กามเทพจอมป่วน + กามเทพแกล้งหยอก (สุชีรา)

กามเทพจอมป่วน + กามเทพแกล้งหยอก (สุชีรา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: กามเทพจอมป่วน
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 37.50 บาท
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

1…

                “ทำไมต้องไปด้วยคะวิน เรียนที่บ้านเราก็ได้นี่คะ”

                พาสินีต่อว่าชายหนุ่มที่นั่งเคียงข้างด้วยความน้อยใจ รุ่งรวินมารับหล่อนที่บ้านเพื่อออกไปทานอหารมื้อสุดท้ายสำหรับวันนี้เพราะคืนนี้เขาต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ

                “คุณพ่อผมให้ไปเรียนที่โน่น คุณอาติดต่อที่เรียนไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับสิ สิตามผมไปนะครับเราจะได้ไปอยู่ด้วยกันที่โน่น”

                “สิอยากไปค่ะแต่คุณแม่คงไม่ยอมเพราะสิเป็นลูกคนเล็กท่านเป็นห่วง”

                “ถ้าอย่างนั้นคุณเรียนต่อที่นี่ ช่วงซัมเมอร์ผมจะรีบกลับมาหา”

                ชายหนุ่มยิ้มเมื่อหญิงสาวหน้าเศร้า เขากับหล่อนเป็นคู่รักที่เพื่อนๆหลายคนอิจฉาเพราะตั้งแต่เรียนปีหนึ่งถึงปีสี่ก็ยังเหมือนเดิม หลังจบปริญญาตรีรุ่งรวินต้องเดินทางไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศแต่พาสินีนั้นมารดาไม่ยอมให้ไปไหนไกลตาท่านหล่อนจึงต้องเรียนที่เมืองไทย

                ค่ำคืนนั้นหล่อนจำได้ว่าหลังจากทานอาหารเสร็จรุ่งรวินพาหล่อนไปเดินซื้อของ เขาซื้อแหวนเพชรเม็ดเล็กน่ารักให้หล่อน

                “สิครับ ผมให้คุณ ไว้ถึงวันหมั้นจริงๆผมจะเปลี่ยนแหวนวงนี้ให้นะครับ”

                “ขอบคุณค่ะวิน สิรักคุณจังเลยค่ะ”

                “ผมก็รักคุณ เรียนจบปุ๊บเราจะแต่งงานกันทันที นะครับ”

                “ค่ะ”

                คำมั่นสัญญาเป็นไปด้วยรอยยิ้มทั้งสองฝ่าย แต่กามเทพก็กลั่นแกล้งทั้งคู่จนได้หรืออาจเป็นเพราะเขากับหล่อนไม่ใช่เนื้อคู่แท้จริงของกันและกัน ทำให้วรรณพรมารดาของพาสินีต้องมีอันต้องใช้เงินก้อนโตเพื่อรักษาบ้านของหล่อนไว้

                “คุณวรรณครับ ผมให้เวลาคุณสามเดือนสำหรับเงินที่กู้ยืมไป คุณต้องนำเงินต้นพร้อมดอกมาคืนผมทั้งหมดไม่เช่นนั้นผมคงต้องยึดบ้านพร้อมที่ดินของคุณ ผมลาละครับ”

                “เดี๋ยวก่อนสิคะคุณสิทธา”

                “มีอะไรจะพูดหรือครับ”

                “คือ..มีทางอื่นอีกมั้ยคะที่ไม่ต้องยึดบ้าน”

                วรรณพรเสียงเบาเพราะหล่อนรักบ้านหลังนี้มาก หล่อนคงทำใจลำบากหากต้องสูญเสียมันไป สามีของหล่อนจากไปด้วยโรคร้าย หล่อนต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกสามคนจนกระทั่งเรียนจบแต่เพราะเงินที่ขัดสนหล่อนจึงต้องหยิบยืมและยืมเพลินด้วยความมีน้ำใจของสิทธา เขาเป็นเพื่อนรักของสามีที่ร่ำรวยเป็นนักธุรกิจที่บริหารงานและเงินได้เก่งมาก เขายื่นมือมาช่วยครอบครัวของหล่อนเพราะเห็นแก่เพื่อนเก่าที่จากไป

                “มีครับ แต่คุณวรรณจะยอมมั้ยล่ะครับ”

                “อะไรคะ ดิฉันยอมค่ะ”

                หญิงวัยกลางคนยิ้มออก นอกเหนือเสียจากการยึดบ้านหล่อนยอมทำตามข้อเสนอของสิทธาทุกอย่าง ชายวัยห้าสิบยิ้มแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะเอ่ยขึ้น

                “ผมต้องการสู่ขอหนูพาสินีให้ลูกชายผม ถ้าทางคุณตกลง หนี้สินทั้งหมดผมยกให้แล้วก็จะเพิ่มค่าสินสอดให้อีก”

                “จริงเหรอคะ”

                วรรณพรตาโตด้วยความดีใจ เรื่องแค่นี้ทำไมหล่อนจะทำไม่ได้ พาสินีเป็นลูกสาวที่เชื่อฟังหล่อนตลอดและถ้าหล่อนจะหาคู่ครองที่ดีให้ลูกสาว ลูกคงไม่ขัดข้องอยู่แล้ว

                “จริงสิครับ ลูกชายผมเรียนจบพอดีผมจะให้แต่งงานแล้วก็ให้ไปเรียนต่อต่างประเทศพร้อมลูกสะใภ้”

                “ถ้าอย่างนั้นได้เลยค่ะ คุณสิทธาจัดขันหมากมาได้เลยค่ะ ดิฉันจะหาฤกษ์ให้เร็วที่สุดค่ะ”

                “ดีครับ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้คุณไปที่บ้านผมแล้วไปหาฤกษ์แต่งงานลูกของเรา”

                “ค่ะ”

                วรรณพรยิ้มรื่นด้วยความดีใจ หล่อนไม่ต้องเสียบ้านและยังปลดหนี้แถมได้เงินก้อนโตใช้อีก ลูกสาวคนเล็กของหล่อนก็พลอยสบายได้เป็นลูกสะใภ้เศรษฐี อะไรจะโชคดีเช่นนี้ หล่อนไม่คิดถึงจิตใจของลูกสาวแม้แต่นิดเดียว

                “อะไรนะคะคุณแม่ คุณแม่จะให้สิแต่งงานอย่างนั้นเหรอคะ”

                พาสินีนิ่งอึ้งไปชั่วขณะกับข่าวที่มารดาบอก

                “ใช่ลูก คุณสิทธาเขามาสู่ขอลูกสาวของแม่ให้ลูกชายเขาจ้ะแม่ตกลงเรียบร้อยแล้วนะ”

                “ไม่นะคะคุณแม่ สิไม่ได้รักเขา สิรักวินค่ะสิจะแต่งงานกับวินเท่านั้น”

                คำตอบของลูกสาวทำให้วรรณพรโกรธขึ้นมาทันที

                “หยุดเพ้อเจ้อได้แล้วยัยสิ แม่ไม่ยอมให้แกแต่งงานกับหมอนั่นหรอก รวยก็จริงแต่ไม่เท่าคุณสิทธา หนอย.ทำเป็นไปเรียนต่อต่างประเทศ อวดร่ำอวดรวยทำไมไม่ให้แกไปด้วยล่ะส่งเรียนด้วยสิถ้ารักกันจริง”

                “คุณแม่คะ”

                “แกไม่ต้องพูดเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของคุณมนัสได้แล้ว”

                “ไม่ค่ะ สิจะไม่แต่งงานกับคุณมนัส”

                พาสินีเสียงดังหล่อนไม่ยอมทำตามสิ่งที่มารดาต้องการ

                “แต่แกต้องแต่งถ้าแกไม่อยากเห็นแม่ต้องออกไปเช่าบ้านอยู่ ไม่อยากเห็นแม่ของแกต้องกลายเป็นคนล้มละลาย”

                หญิงสาวถึงกับนิ่งงันไปเป็นรอบที่สอง วรรณพรตัดสินใจเล่าเรื่องหนี้สินให้ลูกๆ ฟัง พี่ชายสองคนของพาสินีก็ไม่มีเงินมากพอจะไถ่ถอนบ้านให้มารดาได้เพราะเขาต้องเลี้ยงดูครอบครัว ทั้งคู่แต่งงานแยกออกไปอยู่กับครอบครัวตัวเองนานแล้ว

                “ยัยสิ ช่วยแม่นะ พี่สองคนไม่มีปัญญาหาเงินเป็นสิบๆ ล้านมาช่วยแม่หรอก แกคนเดียวเท่านั้นที่ช่วยได้”

                พี่ชายคนโตเอ่ยขึ้นทั้งที่สงสารน้องสาวแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากคำพูดเหล่านี้เท่านั้น พาสินีนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่สุดท้ายหล่อนก็พยักหน้าทั้งน้ำตา

                “ค่ะ สิจะช่วยใช้หนี้ให้คุณแม่”

                หล่อนร้องไห้เดินขึ้นห้องนอนไปเงียบๆ หล่อนจะบอกรุ่งรวิน อย่างไร เขาจะเชื่อหล่อนมั้ย หล่อนนอนร้องไห้จนกระทั่งหลับไป

                ชุติเดชถึงกับงงเมื่อเห็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ เขาหยิบมาอ่านรายละเอียดอย่างรวดเร็วแล้วถอนหายใจหนักหน่วง

                “ไอ้วินไปเรียนได้แค่สองเดือน ยัยสิก็แต่งงานกับลูกชายเศรษฐีร้อยล้านซะแล้ว นี่เหรอวะรักจริง”

                เขาโยนหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องทำงาน เขาเป็นเพื่อนรักกับรุ่งรวินแต่ไม่คิดไปเรียนต่อต่างประเทศเช่นเดียวกับเพื่อน เขาเข้ามาทำงานในบริษัทเพื่อนบิดาได้สามเดือนการทำงานเป็นไปด้วยดี ที่ไม่ดีในตอนนี้คืออารมณ์ของเขา

                “วิน แกเปิดเน็ตดูข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์บ้านเรานะ ฉันโทร.บอกแกแค่นี้แหละ แล้วก็อย่าเสียใจคิดว่าแกกับหล่อนไม่ใช่เนื้อคู่กัน เข้าใจนะเพื่อน ฉันรักแกไม่อยากให้แกเสียอนาคตเพราะผู้หญิง”

                “อะไรของแกวะเดช”

                “เออน่ะ แกเปิดดูเอาเอง แค่นี้แหละ”

                ชุติเดชวางหูโทรศัพท์ทันทีเขาไม่อยากเล่าให้เพื่อนฟัง อยากให้เพื่อนเห็นข่าว อ่านข่าวด้วยตัวเอง รุ่งรวินเปิดอินเตอร์เน็ตตามที่เพื่อนรักบอก เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองกับภาพที่ปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์ไทย พาสินีคนรักของเขาแต่งชุดเจ้าสาวสวยพริ้ง หล่อนควงคู่ชายหนุ่มในชุดเจ้าบ่าวเดินยิ้มร่า อะไรกันนี่ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ เขาจากหล่อนมาเพียงแค่สองเดือนเท่านั้น

                “สิ คุณหลอกผมให้รักคุณอย่างนั้นเหรอ”

                เขาพึมพำกับตัวเอง ไม่มีกระจิตกระใจที่จะอ่านข่าวต่อไปได้ เขานั่งนิ่งนานเกือบสิบนาทีจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอน

                “ตาวินจะไปไหนลูกมาทานข้าวก่อนเร็ว”

                อังคนาหันมาเห็นหลานชายพอดี วาณิชนั่งอยู่ด้วยหันมามองแล้วยิ้ม

                “ขอบคุณครับคุณอา ขอผมไปเดินเล่นสักครู่นะครับ”

                ท่าทางเนือยๆ ของหลานชายทำให้อาเขยและอาสาวหันมามองหน้ากัน

                “คุณคะ ตาวินเรียนหนักไปรึเปล่าคะ”

                “ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวผมจะถามยัยยาดู”

                “หลานสาวคุณน่ะเหรอคะ”

                “ครับ ยัยยาบอกว่าเรียนที่เดียวกับตาวิน”

                “ดีค่ะ แล้วยัยยาจะมาบ้านเราวันนี้หรือเปล่า อังจะได้เตรียมอาหารไว้รอ”

                “มาครับ คงอีกสักครู่”

                วาณิชยิ้มกับภรรยา เขาตั้งใจให้ปุษยาหลานสาวของเขารู้จักสนิทสนมกับรุ่งรวินหลานสาวของอังคนาเพราะบิดาของรุ่งรวินเพิ่งโทรศัพท์มาเล่าเรื่องทางเมืองไทยให้ฟังโดยเฉพาะเรื่องคู่รักของรุ่งรวิน

                ปุษยาเดินยิ้มเข้ามาในบ้านวาณิช หล่อนยกมือไหว้อาชายและอาสะใภ้

                “มีอะไรทานบ้างคะคุณอา”

                “มีเยอะเลยจ้ะ ก่อนอื่นยาไปตามตาวินมาทานข้าวพร้อมกันสิลูก”

                “ไม่อยู่ในบ้านเหรอคะ”

                “โน่นอยู่หลังบ้านโน่น”

                “ค่ะ”

                ปุษยาเดินยิ้มไปทางสวนหย่อมหลังบ้าน หล่อนรู้จักรุ่งรวินเพราะเพื่อนแนะนำว่ามาจากเมืองไทยและช่างบังเอิญเรียนที่เดียวกันและเป็นญาติของอาสะใภ้หล่อนจึงดูสนิทกับเขามากกว่าเพื่อนหนุ่มที่มาจากเมืองไทยหลายๆ คน

                หล่อนมาอยู่กับมารดาเลี้ยงที่เป็นชาวต่างชาติตั้งแต่เรียนม.ปลายกระทั่งเรียนจบปริญญาตรีและต่อปริญญาโท บิดาทำงานที่นี่หล่อนจึงอยู่ที่นี่ทั้งที่อยากกลับเมืองไทยและตั้งใจว่าจะไปทำงานที่เมืองไทยอยู่เมืองไทยหลังจากที่เรียนจบ

                “วิน ทำอะไรจ๊ะคิดถึงแฟนเหรอ คุณอาให้มาตามไปทานข้าว”

                รุ่งรวินเหลียวมามองปุษยาแล้วยิ้มบางๆ

                “ใช่ ฉันคิดถึงแฟน แต่แฟนฉันแต่งงานแล้วเมื่อวานนี้เอง”

                “หา..เปลี่ยนใจเหรอ”

                “คงงั้น หล่อนทรยศความรักของฉัน ผู้หญิงใจง่ายอย่างนี้ทุกคนรึเปล่ายา”

                “ไม่เกี่ยวกับฉันนะวิน”

                หล่อนยกมือโบกไปมาแล้วจูงมือเขาเดินเข้าบ้าน ท่าทีสนิทสนมของสองหนุ่มสาวทำให้อังคนาหันมายิ้มกับสามีแต่ทั้งสองเข้าใจผิด รุ่งรวินไม่ได้คิดกับปุษยาฉันชู้สาวและปุษยาเองก็เช่นกันหล่อนคิดว่ารุ่งรวินเป็นพี่และเพื่อนเท่านั้น

                “วิน ตักกับข้าวให้ยัยยาหน่อยสิลูก”

                อังคนาเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มรื่นรมย์ รุ่งรวินมองหน้าอาสาวแล้วหันมาจ้องหน้าปุษยา

 

******

รายละเอียด

จากใจผู้เขียน

 

                เรื่องกามเทพจอมป่วนและกามเทพแกล้งหยอกที่เขียนขึ้นมานี้เป็นเหมือนความรักของคู่รักหลายคู่ที่อาจพบรักแบบไม่อยากจะรักจริงๆ เลยแต่ก็หนีคนที่เกลียดหน้าไม่พ้นเพราะทุกความรักถูกกำหนดไว้แล้ว กามเทพจัดให้เต็มๆ ทุกคนแล้วแต่ว่าใครจะรักษาความรักนั้นไว้ได้นานแค่ไหน

 

กามเทพจอมป่วน

                                เขาว่าคู่กันแล้วไม่แคล้วกันไปได้ แต่ทำไมเขากับคนรัก

                จึงต้องพลัดพรากจากกัน แต่คนที่ไม่คิดจะรักกลับต้องมาเห็น

                หน้าทุกวันๆ ก็ไม่รู้สิ เฮ้อ..

 

 

                                                                ด้วยรัก

                                                                 สุชีรา


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (69 รายการ)

www.batorastore.com © 2024