หัวใจเก็บตก เล่ม 1 (โสภี พรรณราย)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: -
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 97.50 บาท
ประหยัด: 52.50 บาท ( 35.00% )

เนื้อหาบางส่วน

 

ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า

ท้องทะเลเป็นสีเข้มจัด คลื่นของมันโถมทับเป็นระลอก ๆ เหมือนจะม้วนร่างที่กำลังว่ายน้ำให้ลอยออกฝั่งอย่างไม่มีจุดหมาย

มันเป็นวันหยุดที่หล่อนแสนรักหนักหนา มีโอกาสออกมาเที่ยวชายทะเลซึ่งนาน ๆ ครั้งจะมีโอกาสเช่นนี้

ปารณีย์นึกรักกษมผู้เป็นสามีขึ้นอีกหลายเท่า ที่เริ่มเข้าใจชีวิตสมรสที่ต้องยึดทางสายกลาง โอนอ่อนเข้าหากันทำงานบ้าง พักผ่อนบ้าง ชีวิตสมรสจึงจะราบรื่นและมีความสุข

ไม่เหมือนกับที่ผ่าน ๆ มา มีแต่เสียงทะเลาะเบาะแว้งจนเกือบจะแยกทางกันหลายครั้ง แต่หล่อนและเขาก็ผ่านมรสุมช่วงนั้นมาได้

ไม่มีใครว่ายน้ำเก่งเท่าปารณีย์ ทุกคนจึงขึ้นฝั่งกลับบ้านพัก เหลือหล่อนยังอาลัยอาวรณ์กับพื้นน้ำ และสนุกกับคลื่นลูกเล็ก ๆ ที่พัดร่างออกไป และพัดพาร่างกลับมาอย่างสนุกสนาน

ปารณีย์หัวเราะเหมือนเด็ก ๆ ที่พัดร่างออกไป และพัดพาร่างกลับมาอย่างสนุกสนาน

ปารณีย์หัวเราะเหมือนเด็ก ๆ ที่พานพบกับของเล่นที่ถูกใจ

หล่อนเริ่มเหนื่อย จึงว่ายน้ำเพื่อจะกลับขึ้นฝั่ง

ทว่า...

บุรุษคนหนึ่ง ในชุดกางเกงว่ายน้ำตัวเดียว กำลังยืนหรี่ตาจ้องร่างในน้ำอยู่นาน...

เขาให้ความสนใจกับหล่อนเป็นพิเศษ จ้องราวกับจะให้แน่ใจว่าเป็นผู้หญิงที่เขาเคยรู้จัก

และเมื่อหล่อนว่ายน้ำเข้ามาใกล้...เขาก็แน่ใจทันที

ริมฝีปากได้รูปเหยียดออก...

ปารณีย์!

ผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาทุกคน ไม่มีคนไหนที่จะจำไม่แม่น เขามีพรสวรรค์ในด้านนี้...จำชื่อผู้หญิงโดยเฉพาะคนสวย ๆ

ร่างเขาสูงใหญ่ สมส่วน ใบหน้าคมสัน เหมาะเจาะสมกับเป็นนักกีฬาที่ได้เหรียญมาครอบครองหลายรางวัล

ก่อนที่หล่อนจะขึ้นจากน้ำ เขาก็กระโจนลงไปก่อน

ลำน้ำที่แตกซ่านเมื่อร่างหนาหลายสิบกิโลสัมผัส ทำให้ปารณีย์ยกมือลูบหน้า สลัดผมที่เปียกไปด้านหลัง

ใครคนนั้นกำลังว่ายน้ำมาหาหล่อน

ปารณีย์พยุงตัวเองในน้ำ

กษมหรือ ?

ไม่ใช่...เขาขึ้นจากน้ำเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนี่

ร่างนั้นดำลงไปในน้ำ...

โดยสัญชาตญาณแม้ไม่เห็น หล่อนก็รู้สึกว่าร่างนั้นกำลังพุ่งตรงมาทางหล่อน

แล้วร่างกายส่วนล่างของหล่อนก็ถูกรวบตึงให้จมลงไปใต้น้ำด้วยกัน

“ว้าย!”

ปารณีย์ร้องออกมาคำเดียว......ดิ้นขลุกขลัก กลั้นลมหายใจ...

ร่างบุรุษคนนั้นแข็งแรงมาก กอดหล่อนในวงแขนแนบร่างแน่นและก้มลงจูบริมฝีปาก...

บทรักที่จู่โจมอย่างไม่ทันเห็นหน้าเห็นตา...

ปารณีย์คุ้นเคยกับสัมผัสที่เร่าร้อนเช่นนี้...แต่มิใช่กับสามี...

กษม...เฉื่อยชา สุภาพ แต่เขาก็เป็นสามี...

หล่อนคุ้นเคย...แต่มันนานมาแล้ว...เกือบสี่ปี

หล่อนพยายามดิ้นให้พ้นจากการจู่โจมรวดเร็ว...และหล่อนก็หลุดพ้นทะลึ่งตัวเองขึ้นมาเหนือน้ำ

หายใจหายคอแทบไม่ทัน ผมยาวเปียกลู่มาปิดใบหน้าต้องใช้มือสะบัดกลับไปด้านหลัง

ชายคนนั้นก็ทะลึ่งกายขึ้นมาเช่นกัน

ปารณีย์เบิกตากว้าง

“คุณชนินทร์!”

เขาตบน้ำเล่น ยิ้มกริ่ม เจ้าชู้

“ผมดีใจนะที่คุณยังจำผมได้”

หล่อนตกใจ กายเย็นเฉียบ ไม่ใช่เย็นเพราะแช่อยู่ในน้ำ หากเป็นเย็นเยือกที่หล่อนหวาดหวั่น

ปารณีย์กลืนน้ำลายที่ติดอยู่ในคอ...

หันกายกลับจะว่ายน้ำหนี หากถูกลำแขนแกร่งกว่ายึดไว้

“อะไรกันเห็นผมจะหนีเชียวเรอะ”

“ปล่อยนะ!”

“ปล่อย...ผมก็โง่น่ะสิ...”

“คุณจะเอาอย่างไรกันแน่”

เขาหัวเราะ

“ผมยังคิดถึงคุณอยู่”

เขาพยายามจะยื่นหน้ามาใกล้ แต่หล่อนเบือนหน้าหนี

“อย่านะ!”

“อะไรกัน ทำเป็นขยะแขยงผม เมื่อก่อนเห็นรักหนักหนา...”

“บ้า!” หน้าแดงก่ำ ใจเต้นแรง ทำอย่างไรหล่อนจึงจะหลุดพ้นจากเขาได้

“บ้า...” ชนินทร์หัวเราะ “คุณยังจำความหลังได้หรือเปล่า?”

“ไม่...ไม่ได้!”

“ผมไม่เชื่อหรอกนะ ว่าคุณจะเป็นคนขี้ลืม”

มือของเขาลูบอยู่ที่ต้นแขนหล่อน  ลูบเรื่อยจนถึงลำคอขาวผ่อง

ปารณีย์กลั้นหายใจ มองขึ้นบนฝั่งเพราะกลัวใครเห็น

“ได้โปรดเถอะ ฉันมีสามีแล้ว” เสียงเครือ

เขายังคงหัวเราะ

“สี่ปีก่อน...คุณก็มีสามีเหมือนกัน...”

“ตอนนั้น...ฉัน...”

“เหงา” ชนินทร์ต่อให้

ปารณีย์อยากให้ร่างตรงหน้าหายวับไปกับตา ช่วงที่ผ่านมาเหมือนฝันร้ายที่เป็นมลทิน ด่างพร้อยฝังอยู่ในใจเรื่อยมา

“ฉันจะขึ้นฝั่ง...”

“ได้...แต่คืนนี้...” รอยยิ้มของเขายังเจ้าเล่ห์เหมือนเดิม

หญิงสาวเบิกตากว้าง

“ไม่ค่ะ...”

“คืนนี้...บังกะโลเลขที่แปด”

“ไม่...ไม่!...”

เขาปล่อยมือที่ลูบไล้หล่อน ยักไหล่

“ก็ตามใจคุณ...จะไปพบผมที่บังกะโลแปด หรือจะให้ผมไปพบสามีคุณ...เลือกเอา!”

 

“ทำไมเย็นนี้  กินน้อยล่ะ?”

กษมทักปารณีย์ “อารดาอุตส่าห์ทำสุดฝีมือคนเดียวปล่อยให้คุณเล่นน้ำเต็มที่ คนทำเสียใจแย่”

ปารณีย์จะตอบสามีอย่างไรดี สำหรับเหตุการณ์ที่หล่อนกระอักกระอ่วน ลำบากใจที่พบชนินทร์

เหตุการณ์ผ่านมาตั้งนานแล้ว หลายปี...ทำไมโลกกลมทำให้หล่อนกลับมาพานพบชนินทร์อีก

กษมจะรู้เรื่องไม่ได้...

เขาจะไม่ยอมให้อภัยแก่หล่อนเด็ดขาด

คนที่รู้เรื่องนี้ มี...อารดาคนเดียว

อารดา...น้องสาวของหล่อน

หล่อนมีกันสองพี่น้อง...อายุห่างกันห้าปี หล่อนเป็นคนส่งเสียอารดาเล่าเรียน และเมื่อหล่อนแต่งงานกับกษม ก็ให้อารดาย้ายจากหอพักมาอยู่บ้านสามีด้วย

แต่งงานปีเดียว ปารณีย์ก็ได้ลูกสาว...แขขวัญ ตอนนี้อายุสามขวบแล้ว แกติดน้าอารดายิ่งกว่าติดแม่เสียอีก

มาเที่ยวบางแสนครั้งนี้ ปารณีย์ก็ต้องหอบอารดามาด้วย เพื่อให้ดูแลแขขวัญแทนหล่อน

ถ้าปารณีย์ทราบว่าการมาเที่ยวครั้งนี้ จะให้ทำพบชนินทร์หล่อนคงไม่รบเร้าให้กษมพามา

บนโต๊ะอาหารฝีมืออารดาประกอบด้วยอาหารทะเล กุ้ง ปู ปลา ที่เคยเป็นของโปรดของปารณีย์ แถมยังแวดล้อมด้วยคนที่หล่อนรัก กษม...แขขวัญ...และอารดา

มันควรเป็นวันที่หล่อนมีความสุขมาก แต่กลับเป็นวันที่หล่อนต้องเก็บความทุกข์ไม่กล้าปริปากบอกสามี

“ณีย์คงเล่นน้ำเหนื่อยเกินไป ทานไม่ค่อยลงค่ะ” เป็นข้อแก้ตัวเท่าที่จะคิดได้ขณะนี้

“มาแค่สองวัน ผิวคุณดำจะเป็นนิโกรอยู่แล้ว”

“ณีย์อยากกลับบ้าน...?” ส่วนลึกหล่อนต้องการเช่นนั้น

กษมตาโตหัวเราะเบา ๆ ท่าทางเขาเป็นคนใจเย็น

“อะไรกัน ไหนคุณบอกจะพักสักอาทิตย์หนึ่ง ผมอุตส่าห์ตามใจ มอบงานบริษัทให้ผู้ช่วยดูแล มาพักผ่อนเป็นเพื่อนคุณตามสัญญา”

“ณีย์อยากกลับบ้านจริง ๆ ค่ะ”

“ไม่พาคุณออกมาเที่ยวพักผ่อนบ้าง เดี๋ยวคุณก็จะโกรธผมอีก ตอนนี้ผมเป็นสามีที่ดี มีเวลาให้คุณกับลูกมากขึ้น...”

ปารณีย์ใจสั่นขึ้นมาเฉย ๆ

ใช่...กษม ปรับตัวจนเป็นสามีที่ดีแล้ว ดีจนหล่อนละอายในความผิดที่ผ่านมา

อารดาสังเกตเห็นว่าพี่สาวมีอาการผิดปกติ

นิสัยของพี่สาว ทำไมหล่อนจะไม่รู้...เติบโตกันมาสองพี่น้อง...หล่อนอาจชอบชีวิตที่เรียบง่าย หากพี่ปารณีย์ยังหลงใหลอยู่กับการท่องเที่ยว เบื่อหน่ายกับชีวิตที่จำเจซ้ำซาก

การมาบางแสน พี่ปารณีย์เป็นคนเร่งเร้าสามีด้วยความกระตือรือร้น จู่ ๆ อยากกลับบ้าน เป็นเรื่องที่น่าแปลกจริง ๆ

คืนนั้น...

หลังจากอารดากล่อมแขขวัญหลับแล้ว หล่อนเห็นพี่สาวเดินกระสับกระส่ายไปมานอกระเบียงบ้าน

“พี่ณีย์”

ปารณีย์สะดุ้ง

“ยายดา...เบา ๆ ก็ได้”

อารดากะพริบตาถี่ ๆ

“ดาเรียกเบา ๆ เท่านั้นนะคะ แต่พี่ณีย์สิคะตกใจไปเอง”

อารดาสังเกตเห็นชัด ๆ ว่า ใบหน้าพี่สาวมีปัญหากลัดกลุ้ม และกระวนกระวายอะไรบางอย่าง

“คุณกษมล่ะ?”

“ดาเห็นงีบหลับบนเก้าอี้ผ้าใบแน่ค่ะ พี่ณีย์เป็นอะไรหรือคะ กังวลเรื่องอะไร?”

“เอ้อ...พี่...” ปารณีย์ฉุดแขนของน้องสาว “ไปคุยกันนอกบ้าน พี่ไม่อยากให้คุณกษมได้ยิน”

ออกมานอกบ้านพักแล้ว ได้ยินเสียงคลื่นกระทบชายฝั่งสลับกับเสียงลมหวีดหวิว และกลิ่นไอธรรมชาติที่หาไม่ได้ในเมืองหลวง

ไฟนีออนเปิดเพียงดวงเดียว อารดามองหน้าพี่สาวไม่ชัด แต่ยังสังเกตว่าริ้วรอยกังวลไม่จางหาย

ปารณีย์ยืนนิ่งอยู่นานกว่าจะเอ่ยปาก

“ยายดา...จำคุณชนินทร์ได้มั้ย?”

คนถูกถามขมวดคิ้ว

“คุณชนินทร์...” หล่อนทวนชื่อ “ดาไม่รู้จัก”

“เธอคงจำไม่ได้ เธอก็รู้ว่าพี่ไม่เคยปิดปังเธอเลย หลายปีก่อนตอนพี่แต่งงานกับคุณกษมใหม่ ๆ เขาเพิ่งจะตั้งบริษัท ทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนไม่มีเวลาให้พี่ พี่ก็เลยประชดเขาด้วยการออกไปเที่ยวเตร่ทุกคืน...”

อารดาตาโต...

“ดำจำได้แล้ว...พี่ณีย์เที่ยวจัดมากในช่วงนั้น และพบคนที่ชื่อชนินทร์”

“ดา...” เสียงปารณีย์แปร่ง “พี่เพียงแต่จะประชดคุณกษมเท่านั้น ทำให้พี่เผลอตัว...แต่เพียงครั้งเดียวจริง ๆ และตอนหลังคุณกษมเข้าใจพี่ พี่ก็เลิกประชดเขา...แต่ตอนนี้พี่กำลังเข้าตาจน พี่เจอคุณชนินทร์...ผู้ชายคนนี้เป็นเสือผู้หญิงแท้ ๆ เขาขู่ให้หนีไปหาเขาคืนนี้”

ดวงตาที่กลมโตเป็นประกายของอารดายิ่งเบิกกว้างขึ้น

“ตายแล้ว! ถ้าคุณกษมรู้...พี่ณีย์ไปไม่ได้นะคะ!”

“พี่ไม่อยากไปหรอก แต่เขาขู่พี่...จะบอกคุณกษม”

“เลวทราม” อารดากัดฟัน

ปารณีย์ทำท่าเหมือนจะร้องไห้

“ทำไมนะความผิดพลาดของพี่เพียงครั้งเดียว จะส่งผลให้พี่ต้องทรมานเช่นนี้ ถ้าคุณกษมรู้...ชีวิตครอบครัวของพี่ต้องพินาศแน่ ๆ”

กษมไม่ใช่คนที่ใจกว้างยอมรับเรื่องแบบนี้ได้

อารดาพลอยวิตกกังวลกับ ‘ปัญหา’ของพี่สาว และคิดว่ารู้จักพี่เขยดีทีเดียว...

พี่เขยหัวโบราณ รักงานและครอบครัว โดยเฉพาะแขขวัญ ลูกสาวคนเดียวที่เขารักยิ่งกว่าชีวิต และเพราะแขขวัญที่ทำให้กษมรู้ตัวแยกแยะแบ่งงานออก และให้เวลากับลูกเมียมากขึ้น

ตั้งแต่กษมมีเวลาให้ลูกเมีย ปารณีย์ก็มีความสุข...

อารดามองครอบครัวของพี่สาวด้วยความภูมิใจ ยินดีกับความสุขของพี่สาว ฉะนั้นจะยอมให้พี่สาวตกอยู่ในห้วงคำขู่ของชายคนหนึ่งไม่ได้

“พี่ณีย์อย่าไปนะคะ ดาจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ให้เอง!”

 

บ้านพักตากอากาศของครอบครัว ‘เรืองวิทยา’

เป็นบ้านเดี่ยวโดดเด่นอยู่บนเนินกว้าง มีรั้วปักกั้นบอกอาณาเขตที่เป็นสัดส่วนส่วนตัว เด่น หรูหรา ทำให้คนผ่านไปมาต้องหันกลับมาเหลียวดู

เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ติดต่อกันหลายวัน คุณอุมา เรืองวิทยา แม่ม่ายวัยห้าสิบ จึงมาพักผ่อนพร้อมพร้อมกับบุตรชาย...ภริต เรืองวิทยา และน้องชาย ชนินทร์ อมรวัฒนะ

คุณอุมานั้นเป็นสาวใหญ่ ที่จัดว่าสวยมากคนหนึ่งแต่งกายเก๋ มีรสนิยม และมักออกสังคมบ่อยครั้ง จึงเป็นที่รู้จักกันดีในวงการสังคมและธุรกิจ ผิดกับภริต บุตรชายโทนคนเดียว ที่ช่วยมารดาดูแลกิจการ เขาได้รับส่วนเด่นจากมารดาตรงบุคลิกเด่น ใบหน้าคมสัน แต่เขาไม่ชอบออกงานสังคมโดยอ้างกับมารดาว่าเป็นงานน่าเบื่อหน่าย นอกเสียจากจำเป็นเขาถึงจะไป

คุณอุมาจึงมีเรื่องขัดแย้งกับภริตเสมอ เนื่องจากความเห็นที่มักไล่ลงรอยกันคนที่คุณอุมาโปรดกลับกลายเป็นชนินทร์ น้องชายคนเดียวของหล่อน ที่มีความคิดเห็นตรงกัน คือชอบงานสังคม ใช้ชีวิตหรูหรา เจ้าสำราญ มีความสุขอยู่กับสิ่งแวดล้อมชั้นสูง คุณอุมาจึงมักชวนน้องชายออกงานมากกว่าบุตรชายเสียอีก

หลังอาหารค่ำ คุณอุมานั่งฟังเสียงคลื่นกับภริตที่เก้าอี้หินนอกบ้าน

“น้าแกไปไหนภริต?” หล่อนถามหลังจากหันซ้ายแลขวาแล้วไม่พบชนินทร์

ชายหนุ่มพับหนังสือพิมพ์ไว้บนตัก

“ขึ้นไปบนห้องครับ คงจะนอน”

มารดาหัวเราะพลางส่ายศีรษะ

“นอนแต่หัวค่ำ ไม่ใช่ชนินทร์แน่ แน่ะ...เห็นมั้ยพูดถึงก็มาแล้ว แต่งตัวโก้เชียว คงจะไปหาโรงแรมไหนฟังเพลงแน่ะสิ”

ชนินทร์ก้าวออกมายิ้มกว้าง

“ผมมีนัดครับ”

“มาถึงที่นี่ แกจะนัดกับใครอีก...สาว ๆ สิท่า”

“ครับ”

คุณอุมาดูจะยิ้มภูมิใจกับความเสน่ห์ของน้องชายไม่น้อย

“แกนี่ไม่เคยขาดสาว ๆ เลยนะ ตาริตได้ไม่ถึงครึ่งของน้า”

“นายริตรักเดียวใจเดียวกับคุณพิมพิกา...” ชนินทร์หันมายักคิ้วกับหลานชายซึ่งมีวัยห่างกันไม่กี่ปีเท่านั้น “นายน่าจะพาแฟนนายมาด้วยจะได้ไม่มานั่งเหงา”

“คุณพิมไปนอกครับ” ภริตบอกสั้น ๆ เขาเป็นคนบุคลิกเช่นนี้...เรียบง่าย และพูดน้อย

“อ๋อ...น่า เสียดาย อยู่คนละประเทศ ผมไปดีกว่า”

ชนินทร์โบกมือให้พี่สาว แต่พอดีเสียงโทรศัพท์เคลื่อนที่ดังขึ้น

“มาถึงบางแสนยังมีโทรศัพท์มาจนได้...” น้องชายบ่น

“พี่ให้เบอร์กับเพื่อนสนิทไม่กี่คนเท่านั้น แกอย่าเพิ่งไปไหน เผื่อเป็นของแก”

คุณอุมายกหูขึ้นเพราะอยู่ใกล้เครื่องมากที่สุด

ชนินทร์หันมาคุยกับภริต โดยไม่สนใจว่าพี่สาวจะคุยกับใคร แต่พอวางหู คุณอุมาก็รีบบอกชนินทร์น้ำเสียงตื่นเต้น

“คุณวิภาวี เพื่อนของพี่เอง มาจัดประชุดที่บางแสนอยู่โรงแรม...เธอจะให้แกไปหาเดี๋ยวนี้ บ่นเหงา...อยากมีเพื่อน...ระบุตัวแกเลยนะ”

ชนินทร์เกาศีรษะ...เขามีนัดกับปารณีย์ แต่วิภาวีก็เป็นบุคคลสำคัญไม่น้อย

คุณวิภาวีเป็นแม่ม่าย ตัวคนเดียว แต่มีทรัพย์สินมหาศาล เป็นเจ้าของที่ดินผืนงามในกรุงเทพฯ หลายแห่งและมีโครงการจะทำธุรกิจบ้านจัดสรรร่วมกับคุณอุมาโดยเป็นฝ่ายลงทุนมากกว่า

การจะทำธุรกิจร่วมกันค่อนข้างสำเร็จ เนื่องจากชนินทร์...

แม้จะต่างวัย แต่ความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่ชนินทร์ให้กับคุณวิภาวี ทำเอาแม่ม่ายสามีตายอย่างคุณวิภาวีหลงใหล

คุณอุมาตบบ่าน้องชาย

“นัดสาว ๆ ไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก...นึกว่าช่วยพี่และเป็นประโยชน์ต่อตัวแกเอง ไปหาคุณวิภาวีดีกว่า”

“โอ.เค...ครับ...เงินต้องมาก่อน...” ชนินทร์ตัดสินใจรวดเร็ว แล้วเดินมากระซิบกับภริต “นายช่วยไปตามนัดแทนหน่อย บังกะโลแปด...ผู้หญิงสาว...สวย...น้าเก็บตกจากชายหาดเมื่อตอนเย็น ไม่ใช่ผู้หญิงดิบดีตรงไหนหรอก...ข้อสำคัญ...ฟรี!”


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (77 รายการ)

www.batorastore.com © 2025