ...” รัชภาคย์ได้แต่ถอนหายใจและพยายามระงับความพลุ่งพล่านที่เกิดขึ้นกับร่างกายตัวเองในขณะนี้ลงเพราะไม่อยากให้ปริมาตกใจจนเตลิดกลัวเขาไปมากกว่านี้….



[1] อะดรีนาลีน คือฮอร์โมนที่ถูกสร้างมาจากต่อมหมวกไต เป็นฮอร์โมนในภาวะฉุกเฉิน จะมีมากเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะเครียด ตกใจกลัว ตื่นเต้น หรือออกกำลังกาย ช่วยให้ร่างกายรับกับสถานการณ์ที่ฉุกเฉินต่างๆได้

 

รายละเอียด

หญิงสาวบิดส่ายกายอย่างรัญจวนเด้งสะโพกขึ้นแนบลิ้นร้อนของเขา ชายหนุ่มถือโอกาสจับยกเอวเธอมาพาดที่ขอบโซฟา ใบหน้าของเขาเงยมองหญิงสาวซึ่งตอนนี้เธอก้มหน้ามองเขาเช่นกัน

“พี่ขอรักแค่ข้างนอกนะครับ...นะ” ชายหนุ่มเว้าวอนทั้งปากทั้งตา

ปริมาพยักหน้าอย่างอายๆ เพราะตอนนี้เธอเองก็กำลังถูกแผดเผาไปด้วยเปลวไฟพิศวาส มือหนาจึงเลิกชายกระโปรงตัวสวยของเธอขึ้น แล้วเกี่ยวเอาบิกินีสีชมพูหวานรูดลงไปตามเรียวขายาวอย่างรวดเร็ว 

“อุ๊ย” ปริมาได้แต่อุทาน ใบหน้าสวยแดงก่ำเป็นมะเขือเทศ และพยายามจะลุกขึ้นเพื่อปกปิดเนื้อแท้จากสายตาซุกซนของเขา แต่มือหนากลับยึดตรึงสะโพกสวยนั้นไว้แน่นจนร่างบางไม่สามารถขยับได้

“สวยเหลือเกินปริมจ๋า กางขาออกให้พี่นะ” น้ำเสียงทุ้มแหบกระเส่าออดอ้อนอย่างหลงใหล เขาไม่เคยเห็นสิ่งที่เย้ายวนตาขนาดนี้มาก่อน

ชายหนุ่มใช้มือยึดเรียวขาทั้งสองข้างเธอไว้ก่อนจะดันต้นขาเรียวสวยให้แยกห่างออกจากกันมากกว่าเดิม องศาที่กางออกนั้นทำให้กุหลาบช่อสวยคลี่แย้มเผยต่อนัยน์ตาดำสนิทของเขาเต็มตา บัดนี้กุหลาบช่องามกำลังเบ่งบานและมีน้ำค้างเหนียวใสเอ่อล้นกลีบสีชมพูสดนั้นออกมาประดับจนหยาดเยิ้ม

เขาก้มหน้าลงอย่างไม่รอช้าตะโบมจมูกลงเนื้อเนียนและปาดลิ้นร้อนๆ ชิมรสความฉ่ำชื้นนั้นราวกับภมรหนุ่มดูดน้ำหวานจากเกสรดอกไม้

“ว้าย! อ๊า!!”

ปริมาหวีดร้องระงมเมื่อรู้ตัวว่าถูกเขาลิ้มเลียเนื้อแท้บริเวณนั้นเข้าแล้ว   ลิ้นอันช่ำชองฉกไวปานลิ้นของงูพิษปลุกเร้าเลือดสาวให้เดือดพล่านจนต้องคราญครางเสียงสั่นระริก

ชายหนุ่มดูดเม้มและดึงปุ่มเกสรนั้นเบาๆ ก่อนจะออกแรงลงสู่ปลายลิ้นกดโลมเลียไปทั่วทั้งเนินเนื้อสาว เสียงลิ้นกระทบกับเนื้อนุ่มดังเป็นจังหวะระรัว ริมฝีปากหยักดูดเม้มดื่มด่ำไปทุกซอกทุกมุมราวกับกำลังกินผลไม้หวาน พร้อมกับใช้สันจมูกกดลงไปกลางรอยแยกสีระเรื่อแล้วโยกคลึงไปมา

“พี่กันต์...ขา....อ๊า” เสียงหวานครางออกมาไม่ขาดปาก

รัชภาคย์รุกต่อด้วยการห่อปลายลิ้นจนแหลมเล็กแล้วปักลึกเข้าไปในกลีบสีชมพูระเรื่อทำเอาปริมาเสียวสะท้านทั้งร่าง สองแขนเรียวกอดเขาแน่น ลำตัวแอ่นเกร็ง ใบหน้าสวยสะบัดไปมาจนผมยาวสลวยกวัดแกว่งพลิกพลิ้วไปทั่วแผ่นหลัง สะโพกส่ายสะบัดรุนแรง แอ่นเบียดกลีบกุหลาบเข้าสู่ปากและลิ้นของรัชภาคย์อย่างแนบชิด น้ำค้างใสหลั่งไหลทะลักล้นซึมผ่านความอ่อนนุ่มออกมามาอย่างต่อเนื่อง

มือหนาเลื่อนมารองสะโพกอวบนุ่มทั้งสองข้างแล้วช้อนขึ้นยกเข้าหาลิ้นและปากที่กำลังดูดเลียเธออยู่แล้วจึงออกแรงกดหน้าฝังสันจมูกไปสูดดมความหอมหวานกลางเนินอวบสล้างและถูไถเสียดสีถูกติ่งเกสรแทบทุกจังหวะ ปลายลิ้นอุ่นตวัดฉับไวผสมกับลมหายใจอุ่นกระชั้นจากการหอบกระเส่า

“คนบ้า...ทำอะไร...ปริม” เสียงร้องครางประท้วงดังขึ้นเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกเขากลืนกินและกระหน่ำปาดป่ายไปทั่วบริเวณนั้นอย่างไม่ปรานี

“อา...หวานเหลือเกิน” เขาเอ่ยเสียงแหบพร่าทั้งที่ยังคลุกเคล้าใบหน้าอยู่กับเนินเนื้อสาวอยู่ไม่ยอมห่าง

ขาเรียวข้างหนึ่งตวัดล็อกคอเขาไว้ ดันตัวเองเข้าไปแนบกับลิ้นอุ่นจัดมากขึ้นกว่าเดิมพร้อมกับกดให้สันจมูกโด่งบดขยี้เคล้นคลึงไปทั่วทั้งกลีบเกสรของตัวเอง

“อ๊า...” หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่ลิ้นชำแรกลึกเข้ามาในซอกเนื้ออันบอบบางของเธอ

 

 

คำนำนักเขียน

 

            สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่น่ารัก...

          พบกันอีกครั้งเป็นเรื่องที่สามของอีบุ๊คนะคะ เล่ห์รักเปลวพิศวาส เป็นนิยายที่นานารักมากที่สุดอีกเรื่อง อ่านแล้วแอบฟิน แอบเจ็บจี๊ดๆ ในหัวใจและน้ำตาซึมตอนที่พระเอกเข้าใจนางเอกผิดและประชดประชัน ทำนองว่าอินจัดคล้ายดั่งว่าตัวเองเป็นนางเอกเสียเอง อิอิ นานาคิดว่าเวลาที่หลายๆ คนอ่านนิยายคงเป็นเหมือนนานา สำหรับคนที่ชอบแนวโรแมนติกแต่แอบเซ็กซี่เร่าร้อน คงจะชอบนิยายเรื่องนี้ค่ะ ซีนอารมณ์ก็เขย่าหัวใจให้แกว่งไหว บทรักก็ทำเอาหน้าแดงซ่านได้เหมือนกัน พอย้อนกลับมาอ่านนิยายของตัวเอง นานาก็เกิดคำถามว่า นี่ฉันเขียนจริงๆ เหรอ หลงรักตัวละครในเรื่องขึ้นมาอีกครา อาจจะเป็นเพราะเรื่องนี้คือนิยายแนวที่ชอบ เป็นเรื่องที่ใช้จินตนาการและอารมณ์ในการขับเคี่ยวค่อนข้างมาก จำได้ว่าเขียนตอนช่วงน้ำท่วมใหญ่แล้วได้เอากลับไปรีไรท์ที่บ้านค่ะ

          เป็นอีกเรื่องที่นานาภูมิใจนำเสนอ อยากให้ท่านได้ลองอ่าน ยังไงลองดูตัวอย่างก่อนนะคะ สำหรับนานารักนิยายเรื่องนี้มากค่ะ

          ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่าน ด้วยความขอบคุณ

รักค่ะ

เทียนธีรา


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (83 รายการ)

www.batorastore.com © 2024