จอมคนกระชากรัก (นางแก้ว) (EBOOK)

จอมคนกระชากรัก (นางแก้ว) (EBOOK)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: จอมคนกระชากรัก
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 37.50 บาท
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

 

               ที่โรงพยาบาลชั้นหนึ่งของประเทศอังกฤษ

ในห้องพิเศษ มีหญิงสาวผมสีน้ำตาลประกายทอง ดวงหน้างดงาม กำลังให้นมทารกหญิงซึ่งอยู่ในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอม ขณะที่เธอให้นมลูกอยู่นั้นเธอเขี่ยแก้มทารกด้วยความรัก

                “ลูกจ๋า พวกเราจะไม่ยอมอยู่ในกฎเกณฑ์ ไม่อยู่ในที่ที่โดนบังคับหัวใจไม่ให้มีความรักนะลูกรัก ความรักเป็นสิ่งที่เราเลือกได้เอง”

                ขณะนั้นประตูถูกเปิดเข้ามา ชายร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมคายหล่อเหลาตามสไตล์คนอังกฤษ ส่งยิ้มแก้มปริมาให้กับหญิงสาวซึ่งปิดเสื้อเมื่อลูกรักของเธออิ่มนมแล้ว

เธอไม่อยากมองหน้าหล่อเหลาของผู้เข้ามา เขามีความสูงสง่า ดวงตาสีเขียว ผมสีน้ำตาลเข้ม ใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกันกลับอกาธา เขาผู้นี้เป็นพี่ชายผู้มากวัยกว่าน้องสาวเพียงคนเดียวที่เขาแสนหวง

                เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงยินดีว่า

                “อาก้า ให้พี่ได้อุ้มหลานสักหน่อยได้มั้ย”       

                “พี่ลืมไปแล้วหรือไงว่าเด็กคนนี้เกิดจากคนที่พี่ทำร้ายเขาปางตาย”

                “ไม่เอาน่าน้องรัก”แมค ฮิวจ์ ลูบผมน้องสาวอย่างอ่อนโยน แต่สายตามองร่างน้อยๆที่อ้าปากหาว แล้วหัวเราะเบาๆ ก่อนแย่งทารกหญิงไปจากอ้อมกอดของอกาธา ชายรูปงามอุ้มทารกน้อยไว้ในอ้อมแขน พูดกับเด็กหญิงราวกับอีกฝ่ายรู้เรื่องว่า

                “สายเลือดฮิวจ์อยู่ในร่างเบบี้น้อยๆนี้ เบบี้ของลุง หนูไม่จำเป็นต้องมีพ่อที่น่ารังเกียจคนนั้น แค่หนูมีลุงแมคคนนี้เพียงคนเดียวก็พอแล้ว ใช่มั้ยเบบี้”

                อกาธามองออกนอกหน้าต่าง ดวงตาสีขาวเปล่งประกายตาดื้อรั้น และการเอาชนะ ความรักคือสิ่งที่เธอเลือก ไม่ว่าชายคนนั้นจะมีพื้นเพอย่างไร และพี่ชายมหาเศรษฐีของเธอจะรังเกียจเขามากแค่ไหน เธอคิดว่า แค่เธอรักเขาแค่เธอรักเขามากเป็นสิ่งที่พอเพียงแล้ว

...ความรักเป็นตัวกำหนดทางเลือกให้กับเธอให้มีมานะพยายามทุกรูปแบบเพื่อที่จะดั้นด้น ดึงดันที่จะไปหาชายคนรักให้จงได้

           ในเวลาราตรีมาเยือน การ์ดหลับไปคนหนึ่งอีกคน ลงไปซื้อกาแฟ เขาขึ้นมาที่ห้องพิเศษ ซึ่งอกาธานอนอยู่กับลูกน้อย เขาเห็นหญิงคนหนึ่งเข็นลังเหล็กสำหรับใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้วตามห้องพิเศษต่างๆ เดินเลี้ยวไปหน้าลิฟต์

                การ์ดค่อนข้างแปลกใจที่วันนี้หญิงทำความสะอาดคนนั้นรูปร่างเหมือนน้องสาวเจ้านายและเอาแต่หันหลังจนกระทั่งลิฟต์เปิดเธอคนนั้นก้าวเข้าไป เขาจึงเห็นสิ่งผิดปกติ เขารีบเรียกเพื่อนร่วมอาชีพ

                “ไมเออร์เข้าไปในห้องคุณหนูกันเถอะ”

                ไมเออร์สะดุ้งตื่น ก่อนทำหน้าเหรอหรา

“มีอะไรวิลล์” แทนคำตอบ วิลล์ลากเพื่อนเข้าไปเคาะประตูเรียกอกาธา สิ่งที่เขาได้รับคือความเงียบ สักครู่เขาจึงบิดลูกบิดประตู พบว่ามันล็อกมาจากภายใน พวกเขาทำท่าร้อนรน แต่ครู่ต่อมา ประตูเปิดออก พร้อมกับร่างแม่บ้านตัวจริง คลานมาเปิดลูกบิด ที่ข้าศีรษะเธอถูกทุบด้วยของแข็ง เป็นแผลฉกรรจ์และมีเลือดออกมาก

                “คุณหนูหนีไป คุณหนูหนีไปแล้ว”วิลล์ตะโกน จากนั้นจึงรีบตามอกาธาทันที

                แมคทราบว่าน้องสาวหนี เขารีบส่งคนไปที่ ตม. ไปที่สนามบิน และทุกที่ที่คิดว่าน้องสาวจะไป  ที่เดียวที่แมค ฮิวจ์ ไม่ได้ตามไป คือทางทะเล และที่นั้นเองที่น้องสาวของเขาไปกับคนรัก เรือสินค้า

                “โอ้...ลูก”ชายหนุ่มผิวขาว รูปงามแต่ยังรอยฟกช้ำอยู่เต็มใบหน้า เขากอดทารกไว้แนบอก น้ำตาเอ่อคลอ

                “กลับบ้านเรา กลับไปหาคุณลุงนะลูก”

“เรียกเบบี้นะคะคุณอาทิตย์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงคนที่รักแกมากคนหนึ่ง”อกาธาเอ่ยบอก ก่อนปล่อยน้ำตาร่วงริน ผู้ชายที่รักน้องสาวอย่างเธอมากเกินไป เขาจึงห่วงใย และบังคับเธอมาทั้งชีวิต จนเธอรู้สึกเหมือนติดคุกมาตั้งแต่เด็กด้วยคำว่า ‘คุณหนู’

อาทิตย์ หนุ่มชาวไทยทำให้เธอมีโอกาสรู้จักความรัก ซึ่งต่างจากรักอันเข้มงวดของพี่ชาย เธอกลับกลัวความรักเหมือนรักสัตว์เลี้ยงของพี่ชายเป็นที่สุด เธอไม่ต้องการให้มัธวาเผชิญชีวิตอย่างนั้นก่อนวาระสุดท้ายมาเยือน เธอจึงส่งมัธวาไปหาคุณอังคาร ผู้มีสมบัติไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บของพี่ชาย ทั้งนี้เพื่อลูกรักของเธอจะมีความอบอุ่นอย่างที่มนุษย์ดีๆสักคนจะมีได้!

                       

 

 

 

 

 

ตอนที่1 รักแรกพบ

 

โรงเรียนสตรีประจำอังกฤษแห่งนี้มีคุณภาพเรื่องการคัดสรรนักเรียน และเป็นศูนย์รวมของนักเรียนหญิงนานาชาติ ซึ่ง ล้วนแล้วแต่เป็นลูกผู้ดี ผู้มีเงิน และมีเชื้อพระวงศ์หญิงหลายประเทศเข้ามาศึกษาในโรงเรียนแห่งนี้ รวมทั้งเด็กสาวลูกครึ่งไทย อังกฤษ นามว่า มัธวา จีรติการนันท์  แม้จะเป็นกำพร้า มีคุณลุงเป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ และฐานะไม่ถึงขั้นเศรษฐี แต่คุณลุงของมัธวากัดฟันส่งมัธวามาเรียนตามความประสงค์ของเด็กหญิงเมื่อเรียนโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยได้อายุสิบสองปี เธอจึงได้ลัดฟ้ามาเรียนที่มัธยมแห่งนี้ เป็นปีที่สี่

                มัธวาเป็นเด็กหญิงที่มีความงามอย่างน่าพิศวง เธอผู้มีผิวงดงามไร้ที่ติ ดวงตาสีเขียวเปล่งประกายสดใส ฉลาดจมูกโด่งตามเชื้อชาติสายมารดาซึ่งเป็นชาวอังกฤษ เธอเด่น และดังในเรื่องการเรียนดี ความประพฤติเรียบร้อย ร่าเริงและสนุกสนาน เข้ากับทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องได้เป็นอย่างดี

                นักเรียนชาวหอ ต้องอยู่ในกฎระเบียบทุกคนไม่เว้นใครรวมทั้งนักเรียนยอดเยี่ยมคนนี้

                ครูแม่บ้านเข้ามาตรวจความเรียบร้อยตามห้องพักของนักเรียนประจำ ในเวลาก่อนนอน

                “ได้เวลานอนแล้ว ปิดไฟ”

                นักเรียนหญิง วัยสิบหกปี ต่างรับคำอย่างขันแข็ง ครูแม่บ้านจึงยิ้มรับ เพราะนางรับทราบเพียงแต่ว่า เด็กห้องพักนี้เรียนดี สุภาพ และเรียบร้อย

                หากว่าเมื่อห้องปิด และดับไฟได้เพียงสิบนาทีเท่านั้น ไฟฉายปากกาอันเล็กๆส่งสว่างมาจากเตียงในสุด จากนั้นสาวอีกสามจึงรวมตัวกันเข้าไปที่เตียงใน แล้วคนฉายใช้ปากคาบไฟฉายปากกา ออกแรงเปิดหน้าต่างให้ได้พอดีกับตัวลอดออกไปได้ ความปราดเปรียวสมกับสมร่างสูงโปร่ง เธอไต่ลงไปตามระเบียงซึ่งปลูกไม้ดอก จากนั้นก้าวถึงบันไดหนีไฟ และลงสู่ชั้นล่าง เพื่อนร่วมห้องอีกคนตามลง ส่วนอีกสองสาวไม่ลงมาแต่คอยดูแลเรื่องการกลับมาตรวจของครูแม่บ้าน ซึ่งทั้งสี่จะแบ่งข้างกันเช่นนี้มาตลอดสองปีแห่งการหนีเที่ยว

                เด็กสาวที่ตามลงมางุ่มง่ามมากเพราะตัวค่อนข้างใหญ่ ผ้าฮิญาบทำให้รู้ว่าเธอนับถือศาสนาทางกลุ่มประเทศอาหรับ การหนีเที่ยวเช่นนี้นับว่าเธอฉีกกฎอย่างไม่น่าให้อภัย แต่...ใครเล่าจะรู้ นอกจากเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ทั้งสามคน

                “ฉันบอกเธอแล้วนะว่าให้ออกกำลังกายมากกว่าคนอื่นสามเท่าและทานอาหารน้อยกว่าคนอื่นสามเท่าเหมือนกัน”

                “ฉันก็แห้งตายก่อนสิเบบี้”

                “เพราะมัวแต่กลัวแห้งนี่ล่ะดารี เธอถึงได้บ๊ะขนาดนี้ ไปเร็ว เราปีนออกไปเที่ยวทางลำธารทางโน้นไปนอนใต้ต้นไม่เล่นกัน”

                เพียงแค่ไปนอนเล่นข้างนอก ซึ่งหนาว และไม่สบายกับหอพัก แต่สองสาวรู้สึกว่าดีชะมัดที่ได้หนีสำเร็จ ดังนั้นความลำบากจึงกลายเป็นของสนุก

                “ดารี”เสียงทุ้มนุ่ม สำเนียงอาหรับดังมาจากต้นไม้ใกล้ๆ สองสาวสะดุ้งโหยง เสียงผู้ชายคนเดิมดังอีก

                “ดารี พี่เอง ฮุซัยน์”

                “ตายจริง ท่านพี่ ท่านพี่จริงหรือ”ดารีเจ้าหญิงแห่งโคไบตส์ ประเทศใหม่ในโลกอาหรับอุทาน รีบไปตามเสียงเรียก เพื่อนสาวฉวยข้อมืออีกฝ่ายไว้

                “อย่าไปนะดารี จะเป็นท่านพี่ ท่านพ่อของเธอได้ยังไง เธอบอกเองไม่ใช่หรือว่าเขาอยู่โรงเรียนนายร้อยขี้เก๊ก”

                “แต่นั่นเป็นเสียงพี่ชายของฉันจริงๆนะเบบี้ ฉันจำได้ ไม่แน่ว่าท่านพี่อาจจะได้ข่าวเรื่องการหนีของฉันก็ได้”

                “บ้าสิดารี ขืนพี่ชายเธอได้ข่าวจริง พวกเราโดนลงโทษจากครูแม่บ้านแล้ว เธอสรุปง่ายเหลือเกินนะ”

                “งั้นก็ได้ข่าวจากพวกองคารักษ์ที่ตามสอดแนม”

                ครานี้ เบบี้นิ่งอึ้ง ดารีดึงมือจากเพื่อนสาวไปหาคนที่คิดว่าเป็นท่านพี่ เธอได้พบกับชายหนุ่มร่างสูง สวมหมวกหลุบปีกมองเห็นหน้าแค่ครึ่งเดียว แต่ดารีจำได้ทันทีว่าเป็นพี่ชายจริงๆ

                “ท่านพี่ โอ้ท่านพี่มาจริงๆ ท่านพี่มาได้อย่างไรคะ”

                เบบี้ได้ยินคำทักทายแล้วจึงได้ค่อยเดินเข้าไปใกล้ ชายหนุ่มผู้สวมหมวกหลุบปีก ทำเหมือนไม่สนใจในการเข้าไปใกล้ของเบบี้ ดังนั้นสาวลูกครึ่งไทยอังกฤษจึงหยุดยั้งฝีเท้ากึก ถือดีที่จะไม่เข้าไปรู้จักกับอีกฝ่าย ด้วยความคิดว่าอีกฝ่ายช่างหยิ่งอย่างเหลือรับ

ส่วนท่านพี่ของดารีกล่าวตำหนิน้องสาวว่า

                “พี่ได้ข่าวว่าเธอหนีเที่ยวกลางคืนบ่อยๆ จึงได้มาเห็นกับตาในวันนี้ พี่คิดว่าความคิดหนีเที่ยวจะไม่ใช่เธอเป็นคนต้นคิด

                ดวงตาคมกริบใต้หมวกปีก และความมืดสลัว เหลืบสายตาไปทางสาวเบบี้ ที่เชิดหน้าเมื่อได้ยินคำตำหนิของอีกฝ่าย ความปากไวและไม่เคยยอมใครของเด็กสาวทำให้โต้ลอยลมไปว่า

                “ดารีช่างสมองกลวงเหลือเกินที่ยอมให้ฉันชักจูงง่าย บอกท่านพี่ ท่าน้อง หรือท่านอะไร ต่อท่านอะไรของเธอไปด้วยนะว่า ฉันไม่รับผิดชอบต่อคำพูดของเขา ทั้งสิ้น”

“เธอ...”เสียงดุของท่านพี่โพล่งออกมาอย่างติดฉุน เพราะเขาเองไม่เคยโดนใครตอกหน้าหงายมาก่อน

“อวดดีหรือเกิน ฉันไม่เชื่อว่าน้องสาวฉันจะแก่นแก้วขนาดที่คิดหนีออกนอกโรงเรียน”

“ท่านพี่ขา น้องขอให้เบบี้พามาเองค่ะ น้องชวนเธอเอง เบบี้มารู้จักท่านพี่ฮุซัยน์ของฉันก่อนเถอะ”

“ฮุบดิน ฮุบทราย หรือโคลนอะไรไม่รู้”เสียงตะโกนเป็นภาษาไทย แต่ประโยคต่อมาเป็นอังกฤษชัด เธอพูดได้เหมือนคนอังกฤษ แต่ภาษาแรกนั้นเจ้าชายฮูเซนไม่รู้จัก แต่เจ้าชายฮูเซนจำได้แม่นยำ ต่อคำที่เธอคนนั้นกล่าว“ฉันไม่อยากรู้จักหรอก วันนี้เสียบรรยากาศแล้วฉันจะกลับหอพักล่ะดารี”

                “เดี๋ยวสิ ไหนๆก็มาเจอท่านพี่ของฉันแล้วขอฉันคุยกับท่านสักหน่อยนะเบบี้ ฉันคิดถึงท่านพี่ของฉัน มารู้จักท่านด้วยสิ ท่านพี่คะ นั่นเป็นเพื่อนสนิทของหญิงเอง เธอชื่อมัธวา เรียกเล่นว่าเบบี้ เธอเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษค่ะค่ะ เธอสวยมากนะคะ”

                ท่านชายจ้องฝ่าความมืดสลัวไปอีกครั้ง ท่านได้เห็นแต่ท่าทีอวดดี กับเสียงเร่งน้องสาวของท่านโดยไม่สนใจท่านสักนิด

 “ดารีฉันไม่รอแล้วนะ ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้แล้ว ฉันไม่อยากให้ใครมาจับได้ว่ามีผู้ชายอยู่ด้วย เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า พวกเรานัดพบกับเขาโดยที่ไม่ได้เป็นจริง และไม่มีทางเป็นจริงด้วย”

“เบบี้เธอกำลังพาลใช่มั้ย”

คำต่อว่าของเจ้าหญิงทำให้มัธวาถึงกับเปิดไฟฉายสาดแสงส่องหน้า คนพูด และคนที่ยืนสูงเป็นเงา เจ้าชายฮูเซนยกมือป้องแสงไม่ให้สาดเข้าตา ท่านได้เห็นความก๋ากั่น เอาเรื่องของคนสาดไฟ และได้เห็นเงาแห่งความงดงามจนความสลัวรางแห่งแสงไฟครอบคลุมไม่ได้ เธอสวย แต่เสียงใสยังคงมีประโยคไม่น่าฟังมาอีกว่า

“ดารี อย่ามาต่อว่าฉันให้คนอื่นได้ยินนะ เร็วเข้า ถึงเธอจะอวบอั๋นมากไปนิด แต่เธอไม่น่าจะงุ่มง่ามจนครูจับได้หรอกนะดารี”

“ฉันไม่ได้ช้า แต่ฉันอยากให้เธอมารู้จักพี่ชายฉันก่อนนะ เบบี้ ท่านพี่ฮุซัยน์ของฉัน”

“ฮุซัยน์ ฮุซัยน์ เธอย้ำแต่ชื่อนี้จนฉันรู้จักเขาแล้ว ไม่ต้องการรู้จักมากกว่านี้หรอก”

ยายเด็กกะโปโล..เจ้าชายหนุ่มครางในอก

“เบบี้ น่านะ มาเถอะท่านพี่ฉันยิ่งไม่ค่อยมีเวลามากนัก ทรงเรียนหนักมากนะ มารู้จักท่านพี่ของฉันหน่อยฉันอยากอวด”เจ้าหญิงซึ่งทรงพ่วงพี (อ้วน) ยังวิงวอน

ซึ่งมัธวายังไม่สนใจอยากรู้จักเจ้าชาย เธอโต้กับเจ้าหญิงดารี ด้วยถ้อยประโยคที่ไม่ไพเราะเอาเสียเลยว่า

“ไม่เอาล่ะฉันเกลียดพวกเจ้าชายแขก เพราะพวกเขามีเมียเยอะ เธอรู้ดีใช่มั้ยดารีการทำเช่นนั้นเป็นการกดขี่ผู้หญิง ซึ่งตามหลักสากลไม่ควรจะมีอยู่ในโลกนี้แล้ว”

“แหมแต่ท่านพี่ฮูเซนของฉันยังไม่มีคนรักเลยนะเบบี้”

“อีกหน่อยก็มีเยอะตามใจชอบ เพราะศาสนาของเธอเปิดโอกาสให้มีเมียได้อย่างน้อยก็สี่คน ยิ่งฐานันดรเป็นถึงท่านเจ้าชายมีหรือจะไม่มีฮาเร็ม ซึ่งต้องมีการซื้อขายมาหลายร้อยเชื้อชาติ ท่านพี่เธออาจจะชอบของแปลกอย่างคนผิวดำสนิทก็ได้นะดารี ฉันจะรู้จักไปทำไมรู้จัก มาเถอะรีบไปกัน เรามีเรื่องสนุกเล่นอีกเยอะนะ”

“ยายเด็กปากจัด” เจ้าชายฮูเซนจำได้ว่าเผลอหลุดคำไม่สุภาพออกไป

“แน้ เรื่องอะไรมาด่าฉัน ท่านเจ้าชาย หรือที่ฉันพูดไปไม่ใช่เรื่องจริง หรือว่าต่อไปท่านจะมีภรรยาเพียงคนเดียว ไม่มีทางเป็นไปได้ใช่มั้ยล่ะ... เชอะ!”

คำก้าวร้าวนั้นไม่เคยมีผู้หญิงหน้าไหนพูดใส่อย่างไม่ไว้หน้ากันบ้าง แทนที่น้องหญิงจะโกรธแทนท่านพี่  แต่น้องหญิงของพระองค์ยังมีหน้าหัวเราะเสียอีก

ทำให้พระองค์ทรงรู้สึกขายพักตร์ เพราะเด็กสาววัยสิบหกปีคนนั้นดูถูกจนเสียคนในสายตาน้องสาว

“ฉันไม่รอแล้ว”ขาดคำ มัธวาหมุนกายกลับทันที ดารีรีบตามเพื่อนรัก โดยมีท่านพี่ตะโกนเตือนตามหลังมา

“ดารีน้องอย่าหนีเที่ยวอีกเด็ดขาด เพราะเป็นสิ่งไม่ดีสำหรับผู้หญิง”

“กดขี่สิทธิเสรีภาพกันชัดๆ”มัธวาเหลียวหน้ามาโต้ ดารีวิ่งตามไปเกาะแขนเพื่อนสาว หอบด้วยความเหนื่อยทั้งสองถูกสายตาเจ้าชายหนุ่มมองตามจนลับตา

ความแก่น และเฮี้ยวของมัธวา ฝังใจเจ้าชายมาก บวกกับความงดงามที่ต้องพระทัย ดวงตาสีเขียว ยามเฮี้ยวเหมือนนางแมวดุร้าย เป็นความแก่นที่น่าประทับใจ!อย่างนี้จะให้เจ้าชายหล่อจัดจะลืมได้ลงเช่นไร!

มัธวาและดารีกลับเข้าห้องพัก เพื่อนสาวที่นอนในห้องต่างพากันสงสัยเพราะเพื่อนกลับมาเร็ว

“หนาวมากเลยเหรอข้างนอก”

“เสียบรรยากาศเรื่องอื่นมากกว่า”มัธวากระแทกเสียงอนๆ ดารีหัวเราะเบาๆ ก่อนว่า

“พี่ชายฉันมาจับผิดได้เสียก่อน”

“ต๊าย อย่างนี้ฉันเปลี่ยนตัวไปแทนเบบี้ดีกว่า จะได้พบเจ้าชายผู้ร่ำรวย”

มัธวาตลบผ้าห่มอย่างขีดใจ ก่อนดุเพื่อนสาว

“เธอจะบ้าหรือไงเฮเลน เงินไม่ได้ทำให้มีความสุขไปได้หรอกถ้าต้องมาช้ำใจ”

“ช้ำใจอะไร”

“อ้าว ถ้าเธอคิดแต่งงานกับเจ้าชายอาหรับ เธอต้องนับเมียอีกสี่คน หรือสิบคน แค่นั้นให้เธอมีเงินท่วมตัวเธอก็ไม่มีวันได้รู้จักกับความสุขแน่”

“แก่แดด”เฮเลนต่อว่ามัธวา “ฉันไม่ได้คิดเรื่องการแต่งงานเลย เธอนี่คิดอะไรของเธอ ท่าทางเธอน่ะคงตกหลุมรักเจ้าชายเข้าแล้วล่ะ”

“อะไร เธออย่ามามั่วว่าฉันนะ ฉันไม่ได้คิดอะไรสักนิด”

 ดารีรีบกล่าวแก้ว่า

“เบบี้ต่อว่าท่านพี่ฉันจนเขาโกรธมากเชียว ฉันเองรู้ว่าเบบี้ปากจัด แต่เพิ่งรู้เมื่อครู่นี้เองว่า ปากเบบี้เสียอย่างมากอีกด้วย”

“ดารี นี่เธอว่าฉันหรือ”

“เธอต่อว่าพี่ชายที่แสนดีของฉันมากนี่ เธอคงไม่ยอมรับฟังเลยว่าท่านพี่ไม่มีคนรัก ทั้งยังทำงานหนัก เรียนจบนายร้อยแล้วท่านพี่ของฉันยังมีแผนการเรียนเศรษฐศาสตร์ และรัฐศาสตร์การปกครอง เพราะท่านเป็นรัชทายาทองค์สำคัญของโคไบตส์ ต่อไปต้องดำรงตำแหน่งแทนท่านพ่อ เป็นประมุขของประเทศ เธอควรให้เกียรติท่านพี่ของฉันบ้าง”

“ต่อไปเธออย่ามาพูดเรื่องท่านพี่ของเธอให้ฉันฟัง”

                “ฉันโกรธเธอแล้วนะเบบี้ เธอว่าพี่ชายฉัน”

“ฉันก็โกรธเธอที่เธอเอาแต่พูดถึงความดีของคนที่ฉันไม่ชอบ”

เฮเลนทนไม่ไหวจึงเอ่ยกลางคันว่า

“เรื่องอะไรเราจะผิดคำสัญญา พวกเธอมาดีกันเดี๋ยวนี้ อย่างลืมคำปฏิญาณร่วมห้องสิ ว่าเราจะอภัยให้กันทุกเรื่องไม่ว่าเราจะผิดใจกันมากแค่ไหน เอามือพวกเธอมานี่”

มัธวาหันหลังให้ แต่รีบส่งมือ ดารีคว้าจับก่อนดึงอีกฝ่ายเข้ามากอด

“เบบี้จอมเฮี้ยว”

“เจ้าหญิงจอมแหกกฎ”ว่าแล้วต่างคนต่างหัวเราะอย่างเข้าใจ และไม่มีความโกรธกันอย่างแท้จริง

ฝ่ายเจ้าชายฮูเซน กลับไปยังทีพัก หลังจากที่ท่านได้พัก และแอบไปสังเกตการณ์การลอบหนีเที่ยงของน้องสาวตามคำขององครักษ์ ท่านได้เห็นจริง นอกจากนี้ ท่านยังได้รู้จักเด็กสาวอีกคน ที่มีความสวยอย่างที่ความมืดสลัวดับเธอไม่ได้

“คนไทย ภาษาที่เธอพูด คงเป็นภาษาไทยแน่ เธอพูดว่าอะไรฉันนะ ฮุบดิน ฮุบโคลน”ท่านพึมพำ ก่อนเอ่ยกับร้อยเอกราฟาเอล องครักษ์ใกล้ชิด

“ราฟาเอล เจ้าไปหาดิกชั่นเนรี่ภาษาอังกฤษกับภาษาไทยมาให้ฉันเดี๋ยวนี้”

“ภาษาอะไรนะเจ้าชาย”

“ไทย... ไทยแลนด์ “

“ประเทศทางแถบอาเชี่ยนหรือพะย่ะค่ะ เอ่อ ไม่ได้ถูกจัดว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวย และยังได้ข่าวเรื่องรัฐประหารกันอย่างประเทศที่ผู้มีอารยะธรรมเขาไม่ทำกัน”

“แต่ประเทศนี้มีภาษาของตนเอง การที่ประเทศมีภาษาของตนเองเป็นภาษาราชการ บ่งบอกให้รู้ถึงความเป็นเอกราช ส่วนเรื่องที่เจ้าพูดนั้นข้าเห็นว่าเป็นเรื่องของบุคลมากกว่า ข้าอยากรู้ภาษาของชาตินี้รวมทั้งภูมิศาสตร์เพิ่มเติม”

“คงไม่ได้หมายความว่าจะเลือกเรียนวิชาภาษาไทยเป็นภาษาหลักนะพะย่ะค่ะ”

“เอ๊ะ! ราฟาเอล แกนี่อย่ามาดูถูกประเทศที่มีประวัติยาวนานกว่าประเทศตัวเองสิ”

“แม้ประเทศเราจะเพิ่งเกิดขึ้น แต่เรากำลังพัฒนาสู่การเป็นอารยะธรรมนะพะย่ะค่ะ”ราฟาเอล เถียง ‘จ้าว’

“ข้าไม่เถียงว่าประเทศเราเจริญเร็ว แต่การที่มีขุมน้ำมันมากได้สร้างความร่ำรวยให้เรานั้น ไม่ได้หมายความว่าน้ำมันของเราจะขุดไม่รู้จักหมด”

องครักษ์ก้มหน้า เพราะเถียงไม่ทัน และเถียงสู้ไม่เคยได้

“น้ำมันแพงกว่าข้าว แต่สักวันหนึ่งถ้าต้องให้เลือก เจ้าคงไม่กินน้ำมันแทนข้าวใช่มั้ย หรือยากกินแทนเสียตั้งแต่วันนี้”

“ประเทศนั้นมีการส่งข้าวติดอันดับต้นของโลก แต่ เอ่อกระหม่อมยังได้ยินเรื่องการครองชีพของชาวนายังยากจน”

“นั่นคือเรื่องที่เราสนใจอยู่ก่อนแล้วว่าการบริหารของเขาเป็นอย่างไรจึงทำให้ผู้ที่ปลูกข้าว ต้องซื้อข้าว และยิ่งสนใจเมื่อ...”

“เมื่อไหร่พะย่ะค่ะ”

“ช่างข้าเถอะ ไปหาหนังสือมาให้ข้าให้ได้ก่อนเปิดเรียนต้นสัปดาห์นี้”

“เอ่อ เรื่องทางยุโรปไม่น่าสนใจหรือกระหม่อม”

“ข้ารู้มากพอแล้ว”

“หมายถึงเรื่องเอ่อ ที่เจ้าชายนอกคอกเขาชอบทำกันน่ะพะย่ะค่ะ”

“เจ้าพวกสิ้นคิดนะสิที่ได้หลงระเริงทำอย่างน่าละอาย ศาสนาบ่งบอกอยู่ว่าการพนันและการเสพของเมา เป็นของต้องห้าม แต่พวกนั้นแอบทำแล้วยังเรียกตัวเองว่าเป็นผู้รับใช้พระเจ้า”

ราฟาเอลก้มศีรษะ พร้อมพาดแขนเฉียงบ่าทำความเคารพสูงสุด

                “สมควรแล้วที่จะทรงเป็นผู้นำชาติอาหรับอย่างชาติเราสู่ความเจริญอย่างไร้ตำหนิใดๆ ข้าบาทจะรีบไปหานาข้าวมาให้เดี๋ยวนี้พะย่ะค่ะ”

“ราฟาเอล เจ้าพูดชอบกล”

“อีกหน่อยจะได้มีนาข้าวบนบ่อน้ำมันของเราไงพะย่ะค่ะ”

“ทำพูดดีไปเถอะราฟาเอล เจ้ารู้หรือเปล่าว่า ท่านพ่อของข้ามีความคิดจะทำพื้นที่สีเขียวบนทะเลทรายบ้านเราให้มากขึ้น ท่านได้นำนโยบายของประเทศแห้งแล้วทางอเมริกาเหนือ ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ไร้ฝน แต่เมื่อมีป่าโอ๊กของชายผู้ไม่ยอมแพ้ เขาได้พยายามปลูกโอ๊กทั้งชีวิตตลอดห้าสิบปี ประชาชนแถบใกล้เคียงได้เห็นความมุ่งมั่นของเขาจึงได้ร่วมมือกัน จนสามารถสร้างผืนป่าด้วยน้ำมือคน บัดนี้ภูมิประเทศของเขามีฝนตกมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเจ้ารู้หรือเปล่า”

ราฟาเอลนิ่งอึ้งไปนานก่อนจะทูลลาไปจัดหาของตามที่เจ้าชายฮูเซนต้องการ

ส่วนท่านเจ้าชายฮูเซนนึกเบาแสนเบาในพระทัยว่า

“และฉันอยากคำพูดทุกคำของเด็กคนนั้น หมายความว่าอะไร”

ราฟาเอลได้แต่ตามหาซื้อหนังสือ ซึ่งหายากมาก แต่ก็หามาจนได้ ก่อนนำถวายด้วยความประหลาดใจ

ในเวลาที่คร่ำเคร่ง เจ้าชายสามารถค้นหาความหมายคำว่า ฮุบ นำมาเปรียบเทียบเทียบ และสร้างรูปประโยคได้ด้วยพระอัจฉริยะปราดเปรื่อง ฮุบ แปลว่าการหุบปากงับของกินอย่างรวดเร็ว คำว่าฮุบดิน ฮุบโคลน ฮุบทราย จึงแปลได้ว่า กินไม่เลือกก็เป็นได้

เมื่อสามารถสร้างคำตอบด้วยพระองค์เองแล้ว ท่านรู้สึกว่าโดนหมิ่นประมาทไม่ใช่น้อย เพราะท่านเป็นจ้าว แต่โดนสาวปากจัดให้ท่าน อีท มัด แอนด์ ไมเออ (Eat mud and mire)ยิ่งทำให้พระองค์สนพระทัยอย่างไม่รู้ลืม!

 

ไฮสคูลกุลสตรีอังกฤษ

มัธวาสาวผมยาวสลวย สีน้ำตาลอ่อน ประกายสีทองตามธรรมชาติ  ดวงตากลมโตสีขนตายาวเป็นแพหนาล้อมกรอบดวงตากลมโตสีเขียวมรกตเป็นประกาย คิ้วเรียวสีเข้มไม่ต้องตัดแต่งเลย จมูกโด่งสวย ริมฝีปากเต็มอิ่มระเรื่อแดง กำลังเดินเคียงข้างไปกับสาวร่างอวบสวมชุดยาวคลุมมิดชิด ศีรษะคลุมผ้าฮิญาบ เผยให้เห็นเพียงดวงตา ทั้งสองกำลังเขากลุ่มเพื่อปรึกษาการเรียนรู้นอกตำรา

หญิงสาวไม่รู้เลยว่าตนเองได้ถูกจับตามองจากชายร่างสูง สวมสูทสีน้ำเงิน ใบหน้าคมคายหล่อเหลา

อย่างไร้ที่ติ

   “ท่านอธิการพร้อมพบแล้วพะย่ะค่ะ ดูเหมือนนางยินดีมากที่ทราบว่าพระองค์จะบำรุงห้องสมุดให้ใหม่”

ยาชิด องครักษ์คนสนิทเข้ามาทูล เจ้าชายซัลมาน

 หากประโยคที่ออกจากปากเจ้าชายซัลมานคือ

   “ตามสืบประวัติเพื่อนของเจ้าหญิงดารีให้ฉันรู้ด้วยยาชิด”

   “ใครนะ”

   “หญิงที่ชื่อมัธวา”

   “เอ่อ...พะย่ะค่ะ แล้วเรื่องพระกรณียกิจต่อจากนั้น”

   “ข้าทำตามรับสั่งท่านพ่อ เพราะฮูเซ็นต้องฝึกซ้อมใหญ่”เจ้าชายซัลมานกระแทกเสียงอย่างไม่ค่อยพอใจกับการเอาดีได้ของพี่ชายต่างมารดา ซึ่งไม่ว่าทำอะไรดูดีไปซะหมด จบจากนายร้อยจะไปต่อปริญญารัฐศาสตร์การปกครองเพื่อเตรียมเป็นประมุขในอนาคต

   เหอะ...อย่าให้พลาดก็แล้วกันฮูเซน ข้าไม่ให้เจ้าบินสูงกว่าข้านานนักหรอก!!

                                       ......................

   เจ้าหญิงดารีได้รับการติดต่อจากห้องผู้ปกครองให้ไปรับโทรศัพท์สายนอก เจ้าหญิงรีบไปรับสาย ซึ่งมาจากท่านพี่ของเจ้าหญิงเอง หลังสนทนาครู่หนึ่งเจ้าหญิงวางสาย เอ่ยขอบคุณอาจารย์ และแอบยิ้มในสีหน้า เดินลิ่วไปหามัธวาซึ่งกำลังเล่นฟรุตอยู่กับเพื่อนนักเรียนคนอื่นมัธวาเป่าเครื่องดนตรีชนิดนี้ได้ไพเราะและสนุกสนาน ขนาดเพื่อนนักเรียนหญิงพากันเต้นรำตามจังหวะได้

   เจ้าหญิงส่งสัญญาณว่ามีเรื่องสำคัญจะพูดด้วย มัธวาจึงพยักหน้ารับก่อนเดินมาหา เจ้าหญิงฉุดข้อมืออีกฝ่ายไปห่างจากคนอื่น เมื่อยู่ตามลำพังแล้วจึงได้เอ่ยปากบอก

   “อีกสองอาทิตย์นี้ ฉันได้รับอนุญาตให้ไปงานสำเร็จการศึกษาของท่านพี่ฮูซัยน์ เธอจะไปด้วยมั้ย”

   “แค่ฟังเรื่องที่เธอพูดถึงท่านพี่ของเธอฉันก็เห็นภาพเจ้าชายขี่ม้าขาวแล้วล่ะ ไม่เอาหรอกไม่อยากไป”

   “ท่านเป็นตัวแทนนักเรียนนายร้อยกล่าวคำปฏิญาณด้วยนะ ซึ่งวันนั้นท่านจะขี่ม้าโบกธงประจำโรงเรียน และแสดงความชำนาญการควบม้าอาหรับด้วยล่ะ เบบี้ เธอไปให้ได้นะ”

   “แหม เธอนี่ทำไมต้องลากฉันไปด้วยนะ”

   “น่านะ ท่านพี่ฉันเขาสั่ง เอ่อ ฉันไม่อยากไปนั่งอยู่คนเดียว”

   “อ้าว งานนี้ครอบครัวเธอไม่ได้มาหรือ”

   “ท่านพ่อท่านแม่ต้องมาอยู่แล้ว แต่ท่านนั่งชั้นหนึ่ง ส่วนฉันไปอีกฐานะนักเรียน ฉันไม่อยากนั่งคนเดียวนี่นา”

   มัธวาทำหน้าเมื่อย แต่ในใจตื่นเต้นยิ่งนัก เธอคิดถึงแต่ท่านพี่ของเพื่อนสาวมานานนับแต่พบกันเมื่อคืนที่แอบหนีเที่ยว และตลอดมาได้ฟังเรื่องเล่าจากเจ้าหญิงจนดูเหมือนเธอได้ใกล้ชิดกับ เจ้าชายท่านนั้น...เจ้าชายที่ดีเหมือนเจ้าชายในฝันก็ไม่แผกกัน

   ในเวลาต่อมา มัธวาได้รับสิทธ์พิเศษ ให้เข้าชมในงานสำเร็จการศึกษาของนักเรียนนายร้อยฯ มัธวานั่งคู่กับดารี เธอได้เห็นความสง่างามของเจ้าชายบนอาชาสีขาว แม้ไม่เห็นหน้าชัดเจน แต่ความประทับใจอยู่ในความทรงจำอย่างติดตราตรึงใจ

...เจ้าชายคงไม่รู้ว่าความหวังที่จะสร้างความประทับใจให้กับหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง ท่านสามารถทำได้จริงๆ

แต่ท่านถูกบางอย่างดึงความรู้สึกดีๆให้ห่างจากมัธวาไปอย่างน่าเสียดายด้วยคำทูลของยอดองครักษ์

 “หญิงนั้นได้รับการส่งเสียเลี้ยงดูจากเจ้าชายซัลมานมานานแล้วพะย่ะค่ะ”

ราฟาเอลล่าจบ เขาไม่รู้เลยว่าคำพูดของเขาได้กระชากใจเจ้าชายให้ดำดิ่งสู่ห้วงเหวแห่งความผิดหวังอย่างรุนแรง

...มิน่าเล่า ดารีจึงได้บอกพี่ชายว่า... เบบี้ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเลยเวลาที่เล่าเรื่องดีๆของท่านพี่ให้ฟัง บางทีเธอเป่าฟรุตกลบเสียอย่างนั้น”

เพราะเธอไม่มีที่ว่างในหัวใจให้กับชายอื่นแล้ว นอกจากน้องชายต่างมารดาของเจ้าชายฮูเซน...เจ้าชายซัลมานคู่แข่งที่ทำตัวเงียบมาโดยตลอด พวกเขาแอบรู้จักกันโดยที่ไม่ให้ใครรู้เลย แม้แต่ดารีเพื่อนสนิท

ผิดหวังเหลือเกิน เจ็บอย่างที่ไม่คิดเลยว่าจะมีวันรักษาให้หายได้!


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (68 รายการ)

www.batorastore.com © 2024