รักเหนือรัก (โสภี พรรณราย)

รักเหนือรัก (โสภี พรรณราย)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786167083063
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 280.00 บาท 70.00 บาท
ประหยัด: 210.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

เรื่อง รักเหนือรัก โดย โสภี พรรณราย

บทที่

1

  

                เอก..มองภาพเบื้องหน้าด้วยรอยยิ้ม

ยิ้มให้กับครอบครัว...คนอื่น...

ครอบครัวของเพื่อนรัก...

จะว่าไป...เขาเป็นส่วนเกินชัดๆ

ส่วนเกินที่แปลกประหลาด ส่วนเกินที่กลมกลืนกับครอบครัวนี้...ยิ่งนาน

วันยิ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งในครอบครับ...คนอื่น

ครอบครัว...เมธา....เพื่อนรัก

เมธา...กับภรรยา...ปานทอง กับเด็กชายอายุสี่ปี...น้องเจเจ

ที่นี่คือสวนสาธารณะ...

น้องเจเจเล่นอย่างสนุกสนาน เล่นกับพ่อ...กับแม่

ทั้งหมดมาที่นี่บ่อยครั้ง...มาเกือบทุกวัน...ในยามเย็น

 เพื่อให้น้องเจเจได้วิ่งเล่น เด็กชายเป็นดวงใจของเมธากับปานทอง

เมธา...ร่างผอมขาว...หน้าตาธรรมดา...หากมีจิตใจที่มั่นคงต่อความรัก

รักภรรยาและลูก

ปานทอง...หล่อนสวย เคยเป็นนางงามมาก่อน อาจเพราะต้องทำงานหนัก

ดูแลครอบครัว...ทำให้มือหยาบกร้านและใบหน้าสวยของหล่อนเริ่มคล้ำ

เครียดเป็นบางเวลา

เด็กชายเจเจ...กลับมีผิวพรรณขาวผ่อง หน้าตาเข้ม มีแววจะเป็นหนุ่ม

น้อยรูปงามในอนาคต

ทันที่ที่เด็กชายวิ่งพลาด...ถลาล้มไปกับพื้นสนามหญ้าในสวน ทั้งเมธา

และปานทองก็ถลันไปดึงตัวเด็กในเกือบทันทีเช่นกัน

 "เป็นอย่างไรหรือเปล่าลูก?" เมธาถาม

 

 

น้องเจเจลุกขึ้นด้วยแรงพยุงของพ่อกับแม่

"ไม่เป็นไรฮะ"

"ระวังหน่อยสิลูก" มารดาเตือน

เด็กน้อยหัวเราะ "ระวังแล้วฮะ...เจเจไปเล่นต่อนะฮะ..." ว่าแล้วก็วิ่งปรู๊ดไป

 "กลับเถอะเจเจ..." ปานทองว่า

เมธาจึงบอกกับภรรยา "ปล่อยให้ลูกวิ่งเล่นต่อ ลูกยังสนุกอยู่ เราไม่มี

ปัญญาพาลูกไปเล่นเสียเงิน ที่นี่สำหรับลูก แกสนุกมาก อย่าขัดความสุขของแก"

กระแสเสียงมีแววเสียใจกับชีวิต

เสียใจ...ที่ไม่อาจมอบสิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูก...ทั้งเจเจน่าจะมีโอกาส

เมธากำมือแน่น....เขาต้องเข้มแข็ง

ใครจะเชื่อเล่าว่าระหว่างเงินกับครอบครัว เขาเลือกครอบครัว

เมธา...นามสกุล...ไพบูลย์วัฒนะ

ตระกูลไพบูลย์วัฒนะก่อสร้างที่ร่ำรวยและมีชื่อเสียง

เมธา..เขาเป็นหลานชายคนโตของคุณปู่ไพบูลย์ และเป็นลูกชายคนโต

ของคุณสุพจน์...

เขาตกหลุมรักปานทอง...นางงามยากจนจากต่างจังหวัด

แต่...ทางบ้านขัดขวาง...เพราะต้องการให้เขาแต่งงานกับคุณหนูตระกูล

ร่ำรวยที่หมายหมั้นกันตั้งแต่เด็ก...โดยขู่ว่าถ้าเลือกปานทอง จะตัดเขาออกจาก

กองมรดก

เขายอมถูกตัดออกจากกองมรดก...ออกจากบ้านมาอยู่กับปานทอง สร้าง

ครอบครัวกัน...ลำบากสาหัส...

ตอนแรกก็มีเงินก้อนมาจากเงินเก็บ...ซื้อบ้าน...ลงทุนทำร้านอาหารเล็กๆ

โดยใช้ด้านหน้าของบ้านขายก๋วยเตี๋ยว ขายเฉพาะมื้อกลางวันมื้อเดียว...ยอมรับ

ว่าลำบาก...แต่เขาก็เลือกแล้ว...ทุกวันนี้...มีลูก...กับเมียเป็นแก้วตาดวงใจ

เมธารู้สึกปวดท้อง...นิ่วหน้า...ปานทองเลิกคิ้ว

เมธาพยักหน้าหมุนตัวจากสนามไปนั่งที่ริมขอบสวนสาธารณะ ซึ่งตั้งเก้าอี้

ม้าหินอยู่หลายตัว

เอกมองเหตุการณ์อยู่...เมื่อเมธาเดินมานั่ง เขาถาม

“ปวดท้องอีกแล้วเหรอ?”

“โรคกระเพาะ...” เมธาตอบ

 

 

“แกก็บอกแต่โรคกระเพาะ แกต้องไปตรวจบ้างแล้ว...”

“เข้าโรงพยาบาลทีหมดเงินเป็นพัน...เก็บเงินให้เจเจเรียนหนังสือ

โรงเรียนดีๆ ดีกว่า”

“กันจ่ายค่ายาแกเอง ระวังท้องจะพัง”

เมธาหัวเราะ “ไม่หรอก...กันดวงแข็ง กันไม่ตายง่ายๆ อีกอย่างแกช่วย

ครอบครัวกันมามากแล้ว”

“รักษาตัวเองหน่อย...มีลูกแล้ว...”

เมธาพูดเล่นว่า “กันไม่เป็นไรหรอก...ถึงกันเป็นอะไรก็ยังมีแกอยู่ทั้งคน

ที่สามารถดูแลลูกเมียกันได้...”

เอกสะดุ้ง...ถึงเพื่อนจะพูดเล่น...แต่เอกกลับรู้สึกเป็น ‘ลาง’

เมธามั่นใจในตัวเขา...เพราะ...อดีต...ปานทองคือคนรักของเอก!

เอกรักกับปานทองมาก่อน...รักก่อนที่ปานทองจะประกวด...จนได้เป็น

นางงาม...คบกันนาน...รักกันมาก...สัญญาจะสร้างอนาคตและครอบครัว

เอกแนะนำให้เมธาเพื่อนรักรู้จักกับปานทอง...เมธาก็หลงรักปานทอง

แต่ปานทองรักเอก

เขาเชื่อในพรหมลิขิต...

เอกมีฐานะปานกลาง เมื่อบิดาเสียชีวิตเขาต้องดูแลมารดากับน้องชาย

เขาทำงานบริษัทโฆษณา มีรายได้สูงเพราะผลงานเด่นและลูกค้าชื่นชอบ

แต่ปัญหาที่บ้านทำให้เอกต้องซวนเซ เสียความมั่นใจ

แม่...เอื้อมติดการพนัน ติดหนี้เป็นเงินก้อนใหญ่...และพจน์มีเรื่องกับ

นักเลง ทำร้ายร่างกายจนคู่กรณีบาดเจ็บ...เอกต้องใช้เงินเป็นล้าน...ในตอนนั้น

เมธาเพื่อนที่มีฐานะร่ำรวย ยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยเงินเต็มจำนวน...ทำให้ไม่ต้อง

หนี...และพจน์ก็ไม่ต้องติดคุก

แลกกับ...ความรัก....

ปานทอง...

ลูกผู้ชายอย่างเอก...ต้องทำ...เขาเสียใจ...เสียความรู้สึก...เขาต้องเลิกกับ

ปานทอง...เขาต้องสร้างสถานการณ์มีผู้หญิงคนใหม่...ให้ปานทองเข้าใจเขาผิด

ตอนนั้น...เขารู้ว่าหญิงสาวเสียใจมากแค่ไหน...

เอก...เสียใจมากกว่านัก

แต่...เพราะรัก...เพราะจำเป็น...

ถ้า...ปานทองเลือกเมธา....จะสุขสบายกว่าเลือกเขา

 

 

เขา...เป็นแค่พนักงานกินเงินเดือนบริษัทโฆษณา

เมธา...เป็นอาเสี่ย...เป็นคุณชายคนโตของตระกูลไพบูลย์วัฒนะก่อสร้าง

ตอนนั้น...ถ้าปานทองแต่งงานกับเมธา...หล่อนจะสบายชั่วชีวิต

เอก...คิดเช่นนั้น...จึงยอมเสียสละ...หัวใจ...สร้างเรื่องว่ามีผู้หญิงคนใหม่

คิดไม่ถึง...ไม่เป็นไปตามที่คิด

ปานทองเข้าใจเอกผิด เลือกเมธา...แต่งงานกับเมธา....ต้องผ่านด่าน

ครอบครัวเศรษฐี...ที่กีดกันรักสาวผู้ต่ำต้อย...กีดกันชนชั้น...สังคมสมัยนี้ยังมีอยู่

เมธารักปานทองเกินจะยอมทิ้งหล่อน...ถึงถูกตัดออกจากกองมรดก เขา

ก็หิ้วกระเป๋าออกจากบ้าน...จากครอบครัวมาอยู่กับปานทอง...กว่าห้าปีแล้ว เขา

ไม่เคยกลับไปตระกูลไพบูลย์วัฒนะก่อสร้างอีกเลย

ตัดขาด...เงียบหาย...เหมือนตายจาก ยอมลำบาก...เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว

เพราะปานทองเคยขายเมื่อตอนอยู่ต่างจังหวัดกับน้องสาว...ปัทมน

ปานทองยังโชคดีที่มีน้องสาวคนเดียวคอยช่วยเหลือที่ร้านและช่วยเลี้ยงลูก

เอก...ไม่เคยลืม...ปานทอง...

บ้านเอกอยู่ใกล้ร้านปานทอง...เอกกลายเป็นเพื่อนบ้านคนสนิทที่สุด และ

คอยช่วยเหลือเมธากับปานทอง...

น้องเจเจก็รักอาเอกมาก

เอกไม่สามารถจะรักใครมากกว่าปานทองได้อีก...แม้แต่ปัทมนก็ตาม

ปัทมนหลงรักพี่เอก...แต่เอกเห็นปัทมนเป็นแค่น้องสาว

หัวใจเอก...มีแต่...ปานทอง...

รัก...ต้องหักห้าม...ปานทองเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของเมธาแล้ว

อยู่กันจนมีลูก...น้องเจเจ

เอก...ขอเก็บหล่อนในหัวใจ...

เอก...เป็นคนยกปานทองให้แต่งงานกับเมธา

เพราะ..เงิน

เพราะ...แม่...น้อง

เพราะ...ความจำเป็น

เอก..ทาตัวเอง...ในที่สุด...เพราะการตัดสินใจเมื่อห้าปีที่แล้ว...มาจน

วันนี้...ถึงจะเสียใจ...แต่...แต่...เห็นปานทองมีความสุขกับเมธา...

เห็น...เมธายอมสละทุกอย่างเพื่อลูกกับเมีย...แม้ฐานะจะยากจน...พ่อ

แม่ลูก ก็อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา  มีความสุขตามสมควร...

 

 

เอกเองมีภาระหนัก...ทั้งแม่และน้อง...แต่หลายครั้งเขาก็หยิบยื่นความ

ช่วยเหลือให้เพื่อน... 

ร้านอาหารขายไม่สู้ดีนัก...และต้องเลี้ยงหลายปาก เอกต้องช่วยเท่าที่จะ

ช่วยได้...และคงต้องช่วย  ตลอดไป...เพราะคำว่า... ‘เพื่อน’....’

และคำว่า ‘รัก’

เจเจสนุกสนามกับมารดาที่สนามเด็กเล่น...เมธาเริ่มปวดมากขึ้น...ถี่ขึ้น

 เขากดท้องตัวเองอย่างแรง...เอกมองหน้าเพื่อน

“เฮ้ย...แกปวดท้องมากเลยเรอะ...”

เมธาอดทน...เขาปวดมาตลอดและกินยาแก้ปวด...ทีละเป็นกำ!”

“กันไม่เป็นไร...”

“แต่ท่าทางแกทรมานมากนะ”

“กัน...ทนได้...”

“ไปหาหมอเถอะ...”

“กัน...เสียดายเงิน....”

“ไม่มีเงินกันจ่ายให้เอง...” เอกย้ำอีกครั้ง

“อย่าบอกปานทองนะ...ไม่อยากให้เมียเป็นห่วง...”

และพอปานทองกับน้องเจเจเดินกลับมาที่หนุ่มทั้งสองนั่งสนทนากันริม

สวน...เมธาก็ทำหน้าติทั้งที่เจ็บปวดมาก

เอกสังเกต...เมธาไม่ได้ปวดธรรมดา

 

เอกกลับมาบ้านแล้ว

นางเอื้อมพร กำลังทานผลไม้กับพจน์ลูกชายคนเล็ก เห็นลูกชายคนโต

นางเอื้อมพรก็เอ่ยขึ้น

“เอ้อ...ไม่ต้องบอกก็รู้หายไปไหน...ไปอยู่กับครอบครัวเมธาง..ชอบเป็น

ส่วนเกินเหลือเกิน...” น้ำเสียงเหมือนเยาะลูก...

พจน์เองก็สนับสนุนมารดา กล่าวเสริมว่า

“พี่เอกไม่เคยลืมพี่ปาน...คนเคยรักกันมาก่อน”

มารดาตักเตือนว่า “แกควรจะตัดใจเสียนะ คนอื่นเขาก็มีลูกแล้ว แต่แก

ยังไม่มีเมียเลย”

“ผมจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ผมรักเท่านั้นครับ...”

“หนูปานน่ะเรอะ...จะรอให้เป็นแม่หม่ายก่อนเรอะ...”

 

 

เอกตกใจ “ไม่ใช่ครับ...ถึงผมจะรักปาน...แต่ตอนนี้เธอเป็นเมียเพื่อน

ผม...เธอคือเพื่อนผม...”

“แต่แกก็ยังรักเธออยู่...”

เขาไม่ปฏิเสธ...รัก...ยังรัก...ไม่เคยลดความรักลงเลย...แต่เขาสัญญากับ

ตัวเอง เขาจะไม่เป็นเพื่อนทรยศของเมธา...และปานทองเองก็ทำหน้าที่ภรรยา

อย่างดีเยี่ยม

เอกเงียบ

พจน์พูดโพล่งอีกครั้ง

“พี่เอกลืมรักครั้งแรกไม่ลงหรอกครับ สัญญาแต่งงานกันแต่ไม่ได้แต่ง...”

เอกอยากจะถามว่า...

เพราะใคร?

ห้าปีที่แล้ว...ต้องการเงินเป็นล้าน...เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตให้มารดา...กับ

น้องชาย...

จนวันนี้...มารดากับพจน์ หาได้รู้สึกอะไรไม่...

แรกๆ ก็อาจจะเสียใจกับลูก...แม่สัญญากับเขา...จะไม่เล่นการพนันอีก

เสียใจว่าเขาต้องสูญเสียคนรักแรกกับเงินล้าน แต่...พอผ่านไปไม่นาน...มารดา

ก็ลืมสัญญา

ทุกวันนี้แม่ก็ยังแอบเล่นการพนัน ยังสร้างปัญหา...และให้เขาแก้ปัญหา

เสมอ...

รวมทั้งพจน์ก็ยังไม่สนใจทำงาน...พจน์ทำงานที่ไหนไม่ได้นาน ทำไม่กี่

เดือน...ก็ออก...ช่วงตกงานก็ เป็นภาระ พี่ชายอย่างเขาต้องจ่ายเงินให้กินอยู่...

ให้จับจ่ายใช้สอยส่วนตัว

และตอนนี้พจน์ตกงานมาหลายเดือนแล้ว

นางเอื้อมพรมองบุตรชายคนโต...และรู้ว่าลูกชายคิดอะไร...นางรู้ตัว...จึง

ตัดบทกับลูกชายคนเล็ก

“เอาเถอะ...หนูปานกับเอกไม่ใช่เนื้อคู่กัน สักวัน...เอกต้องเจอเนื้อคู่

ที่แท้จริง...ผู้หญิงคนนั้นต้องดีกว่าหนูปานแน่ๆ”

 

 

 

 

บทที่

2

 

เมธาเดินออกจากโรงพยาบาลด้วยศีรษะหนักอึ้ง

เขาทนปวดช่องท้องไม่ไหวแล้ว และมาหาหมอที่โรงพยาบาล ผลการ

ตรวจเบื้องต้น เขาเป็นมะเร็งลำไส้…!

ปวดท้องมานาน...แต่ไม่เอะใจ...จนมาถึงขั้นสุดท้าย...ผลตรวจออกมา

แล้ว แต่ถ้าจะให้แน่ชัดต้องรอตรวจละเอียดอีกครั้ง...ต้องรีบรักษา

เมธาปฏิเสธการรักษา...ถ้ารักษาต้องใช้เงินหลายล้าน...

เมธาเคยมีคุณย่าเป็นมะเร็งลำไส้ และผ่าตัดแต่ก็อยู่ได้เพียงสามเดือน ค่า

รักษาเกือบห้าล้านบาท...สามเดือน...ก็จากไป...เขากำลังเป็นโรคเดียวกับคุณย่า

คุณย่าจรรยาที่รักหลานชายอย่างเขามาก...

เมธานั่งซึมที่สวนสาธารณะ...

ภาพครอบครัวก่อนแต่งงานผ่านเข้ามาในสมอง...

คุณปู่ไพบูลย์...กับคุณย่าจรรยา...ท่านมีลูกชายกับลูกสาว...ลูกชายคือ

พ่อของเมธา...คุณสุพจน์...แม่เขาตายตั้งแต่เขายังเด็ก...พ่อเลี้ยงลูกสามคน...เขา

เมธา...คนโต...ชุมพล...คนกลาง และทิพย์วิภาคนเล็ก ส่วนอาหญิงคือ สมหญิง

แต่งงานและแยกทางกับสามีเจ้าชู้ มีเมียน้อย มีลูกสาวคนเดียวชื่อ มาริสสา

ตระกูลไพบูลย์วัฒนะก่อสร้างร่ำรวยและมีชื่อเสียง...

เขาแยกตัวออกมา...เขา...ถูกตัดออกจากกองมรดก

พ่อ...ปู่...ต่างรังเกียจปานทอง...ลูกสะใภ้นางงามที่ยากจน...ท่านหาผู้หญิง

ฐานะทัดเทียมกันให้แล้ว...เป็นลูกสาวของเพื่อนบิดา...แต่เขาก็ปฏิเสธ

พ่อไม่เชื่อว่าเขากับปานทองจะอยู่กันยืด...พ่อกับปู่ว่าปานทองคือนางงาม

ที่ไร้สมอง...หวังแต่จะจับคนร่ำรวย และเขาก็คือชายหนุ่มที่หลงคนสวย...ถ้าไม่มี

ปู่กับพ่อเป็นฐานให้ จะเอาตัวไม่รอด...

 

 

ท่านให้เขาเลือก...เลือกครอบครัวที่มั่งคั่ง และเขาเป็นลูกชายคนโตของ

ตระกูลด้วย...กับ...ผู้หญิง ยากจนอย่างปานทอง

เขาเลือก...ปานทอง...

เอกอุตส่าห์ยอมเสียสละความรักให้แล้ว...โดยเอกบอกว่า

กันเชื่อว่าถ้าปานอยู่กับแกเธอจะสบาย...และมีความสุขมากกว่าอยู่กับกัน!

เขารักปานทองมาก...

เมธา...เลือก...หัวใจ...ถึงเขาจะรักครอบครัวมากเพียงไร...เขาก็ว่าเขารัก

ปานทองมากยิ่งกว่า...เมธา... เชื่อว่าเป็นรักเหนือรัก...เขาเก็บข้าวของออกจาก

ตระกูล...ทั้งที่น้องขายกับน้องสาวต่างขัดแย้งและเรียกเขา กลับ...

เสียงบิดาตวาด “ให้มันไปเรียนรู้ชีวิตด้วยตัวเอง มันจะเก่งขนาดไหนเชียว”

และปู่ไพบูลย์ก็ว่า “อวดเก่ง ดื้อ ต้องรู้บทเรียน แล้วมันก็ต้องกลับมาใน

ไม่กี่วัน!”

เปล่าเลย...เขาพิสูจน์มาถึงห้าปีแล้ว...ไม่เคยกลับบ้าน...ไม่ติดต่อกลับไป

ครอบครัวก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน

                เขาจะพิสูจน์ว่า...เขามีรักแท้...มีรักเหนือรัก...

แต่วันนี้...โลกทั้งโลกถล่มทลาย...ความฝัน...ความหวัง...จบสิ้น...เหมือน

กับเขาตายไปแล้ว...ต้อง...ตาย...ตาย...เขาจะทำอย่างไร?

อนาคต...ของลูกกับเมีย...ปานทอง...กับน้องเจเจ

ร้านอาหารเล็กๆ...จะอยู่กันอย่างไร...เขา...เป็นหัวหน้าครอบครัว เรียน

จบจากเมืองนอก...แต่กลับไม่ได้ใช้ความรู้ที่เรียนให้เป็นประโยชน์

เพราะ...นามสกุล...ไพบูลย์วัฒนะ ก่อสร้าง...ทำให้ไม่มีบริษัทไหนกล้ารับ

เขาอยู่กับครอบครัวอย่างสงบ...มีน้อยใช้น้อย...ขอเพียงได้อยู่กันพร้อม

หน้าพร้อมตา...

เมธามึนงง...จะทำอย่างไรดี? ชีวิตเขาที่เหลือเพียงสาม

เดือน...อาจเร็วกว่านั้นหรือ...ช้ากว่านั้น...แต่ก็ยืนอยู่ตรงสามเดือน...เก้าสิบวัน

นับเวลาถอยหลัง เขาจะทำอย่างไร?

เมธาหมดแรงแล้ว...หมดแรงอยู่ที่...สวนสาธารณะ...และต้องหยุดพักนาน

รู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน...เหนื่อยมากจนยากจะยืนหยัด

ต่อให้จิตใจเข้มแข็งเพียงไร เขาก็ต้องพ่ายแพ้

ร้องไห้...เขายกมือปิดหน้า...ร้องไห้กับชะตาชีวิต...ชีวิตที่ถึงยากจนแต่ก็

มีความสุข...ได้อยู่กับคนรัก...กับลูก

 

 

ร้องไห้...

ขณะนั้น...รถของเอกแล่นผ่าน...เอกกำลังจะไปพบลูกค้า...

เอกเป็นนักโฆษณามือหนึ่งของบริษัทโฆษณาชื่อดัง...และขับรถประจำ

ตำแหน่งคันหรู ผ่านสวนสาธารณะ...เห็น...เมธา...

เฮ้ย...ไอ้เมธานี่หว่า...

เขาจอดรถและถอยรถ...มองว่าใช่จริงๆ จึงดับเครื่องลงจากรถเดินมาหา

 เมธา...เจ้าตัวที่นั่งอยู่ก่อนยังไม่รู้ตัว...ปิดหน้า...สะอื้น...เมธาคิดว่าอยู่ตาม

ลำพัง...ในขณะนี้ยังไม่มีใครมาที่นี่ และฝนกำลังจะตก...ทุกคนต่างรีบกลับบ้าน

เมธาร้องไห้กับชีวิต...

เอกสงบนิ่งรอ...อย่างใจเย็นและสงสัย รอจนเมธายกมือลงจากดวงหน้า

ภาพพร่าเลือน...เอก...

เมธากลืนน้ำลายอย่างยากเย็น

“เอก!”

ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “แกเป็นอะไร?”

“กัน...กัน...เป็น...เป็น...” แล้วเสียงสุดท้ายหายเข้าไปในลำคอ..พูดไม่

ออก...เมธาต้องสะกดกลั้นความเสียใจ...และไม่อยากโทษชะตาชีวิต...เขา

พูดออกมา... “เอก...สัญญาอะไรกับกันบางอย่าง...สัญญาว่าจะดูแลปานทองและ

ลูก...สัญญากับกัน ดูแลเธอด้วยชีวิตของแก...”

เอกถามเสียงเครียด “แกเป็นอะไรกันแน่?”

“ถ้ากันตาย...สัญญานะ อย่างทิ้งปานทองกับลูก”

“แกจะตายได้อย่างไร...”

“กันเป็น...มะเร็ง...ระยะสุดท้าย...”

 

บุรุษสูงวัย วัยเจ็ดสิบปีเจ้าของบริษัทไพบูลย์วัฒนะก่อสร้าง นั่งเป็น

ประธานทานอาหารเย็น

ด้านขวามือลูกชายท่าน...คุณสุพจน์และหลานปู่สองคน คือชุมพลกับ

ทิพย์วิภา ด้านซ้ายมือลูกสาว   ม่าย คุณสมหญิงกับหลานตาคือมาริสสา

ครอบครัวอยู่รั้วบ้านเดียวกัน...แต่แยกเป็นสองส่วนคนละตึก

ยามทานอาหารเย็นจะมารวมตัวกันที่ตึกใหญ่ของเจ้าของบ้านกับคุณสุพจน์

คุณสมหญิงรู้ตัวเองว่าเป็นหญิง...อ่อนแอ...สู้พี่ชายไม่ได้...แต่ก็ได้อาศัย

มาริสสา ลูกสาวคนเดียวที่เก่งไม่แพ้ผู้ชาย...เป็นหน้าตาแทนตน

 

 

มาริสสา...คือแก้วตาดวงใจคนเดียวของคุณสมหญิง

มาริสสา...สาวสวย เก่ง เปรี้ยว...เชื่อมั่นในตัวเอง

มาริสา สวยเด่นจนทิพย์วิภาอิจฉา

สองสาวในบ้าน...มาริสสา...ทิพย์วิภา...ต่างเป็นหลานคุณไพบูลย์

พ่อ...กับแม่ของสองฝ่ายเป็นพี่น้องกัน สองสาวเกิดเดือนและปีเดียวกัน

ต่างเฉพาะ...วัน...ห่างกันแค่  สองวัน...

 ความจริงเกิดในชะตาราศีเดียวกัน น่าจะชะตาต้องกัน...นิสัยคล้ายกัน

สองสาวกลับรู้สึกแข่งกันอยู่ลึกๆต่างจะเอาชนะกัน...แข่งขันกันตั้งแต่

เด็ก...ทั้งการเรียน...ทั้งการแต่งตัว รวมไปถึง...ความรัก!

ถึงทั้งสองจะแข่งขันกันอย่างไร แต่ก็เกรงใจและเกรงกลัวคุณไพบูลย์...ปีนี้

ท่านอายุเจ็บสิบกว่า...และร่างกายก็อ่อนแอไม่ได้เข้าบริษัทหลายวันแล้ว

คุณสุพจน์ต้องปรึกษางานท่านในระหว่างทานอาหาร

“โครงการที่สุขุมวิทลุล่วงกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์แล้วครับ...”

“ใครดูแล...อยู่เพราะพ่อไม่ได้เข้าไปดูแลเลย...”

“เอ้อ...” คุณสุพจน์ตอบไม่เต็มเสียง “เมื่อสองวันก่อนผมเพิ่งแวะไป”

“แล้วนายพลล่ะ?” หันมาถามหลานชายคนรอง

ชุมพลหัวเราะแห้งๆ “ผมต้องการคนดูแลโครงการที่ฝั่งธนครับ”

“ยัยทิพย์?” ไล่ถามมาทีละคน

“ทิพย์ก็อยู่ฝั่งธนค่ะ...” ตอบเสียงอ่อน

ไม่ถามมาริสาเพราะบริษัททำแผนการตลาดโฆษณาฝ่ายขาย...ไม่

เกี่ยวกับการต่อก่อสร้าง

คุณไพบูลย์โคลงศีรษะ “คนของเราไม่พอ...”

ไม่พอ...เพราะขาดคน...ทำให้ทุกคนคิดถึง...เมธา...

คิดถึงโดยอัตโนมัติ และทิพย์วิภาก็เอ่ยปาก

“ขาดพี่เมธา...ถ้ามีพี่เมธา...พวกเราคงไม่ต้องเหนื่อย...”

เพราะพี่ชายคนโตเป็นคนเก่ง

เมธา...ชื่อนี้ทำให้ทุกคนชะงัก

คุณสุพจน์รีบปรามบุตรสาว “อย่าพูดชื่อนี้ให้คุณปู่ไม่สบายใจ...”

ใบหน้าคุณไพบูลย์เรียบเฉย...ผ่านมาเกือบห้าปี...หลานชายคนโต...หิ้ว

กระเป๋าออกจากบ้านและหายไปจากชีวิต...คิดถึงหลานชายคนโต...แต่ก็เจ็บปวด

นักที่หลานชายหยิ่งผยอง...เลือกคนรัก...ไม่เลือกความกตัญญู

 

 

เจ็บปวดแต่ไม่อยากแสดงออกว่าท่านอ่อนแอ

ท่านเป็นประมุขครอบครัว

มาริสสาเอ่ยขึ้น “ป่านนี้ไม่รู้พี่เมธาจะเป็นอย่างไร...ริสกลับเห็นว่าพี่เมธา

มีความรักที่ยิ่งใหญ่”

ทิพย์วิภาที่มักจะขัดแย้งทางความคิดกับมาริสสา โต้ว่า

“ความรักยิ่งใหญ่มีด้วยเรอะ...”

“ก็พี่เมธาเป็นตัวอย่าง...ที่ยอมสละทุกอย่างเพื่อรัก...แม้แต่เงินทองชื่อ

เสียงเกียรติยศ...สังคมหรูหรา...”

ทิพย์วิภาแค่นหัวเราะ

“แล้วเธอคิดว่า...เธอจะพบผู้ชายอย่างพี่เมธาหรือเปล่า?”

“แน่นอน...คุณเขตต้องมีความรักมั่นคงเช่นเดียวกับพี่เมธา....”

คุณเขต...คือเขตทัต...คนรักของหล่อน

มาริสสาไปเรียนต่อต่างประเทศ...พบกับเขตทัตที่ไปดูงานที่นั่น...รักกัน

คบกันมาหนึ่งปีเต็ม...พอมาริสสากลับมาทำงานที่เมืองไทย...สานต่อกิจการของ

ครอบครัว...ความรักต่อเขตทัตก็แน่นแฟ้นขึ้น

มาริสสามองว่าทิพย์วิภาอิจฉาความรักของหล่อ

ทิพย์วิภาหัวเราะเสียงแปร่งๆ “อืมม์...คุณเขตนะ...มีความรักมั่นคง...

เธอคงรู้จักคุณเขตน้อยไป...เธอรู้มั้ยเขาเป็นใคร...คุณเขตเป็นเจ้าของบริษัท

โฆษณายักษ์ใหญ่ของเมืองไทย...อยู่ในระดับต้นๆ ร่ำรวยมาก...เจ้าชู้มาก...

รูปหล่อ สาวๆต่างอยากจับเขาจะตาย...”

มาริสสาเลิกคิ้ว “รวมทั้งเธอด้วย..ทิพย์...เธอเป็นสาวหนึ่งในนั้นสิท่า”

ทิพย์วิภากำมือแน่น...เล่นฉีกหน้าหล่อนต่อหน้าทุกคน

ต้องอดทน...ทิพย์วิภา...สะกดกลั้นอารมณ์

คอยดูสิ...จะทำให้มาริสสาเจ็บปวด

คอยดูสิ...เขตทัตหนีไม่พ้นมือหล่อนหรอก เพราะหล่อแอบพึงพอใจ

เขตทัตอยู่ลึกๆ 


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (50 รายการ)

www.batorastore.com © 2024