ถึงเวลาสารภาพ

2 รีวิว  2 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9749198263
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 115.00 บาท 89.70 บาท
ประหยัด: 25.30 บาท ( 22.00% )

รีวิว (2)

เขียนรีวิว

ปุณิกา | 2 รีวิว
24/07/2014

ก่อนจะเข้าสู่โหมดความคิดเห็นที่มีต่อหนังสือ อยากเล่าถึงภาพรวมของหนังสือก่อนนิดนึง ถึงเวลาสารภาพ เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มที่สามของสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ที่เรารู้จักกันดีในฐานะผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ชื่อดัง สุทธิพงษ์หายหน้าหายตาไปจากฐานะนักเขียนเรื่องสั้นชั้นดีมีเสน่ห์เป็นเวลากว่า 7 ปีด้วยข้อจำกัดด้านเวลาและภาระหน้าที่บนจอโทรทัศน์ จนหลายคนเลิกหวังที่จะได้เห็นเขาในฐานะนักเขียนอีกแล้ว แต่บัดนี้เขาได้กลับมาอีกครั้ง หนังสือเล่มนี้มีนัยสำคัญต่อตัวเขาอย่างน้อยสองประการคือ เป็นการเปลี่ยนแปลงของทัศนคติบางด้านและเป็นการสานต่อเส้นทางการเขียนเพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่แท้จริงตามที่เขาตั้งใจไว้ ถึงเวลาสารภาพ ก็คือคำสารภาพหรือการบอกเล่าเรื่องราวของบุคคล ตัวละคร และตัวเขาเอง ในเหตุการณ์ที่แตกต่างหลากหลายทั้งเรื่องใกล้ตัว เรื่องซีเรียส และแฝงอารมณ์ขัน นักพนัน - เช็กส์รับคำท้าที่จะกลับมาเขียนเรื่องสั้นอีกครั้ง เจ็ดเรื่องกับเวลาเพียงสองเดือนเศษ “แท้จริงแล้วผมไม่มีความมั่นใจในการตกปากรับคำท้าและเงื่อนไขในการพนันครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย อย่าว่าแต่จะเขียนหนังสือเลยเวลาจะนอนจะกลับบ้านไปอยู่กับลูกให้เต็มวันยังแทบจะไม่มี” ลูกเสือ - นาทีวิกฤติของชีวิตลูกเสือตัวเล็ก “ผมไม่ได้ใส่กางเกงใน ผมไม่เคยมีกางเกงใน ทั้งฉี่ทั้งขี้ผูกมิตรกันเดินทางไกล ไหลงไปที่ถุงเท้า บางส่วนพยายามจะผจญภัยไปให้ถึงถุงเท้าคู่ใหม่” ลูกเสือต้องกล้าหาญ “ผมพยายามหาคำตอบว่าผมกลัวอะไร กลัวต้องอธิบายกับผู้คน กลัวถูกหาว่าขี้ขลาด กลัวความผิดพลาดบางสิ่ง กลังการจมน้ำ” จอมขโมย - ของที่หายไป ราคาเมื่อแรกซื้อมาไม่น่าเกิน 3-4 หมื่นบาท มูลค่าปัจจุบันอาจเหลือไม่ถึงครึ่ง แต่ผมบอกไม่ถูกว่าทำไมจึงวนเวียนครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อย่างสลัดไม่หลุด “ผมเสียดายข้าวของ โกรธแค้นเจ้าหัวขโมย หวาดกลัว ไม่ปลอดภัย…ผมจะบอกภรรยาและทุกคนในครอบครัวอย่างไรดีว่า – ผมไปขโมยมันกลับมาแล้ว” หญิงบาปกับนักบุญ - “ทั้งที่ในความเป็นจริง ความตายมันเป็นเรื่องง่ายๆ และไม่สลักสำคัญอะไร เพียงแค่ปีนขึ้นไปบนลูกกรงเหล็กเตี้ยๆ แล้วทิ้งร่างลงจากระเบียงชั้น 8 คุณไม่ต้องตั้งคำถามหรอกว่ามันเป็นความโง่หรือความฉลาด เป็นความขลาดหรือความกลัว เป็นชัยชนะหรือพ่ายแพ้ เป็นบาปหรือแท้แล้วคือการปลดปล่อยเราจากบาป” ปริศนาการเมือง - “ประชาชนรักใคร คณะ(รัฐบาล)นั้น ถือไพ่เป็นต่อ สื่อมวลชนเข้าข้างใคร คณะ(รัฐบาล)นั้น ทำอะไรก็ถูกต้อง” วันกลับบ้าน - “ขณะที่คุณคิดว่าสองปีที่อยู่บ้าน เป็นเวลาอันต้อยต่ำ ล้มเหลวและไร้ค่า คุณรู้ไหมฉันกลับคิดว่า นั่นเป็นเวลาที่คุณได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต งานทุกอย่างที่คุณเล่าให้ฉันฟังก่อนจะถูกให้ออกนั้นล้วนไร้สาระ ไม่ต่างจากขยะบูดเน่าดีๆนี่เอง คุณก็เป็นโสเภณีไม่ต่างจากฉัน” นักแพ้ - “ผมแพ้มามากมาย เกินกว่าที่จะจดจำ และแพ้อีกต่อไปได้ โดยที่ไม่เจ็บช้ำไปมากกว่านี้” ผมรู้สึกว่าการเขียนเรื่องสั้นขึ้นมาซักเรื่องหนึ่งบางทีก็ไม่จำเป็นจะต้องเขียนเรื่องอะไรที่ซับซ้อน หรือเป็นเรื่องไกลตัว เพราะถ้าคนเขียนไม่รู้จริงดีพอ หรือไม่พยายามหาข้อมูลให้มากพอ ก็จะยิ่งส่งผลเสียมากกว่าผลดี จริงๆผมเชื่อว่าผู้เขียนคงมีมุมมองต่อเรื่องยากๆในสังคมนั่นแหละ เพียงแต่ว่า ด้วยข้อจำกัดของเวลาและการหายหน้าหายตาไปจากวงการนักเขียนนาน ทำให้เขาไม่กล้าที่จะเขียนเรื่องเหล่านั้น เลยเลือกที่จะเขียนเรื่องราวที่เป็นเรื่องง่ายๆที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเขาทั้งในอดีตวัยเด็กและเมื่อไม่นานมานี้ หากมองเผินๆก็ดูเหมือนไม่มีอะไรมากมาย เป็นเพียงคำบอกเล่าของชายคนหนึ่ง แต่ด้วยภาษาที่ใช้ในการถ่ายทอดที่สวยงาม คมคาย ทำให้เรื่องธรรมดาๆกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจขึ้นมาได้ ถ้าคุณเคยฟังคำพูดในรายการทีวีที่เขาเป็นพิธีกรแล้วคิดว่าคมแล้ว คำพูดในหนังสือเล่มนี้คมกว่าหลายร้อยเท่า นอกจากนี้ภายใต้เรื่องราวที่ดูเหมือนไม่มีอะไรกลับสอดแทรกวิธีคิดและทัศนคติในการมองโลกของเขาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องครอบครัว การใช้ชีวิต และแม้แต่เรื่องการเมือง ผมถือว่าผมได้อ่านความคิดในการมองชีวิตของเขามากกว่าอ่านประวัติชีวิตหรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเขา หากผู้อ่านสนใจว่าสุทธิพงษ์พิธีกรชื่อดังมีแง่มุมชีวิต และความคิดอ่านอย่างไรในเรื่องดังกล่าว ถึงเวลาสารภาพน่าจะเป็นหนังสือที่ตอบโจทย์ผู้อ่านในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
ปุณิกา | 2 รีวิว
24/07/2014

ถึงเวลาสารภาพ เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มที่สามของสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ที่เรารู้จักกันดีในฐานะผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ชื่อดัง สุทธิพงษ์หายหน้าหายตาไปจากฐานะนักเขียนเรื่องสั้นชั้นดีมีเสน่ห์เป็นเวลากว่า 7 ปีด้วยข้อจำกัดด้านเวลาและภาระหน้าที่บนจอโทรทัศน์ จนหลายคนเลิกหวังที่จะได้เห็นเขาในฐานะนักเขียนอีกแล้ว แต่บัดนี้เขาได้กลับมาอีกครั้ง หนังสือเล่มนี้มีนัยสำคัญต่อตัวเขาอย่างน้อยสองประการคือ เป็นการเปลี่ยนแปลงของทัศนคติบางด้านและเป็นการสานต่อเส้นทางการเขียนเพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่แท้จริงตามที่เขาตั้งใจไว้ ถึงเวลาสารภาพ ก็คือคำสารภาพหรือการบอกเล่าเรื่องราวของบุคคล ตัวละคร และตัวเขาเอง ในเหตุการณ์ที่แตกต่างหลากหลายทั้งเรื่องใกล้ตัว เรื่องซีเรียส และแฝงอารมณ์ขัน นักพนัน - เช็กส์รับคำท้าที่จะกลับมาเขียนเรื่องสั้นอีกครั้ง เจ็ดเรื่องกับเวลาเพียงสองเดือนเศษ “แท้จริงแล้วผมไม่มีความมั่นใจในการตกปากรับคำท้าและเงื่อนไขในการพนันครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย อย่าว่าแต่จะเขียนหนังสือเลยเวลาจะนอนจะกลับบ้านไปอยู่กับลูกให้เต็มวันยังแทบจะไม่มี” ลูกเสือ - นาทีวิกฤติของชีวิตลูกเสือตัวเล็ก “ผมไม่ได้ใส่กางเกงใน ผมไม่เคยมีกางเกงใน ทั้งฉี่ทั้งขี้ผูกมิตรกันเดินทางไกล ไหลงไปที่ถุงเท้า บางส่วนพยายามจะผจญภัยไปให้ถึงถุงเท้าคู่ใหม่” ลูกเสือต้องกล้าหาญ “ผมพยายามหาคำตอบว่าผมกลัวอะไร กลัวต้องอธิบายกับผู้คน กลัวถูกหาว่าขี้ขลาด กลัวความผิดพลาดบางสิ่ง กลังการจมน้ำ” จอมขโมย - ของที่หายไป ราคาเมื่อแรกซื้อมาไม่น่าเกิน 3-4 หมื่นบาท มูลค่าปัจจุบันอาจเหลือไม่ถึงครึ่ง แต่ผมบอกไม่ถูกว่าทำไมจึงวนเวียนครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อย่างสลัดไม่หลุด “ผมเสียดายข้าวของ โกรธแค้นเจ้าหัวขโมย หวาดกลัว ไม่ปลอดภัย…ผมจะบอกภรรยาและทุกคนในครอบครัวอย่างไรดีว่า – ผมไปขโมยมันกลับมาแล้ว” หญิงบาปกับนักบุญ - “ทั้งที่ในความเป็นจริง ความตายมันเป็นเรื่องง่ายๆ และไม่สลักสำคัญอะไร เพียงแค่ปีนขึ้นไปบนลูกกรงเหล็กเตี้ยๆ แล้วทิ้งร่างลงจากระเบียงชั้น 8 คุณไม่ต้องตั้งคำถามหรอกว่ามันเป็นความโง่หรือความฉลาด เป็นความขลาดหรือความกลัว เป็นชัยชนะหรือพ่ายแพ้ เป็นบาปหรือแท้แล้วคือการปลดปล่อยเราจากบาป” ปริศนาการเมือง - “ประชาชนรักใคร คณะ(รัฐบาล)นั้น ถือไพ่เป็นต่อ สื่อมวลชนเข้าข้างใคร คณะ(รัฐบาล)นั้น ทำอะไรก็ถูกต้อง” วันกลับบ้าน - “ขณะที่คุณคิดว่าสองปีที่อยู่บ้าน เป็นเวลาอันต้อยต่ำ ล้มเหลวและไร้ค่า คุณรู้ไหมฉันกลับคิดว่า นั่นเป็นเวลาที่คุณได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต งานทุกอย่างที่คุณเล่าให้ฉันฟังก่อนจะถูกให้ออกนั้นล้วนไร้สาระ ไม่ต่างจากขยะบูดเน่าดีๆนี่เอง คุณก็เป็นโสเภณีไม่ต่างจากฉัน” นักแพ้ - “ผมแพ้มามากมาย เกินกว่าที่จะจดจำ และแพ้อีกต่อไปได้ โดยที่ไม่เจ็บช้ำไปมากกว่านี้” เรื่องราวที่ผู้เขียนนำมาเล่าต่อนั้นเป็นเรื่องง่ายๆที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเขาทั้งในอดีตวัยเด็กและเมื่อไม่นานมานี้ หากมองเผินๆก็ดูเหมือนไม่มีอะไรมากมาย เป็นเพียงคำบอกเล่าของชายคนหนึ่ง แต่ด้วยภาษาที่ใช้ในการถ่ายทอดที่สวยงามทำให้เรื่องธรรมดาๆกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจขึ้นมาได้ นอกจากนี้ภายใต้เรื่องราวที่ดูเหมือนไม่มีอะไรกลับสอดแทรกวิธีคิดและทัศนคติในการมองโลกของเขาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องครอบครัว การใช้ชีวิต และแม้แต่เรื่องการเมือง หากผู้อ่านสนใจว่าสุทธิพงษ์พิธีกรชื่อดังมีแง่มุมชีวิต และความคิดอ่านอย่างไรในเรื่องดังกล่าว ถึงเวลาสารภาพน่าจะเป็นหนังสือที่ตอบโจทย์ผู้อ่านในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

สินค้าที่ใกล้เคียง (80 รายการ)

www.batorastore.com © 2024