วิวาห์ร้ายทายาทมาเฟีย (Chineserose)
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 1 รายการราคา 269.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
วิวาห์ร้ายทายาทมาเฟีย
ประพันธ์โดย Chineserose
Prologue
แก้มปลั่งขาวนวลเนียนระคนสีชมพูอ่อนๆกับหน้าผากกว้างเล็กน้อย ไล่จากไรผมระลงมาจรดรับกับคิ้วกึ่งหนาสีดำแทบสนิทที่โค้งเรียวงดงามได้รูปดั่งคันศร ดวงตาคู่งามเปล่งประกายสดใสทว่าแฝงเร้นด้วยพลังดึงดูดน่าค้นหาถูกซ่อนไว้ภายใต้แว่นกันแดดสีดำสนิทแบรนด์เนม รับกับจมูกโด่งพองามที่ปลายเชิดรั้นลักษณะบ่งบอกถึงความเอาแต่ใจ ริมฝีปากบางระเรื่อสีชมพูอ่อนอวบอิ่ม ยิ่งจะงดงามพริ้มเพรากว่านี้มาก ถ้าเผยยิ้มแม้สักเล็กน้อย แต่ปากสวยกลับถูกขบเม้มเป็นเส้นตรง เพราะเจ้าตัวเกร็งไปกับความเร็วบนท้องถนน
วันนี้ท้องฟ้าโปร่ง อากาศในเมืองหลวงสดใสไร้เมฆหมอก พลอยไหมมุ่งหน้าไปทำงานเป็นคอลัมนิสต์ประจำนิตยสารแฟชั่นชื่อดังฉบับหนึ่ง
โครม!!!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวราวกับยานอวกาศที่ใหญ่มหึมาสองเครื่องปะทะโลกทั้งโลก!
รถมินิคูเปอร์สีเหลืองสดใสเสียหลัก หัวใจของเธอเต้นตึก เลือดในกายพุ่งปราดด้วยความตกใจอย่างถึงขีดสุด นาทีชีวิตเพียงเสี้ยว รอดและตายห่างกันแค่คืบ หญิงสาวเรียกสติคืนมา พร้อมสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอดและพบว่าร่างกายตนไม่สึกหรอใดๆ
รถช้าน! หญิงสาวต้องกังวลอยู่แล้วเพราะรถมินิฯยังต้องผ่อน ใครจะรู้ฐานะที่แท้จริงของไฮโซถังแตกอย่างเธอ
พลอยไหมเปิดประตูออกอย่างรวดเร็วก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าไปยังรถของคู่กรณีที่เกยเท้งเต้งอยู่บนกระโปรงรถมินิคูเปอร์สุดรักที่ความสูงต่ำกว่ารถกระบะบรรทุกของอย่างไม่มีเงื่อนไข ข้าวของกระจัดกระจาย พื้นที่เปรอะไปด้วยน้ำที่กระเซ็นออกมาด้วยความแรงของการปะทะ ด้านท้ายรถปกคลุมไปด้วยควันดำจากท่อไอเสียของรถกระบะโกโรโกโส
“นี่คุณ! ลงมาเดี๋ยวนี้นะ!” หญิงสาวสั่งเสียงดุ ดวงตาหวานพริ้มที่เปลี่ยนเป็นดุอย่างเกรี้ยวกราดถูกซ่อนอยู่ภายใต้กรอบแว่นตาสีดำในแบบล้ำแฟชั่น แต่ความโมโหที่ระบายอยู่ในใจกลั่นออกมาสู่ดวงตาตอนนี้ร้อนได้ที่แทบจะเป็นเพลิงผลาญคู่กรณีทะลุแว่นตากันแดดที่เธอสวมใส่แล้วเสียให้ได้!
ระหว่างที่ซากรถยังเกยกันอยู่นั้น ภาพที่รถสัญจรผ่านไปผ่านมาต่างก็ชะลอรถและจับจ้องมองสลับกับการบังคับพวงมาลัยด้วยความสงสัยใคร่รู้ก็หนึ่ง ด้วยความต้องตาพึงใจในหญิงสาวผิวขาวเนียนที่โดดเด่นยิ่งยามสะท้อนท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนแรงในเวลาก่อนเที่ยงแบบนี้ ก็จะไม่ให้สนใจชะลอดูได้อย่างไร ในเมื่อมันน่ามองขนาดนั้น สาวสวยๆ ขาวๆ แถมนุ่งกระโปรงรัดรูปสั้นจู๋ลายเสือดาวหิมะ ส่งให้เธอดูมีเสน่ห์เร่าร้อนอย่างร้ายกาจน่าค้นหาจนบรรดาผู้ชายที่ขับรถผ่านไปมาอยู่บนท้องถนนอดจ้องมองไม่ได้
ปังๆๆๆๆๆ !!!!!!!
หญิงสาวทุบข้างประตูระรัวด้วยแรงโมโหผนวกกับอากาศภายนอกที่ร้อนระอุเสียยิ่งกว่าทะเลทรายซาฮาร่า
‘นี่มันเมืองไทยหรือกรุงแบกแดดกันเนี่ย ร้อนจะตาย ผิวฉันไหม้หมดแล้ว!’
‘นี่คุณ ลงมาเร็วๆ สิ ฉันร้อนนะ’ หญิงสาวหน้าสวยโมโหในใจ
“นี่คุณ ลงมาเร็วๆๆๆสิ คุณบ้าหรือไงทำไมขับรถแบบนี้?” ประตูรถโกโรโกโสถูกเปิดออกค่อยๆ มันแง้มออกมาอย่างช้าๆ ราวกับว่าถ้าเปิดออกมาแรงกว่านี้บานประตูมันจะหลุดแยกออกจากตัวรถเป็นคนละชิ้นส่วนกันอย่างนั้นเสียให้ได้
“ชินจัง... ลูก!” คือเสียงแรกที่ได้ยิน ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงโปร่ง หนวดเครารุงรัง ใส่เสื้อยืดสีขาวหม่นที่ยานย้วยราวกับว่าชาติหนึ่งมันเคยเป็นเสื้อยืดมียี่ห้อและอยู่ในสภาพดีที่ขาวสะอาดหมดจด แต่ทว่าสภาพมันถูกเปลี่ยนไปด้วยการเวลาและการสวมใส่ที่ใช้งานอย่างไม่บันยะบันยัง ราวกับว่าเป็นเสื้อยืดสีขาวที่ถูกใส่ทุกวันในหนึ่งปีโดยที่ไม่เคยผ่านการซักเลยแม้สักครั้งเดียว ส่วนท่อนล่างเป็นกางเกงสั้นขาสามส่วนหยุดความยาวจากท่อนเอวลงมาไว้ที่ข้อเข่า สีน้ำตาลทะเลทรายแต่ก็คงความเก่ามากไม่แพ้กันกับเสื้อ แต่ที่แน่ยิ่งกว่านั้น ชุดทั้งชุดสกปรกมอมแมมไปด้วยคราบดินและเปียกชุ่มไปด้วยน้ำเป็นหย่อมๆ โดยเฉพาะกางเกง!
อย่าบอกนะว่าผู้ชายคนนี้ถึงกับฉี่ราดน่ะ!!!!!!!
ชินจัง?
ใครอ่ะชินจัง เขาร้องเรียกหาใคร
กรี๊ดดดดด... ไม่นะ คงไม่มีเด็กมาในรถแล้วตายคาที่หรอกนะ! ใช่ไหม?
“ชินจังลูกพ่อ”
กรรม... ลูกพ่อ!
สายตาของหญิงสาวจับจ้องและมองตามคนร่างโปร่งที่หันซ้ายทีขวาทีก่อนที่จะพาร่างเข้าไปในเลนถนนแล้วใช้อุ้งมือประคองสิ่งมีชีวิตสิ่งหนึ่งที่ดิ้นดุกดิกขึ้นมาอย่างทะนุถนอมแล้วเดินไปที่ส่วนท้ายของรถกระบะแสนเก่า ชายหนุ่มค่อยๆ วางปลาที่มันกระเด็นพุ่งตัวไปอยู่เกือบกลางท้องถนนจากอุบัติเหตุเมื่อกี้ได้อย่างไร ตัวมันสีขาวสดใสราวหิมะต้องแสงแดดยามเช้า สะท้อนแสงแล้วเหลือบเหลี่ยมมุกสุกสกาว ยิ่งทำให้มันเป็นปลาสีขาวที่สวยที่สุดในโลกตัวหนึ่งที่เธอเคยเห็นมาและบนหัวของมันมีจุดสีแดงสดแต้มอยู่หนึ่งจุดใหญ่ราวเทพธิดาขี้เล่นแกล้งแต้มสีให้มันมาตั้งแต่กำเนิด มองไกลๆ ตัวมันทั้งตัวราวกับธงญี่ปุ่นดินแดนอาทิตย์อุทัย ประเทศแห่งความล้ำสมัยและงดงามปริ่มเปี่ยมเสน่ห์
‘นั่น... ชินจังเหรอ?’
“นี่คุณ!” หญิงสาวได้แต่ยืนเหวออยู่ครู่ใหญ่ระหว่างที่คู่กรณีเดินเข้าไปบนถนนที่มีรถวิ่งสวนไปมาไม่ขาดสายและกอบเอาชีวิตมันขึ้นมาในอุ้มมือขาวของเขา และเขาก็ไม่สนใจเธอคู่กรณีเลยแม้แต่น้อย
“คุณ! ฉันบอกว่าให้เคลียร์กับฉันยังไงล่ะ พูดไม่รู้เรื่องหรือไง? หรือว่าฉันต้องพูดจาภาษาปลาหา??? นี่เห็นมั๊ยรถของคุณชนรถฉันเนี่ย! คุณจะบ้ารึไงขับรถแบบนี้ ใบขับขี่น่ะมีมั๊ย ใครสอนคุณขับรถกันไม่มีตาหรือยังไง?” หญิงสาวสวดยับ!
เขานิ่งเมื่อปล่อยปลาลงถังออกซิเจนบรรจุน้ำขนาดใหญ่และมองเห็นว่ามันแหวกว่ายอย่างเชื่องช้าราวกับกลัวว่าน้ำจะเจ็บปวดจากการเคลื่อนไหวของมัน สีหน้าชายหนุ่มยังอยู่ในอารมณ์กังวล ทว่าก็จำต้องเบือนความสนใจมาที่หญิงสาวที่แทบจะกรี๊ดๆอยู่ตรงหน้าด้วยความโมโห
“ใครอนุญาตให้คุณขับเร็วเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเขตชุมชนแบบนี้ละครับ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามสีหน้านิ่งเฉยน้ำเสียงเรียบนิ่งนุ่มเย็น สายตาของเขาไม่มีรังสีของความโกรธหรือความไม่พอใจในนั้นเลยยังคงอุณหภูมิของอารมณ์ที่คงที่มีสติและดุใจเย็นอย่างน่าเกรงใจ
นี่... เขาไม่โกรธอะไรเลยหรือยังไง?
“นี่คุณ” หญิงสาวแว๊ดใส่ ความอดทนถึงขีดสุด มือสวยเลื่อนแว่นกันแดดขึ้นคาดบนศีรษะจะได้เห็นหน้าคู่กรณีอย่างไม่ต้องมีอะไรกรอง
“ที่นี่เมืองไทยนะครับคุณ แล้วเนี่ยคนอื่นเขาก็ใช้ถนนนี้ร่วมกันกับคุณ ถ้าคุณจะขับรถเร็วแบบไม่กลัวตายท้าทายนรกแล้วละก็ แนะนำให้ไปสร้างถนนไว้ขับเองที่บ้าน ไม่ใช่ออกมาซิ่งแบบนี้ คุณไม่ตายก็แล้วไป แต่มันไม่ปลอดภัยกับคนอื่นรู้มั๊ย” เขาขอมีปากมีเสียงบ้าง ทว่าน้ำเสียงนั้นอบอุ่นนุ่มลึกและไม่มีร่องรอยของความโมโหโกรธาเลยแม้สักเล็กน้อย ซึ่งต่างกันนักกับท่าทีของหญิงสาวคู่กรณีที่นอกจากน้ำเสียงเกรี้ยวกราดก้าวร้าวเจ้าอารมณ์แล้วท่าทีอาการก็แทบจะเต้นเร่าๆลงมือลงไม้ทุบตีเขาด้วยซ้ำ
“แล้วที่คุณขับรถพรวดออกมาแบบนี้ทำไมไม่ดู?” หญิงสาวน้ำเสียงแข็งก้าวราวแล้วไม่มีความรู้สึกสำนึกผิดระคนอยู่ในน้ำเสียงนั้นของเธอเลยแม้แต่น้อย
“ผมดู แต่แดดมันแยงตากะความเร็วรถคุณไม่ได้นี่ ใครจะรู้ว่ารถคุณมาพร้อมพระอาทิตย์ ไวซะยิ่งกว่าแสง” เขาเถียง สีหน้าและแววตายังเรียบนิ่งราวหุ่นยนตร์เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
“นะ...นี่คุณเถียงฉันเหรอ ข้างๆคูๆ ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด ฉันทางตรง ยังไงก็ไม่ผิด” น้ำเสียงเอาเรื่องและออกอาการกร่างอย่างยิ่งใหญ่
“ผมก็ไม่ผิดเพราะขับไม่ถึง 60 คุณต่างหากละครับที่ผิดแถมไม่มีทีที่ว่าจะสำนึกผิดเสียด้วย”
“นี่!” หญิงสาวอย่างจะกรี๊ดให้สุดเสียงเพื่อปลดปล่อยความโกรธออกมาให้รู้รอด ผิดแล้วมันยังเถียงๆๆๆ ไม่ดูสารรูปตัวเองเลย ไอ้กรรมกรสกปรก
“คุณนี่มันแย่กว่ากรรมกรอีกนะ ผู้ชายอะไรสกปรกทั้งตัว สกปรกทั้งวาจากิริยา” หญิงสาวแหวใส่พูดจาดุถูกหยามชั้นวรรณะจนอีกฝ่ายต้องหยุดหันมาจ้องหน้านาทีหนึ่งก่อนที่จะประคารมด้วย
“อะไรกันคุณ? แล้วนี่คุณจะเคลียร์ประกันก็รีบๆเลย รถมีประกันหรือเปล่า? เร็วสิผมต้องพาลูกไปหาหมอ” เขาพูดน้ำเสียงเรียบนิ่งเพราะกังวลกับสิ่งมีชีวิตที่รอการช่วยเหลือจากเขาอยู่มากกว่า
“หมอ?” หญิงสาวทวนเสียงสูง
“ก็ใช๊... นั่นน่ะชินจังลูกชายของผม มันเป็นปลาคาร์ฟสายพันธุ์ตันโจ ตอนนี้ชินจังของผมมันไม่สบายผมเลยพามาหาหมอปลานี่ไง” ชายหนุ่มเริ่มใส่อารมณ์บ้างแต่ความจริงในใจยังไม่รู้สึกโกรธอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย วันนี้เขาตั้งใจพาชินจังมาให้ปารมีดูอาการ
“อ่อ... ที่แท้ก็คนงานเลี้ยงปลา” น้ำเสียงของหญิงสาวแสดงออกถึงอาการเหยียดหยันอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัดแต่หารู้เธอมีตาหามีแววไม่
ดูถูกคนจน... มันหน้าที่ของคนรวยอยู่แล้ว !
“ก็ใช่ คุณคงไม่คิดว่าผมเป็นคาวบอยนะ!” เขาแกล้งยั่วแต่น้ำเสียงราบเรียบใจเย็นมากทั้งที่ในใจเขาเป็นกังวลกับอาการป่วยของชินจังอย่างที่สุด หนำซ้ำมันกระเด็นออกไปร่วงลงกระแทกพื้นซีเมนต์ของท้องถนนด้วยความเร็วและแรงขนาดนั้น ไม่มั่นใจในความปลอดภัยของชินจังเลย
‘ฮึ! คนมีลูกเป็นปลา ว่าแต่ดูๆไปหน้าคุณก็เหมือนปลานะ’ หญิงสาวนินทาเขาในใจ
“นี่คุณยังไปไม่ได้นะ!” คู่กรณีสาวสวยโวยวายเมื่อเห็นเขาไม่สนใจและทำทีว่าจะเปิดประตูรถ
“ทำไมไม่ได้ครับ” เขาเอี้ยวร่างสูงโปร่งหันกลับมาตอบโต้อย่างช้าๆ ทว่ายังคงมีความใจเย็นอยู่ในนั้น
“ก็คุณยังไม่เคลียร์ ดูสิรถฉันเป็นรอย” เหตุผลของหญิงสาวน้ำเสียงตัดพ้อ ไฮโซสาวถังแตกไม่เลิกโวยวาย เพราะกว่าจะได้รถคันนี้มาต้องทำงานสารพัดถึงตอนนี้ก็ยังผ่อนไม่หมด ภายนอกสังคมรู้จักพลอยไหมในฐานะที่เป็นบุตรสาวคนโตแสนสวยของไรวาร์สกุล แต่รู้ลึกรู้ดีกว่านั้น น้อยคนจะทราบว่าไฮโซตระกูลดังนามสกุลนี้มีดีแต่แค่เชื้อสายผู้ดีเก่า เยอะทุกอย่างยกเว้น ‘เงิน’!!!!!
ชายหนุ่มยื่นนามบัตรให้ก่อนที่จะบอกว่า “รถคุณมีประกันใช่มั้ย ในเมื่อคุณและผมต่างก็รีบ เราให้ประกันเคลียร์แล้วถ้ามีอะไรติดต่อมาที่เบอร์ตามนามบัตร ผมไปละ” ชายหนุ่มห่วงชีวิตปลาที่เขารักมากกว่ารถยนต์ที่มันเป็นแค่วัตถุ นี่ดีนะที่รถพุ่งชนแค่ปลายๆกระโปรงรถกระบะทุกอ่างน้ำของเขา มันยังทนพอที่จะขับไปต่อได้บ้างเพราะฟาร์มปลาของปารมีที่เขากำลังจะไปก็อยู่ไม่ไกลนัก ชายหนุ่มก็เปิดประตูรถและถอยเพื่อให้รถที่เกยกันอยู่เล็กน้อยลงมาสู่สภาพปกติแล้วขับออกไปจากจุดเกิดเหตุ หญิงสาวรับนามบัตรไว้ส่วนคู่กรณีขึ้นรถขับหายลับสายตาไป เหลือไว้แค่นามบัตรใบน้อย
ชื่อนามสกุลไม่คุ้นเลย แต่ตำแหน่ง vice president!!!!
‘Vice President บริษัท TN Mag Media Public Co., Ltd. นี่มันเจ้าของเลยนะ! ท่าทางโกโรโกโสอย่างนายนั่นนะเหรอ?’ พลอยไหมเบะปากอย่างรังเกียจและไม่เชื่อ ขณะคิดว่านายนั่นคงเอานามบัตรใครมาแอบอ้างแล้วหาทางชิ่งหนีมากกว่า จึงได้แต่ส่ายหัว ดีที่รถไม่เป็นไรมากพอขับไปต่อได้ หญิงสาวจึงมุ่งหน้าเข้าบริษัทก่อนที่จะสายมากไปกว่านี้