เราจะมีชีวิตที่ดี

ภาสกร |
01/10/2013

ผมเคยอ่านหนังสือของคุณภาณุมาศเล่มนึงชื่อเรื่อง "การลาออกครั้งสุดท้าย" เขาได้เล่าถึงเรื่องราวของการเป็นพนักงานประจำแล้วก็ไม่มีอิสระที่จะในสิ่งที่ตัวเองรักจะทำ และสุดท้ายก็ได้ลาออกจากงานมาอยู่กับบ้าน ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าได้หาเงินมาดำรงชีวิตด้วยวิธีไหน แต่จากการอ่านพบว่า น่าจะเป็นจากการลงทุน โดยหนังสือเล่มนี้มีส่วนคล้ายกันคือจะเป็นเืรื่องของชีวิตงานประจำที่ผู้เขียนได้บอกเช่นเดิมว่าไ่ม่ชอบและลาออกมาติดๆกันหลายๆครั้งภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี สุดท้ายแล้วก็ได้ออกมาอยู่บ้านเฉยๆซักระยะ และเมื่อได้ไปงานเลี้ยงกับเพื่อนของแฟนเขาที่ชื่อ "มุ" ก็ได้คุยกับเพื่อนของแฟนถึงเรื่องต่างๆโดยไม่มีอะไรผิดปรกติ แต่เมื่อกลับมา แฟนของผู้เขียนก็ได้เล่าให้เขาฟังว่า เพื่อนบอกกับมุว่า น่าจะหาแฟนที่ดีกว่าผู้เขียนได้ อาจจะเป็นเพราะผู้เขียนไม่ได้ทำงาน เรื่องนี้เลยทำให้ผู้เขียนต้องคิดมากอีก ภายในเล่มผู้เขียนก็ได้เล่าถึงเรื่องการเป็นเจ้าของธุรกิจซึ่งถ้าต้องไปเช่าที่แพงๆอย่างถ้าเป็นในสนามบินสุวรรณภูมิก็เดือนละ 7-8 แสน ซึ่งเมื่อผมอ่านเจอก็ตกใจเหมือนกัน และถ้าเป็นที่สยามก็เดือนละเป็นแสนอยู่ดี และผู้เขียนก็ได้เรียนรู้ต่อว่าวิธีที่จะทำให้ธุรกิจอยู่ได้ ก็คือต้องทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้นด้วยการเพิ่มราคาส่งต่อไปยังผู้บริโภคและพยายามลดต้นทุน ซึ่งเขาได้บอกว่าสุดท้ายแล้วผู้ชนะก็คือเจ้าของพื้นที่ให้เช่าน่ะแหละ ส่วนคนเช่าก็ต้องเอากำไรไปจ่ายค่าเช่าหมด สรุปคือแม้ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจก็ต้องเหนื่อยไม่แพ้คนกินเงินเดือนอยู่ดี ดีไม่ดีจะเหนื่อยกว่าด้วยซ้ำ เพราะต้องดูแลลูกน้องและต้องจ่ายเงินเดือนลูกน้องอีก เรื่องราวต่อมาก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้เขียนเริ่มเขียนหนังสือขาย โดยเล่มแรกๆก็ขายแทบจะไม่ได้ ส่วนเล่มที่สองก็เหมือนกัน โดยเกิดเืรื่องราวที่น่ารักคือมุแฟนผู้เขียนได้เดินเข้าไปซื้อหนังสือและทำท่าเป็นเอาหนังสือเดินมาขอลายเซ็นกับผู้เขียน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่ารักมากๆ สุดท้ายเขาก็ได้เล่าถึงเรื่องราวที่หนังสือ "การลาออกครั้งสุดท้าย" ได้ถูกตีพิมพ์ออกมาซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงเลยทีเดียว โดยรวมหนังสือเล่มนี้จะเป็นแนวเดียวกับเืรื่องการลาออกครั้งสุดท้าย และเป็นหนังสือที่คงจะถูกใจเหล่ามนุษย์เงินเดือนอยู่ไม่น้อยเพราะคงไปตรงใจกับคนเหล่านั้นที่ต้องการที่จะลาออกจากงานประจำมาหาอะไรทำที่เป็นของตัวเองอย่างธุรกิจส่วนตัว สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้ทำงานประจำและก็ไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจด้วย แต่กลับกลายมาเป็นนักเขียน ซึ่งก็เป็นหนังสือเล่มที่พวกเรากำลังอ่านกันอยู่นี่แหละครับ