รักแรกนั้นนิรันดร (คัทลียา)

รักแรกนั้นนิรันดร (คัทลียา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: รักแรกนั้นนิรันดร
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 37.50 บาท
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

นิยายรักอมตะ  

 

รักแรกนั้น....นิรันดร

บทประพันธ์ของ........คัทลียา

 

            บ้านหลังนั้นปลูกอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นเขียวขจีของต้นไม้นานาพันธุ์ที่เป็นฉากหลังและรายรอบบ้าน บ้านของนายบำรุงและนางชื่นใจอยู่ท่ามกลางความงดงามแห่งธรรมชาติ ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้วันเวลาจะผ่านไปนานเพียงไหน กระทั่งลูกสาวทั้งสามเติบโตและเรียนจนจบมอปลายแล้วหนึ่งคนคือคัทลียา ที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่เบื้องหน้าพ่อกับแม่ในเย็นวันนี้ สาเหตุมาจาก พ่อแม่อยากให้ไปเรียนต่อที่กรุงเทพนั่นเอง

            คัทลียา เป็นพี่คนโตของน้องสาวอีกสองคน  มารตีและมินตรา  น้องสาวสองคนยังเรียนอยู่ระดับมอต้น ส่วนคัทลียาเรียนจบมอปลายแล้ว  เอ้  อ้อ แอ้ คือชื่อเล่นของสามสาว  ที่มีหน้าตาสะสวยเกินหน้าตาเกษตรกรแถวนั้นที่ต่างก็มีลูกมีหลานเช่นเดียวกันหากแต่หน้าตาไม่งามเท่าลูกพ่อบำรุงแม่ชื่นใจสักคน   สาว ๆ แถวนั้นหน้าตาพื้น ๆ ราบ ๆ เรียบ ๆ จมูกไม่โด่งงาม ดวงตาไม่หวานสดใสเหมือนลูกสาวบ้านนี้เลย โดยเฉพาะคนโตที่ชื่อเอ้ หรือคัทลียาคนนี้

            “เอ้ต้องไปเรียนกรุงเทพนะลูก ต้องมีเหตุผล บ้านเราไม่มีมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดเหมือนที่กรุงเทพเอ้ก็รู้ และอีกอย่างหนึ่ง พ่ออยากให้เอ้เรียนให้สูงที่สุด  ปีนี้ผลไม้สวนเราขายได้หลายแสน ปีหน้าจะต้องปลูกสวนยางพาราเพิ่มขึ้นอีกและเงาะเราเริ่มจะเก็บได้เพิ่มอีกหลายไร่  ยังจะทุเรียนอีกสามไร่ในอีกสองปี  เราจะมีเงินมากที่สุดก็อีกสองสามปีนี่แหละ แม่เลยอยากให้เอ้ไปเรียนเมืองนอก หลังจากเรียนจบที่กรุงเทพแล้ว “

            “แม่เขาหวังอยากให้ลูกเรียนสูง ๆ เป็นหน้าเป็นตาของบ้านเรา  “ พ่อช่วยแม่พูด เพราะเชื่ออย่างที่แม่เคยบอกว่าหากลูกสาวบ้านนี้เรียนสูง ๆ คนก็จะเอาอย่าง ไม่คิดแต่ว่ามีลูกสาวก็รอเวลาให้แต่งงานไปเท่านั้น

            “แต่เอ้ไม่อยากจากบ้านไปไหนนี่คะ เอ้อยากอยู่บ้านเรานี่แหละค่ะ พ่อก็รู้ว่าเอ้ขี้โรค เดี๋ยวป่วยเป็นอะไรไปใครจะดูแลเอ้  ... “ หญิงสาวมองพ่ออย่างขอคะแนนสงสาร ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าพ่อนั้นเข้าข้างแม่อยู่แล้ว เมื่อเห็นพ่อเงียบไปก็หันมาหาแม่อีก พร้อมคลานเข้าไปเกาะเข่า

            “แม่ขาเอ้ไม่อยากไปเรียนกรุงเทพ แม่...”

            “ไม่ได้ลูก  แม่ตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะส่งหนูไปอยู่กับคุณอาที่กรุงเทพ ไปเรียนมหาวิทยาลัยดี ๆ จบปริญญาตรีก็จะให้ต่อปริญญาโท เอ้เป็นความรักความหวังของพ่อกับแม่นะ พ่อแม่มีลูกสาวก็อยากให้เป็นหน้าเป็นตา เรียนสูงเราก็จะได้พบคนดี ๆ  “

            “เอ้ไม่อยากพบคนดีที่ไหน   เอ้ไม่อยากรักใคร   เอ้รักแต่พ่อแต่แม่นี่แหละค่ะ แม่จ๋าเอ้ไม่อยากไปเลย ไม่อยากจากบ้านไปไกลอยากอยู่ชุมพรบ้านเราเท่านั้นนะคะ.....” หญิงสาวยังคงงอแงกับมารดา เพราะไม่อยากไปเรียนกรุงเทพ คัทลียาเพิ่งเรียนจบมอปลาย และพ่อแม่ก็อยากให้ไปเรียนต่อที่กรุงเทพ ตามเพื่อนบ้านคนอื่น ๆ ที่พอลูกเรียนจบในตัวจังหวัดก็อยากให้ไปเรียนต่อที่กรุงเทพ ไปเรียนมหาวิทยาลัย แม่ของคัทลียาก็รู้ว่าเป็นค่านิยมที่อาจจะไม่ถูกต้องนักแต่เธอก็อยากเห็นอนาคตของลูกสาวคนโตไปในทางนี้ เพราะดีที่สุดแล้วนั่นเอง

            แม้จะห่วงลูกเพราะนางชื่นใจรู้ว่า คัทลียาขี้โรคมาตั้งแต่เล็ก ๆ เจ็บออด ๆ แอด ๆ เดี๋ยวปวดหัวเดี๋ยวตัวร้อน น้ำมูกไหลเป็นไข้ตลอดทั้งปี ดีว่าไม่ได้เป็นอะไรมากหรือเป็นร้ายแรง  และเพราะความรักของพ่อแม่ที่ทุ่มเทให้ลูกสาวคนนี้มากมายนั่นแหละ เพราะเห็นว่าตัวเล็ก ป่วยบ่อย จึงได้รับการประคบประหงมเอาอกเอาใจมาตั้งแต่เล็ก  ๆ   เพราะการเลี้ยงลูกแบบตามใจ คัทลียาจึงเป็นเด็กที่ค่อนข้างเอาแต่ใจ  แต่ก็ไม่เหลือบ่าฝ่าแรงของพ่อแม่ที่เลี้ยงดูอย่างมีเหตุผลและด้วยความรัก คัทลียารักพ่อแม่มาก ตลอดเวลาที่เติบโตมา ก็ไม่เคยทำอะไรให้พ่อแม่ผิดหวังเลยสักครั้ง ยิ่งเรื่องเรียนก็ยิ่งเรียนเก่งกว่าใครแม้จะเป็นคนขี้โรค แต่คัทลียาก็รักเรียนและเรียนเก่งกว่าเพื่อนในชั้นเรียนมาทุกระดับชั้น

            “ไปอยู่กับคุณอาที่กรุงเทพ บ้านคุณอาใหญ่โต แล้วชุมพรกับกรุงเทพไม่ไกลกันเลยนั่งรถเดี๋ยวเดียวก็ถึงแล้วเสาร์อาทิตย์อยากกลับบ้านก็กลับ  พ่อแม่ไปหาก็ได้ สบายอยู่แล้ว  ไปเรียนกรุงเทพดีที่สุด ไปเจอคนดี ๆ ไปเรียนมหาวิทยาลัยทีมีชื่อเสียง  เอ้จะไปพบโลกใบใหม่นะลูกนะ...”คนเป็นพ่อพยายามเกลี้ยกล่อม แม่ก็ช่วยพูดเอาใจว่า

            “หากกลัวเหงา แม่จะไปอยู่เป็นเพื่อนสักระยะหนึ่งตอนโรงเรียนแม่ปิดเทอม.....เราจะไปเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้ากัน ไปซื้อของนะ เอ้อยากได้อะไรแม่กับพ่อจะซื้อให้  ตกลงนะลูก...คุณอาเขาก็รออยู่นะ เขารักหลานสาวคนนี้มาก เขาก็ไม่มีใคร ลูกก็ไปเรียนเมืองนอกกันหมด  เอ้ไปอยู่กับคุณอา ท่านจะได้ไม่เหงา”

            คัทลียาทำตาซึม ๆ  นึกไปถึงน้องสาวพ่อ คุณอาบาลี ทำงานเป็นผู้จัดการธนาคารในกรุงเทพ  ฐานะดีมั่นคง มีลูกสองคนแต่ไปเรียนเมืองนอกหมด สามีตายไปนานแล้ว และคุณอาก็ไม่มีสามีใหม่ อยู่บ้านกับคนรับใช้อีกสองคนเท่านั้นคัทลียารู้ว่าคุณอาดีใจที่เธอจะไปอยู่ด้วยเพื่อเรียนหนังสือ แต่เธอห่วงบ้าน ไม่เคยจากบ้านไปไหนเลย แต่เมื่อเป็นความต้องการของทุกคน คัทลียาก็ไม่อาจจะขัดใจยินยอมที่จะเก็บเสื้อผ้าไปจากบ้านเพื่ออนาคตที่สดใสตามคำของพ่อแม่ที่หมายมาดและคาดหวังจากลูกสาวคนนี้

            “มาแล้วหรือคนสวยของอา.........” คุณบาลีดีใจที่หลานสาวมาอยู่ด้วย กอดหลานสาวเอาไว้แน่นเมื่อเห็นหน้านึกไม่ถึงว่าหลานสาวตัวผอม ๆ ขี้ร้องไห้เมื่อสมัยเป็นเด็ก ๆ โตขึ้นจะสวยน่ารักได้เพียงนี้ “ยังงอแงเหมือนเดิมหรือเปล่านี่....”

            “ไม่หรอกค่ะคุณอา เอ้โตแล้ว “ หญิงสาวบอกผู้เป็นอาด้วยรอยยิ้ม

            “แล้วมีแฟนหรือยัง สวยน่ารักแบบนี้สงสัยจะมีแฟนแล้วมั้งหลานรักของอา...” คุณบาลีลูบศีรษะหลานสาวอย่างรักใคร่  ได้หลานสาวมาอยู่ด้วยอีกคนหนึ่งบ้านคงไม่เงียบ ๆ เหงา ๆ   เหมือนอยู่กับคนรับใช้เพียงสองคน เพราะตั้งแต่สามีเสียชีวิตไป ลูกสองคนก็ไปเรียนต่อเมืองนอก บ้านหลังใหญ่นี้ก็มีเพียงคุณบาลีกับคนรับใช้อีกสองคนเท่านั้นเอง

            “ยังไม่มีหรอกค่ะ  ไม่มีใครมาจีบเลยคุณอา ไม่รู้เป็นอย่างไง  “คราวนี้แม่ของคัทลียาพูดตอบเอง เพราะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ คัทลียาเป็นคนสวยน่ารัก แต่ก็มีเพียงเพื่อนร่วมเรียนเท่านั้น เพื่อนชายที่อยู่รอบ ๆ กายก็เป็นได้แค่เพื่อนที่รักกันมากแบบเพื่อน ไม่มีรักแบบอื่นปนอยู่เลย และในทุกวันของคัทลียา ก็สนใจแต่เรื่องเรียนหนังสือเท่านั้น จนจบมัธยมปลายนี่แหละ

            “ไม่เป็นไรหรอก ไม่มีแฟนก็ไม่เห็นจะตายเลยนะหนูเอ้ เราสนใจเรื่องเรียนของเราดีกว่า พออายุสมควรมีแฟนอาจะหาให้เองก็ได้ หนุ่ม ๆ ที่แบงค์เยอะแยะหรือจะหนุ่ม ๆ ข้างบ้านนี่ก็มีนะ  ลูกท่านหลานเธอทั้งนั้น อยากมีเมื่อไหร่ อาจะจัดให้นะลูก “

            “นี่บาลี  ฉันให้ลูกมาเรียนนะไม่ได้มาหาแฟน  “ พ่อของคัทลียาค้านออกมาด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ

            “ไม่รู้ล่ะ จะหาให้เอง อย่างพี่หาคงไม่ได้ดีเท่าฉันหรอก ฉันจะหาคนดี ๆ  ดีทั้งชาติตระกูล ทั้งร่างกายจิตใจฐานะ ทุกอย่างต้องครบถ้วนสมบูรณ์นะลูกนะ หาดีแบบนี้ไม่ได้ก็ไม่ต้องไปหา ไม่ต้องไปเอามัน”

            คัทลียาเออออไปกับผู้เป็นอา แต่ก็นึกในใจเหมือนบิดากับมารดาว่า จะหาใครที่ไหนหนอสมบูรณ์แบบนั้น มันน่าจะได้หรอกหากว่าเป็นพระเอกในนวนิยาย ในเรื่องจริงคงหายากยิ่งกว่างมหาเข็มในมหาสมุทร

            แต่......ผู้ชายคนที่คุณบาลีต้องการ และพ่อแม่รวมทั้งคัทลียาคิดว่าคงไม่มีในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น มีอยู่จริงและอยู่ไม่ไกลจากบ้านคุณบาลีนี่เอง มันเป็นเรื่องพรหมลิขิตอย่างแน่นอนเพราะผู้ชายคนนั้นอยู่บ้านตรงข้ามบ้านของคุณบาลีนี่เอง และเขาคนนั้นก็เฝ้าแอบมองหญิงสาวร่างเล็กสมส่วนผมยาวที่เดินเข้าออกประตูบ้านคุณบาลีอยู่ทุกวัน

            เขาคือ ต่อศักดิ์ นักเรียนนายร้อยปีสุดท้าย เป็นลูกชายท่านผู้ว่าราชการจังหวัด เขาเป็นหนุ่มหน้าตาดีผิวขาวสะอาด และเขาก็แอบมองสาวน้อยที่เดินทางไปเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งอยู่ทุกวันตั้งแต่คัทลียาเริ่มไปเรียนที่มหาวิทยาลัยในวันแรก ๆ  โดยที่คัทลียาไม่รู้เลยว่ามีคนแอบมองอยู่ที่บ้านฝั่งตรงข้าม

            จนอยู่มาวันหนึ่ง ต่อศักดิ์ก็วิ่งไปเปิดประตูรั้วให้คุณบาลี โดยได้โอกาสตอนที่เขากลับจากวิ่งออกกำลังกายมาถึงหน้าบ้านพอดีกับที่คุณบาลีกลับจากทำงานและจอดรถหน้าบ้านรอคนใช้มาเปิดประตูรั้วบ้านให้

          “ขอบคุณนะคะ...” คุณบาลีลดกระจกมายิ้มให้ พอจะรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้บ้านอยู่ตรงข้ามเธอ และรู้ว่าบ้านนั้นเจ้าของบ้านเป็นท่านผู้ว่าฯ และคุณนายที่ใจดีเลี้ยงหมาแมวเต็มบ้าน คุณบาลีไม่รู้ว่าท่านผู้ว่าคนนี้มีลูกกี่คนเพราะไม่ค่อยได้มองลอดรั้วไปด้วยเกรงเสียมารยาทแต่ก็พอรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นคนในบ้านท่านผู้ว่านี่แหละ

            “ผมชื่อต่อครับ  ชื่อจริงผมชื่อ ต่อศักดิ์ คุณอาเรียกผมว่าต่อก็ได้ครับ ผมเป็นลูกชายคุณพ่อคุณแม่บ้านนี้ครับผมมีน้องสาวคนหนึ่งด้วยครับ  ชื่อน้องตาล....”

            คุณบาลีมองหน้าหล่อ ๆ ของต่อศักดิ์ หน้าตาดีนี่นา ผมเกรียนไปหน่อย เป็นลูกผู้ว่าฯหรือนี่ พูดจาดีมีสัมมาคารวะ ใช้ได้ ใช้ได้

            “ลูกชายบ้านนี้เหรอจ๊ะ ยินดีได้รู้จักลูก   เข้ามาดื่มน้ำกันก่อนไหม  น้ำเย็น ๆ  ไปวิ่งมาเหนื่อย ๆ นะ มาทานน้ำกับอาก่อนดีไหมลูก  มา เข้ามาจ้ะ “ คุณบาลีแสดงความเป็นมิตรเต็มที่ และก็เข้าทางชายหนุ่มนั่นแหละ อยากรู้จักสาวน้อยคนนั้นจะตายแล้ว ไม่รู้ว่าชื่ออะไร รู้แต่ว่าน่ารัก เห็นแล้วก็อยากรู้จัก คงจะเป็นหลานสาวคุณอาคนนี้แน่ ๆ  ป่านนี้กลับมาหรือยังก็ไม่รู้  แต่น่าจะยังไม่มาเพราะเขาเคยเห็นเธอกลับมาเย็นกว่านี้ “

 คุณบาลีรีบลงจากรถ ร้องให้คนรับใช้หาน้ำหาท่ามาต้อนรับชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นทันที

            และคุณบาลีก็ได้รู้ว่า เขาเป็นนักเรียนนายร้อยปีสุดท้ายแล้ว และเมื่อยิ่งได้พูดคุยกันคุณบาลีก็ยิ่งชอบในความเป็นคนแบบที่ต่อศักดิ์เป็น พูดเพราะ และที่สำคัญ เขาพูดกับผู้ใหญ่อย่างสุภาพ และมีความนุ่มนวลในทั้งกิริยาและน้ำเสียงขณะที่นั่งคุยกันอยู่ที่เก้าอี้ข้างสนาม คัทลียาก็กลับมาถึงบ้านพอดี หญิงสาวเห็นผู้เป็นอาคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่สนามก็เดินไปหายกมือไหว้คุณอาแล้วก็ลังเลว่าจะไหว้ ผู้ชายหนุ่ม ๆ คนนี้ดีไหม เพราะเขาดูดียังไม่แก่อีกต่างหาก แต่เขาก็อยู่ในชุดนักกีฬา คงไปวิ่งมาและคงเป็นคนแถวนี้แหละ

            “สวัสดีพี่ต่อเขาเลยน้องเอ้ พี่เขาอายุมากกว่า ต้องไหว้เขานะ  นี่มานั่งข้าง ๆ อา อาจะแนะนำให้รู้จักพี่เขานะ บ้านเขาอยู่ตรงข้ามเรานี่เองน้องเอ้  เขาชื่อพี่ต่อศักดิ์  น้องเอ้เรียกเขาพี่ต่อนะ....” เสียงคุณอาสดใสรื่นรมย์ จนคนเป็นหลานสาวรู้สึกผิดปกติ สงสัยว่าคุณอาคงชอบเขาแน่ ๆ

            “สวัสดีค่ะพี่ต่อ....” คัทลียามองหน้าเขาชัด ๆ เขาหน้าตาเหมือนกันนะ ถึงผมจะสั้นมากไปหน่อย และพอสบตาเขา คัทลียาก็ต้องหลบสายตาคม ๆ วาว ๆ ของเขาทันที ใจวิบ ๆ วับ ๆ  หวามไหวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

            “พี่เขาจะติดดาวแล้วน้องเอ้ เขาเรียนนายร้อยปีสุดท้ายแล้วนะจ๊ะ เราเพิ่งจะปีหนึ่งเอง......”

            อ้าว....แล้วมาเกี่ยวอะไรกับหนูด้วยคะคุณอา  หญิงสาวก้มหน้าคิดแต่ไม่ได้พูดออกไป ผิวแก้มร้อนวูบเมื่อเงยหน้ามองสบตาเขาอีกครั้ง

            “ค่ะ  เอ้ดีใจด้วย “

            “ผมดีใจมากที่ได้พบเอ้ได้รู้จัก  จะขออนุญาตเรียกว่าน้องเอ้ได้ไหมครับ   “ เขากล่าวเบา ๆ ต่อหน้าคุณอาบาลีที่นั่งลุ้นอยู่นั่นแหละ

            “ได้.......ทำไมจะไม่ได้ “ คุณบาลีนึกอยากตีแขนหลานสาวสักทีนึงเมื่อเห็นว่านั่งคิดนานไปเสียแล้ว แค่เขาขออนุญาตเรียกน้องแค่นี้เอง ไม่ออกปากอนุญาตสักที เลยอนุญาตเสียเองเลย

            “เรียกเขาว่าน้องเอ้ แล้วก็เรียกตัวเองว่าพี่ต่อ เข้าใจนะทั้งสองคนนี่แหละ  “ รวบรัดเสร็จแล้วก็ลุกขึ้น  “เอาละนะ อาจะไปข้างในสักที น้องเอ้ก็คุยกับพี่เขาไปพลางก่อน หากพี่เขาอากกลับ ก็เดินไปส่งเขาที่รั้วหน้าบ้านนะลูก “

            ชายหนุ่มยกมือไหว้คุณบาลี ก่อนจะหันมาหาคัทลียากล่าวเบา ๆ ว่า

            “น้องเอ้เรียนที่ไหนหรือครับ.......เหนื่อยไหม”

            “ไม่หรอกค่ะเรียนที่มหาวิทยาลัยใกล้ ๆตรงนี้เอง ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ เอ้เพิ่งเรียนปีหนึ่ง เรียนคณะบริหารธุรกิจค่ะ” เมื่อได้คุยกับเขาแล้วคัทลียาก็รู้สึกค่อย ๆ ก็หายจากอาการเคอะเขิน และมองหน้าเขาได้เต็มตา หญิงสาวรู้สึกถูกชะตากับผู้ชายหน้าตาดีตรงหน้า เพราะเขาพูดเพราะ ใบหน้าระบายด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ อีกด้วย

            “พี่ดีใจนะที่ได้รู้จักน้องเอ้  “         

            “ค่ะเอ้ก็เช่นกัน   บ้านพี่ต่ออยู่ตรงข้ามนี่หรือคะ  เดี๋ยวเอ้เดินไปส่งที่ประตูรั้วนะคะ  พอดีว่า เอ้มีการบ้านจากมหาลัยน่ะค่ะ เอาไว้วันหลัง พี่ต่อมาทานอาหารที่บ้านเอ้นะคะ  “  หญิงสาวตัดบทอย่างมีมารยาท และเขาก็เข้าใจรีบลุกขึ้นทันที และเดินนำไปช้า ๆ 

            “ขอบคุณนะครับน้องเอ้ ที่ให้เกียรติพี่  วันหยุดพี่จะขอมาทานอาหารที่บ้านนะครับ  “ ก่อนก้าวออกจากรั้วบ้านของคุณบาลี เขาก็หันมายิ้มให้หญิงสาวอีกครั้ง และเดินกลับออกไป

            คัทลียามองตามเขาไป ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านมาด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า และเพราะหน้าแดงระเรื่อมีรอยิ้มระบาเต็มใบหน้านั่นแหละทำให้ผู้เป็นอาทักว่า

            “เป็นไงหลานสาว นายร้อยรูปหล่อพอจะมัดใจหนูได้ไหมเอ่ย  ไม่ต้องอายหรอกหน้าแดงขนาดนั้นเลยนะนี่..”

            “แหมคุณอาคะ เอ้ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยสักคำนะคะ  แล้วเอ้ก็คิดว่า พี่ต่อก็ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลย ก็ธรรมดา ๆ แบบผู้ชายทั่วไปเท่านั้นเองค่ะ  ไม่เอาค่ะ เอ้จะดูหนังสือแล้ว “ คัทลียาเดินเร็ว ๆ หนีขึ้นชั้นบนไปทันที พอเข้าห้องได้ก็รีบไปนอนตาลอยที่เตียง ใจไปอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามนั่นเรียบร้อยไปแล้ว

            จากวันนั้น หญิงสาวก็แอบมองไปทางบ้านของพี่ต่อเสมอ เช้า สาย บ่าย ค่ำ ในวันหยุด เมื่อไม่เห็นเขาก็ใจหาย ๆ เขาไปไหนนะ ไหนว่าวันหยุดจะมาเที่ยวบ้านเรา ไม่เห็นมา 

            กระทั่งวันหนึ่ง วันนั้นเป็นวันศุกร์ตอนค่ำ ๆ ขณะที่หญิงสาวรดน้ำต้นไม้อยู่ริมสนามหญ้าฝั่งติดกับกำแพงรั้วบ้านพลันก็สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทักทายดังมาจากประตูรั้วตรงประตูเล็ก

            “หวัดดีครับสาวน้อย   พี่ต่อครับ  พี่ต่อมาแล้วคร้าบ....” เสียงนุ่มทุ้มนั้นน่าฟังและคนฟังก็ใจไหวหวั่นในทันที ก็เสียงนี้แหละที่รอคอยมาหลายวัน เขาหายไปสองอาทิตย์ทีเดียว

            “พี่ต่อมาแล้วหรือคะ...”ยิ้มให้เขาอย่างตื่นเต้น ก่อนจะทิ้งสายยางไปเปิดประตูให้เขาก้าวเข้ามาในบริเวณบ้านตอนนั้นคุณบาลีกลับมาแล้วและอยู่ในบ้าน คงทำอาหารเย็นกับคนรับใช้เช่นเคย

            “พี่ไม่ได้กลับบ้านหลายวัน ขอโทษนะที่บอกว่าจะมาทานอาหารที่บ้าน  พอดีมีภาระทางโน้น พี่ใกล้จบ ต้องทำอะไรมากกว่าที่ผ่านมาจ้ะ......” เขาบอกเล่าแววตาจับจ้องไปทั่วเรือนร่างของหญิงสาวตรงหน้า แววตานั้นสุภาพและเป็นแววตาที่แสดงความจริงใจ เขายอมรับว่ารู้สึกดี ๆ ต่อหญิงสาวคนนี้มาก รูปร่างหน้าตาของคัทลียาสมส่วนน่ารัก แววตาก็หวานสดใส ปากได้รูปยามเจรจาน่ารักจับใจ และเขาก็ชื่นใจทุกครั้งที่ได้ฟังคำว่า “พี่ต่อ “มาจากปากของหญิงสาวคนนี้คนที่เขาเฝ้าคิดถึงหลังจากที่ได้พบกันครั้งแรกในบ้านนี้เมื่อสองอาทิตย์ก่อน แม้จะเคยแอบมองอยู่ในบ้านก่อนหน้านั้นแต่ก็ประทับใจมากกว่าหลังจากที่ได้มารู้จักกันเมื่อครั้งคุณบาลีแนะนำ


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (79 รายการ)

www.batorastore.com © 2024