ร่มฉัตร (เล่ม 1-2)

ร่มฉัตร (เล่ม 1-2)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789744465849
ของหมดถาวร (ต้องการสินค้า)
ราคา: 720.00 บาท 180.00 บาท
ประหยัด: 540.00 บาท ( 75.00% )

รายละเอียด

  ร่มฉัตร งานระดับเกียรติประวัติอีกเรื่องหนึ่งของ ทมยันตี ภายใต้ความร่มเย็น
 
             ที่ปวงชนชาวไทยได้รับดุจลูกหลานข้าราชบริพารในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 
             ความหมายแห่ง “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” จึงทรงคุณค่าลึกซึ้งในหัวใจคนไทยยิ่งนัก
 
             และด้วยรักเทิดทูน ด้วยหวงแหนยิ่งชีวิต “ในเรื่องอื่น คนไทยอาจจะพูด “ไม่เป็นไร” ได้
 
             แต่หากเมื่อใดแตะต้องไปถึง “คันฉัตร” เข้า คนไทยจะไม่ยอมตลอดไป”
 
             หากกระแสความเปลี่ยนแปลง คนจงรักภักดีจึงมอง “คันฉัตร” ด้วยความไม่สบายใจ
 
             เธอเฝ้าหวังแต่ว่า ทั้งโลก ทั้งคน และทั้งสังคม จะเป็นไปเช่นไรก็ตาม ในขณะที่มือเก่าๆ
 
             ที่ยึดคันฉัตรไว้ให้มั่นคง ได้หลุดร่วงผล็อยไปตามลำดับนั้น ขอแต่ให้มือใหม่ที่เปลี่ยน
 
             เข้ามาประคอง “คันฉัตร” ไว้ให้ความร่มเย็นแก่คนรุ่นหลังต่อไปก็เพียงพอแล้ว
 
             หากแล้วคนสมัยใหม่บางคนบางมือก็หัวเราะเยาะ เลิกล้มความเชื่อถือเสีย
 
             ต่อความหมายของ “น้ำสาบาน” โรคผิดน้ำ-ที่ว่าคือ ผิดน้ำพระพิพัฒน์สัตยา
 
             ในฐานะเกือบกึ่งกบฏนั่นเชียว ตราตั้งเหล่านั้น คอยเตือนใจให้วาดระลึกว่า
 
             วาดได้รับพระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าฯ คุ้มตัวเองมาแต่น้อยคุ้มใหญ่
 
             แต่วาดมิได้สามารถทดแทน “ข้าวแดงแกงร้อน” นั้นได้ หากวาดกลับเป็นส่วนหนึ่ง
 
             ที่ทำให้ “คันฉัตร” สั่นสะเทือนอย่างที่วาดมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
 
             “พ่อ-แม่-ปู่-ย่า-ตา-ยาย เคยแต่รับราชการได้เบี้ยหวัดเงินปีมาเลี้ยงชีวิต
 
             แต่ไม่เคยคิดเลยว่า เบี้ยหวัดเงินปีพวกนั้นจะมาต่อชีวิตคนรุ่นหลังให้มา
 
             คิดคดทรยศยังงี้” ประโยคนี้เป็นประโยครุนแรงประโยคเดียวที่วาดเคยใช้กับคนที่เป็นสามี
 
             อยู่กินกันมานาน ถ้าคนที่วาดประณามว่าเป็น “คนคิดคดทรยศ” เป็นคนอื่น
 
             วาดก็คงจะตัดเป็นตัดตายได้โดยง่าย แต่เมื่อเป็นลูกผัวของวาดเอง
 
             วาดก็จำต้องปลงให้ตก ฉะนั้น เมื่อบุคคลในตระกูลประสบกับความวิบัติในทางใด
 
             วาดจึงมิได้หวั่นไหว เสมือนกับที่คุณอรรถมายอมรับในภายหลังว่า
 
              “เรามันผิดน้ำสาบาน ก็ต้องเป็นอย่างนี้” แล้ววันนั้น ปลายเดือนพฤษภาคม
 
              ต่อต้นมิถุนายนในปี ๒๔๗๕ ก็เกิดขึ้น วันที่บางคนเรียกว่า “วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง” นั้น
 
              คนภักดีคนหนึ่งจำเหตุการณ์ได้ไม่รู้ลืม และเคยนึกเสมอว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
 
              ไม่ใช่เฉพาะการปกครองประการเดียว แต่เป็นวันที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์
 
              ของชาติอย่างสิ้นเชิง! “เราจัดการได้เรียบร้อยครับแม่ เรียกได้ว่าไม่ได้เสียเลือดสักหยด
 
              แม้แต่ทางในหลวง เราก็สามารถทำให้ทรงลงพระปรมาภิไธยได้”
 
              วาดมองดูลูกชายอย่างขรึมๆ “เอื้อมเข้าใจผิด ไม่ใช่เพราะความสามารถของพวกเอื้อมหรอก
 
              หากเป็นเพราะในหลวงท่านทรงทราบดีว่า หากไม่ทรงเห็นแก่ความสงบสุขของราษฎรแล้ว
 
              เพียงแต่มีพระบรมราชโองการคำเดียว เอื้อมคิดหรือว่าจะไม่เกิดเรื่องใหญ่”
 
              ตาเอื้อมนิ่งเงียบไปชั่วครู่ และมิช้ามินานจากนั้น “พวก” ของคุณอรรถและตาเอื้อม
 
              ก็ได้ข้อพิสูจน์ว่า ใน “เรื่องอื่น” คนไทยอาจจะพูด “ไม่เป็นไร” ได้ แต่หากเมื่อใด
 
              แตะต้องไปถึง “คันฉัตร” เข้า คนไทยจะไม่ยอมตลอดไป “ฉันยอมทำอะไรหลายอย่าง
 
              เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีมา แต่จะไม่ยอมทำเพื่อสิ่งที่ฉันเห็นว่ามันจะเกินเลยกันไปทุกที
 
              ฉันสัญญาได้อย่างหนึ่งว่า ยังไงๆ เมืองไทยเราก็ต้องมีพระเจ้าแผ่นดิน
 
              ที่จะเป็น “อย่างอื่น” ฉันไม่ยอมเป็นอันขาด” วาดไม่เข้าใจจริงๆ ว่า “อย่างอื่น”
 
              ที่คุณอรรถว่าคือ “อย่างไหน” ต่อมาเมื่อวาดรู้วาดก็ถึงกับเย็นวาบไปทั้งตัว
 
                    ร่มฉัตร จึงเป็นนวนิยายที่สะท้อนความรัก ความภักดี ความผูกพันลึกซึ้ง
 
              ของพสกนิกรผู้พึ่งพระบรมโพธิสมภารแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 
              ยาวนานถึง ๕ รัชกาล ดั่งคำพูดที่ว่า “หลักใหญ่ในชีวิตของวาด ถัดจากแม่ก็คือ
 
              “เสด็จฯ” ที่วาดรำลึกถึงข้าวแดงแกงร้อนอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก และสูงขึ้นไป
 
              ประดุจหลักชัยของ “ชาววัง” ทุกคนคือ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 
              ซึ่งในทรรศนะของวาดเปรียบเสมือนหลักแก้วของชีวิต ฝังรากหยั่งลึกไปในหัวใจ
 
              และสายเลือดอย่างไม่มีวันจะถ่ายถอนได้” และแม้ว่า “ร่มฉัตร” จะเดินเรื่อง
 
              โดยอาศัยเส้นทางความจงรักภักดีเป็นหลักชัย หากเรื่องราวของ “ความรัก”
 
              ก็ฝากไว้ให้ผู้อ่านอย่างไม่ขาดอรรถรสเลยทีเดียว “กำไลทองของรักที่จัดส่ง
 
              เหมือนหัวใจเวียนวนเฝ้าหลงใหล ไม่ว่าหมุนเหียนหันไปทางใด ความในใจ
 
              ย่อมมาลงตรงที่นาง” “ยามใดเห็นขอให้เป็นพยานว่า ผู้ฝากมาคอยชะแง้เฝ้าแลเหลียว
 
              เสน่ห์จิตจอดใจใฝ่กลมเกลียว ขอคำเดียวจงได้ตอบจะขอบใจ”
 
                        ณ บ้านวรรณกรรม ขอมอบบทประพันธ์อันเป็นเกียรติประวัติและนวนิยาย
 
              เรื่องเยี่ยมเรื่องหนึ่งของ ทมยันตี ให้ผู้อ่านได้สัมผัสแห่งรักและภักดี ด้วยความศรัทธา
 
              เชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า ใน “เรื่องอื่น” คนไทยอาจจะพูด “ไม่เป็นไร” ได้
 
              แต่หากเมื่อใดแตะต้องไปถึง “คันฉัตร” เข้า คนไทยจะไม่ยอมตลอดไป
 
              “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” จึงทรงความหมายยิ่งในหัวใจคนไทยทั้งชาติ

รีวิว (1)

เขียนรีวิว

สกาวรัตน์ | 1 รีวิว
26/08/2013

หนังสือนวนิยายเรื่อง ร่มฉัตร เป็นบทประพันธ์อีกเรื่องหนึ่งของ ทมยันตี ที่การันตีความสวยงามของฉากในเรื่องเอาไว้ได้อย่างไม่แพ้เรื่องใดที่ผู้เขียนได้บรรจงคัดสรรมาให้เราได้อ่าน หนังสือเรื่อง ร่มฉัตร เป็นวรรณกรรมย้อนยุคที่นำเสนอเรื่องราวผ่านตัวเอกคือ แม่วาด หรือแม้นวาด เป็นยุคที่ผู้หญิงยังไม่ได้ร่ำเรียนหนังสือเหมือนยุคปัจจุบัน หากจะรับราชการนั่นก็คือการเข้าไปรับใช้เจ้านายในวัง โดยตัวแม้นวาดนั้นเป็นลูกของนายช่างและคุณหญิงวงศ์ ในครอบครัวก็เหมือนสมัยก่อนที่บิดาคือนายช่างจะมีเมียหลายคน แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหาอะไรนักเมื่อบรรดาเมียเล็กเมียน้อยเมียบ่าวทั้งหลายจะยกให้คุณหญิงวงศ์คือแม่ของแม้นวาดอยู่เหนือหัวใครทั้งหมดในบ้านนั่นเอง คุณหญิงวงศ์มีลูกแฝดสองคนซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องของแม้นวาด คนหนึ่งพลัดตกน้ำเสียชีวิตและต่อมาแฝดอีกคนก็เสียชีวิตตามด้วยโรคป่วยไข้ คนสมัยนั้นจะลือกันว่าอีกคนหนึ่งมาพาไปอยู่ด้วย ตามความเชื่อของคนสมัยก่อนนะคะ แม่ของแม้นวาดเสียใจมากและเจ็บออดๆ แอดๆ มานับตั้งแต่นั้น กระทั่งไม่นานก็เสียชีวิตไปด้วยอีกคน นั่นจึงเป็นเหตุให้แม้นวาดจำต้องถูกส่งตัวเข้าไปอยู่ในวังตามคำสั่งที่คุณหญิงวงศ์ผู้เป็นมารดาได้สั่งเสียเอาไว้ แม้นวาดเข้าไปอยู่ในวัง ฝึกฝนการฝีมือต่างๆ ตามแบบในวัง ซึ่งตอนนี้ผู้อ่านจะได้ซึมซับบรรยากาศภายในวัง การดำเนินชีวิต และอุปนิสัยของตัวละครในวังที่มีทั้งเหมือนและแตกต่างกัน มีคนทั้งที่ดีและไม่ดี ทำให้เห็นสรรจธรรมของโลกอีกอย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าอยู่ที่ใดย่อมต้องมีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนอยู่ด้วยกันเสมอ การใช้ชีวิตจึงอยู่ที่เราจะเลือกวางว่าจะอยู่ที่ใด อย่างไร ระดับไหน จึงจะเหมาะสมและทำให้ชีวิตเป็นสุขได้อย่างที่เราอยากจะให้เป็น (อันนี้แค่เกร็ดเล็กน้อยที่ผู้อ่านนำมาเสนอ ยังมีอีกหลายแง่มุมที่น่าสนใจ) นางเอกเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยใจคออย่างหญิงไทยสมัยก่อนจริงๆ น่ารัก อ่อนโยน อ่อนหวาน และขยันขันแข็งเป็นที่สุด จึงเป็นที่รักของเจ้านายอย่างเสด็จพระองค์หญิงท่านมาก ในเรื่องแม้นวาดจะเป็นหญิงสาวที่สวยน่ารัก ความจริงน่ารักมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะค่ะ หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราเป็นที่รักของทุกคน จนกระทั่งเติบโตเป็นสาวสวยและถูกตาต้องใจพระเอกคือคุณอรรถ แม้นวาดได้ออกเรือน คือแต่งงานมีครอบครัวกับอรรถ พี่ชายของหญิงในวังคนหนึ่งที่ชื่อ อุษา ซึ่งถือเป็นรุ่นพี่ของวาดในพระตำหนักนั่นเอง แม้นวาดต้องออกมาจากวังไปใช้ชีวิตอยู่ภายนอก ต้องปรับตัวอะไรมากมายแต่ก็สามารถดำเนินชีวิตผ่านไปได้จนถึงยุครัชสมัยในปัจจุบัน มีลูกหลานและครอบครัวที่มีความสุขตามอรรตภาพกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด ตอนท้ายจะเป็นเรื่องราวของลูกๆ แม่วาดค่ะ เล่มนี้นอกจากจะทำให้ได้ซึมซับบรรยากาศความเป็นอยู่แบบไทยเดิมแล้ว ยังทำให้เราได้รู้จักประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองไทยในอดีตไม่น้อยทีเดียวค่ะ ทั้งค่านิยม ความเป็นอยู่ การดำเนินชีวิต และรวมถึงแนววิธีคิดของคนสมัยนั้นด้วย

สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024