ปีกรักกำมะลอ (หงส์หยก)

ปีกรักกำมะลอ (หงส์หยก)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: ปีกรักกำมะลอ
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 350.00 บาท 87.50 บาท
ประหยัด: 262.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ตอน 1

รถสปอร์ตคันหรูแล่นเข้ามาจอดหน้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง หญิงสาวในชุดนักศึกษา เปิดประตูลงมาจากรถด้วยท่วงท่าดุจนางพญา เธอสะบัดผมยาวสลวย ให้พริ้วไหวเข้ารูปทรง ใบหน้าสวยหวานไร้การแต่งเติม รับกันได้เหมาะเจาะกับชุดที่สวมใส่ อุปกรณ์การเรียนต่างๆ ถูกหยิบติดลงมาจากรถด้วยกัน

ทุกอิริยาบถที่เธอย่างเท้าเดินไป สะดุดตาเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกัน รวมไปถึงหนุ่มๆ รุ่นกระทงที่แอบหมายปองดอกฟ้า ทั้งที่รู้ชะตาดีว่ามันไม่ได้ผล

“เอ๊ย นั่นไงพี่แป้งมาแล้ว สวยเป็นบ้า ผู้หญิงอะไรวะ ถูกสเปกชิบเป๋ง” ตั๊มมองตามไม่ให้คลาดสายตา

“ฉันเห็นแกพูดอย่างนี้ทุกวัน ริจีบรุ่นพี่ ไม่ได้ดูสังขารตัวเองเลย” เพื่อนอีกคนหัวเราะ

“ทำไมวะ ข้าก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง จะแอบรักสาวๆ กับเขาบ้างไม่ได้เหรอ”

“ไอ้ได้น่ะมันได้อยู่หรอก แต่แกจะเอาอะไรไปเทียบเขาวะ ชื่อเสียง เงินทอง สู้เขาได้ไหม พี่เขาเป็นถึงลูกสาวคุณนวลแขกับคุณประโยชน์ จากตระกูลอมรเวช ตระกูลผู้ดีเก่าเชียวนะโว้ย”

“แกไม่เคยดูในละครเหรอ มีเยอะแยะไป ที่พระเอกจนๆ ใช้ความมานะอดทนผสมกับความรักจริง จนนางเอกเห็นใจ”

“หยุดเลย น้ำเน่าไม่เลิก เดี๋ยวพี่เขาก็จะจบแล้ว หมาวัดอย่างแก ก็คงจะต้องหันหน้าไปมองสาวอื่นที่ไม่สูงเกินเอื้อม”

“เฮ้อ จริงของเอ็ง ฉันควรจะรีบทำใจใช่มั้ยวะ”

“ก็เออสิวะ”

“ไม่ให้กำลังใจกันเลยนะมึง”

“ไม่ให้กำลังใจหรอก แต่กูกำลังให้ทางสว่างมึงไง” พูดจบคำก็เอามะเงกสับลงที่กบาลเพื่อนไปหนึ่งครั้ง ก่อนจะหันมาหัวเราะกับเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน

                                 

อรนินทร์หรือ แป้ง จัดเป็นดาวของมหาวิทยาลัย ที่หลายคนพากันยอมรับในความโดดเด่นของเธอ เพราะนอกจากรูปร่างหน้าตา อีกอย่างหนึ่งที่หลายคนไม่กล้าปฏิเสธ นั่นคือฐานะและสติปัญญา หลายคนรู้ดีว่าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งกำลังรออยู่ข้างหน้า

 อรนินทร์มาจากพื้นฐานทางครอบครัวที่อบอุ่น ทั้งคุณประโยชน์และคุณนวลแข เพิ่งได้รับรางวัลครอบครัวตัวอย่างของทางสมาคม ที่คุณหญิงคุณนายไฮโซจัดขึ้น นี่เป็นเครื่องการันตีที่อรนินทร์มีความภาคภูมิใจ และเชื่อมั่นว่าครอบครัวของเธอมีความสมบูรณ์แบบ อย่างที่คนอื่นๆ เทียบไม่ติด

การเข้ามาในห้องเรียนของอรนินทร์วันนี้ก็เช่นกัน กลุ่มเพื่อนๆ กำลังพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ ที่ลงพาดหัวตัวใหญ่คดีเมียหลวงตามยิงเมียน้อยตายคาห้องเช่า

“ดูสิพิมโหดเป็นบ้า ฆ่าตัดจู๋ด้วย ฟังแล้วหวาดเสียว”

นุ้ยทำหน้าสะใจ แล้วบอกต่อ

“สมน้ำหน้า อยากซ่าดีนัก นี่ถ้าเป็นฉันนะ ตัดก่อนตาย ไม่เตือนอีกต่างหาก พอตายแล้วก็จับนั่งยางซะเลย แล้วก็เผาไม่ให้เหลือซาก”

“นี่นุ้ย แกจะโหดอะไรขนาดนั้น”

“เอ้า ก็มันเจ้าชู้ดีนัก เราก็ต้องตัดให้มันทำอะไรไม่ได้ เรียกว่าเป็นคนก็เป็นไม่ดี เป็นผีก็ผีหำกุด” นุ้ยหัวเราะกิ๊กกั๊ก

“หัวเราะกันเบาๆ หน่อยฉันไม่มีสมาธิ” เสียงหนึ่งดังขึ้น

พิมกับนุ้ยหันไปมอง เห็นว่าอรนินทร์กำลังเปิดเอกสารบางอย่างดูรายละเอียด ทั้งพิมพ์และนุ้ยลุกเดินเข้ามาสมทบใกล้ๆ

“เสียงมันไปกระทบโสตประสาทตรงส่วนไหนมากมายไม่ทราบ” นุ้ยแดกดัน ก่อนจะหยิบเอาแผ่นเอกสารในมืออรนินทร์ขึ้นมาดู

“อะไรของแกอีกวะแป้ง...อ๋อ บทละคร งานไหนอีกวะเนี่ย”

“งานสมาคมคุณแม่ เห็นว่าคราวนี้จะจัดใหญ่กว่าทุกครั้ง เงินที่ได้จะสมทบทุนพวกเด็กด้อยโอกาส”

“คราวนี้เล่นบทอะไรอีกล่ะ”

นุ้ยชิงตอบแทนเพื่อนทันที “จะบทอะไรล่ะพิม เพื่อนเราออกจะสะสวยเลิศเลอเพอร์เฟค บทนางเอกเท่านั้นที่ยัยแป้งจะรับ ใช่มั้ยแป้ง”

อรนินทร์พยักหน้า 

“รู้ใจฉันหมดทุกอย่างเลยนะพวกเธอเนี่ย แล้วอย่าลืมไปดูฉันล่ะ”

“ไม่เอาหรอก”

“ฉันก็ไม่ไป”

“อ้าว ทำไมล่ะ” อรนินทร์แปลกใจ

“ก็บัตรที่จะเข้าไปดูน่ะสิ เป็นพันๆ ใครจะมีเงินซื้อ ให้พวกคุณหญิงคุณนายเขาดูกันเองเถอะ”

อรนินทร์หัวเราะ “นึกว่าเรื่องอะไร เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ฉันเตรียมบัตรไว้ให้พวกเธอแล้ว วีไอพีนั่งหน้าเลยล่ะ”

“จริงเหรอแป้ง” พิมกับนุ้ยดีใจ

“งานวันไหนล่ะ”

“เดือนหน้า มีเวลาเตรียมตัวอีกเยอะ”

“ดี งั้นฉันต้องไปตัดชุดเตรียมตัวก่อน” พิมวาดภาพตามจินตนาการ “เอ...งานราตรี จะต้องเป็นสายเดี่ยว เกาะอก แต่ฉันไม่มีเพชรน้ำงามๆ สักเส้น ฉันยืมเธอใส่วันหนึ่งแล้วกันนะแป้ง”

“ได้สิ”

“ให้ฉันเส้นหนึ่งนะ ฉันก็ไม่มี” นุ้ยบอกอีกคน

การสนทนาของสามสาว ผสมผสานกับเสียงหัวเราะ ไม่รู้ว่ามันกำลังสะกิดต่อมริษยาให้กับเพื่อนร่วมชั้นอีกคนที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ถึงกับส่งเสียงดังออกมา

“ไปอวดร่ำอวดรวยกันที่อื่นได้ไหม ที่นี่ห้องเรียนโว้ย”

อรนินทร์ พิมและนุ้ยหยุดชะงักหันไปมอง เห็นโบกี้เพื่อนชายร่วมห้อง กำลังจ้องมองมาอย่างไม่พอใจ

“เอายาขัดรองเท้ามาทาผมเหรอโบกี้ ถึงได้กวนประสาทชาวบ้านแต่เช้า” อรนินทร์เดินเข้าไปหา

“ฉันว่างานนี้ทะเลาะกับแม่ที่บ้านมาอีกแหงแก๋” พิมเสริม

“ยัยพิม”

“ทำไม ฉันพูดความจริงนี่”

“เรื่องนั้นน่ะไม่เกี่ยว แต่ฉันรำคาญ พวกผู้ดีตีนแดง คุณหนูจ๋า เพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง ทำอะไรก็ดีไปหมด”

“อ้าว พูดแบบนี้มันพาลกันนี่นา” นุ้ยร่วมวงอีกคน

“นี่จะรุมฉันใช่มั้ย เออ ฉันมันไม่รวย คนก็เลยพากันรังเกียจ ระวังเถอะ”

“มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดหรอกนะโบกี้”

“ทำไมจะไม่ใช่”

พิมพ์พูดขึ้นแทน “ใครๆ ก็รู้ว่านายเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว อิจฉายัยแป้ง เพราะยัยแป้งมีทุกอย่างพร้อมกว่า ผิดกับตัวเอง พ่อไปทาง แม่ไปทาง จริงมั้ยล่ะ”

“อย่าแส่น่ายัยพิม”

“ทำไม ก็ฉันพูดความจริง ฉันอยู่บ้านใกล้แก ทำไมฉันจะไม่รู้ วันไหนพ่อแม่ทะเลาะกัน แกก็มาระบายอารมณ์เอากับเพื่อนที่ห้องทุกที วันนี้ยัยแป้งก็เลยซวยไป เพราะความพร้อมของยัยแป้งดันไปกระทบต่อมต่ำต้อยของแกขึ้นมา”

“พิม ไม่เอาน่า ฉันว่าอย่ามีเรื่องกันดีกว่า” อรนินทร์ปรามเพื่อน

“ผู้ชายปากหมาอย่างมัน ต้องเจอแบบนี้แหละ”

โบกี้โกรธจัด เงื้อหมัดขึ้นทำท่าจะชกหน้าพิม

“หยุดนะ!...อะไรกัน”

อาจารย์ประจำวิชาทำหน้าถมึงทึงอยู่หน้าห้อง ทุกคนหยุดชะงัก โบกกี้ถอยห่างออกมาจากพิมทันที

“เอะอะทะเลาะกันเสียงลั่นออกไปนอกห้อง”

“ก็โบกี้สิคะอาจารย์ หาเรื่องพวกเราก่อน”

“พวกเขาเสียงดังกันนี่ครับอาจารย์ ผมรำคาญ ก็เตือนแค่นั้นเอง”

“เตือนก็พูดกันดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องใช้กำลัง” อาจารย์ตำหนิ

“ก็เขากวนอารมณ์ผม”

“กวนอะไรแค่คุยกัน”

“ก็มันเสียงดัง”

“บอกดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องกวนตีนล่ะ” พิมเถียง

“ไม่เตะก็บุญแล้ว”

“อาจารย์ว่าโบกี้ลองหัดใจเย็นๆ ลงกว่านี้ จะน่ารักมากนะ เราเป็นผู้ชาย สาวๆ เขาหยอกล้อกันก็ปล่อยเขาหน่อยสิ”

คำพูดของอาจารย์ทำให้โบกี้โกรธมากขึ้น เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกต่อว่า

“อาจารย์ก็เข้าข้างพวกเขาทุกที ใช่สิ ผมมันไม่ร่ำรวย งี่เง่า ไม่ได้บริจาคเงินให้โรงเรียนปีละแสน ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ผมมันเลว ไม่เรียนก็ได้วะวิชานี้” โบกกี้ผลุนผลันออกไป

“โบกี้!...” อรนินทร์มองตามเพื่อนไปด้วยความเสียใจ

“ปล่อยเขาไปเถอะ ตอนนี้เขากำลังโมโห เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง” อาจารย์ถอนหายใจ

“อาจารย์คะ เพราะหนูเป็นต้นเหตุแท้ๆ” อรนินทร์รู้สึกผิด

“ไม่ใช่หรอกจ้ะ โบกี้ก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง แต่ขอให้ทุกคนเข้าใจโบกี้ และพยายามไม่เก็บเอาคำพูดของเขามาเป็นอารมณ์มากนัก”

“แต่ว่า...” พิมทำท่าจะพูด แต่อาจารย์ชิงพูดแทน

“โบกี้เป็นเด็กขี้ใจน้อย ต้องการคนเอาใจ พ่อกับแม่โบกี้แยกทางกันทุกคนก็รู้  ครอบครัวค่อนข้างมีปัญหา มีเด็กอีกหลายคนที่เป็นแบบนี้ แต่เขาก็ยังสามารถพัฒนาตัวเองเข้ากับกลุ่มเพื่อนๆ ได้ ไม่คิดว่าตรงนั้นคือจุดด้อย ยอมรับกับความเป็นจริง และมีเด็กอีกหลายคนเหมือนกันที่เป็นเหมือนโบกกี้ คือยอมรับสภาพตัวเองไม่ได้ ยิ่งเมื่อถูกเปรียบเทียบกับคนที่มีทุกอย่างตรงข้ามกับตัวเองด้วยแล้ว ยิ่งจุดประกายให้เกิดข้อแตกต่างมากมาย”

“อาจารย์หมายความว่า โบกี้กำลังเอาตัวเองมาเทียบกับยัยแป้ง” นุ้ยถาม

“อาจารย์คิดว่าเป็นแบบนั้น แป้งมีทุกอย่างครบถ้วน เพียบพร้อม นั่นเป็นจุดหนึ่งที่โบกี้คิดว่าตัวเองไม่มีคุณค่า”

“หนูเสียใจค่ะอาจารย์ หนูไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”

“ไม่ใช่ความผิดของหนูหรอกจ้ะ เดี๋ยวโบกี้ก็กลับมาเอง เขาเป็นแบบนี้ออกบ่อย เขาควรจะได้รับบทเรียน ว่าควรจะปรับปรุงนิสัย ขืนง้อกันอยู่แบบนี้ ได้ใจตาย”

อรนินทร์นั่งนิ่งฟังอาจารย์เงียบๆ นึกภาคภูมิใจกับครอบครัวของตัวเอง ที่โชคดีกว่าโบกกี้มากมายนัก 

                                        **********

รุ่งเช้าของวันนี้ อรนินทร์ในชุดนักศึกษา วิ่งลงบันไดมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ประโยชน์และนวลแขนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารก่อนแล้ว ท่าทางรีบร้อนของลูกสาวทำให้ประโยชน์อดเป็นห่วงไม่ได้

“วิ่งลงบันไดแบบนั้น เดี๋ยวก็ลื่นล้มหรอก”

“แป้งไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพ่อ ไหนวันนี้มีอะไรทานบ้าง”

อรนินทร์มองไปที่ข้าวต้มปลาถ้วยเล็ก แล้วทำตาโต

“อื้อหือ ของโปรดแป้งเลยนะคะเนี่ย ฝีมือนมสาย ต้องอร่อยที่สุดในโลกเหมือนเดิมแน่ๆ” อรนินทร์ตักเข้าปากแล้วทำท่าทางเหมือนนักชิมอาหารทั่วไป “อร่อยจริงๆ รสชาตินุ่ม สมกับเป็นข้าวต้มปลาแม่สาย” เธอหัวเราะสดใจ

“แหม คุณแป้งคะ ขี้เล่นอย่างงี้ทุกที” นมสายวัย 50 ปี ยิ้มมองแป้งด้วยความเอ็นดู

“ทำท่าให้มันสมกับความเป็นกุลสตรีหน่อยสิยัยแป้ง” นวลแขผู้เป็นแม่ปรามด้วยท่วงท่านุ่มนวลตามแบบฉบับผู้ดีเก่า ทรงผมตั้งกระจังด้านหน้า ปล่อยประบ่าม้วนเป็นลอน รับกับใบหน้าที่แต่งเติมมาอย่างดี

“คุณพ่อคะ ดูสิคะ คุณแม่เนี่ย อะไรก็เป็นจริงเป็นจังไปหมด”

“แม่เตือนดีๆ ทำไมต้องพูดแบบนั้น เราน่ะปีสี่แล้วนะ นี่ก็ใกล้จะจบแล้ว หัดทำตัวเป็นผู้ใหญ่ซะบ้าง” หญิงวัย 45 ปรามลูกด้วยสายตาอีกครั้ง

“เอาน่าคุณ...เด็กก็ต้องมีเฮี้ยวกันบ้าง เออนี่แป้ง พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของพ่อกับแม่ เราจะจัดปาร์ตี้เล็กๆ ที่บ้าน แป้งชวนเพื่อนๆ มาร่วมสนุกกันก็ได้นะ”

“จริงเหรอคะคุณพ่อ” เธอหันมามองหน้าแม่ “จริงเหรอคะคุณแม่”

“จริงจ้ะ”

“ดีค่ะ งั้นแป้งจะชวนเพื่อนๆ มาหลายๆ คน คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมคะ เพื่อนๆ พากันชื่นชมครอบครัวของเราทั้งนั้นแหละค่ะ ว่าเป็นครอบครัวน่ารัก อบอุ่น ยัยพิมกับยัยนุ้ยอยากมาชิมฝีมือสลัดของคุณแม่มากเลยค่ะ ตอนที่แป้งเอาไปกินที่มหาลัย พวกนั้นติดใจกันใหญ่”

“จริงเหรอ นั่นแม่เขาทำเองกับมือจริงๆ นะ เห็นว่าสูตรน้ำสลัดรสเด็ดเนี่ย ไปเรียนมาจากเมืองนอกเชียว” ประโยชน์สมทบ

“อ๋อ อย่างงี้นี่เอง คุณพ่อถึงไม่ยอมไปไหน ที่แท้ก็ติดอกติดใจฝีมือสลัดคุณนวลแข”

นวลแขอายๆ “พ่อลูกเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย”

อรนินทร์ลุกขึ้นจากโต๊ะ อ้อมมาหอมแก้มแม่แล้วถลาไปหอมแก้มพ่อหนึ่งฟอดใหญ่

“หนูรักพ่อกับแม่ที่สุดในโลกเลยค่ะ”

ประโยชน์ลุกขึ้น ประคองลูกสาวเข้าไปใกล้ๆ ภรรยา พลางสวมกอดเอาไว้ทั้งสองคน

“พ่อก็รักหนูมากจ้ะ” เขาหันไปทางนวลแข “คุณด้วยนะ”

ภาพความสุขเช่นนี้ หาได้ไม่ยากสำหรับครอบครัวของอรนินทร์ เรื่องทะเลาะเบาะแว้งแทบจะไม่มีให้เห็น เรียกได้ว่าชีวิตตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยสาว อรนินทร์ไม่เคยรู้สึกถึงความผิดหวัง ทุกอย่างที่อยากได้ สมหมายดังใจราวกับเนรมิตร

ยามว่างของอรนินทร์ นอกจากเล่นกีฬาเทสนิสจากสนามของตัวเองที่บ้านแล้ว บ่อยครั้งที่เธอหันมาดูแลดอกกล้วยไม้ ที่หมั่นเลือกซื้อเอาพันธุ์ใหม่ๆ มาเลี้ยงเพิ่มเติม วันนี้ก็เช่นกันที่เธอได้พันธุ์กล้วยไม้พันธุ์ใหม่มาเพิ่ม จึงต้องดูแลเป็นพิเศษ นวลแขผ่านมาทางนั้นเห็นลูกสาวสาระวนกับกล้วยไม้ก็เดินเข้ามาหา

“พันธุ์ใหม่เหรอลูก”

“ค่ะแม่ เนี่ย คะยั้นคะยอคนขายแทบตาย กว่าเขาจะให้มา เขาบอกว่าจะเอาไว้โชว์หน้าร้าน”

ผู้เป็นแม่ยิ้มมองลูกสาวอย่างพิจารณา

“ความจริงลูกสาวแม่นี่สวยไม่เบา จะว่าไป แม่ไม่เคยเห็นหนุ่มๆ ที่ไหนย่างกรายเข้ามาจีบ”

“นั่นแน่ คุณแม่ พูดแบบนี้อยากมีลูกเขยเหรอคะ”

“ดูพูดเข้าไม่อายปาก แม่เพียงแต่อยากรู้ ว่าหนูน่ะ มีเพื่อนชายกับเขาบ้างหรือเปล่า”

อรนินทร์ถอนหายใจ “เฮ้อ!...แม่คะ หนูเห็นเพื่อนๆ หลายคนมีแฟน แล้วก็ทะเลาะกัน อกหักเพราะผู้ชายก็มาก หนูกลัวจะเป็นเหมือนเพื่อนๆ อีกอย่าง หนูไม่รู้ว่าจะหาผู้ชายดีๆ อย่างพ่อได้หรือเปล่า”

นวลแขเข้ามาโอบกอดลูกสาว

“ที่หนูพูดก็มีเหตุผล จะคบใครก็ดูให้ดี ไม่งั้นก็พามาให้แม่ช่วยเลือกด้วยก็ได้ จะว่าไป พ่อหนูน่ะ สมัยที่จีบแม่สุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้ว แม่เป็นคนคัดมากับมือเชียวนะ”

“ตอนนี้หนูขอเรียนให้จบก่อนค่ะแม่ เรื่องนั้นยังไม่อยากใส่ใจ”

“ดีจ้ะ เอ๊ะ นี่พ่อหายไปไหนหนูรู้หรือเปล่า แม่เดินตามหาทั่วบ้านยังไม่เห็น”

“ไม่รู้เหมือนกันค่ะคุณแม่”

“งั้นเดี๋ยวแม่ลองเดินไปดูทางโน้นดีกว่า” นวลแขเลี่ยงออกไป

มุมหนึ่งของสวนด้านหน้าบ้าน  ประโยชน์กำลังคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าท่าทางมีความสุข นวลแขเดินเข้ามาพอจะได้ยินการสนทนาแว่วๆ ว่าเหมือนเป็นการพูดจาหยอกล้อกับเด็กๆ

“อะไรนะคะ อยากได้ตุ๊กตาเหรอ ได้ๆ แล้วแม่ไปไหนล่ะลูก ขอคุยกับแม่หน่อย.....”ประโยชน์นิ่งไปสักพักเหมือนรอสาย ก่อนจะพูดต่อ “คุยจ้อเลย สงสัยจะพูดเก่งเหมือนแม่...เหรอ ได้ๆ เอาตัวใหญ่ๆ เลยใช่มั้ย ครับ แค่นี้นะครับ” 

ประโยชน์วางสาย หันมาอีกด้านกำลังจะเดินไป พลันก็เบิกตาค้างตกใจ เมื่อเห็นนวลแขยืนยิ้มอยู่ด้านหลัง

“พูดกับใครเหรอคะ เหมือนคุยกับเด็กๆ”

“อ๋อ...เอ่อ ลูกสาวเพื่อนน่ะ เขาส่งสายให้คุย เด็กอะไรก็ไม่รู้ พูดเก่งเป็นบ้า นี่บอกอยากได้ตุ๊กตา ผมสัญญาว่าเดี๋ยวจะซื้อไปให้”

“ตั้งแต่มียัยแป้ง เราก็ห่างเด็กๆ กันไปนานเลยนะคะ บางครั้งก็สงสารยัยแป้งเหมือนกัน ดูแกเหงาๆ ฉันไม่ได้เห็นท่าทางคุณพูดเล่นกับเด็กๆ แบบนี้มานาน”

“ทำไงได้ คุณก็ไม่ค่อยแข็งแรง มียัยแป้งออกมาให้ผมได้ก็นับว่าวิเศษที่สุดแล้วล่ะ เออ บอกเด็กเอาอาหารว่างมากินเถอะ ผมหิวแล้ว”

“ค่ะ”

นวลแขรับคำด้วยรอยยิ้มแล้วเลี่ยงออกไป ประโยชน์มองตามภรรยา รู้ดีว่าเรื่องหน้าที่ดูแลสามีเธอไม่เคยบกพร่อง แล้วจู่ๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขาก็กลับเปลี่ยนเป็นนิ่งขรึมลง เหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

                                    ***********

ย่ำเย็นของวันนี้ ปาร์ตี้เล็กๆ ในโอกาสครบรอบแต่งงานของประโยชน์และนวลแขจัดขึ้นบริเวณสนามหน้าบ้าน “อมรเวช” แขกที่มาในงานมีเพียงคนสนิทชิดเชื้อแวดวงไฮโซ รวมไปถึงเพื่อนของอรนินทร์ ซึ่งก็เชิญมาเฉพาะคนสนิทอย่างนุ้ยและพิมเท่านั้น

เสียงดนตรีบรรเลงอยู่ในงาน พร้อมกับเรื่องราวสารพันที่เอามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในกลุ่มผู้ใหญ่ ซึ่งก็ไม่พ้นเรื่องธุรกิจส่วนตัว อรนินทร์ พิมและนุ้ย เห็นว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่พูดกัน มันยังดูห่างไกลสำหรับพวกเธออยู่มาก จึงแยกออกมาปิ้งย่างอาหารทะเลอย่างสนุกสนาน ร่วมกับบรรดาสาวใช้ ที่ปิ้งไปกินไปตามสบายท้อง

ประโยชน์คุยกับเพื่อนๆ สักพักก็หันมาทางภรรยา

“เดี๋ยวผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”

“เดี๋ยวสิคุณ ท่านผู้หญิงกำลังจะบอกว่างานสมาคมครั้งหน้า รายละเอียดจะมีอะไรบ้าง”

“คุณก็จำๆ มาบอกผมแล้วกัน” เขาลุกขึ้น

“คุณคะ” นวลแขร้องเรียก

พอสามีหันมาเธอจึงพูดขึ้น

“เดี๋ยวคุณช่วยเข้าไปเอาของชำร่วยที่ฉันเตรียมเอาไว้มาด้วยนะคะ จะมอบเป็นที่ระลึกให้ท่านผู้หญิงน่ะค่ะ”

“อยู่ที่เดิมใช่มั้ย”

“ใช่ค่ะ”

ประโยชน์เลี่ยงออกไป ปล่อยให้นวลแขเจื้อยแจ้วอยู่กับแขกในงานต่อไป

เมื่อเดินมาถึงห้องรับแขก เสียงโทรศัพท์ประโยชน์ดังขึ้น เขากดรับสายทันที

“พอดีวันนี้ผมยุ่งๆ เลยไม่ได้แวะเข้าไปหา”

“ไม่เป็นไรค่ะ” ปลายสายตอบมาเสียงเรียบ

“ยัยหนูเป็นไงบ้าง”

“ตัวรุมๆ น่ะค่ะ แต่คงไม่เป็นอะไรมาก คุณไม่ต้องกังวลนะคะ”

“ถ้าอย่างนั้นผมก็สบายใจ แค่นี้นะ เดี๋ยวผมโทร.กลับไปใหม่แล้วกัน”

นอกจากกดตัดสาย เขาวางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะที่ห้องรับแขก ก่อนจะเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ  หลังจากปฎิบัติกิจเรียบร้อย จึงเข้าไปหยิบของตามที่นวลแขสั่งไว้ แล้วเดินออกไปสบทบกับเพื่อนๆ ด้านหน้างาน โดยลืมไปว่าวางโทรศัพท์เอาไว้

หลังจากส่งของให้ภรรยา ซึ่งคิดว่าหมดหน้าที่แล้ว นวลแขกลับท้วงขึ้น

“คุณคะ นี่มันผิดอัน คุณนี่ไม่ได้เรื่องเลย ฉันก็เพิ่งบอกคุณเองว่ามันเป็นอันไหน ทำไมหยิบเอาอันนี้มาล่ะคะ”

“เอ่อ ผมคิดว่าเป็นอันนี้นี่นา งั้นคุณไปเอาเองแล้วกัน”

“ฉันต้องเหนื่อยอีกจนได้” เธอลุกขึ้น และหันมาออกตัวกับท่านผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้วยกัน “ขอตัวสักครู่นะคะคุณพี่”

“ตามสบายเลยจ้ะ”

นวลแขเดินผ่านไปทางห้องรับแขก พลันก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอหันมองพลางบ่น

“อ้าว นั่นมันโทรศัพท์คุณประโยชน์ เผลอวางเอาไว้ตรงนี้ แล้วก็ว่าแต่เราขี้หลงขี้ลืม”

เธอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เห็นตัวหนังสือที่หน้าจอโชว์อยู่เขียนว่า วีไอพี. จึงถือวิสาสะกดรับ

ยังไม่ทันพูดอะไรปลายสายก็ส่งเสียงมาด้วยความตื่นเต้น

“คุณประโยชน์คะ ตอนนี้ยัยหนูไข้ขึ้นสูงมากค่ะ เพ้อหาแต่พ่อ คุณยุ่งมากมั้ยคะ แวะมาแป๊บหนึ่งได้มั้ย เด็กที่จ้างมาอยู่ด้วย ก็ขอกลับไปบ้านตั้งแต่เย็นน่ะค่ะ”

คุณนวลแขอึ้งเงียบ! ยังงงกับสิ่งที่ได้ยิน

“คุณประโยชน์ ฟังอยู่หรือเปล่าคะ ฉันเป็นห่วงลูกน่ะค่ะ ยัยหนูเรียกหาแต่พ่อ แกเรียกหาแต่คุณฉันเช็ดตัวตั้งนานไข้ก็ยังไม่ลด”

ขณะนี้คนฟังยังยืนช็อก มือที่ถือโทรศัพท์อยู่สั่นระริก

“คุณประโยชน์ ทำไมคุณไม่พูดล่ะคะ ลูกเรากำลังไม่สบาย คุณได้ยินมั้ยคะ”

“เธอเป็นใคร!...” นวลแขถามกลับไปเสียงเครือปนความโกรธ

คราวนี้ปลายสายที่ฟังอยู่เป็นฝ่ายนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะกดตัดการติดต่อลง ปล่อยให้นวลแขยืนนิ่งน้ำตาเอ่อ จินตนาการปะติดปะต่อเรื่องราวอยู่เพียงลำพัง คำว่าพ่อที่หญิงในสายพูดออกมา มันยืนยันได้เป็นอย่างดี ว่าสามีของเธอมีทายาทเพิ่มขึ้นมาอีกคน แถมเป็นลูกที่ไม่ได้เกิดจากเธอ

และนั่นก็คือ เขากำลังมีเมียน้อย! เธอคิดได้แค่นั้น เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันอื้ออึงไปหมด การรับรู้ทำให้หญิงผู้ยึดมั่นในครอบครัวอย่างเธอเสียการทรงตัว เซถอยไปนั่งเก้าอี้ใกล้ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนฟ้าฟาดลงกลางใจ!

แล้วความใคร่รู้ที่มีอยู่มากมายตอนนี้ ก็ทำให้เธอตัดสินใจโทรศัพท์กลับไปยังเบอร์เดิมเมื่อครู่ แต่อีกฝ่ายปิดมือถือ ไม่สามารถติดต่อได้

                                                *********

รายละเอียด

“อรนินทร์” เด็กสาวตระกูลสูง พรั่งพร้อมในทุกสิ่งของคำว่าครอบครัว เธอผิดหวังอย่างรุนแรงเมื่อรู้ว่าพ่อมีภรรยาใหม่

ครอบครัวอบอุ่นพังทลายในพริบตา พ่อกับแม่ทะเลาะกันทุกครั้งที่เห็นหน้า

ความเสียใจทำให้เธอหนีออกจากบ้าน และตอบตกลงรับทำงานกับ นายจ้าง ด้วยค่าตอบแทนงดงาม

เธอเดินทางไปทำงานตามข้อตกลงในสัญญาของนายจ้างเป็นเวลา 3 เดือน ที่เกาะแห่งหนึ่ง

ที่นั่นทำให้เธอได้พบกับ ‘พนม’พ่อม่ายลูกติด ความใกล้ชิดทำให้เธอเผลอใจให้กับเขา

 ระยะเวลา 3 เดือนทำให้เธอมีความสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ทว่า เธอต้องเดินทางกลับเสียแล้ว เพราะหมดสัญญาจ้าง

 หญิงสาวจะทำเช่นไรเมื่อการกลับมาของเธอ ทำให้ได้พบกับ‘กฤติภูมิ’ลูกชายคนเดียวของคุณหญิงโสรดา ที่แน่ๆ หน้าตาและลักษณะของเขาเหมือนกับพนมราวกับคนเดียวกัน 

 


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (76 รายการ)

www.batorastore.com © 2024