Customer Reviews

“รอยกับอันนา” เป็นนภาพที่น่ารักมากๆสำหรับดิฉันค่ะ เรียกได้ว่าหลงรักเลย เล่มแรกนั้นจะกล่าวถึงอดีต เมื่อรอยละอันนายังเป็นเด็ก “อันนา”นางเอกของเป็นลูกครึ่งค่ะ อยู่ข้างบ้านกัน ครั้งแรกที่อันนาเจอกับรอยที่เป็นเดด็กโตกว่า เขากำลังชำแหละกบ เด็กน้อยเลยคิดว่ารอยจอมแสบของเราเป็นฆาตกร ฆ่าสัตว์อย่างเลือดเย็น แต่เด็กคือเด็กเนอะ ยังไงอันนาก็อยากเล่นกับรอยอยู่ดี เลยตามติดรอยตลอดเลยค่ะ พ่อแม่รอยเลยได้รู้จักอันนา และรักเอ็นดู เพราอันนาเป็นเด็กฉลาด แสนซน ช่างพูดด้วยค่ะ มีการแอบแบล็กเมล์รอยด้วย ให้รอยทำตามที่ตัวเองต้องการ เด็กรอยเลยรำคาญนิดๆที่ต้องมาผูกติดกับเด็กผู้หญิงที่เขาไม่อยากยุ่งด้วย แต่แล้ววันหนึ่ง รอยได้ยินพ่อกับแม่ของเขาคุยกันว่าอันนาเป็นเด็กน่าสงสาร พ่อกับแม่แยกทางกัน เด็กน้อยเลยขาดความรักและคนเอาใจใส่เหมือนเด็กคนอื่น เธอใช้ชีวิตอยู่กับพี่เลี้ยงที่ไม่ได้สนใจเธอมากนัก รอยเลยเริ่มเห็นใจและพยายามทำดี การกระทำของรอยยิ่งทำให้อันนาติดเขายิ่งกว่าเก่า

วันเวลาผ่านไปจนรอยเรียนมหาวิทยาลัยและอันนาเรียนชั้นมัธยม รอยก็เก๊กเหมือนเดิมค่ะ ความผูกพันธ์ระหว่างเขากับอันนาก็เหมือนตอนเด็ก อันนาคอยผูกติดกับเขา คอยตามไปหาเขาที่มหาวิทยาลัย ความน่ารักของอันนาดึงดูดสายตาหลายคู่ หึหึ ดิฉันว่าตอนนี้รอยต้องแอบหึงแล้วแน่ๆ แต่อันนายังเรียนแค่มัธยม เขาเลยทำได้แค่เตือนว่าเธอเข้าสู่วัยสาวแล้ว ให้ระวังตัวนิดนึง อ่อ รอยเป็นคนสอนการบ้านอันนาด้วยน้า ต้องเรียกว่าความผูกพันของทั้งคู่มากจริงๆ เพราะมีช่วงเวลาที่ใช้ด้วยกันเยอะมาก ผู้เขียนสลับเขียนย้อนอดีตของอันนาว่าตอนอันนาเป็นเหมือนเด็กขาดความรัก พอเจอรอยที่มาทำดีด้วย เธอเลยเห็นเขาเป็นคนที่เธอจะสุงสิงด้วยได้อย่างสนิทใจ ชอบฉากที่ผู้เขียนย้อนวัยเด็กของทั้งคู่ค่ะ อันนาถือเป็นเด็กจอมป่วนเลยทีเดียว ชอบมากอด อ้อน รอย น่ารักมากๆค่ะ

ทีนี้พอมาวันหนึ่ง แม่ของอันนามาหาอันนาที่มหาวิทยาลัยและจะพาอันนาไปอยู่ด้วยกันที่อิตาลี รอยเลยเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเขาไม่อยากให้อันนาไปอยู่ใกล้ๆ แต่ด้วยความที่เป็นแค่เด็กมหาวิทยาลัยจึงทำอะไรไม่ได้ น่าสงสารรอยเนอะ แต่อันนาก็สองจิตสองใจนะคะ ใจหนึ่งก็อยากไปกับแม่ เพราะเธออยากมีแม่มาตลอด เล่มหนึ่งจบแค่นี้ค่ะ ทิ้งให้คนอ่านเดาว่าตกลงอันนาจะเดินทางไปอิตาลีกับแม่ไหม

“รอยกับอันนา” เป็นนภาพที่น่ารักมากๆสำหรับดิฉันค่ะ เรียกได้ว่าหลงรักเลย เล่มแรกนั้นจะกล่าวถึงอดีต เมื่อรอยละอันนายังเป็นเด็ก “อันนา”นางเอกของเป็นลูกครึ่งค่ะ อยู่ข้างบ้านกัน ครั้งแรกที่อันนาเจอกับรอยที่เป็นเดด็กโตกว่า เขากำลังชำแหละกบ เด็กน้อยเลยคิดว่ารอยจอมแสบของเราเป็นฆาตกร ฆ่าสัตว์อย่างเลือดเย็น แต่เด็กคือเด็กเนอะ ยังไงอันนาก็อยากเล่นกับรอยอยู่ดี เลยตามติดรอยตลอดเลยค่ะ พ่อแม่รอยเลยได้รู้จักอันนา และรักเอ็นดู เพราอันนาเป็นเด็กฉลาด แสนซน ช่างพูดด้วยค่ะ มีการแอบแบล็กเมล์รอยด้วย ให้รอยทำตามที่ตัวเองต้องการ เด็กรอยเลยรำคาญนิดๆที่ต้องมาผูกติดกับเด็กผู้หญิงที่เขาไม่อยากยุ่งด้วย แต่แล้ววันหนึ่ง รอยได้ยินพ่อกับแม่ของเขาคุยกันว่าอันนาเป็นเด็กน่าสงสาร พ่อกับแม่แยกทางกัน เด็กน้อยเลยขาดความรักและคนเอาใจใส่เหมือนเด็กคนอื่น เธอใช้ชีวิตอยู่กับพี่เลี้ยงที่ไม่ได้สนใจเธอมากนัก รอยเลยเริ่มเห็นใจและพยายามทำดี การกระทำของรอยยิ่งทำให้อันนาติดเขายิ่งกว่าเก่า

วันเวลาผ่านไปจนรอยเรียนมหาวิทยาลัยและอันนาเรียนชั้นมัธยม รอยก็เก๊กเหมือนเดิมค่ะ ความผูกพันธ์ระหว่างเขากับอันนาก็เหมือนตอนเด็ก อันนาคอยผูกติดกับเขา คอยตามไปหาเขาที่มหาวิทยาลัย ความน่ารักของอันนาดึงดูดสายตาหลายคู่ หึหึ ดิฉันว่าตอนนี้รอยต้องแอบหึงแล้วแน่ๆ แต่อันนายังเรียนแค่มัธยม เขาเลยทำได้แค่เตือนว่าเธอเข้าสู่วัยสาวแล้ว ให้ระวังตัวนิดนึง อ่อ รอยเป็นคนสอนการบ้านอันนาด้วยน้า ต้องเรียกว่าความผูกพันของทั้งคู่มากจริงๆ เพราะมีช่วงเวลาที่ใช้ด้วยกันเยอะมาก ผู้เขียนสลับเขียนย้อนอดีตของอันนาว่าตอนอันนาเป็นเหมือนเด็กขาดความรัก พอเจอรอยที่มาทำดีด้วย เธอเลยเห็นเขาเป็นคนที่เธอจะสุงสิงด้วยได้อย่างสนิทใจ ชอบฉากที่ผู้เขียนย้อนวัยเด็กของทั้งคู่ค่ะ อันนาถือเป็นเด็กจอมป่วนเลยทีเดียว ชอบมากอด อ้อน รอย น่ารักมากๆค่ะ

ทีนี้พอมาวันหนึ่ง แม่ของอันนามาหาอันนาที่มหาวิทยาลัยและจะพาอันนาไปอยู่ด้วยกันที่อิตาลี รอยเลยเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเขาไม่อยากให้อันนาไปอยู่ใกล้ๆ แต่ด้วยความที่เป็นแค่เด็กมหาวิทยาลัยจึงทำอะไรไม่ได้ น่าสงสารรอยเนอะ แต่อันนาก็สองจิตสองใจนะคะ ใจหนึ่งก็อยากไปกับแม่ เพราะเธออยากมีแม่มาตลอด เล่มหนึ่งจบแค่นี้ค่ะ ทิ้งให้คนอ่านเดาว่าตกลงอันนาจะเดินทางไปอิตาลีกับแม่ไหม

“นิรนาม” เป็นนิยายภาพอีกเล่มที่ดิฉันชอบค่ะ ถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวสั้นๆ แต่มีคำและประโยคโดนๆเกี่ยวกับความรักให้ติดตามไม่น้อย ภาพวาดน่ารักๆ ก็ทำให้อ่านไปยิ้มไป พล็อตของเรื่องนี้คือคนสองคนได้เจอกันผ่านสื่อออนไลน์ ทั้งคู่เริ่มแชทคุยกันและทำความรู้จักกัน โดยไม่จำเป็นต้องบอกชื่อ ไม่รู้จักตัวตนของอีกฝ่าย นางเอกไม่ต้องการเปิดเผยเพราะคิดว่าเป็นคนแปลกหน้าคุยกันจะดีกว่า
แต่ความจริงแล้วทั้งคู่อาศัยอยู่ในตึกเดียวกันค่ะ แต่คนละชั้น ได้แต่แอบมองกันไปแอบมองกันมา นางเอกเธอกลุ้มใจจนต้องไปบอกผู้ชายที่เธอแชทด้วย ซึ่งเธอยังไม่รู้นะคะว่าเขาคือใคร ว่าเธอคิดว่าเธอแอบหลงรักผู้ชายคนหนึ่ง นางเอกรู้สึกเหมือนนอกใจเขาเพราะเธออยากแชทกับเขาอยู่ เธอให้เหตุผลง่ายๆว่า เธอแอบคุยกับใครคนหนึ่งโดยที่แอบรักคนๆหนึ่งอยู่ไม่ได้ ทั้งๆที่เธอผูกพันกับผู้ชายออนไลน์ไปแล้ว

แล้วโชคชะตาก็ทำให้ พระเอกรู้ว่าเขาเองคือคนที่เธอแอบรัก อ๊ะ สงสัยใช่ไหมคะว่าเขารู้ได้อย่างไร ก็เพราะเขาเป็นผู้ดูแลติดตั้งงระบบอินเทอร์เน็ตของหอพัก ที่บังเอิญนางเอกก็ไปเจอประกาศห้องว่าง เลยตัดสินใจย้ายเข้าไปอยู่ค่ะ ฉากนี้ดิฉันยังไง แต่มโนเอาเองว่าทั้งพระเอกและนางเอก ย้ายไปอยู่ที่อยู่ใหม่ด้วยกันทั้งคู่ ต้องเป็นเพราะโชคชะตาแน่ๆเลยค่ะ แอร๊ยยย พูดแล้วเขิน >//< ทีนี้พอนางเอกจะใช้อินเทอร์เน็ตพระเอกก็ต้องรู้ข้อมูลใช่ไหมคะ หุหุ พระเอกเลยรู้เฉยว่าเขาคือคนที่นางเอกรัก ทีนี้พระเอกเลยยิ้มกริ่ม แต่แล้วเขาก็ต้องอกหักทั้งๆที่นางเอกรักเขา เมื่อเธอตัดสินใจกลับมาแชทและบอกเขาว่า เธอเลือกคนในแชท และรู้สึกดีที่เกิดความรักบริสุทธิ์โดยที่เธอไม่ต้องพบเขา พระเอกเงิบสิคะงานนี้ ไม่รู้จะทำยังไง เจอหน้าก็ทักไม่ได้ ทรมานสุดๆ ซึ่งความจริงแล้วนางเอกรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพระเอกเป็นใคร เธอแค่วางแผนเพื่อดัดหลังเขาเท่านั้น จนพระเอกต้องสารภาพความจริงก่อน นางเอกเลยยอมบอกว่าเธอรู้ตั้งนานแล้วว่าเขาเป็นใคร

ทั้งคู่เลยเลื่อนความสัมพันธ์ มาเป็นคนรัก ไปไหนมาไหนด้วยกัน ช่วงหลังจากที่รู้ความจริงกันแล้วเหมือนมันจะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นแล้วนะคะ แต่ดิฉันชอบมากกว่าช่วงแรกเสียอีก ความสัมพันธ์ของคนสองคนที่ค่อยๆปรับตัวเขาหากัน คอยดูแลเอาใจใส่กัน อาจจะเป็นเพราะทั้งคู่มีบางอย่างที่ทำให้เข้ากันได้ค่ะ พอคบกันมาได้จุดหนึ่งทั้งพระเอกและนางเอกก็อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นไปมากกว่านี้ เพราะพวกเรารักกันตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า ฉากจบไม่ได้เป็นฉากแต่งงานหรอกนะคะ แต่รับรองว่าหวานแน่ๆ หากใอยากรู้ ติดตามต่อในเล่มเลยค่ะ

“นิรนาม” เป็นนิยายภาพอีกเล่มที่ดิฉันชอบค่ะ ถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวสั้นๆ แต่มีคำและประโยคโดนๆเกี่ยวกับความรักให้ติดตามไม่น้อย ภาพวาดน่ารักๆ ก็ทำให้อ่านไปยิ้มไป พล็อตของเรื่องนี้คือคนสองคนได้เจอกันผ่านสื่อออนไลน์ ทั้งคู่เริ่มแชทคุยกันและทำความรู้จักกัน โดยไม่จำเป็นต้องบอกชื่อ ไม่รู้จักตัวตนของอีกฝ่าย นางเอกไม่ต้องการเปิดเผยเพราะคิดว่าเป็นคนแปลกหน้าคุยกันจะดีกว่า
แต่ความจริงแล้วทั้งคู่อาศัยอยู่ในตึกเดียวกันค่ะ แต่คนละชั้น ได้แต่แอบมองกันไปแอบมองกันมา นางเอกเธอกลุ้มใจจนต้องไปบอกผู้ชายที่เธอแชทด้วย ซึ่งเธอยังไม่รู้นะคะว่าเขาคือใคร ว่าเธอคิดว่าเธอแอบหลงรักผู้ชายคนหนึ่ง นางเอกรู้สึกเหมือนนอกใจเขาเพราะเธออยากแชทกับเขาอยู่ เธอให้เหตุผลง่ายๆว่า เธอแอบคุยกับใครคนหนึ่งโดยที่แอบรักคนๆหนึ่งอยู่ไม่ได้ ทั้งๆที่เธอผูกพันกับผู้ชายออนไลน์ไปแล้ว

แล้วโชคชะตาก็ทำให้ พระเอกรู้ว่าเขาเองคือคนที่เธอแอบรัก อ๊ะ สงสัยใช่ไหมคะว่าเขารู้ได้อย่างไร ก็เพราะเขาเป็นผู้ดูแลติดตั้งงระบบอินเทอร์เน็ตของหอพัก ที่บังเอิญนางเอกก็ไปเจอประกาศห้องว่าง เลยตัดสินใจย้ายเข้าไปอยู่ค่ะ ฉากนี้ดิฉันยังไง แต่มโนเอาเองว่าทั้งพระเอกและนางเอก ย้ายไปอยู่ที่อยู่ใหม่ด้วยกันทั้งคู่ ต้องเป็นเพราะโชคชะตาแน่ๆเลยค่ะ แอร๊ยยย พูดแล้วเขิน >//< ทีนี้พอนางเอกจะใช้อินเทอร์เน็ตพระเอกก็ต้องรู้ข้อมูลใช่ไหมคะ หุหุ พระเอกเลยรู้เฉยว่าเขาคือคนที่นางเอกรัก ทีนี้พระเอกเลยยิ้มกริ่ม แต่แล้วเขาก็ต้องอกหักทั้งๆที่นางเอกรักเขา เมื่อเธอตัดสินใจกลับมาแชทและบอกเขาว่า เธอเลือกคนในแชท และรู้สึกดีที่เกิดความรักบริสุทธิ์โดยที่เธอไม่ต้องพบเขา พระเอกเงิบสิคะงานนี้ ไม่รู้จะทำยังไง เจอหน้าก็ทักไม่ได้ ทรมานสุดๆ ซึ่งความจริงแล้วนางเอกรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพระเอกเป็นใคร เธอแค่วางแผนเพื่อดัดหลังเขาเท่านั้น จนพระเอกต้องสารภาพความจริงก่อน นางเอกเลยยอมบอกว่าเธอรู้ตั้งนานแล้วว่าเขาเป็นใคร

ทั้งคู่เลยเลื่อนความสัมพันธ์ มาเป็นคนรัก ไปไหนมาไหนด้วยกัน ช่วงหลังจากที่รู้ความจริงกันแล้วเหมือนมันจะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นแล้วนะคะ แต่ดิฉันชอบมากกว่าช่วงแรกเสียอีก ความสัมพันธ์ของคนสองคนที่ค่อยๆปรับตัวเขาหากัน คอยดูแลเอาใจใส่กัน อาจจะเป็นเพราะทั้งคู่มีบางอย่างที่ทำให้เข้ากันได้ค่ะ พอคบกันมาได้จุดหนึ่งทั้งพระเอกและนางเอกก็อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นไปมากกว่านี้ เพราะพวกเรารักกันตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า ฉากจบไม่ได้เป็นฉากแต่งงานหรอกนะคะ แต่รับรองว่าหวานแน่ๆ หากใอยากรู้ ติดตามต่อในเล่มเลยค่ะ

ดูเหมือนว่าช่วงนี้ดิฉันจะอ่านนิยายแนวแฟนตาซีเยอะ ฮ่าๆๆ เพราะเรื่อง “แวมไพร์ละลายใจ” พล็อตก็มีตัวละครหลักอย่างพระเอกเป็นแวมไพร์หนุ่มรูปงาม นิยายเรื่องนี้มีไทม์ไลน์ควบคู่ไปกับเรื่อ “แวมไพร์เจ้าเสน่ห์”ค่ะ เพราะพระเอกของทั้งสองเรื่องเป็นเพื่อนกัน และนางเอกก็ยังเป็นเพื่อนกันด้วย
เรื่องนี้เป็นเรื่องของพระเอก “อี้หลุน” ผีดิบลูกครึ่งมีพกเสน่ห์มาแบบเต็มตัว ดิฉันไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะคะ ว่าทำไมบรรดานักเขียนชอบบรรยายว่าแวมไพร์ต้องหล่อ รวย ฉลาด เรื่องนี้ก็ไม่ต่างกันค่ะ เพราะเพอร์เฟคแวมไพร์อย่าง “อี้หลุน” และ แวมไพร์ฝรั่งจ๋าอย่าง “เจสัน” นอกจากจะมีสรรพคุณดังกล่าวครบถ้วนแล้ว ดิฉันบวกเพิ่มให้อีกข้อคือพวกเขาเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ ที่ชื่นชอบการท่องราตรีเป็นนิตย์ค่ะ แวมไพร์เรื่องนี้มีสัมผัสพิเศษในการรู้เนื้อแท้ของมนุษย์ว่าภายใต้เปลือกนอกจิตใจคนผู้นั้นเป็นอย่างไร และพระเอกก็ไปสะดุดกับความพิเศษของ “มี่หยา” นางเอกของเรา เพราะเขามองว่าเธอเป็นของดีหายาก มีเลือดกรุ๊ปพิเศษ ทำให้พระเอกไม่รีรอที่จะเข้าไปขอเธอเป็นแฟน แต่งานนี้มีหรือที่หญิงสาวที่คิดว่าตัวเองเป็นคนบ้านๆ หน้าตาธรรมดาอย่างนางเอกของเราจะเชื่อคารมและหลงเสน่ห์เขาเหมือนคนอื่น นางเอกของเราปฏิเสธเพราะไม่สนใจ อีกอย่างเธอก็มีแฟนอยู่แล้ว พระเอกหน้าแตกหมอไม่รับเย็บกันเลย แต่คนอย่าง “อี้หลุน” เมื่ออยากได้อะไรแล้วต้องได้ค่ะ แต่ใจเนอะ คริคริ แลยหาทางทำให้นางเอกมาอาศัยอยู่ห้องใกล้ๆ โดยการสร้างเรื่องราว จนนางเอกไม่มีที่ไป พระเอกเลยเข้าหานางเอกมีทั้งแบบเนียนๆ และแบบผลุบโผล่ตามประสาแวมไพร์ แถมแสดงเจตนาอย่างโจ้งแจ้งด้วยการอยากดูดเลือดเธอด้วย ฝ่ายนางเอกก็ตอบโต้ได้อย่างดุเดือด เธอกัดเขาก่อนที่เขาจะกัดเธอ ซึ่งผลที่ตามมาหลังจากที่เลือดพระเอกเข้าสู่ร่าง ทำให้นางเอกค่อยๆกลายสภาพเป็นลูกครึ่งแวมไพร์กับมนุษย์

งานนี้เป็นงานวัดใจ เมื่อพระเอกไม่ได้ทำท่าว่าจะทิ้งเธอ เขากลับเป็นคนดูแลและคอยอยู่กับเธอเสมออีกต่างหาก ความรู้สึกดีๆ เลยเกิดขึ้น นางเอกก็รู้ว่าแฟนนอกใจด้วย ทำให้ตัดใจง่ายขึ้น นางเอกเริ่มหวั่นไหวกับพระเอกทีละน้อยค่ะ ฝ่ายพระเอกเรื่องนี้มีโมเมนต์หื่นๆ ใช่ย่อย ชอบแอบลวนลามนางเอก แต่เกรงใจไม่กล้าทำอะไรนางเอกมาก เพราะนางเอกเธอดุจริงไรจริง ขนาดเพิ่งกลายสภาพใหม่ๆยังสามารถสะกดจิต “เจสัน”ได้ ถ้าถามดิฉัน ดิฉันว่าพระเอกตอนแรกแค่อยากได้และดูดเลือดนางเอกค่ะ แต่ด้วยความที่นางเอกเป็นคนจิตใจดี และกล้ากัดเขา พระเอกจึงเริ่มเกิดความรู้สึกรุนแรง ค่อยๆรักนางเอกมากขึ้น ความรักของแวมไพร์ก็หวานได้นะคะ ถ้าไม่เชื่อลองหามาอ่านกันดูค่ะ แล้วจะหลงรักแวมไพร์ไม่ต่างกับดิฉัน

ดูเหมือนว่าช่วงนี้ดิฉันจะอ่านนิยายแนวแฟนตาซีเยอะ ฮ่าๆๆ เพราะเรื่อง “แวมไพร์ละลายใจ” พล็อตก็มีตัวละครหลักอย่างพระเอกเป็นแวมไพร์หนุ่มรูปงาม นิยายเรื่องนี้มีไทม์ไลน์ควบคู่ไปกับเรื่อ “แวมไพร์เจ้าเสน่ห์”ค่ะ เพราะพระเอกของทั้งสองเรื่องเป็นเพื่อนกัน และนางเอกก็ยังเป็นเพื่อนกันด้วย
เรื่องนี้เป็นเรื่องของพระเอก “อี้หลุน” ผีดิบลูกครึ่งมีพกเสน่ห์มาแบบเต็มตัว ดิฉันไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะคะ ว่าทำไมบรรดานักเขียนชอบบรรยายว่าแวมไพร์ต้องหล่อ รวย ฉลาด เรื่องนี้ก็ไม่ต่างกันค่ะ เพราะเพอร์เฟคแวมไพร์อย่าง “อี้หลุน” และ แวมไพร์ฝรั่งจ๋าอย่าง “เจสัน” นอกจากจะมีสรรพคุณดังกล่าวครบถ้วนแล้ว ดิฉันบวกเพิ่มให้อีกข้อคือพวกเขาเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ ที่ชื่นชอบการท่องราตรีเป็นนิตย์ค่ะ แวมไพร์เรื่องนี้มีสัมผัสพิเศษในการรู้เนื้อแท้ของมนุษย์ว่าภายใต้เปลือกนอกจิตใจคนผู้นั้นเป็นอย่างไร และพระเอกก็ไปสะดุดกับความพิเศษของ “มี่หยา” นางเอกของเรา เพราะเขามองว่าเธอเป็นของดีหายาก มีเลือดกรุ๊ปพิเศษ ทำให้พระเอกไม่รีรอที่จะเข้าไปขอเธอเป็นแฟน แต่งานนี้มีหรือที่หญิงสาวที่คิดว่าตัวเองเป็นคนบ้านๆ หน้าตาธรรมดาอย่างนางเอกของเราจะเชื่อคารมและหลงเสน่ห์เขาเหมือนคนอื่น นางเอกของเราปฏิเสธเพราะไม่สนใจ อีกอย่างเธอก็มีแฟนอยู่แล้ว พระเอกหน้าแตกหมอไม่รับเย็บกันเลย แต่คนอย่าง “อี้หลุน” เมื่ออยากได้อะไรแล้วต้องได้ค่ะ แต่ใจเนอะ คริคริ แลยหาทางทำให้นางเอกมาอาศัยอยู่ห้องใกล้ๆ โดยการสร้างเรื่องราว จนนางเอกไม่มีที่ไป พระเอกเลยเข้าหานางเอกมีทั้งแบบเนียนๆ และแบบผลุบโผล่ตามประสาแวมไพร์ แถมแสดงเจตนาอย่างโจ้งแจ้งด้วยการอยากดูดเลือดเธอด้วย ฝ่ายนางเอกก็ตอบโต้ได้อย่างดุเดือด เธอกัดเขาก่อนที่เขาจะกัดเธอ ซึ่งผลที่ตามมาหลังจากที่เลือดพระเอกเข้าสู่ร่าง ทำให้นางเอกค่อยๆกลายสภาพเป็นลูกครึ่งแวมไพร์กับมนุษย์

งานนี้เป็นงานวัดใจ เมื่อพระเอกไม่ได้ทำท่าว่าจะทิ้งเธอ เขากลับเป็นคนดูแลและคอยอยู่กับเธอเสมออีกต่างหาก ความรู้สึกดีๆ เลยเกิดขึ้น นางเอกก็รู้ว่าแฟนนอกใจด้วย ทำให้ตัดใจง่ายขึ้น นางเอกเริ่มหวั่นไหวกับพระเอกทีละน้อยค่ะ ฝ่ายพระเอกเรื่องนี้มีโมเมนต์หื่นๆ ใช่ย่อย ชอบแอบลวนลามนางเอก แต่เกรงใจไม่กล้าทำอะไรนางเอกมาก เพราะนางเอกเธอดุจริงไรจริง ขนาดเพิ่งกลายสภาพใหม่ๆยังสามารถสะกดจิต “เจสัน”ได้ ถ้าถามดิฉัน ดิฉันว่าพระเอกตอนแรกแค่อยากได้และดูดเลือดนางเอกค่ะ แต่ด้วยความที่นางเอกเป็นคนจิตใจดี และกล้ากัดเขา พระเอกจึงเริ่มเกิดความรู้สึกรุนแรง ค่อยๆรักนางเอกมากขึ้น ความรักของแวมไพร์ก็หวานได้นะคะ ถ้าไม่เชื่อลองหามาอ่านกันดูค่ะ แล้วจะหลงรักแวมไพร์ไม่ต่างกับดิฉัน

“วอนรักกามเทพ” เป็นนิยายแปลจีนอีกเรื่องของโม่เหยียนค่ะ พล็อตของเรื่องนี้ก็ออกแนวแฟนตาซีอีกแล้ว เพราะพระเอก “ฮาเวิร์ด” ของเรื่องนี้เปิดฉากมาก็เป็นวิญญาณเร่ร่อนซะแล้วค่ะ เขากำลังกลุ้มใจและเศร้าใจที่ไม่มีใครมองเห็นเขาเลยสักคน แล้วเหมือนสวรรค์เมตตา เมื่อส่งนางเอกอย่าง “ชีน่า” ให้มองเห็นเขาได้ ครั้งแรกเมื่อเธอเห็นเขา เธอคิดว่าเขาเป็นผีมาอำเธอเล่น ทำให้เธอตกใจกับการมองเห็นเขาเป็นอย่างมาก พระเอกเลยต้องโกหกหน้าตาย(เพราะตายไปแล้ว อิอิ) อัพเกรดตัวเองให้เป็นกามเทพ ที่จะมาช่วยให้นางเอกสมหวังในความรัก ด้วยความใสซื่อของนางเอกเรื่องนี้เธอเป็นคนมองโลกในแง่ดีค่ะ เลยเชื่ออย่างสนิทใจว่าเชื่อว่าเขาเป็นกามเทพประจำตัวของเธอ ที่จะมาช่วยให้เธอกับแฟนหนุ่มสมหวังและได้แต่งงานกัน เหตุการณ์ผิดพลาด ไม่เป็นอย่างที่นางเอกคิดเพราะแฟนหนุ่มของเธอทั้งเจ้าชู้ มีผู้หญิงเต็มไปหมด พระเอกเลยทำให้เธอตาสว่าง ตอนแรกเธอก็ไม่เชื่อนะคะ จนเมื่อเมียของแฟนหนุ่มมาแสดงตัว นางเอกหัวใจแทบสลาย ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถรักใครได้อีก

การใช้ชีวิตร่วมกับกามเทพปลอมๆ ทำให้นางเอกค่อยๆดีขึ้น ตอนแรกดิฉันว่าจะไม่อินระหว่างความรักของคนกับวิญญาณนะคะ แต่อดไม่ได้จริงๆ เพราะผู้เขียนสามารถถ่ายทอดเรื่องราวของทั้งคู่ออกมาได้อย่างน่ารักมากๆ แต่ตอนนี้ทั้งคู่ยังไม่รู้ตัวนะคะว่ารักกัน นางเอกมีความสุขกับการอยู่กับพระเอก ส่วนพระเอกก็รู้สึกดีๆกับผ้หญิงใสซื่อคนนี้ และเขาก็ตัดสินใจที่จะหาผู้ชายคนใหม่ที่ดีพร้อมเหมาะกับเธอมาเพื่อให้เธอเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับผู้ชายดีๆอีกครั้ง นางเอกเลยตัดสินใจคบกับผู้ชายคนใหม่ ที่กามเทพประจำตัวเธอเป็นคนแนะนำ และบอกข้อดีต่างๆนาๆของเขาให้เธอรู้ แต่ทั้งคู่ก็คบกันได้ไม่นานเพราะนางเอกรู้ตัวแล้วว่าเธอรักกามเทพต่างหาก ไม่ใช่แฟนเก่าหรือผู้ชายคนที่เธอกำลังคบอยู่ ซึ่งเหมือนจะสายไป เพราะเขาได้หายไปอย่างไม่มีวันกลับ
แต่คนมันจะคู่กันค่ะ นางเอกเลยเห็นข่าวของผู้ชายที่เพิ่งฟื้นจากสภาวะนิทรา เธอจึงรีบเดินทางไปพบเขาทันทีที่โรงพยาบาลที่เขารักษาตัวอยู่ หน้าแตกอีกต่างหากเมื่อเขาจำเรื่องราวต่างๆระหว่างกันไม่ได้เลย แต่นางเอกของเราไม่ยอมแพ้ค่ะ เธอพิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็นว่ายามที่สาวๆที่เขาเคยคบหันหลังให้เขาเพราะเขาหลับไม่ฟื้น ตื่นมาก็มีสภาพคล้ายๆคนพิการ ไร้ความรู้สึกท่อนล่างร่างกาย ช่วงนี้ดิฉันซาบซึ้งกับความรักของนางเอกที่มีให้พระเอกจริงๆค่ะ เพราะเธอคอยอยู่ข้างๆ ดูแลเขาตลอดเวลาที่เขารักษาตัว ความรักของเธอจึงสามารถทะลายน้ำแข็งที่เขาสร้างขึ้นมาไว้ได้ พระเอกตกหลุมรักนางเอกอีกครั้ง

พอพระเอกรักษาตัวหาย ทั้งคู่ก็คบกันอย่างคู่รัก ฉากตอนจบหวานมากๆค่ะ ทั้งคู่แต่งงานกัน แล้วเขามีเรื่องมาทำให้นางเอกประหลาดใจจนต้องดีใจเมื่อได้รู้ ถ้าอยากติดตามความรักของคู่นี้ลองไปหาอ่านดูนะคะ

“วอนรักกามเทพ” เป็นนิยายแปลจีนอีกเรื่องของโม่เหยียนค่ะ พล็อตของเรื่องนี้ก็ออกแนวแฟนตาซีอีกแล้ว เพราะพระเอก “ฮาเวิร์ด” ของเรื่องนี้เปิดฉากมาก็เป็นวิญญาณเร่ร่อนซะแล้วค่ะ เขากำลังกลุ้มใจและเศร้าใจที่ไม่มีใครมองเห็นเขาเลยสักคน แล้วเหมือนสวรรค์เมตตา เมื่อส่งนางเอกอย่าง “ชีน่า” ให้มองเห็นเขาได้ ครั้งแรกเมื่อเธอเห็นเขา เธอคิดว่าเขาเป็นผีมาอำเธอเล่น ทำให้เธอตกใจกับการมองเห็นเขาเป็นอย่างมาก พระเอกเลยต้องโกหกหน้าตาย(เพราะตายไปแล้ว อิอิ) อัพเกรดตัวเองให้เป็นกามเทพ ที่จะมาช่วยให้นางเอกสมหวังในความรัก ด้วยความใสซื่อของนางเอกเรื่องนี้เธอเป็นคนมองโลกในแง่ดีค่ะ เลยเชื่ออย่างสนิทใจว่าเชื่อว่าเขาเป็นกามเทพประจำตัวของเธอ ที่จะมาช่วยให้เธอกับแฟนหนุ่มสมหวังและได้แต่งงานกัน เหตุการณ์ผิดพลาด ไม่เป็นอย่างที่นางเอกคิดเพราะแฟนหนุ่มของเธอทั้งเจ้าชู้ มีผู้หญิงเต็มไปหมด พระเอกเลยทำให้เธอตาสว่าง ตอนแรกเธอก็ไม่เชื่อนะคะ จนเมื่อเมียของแฟนหนุ่มมาแสดงตัว นางเอกหัวใจแทบสลาย ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถรักใครได้อีก

การใช้ชีวิตร่วมกับกามเทพปลอมๆ ทำให้นางเอกค่อยๆดีขึ้น ตอนแรกดิฉันว่าจะไม่อินระหว่างความรักของคนกับวิญญาณนะคะ แต่อดไม่ได้จริงๆ เพราะผู้เขียนสามารถถ่ายทอดเรื่องราวของทั้งคู่ออกมาได้อย่างน่ารักมากๆ แต่ตอนนี้ทั้งคู่ยังไม่รู้ตัวนะคะว่ารักกัน นางเอกมีความสุขกับการอยู่กับพระเอก ส่วนพระเอกก็รู้สึกดีๆกับผ้หญิงใสซื่อคนนี้ และเขาก็ตัดสินใจที่จะหาผู้ชายคนใหม่ที่ดีพร้อมเหมาะกับเธอมาเพื่อให้เธอเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับผู้ชายดีๆอีกครั้ง นางเอกเลยตัดสินใจคบกับผู้ชายคนใหม่ ที่กามเทพประจำตัวเธอเป็นคนแนะนำ และบอกข้อดีต่างๆนาๆของเขาให้เธอรู้ แต่ทั้งคู่ก็คบกันได้ไม่นานเพราะนางเอกรู้ตัวแล้วว่าเธอรักกามเทพต่างหาก ไม่ใช่แฟนเก่าหรือผู้ชายคนที่เธอกำลังคบอยู่ ซึ่งเหมือนจะสายไป เพราะเขาได้หายไปอย่างไม่มีวันกลับ
แต่คนมันจะคู่กันค่ะ นางเอกเลยเห็นข่าวของผู้ชายที่เพิ่งฟื้นจากสภาวะนิทรา เธอจึงรีบเดินทางไปพบเขาทันทีที่โรงพยาบาลที่เขารักษาตัวอยู่ หน้าแตกอีกต่างหากเมื่อเขาจำเรื่องราวต่างๆระหว่างกันไม่ได้เลย แต่นางเอกของเราไม่ยอมแพ้ค่ะ เธอพิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็นว่ายามที่สาวๆที่เขาเคยคบหันหลังให้เขาเพราะเขาหลับไม่ฟื้น ตื่นมาก็มีสภาพคล้ายๆคนพิการ ไร้ความรู้สึกท่อนล่างร่างกาย ช่วงนี้ดิฉันซาบซึ้งกับความรักของนางเอกที่มีให้พระเอกจริงๆค่ะ เพราะเธอคอยอยู่ข้างๆ ดูแลเขาตลอดเวลาที่เขารักษาตัว ความรักของเธอจึงสามารถทะลายน้ำแข็งที่เขาสร้างขึ้นมาไว้ได้ พระเอกตกหลุมรักนางเอกอีกครั้ง

พอพระเอกรักษาตัวหาย ทั้งคู่ก็คบกันอย่างคู่รัก ฉากตอนจบหวานมากๆค่ะ ทั้งคู่แต่งงานกัน แล้วเขามีเรื่องมาทำให้นางเอกประหลาดใจจนต้องดีใจเมื่อได้รู้ ถ้าอยากติดตามความรักของคู่นี้ลองไปหาอ่านดูนะคะ

“ยมทูตอลวน” เป็นอีกหนนึ่งผลงานของโม่เหยียนในแนว Cookie ค่ะ ดิฉันชอบนักเขียนคนนี้มาตั้งแต่แนวมากกว่ารัก ซึ่งก็สนุกไม่ต่างกันเลย
พล็อตของเรื่องนี้ออกแนวแฟนตาซีนิดๆ เพราะอะไรนะหรือคะ เพราะว่านางเอก “เอลซ่า เจิ้ง”ของเราสามารถย้ายวิญญาณเธอมาอยู่อีกร่างได้ค่ะ โอ้ น่าติดเต้นจริงๆ สาเหตุของการที่ต้องมาอยู่ในอีกร่างเป็นเพราะความผิดพลาดจากอะไรบางอย่าง ทำให้ยมทูตฝึกหัด มาเอาชีวิตเธอไปก่อนหมดอายุขัย ดังนั้นยมทูตจอมกากจึงเสนอทางเลือกให้เธอไปอยู่ในร่างของ “มิเชล ชิว” หญิงสาวที่กำลังจะหมดอายุขัยของจริง นอนหมดสติให้แพทย์รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งมีทุกอย่างต่างกับนางเอกราวฟ้ากับเหว ตอนแรกนางเอกดีใจเพราะพ่อยมทูตตัวดีบรรยายสรรพคุณร่างใหม่จนเธอสนใจซื้อ แต่เมื่อฟื้นขึ้นมาปรากฎว่า นอกจากสรรพคุณที่ยมทูตบรรยามาแล้วแม่สาวมิเชลคนนี้ยังมีลูกและสามีสุดหล่อพ่วงมาเป็นแพ็กแก็จแถมให้เธอโดยไม่ต้องซื้อ ที่สำคัญเธอกลับพบว่าสามีภรรยาคู่นี้ไม่ได้รักกันอย่างที่คนภายนอกเข้าใจ พวกเขาระหองระแหงกันมานาน เธอจึงได้รับแต่ความห่างเหินจากทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าเป็นคนรับใช้ ลูกสาว ตลอดจนญาติของสามี(ของร่างนี้)

แต่ด้วยความที่นางเอกเรื่องนี้เป็นคนมีจิตใจดี ทุกคนรอบตัวจึงมองเธออย่างเปลี่ยนไป รวมถึงพระเอกที่เริ่มสงัยในพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหนังมือของภรรยาสาว พ่อยมทูตหนุ่มยังออกมาป่วนให้เรื่องมีสีมันอีกเป็นระยะๆค่ะ เรียกเสียงฮาจากดิฉันได้ตลอดกับบทสนาของเขากับนางเอก แล้ววันหนึ่งฝ่ายสามีก็ได้รู้ความจริงว่าเธอไม่ใช่มิเชล แต่เป็นใครอีกคนในร่างเมียของเขา ด้วยความชื่นชอบนิสัยของนางเอกอยู่แล้วทั้งคู่จึงเริ่มเรียนรู้และตกหลุมรักกันอย่างไม่ยากเย็น ถือเป็นช่วงหวานของเรื่องก็ว่าได้ค่ะ เพราะพระเอกขอบพูดอะไรซึ้งๆให้นางเอกฟังตลอด ดิฉันก็จิกหมอนเขินไปสิ อินตามนิยาย อิอิ แต่มีฉากอินเลิฟกันได้ไม่นานหรอกนะคะ เพราะว่าแม่นางมิเชลเจ้าของร่าง นางร้ายใช่เล่น มีชู้อีกต่างหาก พระเอกเลยต้องเหนื่อยหน่อย เพราะต้องปกป้องนางเอกให้พ้นจากผู้ไม่หวังดีต่างๆ จนเรื่องราวสามารถคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่แล้วเมื่อวันหนึ่ง ร่างของมิเชลกลับหมดอายุขัยของจริง นางเอกเลยเป็นวิญญาณเร่ร่อนอีกครั้ง ฝ่ายพระเอกก็ใจสลายสิคะ เพราะรักนางเอกไปแล้ว แต่เขายังไม่หมดหวัง เพราะคิดว่าในเมื่อนางเอกสามารถฟื้นมาในร่างของเมียเขา ไม่แน่เธออาจจะไปฟื้นในร่างอื่น เขารอคอยจนได้พบเธออีกครั้ง ส่วนพบได้อย่างไรแล้วเธอกลับมาเป็นใคร ต้องติดตามในเรื่องนะคะ เป็นนิยายที่น่ารักสนุกปนขำอีกเรื่องค่ะ

“ยมทูตอลวน” เป็นอีกหนนึ่งผลงานของโม่เหยียนในแนว Cookie ค่ะ ดิฉันชอบนักเขียนคนนี้มาตั้งแต่แนวมากกว่ารัก ซึ่งก็สนุกไม่ต่างกันเลย
พล็อตของเรื่องนี้ออกแนวแฟนตาซีนิดๆ เพราะอะไรนะหรือคะ เพราะว่านางเอก “เอลซ่า เจิ้ง”ของเราสามารถย้ายวิญญาณเธอมาอยู่อีกร่างได้ค่ะ โอ้ น่าติดเต้นจริงๆ สาเหตุของการที่ต้องมาอยู่ในอีกร่างเป็นเพราะความผิดพลาดจากอะไรบางอย่าง ทำให้ยมทูตฝึกหัด มาเอาชีวิตเธอไปก่อนหมดอายุขัย ดังนั้นยมทูตจอมกากจึงเสนอทางเลือกให้เธอไปอยู่ในร่างของ “มิเชล ชิว” หญิงสาวที่กำลังจะหมดอายุขัยของจริง นอนหมดสติให้แพทย์รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งมีทุกอย่างต่างกับนางเอกราวฟ้ากับเหว ตอนแรกนางเอกดีใจเพราะพ่อยมทูตตัวดีบรรยายสรรพคุณร่างใหม่จนเธอสนใจซื้อ แต่เมื่อฟื้นขึ้นมาปรากฎว่า นอกจากสรรพคุณที่ยมทูตบรรยามาแล้วแม่สาวมิเชลคนนี้ยังมีลูกและสามีสุดหล่อพ่วงมาเป็นแพ็กแก็จแถมให้เธอโดยไม่ต้องซื้อ ที่สำคัญเธอกลับพบว่าสามีภรรยาคู่นี้ไม่ได้รักกันอย่างที่คนภายนอกเข้าใจ พวกเขาระหองระแหงกันมานาน เธอจึงได้รับแต่ความห่างเหินจากทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าเป็นคนรับใช้ ลูกสาว ตลอดจนญาติของสามี(ของร่างนี้)

แต่ด้วยความที่นางเอกเรื่องนี้เป็นคนมีจิตใจดี ทุกคนรอบตัวจึงมองเธออย่างเปลี่ยนไป รวมถึงพระเอกที่เริ่มสงัยในพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหนังมือของภรรยาสาว พ่อยมทูตหนุ่มยังออกมาป่วนให้เรื่องมีสีมันอีกเป็นระยะๆค่ะ เรียกเสียงฮาจากดิฉันได้ตลอดกับบทสนาของเขากับนางเอก แล้ววันหนึ่งฝ่ายสามีก็ได้รู้ความจริงว่าเธอไม่ใช่มิเชล แต่เป็นใครอีกคนในร่างเมียของเขา ด้วยความชื่นชอบนิสัยของนางเอกอยู่แล้วทั้งคู่จึงเริ่มเรียนรู้และตกหลุมรักกันอย่างไม่ยากเย็น ถือเป็นช่วงหวานของเรื่องก็ว่าได้ค่ะ เพราะพระเอกขอบพูดอะไรซึ้งๆให้นางเอกฟังตลอด ดิฉันก็จิกหมอนเขินไปสิ อินตามนิยาย อิอิ แต่มีฉากอินเลิฟกันได้ไม่นานหรอกนะคะ เพราะว่าแม่นางมิเชลเจ้าของร่าง นางร้ายใช่เล่น มีชู้อีกต่างหาก พระเอกเลยต้องเหนื่อยหน่อย เพราะต้องปกป้องนางเอกให้พ้นจากผู้ไม่หวังดีต่างๆ จนเรื่องราวสามารถคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่แล้วเมื่อวันหนึ่ง ร่างของมิเชลกลับหมดอายุขัยของจริง นางเอกเลยเป็นวิญญาณเร่ร่อนอีกครั้ง ฝ่ายพระเอกก็ใจสลายสิคะ เพราะรักนางเอกไปแล้ว แต่เขายังไม่หมดหวัง เพราะคิดว่าในเมื่อนางเอกสามารถฟื้นมาในร่างของเมียเขา ไม่แน่เธออาจจะไปฟื้นในร่างอื่น เขารอคอยจนได้พบเธออีกครั้ง ส่วนพบได้อย่างไรแล้วเธอกลับมาเป็นใคร ต้องติดตามในเรื่องนะคะ เป็นนิยายที่น่ารักสนุกปนขำอีกเรื่องค่ะ

“ Rose, Rose, I Love You” เป็นอีกหนึ่งผลงานของเตี่ยนซิน ภายใต้แนว Cookie นิยายจีนแปลขอสำนักพิมพ์แจ่มใสค่ะ ดิฉันชอบ Cookie เพราะเป็นนิยายเล่มเล็ก อ่านง่ายพล็อตไม่ปวดหัว ไม่ต้องคิดอะไรมากในการอ่าน ดังนั้นถ้าเวลาที่ต้องการผ่อนคลายจากนิยายหนักๆ ดิฉันจึงเรื่องแนวนี้ขึ้นมาอ่าน
พล็อตไม่ได้แปลกใหม่อะไรมากค่ะ เป็นเรื่องความสัมพันธ์คืนเดียวระหว่างนางเอกและพระเอก เพราะผิดหวังจากความรักครั้งปัจจุบัน นางเอกของเราจึงไปดื่มเหล้าเมามายประชดรักและได้พบกับพระเอกจนเผลอมีอะไรกันด้วยความเมา เมื่อตื่นขึ้นมาเธอจึงรีบเผ่นหนี ไม่อยากจะทำความรู้จักเพื่อนนอนของเธอ แล้วเหมือนโชคชะตาเล่นตลก เมื่อทำให้เธอต้องมาพบกับเขาซึ่งอาศัยอย่ในตึกเดียวกัน พระเอกก็น่ารักค่ะ เพราะเขาชอบเธอเลยอยากสานสัมพันธ์ แต่นางเอกอาจจะแบบว่าเพิ่งผิดหวังจากแฟนเก่ามาเลยไม่อยากจะเปิดใจให้ใครง่ายๆ แต่พระเอกไม่ยอมแพ้ค่ะ ถือคติตื้อเท่านั้นที่ครองโลก ดิฉันให้คะแนนความพยายามของพระเอกเลยในการสรรหาวิธีมาทำให้นางเอกเปิดใจ เริ่มตั้งแต่เอาชนะใจเพื่อนร่วมห้องของเธอ สามสาวเป็นนักเขียนที่ไม่ค่อยดูแลตัวเองและกินไม่เป็นเวลา พระเอกก็ใช้อาหารเนี่ยล่ะค่ะ เป็นตัวช่วย โอ้โห เพื่อนนางเอกสองคนเห็นแก่กินเลยยอมช่วยพระเอก ฮ่าๆๆๆ

สิ่งที่ชื่นชอบที่สุดในนิยายเรื่องนี้ สำหรับดิฉัน ขอบอกเลยค่ะว่าอิจฉานางเอกมากกกกกกก ที่ได้คนอย่างพระเอกมาคอยรักคอยตามใจ นางเอกเรื่องนี้มีบางช่วงเธอจะมีอารมณ์ผู้หญิ๊งผู้หญิง งี่เง่านิดๆ ปรี๊ดแตกเป็นบางวัน แต่พระเอกยังอดทนและรักเธอเสมอ อ่อ ไม่ชอบนางเอกเพราะเธอสูบบุหรี่ด้วยค่ะ แต่พระเอกก็มีวิธีพูดจนเธอยอมเลิกนะเอ้า ให้ตายสิดิฉันละอิจฉาจริงๆ ไม่รู้ว่าเธอทำบุญมาด้วยอะไร ขำฉากที่เมื่อเขาติดธุระ ยังโทรไปหาพ่อเพื่อให้คอยดูแลนางเอกแทนเขา โอ๊ยย ไม่รักก็บ้าแล้วจ้า เหมือนช่วงที่พระเอกไปทำธุระเนี่ยแหละค่ะ ที่ทำให้นางเอกรู้ตัวว่าเธอก็รักและขาดพระเอกไม่ได้เช่นกัน

เรื่องราวยังไม่จบถึงแม้หัวใจสองดวงจะตรงกัน เมื่อพระเอกต้องเลือกระหว่างความฝันกับนางเอก เพราะเธอดูเหมือนจะไม่แฮปปี้กับความฝันเขาเลยสักนิด เอิ่ม บอกทีค่ะว่าเธอคือนางเอกตัวจริง ส่วนพระเอกนะเหรอคะ นิยายฉากนี้จะมีอารมณ์พ่อแง่แม่งอนบ้าง แต่ไม่นานนักเพราะพระเอกเรื่องนี้พี่แกตามมาง้อจ้า นางเอกเลยไม่งี่เง่าอีกต่อไป จบลงอย่างแฮปปี้ พระเอกได้ทำความฝันที่ตนเองต้องการพร้อมกับได้รักกับนางเอกค่ะ

“ Rose, Rose, I Love You” เป็นอีกหนึ่งผลงานของเตี่ยนซิน ภายใต้แนว Cookie นิยายจีนแปลขอสำนักพิมพ์แจ่มใสค่ะ ดิฉันชอบ Cookie เพราะเป็นนิยายเล่มเล็ก อ่านง่ายพล็อตไม่ปวดหัว ไม่ต้องคิดอะไรมากในการอ่าน ดังนั้นถ้าเวลาที่ต้องการผ่อนคลายจากนิยายหนักๆ ดิฉันจึงเรื่องแนวนี้ขึ้นมาอ่าน
พล็อตไม่ได้แปลกใหม่อะไรมากค่ะ เป็นเรื่องความสัมพันธ์คืนเดียวระหว่างนางเอกและพระเอก เพราะผิดหวังจากความรักครั้งปัจจุบัน นางเอกของเราจึงไปดื่มเหล้าเมามายประชดรักและได้พบกับพระเอกจนเผลอมีอะไรกันด้วยความเมา เมื่อตื่นขึ้นมาเธอจึงรีบเผ่นหนี ไม่อยากจะทำความรู้จักเพื่อนนอนของเธอ แล้วเหมือนโชคชะตาเล่นตลก เมื่อทำให้เธอต้องมาพบกับเขาซึ่งอาศัยอย่ในตึกเดียวกัน พระเอกก็น่ารักค่ะ เพราะเขาชอบเธอเลยอยากสานสัมพันธ์ แต่นางเอกอาจจะแบบว่าเพิ่งผิดหวังจากแฟนเก่ามาเลยไม่อยากจะเปิดใจให้ใครง่ายๆ แต่พระเอกไม่ยอมแพ้ค่ะ ถือคติตื้อเท่านั้นที่ครองโลก ดิฉันให้คะแนนความพยายามของพระเอกเลยในการสรรหาวิธีมาทำให้นางเอกเปิดใจ เริ่มตั้งแต่เอาชนะใจเพื่อนร่วมห้องของเธอ สามสาวเป็นนักเขียนที่ไม่ค่อยดูแลตัวเองและกินไม่เป็นเวลา พระเอกก็ใช้อาหารเนี่ยล่ะค่ะ เป็นตัวช่วย โอ้โห เพื่อนนางเอกสองคนเห็นแก่กินเลยยอมช่วยพระเอก ฮ่าๆๆๆ

สิ่งที่ชื่นชอบที่สุดในนิยายเรื่องนี้ สำหรับดิฉัน ขอบอกเลยค่ะว่าอิจฉานางเอกมากกกกกกก ที่ได้คนอย่างพระเอกมาคอยรักคอยตามใจ นางเอกเรื่องนี้มีบางช่วงเธอจะมีอารมณ์ผู้หญิ๊งผู้หญิง งี่เง่านิดๆ ปรี๊ดแตกเป็นบางวัน แต่พระเอกยังอดทนและรักเธอเสมอ อ่อ ไม่ชอบนางเอกเพราะเธอสูบบุหรี่ด้วยค่ะ แต่พระเอกก็มีวิธีพูดจนเธอยอมเลิกนะเอ้า ให้ตายสิดิฉันละอิจฉาจริงๆ ไม่รู้ว่าเธอทำบุญมาด้วยอะไร ขำฉากที่เมื่อเขาติดธุระ ยังโทรไปหาพ่อเพื่อให้คอยดูแลนางเอกแทนเขา โอ๊ยย ไม่รักก็บ้าแล้วจ้า เหมือนช่วงที่พระเอกไปทำธุระเนี่ยแหละค่ะ ที่ทำให้นางเอกรู้ตัวว่าเธอก็รักและขาดพระเอกไม่ได้เช่นกัน

เรื่องราวยังไม่จบถึงแม้หัวใจสองดวงจะตรงกัน เมื่อพระเอกต้องเลือกระหว่างความฝันกับนางเอก เพราะเธอดูเหมือนจะไม่แฮปปี้กับความฝันเขาเลยสักนิด เอิ่ม บอกทีค่ะว่าเธอคือนางเอกตัวจริง ส่วนพระเอกนะเหรอคะ นิยายฉากนี้จะมีอารมณ์พ่อแง่แม่งอนบ้าง แต่ไม่นานนักเพราะพระเอกเรื่องนี้พี่แกตามมาง้อจ้า นางเอกเลยไม่งี่เง่าอีกต่อไป จบลงอย่างแฮปปี้ พระเอกได้ทำความฝันที่ตนเองต้องการพร้อมกับได้รักกับนางเอกค่ะ

“สายเลือดแดนตะวัน” เป็นนิยายเล่มทุดท้ายในซีรีส์ชุด Rising Sun ค่ะ หากใครยังจำตัวละครจากสองเล่มก่อนหน้าได้ เรื่องนี้จุดเริ่มต้นมาจากการที่ “ริว” ซึ่งคิดว่าเขาไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้ากลุ่ม จึงหาทางเพื่อให้สายเลือดของเขาอย่าง “ทัตสึโอะ” หรือ “ฮิโรมิ” ลูกชายและลูกสาวเขาได้แต่งงานลงเอยกับทายาทของ “ทาเคชิ” ผู้ที่มีสิทธิอันชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งหัวหน้า เมื่อบอกกันดีๆไม่มีใครฟัง ริวเลยต้องวางแผนเพื่อให้ “ทัตสึโอะ” เข้าใจผิดว่า “พราวตะวัน” ลูกสาวของทาเคชิเป็นผู้ขโมยเงินของตระกูลโอนิสึกะไป “ทัตสึโอะ” จึงไม่รอช้า ดักจับตัว “พราวตะวันมาเพื่อลงโทษ และเรียกค่าไถ่จากพ่อเธอ ส่วน “ฮิโรมิ” ริวก็ส่งเธอมาช่วย “ภาสกานต์” ตามสืบหาคนร้ายที่จับตัวน้องสาวเขาไป คือความจริงแล้วริวส่ง “ฮิโรมิ”มาช่วยกลบเกลื่อนร่องรอยความผิดที่ “ทัตสึโอะ”ผู้เป็นพี่ทำไว้มากกว่า ตอนแรกเธอไม่รู้ค่ะว่าเป็นแผนของพ่อ แต่ด้วยความฉลาดเลยปะติดปะต่อเรื่องราวได้อย่างเทพ แถมยังรู้ด้วยว่า “ทาเคชิ” ยังไม่ตาย ฉลาดไหมละคะ ดังนั้นเธอเลยพยายามสรรหาทุกวิธีทางเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ “ภาสกานต์” จากเรื่องน้องสาว ความรู้สึกดีๆระหว่างกันจึงเริ่มก่อตัวขึ้นค่ะ ดิฉันให้คะแนนคู่นี้มากกว่าคู่หลักอีกนะคะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันดิฉันถึงชอบคู่นี้มากกว่าคู่หลักอีก อาจจะเป็นที่คาเรกเตอร์ของ “ฮิโรมิ”ที่เป็นคนนิ่งๆ ฉลาดหลักแหลม คล้ายๆ “มายูมิ”แม่ของเธอค่ะ

ส่วนคู่หลักอย่าง “ทัตสึโอะ”กับ “พราวตะวัน” นางเอกเราพยายามอเสมอว่าเธอไม่ได้ขโมยเงินเขาไป พระเอกตอนแรกเหมือนไม่เชื่อไม่ฟังคำแก้ตัว แต่ยังมิวายแอบหลงเสน่ห์เธอจนได้ ความใกล้ชิดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว “พราวตะวัน”ต้องหักห้ามใจเพราะเธอมีแฟนที่กำลังจะแต่งงานกัน ฉากที่ดิฉันชอบเวลาเรื่องตัดมาที่คู่นี้คือบรรดาลูกน้องของ “ทัตสึโอะ”ที่รู้ความจริงต่างพากันช่วยวางแผนให้ทั้งคู่รักกัน คือตลกดีค่ะ เพราะ “พราวตะวัน”จับได้เกือบทุกคน 55555+
ฝ่าย “ทาเคชิ” กับ “แพรวดาว” ที่หนีมาใช้ชีวิตในไทย เมื่อรู้ลูกสาวโดนจับตัวไปเรียกค่าไถ่จริงๆ ก็ได้แต่เป็นห่วงลูกสาว งานนี้ “ริว” เริ่มยิ้มไม่ออก เพราะเขารู้ดีว่าเมื่อความจริงเปิดเผย โทษของตนจะเป็นเช่นไร และเหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง “ริว”ค่ะ เพราะฟ้าดันส่ง “ไอโกะ” อดีตคู่หมั้น “ทาเคชิ” มาเป็นตัวร้ายของเรื่องนี้อย่างเต็มตัวอีกครั้ง ทำให้ “ทาเคชิ”ยิ่งเป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับลูกสาว เพราะลูกชายคนสุดท้องของ “ริว” ถูกปองร้าย เรื่องมาแดงเพราะ “ไอโกะ” เนี่ยแหละค่ะ วางแผนจะทำร้ายพวกโอนิซึกะอีกครั้ง งานนี้ “ทาเคชิ” เมื่อรู้ความจริงเลยได้แต่ทั้งโกรธและอึ้ง ฉากนี้ดิฉันชอบนะคะ เพราะทั้ง “ริว”และ “ทาเคชิ” ต่างเปิดเผยความในใจให้อีกฝ่ายรู้ ปมในใจของริวจึงถูกระบายเหมือนยกภูเขาออกจากอก อีกอย่างเขาพ้นโทษเพราะความรักของ “ทัตสึโอะ”กับ “พราวตะวัน”และ “ฮิโรมิ”กับ”ภาสกานต์” ค่ะ ฉากนี้น่าตื่นเต้นไม่น้อยต้องติดตามเองนะคะ

เรื่องนี้จบลงท่ามกลางความรักและความเข้าใจกันอย่างเหนียวแน่นระหว่างครอบครัวของ “ริว” และ “ทาเคชิ” ซึ่งบทบาทของทั้งคู่เด่นกลบตัวละครอื่นไปหมดเลยค่ะ ในช่วงหลังอ่านแล้วซึ้งกับความรักที่คู่นี้มีให้กันจริงๆ (อย่าจิ้นวายนะคะ ดิฉันขอ 5555+) จบแบบแฮปปี้ มีความสุขกันทุกคน ปิดตัวซีรีส์เซตนี้ได้อย่างลงตัวและงดงามค่ะ

“สายเลือดแดนตะวัน” เป็นนิยายเล่มทุดท้ายในซีรีส์ชุด Rising Sun ค่ะ หากใครยังจำตัวละครจากสองเล่มก่อนหน้าได้ เรื่องนี้จุดเริ่มต้นมาจากการที่ “ริว” ซึ่งคิดว่าเขาไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้ากลุ่ม จึงหาทางเพื่อให้สายเลือดของเขาอย่าง “ทัตสึโอะ” หรือ “ฮิโรมิ” ลูกชายและลูกสาวเขาได้แต่งงานลงเอยกับทายาทของ “ทาเคชิ” ผู้ที่มีสิทธิอันชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งหัวหน้า เมื่อบอกกันดีๆไม่มีใครฟัง ริวเลยต้องวางแผนเพื่อให้ “ทัตสึโอะ” เข้าใจผิดว่า “พราวตะวัน” ลูกสาวของทาเคชิเป็นผู้ขโมยเงินของตระกูลโอนิสึกะไป “ทัตสึโอะ” จึงไม่รอช้า ดักจับตัว “พราวตะวันมาเพื่อลงโทษ และเรียกค่าไถ่จากพ่อเธอ ส่วน “ฮิโรมิ” ริวก็ส่งเธอมาช่วย “ภาสกานต์” ตามสืบหาคนร้ายที่จับตัวน้องสาวเขาไป คือความจริงแล้วริวส่ง “ฮิโรมิ”มาช่วยกลบเกลื่อนร่องรอยความผิดที่ “ทัตสึโอะ”ผู้เป็นพี่ทำไว้มากกว่า ตอนแรกเธอไม่รู้ค่ะว่าเป็นแผนของพ่อ แต่ด้วยความฉลาดเลยปะติดปะต่อเรื่องราวได้อย่างเทพ แถมยังรู้ด้วยว่า “ทาเคชิ” ยังไม่ตาย ฉลาดไหมละคะ ดังนั้นเธอเลยพยายามสรรหาทุกวิธีทางเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ “ภาสกานต์” จากเรื่องน้องสาว ความรู้สึกดีๆระหว่างกันจึงเริ่มก่อตัวขึ้นค่ะ ดิฉันให้คะแนนคู่นี้มากกว่าคู่หลักอีกนะคะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันดิฉันถึงชอบคู่นี้มากกว่าคู่หลักอีก อาจจะเป็นที่คาเรกเตอร์ของ “ฮิโรมิ”ที่เป็นคนนิ่งๆ ฉลาดหลักแหลม คล้ายๆ “มายูมิ”แม่ของเธอค่ะ

ส่วนคู่หลักอย่าง “ทัตสึโอะ”กับ “พราวตะวัน” นางเอกเราพยายามอเสมอว่าเธอไม่ได้ขโมยเงินเขาไป พระเอกตอนแรกเหมือนไม่เชื่อไม่ฟังคำแก้ตัว แต่ยังมิวายแอบหลงเสน่ห์เธอจนได้ ความใกล้ชิดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว “พราวตะวัน”ต้องหักห้ามใจเพราะเธอมีแฟนที่กำลังจะแต่งงานกัน ฉากที่ดิฉันชอบเวลาเรื่องตัดมาที่คู่นี้คือบรรดาลูกน้องของ “ทัตสึโอะ”ที่รู้ความจริงต่างพากันช่วยวางแผนให้ทั้งคู่รักกัน คือตลกดีค่ะ เพราะ “พราวตะวัน”จับได้เกือบทุกคน 55555+
ฝ่าย “ทาเคชิ” กับ “แพรวดาว” ที่หนีมาใช้ชีวิตในไทย เมื่อรู้ลูกสาวโดนจับตัวไปเรียกค่าไถ่จริงๆ ก็ได้แต่เป็นห่วงลูกสาว งานนี้ “ริว” เริ่มยิ้มไม่ออก เพราะเขารู้ดีว่าเมื่อความจริงเปิดเผย โทษของตนจะเป็นเช่นไร และเหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง “ริว”ค่ะ เพราะฟ้าดันส่ง “ไอโกะ” อดีตคู่หมั้น “ทาเคชิ” มาเป็นตัวร้ายของเรื่องนี้อย่างเต็มตัวอีกครั้ง ทำให้ “ทาเคชิ”ยิ่งเป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับลูกสาว เพราะลูกชายคนสุดท้องของ “ริว” ถูกปองร้าย เรื่องมาแดงเพราะ “ไอโกะ” เนี่ยแหละค่ะ วางแผนจะทำร้ายพวกโอนิซึกะอีกครั้ง งานนี้ “ทาเคชิ” เมื่อรู้ความจริงเลยได้แต่ทั้งโกรธและอึ้ง ฉากนี้ดิฉันชอบนะคะ เพราะทั้ง “ริว”และ “ทาเคชิ” ต่างเปิดเผยความในใจให้อีกฝ่ายรู้ ปมในใจของริวจึงถูกระบายเหมือนยกภูเขาออกจากอก อีกอย่างเขาพ้นโทษเพราะความรักของ “ทัตสึโอะ”กับ “พราวตะวัน”และ “ฮิโรมิ”กับ”ภาสกานต์” ค่ะ ฉากนี้น่าตื่นเต้นไม่น้อยต้องติดตามเองนะคะ

เรื่องนี้จบลงท่ามกลางความรักและความเข้าใจกันอย่างเหนียวแน่นระหว่างครอบครัวของ “ริว” และ “ทาเคชิ” ซึ่งบทบาทของทั้งคู่เด่นกลบตัวละครอื่นไปหมดเลยค่ะ ในช่วงหลังอ่านแล้วซึ้งกับความรักที่คู่นี้มีให้กันจริงๆ (อย่าจิ้นวายนะคะ ดิฉันขอ 5555+) จบแบบแฮปปี้ มีความสุขกันทุกคน ปิดตัวซีรีส์เซตนี้ได้อย่างลงตัวและงดงามค่ะ

“กติกาหัวใจ” เป็นนิยายอีกเรื่องในซีรีส์ชุดเกาะรักค่ะ เรื่องนี้นางเอก “พริมา” เธอเป็นพีอาร์สาวที่เข้าไปดูแลโครงการจัดตั้งศูนย์ทดลองการใช้โลมาบำบัดแห่งแรกในประเทศไทย เปิดเรื่องมาก็แซ่บแล้วค่ะ เพราะนางเอกเผลอไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจาก “ภควัต” พระเอกของเรานิเอง ซึ่งเธอมารู้ตอนหลังว่าพระเอกเป็นนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญทางด้านใช้คลื่นเสียงของโลมาในการบำบัด นางเอกเรื่องนี้เธอมีนิสัยแปลกๆไม่ธรรมดานะคะ ซึ่งความแปลกนี้อาจจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้พระเอกให้ความสนใจเธอตั้งแต่เริ่มต้น เพราะเธอไม่โวยวายให้เขารับผิดชอบค่ำคืนที่ทั้งคู่ผ่านมาด้วยกันอย่างเร่าร้อน พระเอกเลยต้องเป็นฝ่ายบอกเองว่าถ้าเธอท้องเขาก็ยินดีที่จะรับผิดชอบ แมนมว๊ากมาก จะว่าไปแล้วนางเอกเธอเป็นคนมีเสน่ห์ในตัวของเธอเอง การถูกเลี้ยงดูแบบชีวิตอยู่ในกรอบมาตลอด อาจจะบ่มเพาะนิสัยให้เธอเป็นคนหัวอ่อน ไม่กล้าตัดสินใจและไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง เนื่องจากทำตามความต้องการของคนในครอบครัวมาตลอด เลยทำให้เธอรู้สึกโหยหาอิสระ ดังนั้นเธอจึงมาที่เกาะไข่มุกและฉีกกรอบที่ทางบ้านสอนมาอย่างเรียบวุธด้วยการมีอะไรกับผู้ชายแปลกหน้า
ฝ่ายพระเอก เขาใช้ชีวิตอยู่ในกรอบและกติกาที่ถูกต้อง(ตามที่ถูกปลูกฝังจากครอบครัว)มาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะรับผิดชอบนางเอกยังไงละคะ แต่ไม่รู้ทำไมพอได้มาเริ่มทำความรู้จักกัน พระเอกก็เริ่มมีความรู้สึกดีๆกับนางเอกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บอกแล้วไงคะว่านางเอกเธอเป็นคนประหลาด น่ารักในแบบของเธอ ไม่ยากที่จะทำให้ใครหลายๆคนประทับใจ มีหนุ่มลูกครึ่งเกาหลีมาติดพันด้วยน๊า พระเอกเลยเริ่มรู้สึกตัวว่ามีอาการไม่พอใจทุกครั้งที่นางเอกสนใจผู้ชายคนอื่น เอ่อะ แถวบ้านดิฉันเรียกว่าหึงค่ะขุ่นพี่
ความรักของพระนางจะถูกสลับไปด้วยความรู้เกี่ยวกับการใช้โลมาบำบัดค่ะ นางเอกต้องเป็นคนนำเสนองานนี้ด้วย แล้วเธอก็ทำได้ดีจนพระเอกยอมตกลงทำงานร่วมกับทีมงานของนางเอก เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้นค่ะ เพราะอยู่ๆคู่หมั้นพระเอกก็ปรากฏตัว นางเอกจ๋อยไปเลย เพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นถึงนางแบบที่ทางบ้านของทั้งคู่เห็นว่าเหมาะสมกัน ยิ่งวุ่นวายไปกันใหญ่เมื่อนางเอกดันไปทำให้พระเอกโมโหค่ะ ทะเลาะกันยกใหญ่ เพราะคนหนึ่งเต็มไปด้วยกติกาชีวิต ส่วนอีกคนหนีกรอบเดิมๆจากครอบครัวมา น่าติดตามนะคะว่าทั้งคู่จะลงเอยกันอย่างไร
ฉากจบของเรื่องถือว่าทำได้ดีค่ะ เป็นฉากที่หนักสุดของเรื่องก็ว่าได้ นางเอกกลับบ้าน ได้ข้อคิดต่างๆมากมายเกี่ยวกับครอบครัวและการใช้ชีวิต ส่วนพระเอกยอมเปิดเผยปมอดีตของตัวเองให้นางเอกรู้ ว่าทำไมชีวิตเขาถึงต้องทำแต่ความถูกต้อง อ๊ะ อยากรู้กันใช่ไหม?? ดิฉันซาบซึ้งมากกับคำพูดของนางเอกที่พูดกับพระเอกท้ายเรื่อง อ่านแล้วรู้สึกอินค่ะ นิยายเรื่องนี้ตัวละครไม่ซับซ้อนค่ะ อ่านง่ายๆสบายๆ ใครชอบลองหาอ่านดูนะคะ

“กติกาหัวใจ” เป็นนิยายอีกเรื่องในซีรีส์ชุดเกาะรักค่ะ เรื่องนี้นางเอก “พริมา” เธอเป็นพีอาร์สาวที่เข้าไปดูแลโครงการจัดตั้งศูนย์ทดลองการใช้โลมาบำบัดแห่งแรกในประเทศไทย เปิดเรื่องมาก็แซ่บแล้วค่ะ เพราะนางเอกเผลอไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจาก “ภควัต” พระเอกของเรานิเอง ซึ่งเธอมารู้ตอนหลังว่าพระเอกเป็นนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญทางด้านใช้คลื่นเสียงของโลมาในการบำบัด นางเอกเรื่องนี้เธอมีนิสัยแปลกๆไม่ธรรมดานะคะ ซึ่งความแปลกนี้อาจจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้พระเอกให้ความสนใจเธอตั้งแต่เริ่มต้น เพราะเธอไม่โวยวายให้เขารับผิดชอบค่ำคืนที่ทั้งคู่ผ่านมาด้วยกันอย่างเร่าร้อน พระเอกเลยต้องเป็นฝ่ายบอกเองว่าถ้าเธอท้องเขาก็ยินดีที่จะรับผิดชอบ แมนมว๊ากมาก จะว่าไปแล้วนางเอกเธอเป็นคนมีเสน่ห์ในตัวของเธอเอง การถูกเลี้ยงดูแบบชีวิตอยู่ในกรอบมาตลอด อาจจะบ่มเพาะนิสัยให้เธอเป็นคนหัวอ่อน ไม่กล้าตัดสินใจและไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง เนื่องจากทำตามความต้องการของคนในครอบครัวมาตลอด เลยทำให้เธอรู้สึกโหยหาอิสระ ดังนั้นเธอจึงมาที่เกาะไข่มุกและฉีกกรอบที่ทางบ้านสอนมาอย่างเรียบวุธด้วยการมีอะไรกับผู้ชายแปลกหน้า
ฝ่ายพระเอก เขาใช้ชีวิตอยู่ในกรอบและกติกาที่ถูกต้อง(ตามที่ถูกปลูกฝังจากครอบครัว)มาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะรับผิดชอบนางเอกยังไงละคะ แต่ไม่รู้ทำไมพอได้มาเริ่มทำความรู้จักกัน พระเอกก็เริ่มมีความรู้สึกดีๆกับนางเอกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บอกแล้วไงคะว่านางเอกเธอเป็นคนประหลาด น่ารักในแบบของเธอ ไม่ยากที่จะทำให้ใครหลายๆคนประทับใจ มีหนุ่มลูกครึ่งเกาหลีมาติดพันด้วยน๊า พระเอกเลยเริ่มรู้สึกตัวว่ามีอาการไม่พอใจทุกครั้งที่นางเอกสนใจผู้ชายคนอื่น เอ่อะ แถวบ้านดิฉันเรียกว่าหึงค่ะขุ่นพี่
ความรักของพระนางจะถูกสลับไปด้วยความรู้เกี่ยวกับการใช้โลมาบำบัดค่ะ นางเอกต้องเป็นคนนำเสนองานนี้ด้วย แล้วเธอก็ทำได้ดีจนพระเอกยอมตกลงทำงานร่วมกับทีมงานของนางเอก เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้นค่ะ เพราะอยู่ๆคู่หมั้นพระเอกก็ปรากฏตัว นางเอกจ๋อยไปเลย เพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นถึงนางแบบที่ทางบ้านของทั้งคู่เห็นว่าเหมาะสมกัน ยิ่งวุ่นวายไปกันใหญ่เมื่อนางเอกดันไปทำให้พระเอกโมโหค่ะ ทะเลาะกันยกใหญ่ เพราะคนหนึ่งเต็มไปด้วยกติกาชีวิต ส่วนอีกคนหนีกรอบเดิมๆจากครอบครัวมา น่าติดตามนะคะว่าทั้งคู่จะลงเอยกันอย่างไร
ฉากจบของเรื่องถือว่าทำได้ดีค่ะ เป็นฉากที่หนักสุดของเรื่องก็ว่าได้ นางเอกกลับบ้าน ได้ข้อคิดต่างๆมากมายเกี่ยวกับครอบครัวและการใช้ชีวิต ส่วนพระเอกยอมเปิดเผยปมอดีตของตัวเองให้นางเอกรู้ ว่าทำไมชีวิตเขาถึงต้องทำแต่ความถูกต้อง อ๊ะ อยากรู้กันใช่ไหม?? ดิฉันซาบซึ้งมากกับคำพูดของนางเอกที่พูดกับพระเอกท้ายเรื่อง อ่านแล้วรู้สึกอินค่ะ นิยายเรื่องนี้ตัวละครไม่ซับซ้อนค่ะ อ่านง่ายๆสบายๆ ใครชอบลองหาอ่านดูนะคะ

“ทะเลกามเทพ” เป็นหนึ่งในนิยายชุดเกาะรักค่ะ อารมณ์ของเรื่องนี้ เน้นความหวานล้วนๆ เหตุการณ์ของเรื่องเริ่มจาก “กิ่งดาว” นางเอกของเรื่องตกอยู่ในอันตราย เพราะชีวิตเกิดมาร่ำรวย เธอเลยโดนพวกที่เป็นคู่แข่งของธุรกิจของครอบครัวลอบยิง ดังนั้นเธอจึงต้องตกอยู่ในความดูแลของ “ศาสตรา” พระเอกที่เป็นลูกชายของเพื่อนแม่ การแต่งงานกำมะลอจึงเกิดขึ้น เพราะ “วาโย” แฟนหนุ่มของนางเอกไม่สามารถเข้ามารับผิดชอบและดูแลนางเอกได้ ทั้งพระเอกและนางเอกเลยไปใช้ชีวิตแต่งงานปลอมๆร่วมกันที่เกาะไข่มุก เพราะนางเอกต้องเดินทางไปช่วยงานกอองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง “เกาะรัก” ค่ะ

ที่บอกว่าเรื่องนี้เป็นนิยายหวาน เพราะคุณพระเอกเธอแอบรักนางเอกมานานแล้ว อาจจะฟังดูเวอร์ไปนิด แต่พระเอกของเราบอกกับคนอ่านค่ะว่า หลงรักตั้งแต่เห็นรูปแล้วค่าคุณๆขา เรียกนางเอกว่า “น้อง” ทุกคำเลยนะ >///< ฝ่ายนางเอกก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเล้ย เพราะคาเรอเตอร์นางเอกจะเป็นหญิงสาวที่ถูกเลี้ยงแบบไข่ในหิน ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ลุคเลยดูใสๆ ซื่อๆ เป็นลูกคุณหนูค่ะ พอได้ใกล้ชิดนางเอกด้วยความเป็นคนมีจิตใจดีก็ยิ่งทำให้พระเอกหวั่นไหว แต่พระเอกยังไม่ทันได้สร้างความประทับใจหรือบอกรักนานนัก แฟนนางเอกก็ตามมาหึงหวงถึงเกาะไข่มุก ความจริงดิฉันควรจะไม่ชอบพระเอกเพราะเขาฉวยโอกาสแต่งงานกับนางเอกทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว แต่ทำไม๊ทำไมถึงเกลียดคุณศาสตราไม่ลงไม่รู้ อีกอย่างเหตุผลที่ผู้เขียนบรรยายมันทำให้ดิฉันรู้สึกเชียร์พระเอกมากกว่าแฟนนางเอกค่ะ เพราะถ้าเขารักนางเอกจริงควรจะแต่งงานกับเธอตั้งแต่ตอนนั้น หมั่นไส้แฟนนางเอกเลเวลอัพไปอีกเมื่อพยายามมาพร่ำเพ้อถึงอดีตของตัวเองกับนางเอกให้พระเอกฟัง งานนี้พระเอกก็หึงลมออกหูสิคะ แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะนางเอกยังไม่รับรักตัวเอง

ยังไม่ทันเข้าใจหัวใจตัวเอง นางเอกก็ดันมารู้อีกค่ะ ว่าถูกหลอกให้แต่งงานกับพระเอก เธอเลยวีนเหวี่ยงจะตัดสัมพันธ์ หันไปคืนดีกับคนรัก (โถ่...คุณศาสตราอยากได้คนตามอกไหมคะ) งานนี้ต้องมาตามลุ้นท้ายเรื่องค่ะ ว่าทั้งคู่จะลงเอยกันได้อย่างไร ซึ่งไม่ได้ยืดยาวจนคนอ่านรำคาญใจเลย เพราะนางเอกเริ่มรู้ตัวแล้วค่ะ ว่าเธอก็รักพระเอกไม่น้อย ก็แหม คนีท่เขารักเราขนาดนั้น ปล่อยไปเธอก็โง่แล้วย่ะแม่กิ่งดาว ดังนั้นฉากจบจึงเป็นอะไรที่คิดว่าคนอ่านตั้งตารอกับความหวานของคู่พระนางเมื่อยอมรับหัวใจตัวเองกันโดยไม่มีอะไรมากั้น ใครชอบนิยายอ่านง่ายๆหวานๆ อารมณ์ตัวละครไม่มีอะไรซับซ้อน ลองหามาอ่านกันดูนะคะ

“ทะเลกามเทพ” เป็นหนึ่งในนิยายชุดเกาะรักค่ะ อารมณ์ของเรื่องนี้ เน้นความหวานล้วนๆ เหตุการณ์ของเรื่องเริ่มจาก “กิ่งดาว” นางเอกของเรื่องตกอยู่ในอันตราย เพราะชีวิตเกิดมาร่ำรวย เธอเลยโดนพวกที่เป็นคู่แข่งของธุรกิจของครอบครัวลอบยิง ดังนั้นเธอจึงต้องตกอยู่ในความดูแลของ “ศาสตรา” พระเอกที่เป็นลูกชายของเพื่อนแม่ การแต่งงานกำมะลอจึงเกิดขึ้น เพราะ “วาโย” แฟนหนุ่มของนางเอกไม่สามารถเข้ามารับผิดชอบและดูแลนางเอกได้ ทั้งพระเอกและนางเอกเลยไปใช้ชีวิตแต่งงานปลอมๆร่วมกันที่เกาะไข่มุก เพราะนางเอกต้องเดินทางไปช่วยงานกอองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง “เกาะรัก” ค่ะ

ที่บอกว่าเรื่องนี้เป็นนิยายหวาน เพราะคุณพระเอกเธอแอบรักนางเอกมานานแล้ว อาจจะฟังดูเวอร์ไปนิด แต่พระเอกของเราบอกกับคนอ่านค่ะว่า หลงรักตั้งแต่เห็นรูปแล้วค่าคุณๆขา เรียกนางเอกว่า “น้อง” ทุกคำเลยนะ >///< ฝ่ายนางเอกก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเล้ย เพราะคาเรอเตอร์นางเอกจะเป็นหญิงสาวที่ถูกเลี้ยงแบบไข่ในหิน ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ลุคเลยดูใสๆ ซื่อๆ เป็นลูกคุณหนูค่ะ พอได้ใกล้ชิดนางเอกด้วยความเป็นคนมีจิตใจดีก็ยิ่งทำให้พระเอกหวั่นไหว แต่พระเอกยังไม่ทันได้สร้างความประทับใจหรือบอกรักนานนัก แฟนนางเอกก็ตามมาหึงหวงถึงเกาะไข่มุก ความจริงดิฉันควรจะไม่ชอบพระเอกเพราะเขาฉวยโอกาสแต่งงานกับนางเอกทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว แต่ทำไม๊ทำไมถึงเกลียดคุณศาสตราไม่ลงไม่รู้ อีกอย่างเหตุผลที่ผู้เขียนบรรยายมันทำให้ดิฉันรู้สึกเชียร์พระเอกมากกว่าแฟนนางเอกค่ะ เพราะถ้าเขารักนางเอกจริงควรจะแต่งงานกับเธอตั้งแต่ตอนนั้น หมั่นไส้แฟนนางเอกเลเวลอัพไปอีกเมื่อพยายามมาพร่ำเพ้อถึงอดีตของตัวเองกับนางเอกให้พระเอกฟัง งานนี้พระเอกก็หึงลมออกหูสิคะ แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะนางเอกยังไม่รับรักตัวเอง

ยังไม่ทันเข้าใจหัวใจตัวเอง นางเอกก็ดันมารู้อีกค่ะ ว่าถูกหลอกให้แต่งงานกับพระเอก เธอเลยวีนเหวี่ยงจะตัดสัมพันธ์ หันไปคืนดีกับคนรัก (โถ่...คุณศาสตราอยากได้คนตามอกไหมคะ) งานนี้ต้องมาตามลุ้นท้ายเรื่องค่ะ ว่าทั้งคู่จะลงเอยกันได้อย่างไร ซึ่งไม่ได้ยืดยาวจนคนอ่านรำคาญใจเลย เพราะนางเอกเริ่มรู้ตัวแล้วค่ะ ว่าเธอก็รักพระเอกไม่น้อย ก็แหม คนีท่เขารักเราขนาดนั้น ปล่อยไปเธอก็โง่แล้วย่ะแม่กิ่งดาว ดังนั้นฉากจบจึงเป็นอะไรที่คิดว่าคนอ่านตั้งตารอกับความหวานของคู่พระนางเมื่อยอมรับหัวใจตัวเองกันโดยไม่มีอะไรมากั้น ใครชอบนิยายอ่านง่ายๆหวานๆ อารมณ์ตัวละครไม่มีอะไรซับซ้อน ลองหามาอ่านกันดูนะคะ

ถ้าบอกว่าไม่อยากมีหน้าสวยใสดั่งสาวแรกรุ่น คงจะเป็นคำพูดที่โกหกใช่ไหมคะ ดิฉันเชื่อว่าผู้หญิงหลายๆคนใฝ่ฝันอยากให้ตัวเองมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์อยู่เป็นนิตย์ บางคนเน้นการเข้าสถานเสริมความงามกันเป็นว่าเล่น แต่เดี๋ยวนี้มีทางเลือกใหม่เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องเสียเงิน แถมยังดูสวยได้จากภายในแล้วค่ะ “บริหารหน้าไม่ให้ใครเรียกว่าป้า” จึงเป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบอกลาการศัลยกรรม สามารถทำเองได้ง่ายๆอย่างปลอดภัย

ว่าแล้วเราว่าเริ่มเปิดหนังสือกันเลยดีกว่า ผู้เขียนได้ทำการแบ่งหนังสือเล่มนี้เป็นสองส่วนหลักๆ คือส่วนของการออกกำลังกายใบหน้า และส่วนที่สองคือการใช้ไลฟ์สไตล์ของเราเพื่อช่วยเสริมให้หน้าอ่อนวัย โดยบทแรกผู้เขียนจะแนะนำพื้นฐานก่อนค่ะ นั่นคือการรู้จักสำรวจใบหน้าของตนเองว่าชั้นผิวแต่ละชั้นเป็นอย่างไร และช่วงอายุแต่ละช่วงจะมีสภาพผิวเป็นเช่นไร ดังนั้นเมื่อเรารู้แต่เนิ่นๆจะยิ่งส่งผลต่อการดูแลผิวในระยะยาวดีเท่านั้นนะคะ บทสองจึงตามมาติดๆกับการโยคะใบหน้า ร่างกายออกกำลังได้ฉันใด หน้าก็จำเป็นต้องออกกำลังกายฉันนั้นค่ะ ลองคิดภาพการวอร์มอัพร่างกายก่อนการออกกำลังกายจริงๆ การทำกับใบหน้าเราก้ใช้หลักเดียวกันค่ะ ผู้เขียนจะแนะนำให้ทำโยคะให้ทั่วไปหน้าก่อนแล้วค่อยเน้นเป็นจุดๆไป ใครมีปัญหาจุดไหนก็จัดไปตามนั้นเลยค่ะ มีตั้งแต่ ตา คิ้ว คอ ปาก แก้ม และดิฉันก็เพิ่งได้รู้จากเล่มนี้แหละค่ะว่าช้อนสามารถช่วยให้ผิวเด้งได้ คุณพระ!! ของใช้สามัญประจำบ้านที่ทุกคนต้องมีแน่ๆ หาได้ไม่อยากได้มีประโยชน์อย่างยิ่งค่ะ อ๊ะๆๆ อยากรู้ใช่ไหมคะว่าช้อนนั่นดีไฉน ไม่บอกค่ะ ต้องลองหามาอ่านกันดู บทต่อมาตามมาติดๆกับการกัวซา ชื่อนี้ดิฉันก็เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกันยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรแน่ชัดเลยยังไม่ได้ลองปฏิบัติอย่างแท้จริง ส่วนตัวเลยเลือกที่จะข้ามบทนี้ไปเลยค่ะ แหะๆ รอมีข้อมูลพร้อมค่อยว่ากัน ต่อมาผู้เขียนจะสอนวิธีการนวดกดจุดต่างๆบนใบหน้าและท่าบริหารสังหารริ้วรอย

ในส่วนที่สอง เมื่อเราออกกำลังใบหน้าเราเสร็จเรียบร้อย อาหารและการใช้ชีวิตประจำวันก็ส่งผลกับผิของเราเช่นกันนะคะ ผู้เขียนจะแนะนำอาหารและเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อผิวให้คนอ่านค่ะ สิ่งสำคัญที่ทำร้ายผิวคงหนีไม่พ้นสารอนุมูลอิสระ ดังนั้นแค่อาหารอาจจะยังไม่เพียงพอ พวกครีมป้องกันหรือบำรุงผิวจึงจำเป็นเพื่อช่วยให้ผิวดียิ่งขึ้นค่ะ ท้ายเล่มมีสูตรพอกหน้าหลายสูตรด้วยนะคะ ทำกันสนุกสนานเลยค่ะ

ถ้าบอกว่าไม่อยากมีหน้าสวยใสดั่งสาวแรกรุ่น คงจะเป็นคำพูดที่โกหกใช่ไหมคะ ดิฉันเชื่อว่าผู้หญิงหลายๆคนใฝ่ฝันอยากให้ตัวเองมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์อยู่เป็นนิตย์ บางคนเน้นการเข้าสถานเสริมความงามกันเป็นว่าเล่น แต่เดี๋ยวนี้มีทางเลือกใหม่เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องเสียเงิน แถมยังดูสวยได้จากภายในแล้วค่ะ “บริหารหน้าไม่ให้ใครเรียกว่าป้า” จึงเป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบอกลาการศัลยกรรม สามารถทำเองได้ง่ายๆอย่างปลอดภัย

ว่าแล้วเราว่าเริ่มเปิดหนังสือกันเลยดีกว่า ผู้เขียนได้ทำการแบ่งหนังสือเล่มนี้เป็นสองส่วนหลักๆ คือส่วนของการออกกำลังกายใบหน้า และส่วนที่สองคือการใช้ไลฟ์สไตล์ของเราเพื่อช่วยเสริมให้หน้าอ่อนวัย โดยบทแรกผู้เขียนจะแนะนำพื้นฐานก่อนค่ะ นั่นคือการรู้จักสำรวจใบหน้าของตนเองว่าชั้นผิวแต่ละชั้นเป็นอย่างไร และช่วงอายุแต่ละช่วงจะมีสภาพผิวเป็นเช่นไร ดังนั้นเมื่อเรารู้แต่เนิ่นๆจะยิ่งส่งผลต่อการดูแลผิวในระยะยาวดีเท่านั้นนะคะ บทสองจึงตามมาติดๆกับการโยคะใบหน้า ร่างกายออกกำลังได้ฉันใด หน้าก็จำเป็นต้องออกกำลังกายฉันนั้นค่ะ ลองคิดภาพการวอร์มอัพร่างกายก่อนการออกกำลังกายจริงๆ การทำกับใบหน้าเราก้ใช้หลักเดียวกันค่ะ ผู้เขียนจะแนะนำให้ทำโยคะให้ทั่วไปหน้าก่อนแล้วค่อยเน้นเป็นจุดๆไป ใครมีปัญหาจุดไหนก็จัดไปตามนั้นเลยค่ะ มีตั้งแต่ ตา คิ้ว คอ ปาก แก้ม และดิฉันก็เพิ่งได้รู้จากเล่มนี้แหละค่ะว่าช้อนสามารถช่วยให้ผิวเด้งได้ คุณพระ!! ของใช้สามัญประจำบ้านที่ทุกคนต้องมีแน่ๆ หาได้ไม่อยากได้มีประโยชน์อย่างยิ่งค่ะ อ๊ะๆๆ อยากรู้ใช่ไหมคะว่าช้อนนั่นดีไฉน ไม่บอกค่ะ ต้องลองหามาอ่านกันดู บทต่อมาตามมาติดๆกับการกัวซา ชื่อนี้ดิฉันก็เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกันยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรแน่ชัดเลยยังไม่ได้ลองปฏิบัติอย่างแท้จริง ส่วนตัวเลยเลือกที่จะข้ามบทนี้ไปเลยค่ะ แหะๆ รอมีข้อมูลพร้อมค่อยว่ากัน ต่อมาผู้เขียนจะสอนวิธีการนวดกดจุดต่างๆบนใบหน้าและท่าบริหารสังหารริ้วรอย

ในส่วนที่สอง เมื่อเราออกกำลังใบหน้าเราเสร็จเรียบร้อย อาหารและการใช้ชีวิตประจำวันก็ส่งผลกับผิของเราเช่นกันนะคะ ผู้เขียนจะแนะนำอาหารและเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อผิวให้คนอ่านค่ะ สิ่งสำคัญที่ทำร้ายผิวคงหนีไม่พ้นสารอนุมูลอิสระ ดังนั้นแค่อาหารอาจจะยังไม่เพียงพอ พวกครีมป้องกันหรือบำรุงผิวจึงจำเป็นเพื่อช่วยให้ผิวดียิ่งขึ้นค่ะ ท้ายเล่มมีสูตรพอกหน้าหลายสูตรด้วยนะคะ ทำกันสนุกสนานเลยค่ะ

ช่วงที่มีเวลาไม่มากนัก นิยายภาพเป็นของโปรดยามว่างของดิฉันเลยค่ะ “เรื่องลับระหว่างรัก” เป็นนิยายภาพที่สำหรับดิฉันคิดว่าเป็นหนังสือน่ารัก ภาพสวย เนื้อเรื่องน่าติดตามค่ะ
ความรู้สึกหลังอ่านคงไม่ต้องบอกแล้วเนอะ เกริ่นไปซะขนาดนั้น ชอบมากค่ะ เติม ก เข้าไปเยอะๆเลย ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกับหนังสือของคุณ “นินามism” ออกมาทีไร ดิฉันต้องตามซื้อตามเก็บตลอด สำหรับเรื่องนี้ จุดเริ่มต้นของเรื่องมาจากการที่ทั้งสองคนแต่งงานกัน แต่เดี่ยวก่อนค่ะ ที่มันเกิดเป็นเรื่องราวต่อมา เพราะสองคนนี้ไม่ได้แต่งงานกันด้วยความรัก โอ้ อยากรู้เหมือนดิฉันใช่ไหมคะ ว่า "นัทธ์“" นางเอกของเรื่อง แต่งงานกับ “พัทธ์ชน” พระเอก ด้วยเหตุผลอะไร ดิฉันจึงรีบเปิดหน้าต่อไปทันทีค่ะ ภาพต่อมาที่เห็นคือทั้งคู่จูงมือกันไปจดทะเบียนสมรส ว้าววว แต่ไม่มีพิธีอะไรหรอกนะคะ เพราะนางเอกต้องการให้พระเอกเก็บเรื่องที่แต่งงานไว้เป็นความลับ บอกได้เฉพาะพ่อกับแม่ แปลกนิดๆค่ะ ที่พ่อแม่ของทั้งคู่ไม่ได้ออกมามีบทบาทหรือตกใจอะไรมากมาย ด้วยความที่มันเป็นนิยายภาพ คำพูดน้อย ดิฉันจึงละความสนใจตรงนั้นและวกกลบมาเข้าประเด็นหลักของเรื่องต่อ

เรือนหอของทั้งคู่เป็นคอนโดห้องหนึ่ง ที่มีพื้นที่ใช้สอยสะดวกครบครัน ลองไปเปิดูในเล่มได้นะคะ วาดได้น่ารักมากๆ เมื่อทั้งคู่เริ่มใช้ชีวิตร่วมกัน ต่างก็ต้องปรับตัวค่ะ อย่างตอนแรกพระเอกเป็นคนสนใจทำแต่งาน ชีวิตเขามีแต่ความราบเรียบ พอได้นางเอกมาอยู่ด้วยชีวิตจึงเริ่มมีสีสัน อ่อ ลืมบอกไปว่าทั้งคู่เจอกันตอนทำงานค่ะ ผู้เขียนจะมีย้อนอดีตให้รู้ว่าทำไมอยู่ๆทั้งคู่ถึงมาแต่งงานกันได้ ความจริงแล้วทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อน และใบหน้าของอีกฝ่ายต่างอยู่ในความทรงจำของกันและกันอย่างเด่นชัด หวานเวอร์ไหมละคะ แต่ดิฉันว่าตาพระเอกนิต้องคิดอะไรแน่ๆ ถึงยอมตกลงแต่งงานง่ายๆ อาจจะชอบนางเอกตั้งแต่แรกเห็นก็ได้ หุหุ

อย่างที่บอกค่ะ ว่าเป็นนิยายรัก ดังนั้นความลับของนางเอกจึงไม่ได้ชวนให้ตื่นเต้นหรือลุ้นมากมายเหมือนนิยายที่มีแต่ตัวหนังสือทั่วไป มีฉากที่นางเอกเฉลยกลางๆเล่ม ว่าความลับที่ไม่ยอมให้พระเอกบอกใครว่าแต่งงานคืออะไร ดิฉันชอบนะคะ เพราะยิ่งอ่านยิ่งเหมือนสองคนนี้มีจุดเชื่อมโยงกันมาตั้งแต่เด็กโดยที่ทั้งพระเอกและนางเอกไม่รู้ตัว แล้วเมื่อถึงเวลาเหมาะสมฟ้าเลยบันดาลให้ได้แต่งงานกัน ฉากนางเอกเขินก็เป็นอะไรที่ชวนจิ้นมาก ใช่ว่านางเอกจะเขินเพราะความใกล้ชิดคนเดียวนะคะ ฝ่ายพระเอกก็ไม่น้อยหน้า ผลัดกันเขินค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ แอบขัดใจตอนจบนิดๆเพราะอยากให้มีฉากหวานๆของพระนางให้ฟินเยอะๆค่ะ อิอิ

ช่วงที่มีเวลาไม่มากนัก นิยายภาพเป็นของโปรดยามว่างของดิฉันเลยค่ะ “เรื่องลับระหว่างรัก” เป็นนิยายภาพที่สำหรับดิฉันคิดว่าเป็นหนังสือน่ารัก ภาพสวย เนื้อเรื่องน่าติดตามค่ะ
ความรู้สึกหลังอ่านคงไม่ต้องบอกแล้วเนอะ เกริ่นไปซะขนาดนั้น ชอบมากค่ะ เติม ก เข้าไปเยอะๆเลย ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกับหนังสือของคุณ “นินามism” ออกมาทีไร ดิฉันต้องตามซื้อตามเก็บตลอด สำหรับเรื่องนี้ จุดเริ่มต้นของเรื่องมาจากการที่ทั้งสองคนแต่งงานกัน แต่เดี่ยวก่อนค่ะ ที่มันเกิดเป็นเรื่องราวต่อมา เพราะสองคนนี้ไม่ได้แต่งงานกันด้วยความรัก โอ้ อยากรู้เหมือนดิฉันใช่ไหมคะ ว่า "นัทธ์“" นางเอกของเรื่อง แต่งงานกับ “พัทธ์ชน” พระเอก ด้วยเหตุผลอะไร ดิฉันจึงรีบเปิดหน้าต่อไปทันทีค่ะ ภาพต่อมาที่เห็นคือทั้งคู่จูงมือกันไปจดทะเบียนสมรส ว้าววว แต่ไม่มีพิธีอะไรหรอกนะคะ เพราะนางเอกต้องการให้พระเอกเก็บเรื่องที่แต่งงานไว้เป็นความลับ บอกได้เฉพาะพ่อกับแม่ แปลกนิดๆค่ะ ที่พ่อแม่ของทั้งคู่ไม่ได้ออกมามีบทบาทหรือตกใจอะไรมากมาย ด้วยความที่มันเป็นนิยายภาพ คำพูดน้อย ดิฉันจึงละความสนใจตรงนั้นและวกกลบมาเข้าประเด็นหลักของเรื่องต่อ

เรือนหอของทั้งคู่เป็นคอนโดห้องหนึ่ง ที่มีพื้นที่ใช้สอยสะดวกครบครัน ลองไปเปิดูในเล่มได้นะคะ วาดได้น่ารักมากๆ เมื่อทั้งคู่เริ่มใช้ชีวิตร่วมกัน ต่างก็ต้องปรับตัวค่ะ อย่างตอนแรกพระเอกเป็นคนสนใจทำแต่งาน ชีวิตเขามีแต่ความราบเรียบ พอได้นางเอกมาอยู่ด้วยชีวิตจึงเริ่มมีสีสัน อ่อ ลืมบอกไปว่าทั้งคู่เจอกันตอนทำงานค่ะ ผู้เขียนจะมีย้อนอดีตให้รู้ว่าทำไมอยู่ๆทั้งคู่ถึงมาแต่งงานกันได้ ความจริงแล้วทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อน และใบหน้าของอีกฝ่ายต่างอยู่ในความทรงจำของกันและกันอย่างเด่นชัด หวานเวอร์ไหมละคะ แต่ดิฉันว่าตาพระเอกนิต้องคิดอะไรแน่ๆ ถึงยอมตกลงแต่งงานง่ายๆ อาจจะชอบนางเอกตั้งแต่แรกเห็นก็ได้ หุหุ

อย่างที่บอกค่ะ ว่าเป็นนิยายรัก ดังนั้นความลับของนางเอกจึงไม่ได้ชวนให้ตื่นเต้นหรือลุ้นมากมายเหมือนนิยายที่มีแต่ตัวหนังสือทั่วไป มีฉากที่นางเอกเฉลยกลางๆเล่ม ว่าความลับที่ไม่ยอมให้พระเอกบอกใครว่าแต่งงานคืออะไร ดิฉันชอบนะคะ เพราะยิ่งอ่านยิ่งเหมือนสองคนนี้มีจุดเชื่อมโยงกันมาตั้งแต่เด็กโดยที่ทั้งพระเอกและนางเอกไม่รู้ตัว แล้วเมื่อถึงเวลาเหมาะสมฟ้าเลยบันดาลให้ได้แต่งงานกัน ฉากนางเอกเขินก็เป็นอะไรที่ชวนจิ้นมาก ใช่ว่านางเอกจะเขินเพราะความใกล้ชิดคนเดียวนะคะ ฝ่ายพระเอกก็ไม่น้อยหน้า ผลัดกันเขินค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ แอบขัดใจตอนจบนิดๆเพราะอยากให้มีฉากหวานๆของพระนางให้ฟินเยอะๆค่ะ อิอิ

“ด้วยใจปรารถนา” เป็นเรื่องราวของ “เซอร์เก ดราโก” เลขาฯ สุดหล่อของวิคตอ เรื่องราวต่อเนื่องจากด้วยใจพิศวาส เมื่อวิคตอซึ่งเป็นเจ้านายไม่สามารถไปเจรจาธุรกิจได้ พระเอกเลยต้องไปทำหน้าที่แทนค่ะ เลยได้พบกับ “สุดาริน สีบัวตอง” นางเอกของเราเป็นนายหน้าที่มาทำการดูแลการติดต่อประสานงานขายคาสิโนให้กับเจ้านายพระเอก ครั้งแรกที่เขาเห็นเธอก็เกิดความรู้สึกรุนแรงอยากได้ขึ้นมาทันที โอ้ พระเอกในเซตนี้แต่ละคนช่างมีความรักเริ่มต้นเหมือนกันเสียจริง รุนแรงมว๊ากมาก นางเอกก็ไม่น้อยหน้าค่ะ เพราะตรงพอๆกับพระเอก ในเมื่อคนสองคนที่มีวุฒิภาวะทั้งคู่ มีเคมีตรงกัน งานนี้เลยสมความปรารถนาสมใจ …?

ถ้าคิดว่าเรื่องจะจบลงเพียงแค่นี้ขอบอกว่าคิดผิดค่ะ เพราะความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในประเทศไทยระหว่างการติดต่อซื้อขายคาสิโนเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ในเมื่อตอนแรกทั้งคู่ต่างไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ระหว่างกันค่ะ นางเอกก็ย้ายที่ทำงานไปที่ใหม่ พระเอกก็บินกลับรัสเซียไปเลยไม่ได้ติดต่อกันอีก แล้ววันนึงพระเอกตามเจ้านายไปหาลูกค้าซึ่งลูกชายเขากำลังจีบนางเอกค่ะ งานนี้พ่อคุณเริ่มเกิดอาการหึงหวง โชคดีนางเอกติดต่อมาเรื่องงาน พระเอกเลยได้ทีบินไปตามหาหัวใจตัวเองค่ะ แหมๆๆ ไม่รอให้นางเอกแต่งงานไปก่อนละจ๊ะ ก็ยังดีที่ตอนหลังได้ปรับความเข้าใจกันค่ะ พระเอกกับนางเอกคบกันแบบแฮปปี้ดีด๊าตามประสาข้าวใหม่ปลามัน เรื่องราวก็ดำเนินไปควบคู่ระหว่างความรักของพระนางแล้วก็ปัญหาด้านธุรกิจของฝ่ายพระเอกกับคู่แข่งทางการค้าหลายๆเจ้าค่ะ ตัวร้ายเรื่องนี้ก็คือผู้ชายที่มาตามจีบนางเอก เมื่อนางเอกไม่รับรักเลยไม่อยากให้พระเอกกับนางเอกอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนวางแผนเพื่อขัดขวางความรักของทั้งคู่ ได้โอกาสเหมาะเมื่อนางเอกความจำเสื่อม ตัวร้ายเลยได้ทีรับสมอ้างว่าเป็นแฟนและพ่อของเด็กในท้องของนางเอกค่ะ เลวจริงๆ อ๊ากกกก นางเอกแม้จะความจำเสื่อมแต่เธอไม่ได้รู้สึกผูกพันกับตัวร้ายเลยสักนิด ฝ่ายพระเอกเมื่อรู้ว่านางเอกจำตัวเองไม่ได้เลยต้องไปขัดขวางไม่ให้ตัวร้ายแย่งนางเอกไป พยายามสรรหาทุกวิถีทางให้นางเอกจำเขาได้ แล้วความพยายามก็สำเร็จเมื่อความจำนางเอกกลับคืนมา ตัวร้ายเลยต้องกระเด็นออกจากวงจรชีวิตของทั้งคู่ อิอิ ชอบฉากจบของเรื่องค่ะ เหมือนเป็นตอนพิเศษอ่านแล้วยิ้มตลอดเลย มีฉากที่วิคตอกับลาน่าโผล่มาด้วย คู่นี้แต่งงานกันแล้วก็ฝ่ายหญิงกำลังท้อง นางเอกเลยได้เพื่อนคุยพอดี บรรยากาศอบอุ่นเลยเกิดขึ้นระหว่างครอบครัวสองครอบครัว ถ้าถามดิฉัน นิยายเรื่องนี้หวานสุดในชุดค่ะ เพราะทั้งคู่ต่างชัดเจนในความรักตั้งแต่แรกค่ะ ฉากหวานๆเลยมีเยอะ เรื่องของวิคตอกว่าพระนางจะเข้าใจกันก็ลุ้นจนเหนื่อย ส่วนเรื่องของยูไล(ชอบพระเอกสุดจ้า) ก็เดาทางพี่แกไม่ค่อยออกเพราะพูดน้อยเหลือเกิน งานนี้ใครชอบนิยายหวานๆลองหาอ่านดูได้ค่ะ

“ด้วยใจปรารถนา” เป็นเรื่องราวของ “เซอร์เก ดราโก” เลขาฯ สุดหล่อของวิคตอ เรื่องราวต่อเนื่องจากด้วยใจพิศวาส เมื่อวิคตอซึ่งเป็นเจ้านายไม่สามารถไปเจรจาธุรกิจได้ พระเอกเลยต้องไปทำหน้าที่แทนค่ะ เลยได้พบกับ “สุดาริน สีบัวตอง” นางเอกของเราเป็นนายหน้าที่มาทำการดูแลการติดต่อประสานงานขายคาสิโนให้กับเจ้านายพระเอก ครั้งแรกที่เขาเห็นเธอก็เกิดความรู้สึกรุนแรงอยากได้ขึ้นมาทันที โอ้ พระเอกในเซตนี้แต่ละคนช่างมีความรักเริ่มต้นเหมือนกันเสียจริง รุนแรงมว๊ากมาก นางเอกก็ไม่น้อยหน้าค่ะ เพราะตรงพอๆกับพระเอก ในเมื่อคนสองคนที่มีวุฒิภาวะทั้งคู่ มีเคมีตรงกัน งานนี้เลยสมความปรารถนาสมใจ …?

ถ้าคิดว่าเรื่องจะจบลงเพียงแค่นี้ขอบอกว่าคิดผิดค่ะ เพราะความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในประเทศไทยระหว่างการติดต่อซื้อขายคาสิโนเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ในเมื่อตอนแรกทั้งคู่ต่างไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ระหว่างกันค่ะ นางเอกก็ย้ายที่ทำงานไปที่ใหม่ พระเอกก็บินกลับรัสเซียไปเลยไม่ได้ติดต่อกันอีก แล้ววันนึงพระเอกตามเจ้านายไปหาลูกค้าซึ่งลูกชายเขากำลังจีบนางเอกค่ะ งานนี้พ่อคุณเริ่มเกิดอาการหึงหวง โชคดีนางเอกติดต่อมาเรื่องงาน พระเอกเลยได้ทีบินไปตามหาหัวใจตัวเองค่ะ แหมๆๆ ไม่รอให้นางเอกแต่งงานไปก่อนละจ๊ะ ก็ยังดีที่ตอนหลังได้ปรับความเข้าใจกันค่ะ พระเอกกับนางเอกคบกันแบบแฮปปี้ดีด๊าตามประสาข้าวใหม่ปลามัน เรื่องราวก็ดำเนินไปควบคู่ระหว่างความรักของพระนางแล้วก็ปัญหาด้านธุรกิจของฝ่ายพระเอกกับคู่แข่งทางการค้าหลายๆเจ้าค่ะ ตัวร้ายเรื่องนี้ก็คือผู้ชายที่มาตามจีบนางเอก เมื่อนางเอกไม่รับรักเลยไม่อยากให้พระเอกกับนางเอกอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนวางแผนเพื่อขัดขวางความรักของทั้งคู่ ได้โอกาสเหมาะเมื่อนางเอกความจำเสื่อม ตัวร้ายเลยได้ทีรับสมอ้างว่าเป็นแฟนและพ่อของเด็กในท้องของนางเอกค่ะ เลวจริงๆ อ๊ากกกก นางเอกแม้จะความจำเสื่อมแต่เธอไม่ได้รู้สึกผูกพันกับตัวร้ายเลยสักนิด ฝ่ายพระเอกเมื่อรู้ว่านางเอกจำตัวเองไม่ได้เลยต้องไปขัดขวางไม่ให้ตัวร้ายแย่งนางเอกไป พยายามสรรหาทุกวิถีทางให้นางเอกจำเขาได้ แล้วความพยายามก็สำเร็จเมื่อความจำนางเอกกลับคืนมา ตัวร้ายเลยต้องกระเด็นออกจากวงจรชีวิตของทั้งคู่ อิอิ ชอบฉากจบของเรื่องค่ะ เหมือนเป็นตอนพิเศษอ่านแล้วยิ้มตลอดเลย มีฉากที่วิคตอกับลาน่าโผล่มาด้วย คู่นี้แต่งงานกันแล้วก็ฝ่ายหญิงกำลังท้อง นางเอกเลยได้เพื่อนคุยพอดี บรรยากาศอบอุ่นเลยเกิดขึ้นระหว่างครอบครัวสองครอบครัว ถ้าถามดิฉัน นิยายเรื่องนี้หวานสุดในชุดค่ะ เพราะทั้งคู่ต่างชัดเจนในความรักตั้งแต่แรกค่ะ ฉากหวานๆเลยมีเยอะ เรื่องของวิคตอกว่าพระนางจะเข้าใจกันก็ลุ้นจนเหนื่อย ส่วนเรื่องของยูไล(ชอบพระเอกสุดจ้า) ก็เดาทางพี่แกไม่ค่อยออกเพราะพูดน้อยเหลือเกิน งานนี้ใครชอบนิยายหวานๆลองหาอ่านดูได้ค่ะ

คงไม่มีใครไม่รู้จักสาวน้อยนามว่าบาร์บี้กันใช่ไหมคะ นิยายเรื่อง “เจ้าบ่าวของบาร์บี้” หนึ่งในชุดรักฉบับเซเลบ นางเอกของเราซึ่งมีนามอันไพเราะเพราะพริ้งว่า “ลักขณาวิลาส” หรือชื่อเล่นสวยๆว่า “บาร์บี้” จึงมีลักษณะคล้ายคลึง(หรือเธอพยายามทำให้มันคล้าย) ตุ๊กตาบาร์บี้อย่างคู่แฝด ดังนั้นเธอจึงมีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่าว่าที่สามีของเธอต้องชื่อ “เคน”เท่านั้น บังเอิ๊ญบังเอิญที่เพื่อนสนิทของเธอมีน้าชายชื่อ “มฤเคนทร์” นางเอกของเราจึงฝังใจมาตลอดค่ะ ว่าเธอรักและต้องการแต่งงานกับเขา เธอเลยหาทางพยายามสร้างความใกล้ชิดโดยการแอบไปเดินแฟชั่นพร้อมจี้เพชรแทนหลานสาวเขาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเธอ เรื่องดันมาเกิดเมื่อจี้เพชรหายไป งานนี้ความซวยจึงบังเกิดกับชีวิตน้อยๆของนางเอก โชคที่ที่น้าเคนบินไปตามเพื่อนของเธอที่แอบบินหนีไปต่างประเทศ แต่เพื่อความปลอดภัยและสืบหาจี้ นางเอกเลยต้องตกอยู่ในความดูแลของ “มฤคินทร์” แฝดคนละฝากับน้าเคน ซึ่งนิสัยต่างกันละขั้วเลยค่ะ

ความรู้สึกหลังอ่านเรื่องนี้คือ ชอบมากกก ดิฉันว่าผู้เขียนท่านนี้เขียนนิยายแนวคอมเมดี้ได้ดีนะคะ อ่านแล้วขำไปความตลกของตัวละคร นางเอกมีคาเรกเตอร์ที่โก๊ะๆ คิดอะไรแปลกๆเสมอ แม้จะเป็นเจ้าหญิงไฮโซก็ตามที อาจจะมีเอาแต่ใจเพราะเป็นลูกคุณหนู ไม่อยากให้พ่อแต่งงานมีแม่ใหม่ เลยวีนเหวี่ยงไปบ้าง แต่เธอก็น่ารักในแบบของเธอค่ะ มีการวางแผนฮาๆเพื่ออยากให้น้าเคนประทับใจในตัวเธอและขอแต่งงานด้วยนะคะ อ่านแล้วขำจริงๆกับความคิดนางเอก

ปมของเรื่องที่ให้ลุ้นก็อยู่ตรงเมื่อจี้เพชรหายไปเนี่ยแหละค่ะ เลยต้องตามสืบว่าของจริงหายไปไหน นางเอกเลยตกมาอยู่ในความดูแลของ “น้าคิน” ตอนแรกนางเอกแอบแอนตี้น้าคิน เพราะเขารู้จักกับแม่เลี้ยงคนใหม่ของเธอ แต่เมื่อต้องไปใช้ชีวิตในบ้านเดียวกับเขา ก็เลยมีบทหวานๆ ที่ไม่เลี่ยนจนเกินไประหว่างพระนางออกมาให้ชวนขำได้ตลอด น้าคินแอบมีโมเมนต์หื่นนะแต่ไม่แสดงออกด้วยน๊า อย่างที่บอกค่ะว่านางเอกเราเป็นคนเพี้ยนๆ เธอเลยทำอะไรไม่ค่อยระวัง แถมหุ่นเธอก็คล้ายคลึงกับบาร์บี้ คงไม่ต้องบอกว่ายั่วยวนชายหนุ่มขนาดไหน พระเอกคงอดใจไม่ให้มองไม่ไหว เลยได้แต่มองห่างๆอย่างหื่นๆ แอบขำฉากที่นางเอกจะมีคำพูดแสบๆมาตอบโต้พระเอกได้ตลอก แน่นอนอยู่แล้วว่ายังไงก็เอาชนะไม่ได้ ส่วนเรื่องคดีจี้หาย คนร้ายไม่ได้เดาออกจนอยากเกินความสามารถคนอ่าน ดิฉันเดาว่าผู้เขียนเองคงดตั้งใจไม่ให้เนื้อเรื่องออกมาหนักจนเกินไปค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าตอนจบเจ้าบ่าวของ “บาร์บี้” จะชื่อเคนจริงหรือไม่ ต้องไปหาคำตอบในเล่มค่ะ ไม่ผิดหวังแน่ๆ อ่านแล้วอารมณ์ดีขำทั้งเรื่องยันจบค่ะ

คงไม่มีใครไม่รู้จักสาวน้อยนามว่าบาร์บี้กันใช่ไหมคะ นิยายเรื่อง “เจ้าบ่าวของบาร์บี้” หนึ่งในชุดรักฉบับเซเลบ นางเอกของเราซึ่งมีนามอันไพเราะเพราะพริ้งว่า “ลักขณาวิลาส” หรือชื่อเล่นสวยๆว่า “บาร์บี้” จึงมีลักษณะคล้ายคลึง(หรือเธอพยายามทำให้มันคล้าย) ตุ๊กตาบาร์บี้อย่างคู่แฝด ดังนั้นเธอจึงมีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่าว่าที่สามีของเธอต้องชื่อ “เคน”เท่านั้น บังเอิ๊ญบังเอิญที่เพื่อนสนิทของเธอมีน้าชายชื่อ “มฤเคนทร์” นางเอกของเราจึงฝังใจมาตลอดค่ะ ว่าเธอรักและต้องการแต่งงานกับเขา เธอเลยหาทางพยายามสร้างความใกล้ชิดโดยการแอบไปเดินแฟชั่นพร้อมจี้เพชรแทนหลานสาวเขาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเธอ เรื่องดันมาเกิดเมื่อจี้เพชรหายไป งานนี้ความซวยจึงบังเกิดกับชีวิตน้อยๆของนางเอก โชคที่ที่น้าเคนบินไปตามเพื่อนของเธอที่แอบบินหนีไปต่างประเทศ แต่เพื่อความปลอดภัยและสืบหาจี้ นางเอกเลยต้องตกอยู่ในความดูแลของ “มฤคินทร์” แฝดคนละฝากับน้าเคน ซึ่งนิสัยต่างกันละขั้วเลยค่ะ

ความรู้สึกหลังอ่านเรื่องนี้คือ ชอบมากกก ดิฉันว่าผู้เขียนท่านนี้เขียนนิยายแนวคอมเมดี้ได้ดีนะคะ อ่านแล้วขำไปความตลกของตัวละคร นางเอกมีคาเรกเตอร์ที่โก๊ะๆ คิดอะไรแปลกๆเสมอ แม้จะเป็นเจ้าหญิงไฮโซก็ตามที อาจจะมีเอาแต่ใจเพราะเป็นลูกคุณหนู ไม่อยากให้พ่อแต่งงานมีแม่ใหม่ เลยวีนเหวี่ยงไปบ้าง แต่เธอก็น่ารักในแบบของเธอค่ะ มีการวางแผนฮาๆเพื่ออยากให้น้าเคนประทับใจในตัวเธอและขอแต่งงานด้วยนะคะ อ่านแล้วขำจริงๆกับความคิดนางเอก

ปมของเรื่องที่ให้ลุ้นก็อยู่ตรงเมื่อจี้เพชรหายไปเนี่ยแหละค่ะ เลยต้องตามสืบว่าของจริงหายไปไหน นางเอกเลยตกมาอยู่ในความดูแลของ “น้าคิน” ตอนแรกนางเอกแอบแอนตี้น้าคิน เพราะเขารู้จักกับแม่เลี้ยงคนใหม่ของเธอ แต่เมื่อต้องไปใช้ชีวิตในบ้านเดียวกับเขา ก็เลยมีบทหวานๆ ที่ไม่เลี่ยนจนเกินไประหว่างพระนางออกมาให้ชวนขำได้ตลอด น้าคินแอบมีโมเมนต์หื่นนะแต่ไม่แสดงออกด้วยน๊า อย่างที่บอกค่ะว่านางเอกเราเป็นคนเพี้ยนๆ เธอเลยทำอะไรไม่ค่อยระวัง แถมหุ่นเธอก็คล้ายคลึงกับบาร์บี้ คงไม่ต้องบอกว่ายั่วยวนชายหนุ่มขนาดไหน พระเอกคงอดใจไม่ให้มองไม่ไหว เลยได้แต่มองห่างๆอย่างหื่นๆ แอบขำฉากที่นางเอกจะมีคำพูดแสบๆมาตอบโต้พระเอกได้ตลอก แน่นอนอยู่แล้วว่ายังไงก็เอาชนะไม่ได้ ส่วนเรื่องคดีจี้หาย คนร้ายไม่ได้เดาออกจนอยากเกินความสามารถคนอ่าน ดิฉันเดาว่าผู้เขียนเองคงดตั้งใจไม่ให้เนื้อเรื่องออกมาหนักจนเกินไปค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าตอนจบเจ้าบ่าวของ “บาร์บี้” จะชื่อเคนจริงหรือไม่ ต้องไปหาคำตอบในเล่มค่ะ ไม่ผิดหวังแน่ๆ อ่านแล้วอารมณ์ดีขำทั้งเรื่องยันจบค่ะ

“ด้วยใจพิศวาส” เป็นเรื่องของ “วิคตอ ดังโกวิช” นักธุรกิจผู้มีอิทธิพลของรัสเซีย หรือก็เป็นคล้ายๆมาเฟียกลายๆนะแหละค่ะ (พี่ชายเป็นมาเฟียนะเออ) ครั้งแรกที่เจอนางเอก ตำรวจสาว “มาริสา มาร์แตง” คุณพี่ท่านก็ทำตัววอนน่าโดนตบด้วยการเรียกร้องค่าตอบแทนในการช่วยเหลือเธอไว้ด้วยการขอนอนกับเธอ เอิ่มมถึงพอจะเดาๆจากชื่อเรื่องได้แต่ก็ไม่นึกว่าพระเอกจะพิศวาสนางเอกแบบตรงไปตรงมาขนาดนี้ ก็โอเคค่ะ ตรงดี55555 นางเอกได้ยินก็อึ้งสิคะ ใครจะไปคิดว่าตานี่จะมาไม้นี้ จะบ้ายอมก็แปลกแล้ว ด่าคืนกลับไปไม่น้อย แต่พระเอกของเราลูกเล่นแพรวพราวค่ะ ในเมื่อประกาศชัดเจนแล้วว่าอยากได้เธอ เลยพยายามหาทางมาต่อรองให้เธอยอมอยู่ใกล้ชิด โดยการเอาคนร้ายที่เธอกำลังตามสืบอยู่มาล่อ แต่มีหรือคนอย่างนางเอกจะตกหลุมพรางตื่นๆแค่นี้ (เอ่อะ ได้ข่าวว่าหล่อนตกหลุมรักเขาด้วยซ้ำนะตอนหลังอะ) เธอเลยตามสืบประวัติพระเอกก่อน จนรู้ว่าเขามีโปรไฟล์เริ่ดขนาดไหน ที่สำคัญยังชอบควงผู้หญิงเป็นว่าเล่น ไหนๆก็ไหนๆแล้ว การยอมอยู่ใกล้พระเอกทำให้เธอได้เข้าใกล้ตัวคนร้ายมากขึ้น นางเอกเลยยอมค่ะ แต่เมื่อไปอยู่ใกล้เขาทีไร หัวใจเธอยิ่งหวั่นไหว ยิ่งพระเอกพยายามหว่านเสน่ห์ล่อลวงให้เธอยอมเป็นของเขาแต่โดยดี นางเอกก็ยากที่จะต้านทาน
แม้ตอนแรกอารมณ์พระเอกจะเริ่มจากความปรารถนาในตัวนางเอก แต่เมื่อนางเอกตกอยู่ในอันตราย พระเอกจะเข้าไปช่วยทันทุกครั้งเลยนะคะ การกระทำหลายๆอย่างก็เริ่มบอกแล้วค่ะว่าเขาให้ความสำคัญกับนางเอก โถ่ แบบนี้เรียกว่ารักหรือเปล่าน๊า นางเอกเลยเริ่มตกหลุมรักความอ่อนโยนของเขาโดยไม่รู้ตัว แล้วมีหรือแบบนี้นางเอกจะรอดมือ… เรียบร้อยโรงเรียนวิคตอสิคะคุ๊ณณณ ผู้เขียนจะเขียนฉากพระนางสลับไปกับการตามล่าคนร้ายค่ะ เพราะคนร้ายที่ว่าก็อยากทำธุรกิจกับพระเอก แต่พระเอกรักนางเอกไปแล้ว จะไม่ช่วยเหลือคนรักได้อย่างไรใช่ไหมคะ ถ้าเลือกทำธุกิจกับคนร้ายก็ดูจะทำร้ายจิตใจนางเอกเกินไปเนอะ ตอนหลังพระเอกก็หันมาช่วยนางเอกอย่างเต็มตัวค่ะ เพราะต้องการปกป้องนางเอกด้วย
เมื่อเคลียร์เรื่องคนร้ายได้ ก็ยังไม่ปิดเรื่องนะคะ มีเหตุการณ์ที่ทำให้นางเอกเข้าใจพระเอกผิดจนหนีกลับมาเมืองไทย (นางเอกมีเชื้อไทยค่ะ) พระเอกก็พยายามตามหา อยากมาง้อใจจะขาด แต่เขาดันประสบอุบัติเหตุ เข้าโรงพยาบาล (เลยต้องให้เซอร์เกไปจัดการธุรกิจแทน เป็นที่มาของการพบกันระหว่างพระเอกนางเอกจากเรื่องด้วยใจปรารถนาค่ะ) เอาละสิคะ งานนี้ความรักของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร ติดตามในเล่มต่อได้เลยค่ะ

“ด้วยใจพิศวาส” เป็นเรื่องของ “วิคตอ ดังโกวิช” นักธุรกิจผู้มีอิทธิพลของรัสเซีย หรือก็เป็นคล้ายๆมาเฟียกลายๆนะแหละค่ะ (พี่ชายเป็นมาเฟียนะเออ) ครั้งแรกที่เจอนางเอก ตำรวจสาว “มาริสา มาร์แตง” คุณพี่ท่านก็ทำตัววอนน่าโดนตบด้วยการเรียกร้องค่าตอบแทนในการช่วยเหลือเธอไว้ด้วยการขอนอนกับเธอ เอิ่มมถึงพอจะเดาๆจากชื่อเรื่องได้แต่ก็ไม่นึกว่าพระเอกจะพิศวาสนางเอกแบบตรงไปตรงมาขนาดนี้ ก็โอเคค่ะ ตรงดี55555 นางเอกได้ยินก็อึ้งสิคะ ใครจะไปคิดว่าตานี่จะมาไม้นี้ จะบ้ายอมก็แปลกแล้ว ด่าคืนกลับไปไม่น้อย แต่พระเอกของเราลูกเล่นแพรวพราวค่ะ ในเมื่อประกาศชัดเจนแล้วว่าอยากได้เธอ เลยพยายามหาทางมาต่อรองให้เธอยอมอยู่ใกล้ชิด โดยการเอาคนร้ายที่เธอกำลังตามสืบอยู่มาล่อ แต่มีหรือคนอย่างนางเอกจะตกหลุมพรางตื่นๆแค่นี้ (เอ่อะ ได้ข่าวว่าหล่อนตกหลุมรักเขาด้วยซ้ำนะตอนหลังอะ) เธอเลยตามสืบประวัติพระเอกก่อน จนรู้ว่าเขามีโปรไฟล์เริ่ดขนาดไหน ที่สำคัญยังชอบควงผู้หญิงเป็นว่าเล่น ไหนๆก็ไหนๆแล้ว การยอมอยู่ใกล้พระเอกทำให้เธอได้เข้าใกล้ตัวคนร้ายมากขึ้น นางเอกเลยยอมค่ะ แต่เมื่อไปอยู่ใกล้เขาทีไร หัวใจเธอยิ่งหวั่นไหว ยิ่งพระเอกพยายามหว่านเสน่ห์ล่อลวงให้เธอยอมเป็นของเขาแต่โดยดี นางเอกก็ยากที่จะต้านทาน
แม้ตอนแรกอารมณ์พระเอกจะเริ่มจากความปรารถนาในตัวนางเอก แต่เมื่อนางเอกตกอยู่ในอันตราย พระเอกจะเข้าไปช่วยทันทุกครั้งเลยนะคะ การกระทำหลายๆอย่างก็เริ่มบอกแล้วค่ะว่าเขาให้ความสำคัญกับนางเอก โถ่ แบบนี้เรียกว่ารักหรือเปล่าน๊า นางเอกเลยเริ่มตกหลุมรักความอ่อนโยนของเขาโดยไม่รู้ตัว แล้วมีหรือแบบนี้นางเอกจะรอดมือ… เรียบร้อยโรงเรียนวิคตอสิคะคุ๊ณณณ ผู้เขียนจะเขียนฉากพระนางสลับไปกับการตามล่าคนร้ายค่ะ เพราะคนร้ายที่ว่าก็อยากทำธุรกิจกับพระเอก แต่พระเอกรักนางเอกไปแล้ว จะไม่ช่วยเหลือคนรักได้อย่างไรใช่ไหมคะ ถ้าเลือกทำธุกิจกับคนร้ายก็ดูจะทำร้ายจิตใจนางเอกเกินไปเนอะ ตอนหลังพระเอกก็หันมาช่วยนางเอกอย่างเต็มตัวค่ะ เพราะต้องการปกป้องนางเอกด้วย
เมื่อเคลียร์เรื่องคนร้ายได้ ก็ยังไม่ปิดเรื่องนะคะ มีเหตุการณ์ที่ทำให้นางเอกเข้าใจพระเอกผิดจนหนีกลับมาเมืองไทย (นางเอกมีเชื้อไทยค่ะ) พระเอกก็พยายามตามหา อยากมาง้อใจจะขาด แต่เขาดันประสบอุบัติเหตุ เข้าโรงพยาบาล (เลยต้องให้เซอร์เกไปจัดการธุรกิจแทน เป็นที่มาของการพบกันระหว่างพระเอกนางเอกจากเรื่องด้วยใจปรารถนาค่ะ) เอาละสิคะ งานนี้ความรักของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร ติดตามในเล่มต่อได้เลยค่ะ

“ด้วยจิตเสน่หา” เป็นเรื่องราวของ “ยูไล ดังโกวิช” พี่ชายของวิคตอ ดังโกวิชจากเรื่องด้วยใจพิศวาส พล็อตของเรื่องนี้ไม่มีอะไรมากค่ะ พระเอกมาเฟียติดตาต้องใจสาวไทยนามว่า “ตวงใจ” ซึ่งนางเอกของเราไปเรียนทางด้านดนตรีที่กรุงมอสโค เกิดเป็นเรื่องราวขึ้นมา

สำหรับดิฉัน ถ้าถามว่าสนุกไหม ต้องบอกว่าเป็นนิยายที่อ่านได้เรื่อยๆตามสไตล์ของพิมพ์พลอยค่ะ คือบทบรรยายไม่ค่อยมาก เน้นบทสนทนา สิ่งที่ชอบที่สุดในนิยายเรื่องนี้คือ คาเรกเตอร์ของพระเอก ดิฉันแพ้พระเอกประเภทพูดน้อยต่อยหนัก >//< เรื่องนี้พระเอกเป็นมาเฟีย ไม่ค่อยพูดหรือแสดงออกทางอารมณ์มากนัก คนเดียวไม่สิ ตัวเดียวที่เห็นอารมณ์และได้ยินเสียงเขามากสุด คงหนีไม่พ้นสุนัขคู่ใจที่เขาเลี้ยงไว้ เมื่อเจอเขาเริ่มสนใจนางเอก อาจจะชอบและอยากได้ไรงี้ก่อนแหละค่ะ หรือไม่แน่ว่าบางทีเขาอาจจะอยากได้เธอมาเป็นสัตว์เลี้ยงของเขาอีกตัว เอิ่มมมคุณพระเอกขา นางเอกนะคะไม่ใช่น้องหมา เลยแอบมองเธอมาตลอด เหมือนสต๊อกเกอร์อย่างไรอย่างนั้น ยิ่งเฝ้ามองเขาก็ยิ่งรู้ว่าอยากให้เธอมาอยู่ด้วยกัน คอยตามปกป้องดูแล คืออาจจะเป็นจังหวะที่นางเอกเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวบางอย่างพอดี ทำให้ชีวิตตกอยู่ในอันตราย พระเอกเลยได้ทีอุ๊บอิ๊บพาไปอยู่กับตัวเองซะเลย แล้วแบบนี้นางเอกจะรอดได้อย่างไรละคะ แต่เป็นดิฉันก็ยอมค่ะ หล่อล่ำเอ้ย คอยดูแลเราขนาดนั้น ไม่ให้เผลอใจยังไงไหว ตอนหลังพอได้มาอยู่ด้วยกันพระเอกก็ไม่เคยบอกรักนางเอกนะคะ แต่การกระทำเขาทำให้รู้ว่านางเอกคือคนสำคัญในชีวิต และไม่ยอมเสียนางเอกให้ใครแน่ๆ ช่างเป็นรักที่ร้อนแรงเสียนี่กระไร จนดิฉันอยากเป็นนางเอกแทนตวงใจเลยค่ะ ส่วนนางเอกแม้ตอนแรกจะกลัวๆพระเอกที่เป็นมาเฟีย แต่พอรู้ว่าเขาคอยตามปกป้องก็เริ่มรัก และแน่นอนว่าเธอรักพระเอกก็เลยเต็มใจจะมาอยู่ด้วย แต่ด้วยความที่พระเอกเป็นมาเฟีย ชีวิตรักของทั้งคู่อาจจะไม่ปกติเหมือนคนทั่วไปนักค่ะ ก็ต้องมีบู้ๆ ต่อสู้กับฝ่ายไม่หวังดีไรงี้บ้างเนอะ แต่ไม่เยอะนะคะ ให้พออ่านสลับกับฉากความรัก ตอนจบเรื่องนี้ไม่ดราม่าค่ะ ทั้งคู่ได้ลงเอยกันแน่นอน เพราะความรักของทั้งคู่ทำให้ฝ่านฟันอุปสรรคไปได้ คือต้องเข้าใจก่อนว่าพระเอกเป็นมาเฟีย จะให้เลิกเป็นคงยาก นางเอกเลยต้องยอมทิ้งชีวิตแบบบ้านๆมาเพื่ออยู่กับเขา (นิแอบสปอยแล้วนะคะเนี่ย) ใครอยากร่วมลุ้นความรักของทั้งคู่ตามอ่านต่อในเล่มได้เลยค่ะ

“ด้วยจิตเสน่หา” เป็นเรื่องราวของ “ยูไล ดังโกวิช” พี่ชายของวิคตอ ดังโกวิชจากเรื่องด้วยใจพิศวาส พล็อตของเรื่องนี้ไม่มีอะไรมากค่ะ พระเอกมาเฟียติดตาต้องใจสาวไทยนามว่า “ตวงใจ” ซึ่งนางเอกของเราไปเรียนทางด้านดนตรีที่กรุงมอสโค เกิดเป็นเรื่องราวขึ้นมา

สำหรับดิฉัน ถ้าถามว่าสนุกไหม ต้องบอกว่าเป็นนิยายที่อ่านได้เรื่อยๆตามสไตล์ของพิมพ์พลอยค่ะ คือบทบรรยายไม่ค่อยมาก เน้นบทสนทนา สิ่งที่ชอบที่สุดในนิยายเรื่องนี้คือ คาเรกเตอร์ของพระเอก ดิฉันแพ้พระเอกประเภทพูดน้อยต่อยหนัก >//< เรื่องนี้พระเอกเป็นมาเฟีย ไม่ค่อยพูดหรือแสดงออกทางอารมณ์มากนัก คนเดียวไม่สิ ตัวเดียวที่เห็นอารมณ์และได้ยินเสียงเขามากสุด คงหนีไม่พ้นสุนัขคู่ใจที่เขาเลี้ยงไว้ เมื่อเจอเขาเริ่มสนใจนางเอก อาจจะชอบและอยากได้ไรงี้ก่อนแหละค่ะ หรือไม่แน่ว่าบางทีเขาอาจจะอยากได้เธอมาเป็นสัตว์เลี้ยงของเขาอีกตัว เอิ่มมมคุณพระเอกขา นางเอกนะคะไม่ใช่น้องหมา เลยแอบมองเธอมาตลอด เหมือนสต๊อกเกอร์อย่างไรอย่างนั้น ยิ่งเฝ้ามองเขาก็ยิ่งรู้ว่าอยากให้เธอมาอยู่ด้วยกัน คอยตามปกป้องดูแล คืออาจจะเป็นจังหวะที่นางเอกเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวบางอย่างพอดี ทำให้ชีวิตตกอยู่ในอันตราย พระเอกเลยได้ทีอุ๊บอิ๊บพาไปอยู่กับตัวเองซะเลย แล้วแบบนี้นางเอกจะรอดได้อย่างไรละคะ แต่เป็นดิฉันก็ยอมค่ะ หล่อล่ำเอ้ย คอยดูแลเราขนาดนั้น ไม่ให้เผลอใจยังไงไหว ตอนหลังพอได้มาอยู่ด้วยกันพระเอกก็ไม่เคยบอกรักนางเอกนะคะ แต่การกระทำเขาทำให้รู้ว่านางเอกคือคนสำคัญในชีวิต และไม่ยอมเสียนางเอกให้ใครแน่ๆ ช่างเป็นรักที่ร้อนแรงเสียนี่กระไร จนดิฉันอยากเป็นนางเอกแทนตวงใจเลยค่ะ ส่วนนางเอกแม้ตอนแรกจะกลัวๆพระเอกที่เป็นมาเฟีย แต่พอรู้ว่าเขาคอยตามปกป้องก็เริ่มรัก และแน่นอนว่าเธอรักพระเอกก็เลยเต็มใจจะมาอยู่ด้วย แต่ด้วยความที่พระเอกเป็นมาเฟีย ชีวิตรักของทั้งคู่อาจจะไม่ปกติเหมือนคนทั่วไปนักค่ะ ก็ต้องมีบู้ๆ ต่อสู้กับฝ่ายไม่หวังดีไรงี้บ้างเนอะ แต่ไม่เยอะนะคะ ให้พออ่านสลับกับฉากความรัก ตอนจบเรื่องนี้ไม่ดราม่าค่ะ ทั้งคู่ได้ลงเอยกันแน่นอน เพราะความรักของทั้งคู่ทำให้ฝ่านฟันอุปสรรคไปได้ คือต้องเข้าใจก่อนว่าพระเอกเป็นมาเฟีย จะให้เลิกเป็นคงยาก นางเอกเลยต้องยอมทิ้งชีวิตแบบบ้านๆมาเพื่ออยู่กับเขา (นิแอบสปอยแล้วนะคะเนี่ย) ใครอยากร่วมลุ้นความรักของทั้งคู่ตามอ่านต่อในเล่มได้เลยค่ะ