กามเทพจอมป่วน + กามเทพแกล้งหยอก (สุชีรา)
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )
เนื้อหาบางส่วน
1…
“ทำไมต้องไปด้วยคะวิน เรียนที่บ้านเราก็ได้นี่คะ”
พาสินีต่อว่าชายหนุ่มที่นั่งเคียงข้างด้วยความน้อยใจ รุ่งรวินมารับหล่อนที่บ้านเพื่อออกไปทานอหารมื้อสุดท้ายสำหรับวันนี้เพราะคืนนี้เขาต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
“คุณพ่อผมให้ไปเรียนที่โน่น คุณอาติดต่อที่เรียนไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับสิ สิตามผมไปนะครับเราจะได้ไปอยู่ด้วยกันที่โน่น”
“สิอยากไปค่ะแต่คุณแม่คงไม่ยอมเพราะสิเป็นลูกคนเล็กท่านเป็นห่วง”
“ถ้าอย่างนั้นคุณเรียนต่อที่นี่ ช่วงซัมเมอร์ผมจะรีบกลับมาหา”
ชายหนุ่มยิ้มเมื่อหญิงสาวหน้าเศร้า เขากับหล่อนเป็นคู่รักที่เพื่อนๆหลายคนอิจฉาเพราะตั้งแต่เรียนปีหนึ่งถึงปีสี่ก็ยังเหมือนเดิม หลังจบปริญญาตรีรุ่งรวินต้องเดินทางไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศแต่พาสินีนั้นมารดาไม่ยอมให้ไปไหนไกลตาท่านหล่อนจึงต้องเรียนที่เมืองไทย
ค่ำคืนนั้นหล่อนจำได้ว่าหลังจากทานอาหารเสร็จรุ่งรวินพาหล่อนไปเดินซื้อของ เขาซื้อแหวนเพชรเม็ดเล็กน่ารักให้หล่อน
“สิครับ ผมให้คุณ ไว้ถึงวันหมั้นจริงๆผมจะเปลี่ยนแหวนวงนี้ให้นะครับ”
“ขอบคุณค่ะวิน สิรักคุณจังเลยค่ะ”
“ผมก็รักคุณ เรียนจบปุ๊บเราจะแต่งงานกันทันที นะครับ”
“ค่ะ”
คำมั่นสัญญาเป็นไปด้วยรอยยิ้มทั้งสองฝ่าย แต่กามเทพก็กลั่นแกล้งทั้งคู่จนได้หรืออาจเป็นเพราะเขากับหล่อนไม่ใช่เนื้อคู่แท้จริงของกันและกัน ทำให้วรรณพรมารดาของพาสินีต้องมีอันต้องใช้เงินก้อนโตเพื่อรักษาบ้านของหล่อนไว้
“คุณวรรณครับ ผมให้เวลาคุณสามเดือนสำหรับเงินที่กู้ยืมไป คุณต้องนำเงินต้นพร้อมดอกมาคืนผมทั้งหมดไม่เช่นนั้นผมคงต้องยึดบ้านพร้อมที่ดินของคุณ ผมลาละครับ”
“เดี๋ยวก่อนสิคะคุณสิทธา”
“มีอะไรจะพูดหรือครับ”
“คือ..มีทางอื่นอีกมั้ยคะที่ไม่ต้องยึดบ้าน”
วรรณพรเสียงเบาเพราะหล่อนรักบ้านหลังนี้มาก หล่อนคงทำใจลำบากหากต้องสูญเสียมันไป สามีของหล่อนจากไปด้วยโรคร้าย หล่อนต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกสามคนจนกระทั่งเรียนจบแต่เพราะเงินที่ขัดสนหล่อนจึงต้องหยิบยืมและยืมเพลินด้วยความมีน้ำใจของสิทธา เขาเป็นเพื่อนรักของสามีที่ร่ำรวยเป็นนักธุรกิจที่บริหารงานและเงินได้เก่งมาก เขายื่นมือมาช่วยครอบครัวของหล่อนเพราะเห็นแก่เพื่อนเก่าที่จากไป
“มีครับ แต่คุณวรรณจะยอมมั้ยล่ะครับ”
“อะไรคะ ดิฉันยอมค่ะ”
หญิงวัยกลางคนยิ้มออก นอกเหนือเสียจากการยึดบ้านหล่อนยอมทำตามข้อเสนอของสิทธาทุกอย่าง ชายวัยห้าสิบยิ้มแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ผมต้องการสู่ขอหนูพาสินีให้ลูกชายผม ถ้าทางคุณตกลง หนี้สินทั้งหมดผมยกให้แล้วก็จะเพิ่มค่าสินสอดให้อีก”
“จริงเหรอคะ”
วรรณพรตาโตด้วยความดีใจ เรื่องแค่นี้ทำไมหล่อนจะทำไม่ได้ พาสินีเป็นลูกสาวที่เชื่อฟังหล่อนตลอดและถ้าหล่อนจะหาคู่ครองที่ดีให้ลูกสาว ลูกคงไม่ขัดข้องอยู่แล้ว
“จริงสิครับ ลูกชายผมเรียนจบพอดีผมจะให้แต่งงานแล้วก็ให้ไปเรียนต่อต่างประเทศพร้อมลูกสะใภ้”
“ถ้าอย่างนั้นได้เลยค่ะ คุณสิทธาจัดขันหมากมาได้เลยค่ะ ดิฉันจะหาฤกษ์ให้เร็วที่สุดค่ะ”
“ดีครับ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้คุณไปที่บ้านผมแล้วไปหาฤกษ์แต่งงานลูกของเรา”
“ค่ะ”
วรรณพรยิ้มรื่นด้วยความดีใจ หล่อนไม่ต้องเสียบ้านและยังปลดหนี้แถมได้เงินก้อนโตใช้อีก ลูกสาวคนเล็กของหล่อนก็พลอยสบายได้เป็นลูกสะใภ้เศรษฐี อะไรจะโชคดีเช่นนี้ หล่อนไม่คิดถึงจิตใจของลูกสาวแม้แต่นิดเดียว
“อะไรนะคะคุณแม่ คุณแม่จะให้สิแต่งงานอย่างนั้นเหรอคะ”
พาสินีนิ่งอึ้งไปชั่วขณะกับข่าวที่มารดาบอก
“ใช่ลูก คุณสิทธาเขามาสู่ขอลูกสาวของแม่ให้ลูกชายเขาจ้ะแม่ตกลงเรียบร้อยแล้วนะ”
“ไม่นะคะคุณแม่ สิไม่ได้รักเขา สิรักวินค่ะสิจะแต่งงานกับวินเท่านั้น”
คำตอบของลูกสาวทำให้วรรณพรโกรธขึ้นมาทันที
“หยุดเพ้อเจ้อได้แล้วยัยสิ แม่ไม่ยอมให้แกแต่งงานกับหมอนั่นหรอก รวยก็จริงแต่ไม่เท่าคุณสิทธา หนอย.ทำเป็นไปเรียนต่อต่างประเทศ อวดร่ำอวดรวยทำไมไม่ให้แกไปด้วยล่ะส่งเรียนด้วยสิถ้ารักกันจริง”
“คุณแม่คะ”
“แกไม่ต้องพูดเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของคุณมนัสได้แล้ว”
“ไม่ค่ะ สิจะไม่แต่งงานกับคุณมนัส”
พาสินีเสียงดังหล่อนไม่ยอมทำตามสิ่งที่มารดาต้องการ
“แต่แกต้องแต่งถ้าแกไม่อยากเห็นแม่ต้องออกไปเช่าบ้านอยู่ ไม่อยากเห็นแม่ของแกต้องกลายเป็นคนล้มละลาย”
หญิงสาวถึงกับนิ่งงันไปเป็นรอบที่สอง วรรณพรตัดสินใจเล่าเรื่องหนี้สินให้ลูกๆ ฟัง พี่ชายสองคนของพาสินีก็ไม่มีเงินมากพอจะไถ่ถอนบ้านให้มารดาได้เพราะเขาต้องเลี้ยงดูครอบครัว ทั้งคู่แต่งงานแยกออกไปอยู่กับครอบครัวตัวเองนานแล้ว
“ยัยสิ ช่วยแม่นะ พี่สองคนไม่มีปัญญาหาเงินเป็นสิบๆ ล้านมาช่วยแม่หรอก แกคนเดียวเท่านั้นที่ช่วยได้”
พี่ชายคนโตเอ่ยขึ้นทั้งที่สงสารน้องสาวแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากคำพูดเหล่านี้เท่านั้น พาสินีนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่สุดท้ายหล่อนก็พยักหน้าทั้งน้ำตา
“ค่ะ สิจะช่วยใช้หนี้ให้คุณแม่”
หล่อนร้องไห้เดินขึ้นห้องนอนไปเงียบๆ หล่อนจะบอกรุ่งรวิน อย่างไร เขาจะเชื่อหล่อนมั้ย หล่อนนอนร้องไห้จนกระทั่งหลับไป
ชุติเดชถึงกับงงเมื่อเห็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ เขาหยิบมาอ่านรายละเอียดอย่างรวดเร็วแล้วถอนหายใจหนักหน่วง
“ไอ้วินไปเรียนได้แค่สองเดือน ยัยสิก็แต่งงานกับลูกชายเศรษฐีร้อยล้านซะแล้ว นี่เหรอวะรักจริง”
เขาโยนหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องทำงาน เขาเป็นเพื่อนรักกับรุ่งรวินแต่ไม่คิดไปเรียนต่อต่างประเทศเช่นเดียวกับเพื่อน เขาเข้ามาทำงานในบริษัทเพื่อนบิดาได้สามเดือนการทำงานเป็นไปด้วยดี ที่ไม่ดีในตอนนี้คืออารมณ์ของเขา
“วิน แกเปิดเน็ตดูข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์บ้านเรานะ ฉันโทร.บอกแกแค่นี้แหละ แล้วก็อย่าเสียใจคิดว่าแกกับหล่อนไม่ใช่เนื้อคู่กัน เข้าใจนะเพื่อน ฉันรักแกไม่อยากให้แกเสียอนาคตเพราะผู้หญิง”
“อะไรของแกวะเดช”
“เออน่ะ แกเปิดดูเอาเอง แค่นี้แหละ”
ชุติเดชวางหูโทรศัพท์ทันทีเขาไม่อยากเล่าให้เพื่อนฟัง อยากให้เพื่อนเห็นข่าว อ่านข่าวด้วยตัวเอง รุ่งรวินเปิดอินเตอร์เน็ตตามที่เพื่อนรักบอก เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองกับภาพที่ปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์ไทย พาสินีคนรักของเขาแต่งชุดเจ้าสาวสวยพริ้ง หล่อนควงคู่ชายหนุ่มในชุดเจ้าบ่าวเดินยิ้มร่า อะไรกันนี่ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ เขาจากหล่อนมาเพียงแค่สองเดือนเท่านั้น
“สิ คุณหลอกผมให้รักคุณอย่างนั้นเหรอ”
เขาพึมพำกับตัวเอง ไม่มีกระจิตกระใจที่จะอ่านข่าวต่อไปได้ เขานั่งนิ่งนานเกือบสิบนาทีจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอน
“ตาวินจะไปไหนลูกมาทานข้าวก่อนเร็ว”
อังคนาหันมาเห็นหลานชายพอดี วาณิชนั่งอยู่ด้วยหันมามองแล้วยิ้ม
“ขอบคุณครับคุณอา ขอผมไปเดินเล่นสักครู่นะครับ”
ท่าทางเนือยๆ ของหลานชายทำให้อาเขยและอาสาวหันมามองหน้ากัน
“คุณคะ ตาวินเรียนหนักไปรึเปล่าคะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวผมจะถามยัยยาดู”
“หลานสาวคุณน่ะเหรอคะ”
“ครับ ยัยยาบอกว่าเรียนที่เดียวกับตาวิน”
“ดีค่ะ แล้วยัยยาจะมาบ้านเราวันนี้หรือเปล่า อังจะได้เตรียมอาหารไว้รอ”
“มาครับ คงอีกสักครู่”
วาณิชยิ้มกับภรรยา เขาตั้งใจให้ปุษยาหลานสาวของเขารู้จักสนิทสนมกับรุ่งรวินหลานสาวของอังคนาเพราะบิดาของรุ่งรวินเพิ่งโทรศัพท์มาเล่าเรื่องทางเมืองไทยให้ฟังโดยเฉพาะเรื่องคู่รักของรุ่งรวิน
ปุษยาเดินยิ้มเข้ามาในบ้านวาณิช หล่อนยกมือไหว้อาชายและอาสะใภ้
“มีอะไรทานบ้างคะคุณอา”
“มีเยอะเลยจ้ะ ก่อนอื่นยาไปตามตาวินมาทานข้าวพร้อมกันสิลูก”
“ไม่อยู่ในบ้านเหรอคะ”
“โน่นอยู่หลังบ้านโน่น”
“ค่ะ”
ปุษยาเดินยิ้มไปทางสวนหย่อมหลังบ้าน หล่อนรู้จักรุ่งรวินเพราะเพื่อนแนะนำว่ามาจากเมืองไทยและช่างบังเอิญเรียนที่เดียวกันและเป็นญาติของอาสะใภ้หล่อนจึงดูสนิทกับเขามากกว่าเพื่อนหนุ่มที่มาจากเมืองไทยหลายๆ คน
หล่อนมาอยู่กับมารดาเลี้ยงที่เป็นชาวต่างชาติตั้งแต่เรียนม.ปลายกระทั่งเรียนจบปริญญาตรีและต่อปริญญาโท บิดาทำงานที่นี่หล่อนจึงอยู่ที่นี่ทั้งที่อยากกลับเมืองไทยและตั้งใจว่าจะไปทำงานที่เมืองไทยอยู่เมืองไทยหลังจากที่เรียนจบ
“วิน ทำอะไรจ๊ะคิดถึงแฟนเหรอ คุณอาให้มาตามไปทานข้าว”
รุ่งรวินเหลียวมามองปุษยาแล้วยิ้มบางๆ
“ใช่ ฉันคิดถึงแฟน แต่แฟนฉันแต่งงานแล้วเมื่อวานนี้เอง”
“หา..เปลี่ยนใจเหรอ”
“คงงั้น หล่อนทรยศความรักของฉัน ผู้หญิงใจง่ายอย่างนี้ทุกคนรึเปล่ายา”
“ไม่เกี่ยวกับฉันนะวิน”
หล่อนยกมือโบกไปมาแล้วจูงมือเขาเดินเข้าบ้าน ท่าทีสนิทสนมของสองหนุ่มสาวทำให้อังคนาหันมายิ้มกับสามีแต่ทั้งสองเข้าใจผิด รุ่งรวินไม่ได้คิดกับปุษยาฉันชู้สาวและปุษยาเองก็เช่นกันหล่อนคิดว่ารุ่งรวินเป็นพี่และเพื่อนเท่านั้น
“วิน ตักกับข้าวให้ยัยยาหน่อยสิลูก”
อังคนาเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มรื่นรมย์ รุ่งรวินมองหน้าอาสาวแล้วหันมาจ้องหน้าปุษยา
******
รายละเอียด
จากใจผู้เขียน
เรื่องกามเทพจอมป่วนและกามเทพแกล้งหยอกที่เขียนขึ้นมานี้เป็นเหมือนความรักของคู่รักหลายคู่ที่อาจพบรักแบบไม่อยากจะรักจริงๆ เลยแต่ก็หนีคนที่เกลียดหน้าไม่พ้นเพราะทุกความรักถูกกำหนดไว้แล้ว กามเทพจัดให้เต็มๆ ทุกคนแล้วแต่ว่าใครจะรักษาความรักนั้นไว้ได้นานแค่ไหน
กามเทพจอมป่วน
เขาว่าคู่กันแล้วไม่แคล้วกันไปได้ แต่ทำไมเขากับคนรัก
จึงต้องพลัดพรากจากกัน แต่คนที่ไม่คิดจะรักกลับต้องมาเห็น
หน้าทุกวันๆ ก็ไม่รู้สิ เฮ้อ..
ด้วยรัก
สุชีรา