ลูกตาลลอยแก้ว เล่ม 1 (โสภี พรรณราย)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: -
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 37.50 บาท
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

๑...

 

เสียงนาฬิกาปลุกกวนประสาทดังขึ้นบนหัวเตียง ร่างที่งัวเงียบนเตียงลุกขึ้นตบ...ผลัวะ

แรงไปหน่อย ผลคือเงียบจริง แต่นาฬิกาก็กลิ้งหมุน ๆ ลงไปสงบอยู่ใต้เตียง...เรียบร้อย

แล้วคนตบก็มุดศีรษะลงใต้หมอนหลับอุตุ ฝันดี...จนลืมตื่น

จวบจนแสงแดดแยงเข้ามาถึงเตียงแล้ว...ร่างสูงเก้งก้างจึงเพิ่งรู้สึกตัว...ลืมตา

“ตายล่ะ...กี่โมงแล้ว?”

สอดส่ายสายตาหานาฬิกาไม่เจอ...จึงกระโดดลงจากเตียง ดูนาฬิกาข้อมือบนโต๊ะแทน

แปดโมงเช้า!

จะมีประชุมเช้านี้ ตอนเก้าโมงครึ่ง!

ตายแน่...เพิ่งเริ่มทำงาน แถมเป็นเจ้านายเขา สายตั้งแต่การประชุมนัดแรก เสียชื่อหมด

ตอนนี้เร็วยิ่งกว่าตอนดูวิดีโอ แล้วเร่งให้ภาพวิ่งเร็วเหมือนตัวตลก

วิ่งเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาส่วนตัวเพียงสิบห้านาที ก็วิ่งออกมาแต่งตัว

โอ๊ย...ท้องไส้ไม่เป็นใจช่วย ปวดถ่ายขึ้นอีก วิ่งกลับเข้าห้องน้ำ...

เวลาถ่ายก็ยังเป็นทุกข์...

ออกมาแต่งตัวเพียงห้านาที อารามรีบ ผูกเน็คไทสูง ๆ ต่ำ ๆ ไม่เข้าท่า

เอาล่ะสิ...ท้องมวน ๆ ปั่นป่วนมาอีกแล้ว...

เมื่อคืนไปกินอาหารอะไรผิด ๆ มาแน่...

นึกขึ้นได้แล้ว...นายปารณต้นเหตุ พาไปกินข้าวเหนียว ส้มตำ ลาบ น้ำตก โดยอ้างว่าเพิ่งจะกลับจากนอก เลยพาไปเลี้ยงอาหารอีสานเพียบ

อยู่เมืองนอกกินอาหารอีสานเหมือนกัน แต่รสชาติไม่จัดเท่า

เพื่อนนะเพื่อน...ทำเอามีปัญหา...

แต่ยังพอทนไหว ไม่กลับเข้าห้องน้ำอีก พาตัวเองลงมาชั้นล่าง

ชั้นล่างเงียบเชียบ

พี่ชาย พี่สะใภ้ คงออกไปทำงานแล้ว...เป็นเจ้าของธนาคารก็ต้องทำงานหนัก ออกแต่เช้าเป็นตัวอย่างที่ดี

หลานสาวคนเดียวลูกพี่ชาย...อายุแค่ห้าขวบ เรียนอนุบาลมีชื่อก็ออกไปแต่เช้าเช่นกัน

“ไอ้เผือก...รองเท้า...”

หารองเท้าไม่เจออีก...ตะโกนถามหาเอาจากคนรับใช้สนิทเป็นพิเศษ...

นายเผือก อารมณ์เย็น

กรรมจริง ๆ เพราะตื่นสายแท้ ๆ

กรรมของนายอนาวิล รัชชานนท์

เป็นถึงลูกนายธนาคาร จบนอกหมาด ๆ และเพิ่งจะเริ่มงานวันนี้เป็นวันแรก

ฤกษ์ไม่ดีเสียแล้ว ขลุกขลักไปหมด

“ตะโกนอะไรกัน...นายต้นตาล?”

เสียงมารดาแว่วมาจากห้องอาหารแล้วร่างก็ตามออกมาติด ๆ

“อ้าว! คุณแม่ยังอยู่หรือครับ ผมนึกว่าคุณแม่ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนแล้ว”

“อยู่...ว่าแต่แกเถอะ...จะรีบร้อนไปไหน?”

นายเผือก หารองเท้าให้เจ้านายหนุ่มเจอแล้ว

“ไปแบงก์ครับ...วันนี้มีประชุม...เช้า...”

มาดราหรือคุณหญิงกุลนาถ รัชชานนท์ ตาโต

“มีประชุมแล้วทำไมเพิ่งไป?”

“นาฬิกาปลุกเจ้ากรรม ไม่เห็นปลุกผมเลย!” โทษนาฬิกาเสียเนี่ย ไม่โทษตัวเองที่เมื่อคืนกลับตีหนึ่ง

เพราะนายปารณ เพื่อนรักพาตระเวนราตรีจนชุ่มชื่นหัวใจ

“เมื่อคืน...แม่เห็นแกกลับดึก...”

“ปารณสิครับ มันชวนผมเสีย”

มารดาค้อนยิ้ม ๆ

“โทษโน่น โทษนี่ไม่เข้าเรื่องเลยลูกคนนี้ ต้นตาล...แกไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ... ‘แกต้องเป็นอนาวิล รัชชานนท์...’ เป็นนายแบงก์ สืบทอดเจตนาของพ่อแก...”

อนาวิลรู้ว่าเขาเป็นลูกรักของมารดา...

“มีพี่ธีเดชอยู่ทั้งคน...”

“ใช่...สองแรงแข็งขัน พ่อแกที่ตายไปจะได้ดีใจ...พี่ชายแกเขามีชื่อเสียงแล้ว...เหลือแกคนเดียว มาเรียนรู้งานอย่าทำให้เสียหน้าแม่เสียหน้าพี่...”

“เสียแน่ครับ...วันนี้...ผมเข้าประชุมไม่ทัน รถกรุงเทพฯ มันติดมหาวินาศสันตะโร”

ไหน ๆ ไปไม่ทันก็กินข้าวเช้าก่อน” มารดายังเป็นห่วง...สายตาทั้งรัก และห่วงใย

เมื่อวันวาน...

‘นายต้นตาล หรืออนาวิลของแม่ยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ อยู่เลย เผลอแป๊บเดียว กลายเป็นหนุ่มแล้ว สูง สง่า จนมารดาต้องแหงนหน้าคุย’

พูดถึงกินข้าว...อนาวิลพะอืดพะอม ท้องไส้ยิ่งไม่ค่อยดีอยู่

“ไม่ไหวแล้วครับแม่...”

“ดูสิ...ยังจะรีบร้อน...”

“ผมต้องไปให้ทัน!”

“เป็นไปไม่ได้หรอก ต้นตาล...รถติด...กว่าจะถึงแบงก์ ชั่วโมงครึ่งแน่ ๆ”

“ผมมีวิธีครับ...”

บอกมารดาเป็นประโยคสุดท้ายแล้ววิ่งออกจากตึกใหญ่...

คุณหญิงกุลนาถ ชะโงกหน้าตาม...อยากรู้วิธีของลูก

แต่ไหนแต่ไร ลูกคนเล็กมีอะไรแผลง ๆ เสมอ

อะไรที่บอกไม่ได้...บางทีก็ได้...อย่างแปลก ๆ

อนาวิลผิดกับพี่ชาย...ธีเดช

คนโต...เงียบขรึม ขยัน เอางานเอาการ

คนเล็ก...ชอบสนุก เฮฮา ถึงไหนถึงกัน

นิสัยต่างกัน แต่สองพี่น้องก็รักกันมาก...

ธีเดชแต่งงานแล้วกับพรวลัย และมีลูกสาวคนหนึ่งชื่อเด็กหญิง กรกนก ครอบครัวอบอุ่นและมีความสุขดี

คุณหญิงกุลนาถรอลูกชายคนเล็ก...เมื่อไหร่จะแต่งงานแต่งการมีครอบครัวอบอุ่นเหมือนพี่เสียที

อนาวิลไม่เดือดเนื้อร้อนตัวกับสิ่งรอบด้านมากนัก ชีวิตยาวนานที่อยู่ตามลำพังในต่างประเทศ สอนให้เขาต้องช่วยเหลือตัวเอง เพราะเงิน...บางทีก็ซื้ออะไร ๆ ไม่ได้อย่างที่คิด

เผือกรออยู่หน้าตึกแล้ว กับมอเตอร์ไซค์คันเก่าแสนเก่า

เผือกมักรู้ใจเจ้านายเสมอ

“ใช้บริการผมมั้ยครับ เจ้านาย?”

อนาวิลหัวเราะ ตบบ่าเผือกแรง ๆ

“แกนี่รู้ใจฉันจริง ๆ นะ”

เผือกยิ้มกว้าง ใบหน้าซื่อ และจริงใจ

“ถ้าไม่ใช้มอเตอร์ไซค์เจ้านายไปทำงานไม่ทันหรอก ตอนนี้รถติดอย่าบอกใครเลย”

“แกน่าจะไปหากินตามปากซอย”

“ผมรับใช้เจ้านายคนเดียวก็พอแล้ว...” หยอดปากหวาน

อนาวิลยกนาฬิกาข้อมือดู...

แปดโมงครึ่ง...

มีเวลาหนึ่งชั่วโมง...หรือประมาณนั้น

“แกไม่ต้อง...ฉันเอง...”

เผือกตาโต

“นายจะขี่เองเรอะ?”

“อืมม์...”

“นายซ้อนผมดีกว่าน่า”

“แกขี่ไม่ทันใจฉัน...”

เผือกถูกไล่ลง...ทำหน้าปูเลี่ยน ๆ ถามอ่อย ๆ

“นายจะใส่สูทเต็มยศขี่มอเตอร์ไซค์?”

“เออ...จริงสิ...” อนาวิลถอดสูทนอกออก ส่งให้เผือก “แกเอารถเบ๊นซ์ฉันขับตามไปธนาคารทีหลัง ฝากสูทไปด้วย” กล่าวพลางสวมหมวกกันน็อค

พอกล่าวจบ ชายหนุ่มก็สวมวิญญาณนักบิดขี่ลิ่วออกไปทันที...

คุณหญิงกุลนาถ โคลงศีรษะ...

ลูกคนนี้นี่...มอเตอร์ไซค์ ประชุมเช้านี้ทันแน่...หาวิธีไปจนได้ แต่...กว่าจะไปถึง...จะมอมแมมแค่ไหนนะ...

 

มอเตอร์ไซค์ไม่ค่อยติด เพราะซิกแซ็กไปได้เรื่อย ๆ

อนาวิลบึ่งรถแข่งกับเวลา ที่ใดว่างเขาก็เร่งอย่างเร็ว ถ้าเจอรถติดก็อาศัยความชำนาญใจกล้า แทรกอยู่หน้าสัญญาณไฟ เพื่อเตรียมออกก่อนเป็นคันแรกเสมอ

อาศัยเป็นคนขับรถเร็ว บางครั้งก็ตัดหน้ารถเก๋งโดยไม่ตั้งใจ ถูกรถเก๋งบีบแตรด่าเป็นชุดหลายครั้ง

ความเร่งรีบทำให้เขาไม่สนใจ...กลับรำคาญคนขับรถเก๋งบางคันที่ขับช้า บางทีจะแซงก็แซงไม่ได้

เกลียดที่สุดก็คือคนขับรถที่เป็นผู้หญิง ชายหนุ่มนึกค่อน การตัดสินใจไม่ดี ยึก ๆ ยัก ๆ ขับไปเบรกไป น่าเบื่อ

‘ถ้าเจอคนขับเป็นผู้หญิง หนีได้ก็จะหนี...’

เกือบถึงธนาคารแล้ว...

ยังเหลือเวลาอีกยี่สิบนาที...

คิดว่าสิบนาทีก็ถึง...ตระเตรียมล้างหน้าล้างตา เข้าประชุมเก้าโมงครึ่งทันเวลาพอดี

เฮ้อ! อย่างน้อยก็ไม่เสียงาน

เอาล่ะสิ...การณ์ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด

คันหน้ายึก ๆ อยู่นั่นแหละ รำคาญจริง ๆ สงสัยเป็นผู้หญิง ติดฟิล์มกรองแสงซะดำเชียว

เขาพยายามแซง...เหมือนกับแกล้งพอเขามาซ้าย หล่อนก็ซ้าย พอเขาเปลี่ยนเป็นขวา หล่อนก็ขวา

“วะ! จะเอาอย่างไงกัน?”

อนาวิลพึมพำคนเดียว

เป็นไงเป็นกัน...

ถ้าแซงหล่อนไม่ได้ก็ไม่ใช่นายอนาวิลสิ

เสียชื่อนักบิดจากนอกหมด...

อนาวิลขับออกขวา ตั้งใจแซงเต็มที่แถมยังเป็นทางโค้ง เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด

ทางหล่อนก็เร่งตีโค้ง...

อนาวิลไม่หลบ...คิดว่าหล่อนต้องเบรกให้เขาก่อน จะแกล้งให้หล่อนเบรกจนหัวทิ่ม...หล่อนก็ใจถึงจริง ๆ ไม่ยอมเบรก เพราะต่างคิดว่าอีกฝ่ายจะเบรก หรือชะลอรถ

กลายเป็นคนต่างคนต่างเร่ง...แข่ง...

โครม!

“โอ๊ย!”

อนาวิลร้องลั่น รถมอเตอร์ไซค์และร่างเขากระเด็นไปคนละทาง

คราวนี้เสียงเบรกดังเอี๊ยด...ตามมา

หล่อนใจหายวาบ...ทั้งโมโห ทั้งกลัว

อนาวิลเจ็บจนลุก...ลุกไม่ขึ้น โชคดีได้หมวกกันน็อคช่วยไว้...เสื้อกับกางเกงขาดเป็นรอยถลอกครูดไปกับพื้นถนน เลือดสด ๆ ซึมออกมา

“โอ๊ย...แขนขาอยู่ครบหรือเปล่าเนี่ย”

ชายหนุ่มบ่นดัง ๆ ในขณะที่หล่อนกำลังลงจากรถ...

เขาเหลือบแว่บเห็น...

ผู้หญิงเปรี้ยว ดัดผมหยิกหยองทั้งศีรษะ แต่งหน้าเข้ม กระโปรงสั้นรัดรูปเหนือเข่า รองเท้าส้นสูงสีดำขลิบทอง...หล่อนสวมแว่นตาดำสนิท...จึงไม่เห็นว่าหล่อนรู้สึกอย่างไรบ้างกับอุบัติเหตุครั้งนี้

“แขน ขา อยู่ครบ...ลุกไหวมั้ย?” หล่อนตอบให้เขาเสร็จสรรพและลงท้ายด้วยการถาม

“โอ๊ย...ย...” อนาวิลเลยแกล้งทำเป็นเจ็บปวด...

เล่นบทนี้ไม่เหมือนหรือไง...เลยถูกหล่อนจับได้

“คุณ...ไม่ต้องแกล้งหรอก ลุกขึ้นมาเจรจากันดีกว่า ไม่เห็นเป็นอะไรเลย” น้ำเสียงห้วน ๆ

“คุณ...คุณ...มันลุกไม่ไหว จุกหมดแล้ว สมองกระทบกระเทือนหรือเปล่าไม่รู้...”

อนาวิลแกล้งโวยวาย ยังนั่งอยู่กับพื้น ทำเหมือนเจ็บหนัก

“เว่อร์ไป...คุณใส่หมวกกันน็อคนะ”

“โชคดีที่เช้านี้ใส่ ถ้าไม่ได้ใส่...นึกภาพไม่ออกเล้ย” ชายหนุ่มกลืนน้ำลายดัง...เอื้อก

“จะเอาอย่างไร ชั้นต้องรีบไป...”

อนาวิลสะดุ้งโหยง กระโดดขึ้นมายืน แม้เจ็บอยู่ก็พอทน

“ตายล่ะ...ผมไปประชุมไม่ทันแล้ว...ระดับผู้บริหารทั้งนั้นด้วย”

“ประชุม...” หล่อนหัวเราะ... “ระดับผู้บริหาร” หัวเราะยิ่งดังสายตามองเขาอย่างแปลกประหลาด

ขี่มอเตอร์ไซค์เก่าแสนเก่า เสื้อกางเกงขาดคลุกฝุ่นคล้ำ ยังยกมือเช็ดหน้า...ไอ้ฝุ่นสิ่งสกปรกบนพื้นเอาขึ้นไปประดับอยู่บนใบหน้าเลอะเป็นจ้ำ ๆ

“พนักงานส่งของ หรือส่งเอกสารกระมัง...คุณ”

อนาวิลหน้าแดง...กึ่งขำกึ่งเคือง

นี่เขาไม่มีราศีเป็นลูกชายนายธนาคารเชียวเรอะ?

หล่อนจะดูถูกคนเกินไปแล้ว

“เอา...เอา...ทะเลาะกับคุณก็ไม่มีประโยชน์ ผมเจ็บตัว แล้วมอเตอร์ไซค์ก็แย่ คุณจะจ่ายเท่าไหร่”

ถามตรง ๆ เพราะจะรีบไป...

มองรถจักรยานยนต์ของเผือกอย่างแสนสงสาร อาจต้องเก็บเข้าพิพิธภัณฑ์แล้วมัง เผือกอาจจะน้ำตาร่วง สมบัติมีค่าชิ้นเดียวของมัน

หล่อนตาวาว

“จ่าย...” ขึ้นเสียงสูง “คุณต้องจ่ายชั้นล่ะไม่ว่า ดูรถชั้น บุบเสียหาย มีรอยครูดเส้นยาว ค่าซ่อมคงจะหลายพัน”

“รถคุณมีประกันหรือเปล่า?”

“ไม่มี”

“ว้า...พูดก็พูดเถอะนะ คุณแน่ะผิด...ผมแซงขวา คุณไม่น่าพุ่งออกมาเลย” อนาวิลบ่นอุบ

“ใครว่า คุณปาดหน้าชั้น

“ผมขับรถถูกกฎ”

“ทำไมไม่ตีวงกว้างหน่อยมาเบียดรถชั้น”

ชายหนุ่มเบ้ปาก...

เจอเอาคนพูดยากเข้าแล้วสิ...รถชนเขาเจ็บ รถก็โดนแผลใหญ่ หล่อนยังไม่ยอมรับผิด

แผลจากแขนเลือดซึมออกมาเยอะ...

ชายหนุ่มควักผ้าเช็ดหน้าออกมาซับ

หล่อนได้กลิ่นน้ำหอม...

น้ำหอมผู้ชาย

เขาคงใส่น้ำหอมไว้ในผ้าเช็ดหน้า กลิ่นปาเรนไฮต์กลิ่นที่หล่อนคุ้น ๆ เพราะพี่ชายใช้อยู่

น้ำหอมกลิ่นดี ราคาแพง...

คงจะไปเอาของนายมาใช้กระมัง...นึกดูถูก เพราะระดับเขาคงไม่มีรสนิยมถึงขนาดนี้หรอก

อนาวิลเกาศีรษะ

“เรียกตำรวจดีมั้ย?”

หล่อนทำท่าเหมือนไม่อยากให้มีตำรวจมายุ่ง

“ชั้นเสียเวลาตาย”

“อย่าว่าแต่คุณเลย ผมก็เสีย ผมมี...” จะบอกว่าประชุม เดี๋ยวก็ถูกหัวเราะเยาะอีก ‘ธุระ...’

พูดถึงธุระค่อยกว้างหน่อย

“ฉันก็มีธุระ!”

“คุณจ่ายมาดี ๆ ก็แล้วกัน จะได้ต่างคนต่างไป...”

ความจริงไอ้เจ็บตัวเสียค่ารักษาและค่าซ่อมรถของเผือก เขาออกเองก็ได้ แต่เพราะหล่อนวางมาดเกินไปหน่อย อนาวิลจึงไม่ยอม

จนป่านนี้พูดกันตั้งนาน หล่อนยังไม่ยอมถอดแว่น...

ดูหล่อนก็ไม่ยินยอมเหมือนกันที่จะจ่ายเงิน...

“ฉันไม่ผิด...”

“คุณผิด!”

“รถชั้นเสียหาย ต่างคนต่างซ่อมดีมั้ย?”

“ไม่ดีครับ...คุณผู้หญิง” อนาวิลร้องลั่น

รถผ่านไปผ่านมาส่วนใหญ่มักชะลอดู แล้วผ่านเลยไป ตามประสาอยากรู้อยากเห็น...

อนาวิลห่วงประชุมก็ห่วง...อยากเอาชนะเจ้าหล่อนก็อยาก...หล่อนผิดอยู่ชัด ๆ ไม่ยอมให้เขาแซง มันแกล้งกันตั้งแต่ต้น

เขาจึงไม่ยอมแพ้...

“ผมต้องทำแผลที่โรงพยาบาลอีก...เงินไม่ค่อยมี” ชายหนุ่มโอดครวญ...ทั้งที่ธนบัตรอัดอยู่เต็มกระเป๋า แถมยังบัตรเครดิตอีกหลายใบ ประเภทสีทองทั้งนั้น

“คุณก็ไปโรงพยาบาลรัฐบาลสิ ถูกออก...”

อะไร...จนป่านนี้ยังไม่ยอมจ่าย...

“รัฐบาลต้องรอ...สู้เอกชนไม่ได้”

“นี่...นี่ เลือดคุณออกเยอะแล้วนะยังไม่รีบไปอีก”

“ผมไม่มีเงิน...”

หล่อนเม้มปาก

“ร้อยนึงพอมั้ย?” ทำท่าเหมือนจะตัดรำคาญ

คราวนี้นายอนาวิลร้องดังลั่นกว่าเก่า

“โอ๊ย...” ยิ่งกว่าเจ็บปวดบาลแผล “คุณ...ร้อยนึงทำอะไรได้ แผลผมทั้งตั้ง...”

“งั้น...สอง...”

อนาวิลเกาศีรษะ

“ผมไม่เอาอะไรมากหรอกนะ...สองพันขาดตัว!”

หล่อนเบิกตากว้าง

‘สองพัน’

“ครับผม...”

หล่อนค้อน

“สงสัย...”

เกือบจะพูดออกมาแล้วว่า...สงสัยจะเป็นพวกหากิน...เล่นชนกันเป็นอาชีพ...เห็นตาเขาจ้องเขม็ง จึงหยุดเสียก่อน


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (77 รายการ)

www.batorastore.com © 2024