Customer Reviews

101 วิธีกำจัดความเครียด เป็นหนังสือที่ดีอีกเล่มหนึ่งที่ดิฉันอยากจะเอามาเสนอในมุมมองของนักอ่านโดยการที่จะเลือกมาเขียนรีวิวในวันนี้และหนังสือเล่มนี้ก็เป็นก็เป็นผลงานการเรียบเรียงและถ่ายทอดโดยคุณ พิมพ์มาดา หญิงสาวที่จะมาช่วยให้ทุกคนที่กำลังประสบกับปัญหาในชีวิตต่างๆให้นั้นมีทางออกและยังสอนให้เราได้รู้ว่าทุกปัญหานั้นมีทางออกเสมออยู่ที่ตัวเราเองจะเลือกยอมรับหรือหันหลังให้กับมันก็เท่านั้นเอง และในหนังสือเล่มนี้ก็จะกล่าวถึงที่มาที่ไปของสภาวะการเครียดต่างๆและยังรวมไปถึงอัตราความรุนแรงที่จะก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อตัวคุณเองและกับทุกคนที่อยู่รอบข้างคุณด้วย ดังนั้นในฐานะที่ตัวดิฉันเองก็มีเรื่องให้เครียดอยู่บ่อยๆจึงอยากที่จะให้ทุกๆคนได้มาหายเครียดไปพร้อมกันโดยเริ่มจากตัวคุณต้องพยายามเอาตัวเองออกห่างจากสิ่งที่ทำให้เครียดทั้งหลาย ไม่ได้สอนให้หนีปัญหาแต่ที่บอกว่าให้เอาตัวห่างนั้นเพื่อเราจะได้ตั้งหลักที่คิดทบทวนถึงสาเหตุของปัญหาและหาวิธีแก้ปัญหาต่อไป เมื่อเครียดแล้วอยากแนะนำให้พาร่างกายและสมองออกไปผ่อนคลายไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวพักผ่อนหรือจะเป็นการนอนแค่นี้ก็ช่วยให้สมองและร่างกายของคุณนั้นหายล้าจากสภาวะเครียดได้แล้ว โดยที่ในหนังสือเล่มนี้เค้าจะรวบรวมวิธีการคลายเครียดอย่างง่ายๆไว้มากถึง 101 เรื่องด้วยกันทีเดียวใครเหมาะกับวิธีแบบไหนก็สามารถนำไปใช้ได้ สำหรับตัวดิฉันเองนั้นก็ได้ลองทำตามวิธีอย่างที่ในหนังสือบอกซึ่งก็ล้วนแล้วแต่ทำให้ตัวดิฉันเองนั้นหายจากอาการเครียดได้อย่างง่ายดาย เมื่อเราได้รับสิ่งที่ดีๆจากหนังสือดีๆ เราก็อยากที่จะบอกเล่าให้เพื่อนๆทุกคนได้หามาอ่านและใช้มันให้เกิดประโยชน์กับเราที่ได้นำมาใช้จริงและได้ผลลัพธ์ที่ดีกลับมาด้วย ดังนั้นเมื่อมีปัญหาหรือรู้สึกว่าตัวคุณเองนั้นไม่มีใครให้ปรึกษาเราก็ไม่ต้องไปใส่ใจเพราะดิฉันเชื่อว่าเมื่อเราผ่านความรู้สึกนั้นมาได้ด้วยตัวคนเดียวจะยิ่งทำให้เรานั้นเข้มแข็งและยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเองได้อย่างง่ายดายแต่ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหวจริงๆก็ลองหาหนังสือที่ทำให้คุณรู้สึกว่าผ่อนคลายหรือคิดว่ามันน่าจะช่วยให้คุณหาทางออกได้มาอ่านดูและคุณจะรู้ได้ว่าปัญหาเค้ามีไว้ให้เราแก้ไม่ได้มีไว้ให้เราเครียดกับมันเลย สำหรับตัวดิฉันเองก็ขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆที่กำลังประสบปัญหาต่างๆอยู่แต่อยากให้คุณได้รู้ว่าคุณไม่ได้โดดเดี่ยวอยู่เพียงลำพังก็พอ...

101 วิธีกำจัดความเครียด เป็นหนังสือที่ดีอีกเล่มหนึ่งที่ดิฉันอยากจะเอามาเสนอในมุมมองของนักอ่านโดยการที่จะเลือกมาเขียนรีวิวในวันนี้และหนังสือเล่มนี้ก็เป็นก็เป็นผลงานการเรียบเรียงและถ่ายทอดโดยคุณ พิมพ์มาดา หญิงสาวที่จะมาช่วยให้ทุกคนที่กำลังประสบกับปัญหาในชีวิตต่างๆให้นั้นมีทางออกและยังสอนให้เราได้รู้ว่าทุกปัญหานั้นมีทางออกเสมออยู่ที่ตัวเราเองจะเลือกยอมรับหรือหันหลังให้กับมันก็เท่านั้นเอง และในหนังสือเล่มนี้ก็จะกล่าวถึงที่มาที่ไปของสภาวะการเครียดต่างๆและยังรวมไปถึงอัตราความรุนแรงที่จะก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อตัวคุณเองและกับทุกคนที่อยู่รอบข้างคุณด้วย ดังนั้นในฐานะที่ตัวดิฉันเองก็มีเรื่องให้เครียดอยู่บ่อยๆจึงอยากที่จะให้ทุกๆคนได้มาหายเครียดไปพร้อมกันโดยเริ่มจากตัวคุณต้องพยายามเอาตัวเองออกห่างจากสิ่งที่ทำให้เครียดทั้งหลาย ไม่ได้สอนให้หนีปัญหาแต่ที่บอกว่าให้เอาตัวห่างนั้นเพื่อเราจะได้ตั้งหลักที่คิดทบทวนถึงสาเหตุของปัญหาและหาวิธีแก้ปัญหาต่อไป เมื่อเครียดแล้วอยากแนะนำให้พาร่างกายและสมองออกไปผ่อนคลายไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวพักผ่อนหรือจะเป็นการนอนแค่นี้ก็ช่วยให้สมองและร่างกายของคุณนั้นหายล้าจากสภาวะเครียดได้แล้ว โดยที่ในหนังสือเล่มนี้เค้าจะรวบรวมวิธีการคลายเครียดอย่างง่ายๆไว้มากถึง 101 เรื่องด้วยกันทีเดียวใครเหมาะกับวิธีแบบไหนก็สามารถนำไปใช้ได้ สำหรับตัวดิฉันเองนั้นก็ได้ลองทำตามวิธีอย่างที่ในหนังสือบอกซึ่งก็ล้วนแล้วแต่ทำให้ตัวดิฉันเองนั้นหายจากอาการเครียดได้อย่างง่ายดาย เมื่อเราได้รับสิ่งที่ดีๆจากหนังสือดีๆ เราก็อยากที่จะบอกเล่าให้เพื่อนๆทุกคนได้หามาอ่านและใช้มันให้เกิดประโยชน์กับเราที่ได้นำมาใช้จริงและได้ผลลัพธ์ที่ดีกลับมาด้วย ดังนั้นเมื่อมีปัญหาหรือรู้สึกว่าตัวคุณเองนั้นไม่มีใครให้ปรึกษาเราก็ไม่ต้องไปใส่ใจเพราะดิฉันเชื่อว่าเมื่อเราผ่านความรู้สึกนั้นมาได้ด้วยตัวคนเดียวจะยิ่งทำให้เรานั้นเข้มแข็งและยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเองได้อย่างง่ายดายแต่ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหวจริงๆก็ลองหาหนังสือที่ทำให้คุณรู้สึกว่าผ่อนคลายหรือคิดว่ามันน่าจะช่วยให้คุณหาทางออกได้มาอ่านดูและคุณจะรู้ได้ว่าปัญหาเค้ามีไว้ให้เราแก้ไม่ได้มีไว้ให้เราเครียดกับมันเลย สำหรับตัวดิฉันเองก็ขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆที่กำลังประสบปัญหาต่างๆอยู่แต่อยากให้คุณได้รู้ว่าคุณไม่ได้โดดเดี่ยวอยู่เพียงลำพังก็พอ...

160 วิธี คิดบวก-คิดต่าง อย่างมีสุข เป็นผลงานการนำเสนอเรื่องราวต่างๆที่จะทำให้เรามองโลกหรือสิ่งต่างๆรอบๆตัวได้อย่างสวยงามและไม่เครียดและเจ้าของผลงานดีๆอย่างหนังสือเล่มนี้นั้นก็คือ Obaom ซึ่งเค้าได้นำเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆที่ได้พบเจอะหรือเจอกับตัวเองนำมาถ่ายออกออกมาเป็นประโยคคำพูดที่อ่านง่ายๆและยังมีรูปภาพน่ารักๆประกอบอีกด้วย ดิฉันเชื่อว่าจากเหตุการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ค่าครองชีพก็สูง ทุกชีวิตต้องดิ้นรนและพยายามใช้ชีวิวิตให้ผ่านไปในแต่ละวันได้ลำบากขึ้นกว่าเดิมไม่ว่าจะหนุ่มสาวในวัยทำงานและไหนยังจะมีแรงกดดันจากคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน เพื่อนๆหรือแม้ว่าแต่คนในครอบครัวเองก็ตาม เชื่อเถอะในปัจจุบันกลุ่มคนทุกช่วงอายุล้วนแล้วแต่มีเรื่องให้ต้องคิดหรือต้องเครียดแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคลอย่างที่กล่าวไปในข้างต้นก็จะเป็นในเรื่องของกลุ่มคนวัยทำงานไปแล้ว เชื่อไหมว่าเดี๋ยวนี้เด็กๆตัวเล็กๆรวมไปถึงวัยรุ่นเค้าก็ล้วนแต่มีปัญหาให้ต้องเครียดหรือต้องคิดเยอะไม่แพ้ผู้ใหญ่อย่างเราๆเลย ดังนั้นจึงทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศในช่วงนี้นั้นต้องประสบกับสภาวะโรคเครียดหรือโรคซึมเศร้ากันเยอะขึ้น ดังนั้นดิฉันเองจึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างเพราะรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นคนที่เครียดมากไม่ว่าเรื่องอะไรก็เก็บมาเครียดได้ทั้งนั้น งาน ครอบครัว ความรัก สังคม มันมีปัญหาไปหมด ดังนั้นดิฉันจึงต้องหาทางด้วยการพยายามหากิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองทำให้เยอะขึ้นไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง ดูหนัง ช็อปปิ้ง หรือออกกำลังกาย ซึ้งวิธีเหล่านี้มันก็ช่วยได้แค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นจนกระทั่งมีพี่ที่รู้จักเค้าได้แนะนำให้อ่านหนังสือเล่มนี้ดู จึงทำให้ดิฉันได้เห็นถึงอีกแง่มุมมองความคิดของคนอื่นที่มีต่อเรื่องเดียวกันว่าเค้าคิดเห็นอย่างไรและนั้นจึงเป็นการจุดประกายความคิดเล็กๆของดิฉันให้เริ่มเปลี่ยนแปลงแนวความคิดหรือมุมมองให้มันกว้างขึ้นกว่าเดิมไม่ยึดติดแต่กับความคิดของตนเอง ทุกวันนี้ต้องบอกเลยชีวิตมีความสุขขึ้นกว่าเดิมมากเพราะเราเริ่มเรียนรู้ ที่จะใช้วิธีการในการมองและคิดเรื่องต่างๆที่แตกต่างไปจากเดิมทำให้จึงไม่มีปัญหากับเรื่องรอบตัวหรือแม้แต่ความเครียดก็แทบจะไม่มีแล้ว ณ เวลานี้ ต้องแนะนำเพื่อนๆทุกคนให้ลองได้อ่านหรือลองหาหนังสือดีๆมาลองอ่านดูสักเล่มในยามที่ชีวิตไม่รู้จะไปทางไหนเชื่อเถอะว่าคุณจะได้เรียนรู้ในสิ่งที่คุณไม่เคยได้รู้มาก่อนอย่างแน่นอน..

160 วิธี คิดบวก-คิดต่าง อย่างมีสุข เป็นผลงานการนำเสนอเรื่องราวต่างๆที่จะทำให้เรามองโลกหรือสิ่งต่างๆรอบๆตัวได้อย่างสวยงามและไม่เครียดและเจ้าของผลงานดีๆอย่างหนังสือเล่มนี้นั้นก็คือ Obaom ซึ่งเค้าได้นำเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆที่ได้พบเจอะหรือเจอกับตัวเองนำมาถ่ายออกออกมาเป็นประโยคคำพูดที่อ่านง่ายๆและยังมีรูปภาพน่ารักๆประกอบอีกด้วย ดิฉันเชื่อว่าจากเหตุการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ค่าครองชีพก็สูง ทุกชีวิตต้องดิ้นรนและพยายามใช้ชีวิวิตให้ผ่านไปในแต่ละวันได้ลำบากขึ้นกว่าเดิมไม่ว่าจะหนุ่มสาวในวัยทำงานและไหนยังจะมีแรงกดดันจากคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน เพื่อนๆหรือแม้ว่าแต่คนในครอบครัวเองก็ตาม เชื่อเถอะในปัจจุบันกลุ่มคนทุกช่วงอายุล้วนแล้วแต่มีเรื่องให้ต้องคิดหรือต้องเครียดแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคลอย่างที่กล่าวไปในข้างต้นก็จะเป็นในเรื่องของกลุ่มคนวัยทำงานไปแล้ว เชื่อไหมว่าเดี๋ยวนี้เด็กๆตัวเล็กๆรวมไปถึงวัยรุ่นเค้าก็ล้วนแต่มีปัญหาให้ต้องเครียดหรือต้องคิดเยอะไม่แพ้ผู้ใหญ่อย่างเราๆเลย ดังนั้นจึงทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศในช่วงนี้นั้นต้องประสบกับสภาวะโรคเครียดหรือโรคซึมเศร้ากันเยอะขึ้น ดังนั้นดิฉันเองจึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างเพราะรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นคนที่เครียดมากไม่ว่าเรื่องอะไรก็เก็บมาเครียดได้ทั้งนั้น งาน ครอบครัว ความรัก สังคม มันมีปัญหาไปหมด ดังนั้นดิฉันจึงต้องหาทางด้วยการพยายามหากิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองทำให้เยอะขึ้นไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง ดูหนัง ช็อปปิ้ง หรือออกกำลังกาย ซึ้งวิธีเหล่านี้มันก็ช่วยได้แค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นจนกระทั่งมีพี่ที่รู้จักเค้าได้แนะนำให้อ่านหนังสือเล่มนี้ดู จึงทำให้ดิฉันได้เห็นถึงอีกแง่มุมมองความคิดของคนอื่นที่มีต่อเรื่องเดียวกันว่าเค้าคิดเห็นอย่างไรและนั้นจึงเป็นการจุดประกายความคิดเล็กๆของดิฉันให้เริ่มเปลี่ยนแปลงแนวความคิดหรือมุมมองให้มันกว้างขึ้นกว่าเดิมไม่ยึดติดแต่กับความคิดของตนเอง ทุกวันนี้ต้องบอกเลยชีวิตมีความสุขขึ้นกว่าเดิมมากเพราะเราเริ่มเรียนรู้ ที่จะใช้วิธีการในการมองและคิดเรื่องต่างๆที่แตกต่างไปจากเดิมทำให้จึงไม่มีปัญหากับเรื่องรอบตัวหรือแม้แต่ความเครียดก็แทบจะไม่มีแล้ว ณ เวลานี้ ต้องแนะนำเพื่อนๆทุกคนให้ลองได้อ่านหรือลองหาหนังสือดีๆมาลองอ่านดูสักเล่มในยามที่ชีวิตไม่รู้จะไปทางไหนเชื่อเถอะว่าคุณจะได้เรียนรู้ในสิ่งที่คุณไม่เคยได้รู้มาก่อนอย่างแน่นอน..

AEC ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community) เป็นหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวและความหมายของประชาคมอาเซียนและเรื่องราวเกี่ยวกับเหล่าประเทศสมาชิกทั้งหลายว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรถึงได้มาร่วมตัวกันก่อตั้งเป็นสมาคมขึ้นมา นอกจากนี้เรายังจะได้ความรู้ในเรื่องของความหมายของคำต่างๆที่เค้าใช้เรียกกันในประชาคมอาเซียนว่าหมายถึงอะไรและมีความสำคัญอย่างไรบ้างนอกจากนี้เราจะยังได้รู้ถึงความสำคัญของการที่กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนนั้นจะได้จะมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้ทุกประเทศสมาชิกกำลังรณรงค์ให้ประชาชนภายในประเทศของตนนั้นได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและเข้าใจถึงสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นตามมาแต่ทุกอย่างล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ที่ว่าเราจะพยายามทำความเข้าใจกับเรื่องราวต่างๆได้มากน้อยเพียงใด และนอกเหนือจากที่ดิฉันกล่าวมานั้นสิ่งที่เราจะได้จากการอ่านหนังสือเล่มนี้นั้นก็คือความรู้ที่เกี่ยวข้องกับประเทศสมาชิกทั้งหมดว่าในแต่ละประเทศนั้นเค้ามีความเป็นอยู่และลักษณะภูมิประเทศเค้าเป็นอย่างไร เศรษฐกิจความมั่นคงรวมไปถึงวัฒนธรรมที่น้อยคนนักที่จะได้ล่วงรู้ถ้าไม่ได้ไปเยือนประเทศนั้นจริงๆดังนั้นคราวนี้จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของการที่จะเรียนรู้กลุ่มสมาชิกประชาคมอาเซียน ซึ่งแน่นอนว่าการที่เรารีบศึกษาทุกอย่างของคู่แข่งเราย่อมได้เปรียบทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมหรือแม้แต่การศึกษาเองก็ด้วยเพราะถ้าเราได้เรียนรู้วิธีการของเค้าเราก็สามารถนำสิ่งดีๆที่บ้านเมืองเค้ามีมาพัฒนาให้กับบ้านเมืองของเราให้เจริญรุ่งเรืองเหมือนเค้าบ้าง เห็นไหมค่ะว่ามันมีข้อดีเยอะแยะให้เราได้เลือกอ่านและศึกษา ฉะนั้นเพื่อนๆทุกคนอย่าได้นิ่งนอนใจว่าไม่เกี่ยวอะไรด้วยสักหน่อยใครจะทำอะไรก็ทำไป อย่างนี้ไม่ได้แล้วนะค่ะ เพราะถ้าเรารักประเทศของเราจริงเราจะต้องช่วยกันพัฒนาให้บ้านเมืองของเรานั้นได้รับแต่สิ่งที่ดีๆเข้ามาไม่เช่นนั้นเราจะไปสู่กับใครเค้าได้จริงไหมค่ะ เพราะฉะนั้นเราจึงควรต้องใส่ใจในเรื่องของเศรษฐกิจบ้านเมืองว่าตอนนี้เค้าไปถึงไหนกันแล้ว ถ้าคุณไม่มีเวลาติดตามข่าวนี้เลยดิฉันขอแนะนำหนังสือเล่มนี้ที่จะสามารถทำให้ทุกคนอ่านแล้วเข้าใจในเรื่องของประชาคมอาเซียน ที่ได้กล่าวถึงอย่างละเอียดเนื้อหาก็ไม่ซับซ้อนไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรือประกอบอาชีพอะไรหนังสือเล่มนี้ก็จะทำให้คุณนั้นรับรู้เรื่องราวได้เป็นอย่างดีและถูกต้อง โดยที่ไม่ต้องไปเสียเวลานั่งหาข่าวที่ไม่เป็นจริงบ้างเป็นจริงบ้างคละเค้ากันไปแต่เชื่อดิฉันเถอะว่าอะไรที่เราเลือกเพื่อที่จะศึกษาเองนั้นมันย่อยได้ข้อสรุปที่จริงแท้แน่นอนและชัดเจน กระจ่างอยู่ในความรู้สึกของเราอย่างแน่นอน...

AEC ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community) เป็นหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวและความหมายของประชาคมอาเซียนและเรื่องราวเกี่ยวกับเหล่าประเทศสมาชิกทั้งหลายว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรถึงได้มาร่วมตัวกันก่อตั้งเป็นสมาคมขึ้นมา นอกจากนี้เรายังจะได้ความรู้ในเรื่องของความหมายของคำต่างๆที่เค้าใช้เรียกกันในประชาคมอาเซียนว่าหมายถึงอะไรและมีความสำคัญอย่างไรบ้างนอกจากนี้เราจะยังได้รู้ถึงความสำคัญของการที่กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนนั้นจะได้จะมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้ทุกประเทศสมาชิกกำลังรณรงค์ให้ประชาชนภายในประเทศของตนนั้นได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและเข้าใจถึงสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นตามมาแต่ทุกอย่างล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ที่ว่าเราจะพยายามทำความเข้าใจกับเรื่องราวต่างๆได้มากน้อยเพียงใด และนอกเหนือจากที่ดิฉันกล่าวมานั้นสิ่งที่เราจะได้จากการอ่านหนังสือเล่มนี้นั้นก็คือความรู้ที่เกี่ยวข้องกับประเทศสมาชิกทั้งหมดว่าในแต่ละประเทศนั้นเค้ามีความเป็นอยู่และลักษณะภูมิประเทศเค้าเป็นอย่างไร เศรษฐกิจความมั่นคงรวมไปถึงวัฒนธรรมที่น้อยคนนักที่จะได้ล่วงรู้ถ้าไม่ได้ไปเยือนประเทศนั้นจริงๆดังนั้นคราวนี้จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของการที่จะเรียนรู้กลุ่มสมาชิกประชาคมอาเซียน ซึ่งแน่นอนว่าการที่เรารีบศึกษาทุกอย่างของคู่แข่งเราย่อมได้เปรียบทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมหรือแม้แต่การศึกษาเองก็ด้วยเพราะถ้าเราได้เรียนรู้วิธีการของเค้าเราก็สามารถนำสิ่งดีๆที่บ้านเมืองเค้ามีมาพัฒนาให้กับบ้านเมืองของเราให้เจริญรุ่งเรืองเหมือนเค้าบ้าง เห็นไหมค่ะว่ามันมีข้อดีเยอะแยะให้เราได้เลือกอ่านและศึกษา ฉะนั้นเพื่อนๆทุกคนอย่าได้นิ่งนอนใจว่าไม่เกี่ยวอะไรด้วยสักหน่อยใครจะทำอะไรก็ทำไป อย่างนี้ไม่ได้แล้วนะค่ะ เพราะถ้าเรารักประเทศของเราจริงเราจะต้องช่วยกันพัฒนาให้บ้านเมืองของเรานั้นได้รับแต่สิ่งที่ดีๆเข้ามาไม่เช่นนั้นเราจะไปสู่กับใครเค้าได้จริงไหมค่ะ เพราะฉะนั้นเราจึงควรต้องใส่ใจในเรื่องของเศรษฐกิจบ้านเมืองว่าตอนนี้เค้าไปถึงไหนกันแล้ว ถ้าคุณไม่มีเวลาติดตามข่าวนี้เลยดิฉันขอแนะนำหนังสือเล่มนี้ที่จะสามารถทำให้ทุกคนอ่านแล้วเข้าใจในเรื่องของประชาคมอาเซียน ที่ได้กล่าวถึงอย่างละเอียดเนื้อหาก็ไม่ซับซ้อนไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรือประกอบอาชีพอะไรหนังสือเล่มนี้ก็จะทำให้คุณนั้นรับรู้เรื่องราวได้เป็นอย่างดีและถูกต้อง โดยที่ไม่ต้องไปเสียเวลานั่งหาข่าวที่ไม่เป็นจริงบ้างเป็นจริงบ้างคละเค้ากันไปแต่เชื่อดิฉันเถอะว่าอะไรที่เราเลือกเพื่อที่จะศึกษาเองนั้นมันย่อยได้ข้อสรุปที่จริงแท้แน่นอนและชัดเจน กระจ่างอยู่ในความรู้สึกของเราอย่างแน่นอน...

My favorite tale เงินที่งอกเงย ผลงานการแต่งเรื่องโดยคุณป้าเวนดี้ หนังสือนิทานเรื่องนี้จะเล่าถึงเรื่องราวของเด็กๆที่ถูกสอนให้รู้จักวิธีการเก็บออมเงินและยังสามารถนำเงินที่เก็บไว้นั้นไปทำให้เกิดผลเงินที่เพิ่มขึ้นมาอีก ในหนังสือนิทานเล่มนี้ถือว่ามีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ต่อเยาวชนทุกช่วงวัยเป็นอย่างมากแต่ถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุดคงจะต้องใช้กับวัยเด็กเล็กที่ยังต้องการเรียนรู้และสั่งสมประการณ์ที่อยู่รอบๆตัวเพื่อนำไปใช้ในการดำรงชีวิตในภายภาคหน้าได้เลย และในหนังสือนิทานเล่มนี้เค้าจะเล่าถึงกลุ่มเด็กๆที่กำลังอยู่ในวัยเรียนรู้และได้รับการสั่งสอนถึงเรื่องการออมเงินเองไว้ใช้ซื้อของที่ตัวเองอยากได้ ยกตัวอย่างเช่นเด็กชายคนหนึ่งชอบเล่นของเล่นมากๆเวลาที่ไปตลาดเค้ามักจะขอให้แม่ซื้อของเล่นให้แต่พอแม่ไม่ซื้อให้เค้าก็จะแก้ปัญหาด้วยการร้องไห้โวยวายเสียงดังเพื่อเรียกร้องให้แม่ของเค้าใจอ่อนและซึ่งเหตุการณ์แบบนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัวที่มีลูกที่อายุยังน้อยดังนั้นการที่ได้มาอ่านหนังสือนิทานเรื่องนี้จะช่วยให้คุณผู้ปกครองที่ไม่รู้จะแก้ปัญหาเรื่องลูกเอาแต่ใจได้อย่างไรหรืออยากจะฝึกให้ลูกรู้จักคุณค่าของเงินและต้องการปลูกฝังเค้าตั้งแต่เด็กๆ หนังสือนิทานเล่มนี้จะช่วยคุณได้มากเพราะเค้าจะบอกแนวทางที่เราสามารถนำไปใช้กับเด็กที่บ้านให้เค้าได้เรียนรู้และซึมซับแต่สิ่งที่ดีๆและยังเป็นแนวทางป้องกันการที่เด็กจะติดนิสัยเอาแต่ใจ เมื่อได้รับการเรียนรู้ในสิ่งที่ถูกต้องแล้วรับรองว่าเด็กๆเหล่านั้นจะโตขึ้นมาโดยไม่มีนิสัยที่เอาแต่ใจเลย งั้นดิฉันของนำเสนอเรื่องราวจากประสบการณ์จริงที่ดิฉันได้ทำมากับหลานๆของตนเองเนื่องด้วยที่ดิฉันมีหลานสาวที่อยู่ในวัยที่กำลังเรียนรู้และมักจะเรียกร้องต้องการในสิ่งที่เค้าเห็นมา ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนเค้าก็มักจะร้องเอาสิ่งของที่เค้าอยากได้ดังนั้นดิฉันและคนที่บ้านจึงหาวิธีให้หลานรู้จักค่าของเงินจนได้มาเจอกับชุดนิทานของคุณป้าเวนดี้ซึ่งจะเป็นเรื่องราวมี่สอนเด็กๆได้ดีในแต่ละเรื่องแตกต่างกันไป ซึ่งเดี๋ยวไว้จะนำมารีวิวให้ได้อ่านกันอย่างแน่นอน ขอกลับมาที่หลานต่อเมื่อได้อ่านนิทานเรื่องนี้ให้เค้าฟังเค้าก็เหมือนจะเริ่มซึมซับว่าอ่อเงินไม่ได้หามาง่ายๆนะคุณพ่อคุณแม่เหนื่อยนะกว่าจะเอาเงินมาซื้อของเล่นให้ดังนั้นถ้าหนูอยากจะได้อะไรก็ให้เอาเงินได้จากค่าขนมมาแบ่งหยอดใส่กระปุกให้เต็มแล้วค่อยเอาเงินไปซื้อของที่ตัวเองอยากได้ต่อไป เห็นไหมค่ะว่าเด็กๆเรามีการเรียนรู้เกิดขึ้นมาดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงถือว่าให้ประโยชน์เป็นอย่างมากค่ะ...

My favorite tale เงินที่งอกเงย ผลงานการแต่งเรื่องโดยคุณป้าเวนดี้ หนังสือนิทานเรื่องนี้จะเล่าถึงเรื่องราวของเด็กๆที่ถูกสอนให้รู้จักวิธีการเก็บออมเงินและยังสามารถนำเงินที่เก็บไว้นั้นไปทำให้เกิดผลเงินที่เพิ่มขึ้นมาอีก ในหนังสือนิทานเล่มนี้ถือว่ามีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ต่อเยาวชนทุกช่วงวัยเป็นอย่างมากแต่ถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุดคงจะต้องใช้กับวัยเด็กเล็กที่ยังต้องการเรียนรู้และสั่งสมประการณ์ที่อยู่รอบๆตัวเพื่อนำไปใช้ในการดำรงชีวิตในภายภาคหน้าได้เลย และในหนังสือนิทานเล่มนี้เค้าจะเล่าถึงกลุ่มเด็กๆที่กำลังอยู่ในวัยเรียนรู้และได้รับการสั่งสอนถึงเรื่องการออมเงินเองไว้ใช้ซื้อของที่ตัวเองอยากได้ ยกตัวอย่างเช่นเด็กชายคนหนึ่งชอบเล่นของเล่นมากๆเวลาที่ไปตลาดเค้ามักจะขอให้แม่ซื้อของเล่นให้แต่พอแม่ไม่ซื้อให้เค้าก็จะแก้ปัญหาด้วยการร้องไห้โวยวายเสียงดังเพื่อเรียกร้องให้แม่ของเค้าใจอ่อนและซึ่งเหตุการณ์แบบนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัวที่มีลูกที่อายุยังน้อยดังนั้นการที่ได้มาอ่านหนังสือนิทานเรื่องนี้จะช่วยให้คุณผู้ปกครองที่ไม่รู้จะแก้ปัญหาเรื่องลูกเอาแต่ใจได้อย่างไรหรืออยากจะฝึกให้ลูกรู้จักคุณค่าของเงินและต้องการปลูกฝังเค้าตั้งแต่เด็กๆ หนังสือนิทานเล่มนี้จะช่วยคุณได้มากเพราะเค้าจะบอกแนวทางที่เราสามารถนำไปใช้กับเด็กที่บ้านให้เค้าได้เรียนรู้และซึมซับแต่สิ่งที่ดีๆและยังเป็นแนวทางป้องกันการที่เด็กจะติดนิสัยเอาแต่ใจ เมื่อได้รับการเรียนรู้ในสิ่งที่ถูกต้องแล้วรับรองว่าเด็กๆเหล่านั้นจะโตขึ้นมาโดยไม่มีนิสัยที่เอาแต่ใจเลย งั้นดิฉันของนำเสนอเรื่องราวจากประสบการณ์จริงที่ดิฉันได้ทำมากับหลานๆของตนเองเนื่องด้วยที่ดิฉันมีหลานสาวที่อยู่ในวัยที่กำลังเรียนรู้และมักจะเรียกร้องต้องการในสิ่งที่เค้าเห็นมา ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนเค้าก็มักจะร้องเอาสิ่งของที่เค้าอยากได้ดังนั้นดิฉันและคนที่บ้านจึงหาวิธีให้หลานรู้จักค่าของเงินจนได้มาเจอกับชุดนิทานของคุณป้าเวนดี้ซึ่งจะเป็นเรื่องราวมี่สอนเด็กๆได้ดีในแต่ละเรื่องแตกต่างกันไป ซึ่งเดี๋ยวไว้จะนำมารีวิวให้ได้อ่านกันอย่างแน่นอน ขอกลับมาที่หลานต่อเมื่อได้อ่านนิทานเรื่องนี้ให้เค้าฟังเค้าก็เหมือนจะเริ่มซึมซับว่าอ่อเงินไม่ได้หามาง่ายๆนะคุณพ่อคุณแม่เหนื่อยนะกว่าจะเอาเงินมาซื้อของเล่นให้ดังนั้นถ้าหนูอยากจะได้อะไรก็ให้เอาเงินได้จากค่าขนมมาแบ่งหยอดใส่กระปุกให้เต็มแล้วค่อยเอาเงินไปซื้อของที่ตัวเองอยากได้ต่อไป เห็นไหมค่ะว่าเด็กๆเรามีการเรียนรู้เกิดขึ้นมาดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงถือว่าให้ประโยชน์เป็นอย่างมากค่ะ...

Dora the Explorer ตอน หรรษาป่าต้องมนต์ หนังสือนิทานที่นำมาจากการ์ตูนยอดฮิตของเด็กๆในเวลานี้และมาถึงเรื่องราวตอนใหม่ที่ดอร่าและเหล่าพ้องเพื่อนที่คราวนี้ต้องเดินทางไปไปในป่าต้องมนต์ที่มีการจัดงานโหวตเจ้าป่าแห่งนั้นเพื่อเป็นรับเลือกเป็นพระราชาผู้ปกครองดินแดนแห่งป่าต้องมนต์ ซึ่งสัตว์ที่อยู่ในป่าต้องมนต์ต่างก็พากันเทคะแนนให้ก็คือม้ายูนิคอนหนุ่มหล่อ ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมและมีความเป็นผู้นำอย่างเห็นได้ชัดแต่มีอีกหนึ่งเสียงที่ไม่เห็นด้วยนั้นก็คือเจ้านกฮูก ที่เจ้านกฮูกไม่อยากให้ม้ายูนิคอนเป็นพระราชาเพราะลำพองตัวว่าตัวเองนั้นเหมาะที่จะเป็นพระราชามากว่าม้ายูนิคอน ดังนั้นเจ้านกฮูกจึงวางแผนการอันร้ายกาจคือวางกับดักม้ายูนิคอนเพื่อเป็นการจัดการกับพระราชาคนใหม่ ดังนั้นดอร่าและพ้องเพื่อนจึงต้องเดินทางไปยังป่าแห่งมนต์เพื่อช่วยเหลือพระราชาและป่าแห่งนี้ไว้ให้ได้ เป็นอีกตอนของนิทานดอร่าที่มีเนื้อหาที่สนุกและชวนให้เด็กๆนั้นตื่นตาตื่นใจไปกับภาพบรรยากาศของป่าและระหว่างทางนั้นดอร่าและเพื่อนๆจะต้องทำภาระกิจต่างๆไปด้วยและที่ไม่เคยขาดเลยคือคำศัพท์ที่มีขึ้นมาตามสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวงานนี้นอกจากจะได้เพลิดเพลินไปกับดอร่าและเพื่อนๆแล้วเด็กๆยังได้เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษต่างๆเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย และเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของนิทานดอร่านั้นก็คือการพูดนำเพื่อให้เด็กๆพูดตามคำศัพท์ที่เค้าพูดและนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กๆได้มีส่วนร่วมในการฟังนิทานในครั้งนี้ด้วย ถ้าเป็นที่โรงเรียนแล้วเด็กได้ฟังจากที่คุณครูเล่านั้นเด็กๆก็จะได้มีส่วนร่วมในการเล่านิทานไปพร้อมๆกับครูและเพื่อนๆแต่ถ้าผู้ปกครองนั้นเป็นฝ่ายที่ใช้เวลาเล่านิทานให้ลูกฟังนั้นเด็กๆนอกจากจะได้ความสนุกรวมถึงคำศัพท์ต่างๆแล้วเค้ายังได้ความรักความอบอุ่นที่คุณมอบให้แก่เค้าผ่านทางการเล่านิทานอีกด้วย ดังนั้นดิฉันจึงอยากที่จะสนับสนุนให้ทุกครอบครัวได้ใช่เวลาว่างเพื่อเป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว ดีกว่าที่ปล่อยให้พวกเด็กๆนั้นต้องเรียนรู้อยู่เพียงลำพังโดยที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่คอยแนะนำและบอกถึงสิ่งที่สมควรทำหรือไม่สมควรทำ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการปลูกฝังสิ่งที่ดีๆให้เหมาะสมตามวัยของเด็กในแต่ละช่วงอายุให้เค้าได้รับในสิ่งที่สมควรเหมาะสม เพราะฉะนั้นหนังสือนิทานเรื่องดอร่า จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นสื่อในการเข้าถึงตัวของเด็กๆและเพิ่มศักยภาพของเค้าให้มีเพิ่มขึ้นไปอีกด้วย...

Dora the Explorer ตอน หรรษาป่าต้องมนต์ หนังสือนิทานที่นำมาจากการ์ตูนยอดฮิตของเด็กๆในเวลานี้และมาถึงเรื่องราวตอนใหม่ที่ดอร่าและเหล่าพ้องเพื่อนที่คราวนี้ต้องเดินทางไปไปในป่าต้องมนต์ที่มีการจัดงานโหวตเจ้าป่าแห่งนั้นเพื่อเป็นรับเลือกเป็นพระราชาผู้ปกครองดินแดนแห่งป่าต้องมนต์ ซึ่งสัตว์ที่อยู่ในป่าต้องมนต์ต่างก็พากันเทคะแนนให้ก็คือม้ายูนิคอนหนุ่มหล่อ ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมและมีความเป็นผู้นำอย่างเห็นได้ชัดแต่มีอีกหนึ่งเสียงที่ไม่เห็นด้วยนั้นก็คือเจ้านกฮูก ที่เจ้านกฮูกไม่อยากให้ม้ายูนิคอนเป็นพระราชาเพราะลำพองตัวว่าตัวเองนั้นเหมาะที่จะเป็นพระราชามากว่าม้ายูนิคอน ดังนั้นเจ้านกฮูกจึงวางแผนการอันร้ายกาจคือวางกับดักม้ายูนิคอนเพื่อเป็นการจัดการกับพระราชาคนใหม่ ดังนั้นดอร่าและพ้องเพื่อนจึงต้องเดินทางไปยังป่าแห่งมนต์เพื่อช่วยเหลือพระราชาและป่าแห่งนี้ไว้ให้ได้ เป็นอีกตอนของนิทานดอร่าที่มีเนื้อหาที่สนุกและชวนให้เด็กๆนั้นตื่นตาตื่นใจไปกับภาพบรรยากาศของป่าและระหว่างทางนั้นดอร่าและเพื่อนๆจะต้องทำภาระกิจต่างๆไปด้วยและที่ไม่เคยขาดเลยคือคำศัพท์ที่มีขึ้นมาตามสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวงานนี้นอกจากจะได้เพลิดเพลินไปกับดอร่าและเพื่อนๆแล้วเด็กๆยังได้เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษต่างๆเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย และเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของนิทานดอร่านั้นก็คือการพูดนำเพื่อให้เด็กๆพูดตามคำศัพท์ที่เค้าพูดและนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กๆได้มีส่วนร่วมในการฟังนิทานในครั้งนี้ด้วย ถ้าเป็นที่โรงเรียนแล้วเด็กได้ฟังจากที่คุณครูเล่านั้นเด็กๆก็จะได้มีส่วนร่วมในการเล่านิทานไปพร้อมๆกับครูและเพื่อนๆแต่ถ้าผู้ปกครองนั้นเป็นฝ่ายที่ใช้เวลาเล่านิทานให้ลูกฟังนั้นเด็กๆนอกจากจะได้ความสนุกรวมถึงคำศัพท์ต่างๆแล้วเค้ายังได้ความรักความอบอุ่นที่คุณมอบให้แก่เค้าผ่านทางการเล่านิทานอีกด้วย ดังนั้นดิฉันจึงอยากที่จะสนับสนุนให้ทุกครอบครัวได้ใช่เวลาว่างเพื่อเป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว ดีกว่าที่ปล่อยให้พวกเด็กๆนั้นต้องเรียนรู้อยู่เพียงลำพังโดยที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่คอยแนะนำและบอกถึงสิ่งที่สมควรทำหรือไม่สมควรทำ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการปลูกฝังสิ่งที่ดีๆให้เหมาะสมตามวัยของเด็กในแต่ละช่วงอายุให้เค้าได้รับในสิ่งที่สมควรเหมาะสม เพราะฉะนั้นหนังสือนิทานเรื่องดอร่า จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นสื่อในการเข้าถึงตัวของเด็กๆและเพิ่มศักยภาพของเค้าให้มีเพิ่มขึ้นไปอีกด้วย...

Dora the Explorer ตอน เที่ยวทะเลแสนสนุก จากการ์ตูนยอดนิยมในหมู่บรรดาเด็กเล็กเด็กน้อยมากมายทั่วประเทศสำหรับดอร่าเด็กหญิงผมหน้าม้าตัวกลมที่มีเพื่อนรักเป็นลิงทั้งสองมักจะออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆเพื่อปฏิบัติภารกิจต่างๆให้สำเร็จและคราวนี้ไม่ได้มาในรูปแบบการ์ตูนและแปรเปลี่ยนมาทำเป็นหนังสือนิทานให้เด็กๆได้อ่านและสนุกไปพร้อมๆกันและก็ยังคงเป็นอย่างในการ์ตูนทุกอย่างเพียงแค่เปลี่ยนจากภาพเคลื่อนไหวเป็นภาพการ์ตูนนิ่งๆเท่านั้นเองและสำหรับชื่อตอนในหนังสือนิทานเรื่อง ดอร่าเล่มนี้จะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับ ตัวของดอร่าและบูตส์เพื่อนรักของดอร่าที่เป็นเจ้าลิงจ้อเพื่อนรักที่คอยช่วยเหลือดอร่ามาเสนอนั้นเอง คราวนี้ก็ได้เกิดเรื่องราวขึ้นเมื่อเด็กหญิงดอร่าเกิดอยากไปเที่ยวทะเลขึ้นมาแต่ติดปัญหาที่ว่าบูตส์เพื่อนรักของเธอนั้นดันว่ายน้ำไม่เป็นอย่างนี้ไปทะเลจะเล่นน้ำได้ยังไงล่ะ คราวนี้จึงเป็นหน้าที่ของดอร่าที่จะต้องหาวิธีสอนบูตส์ให้ว่ายน้ำให้ได้ เมื่อไปถึงทะเลดอร่าจึงได้เรียกให้เจ้าหญิงมาเรียน่าซึ้งเป็นนางเงือกนั้นออกมาช่วยในการสอนเจ้าลิงบูตส์ว่ายน้ำในครั้งนี้ด้วย นี้จึงเป็นที่มาของเรื่องราวทั้งหมด สมัยนี้ถ้าพูดถึงการ์ตูนที่เด็กๆชอบดูมากที่สุดยังไงก็ต้องมีการ์ตูนเรื่องดอร่าติดอยู่ด้วยแน่นอนจากประสบการณ์ตรงของตนเองที่เป็นครูและยังเป็นอาของหลานๆที่อยู่ในวัยที่ชอบดูการ์ตูนเป็นอย่างมากเริ่มจากการที่หลานของตัวเองนั้นได้ไปดูการ์ตูนจากที่ไหนสักแห่งเลยอ้อนให้ซื้อการ์ตูนเรื่องดอร่าให้ดูหน่อยดังนั้นดิฉันเลยลองนั่งดูเป็นเพื่อนหลานเลยรู้สึกว่าการ์ตูนไม่ใช่เรื่องไร้สาระอีกต่อไปเพราะในการ์ตูนเรื่องนี้นั้นแหกกฏของการ์ตูนที่สร้างมาเพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ในการ์ตูนเรื่องดอร่านั้นยังสอดแทรกสาระและความรู้ต่างๆไว้อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มักจะมีอยู่ในเกือบทุกฉากและในแต่ละตอนก็จะมีเนื้อหาที่สอนแง่คิดและคติสอนใจต่างๆให้กับเด็กๆได้ทราบและสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำอีกด้วย และแถมยังทันสมัยเหมาะกับทุกช่วงวัยเป็นอย่างมากมาถึงตอนนี้ที่นำมาทำเป็นหนังสือนิทานเองก็ตามก็ยังคงมีความสนุกที่แฝงไปด้วยความรู้ต่างๆไว้เหมือนเดิมไม่น้อยลงสักนิด ส่วนแง่คิดที่เด็กจะได้จากในนิทานเรื่องดอร่าตอนทะเลแสนสนุกนี้ เด็กๆจะได้รู้จักกับคำศัพท์ที่เกี่ยวกับทะเลเยอะแยะมากมายแถมยังได้เรียนรู้วิธีการว่ายน้ำที่เงือกและดอร่าพยายามสอนให้กับเพื่อนรักของพวกเธออีกด้วย ดังนั้นดิฉันอยากแนะนำจริงๆรับรองว่ามีประโยชน์และสาระแน่นอนค่ะ...

Dora the Explorer ตอน เที่ยวทะเลแสนสนุก จากการ์ตูนยอดนิยมในหมู่บรรดาเด็กเล็กเด็กน้อยมากมายทั่วประเทศสำหรับดอร่าเด็กหญิงผมหน้าม้าตัวกลมที่มีเพื่อนรักเป็นลิงทั้งสองมักจะออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆเพื่อปฏิบัติภารกิจต่างๆให้สำเร็จและคราวนี้ไม่ได้มาในรูปแบบการ์ตูนและแปรเปลี่ยนมาทำเป็นหนังสือนิทานให้เด็กๆได้อ่านและสนุกไปพร้อมๆกันและก็ยังคงเป็นอย่างในการ์ตูนทุกอย่างเพียงแค่เปลี่ยนจากภาพเคลื่อนไหวเป็นภาพการ์ตูนนิ่งๆเท่านั้นเองและสำหรับชื่อตอนในหนังสือนิทานเรื่อง ดอร่าเล่มนี้จะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับ ตัวของดอร่าและบูตส์เพื่อนรักของดอร่าที่เป็นเจ้าลิงจ้อเพื่อนรักที่คอยช่วยเหลือดอร่ามาเสนอนั้นเอง คราวนี้ก็ได้เกิดเรื่องราวขึ้นเมื่อเด็กหญิงดอร่าเกิดอยากไปเที่ยวทะเลขึ้นมาแต่ติดปัญหาที่ว่าบูตส์เพื่อนรักของเธอนั้นดันว่ายน้ำไม่เป็นอย่างนี้ไปทะเลจะเล่นน้ำได้ยังไงล่ะ คราวนี้จึงเป็นหน้าที่ของดอร่าที่จะต้องหาวิธีสอนบูตส์ให้ว่ายน้ำให้ได้ เมื่อไปถึงทะเลดอร่าจึงได้เรียกให้เจ้าหญิงมาเรียน่าซึ้งเป็นนางเงือกนั้นออกมาช่วยในการสอนเจ้าลิงบูตส์ว่ายน้ำในครั้งนี้ด้วย นี้จึงเป็นที่มาของเรื่องราวทั้งหมด สมัยนี้ถ้าพูดถึงการ์ตูนที่เด็กๆชอบดูมากที่สุดยังไงก็ต้องมีการ์ตูนเรื่องดอร่าติดอยู่ด้วยแน่นอนจากประสบการณ์ตรงของตนเองที่เป็นครูและยังเป็นอาของหลานๆที่อยู่ในวัยที่ชอบดูการ์ตูนเป็นอย่างมากเริ่มจากการที่หลานของตัวเองนั้นได้ไปดูการ์ตูนจากที่ไหนสักแห่งเลยอ้อนให้ซื้อการ์ตูนเรื่องดอร่าให้ดูหน่อยดังนั้นดิฉันเลยลองนั่งดูเป็นเพื่อนหลานเลยรู้สึกว่าการ์ตูนไม่ใช่เรื่องไร้สาระอีกต่อไปเพราะในการ์ตูนเรื่องนี้นั้นแหกกฏของการ์ตูนที่สร้างมาเพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ในการ์ตูนเรื่องดอร่านั้นยังสอดแทรกสาระและความรู้ต่างๆไว้อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มักจะมีอยู่ในเกือบทุกฉากและในแต่ละตอนก็จะมีเนื้อหาที่สอนแง่คิดและคติสอนใจต่างๆให้กับเด็กๆได้ทราบและสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำอีกด้วย และแถมยังทันสมัยเหมาะกับทุกช่วงวัยเป็นอย่างมากมาถึงตอนนี้ที่นำมาทำเป็นหนังสือนิทานเองก็ตามก็ยังคงมีความสนุกที่แฝงไปด้วยความรู้ต่างๆไว้เหมือนเดิมไม่น้อยลงสักนิด ส่วนแง่คิดที่เด็กจะได้จากในนิทานเรื่องดอร่าตอนทะเลแสนสนุกนี้ เด็กๆจะได้รู้จักกับคำศัพท์ที่เกี่ยวกับทะเลเยอะแยะมากมายแถมยังได้เรียนรู้วิธีการว่ายน้ำที่เงือกและดอร่าพยายามสอนให้กับเพื่อนรักของพวกเธออีกด้วย ดังนั้นดิฉันอยากแนะนำจริงๆรับรองว่ามีประโยชน์และสาระแน่นอนค่ะ...

10 นิทานนานาชาติ เล่ม 3 หลังจากที่เรานำเสนอหนังสือที่นำเรื่องราวของนิทานดังต่างๆมารวมไว้ในเล่มเดียวกันไปแล้วถึงสองเล่มด้วยกันมาคราวนี้ก็ได้เวลาออกเล่มที่สามตามเพื่อให้เด็กๆหรือคุณหนูๆได้เพลิดเพลินไปกับนิทานยอดนิยมตลอดกาลและมาถึงเล่มนี้ก็ได้ขนนิทานสนุกมาไว้อยู่ในเล่มเดียวกันถึงสิบเรื่องด้วยกันแต่เล่มนี้มีเรื่องราวที่ซ้ำกับเรื่องที่แล้วอยู่บ้างอย่างเรื่องซินเดอเรลลาแต่ก็ไม่แปลกอะไรเพราะในการนำเรื่องราวที่สนุกและเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆมาไว้ด้วยกันนั้นเค้าย่อมต้องชอบเรื่องราวที่มีมาในหนังสือเป็นแน่แท้ และสำหรับในหนังสือเล่มนี้ก็มีนิทาน สิบเรื่องดังอย่าง ซินเดอเรลล่าเจ้าหญิงที่เคยถูกแม่เลี้ยงใจรังแกและสร้างเรื่องราวความประทับใจในคืนเต้นรำและทิ้งรองเท้าแก้วให้เจาชายตามหา เจ้าหญิงนิทรา เมาคลีลูกหมาป่า กำเนิดดาวลูกไก่ ตุ๊กตาทหารบุกขาเดียว เจ้าหญิงมังกร อลิซในแดนมหัสจรรย์ ทอมหัวแม่มือ ตุ๊กตาขนมปังขิง และเรื่องสุดท้ายคือ ปีเตอร์แพน ในหลายเรื่องที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้นั้นจะมีภาพสีประกอบให้ทั้งเล่มยิ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเด็กๆเป็นอย่างมากเพราะตัวดิฉันเองได้หาซื้อนิทานมาอ่านให้ลูกศิษย์ภายในห้องได้ลองฟังกันดูและพวกเค้าก็แสดงความชอบออกมาอย่างหนึ่งที่เหมือนกันทั้งเด็กผู้หญิงและก็เด็กผู้ชายนั้นก็คืออาการนั่งนั่งกันอย่างตั้งใจเพราะนิทานในหนังสือเล่มนี้นั้นเด็กๆทุกล้วนรู้จักเพราะเคยได้ดูการ์ตูนและเคยฟังมาก่อนแล้วแต่ก็มีบางเรื่องที่เด็กๆนั้นไม่เคยได้ฟังมาก่อนเลยอย่างนิทานเรื่อง เมาคลีลูกหมาป่า พวกเด็กๆก็แสดงท่าทางที่ตื่นเต้นมากสังเกตได้จากการตั้งใจฟังและลุกเข้ามานั่งใกล้ๆเพื่อที่จะดูภาพในหนังสือนิทานให้ชัดๆด้วยความที่หนังสือเล่มนี้มีการรวมนิทานไว้ถึงสิบเรื่องจึงทำให้ดิฉันสามารถนำมาใช้ได้อย่างต่อเนื่องเพราะสามารถเปลี่ยนเรื่องเล่าได้ทุกๆวันโดยที่ไม่ต้องเที่ยวหานิทานเรื่องอื่นมาอ่านให้เด็กๆฟังให้วุ่นวาย ดิฉันได้นิทานสนุกๆอ่านให้เด็กฟังในทุกวันแถมยังประหยัดเวลาในการหานิทานมาอ่านให้เด็กฟังอีกมันช่างเป็นอะไรที่ดีมากๆ และได้ประโยชน์ที่มากกว่าการที่ครูอย่างดิฉันนั้นอ่านให้ฟังคือสามารถนำไปใส่ในมุมนิทานไว้ได้ด้วยเพื่อให้เด็กๆได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ถึงแม้ว่าเค้ายังอ่านหนังสือไม่ออกแต่เค้าสามารถดูได้จากภาพและเล่าเรื่องออกมาได้ตามจินตนาการณ์ของเค้าเองอีกด้วย เพราะฉะนั้นดิฉันจึงอยากแนะนำหนังสือนิทานเล่มนี้ให้แก่ผู้ปกครองทุกท่านได้หามาให้ลูกๆได้ฟังกันค่ะ...

10 นิทานนานาชาติ เล่ม 3 หลังจากที่เรานำเสนอหนังสือที่นำเรื่องราวของนิทานดังต่างๆมารวมไว้ในเล่มเดียวกันไปแล้วถึงสองเล่มด้วยกันมาคราวนี้ก็ได้เวลาออกเล่มที่สามตามเพื่อให้เด็กๆหรือคุณหนูๆได้เพลิดเพลินไปกับนิทานยอดนิยมตลอดกาลและมาถึงเล่มนี้ก็ได้ขนนิทานสนุกมาไว้อยู่ในเล่มเดียวกันถึงสิบเรื่องด้วยกันแต่เล่มนี้มีเรื่องราวที่ซ้ำกับเรื่องที่แล้วอยู่บ้างอย่างเรื่องซินเดอเรลลาแต่ก็ไม่แปลกอะไรเพราะในการนำเรื่องราวที่สนุกและเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆมาไว้ด้วยกันนั้นเค้าย่อมต้องชอบเรื่องราวที่มีมาในหนังสือเป็นแน่แท้ และสำหรับในหนังสือเล่มนี้ก็มีนิทาน สิบเรื่องดังอย่าง ซินเดอเรลล่าเจ้าหญิงที่เคยถูกแม่เลี้ยงใจรังแกและสร้างเรื่องราวความประทับใจในคืนเต้นรำและทิ้งรองเท้าแก้วให้เจาชายตามหา เจ้าหญิงนิทรา เมาคลีลูกหมาป่า กำเนิดดาวลูกไก่ ตุ๊กตาทหารบุกขาเดียว เจ้าหญิงมังกร อลิซในแดนมหัสจรรย์ ทอมหัวแม่มือ ตุ๊กตาขนมปังขิง และเรื่องสุดท้ายคือ ปีเตอร์แพน ในหลายเรื่องที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้นั้นจะมีภาพสีประกอบให้ทั้งเล่มยิ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเด็กๆเป็นอย่างมากเพราะตัวดิฉันเองได้หาซื้อนิทานมาอ่านให้ลูกศิษย์ภายในห้องได้ลองฟังกันดูและพวกเค้าก็แสดงความชอบออกมาอย่างหนึ่งที่เหมือนกันทั้งเด็กผู้หญิงและก็เด็กผู้ชายนั้นก็คืออาการนั่งนั่งกันอย่างตั้งใจเพราะนิทานในหนังสือเล่มนี้นั้นเด็กๆทุกล้วนรู้จักเพราะเคยได้ดูการ์ตูนและเคยฟังมาก่อนแล้วแต่ก็มีบางเรื่องที่เด็กๆนั้นไม่เคยได้ฟังมาก่อนเลยอย่างนิทานเรื่อง เมาคลีลูกหมาป่า พวกเด็กๆก็แสดงท่าทางที่ตื่นเต้นมากสังเกตได้จากการตั้งใจฟังและลุกเข้ามานั่งใกล้ๆเพื่อที่จะดูภาพในหนังสือนิทานให้ชัดๆด้วยความที่หนังสือเล่มนี้มีการรวมนิทานไว้ถึงสิบเรื่องจึงทำให้ดิฉันสามารถนำมาใช้ได้อย่างต่อเนื่องเพราะสามารถเปลี่ยนเรื่องเล่าได้ทุกๆวันโดยที่ไม่ต้องเที่ยวหานิทานเรื่องอื่นมาอ่านให้เด็กๆฟังให้วุ่นวาย ดิฉันได้นิทานสนุกๆอ่านให้เด็กฟังในทุกวันแถมยังประหยัดเวลาในการหานิทานมาอ่านให้เด็กฟังอีกมันช่างเป็นอะไรที่ดีมากๆ และได้ประโยชน์ที่มากกว่าการที่ครูอย่างดิฉันนั้นอ่านให้ฟังคือสามารถนำไปใส่ในมุมนิทานไว้ได้ด้วยเพื่อให้เด็กๆได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ถึงแม้ว่าเค้ายังอ่านหนังสือไม่ออกแต่เค้าสามารถดูได้จากภาพและเล่าเรื่องออกมาได้ตามจินตนาการณ์ของเค้าเองอีกด้วย เพราะฉะนั้นดิฉันจึงอยากแนะนำหนังสือนิทานเล่มนี้ให้แก่ผู้ปกครองทุกท่านได้หามาให้ลูกๆได้ฟังกันค่ะ...

Dino Tales ไดโนสอนน้อง ตอน Bedtime Blues นอนดึกไม่ดีนะ เป็นหนังสือนิทานอ่านนอกเวลาที่มีสองภาษาอยู่ในเล่มเดียวกันนั้นก็คือภาษาไทยและก็ภาษาอังกฤษให้ได้เลือกอ่านตามความถนัดและความชอบของแต่ละคนเป็นหนังสือนิทานที่เหมาะกับเด็กช่วงชั้นประถมเป็นอยากมากเพราะภายในนิทานจะเป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนไดโนเสาร์ซึ่งในแต่ละตอนจะมีเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละตอนซึ่งมาในตอนนี้จะเป็นตอนที่ชื่อว่า นอนดึกไม่ดีนะ และในเรื่องเค้าจะเล่าถึงเจ้าไดโนเสาร์ที่ชื่อว่า เวสลีย์เจ้าไดโนเสาร์จอมดื้อที่เวลากลางคืนไม่ยอมหลับยอมนอนบางคืนก็นอนดึกมากจนเป็นเหตุให้ในวันที่ห้องเรียนของเจ้าไดโนเสาร์ตัวนี้ต้องเดินทางไกลเพื่อไปทัศนะศึกษาที่บนภูเขา แต่ด้วยความที่เจ้านี้ร่างกายอ่อนเพลียเลยทำให้เป็นลมล้มไปจึงเป็นเหตุให้เพื่อนๆในชั้นนั้นวุ่นวายกันมาก และยังมีเรื่องราวที่จะทำให้เด็กได้ลุ้นอย่างกลุ่มเพื่อนของเวสลีย์จะแก้ปัญหาได้ยังไงระหว่าพาเวสลีย์กลับไปส่งที่บ้านกับพาเวสลีย์เดินทางต่อไปยังภูเขาที่จุดหมาย ภายในหนังสือนิทานเรื่องนี้ก็จะมีคำศัพท์ภาษาอังกฤษสอดแทรกอยู่ตลอดเวลาทำให้เด็กได้เรียนรู้คำศัพท์ต่างๆมากมายและที่สำคัญไปกว่านั้นหนังสือนิทานเล่มนี้เค้ายังแถมดีวีดีเสียงภาคเนื้อเรื่องทั้งเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ และภาษาไทยเอาไว้ให้คุณครูหรือผู้ปกครองที่ไม่มีเวลาจะมานั่งเล่าให้เด็กๆฟังนั้นก็สามารถเปิดดีวีดีที่เค้าแถมมาให้เปิดพากย์เสียงแทนก็ยังได้นอกจากความสนุกสนานที่เด็กจะได้รับในนิทานเรื่องนี้แล้วก็ยังมีประโยชน์ในเรื่องต่างๆอีกมากไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ภาษาอังกฤษ และยังได้ฝึกไอคิว อีคิวไปในตัวด้วย ซึ่งสำหรับครูอย่างดิฉันถือว่าหนังสือนิทานเรื่องนี้นั้นให้ประโยชน์แก่เด็กๆเป็นอย่างมากจึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำไปใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนของเด็กในช่วงชั้นปฐมวัยได้ไปยันถึงชั้นประถมศึกษากันเลยทีเดียวอยู่ที่ว่าครูจะนำไปใช้ในรูปแบบไหน เพราะภายในเล่มเค้ามีสิ่งต่างๆแนบให้มาอย่างคับแน่นไม่ว่าจะเป็นเกมที่มีมาให้เด็กๆได้ไขปริศนาภายในหนังสือ เกมทายคำศัพท์ที่สามารถใช้เล่นในกลุ่มเพื่อนๆของเด็กๆได้อย่างสนุกสนานเพราะฉะนั้นดิฉันจึงอยากสนับสนุนให้ผู้ปกครองทุกท่านหันมาใส่ใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างการเลือกหนังสือนิทานให้ลูกได้อ่านกัน เพราะเราเลือกสิ่งดีๆให้แก่เด็กๆตั้งแต่แรกสิ่งที่เค้ามันจะทำให้พวกเค้าได้เรียนรู้และถือเป็นประสบการณ์ต่อไปในภายภาคหน้าก็เป็นได้ เป็นหนังสือดีๆที่อยากจะแนะนำอีกหนึ่งเรื่องค่ะ...

Dino Tales ไดโนสอนน้อง ตอน Bedtime Blues นอนดึกไม่ดีนะ เป็นหนังสือนิทานอ่านนอกเวลาที่มีสองภาษาอยู่ในเล่มเดียวกันนั้นก็คือภาษาไทยและก็ภาษาอังกฤษให้ได้เลือกอ่านตามความถนัดและความชอบของแต่ละคนเป็นหนังสือนิทานที่เหมาะกับเด็กช่วงชั้นประถมเป็นอยากมากเพราะภายในนิทานจะเป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนไดโนเสาร์ซึ่งในแต่ละตอนจะมีเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละตอนซึ่งมาในตอนนี้จะเป็นตอนที่ชื่อว่า นอนดึกไม่ดีนะ และในเรื่องเค้าจะเล่าถึงเจ้าไดโนเสาร์ที่ชื่อว่า เวสลีย์เจ้าไดโนเสาร์จอมดื้อที่เวลากลางคืนไม่ยอมหลับยอมนอนบางคืนก็นอนดึกมากจนเป็นเหตุให้ในวันที่ห้องเรียนของเจ้าไดโนเสาร์ตัวนี้ต้องเดินทางไกลเพื่อไปทัศนะศึกษาที่บนภูเขา แต่ด้วยความที่เจ้านี้ร่างกายอ่อนเพลียเลยทำให้เป็นลมล้มไปจึงเป็นเหตุให้เพื่อนๆในชั้นนั้นวุ่นวายกันมาก และยังมีเรื่องราวที่จะทำให้เด็กได้ลุ้นอย่างกลุ่มเพื่อนของเวสลีย์จะแก้ปัญหาได้ยังไงระหว่าพาเวสลีย์กลับไปส่งที่บ้านกับพาเวสลีย์เดินทางต่อไปยังภูเขาที่จุดหมาย ภายในหนังสือนิทานเรื่องนี้ก็จะมีคำศัพท์ภาษาอังกฤษสอดแทรกอยู่ตลอดเวลาทำให้เด็กได้เรียนรู้คำศัพท์ต่างๆมากมายและที่สำคัญไปกว่านั้นหนังสือนิทานเล่มนี้เค้ายังแถมดีวีดีเสียงภาคเนื้อเรื่องทั้งเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ และภาษาไทยเอาไว้ให้คุณครูหรือผู้ปกครองที่ไม่มีเวลาจะมานั่งเล่าให้เด็กๆฟังนั้นก็สามารถเปิดดีวีดีที่เค้าแถมมาให้เปิดพากย์เสียงแทนก็ยังได้นอกจากความสนุกสนานที่เด็กจะได้รับในนิทานเรื่องนี้แล้วก็ยังมีประโยชน์ในเรื่องต่างๆอีกมากไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ภาษาอังกฤษ และยังได้ฝึกไอคิว อีคิวไปในตัวด้วย ซึ่งสำหรับครูอย่างดิฉันถือว่าหนังสือนิทานเรื่องนี้นั้นให้ประโยชน์แก่เด็กๆเป็นอย่างมากจึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำไปใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนของเด็กในช่วงชั้นปฐมวัยได้ไปยันถึงชั้นประถมศึกษากันเลยทีเดียวอยู่ที่ว่าครูจะนำไปใช้ในรูปแบบไหน เพราะภายในเล่มเค้ามีสิ่งต่างๆแนบให้มาอย่างคับแน่นไม่ว่าจะเป็นเกมที่มีมาให้เด็กๆได้ไขปริศนาภายในหนังสือ เกมทายคำศัพท์ที่สามารถใช้เล่นในกลุ่มเพื่อนๆของเด็กๆได้อย่างสนุกสนานเพราะฉะนั้นดิฉันจึงอยากสนับสนุนให้ผู้ปกครองทุกท่านหันมาใส่ใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างการเลือกหนังสือนิทานให้ลูกได้อ่านกัน เพราะเราเลือกสิ่งดีๆให้แก่เด็กๆตั้งแต่แรกสิ่งที่เค้ามันจะทำให้พวกเค้าได้เรียนรู้และถือเป็นประสบการณ์ต่อไปในภายภาคหน้าก็เป็นได้ เป็นหนังสือดีๆที่อยากจะแนะนำอีกหนึ่งเรื่องค่ะ...

1,000 ภาพวาดน่ารักด้วยปากกาลูกลื่นหลากสีสัน เล่ม 2 ต้องบอกเลยว่าขายดีและเป็นหนังสือที่น่าจับตามองเป็นที่สุดในช่วงเวลานี้เพราะว่าวางแผนออกเล่มหนึ่งได้ไม่นานก็มีการเรียกร้องให้ทำต่อเล่มสองและในแต่ละเล่มนั้นก็มีการสร้างงานศิลปะจากการวาดโดยใช้ปากกาลูกลื่นที่ไม่ซ้ำกันเพราะในเล่มนี้จะนำเรื่องราวการวาดที่หาได้จากการใช้ชีวิตประจำวันมาเรียบเรียงเรื่องราวให้ต่อเนื่องและน่าสนใจเป็นยิ่งขึ้นต้องยอมรับเลยว่าถ้าถามถึงเรื่องการวาดรูปให้คะแนนตัวเองเป็นศูนย์ถึงติดลบเลยทีเดียวเพราะวาดอะไรไม่เคยมีใครดูออกว่ามันคืออะไร นอกจาก ดอกไม้ ต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำ เพราะมันง่ายและเบสิกที่สุดแล้วดิฉันรู้สึกอับอายมากเลยเวลาที่วาดรูปให้ลูกศิษย์ดูและพวกเค้าต่างพากันเดาไปต่างๆนานาว่าสิ่งที่ครูวาดมันคืออะไร (แอบอายแป๊บ) จริงอยู่ที่การอยู่กับเด็กมันจะต้องใช้จินตนาการณ์ที่สูงแต่เรื่องของศิลปะการวาดรูปดิฉันขอวางมันทิ้งไว้เรื่องนึงเพราะเข็นยังไงก็ไม่ได้จริงๆไม่มีหัวและฝีมือทางด้านการวาดรูปเลยแม้แต่น้อย ตอนเด็กๆเคยวาดได้ยังไงโตมาก็ยังวาดได้เหมือนเดิมเป๊ะไม่มีพัฒนาให้มันดูงดงามขึ้นเลย ดังนั้นจึงเป็นปมด้อยเล็กๆในชีวิตที่อยากจะแก้ไข จนกระทั่งได้ไปเจอกับหนังสือเล่มนี้ที่สร้างแรงบันดาลใจมาจากสิ่งของใกล้ตัวเจออะไรหรือว่าใช้สิ่งของชนิดไหนอยู่เค้าก็นำมาวาดและที่ง่ายก็คือใช้ปากกาที่เราใช้กันอยู่ทุกวันในการสร้างสรรค์งานศิลปะขึ้นมา เมื่อดิฉันได้ลองอ่านและศึกษาหนังสือเล่มนี้อยู่สักพักนึงจึงได้ค้นพบว่าเค้าไม่ได้เพียงแต่วาดมาให้เราดูเพื่อความเพลิดเพลินเพียงเท่านั้นแต่ยังใจบุญสอนวิธีการวาดรูปเบื้องต้นให้อย่างละเอียดชนิดที่คนที่วาดรูปไม่เป็นอย่างดิฉันพอได้ลองจับปากกาแล้ววาดตามที่เค้าสอนยังวาดออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้เลยและเค้ายังนำเทคนิคที่เค้านั้นมีมาเผยแพร่ต่ออย่างหมดเปลือกเลยก็ว่าได้ ในหนังสือเล่มนี้เค้ามีการแนะนำถึงความหลากหลายของสีสันที่จะนำมาสร้างเป็นงานศิลปะจากปลายปากกาและยังหัดให้เราเริ่มวาดจากรูปทรงเรขาคณิตก่อนเพื่อให้ง่ายแก่พวกฝึกหัดเยี่ยงดิฉันแถมดิฉันยังสามารถนำเทคนิคนี้ไปสอนต่อให้แก่เด็กๆที่เป็นลูกศิษย์ของฉันได้เรียนรู้และลองหัดวาดตามๆกันได้อีก มันช่างดีอะไรขนาดนี้นะ จากคนที่วาดรูปไม่ได้กลับแปรเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายสอนคนอื่นต่อไปอีกถึงแม้ว่าก็จะยังไม่ได้เก่งอะไรจากเดิมมากแต่มันก็ทำให้ความรู้สึกของคนที่ไม่ชอบการทำงานศิลปะเลยอย่างดิฉันหัดมาสนใจและเริ่มเปลี่ยนทัศนะคติเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ใหม่เพราะงั้นจึงอยากให้เพื่อนๆได้หามาลองอ่านกันดูจริงๆนะคะ..

1,000 ภาพวาดน่ารักด้วยปากกาลูกลื่นหลากสีสัน เล่ม 2 ต้องบอกเลยว่าขายดีและเป็นหนังสือที่น่าจับตามองเป็นที่สุดในช่วงเวลานี้เพราะว่าวางแผนออกเล่มหนึ่งได้ไม่นานก็มีการเรียกร้องให้ทำต่อเล่มสองและในแต่ละเล่มนั้นก็มีการสร้างงานศิลปะจากการวาดโดยใช้ปากกาลูกลื่นที่ไม่ซ้ำกันเพราะในเล่มนี้จะนำเรื่องราวการวาดที่หาได้จากการใช้ชีวิตประจำวันมาเรียบเรียงเรื่องราวให้ต่อเนื่องและน่าสนใจเป็นยิ่งขึ้นต้องยอมรับเลยว่าถ้าถามถึงเรื่องการวาดรูปให้คะแนนตัวเองเป็นศูนย์ถึงติดลบเลยทีเดียวเพราะวาดอะไรไม่เคยมีใครดูออกว่ามันคืออะไร นอกจาก ดอกไม้ ต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำ เพราะมันง่ายและเบสิกที่สุดแล้วดิฉันรู้สึกอับอายมากเลยเวลาที่วาดรูปให้ลูกศิษย์ดูและพวกเค้าต่างพากันเดาไปต่างๆนานาว่าสิ่งที่ครูวาดมันคืออะไร (แอบอายแป๊บ) จริงอยู่ที่การอยู่กับเด็กมันจะต้องใช้จินตนาการณ์ที่สูงแต่เรื่องของศิลปะการวาดรูปดิฉันขอวางมันทิ้งไว้เรื่องนึงเพราะเข็นยังไงก็ไม่ได้จริงๆไม่มีหัวและฝีมือทางด้านการวาดรูปเลยแม้แต่น้อย ตอนเด็กๆเคยวาดได้ยังไงโตมาก็ยังวาดได้เหมือนเดิมเป๊ะไม่มีพัฒนาให้มันดูงดงามขึ้นเลย ดังนั้นจึงเป็นปมด้อยเล็กๆในชีวิตที่อยากจะแก้ไข จนกระทั่งได้ไปเจอกับหนังสือเล่มนี้ที่สร้างแรงบันดาลใจมาจากสิ่งของใกล้ตัวเจออะไรหรือว่าใช้สิ่งของชนิดไหนอยู่เค้าก็นำมาวาดและที่ง่ายก็คือใช้ปากกาที่เราใช้กันอยู่ทุกวันในการสร้างสรรค์งานศิลปะขึ้นมา เมื่อดิฉันได้ลองอ่านและศึกษาหนังสือเล่มนี้อยู่สักพักนึงจึงได้ค้นพบว่าเค้าไม่ได้เพียงแต่วาดมาให้เราดูเพื่อความเพลิดเพลินเพียงเท่านั้นแต่ยังใจบุญสอนวิธีการวาดรูปเบื้องต้นให้อย่างละเอียดชนิดที่คนที่วาดรูปไม่เป็นอย่างดิฉันพอได้ลองจับปากกาแล้ววาดตามที่เค้าสอนยังวาดออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้เลยและเค้ายังนำเทคนิคที่เค้านั้นมีมาเผยแพร่ต่ออย่างหมดเปลือกเลยก็ว่าได้ ในหนังสือเล่มนี้เค้ามีการแนะนำถึงความหลากหลายของสีสันที่จะนำมาสร้างเป็นงานศิลปะจากปลายปากกาและยังหัดให้เราเริ่มวาดจากรูปทรงเรขาคณิตก่อนเพื่อให้ง่ายแก่พวกฝึกหัดเยี่ยงดิฉันแถมดิฉันยังสามารถนำเทคนิคนี้ไปสอนต่อให้แก่เด็กๆที่เป็นลูกศิษย์ของฉันได้เรียนรู้และลองหัดวาดตามๆกันได้อีก มันช่างดีอะไรขนาดนี้นะ จากคนที่วาดรูปไม่ได้กลับแปรเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายสอนคนอื่นต่อไปอีกถึงแม้ว่าก็จะยังไม่ได้เก่งอะไรจากเดิมมากแต่มันก็ทำให้ความรู้สึกของคนที่ไม่ชอบการทำงานศิลปะเลยอย่างดิฉันหัดมาสนใจและเริ่มเปลี่ยนทัศนะคติเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ใหม่เพราะงั้นจึงอยากให้เพื่อนๆได้หามาลองอ่านกันดูจริงๆนะคะ..

มัจจุราชพรากพรหมจรรย์ ผลงานสุดร้อนแรงแค่ชื่อเรื่องกินขาดแล้วของนักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า ญาณภ์ฉัตร และครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกของตัวเจ่เจ้ที่ได้ลองอ่านนิยายเรื่องนี้ดูเพราะรู้สึกสะดุดกับชื่อเรื่องนี้แหละยอมรับเลยแต่พอได้อ่านจริงๆก็ผิดหวังเล็กนะเพราะเนื้อหาๆไม่ค่อยจะแรงเหมือนชื่อเรื่องเรื่องส่วนพล็อตก็ธรรมดาไม่ค่อยแลกใหม่อารัยโดยที่เนื้อหาจะเป็นประมาณว่าชายหนุ่มเพลย์บอยเจ้าเสน่ห์เปลี่ยนผู้หญิงไม่เลือกและไม่เคยเห็นค่าของผู้หญิงเลยหนำซ้ำยังมีปมเกี่ยวกับสาเหตุการตายของน้องชายเค้าอีกงานนี้เลยยิ่งไปกันใหญ่ เมื่อรู้ว่าใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องเค้าก้พร้อมที่จะแก้แค้นอยู่เสมอ และนางเอกก็ดันถูกพระเอกเข้าใจว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องชายเค้า เค้าเลยสืบจนรู้เรื่องราวส่วนตัวของครอบครัวเธอว่าตอนนี้ต้องการเงินเป็นจำนวนมากเพื่อใช้หนี้พระเอกเลยใช้โอกาสนี้เข้าไปตีสนิทกับนางเอกโดยรับนางเอกมาทำงานด้วย พออยู่ใกล้ชิดกันพระเอกจะมีอะไรก็หาเรื่องแกล้งนางเอกบ้างล่ะ อยากจะปล้ำนางเอกบ้างล่ะ ซึ่งการบรรยายและการดำเนินเรื่องราวมันชวนให้เจ่เจ้เบื่อมากอ่ารู้สึกผิดหวังขึ้นมาและไหนนางเอกที่ออกจะดูไม่ค่อยทันคนอีกมันยิ่งขัดใจเจ่เจ้เข้าไปใหญ่เลยอ่าพอได้อ่านเนื้อจริงๆก็ทำให้ได้รู้ว่าเนื้อหาไม่ได้มีความแตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆเลย ฉากก็ดูไม่ค่อยต่อเนื่องแถมยังเขียนเนื้อเรื่องแบบยึดเรื่องอีก นั้นแหละที่ทำให้ขัดอารมณ์ของนักอ่านเป็นอย่างมาก การจะเลือกนิยายมาอ่านนั้นนักอ่านเค้าก็ต้องคาดหวังว่าเรื่องที่เค้าเลือกมานั้นจะสร้างอรรถรสในการอ่านให้เค้าไม่มากก็น้อย แต่สำหรับเรื่องนี้ทำให้เจ่เจ้รู้สึกผิดหวังและเสียดายเวลาเป็นอย่างมาก ด้วยความเป็นนักอ่านที่เข้าใจว่าคนเขียนเค้าก็อยากให้มีใครอ่านเรื่องราวที่เค้าเขียนให้จบเจ่เจ้ก็เป็นคนนึงที่ยอมอ่านจนจบเพราะยังแอบมีความหวังเล็กๆว่าเรื่องราวอาจจะค่อยๆเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆก็เป็นได้จึงยอมนั่งอ่านไปเรื่อยแม้ว่าจะรู้สึกว่าไม่สนุกมาตั้งแต่ต้นๆเรื่องแล้วก็ตามแต่อย่างว่านิยายก็คือนิยายความชอบของคนเราก็ต่างกันเจ่เจ้รู้สึกว่าไม่ค่อยสนุกแต่สำหรับคนอื่นๆที่ได้อ่านเหมือนกันเค้าอาจจะไม่คิดอย่างเจ่เจ้ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเพื่อนๆว่าจะเลือกอ่านนิยายในแบบไหน เพราะไม่มีใครสามารถบังคับให้คุณรับหรือไม่รับเรื่องราวต่างๆเพียงเค้าอ่านมาก่อนแล้วบอกว่าไม่สนุกหรอก เพราะงั้นอยากให้เพื่อนๆได้ลองตัดสินใจด้วยตนเองว่าชอบหรือไม่ชอบนิยายเรื่องนี้ค่ะ...

มัจจุราชพรากพรหมจรรย์ ผลงานสุดร้อนแรงแค่ชื่อเรื่องกินขาดแล้วของนักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า ญาณภ์ฉัตร และครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกของตัวเจ่เจ้ที่ได้ลองอ่านนิยายเรื่องนี้ดูเพราะรู้สึกสะดุดกับชื่อเรื่องนี้แหละยอมรับเลยแต่พอได้อ่านจริงๆก็ผิดหวังเล็กนะเพราะเนื้อหาๆไม่ค่อยจะแรงเหมือนชื่อเรื่องเรื่องส่วนพล็อตก็ธรรมดาไม่ค่อยแลกใหม่อารัยโดยที่เนื้อหาจะเป็นประมาณว่าชายหนุ่มเพลย์บอยเจ้าเสน่ห์เปลี่ยนผู้หญิงไม่เลือกและไม่เคยเห็นค่าของผู้หญิงเลยหนำซ้ำยังมีปมเกี่ยวกับสาเหตุการตายของน้องชายเค้าอีกงานนี้เลยยิ่งไปกันใหญ่ เมื่อรู้ว่าใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องเค้าก้พร้อมที่จะแก้แค้นอยู่เสมอ และนางเอกก็ดันถูกพระเอกเข้าใจว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องชายเค้า เค้าเลยสืบจนรู้เรื่องราวส่วนตัวของครอบครัวเธอว่าตอนนี้ต้องการเงินเป็นจำนวนมากเพื่อใช้หนี้พระเอกเลยใช้โอกาสนี้เข้าไปตีสนิทกับนางเอกโดยรับนางเอกมาทำงานด้วย พออยู่ใกล้ชิดกันพระเอกจะมีอะไรก็หาเรื่องแกล้งนางเอกบ้างล่ะ อยากจะปล้ำนางเอกบ้างล่ะ ซึ่งการบรรยายและการดำเนินเรื่องราวมันชวนให้เจ่เจ้เบื่อมากอ่ารู้สึกผิดหวังขึ้นมาและไหนนางเอกที่ออกจะดูไม่ค่อยทันคนอีกมันยิ่งขัดใจเจ่เจ้เข้าไปใหญ่เลยอ่าพอได้อ่านเนื้อจริงๆก็ทำให้ได้รู้ว่าเนื้อหาไม่ได้มีความแตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆเลย ฉากก็ดูไม่ค่อยต่อเนื่องแถมยังเขียนเนื้อเรื่องแบบยึดเรื่องอีก นั้นแหละที่ทำให้ขัดอารมณ์ของนักอ่านเป็นอย่างมาก การจะเลือกนิยายมาอ่านนั้นนักอ่านเค้าก็ต้องคาดหวังว่าเรื่องที่เค้าเลือกมานั้นจะสร้างอรรถรสในการอ่านให้เค้าไม่มากก็น้อย แต่สำหรับเรื่องนี้ทำให้เจ่เจ้รู้สึกผิดหวังและเสียดายเวลาเป็นอย่างมาก ด้วยความเป็นนักอ่านที่เข้าใจว่าคนเขียนเค้าก็อยากให้มีใครอ่านเรื่องราวที่เค้าเขียนให้จบเจ่เจ้ก็เป็นคนนึงที่ยอมอ่านจนจบเพราะยังแอบมีความหวังเล็กๆว่าเรื่องราวอาจจะค่อยๆเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆก็เป็นได้จึงยอมนั่งอ่านไปเรื่อยแม้ว่าจะรู้สึกว่าไม่สนุกมาตั้งแต่ต้นๆเรื่องแล้วก็ตามแต่อย่างว่านิยายก็คือนิยายความชอบของคนเราก็ต่างกันเจ่เจ้รู้สึกว่าไม่ค่อยสนุกแต่สำหรับคนอื่นๆที่ได้อ่านเหมือนกันเค้าอาจจะไม่คิดอย่างเจ่เจ้ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเพื่อนๆว่าจะเลือกอ่านนิยายในแบบไหน เพราะไม่มีใครสามารถบังคับให้คุณรับหรือไม่รับเรื่องราวต่างๆเพียงเค้าอ่านมาก่อนแล้วบอกว่าไม่สนุกหรอก เพราะงั้นอยากให้เพื่อนๆได้ลองตัดสินใจด้วยตนเองว่าชอบหรือไม่ชอบนิยายเรื่องนี้ค่ะ...

50 เมนูสุขภาพเพื่อลูกรัก 1-2 ปี เป็นหนังสือที่สร้างขึ้นมาเพื่อเอาใจคุณแม่มือใหม่หรือคนแม่ที่มีความใส่ใจในเรื่องของพัฒนาการของลูกน้อยเป็นอย่างมากหลายคนอาจสงสัยว่าที่ดิฉันอ่านหนังสือแบบนี้แสดงว่าต้องเป็นคุณแม่แล้วแน่เลยแต่ต้องบอกไว้เลยว่าไม่ใช่เลยค่ะดิฉันเองยังไม่มีลูกจะมีก็แค่หลานและที่สำคัญดิฉันเป็นครูที่สอนเด็กอนุบาลจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรู้เรื่องราวแบบนี้เพราะในแต่ละวันการที่ครูอย่างเราๆได้เห็นเด็กมีพัฒนาการที่เพิ่มมากขึ้นจากเดิมมันก็ส่งผลให้เรามีความที่อยากจะพัฒนาในเรื่องขององค์ความรู้ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นไปค่ะและที่สำคัญยังสามารถนำไปสอนให้บรรดาผู้ปกครองที่กำลังมีน้องอีกคนก็ได้เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัวกันเลยและที่ดีไปกว่านั้นคือหนังสือเล่มมีอธิบายถึงความสำคัญของพัฒนาการของเด็กในช่วงแรกเกิดถึงสองปีได้ค่อนข้างละเอียดและยังมีวิธีการทำเมนูอาหารแบบง่ายแต่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมารวมไว้ให้เหล่าบรรดาแม่ๆทั้งหลายได้ลองทำให้เหล่าลูกๆตัวน้อยได้ลองทานกันอย่างอร่อยเลยล่ะค่ะงานนี้ ในหนังสือเล่มนี้เค้าได้ศึกษาและรวบรวมข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ให้กับบรรดาคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ได้ลองศึกษาและหัวใจสำคัญของมันก็คือเมนูอาหารที่ยกทัพกันมาถึง 50 เมนูกันเลยและแถมในแต่ละเมนูนั้นมีกลวิธีที่แสนจะง่ายดาย ทำได้รวดเร็วและใครๆก็ทำได้เช่นถ้าคุณแม่ไม่ว่างไม่สามารถเข้าครัวได้ คุณพ่อของเจ้าตัวน้อยที่เชื่อว่าคุณพ่อทุกท่านคงไม่ถนัดที่จะทำอาหารแต่ถ้าเพื่อลูกน้อยรับรองถ้าได้อ่านวิธีการทำจากหนังสือเล่มนี้เป็นต้องถูกอกถูกใจและเป็นฮีโร่ได้ของลูกๆแน่นอนค่ะ หลายๆคนอาจจะคิดว่าลูกยังเล็กไม่อยากจะให้กินอะไรที่แปลกไปจากเดิมหรือกินเหมือนผู้ใหญ่มากนักเพราะเค้ายังไม่มีภูมิต้านทานแต่จริงๆแล้วอยากจะบอกให้กับคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายได้รู้ว่าวัยของเด็กนั้นมีความสำคัญในเรื่องของพัฒนาการเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงสองขวบแรกเพราะยิ่งเค้ารับคุณค่าทางอาหารที่ดีเจ้าสารอาหารเหล่านั้นมันก็จะไปตอบแทนโดยการเข้าไปพัฒนาเนื้อเยื่อและบำรุงสมองของลูกน้อยให้มีพัฒนาการที่รวดเร็วยิ่งกว่าเดิมเพียงแค่เราบำรุงเค้าตั้งแต่ยังเยาวัยสิ่งที่เราจะได้ต่อไปในอนาคตนั้นก็คือความสำเร็จในเรื่องของการใช้ชีวิต การรู้จักการที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและสามารถแยกแยะสิ่งที่ดีออกจากสิ่งที่ไม่ดีได้อย่างแน่นอน เห็นไหมค่ะเพียงแค่หนังสือเล่มเดียวแต่กลับให้คุณประโยชน์แก่เราเป็นอย่างมากเพราะฉะนั้นดิฉันจึงอยากที่จะแนะนำหนังสือดีๆแบบนี้ให้กับทุกคนอีกครั้งค่ะ..

50 เมนูสุขภาพเพื่อลูกรัก 1-2 ปี เป็นหนังสือที่สร้างขึ้นมาเพื่อเอาใจคุณแม่มือใหม่หรือคนแม่ที่มีความใส่ใจในเรื่องของพัฒนาการของลูกน้อยเป็นอย่างมากหลายคนอาจสงสัยว่าที่ดิฉันอ่านหนังสือแบบนี้แสดงว่าต้องเป็นคุณแม่แล้วแน่เลยแต่ต้องบอกไว้เลยว่าไม่ใช่เลยค่ะดิฉันเองยังไม่มีลูกจะมีก็แค่หลานและที่สำคัญดิฉันเป็นครูที่สอนเด็กอนุบาลจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรู้เรื่องราวแบบนี้เพราะในแต่ละวันการที่ครูอย่างเราๆได้เห็นเด็กมีพัฒนาการที่เพิ่มมากขึ้นจากเดิมมันก็ส่งผลให้เรามีความที่อยากจะพัฒนาในเรื่องขององค์ความรู้ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นไปค่ะและที่สำคัญยังสามารถนำไปสอนให้บรรดาผู้ปกครองที่กำลังมีน้องอีกคนก็ได้เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัวกันเลยและที่ดีไปกว่านั้นคือหนังสือเล่มมีอธิบายถึงความสำคัญของพัฒนาการของเด็กในช่วงแรกเกิดถึงสองปีได้ค่อนข้างละเอียดและยังมีวิธีการทำเมนูอาหารแบบง่ายแต่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมารวมไว้ให้เหล่าบรรดาแม่ๆทั้งหลายได้ลองทำให้เหล่าลูกๆตัวน้อยได้ลองทานกันอย่างอร่อยเลยล่ะค่ะงานนี้ ในหนังสือเล่มนี้เค้าได้ศึกษาและรวบรวมข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ให้กับบรรดาคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ได้ลองศึกษาและหัวใจสำคัญของมันก็คือเมนูอาหารที่ยกทัพกันมาถึง 50 เมนูกันเลยและแถมในแต่ละเมนูนั้นมีกลวิธีที่แสนจะง่ายดาย ทำได้รวดเร็วและใครๆก็ทำได้เช่นถ้าคุณแม่ไม่ว่างไม่สามารถเข้าครัวได้ คุณพ่อของเจ้าตัวน้อยที่เชื่อว่าคุณพ่อทุกท่านคงไม่ถนัดที่จะทำอาหารแต่ถ้าเพื่อลูกน้อยรับรองถ้าได้อ่านวิธีการทำจากหนังสือเล่มนี้เป็นต้องถูกอกถูกใจและเป็นฮีโร่ได้ของลูกๆแน่นอนค่ะ หลายๆคนอาจจะคิดว่าลูกยังเล็กไม่อยากจะให้กินอะไรที่แปลกไปจากเดิมหรือกินเหมือนผู้ใหญ่มากนักเพราะเค้ายังไม่มีภูมิต้านทานแต่จริงๆแล้วอยากจะบอกให้กับคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายได้รู้ว่าวัยของเด็กนั้นมีความสำคัญในเรื่องของพัฒนาการเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงสองขวบแรกเพราะยิ่งเค้ารับคุณค่าทางอาหารที่ดีเจ้าสารอาหารเหล่านั้นมันก็จะไปตอบแทนโดยการเข้าไปพัฒนาเนื้อเยื่อและบำรุงสมองของลูกน้อยให้มีพัฒนาการที่รวดเร็วยิ่งกว่าเดิมเพียงแค่เราบำรุงเค้าตั้งแต่ยังเยาวัยสิ่งที่เราจะได้ต่อไปในอนาคตนั้นก็คือความสำเร็จในเรื่องของการใช้ชีวิต การรู้จักการที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและสามารถแยกแยะสิ่งที่ดีออกจากสิ่งที่ไม่ดีได้อย่างแน่นอน เห็นไหมค่ะเพียงแค่หนังสือเล่มเดียวแต่กลับให้คุณประโยชน์แก่เราเป็นอย่างมากเพราะฉะนั้นดิฉันจึงอยากที่จะแนะนำหนังสือดีๆแบบนี้ให้กับทุกคนอีกครั้งค่ะ..

โรคไข้หวัดเชื่อว่าไม่ว่าใครๆก็ต้องเคยเป็นบางคนเป็นน้อยเป็นมากก็แตกต่างกันไป สำหรับดิฉันเองนั้นมีโรคประจำตัวคือเป็นภูมิแพ้ และต่อมทอลซิลไม่ปกติจึงทำให้ตัวของดิฉันเองนั้นต้องประสบกับอาการไข้หวัดอยู่บ่อยมาก ไม่ว่าจะฤดูไหนก็เป็นไข้หวัดจึงส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันนั้นค่อนข้างที่จะลำบากเนื่องจากต้องคอยระแวดระวังไม่ให้ร่างกายนั้นต้องอยู่ในที่แดดร้อนๆหรือที่ๆสกปรกซึ่งมันยากเกินไปเพราะแดดในบ้านเรานั้นก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่าร้อนมากๆแค่ไหนดังนั้นดิฉันจึงได้เริ่มศึกษาถึงวิธีการดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากไข้หวัดจึงได้มาพบเจอกับหนังสือเล่มนี้ที่ได้นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชาวไต้หวันมาแนะนำเคล็ดลับแห่งการรอดพ้นจากการเป็นหวัดนั้นซึ่งต้องขอบอกเลยว่าภายในหนังสือเล่มนี้นั้นได้อธิบายรายละเอียดและนำเสนอวิธีการต่างไว้ เยอะมาก ถึง 100 วิธีอย่างชื่อหนังสือกันเลยและแต่ละวิธีก็เป็นวิธีที่สามารถทำกันเองได้ง่ายๆและไม่ต้องหาอุปกรณ์ช่วยและต้องไปหาหมอเสียเงินค่ารักษาให้มากมายกันเลยยกตัวอย่างในเรื่องของการรู้ทันเจ้าเชื้อโรคไข้หวัดเพียงแต่เรารู้จักวิธีการดูแลตัวเองก็ทำให้เรานั้นห่างไกลมันแล้วและไหนจะเป็นในเรื่องของการเลือกรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในเรื่องของการต้านทานโรคหวัดหรือทานแล้วจะทำให้หายเป็นหวัดได้เร็วขึ้นในหนังสือเล่มนี้เค้าก็ได้อธิบายไว้อย่างละเอียดเพราะฉะนั้นจึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ทุกๆคนได้เริ่มมาตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันเชื้อหวัดกันเพราะในปัจจุบันวิวัฒนาการนั้นล้ำไปไกลเจ้าเชื้อหวัดมันก็เริ่มพัฒนาตามมาเร็วด้วยเหมือนกันและแถมยังทวีความร้ายกาจเพิ่มขึ้นจากเดิมเสียอีกเพราะเจ้าเชื้อหวัดบางตัวใครที่ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้วนั้นอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตก็เป็นได้ เห็นมั้ยค่ะว่าบางทีเรื่องเล็กๆมันอาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่หาวิธีแก้ไม่ได้ก็เป็นได้แต่ถ้ารู้ช้าไปก็อาจจะแก้ไม่ทันกันอีกเพราะฉะนั้นเราทุกคนจึงต้องหันมาใส่ใจถึงปัญหาเล็กในร่างกายและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเราอย่างสม่ำเสมอ ทุกวันนี้ตั้งแต่ดิฉันได้อ่านและศึกษาหนังสือเล่มนี้และลองปฏิบัติตามต้องยอมรับเลยว่าช่วยได้มาก ดิฉันเป็นหวัดน้อยลง ถึงเป็นก็หายได้เร็วขึ้นเพราะรู้วิธีการมาแล้วจากหนังสือเล่มนี้ดังนั้นดิฉันจึงอยากที่จะแนะนำให้เพื่อนๆได้ลองหามาไว้ติดบ้านกันสักเล่มนึงอย่างน้อยมันก็มีประโยชน์กับคุณได้ในยามที่ไม่สามารถออกไปหาหมอได้รับรองว่าคุณประโยชน์คับแน่นจนคุณทึ่งไปเลยก็ได้...

โรคไข้หวัดเชื่อว่าไม่ว่าใครๆก็ต้องเคยเป็นบางคนเป็นน้อยเป็นมากก็แตกต่างกันไป สำหรับดิฉันเองนั้นมีโรคประจำตัวคือเป็นภูมิแพ้ และต่อมทอลซิลไม่ปกติจึงทำให้ตัวของดิฉันเองนั้นต้องประสบกับอาการไข้หวัดอยู่บ่อยมาก ไม่ว่าจะฤดูไหนก็เป็นไข้หวัดจึงส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันนั้นค่อนข้างที่จะลำบากเนื่องจากต้องคอยระแวดระวังไม่ให้ร่างกายนั้นต้องอยู่ในที่แดดร้อนๆหรือที่ๆสกปรกซึ่งมันยากเกินไปเพราะแดดในบ้านเรานั้นก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่าร้อนมากๆแค่ไหนดังนั้นดิฉันจึงได้เริ่มศึกษาถึงวิธีการดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากไข้หวัดจึงได้มาพบเจอกับหนังสือเล่มนี้ที่ได้นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชาวไต้หวันมาแนะนำเคล็ดลับแห่งการรอดพ้นจากการเป็นหวัดนั้นซึ่งต้องขอบอกเลยว่าภายในหนังสือเล่มนี้นั้นได้อธิบายรายละเอียดและนำเสนอวิธีการต่างไว้ เยอะมาก ถึง 100 วิธีอย่างชื่อหนังสือกันเลยและแต่ละวิธีก็เป็นวิธีที่สามารถทำกันเองได้ง่ายๆและไม่ต้องหาอุปกรณ์ช่วยและต้องไปหาหมอเสียเงินค่ารักษาให้มากมายกันเลยยกตัวอย่างในเรื่องของการรู้ทันเจ้าเชื้อโรคไข้หวัดเพียงแต่เรารู้จักวิธีการดูแลตัวเองก็ทำให้เรานั้นห่างไกลมันแล้วและไหนจะเป็นในเรื่องของการเลือกรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในเรื่องของการต้านทานโรคหวัดหรือทานแล้วจะทำให้หายเป็นหวัดได้เร็วขึ้นในหนังสือเล่มนี้เค้าก็ได้อธิบายไว้อย่างละเอียดเพราะฉะนั้นจึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ทุกๆคนได้เริ่มมาตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันเชื้อหวัดกันเพราะในปัจจุบันวิวัฒนาการนั้นล้ำไปไกลเจ้าเชื้อหวัดมันก็เริ่มพัฒนาตามมาเร็วด้วยเหมือนกันและแถมยังทวีความร้ายกาจเพิ่มขึ้นจากเดิมเสียอีกเพราะเจ้าเชื้อหวัดบางตัวใครที่ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้วนั้นอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตก็เป็นได้ เห็นมั้ยค่ะว่าบางทีเรื่องเล็กๆมันอาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่หาวิธีแก้ไม่ได้ก็เป็นได้แต่ถ้ารู้ช้าไปก็อาจจะแก้ไม่ทันกันอีกเพราะฉะนั้นเราทุกคนจึงต้องหันมาใส่ใจถึงปัญหาเล็กในร่างกายและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเราอย่างสม่ำเสมอ ทุกวันนี้ตั้งแต่ดิฉันได้อ่านและศึกษาหนังสือเล่มนี้และลองปฏิบัติตามต้องยอมรับเลยว่าช่วยได้มาก ดิฉันเป็นหวัดน้อยลง ถึงเป็นก็หายได้เร็วขึ้นเพราะรู้วิธีการมาแล้วจากหนังสือเล่มนี้ดังนั้นดิฉันจึงอยากที่จะแนะนำให้เพื่อนๆได้ลองหามาไว้ติดบ้านกันสักเล่มนึงอย่างน้อยมันก็มีประโยชน์กับคุณได้ในยามที่ไม่สามารถออกไปหาหมอได้รับรองว่าคุณประโยชน์คับแน่นจนคุณทึ่งไปเลยก็ได้...

ดิฉันเป็นคนที่หลับยากมาตั้งแต่เด็กๆพอโตขึ้นมาก็เลยมีปัญหาด้านการพักผ่อนเพราะเวลากลางคืนตัวดิฉันเองจะนอนไม่ค่อยหลับถึงวันไหนหลับก็หลับแบบไม่สนิท กึ่งหลับกึ่งตื่น พอเช้าตื่นมาก็ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียไม่สดชื่นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอดังนั้นดิฉันจึงต้องหาวิธีที่จะมาทำให้ตัวเองหลับง่ายขึ้นซึ่งแน่นอนดิฉันเลือกจะใช้วิธีที่แสนจะง่ายอย่างการกินยานอนหลับ หรือจำพวกยาแก้เครียด แต่พอร่างกายได้รับยามากเกินไปจึงทำให้ร่างการเสื่อมโทรมขึ้นมาอีกงานนี้เลยต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหาแบบใหม่จึงไปเดินตามร้านหนังสือเพื่อหาหนังสือดีๆมาอ่านก่อนนอนเผื่อจะดีขึ้น แต่แล้วก็บังเอิญไปเจอกับหนังสือที่มีชื่อว่า 100 วิธีหลับยากแก้ง่าย ซึ่งมันประจวบเหมาะกับสิ่งที่ดิฉันกำลังเผชิญอยู่พอดีจึงเลือกหนังสือเล่มนี้มาอ่านในหนังสือเล่มนี้ก็จะบอกถึงวิธีการรักษาในแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนปัจจุบันหรือแพทย์แผนยาจีนก็มีด้วยเริ่มต้นของหนังสือเค้าจะกล่าวถึงสาเหตุของอาการนอนไม่หลับก่อนว่ามีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง และหลังจากนั้นเค้าก็จะแนะนำวิธีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันให้หลีกเลี่ยงอาการของการนอนไม่หลับไว้เยอะแยะมากมาย บอกเลยว่าช่วยได้มากเลยจริงๆ เนื่องจากหนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นมาโดยแพทย์สาวชาวจีนจึงทำให้ในหนังสือมีการรักษาอาการนอนไม่หลับในแบบของประเทศจีนมาอยู่ค่อนข้างเยอะเหมือนกันแต่ที่เห็นจะเจ็บสุดคงเป็นวิธีการฝังเข็ม บอกเลยว่าถึงจะอยากนอนหลับง่ายยังไงก็ไม่กล้าไปทำจริงๆอ้าท่าทางจะเจ็บน่าดูแต่นอนจากนี้ยังมีวิธีการบำบัดด้วยการเลือกรับประทานอาหารอีกด้วยแหม่อันนี้แหล่ะถนัดสุดเรื่องกินขอให้บอกแต่ในเมื่อเรากินแล้วเราก็ต้องรู้จักวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้องอีกด้วยซึ่งในหนังสือเล่มนี้ก็มีอีกเช่นเคย ซื้อไปอ่านเล่มเดียวได้ครบทั้งร่างกายเลยทีเดียว พอเราได้ซื้อมาอ่านแล้วนั้นต้องบอกไว้เลยว่ามีประโยชน์อย่างมากเพราะมีหลากหลายวิธีที่เราสามารถทำได้เองง่ายๆและไม่เป็นอันตราย เมื่อเราลองทำแล้วได้ผลจึงอยากที่จะมาแนะนำให้เพื่อนๆที่ประสบกับปัญหาเดียวกันนั้นไม่ต้องวิตกกังวลอีกต่อไปเพราะหนังสือเล่มนี้ช่วยคุณได้จริงๆอะไรดีอะไรได้ผลเราก็อยากจะนำมาบอกต่อๆกันไปเพราะเผื่อมันจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยให้แก้เพื่อนๆที่ตัวเองนอนไม่หลับหรือคนรอบข้างนั้นเป็นอยู่ก็สามารถนำไปใช้กันได้และถ้าใครมีวิธีอะไรที่เด็ดอีกก็อย่าลืมนำมาบอกกันบ้างเน้อ..

ดิฉันเป็นคนที่หลับยากมาตั้งแต่เด็กๆพอโตขึ้นมาก็เลยมีปัญหาด้านการพักผ่อนเพราะเวลากลางคืนตัวดิฉันเองจะนอนไม่ค่อยหลับถึงวันไหนหลับก็หลับแบบไม่สนิท กึ่งหลับกึ่งตื่น พอเช้าตื่นมาก็ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียไม่สดชื่นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอดังนั้นดิฉันจึงต้องหาวิธีที่จะมาทำให้ตัวเองหลับง่ายขึ้นซึ่งแน่นอนดิฉันเลือกจะใช้วิธีที่แสนจะง่ายอย่างการกินยานอนหลับ หรือจำพวกยาแก้เครียด แต่พอร่างกายได้รับยามากเกินไปจึงทำให้ร่างการเสื่อมโทรมขึ้นมาอีกงานนี้เลยต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหาแบบใหม่จึงไปเดินตามร้านหนังสือเพื่อหาหนังสือดีๆมาอ่านก่อนนอนเผื่อจะดีขึ้น แต่แล้วก็บังเอิญไปเจอกับหนังสือที่มีชื่อว่า 100 วิธีหลับยากแก้ง่าย ซึ่งมันประจวบเหมาะกับสิ่งที่ดิฉันกำลังเผชิญอยู่พอดีจึงเลือกหนังสือเล่มนี้มาอ่านในหนังสือเล่มนี้ก็จะบอกถึงวิธีการรักษาในแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนปัจจุบันหรือแพทย์แผนยาจีนก็มีด้วยเริ่มต้นของหนังสือเค้าจะกล่าวถึงสาเหตุของอาการนอนไม่หลับก่อนว่ามีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง และหลังจากนั้นเค้าก็จะแนะนำวิธีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันให้หลีกเลี่ยงอาการของการนอนไม่หลับไว้เยอะแยะมากมาย บอกเลยว่าช่วยได้มากเลยจริงๆ เนื่องจากหนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นมาโดยแพทย์สาวชาวจีนจึงทำให้ในหนังสือมีการรักษาอาการนอนไม่หลับในแบบของประเทศจีนมาอยู่ค่อนข้างเยอะเหมือนกันแต่ที่เห็นจะเจ็บสุดคงเป็นวิธีการฝังเข็ม บอกเลยว่าถึงจะอยากนอนหลับง่ายยังไงก็ไม่กล้าไปทำจริงๆอ้าท่าทางจะเจ็บน่าดูแต่นอนจากนี้ยังมีวิธีการบำบัดด้วยการเลือกรับประทานอาหารอีกด้วยแหม่อันนี้แหล่ะถนัดสุดเรื่องกินขอให้บอกแต่ในเมื่อเรากินแล้วเราก็ต้องรู้จักวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้องอีกด้วยซึ่งในหนังสือเล่มนี้ก็มีอีกเช่นเคย ซื้อไปอ่านเล่มเดียวได้ครบทั้งร่างกายเลยทีเดียว พอเราได้ซื้อมาอ่านแล้วนั้นต้องบอกไว้เลยว่ามีประโยชน์อย่างมากเพราะมีหลากหลายวิธีที่เราสามารถทำได้เองง่ายๆและไม่เป็นอันตราย เมื่อเราลองทำแล้วได้ผลจึงอยากที่จะมาแนะนำให้เพื่อนๆที่ประสบกับปัญหาเดียวกันนั้นไม่ต้องวิตกกังวลอีกต่อไปเพราะหนังสือเล่มนี้ช่วยคุณได้จริงๆอะไรดีอะไรได้ผลเราก็อยากจะนำมาบอกต่อๆกันไปเพราะเผื่อมันจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยให้แก้เพื่อนๆที่ตัวเองนอนไม่หลับหรือคนรอบข้างนั้นเป็นอยู่ก็สามารถนำไปใช้กันได้และถ้าใครมีวิธีอะไรที่เด็ดอีกก็อย่าลืมนำมาบอกกันบ้างเน้อ..

9 นิทานนานาชาติ ยอดนิยม เป็นการรวมเอานิทานเรื่องดังต่างๆมาไว้รวมในเล่มเดียวกันถึงเก้าเรื่องเลยทีเดียว ถ้าจะให้พูดถึงนิยายในวัยเด็กของเราที่เคยได้อ่านมานั้นก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องราวนิทานที่มีในหนังสือเล่มนี้นะเพราะตั้งแต่เด็กเราจะได้ฟังนิทานจากพ่อแม่ หรือจากคุณครูก็ตามก็มีเรื่องราวของนิทานอย่าง เจ้าหญิงนิทรา ลูกหมูสามตัว หนูน้อยหมวกแดง ลูกเป็ดขี้เหร่ ซินเดอเรลล่า โฉมงามกับเจ้าชายอสูร อะไรพวกนี้อยู่เสมอ และเราก็จะชอบฟังมากไม่ว่าจะเคยฟังมาแล้วกี่รอบก็ตาม นิทานพวกนี้ยังคงตามติดมายังทุกยุคทุกสมัยเพราะนอกจากจะเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆแล้ว ผู้ปกครองหลายๆท่านก็ยังสามารถเอาเรื่องราวในนิทานไปสอนลูกของตนเองเกี่ยวกับข้อคิดคติสอนใจต่างๆที่นิทานเรื่องเหล่านี้เค้ามีสอดแทรกมาให้ซึ่งในหนังสือนิทานเล่มนี้เค้าก็ไม่ได้ดัดแปลงเรื่องราวให้ต่างไปจากเดิมมากนักแต่กลับสร้างสีสันชวนให้เด็กๆสนใจมากกว่าเดิมเหมาะอย่างยิ่งกับเด็กๆที่มีสมาธิสั้นเพราะ สมัยนี้อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเสมอ แต่ความเป็นเด็กก็ยังคงชื่นชอบในเรื่องราวของจิตนาการณ์ที่หาไม่ได้ในโลกของความเป็นจริงนะ โดยส่วนตัวเราชื่นชอบการอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กนั้นก็อาจเป็นเพราะเราถูกปลูกฝั่งมาตั้งแต่เด็กๆเกี่ยวกับการฟังเพราะแม่มักจะเล่านิทานให้ฟังอยู่เสมอพอฟังแล้วเราก็เริ่มอยากที่จะเห็นภาพ เพราะนอกจากจะเป็นนิทานแล้วเรื่องราวเหล่านี้เค้าก็เอามาสร้างเป็นการ์ตูนทำให้เด็กๆได้ดูกันอีกเพราะงั้นจึงไม่ยากที่เราจึงซึมซับเรื่องราวของนิทานและทำให้เราชื่นชอบที่จะหาหนังสือมาอ่านทุกครั้ง จนมาถึงทุกวันนี้เราก็เปลี่ยนจากผู้ฟังมาเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวในนิทานเรื่องต่างๆให้กับเด็กๆได้ฟังกันแทนและที่ทำให้เรารู้สึกได้ว่าเรื่องราวเหล่านี้นั้นสามารถเข้าถึงเด็กๆได้ทุกวัยจริงๆไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชายก็ต่างชอบในนิทานที่มีในหนังสือเล่มนี้เพราะนอกจากจะมีเนื้อเรื่องที่สนุกแล้วในหนังสือเรื่องนี้ยังมีภาพสีที่สวยและมีสีสันเป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นในฐานะที่ดิฉันเป็นครูอนุบาลคนหนึ่งจึงอยากขอแนะนำหนังสือนิทานดีๆให้แก่ผู้ปกครองทุกท่านได้หามาให้ลูกๆตัวน้อยๆของพวกคุณได้หัวเราะไปกับเรื่องราวที่ตลกขบขันแถมยังสร้างสัมพันธภาพที่ดีภายในครอบครัวได้อีกด้วยและยังเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้แก่เยาวชนของชาติได้เป็นอย่างดีที่สุดค่ะ ดิฉันรับรองคุณภาพที่มีมากเกินราคาหนังสือที่เราต้องเสียค่ะ...

9 นิทานนานาชาติ ยอดนิยม เป็นการรวมเอานิทานเรื่องดังต่างๆมาไว้รวมในเล่มเดียวกันถึงเก้าเรื่องเลยทีเดียว ถ้าจะให้พูดถึงนิยายในวัยเด็กของเราที่เคยได้อ่านมานั้นก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องราวนิทานที่มีในหนังสือเล่มนี้นะเพราะตั้งแต่เด็กเราจะได้ฟังนิทานจากพ่อแม่ หรือจากคุณครูก็ตามก็มีเรื่องราวของนิทานอย่าง เจ้าหญิงนิทรา ลูกหมูสามตัว หนูน้อยหมวกแดง ลูกเป็ดขี้เหร่ ซินเดอเรลล่า โฉมงามกับเจ้าชายอสูร อะไรพวกนี้อยู่เสมอ และเราก็จะชอบฟังมากไม่ว่าจะเคยฟังมาแล้วกี่รอบก็ตาม นิทานพวกนี้ยังคงตามติดมายังทุกยุคทุกสมัยเพราะนอกจากจะเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆแล้ว ผู้ปกครองหลายๆท่านก็ยังสามารถเอาเรื่องราวในนิทานไปสอนลูกของตนเองเกี่ยวกับข้อคิดคติสอนใจต่างๆที่นิทานเรื่องเหล่านี้เค้ามีสอดแทรกมาให้ซึ่งในหนังสือนิทานเล่มนี้เค้าก็ไม่ได้ดัดแปลงเรื่องราวให้ต่างไปจากเดิมมากนักแต่กลับสร้างสีสันชวนให้เด็กๆสนใจมากกว่าเดิมเหมาะอย่างยิ่งกับเด็กๆที่มีสมาธิสั้นเพราะ สมัยนี้อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเสมอ แต่ความเป็นเด็กก็ยังคงชื่นชอบในเรื่องราวของจิตนาการณ์ที่หาไม่ได้ในโลกของความเป็นจริงนะ โดยส่วนตัวเราชื่นชอบการอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กนั้นก็อาจเป็นเพราะเราถูกปลูกฝั่งมาตั้งแต่เด็กๆเกี่ยวกับการฟังเพราะแม่มักจะเล่านิทานให้ฟังอยู่เสมอพอฟังแล้วเราก็เริ่มอยากที่จะเห็นภาพ เพราะนอกจากจะเป็นนิทานแล้วเรื่องราวเหล่านี้เค้าก็เอามาสร้างเป็นการ์ตูนทำให้เด็กๆได้ดูกันอีกเพราะงั้นจึงไม่ยากที่เราจึงซึมซับเรื่องราวของนิทานและทำให้เราชื่นชอบที่จะหาหนังสือมาอ่านทุกครั้ง จนมาถึงทุกวันนี้เราก็เปลี่ยนจากผู้ฟังมาเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวในนิทานเรื่องต่างๆให้กับเด็กๆได้ฟังกันแทนและที่ทำให้เรารู้สึกได้ว่าเรื่องราวเหล่านี้นั้นสามารถเข้าถึงเด็กๆได้ทุกวัยจริงๆไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชายก็ต่างชอบในนิทานที่มีในหนังสือเล่มนี้เพราะนอกจากจะมีเนื้อเรื่องที่สนุกแล้วในหนังสือเรื่องนี้ยังมีภาพสีที่สวยและมีสีสันเป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นในฐานะที่ดิฉันเป็นครูอนุบาลคนหนึ่งจึงอยากขอแนะนำหนังสือนิทานดีๆให้แก่ผู้ปกครองทุกท่านได้หามาให้ลูกๆตัวน้อยๆของพวกคุณได้หัวเราะไปกับเรื่องราวที่ตลกขบขันแถมยังสร้างสัมพันธภาพที่ดีภายในครอบครัวได้อีกด้วยและยังเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้แก่เยาวชนของชาติได้เป็นอย่างดีที่สุดค่ะ ดิฉันรับรองคุณภาพที่มีมากเกินราคาหนังสือที่เราต้องเสียค่ะ...

กินน้ำชะลอวัย ผลงานอันโดดเด่นของนายแพทญ์ที่ถือว่าเป็นบิดาแห่งการดูแลรักษาสุขที่โด่งดังมากในสหรัฐอเมริกา อย่าง นายแพทย์ฮาเวิร์ด มูราด เจ้าของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณที่รับความนิยมเป็นอย่างมากมาแล้วและมาคราวนี้ท่านได้นำผลงานเขียนของท่านมาให้ได้ศึกษาและเรียนรู้กระบวนการต่างๆเกี่ยวกับการรับประทานน้ำให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนที่รักสุขภาพเป็นอย่างมากและวันนี้ก็ได้นักแปลฝีมือดีอย่าง ธีร์ ทิพกฤต ซึ่งได้นำวิธีการดูแลที่เรียกได้ว่าบำรุงจากข้างในออกมาสู่ภายนอกเลย และในหนังสือเล่มนี้ก็จะอธิบายถึงวิธีการรับประทานน้ำให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุดรวมไปถึงการบอกถึงเมนูอาหารที่ควรค่าแก่การรับประทานสำหรับทุกๆคนว่าความมีอะไรบ้างในแต่ละมื้อ..ต้องบอกเลยว่าสำหรับสาวๆที่รักสวยรักงามและรักสุขภาพอย่างที่สุดอยากให้หาหนังสือดีๆอย่างเล่มนี้มาอ่านคุณจะได้ประโยชน์มากกว่าสิ่งที่นายแพทย์บอกแต่คุณจะได้วิธีการปฏิบัติที่น้อยคนจะรู้และนำไปใช้ได้อย่างถูกวิธี เพราะในหนังสือเล่มนี้ดิฉันต้องบอกไว้เลยว่ามันคุ้มค่ามากๆแก่การเสียเวลาอ่านเพราะเชื่อว่าคนที่ได้อ่านทุกคนจะเกิดแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ๆให้มันดีขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญมันดีตรงที่การที่เราได้ทดลองทำตามแล้วมันเกิดผลดีตอบสนองกลับมานี้แหละที่เค้าเรียกว่าสุดยอดของการดูแลตัวเอง ปกติดิฉันไม่ใช่คนที่ชอบดูแลตัวเองสักเท่าไหร่แต่ตรงกันข้ามเพราะดิฉันมีวิถีชีวิตที่ส่งผลให้สุขภาพร่างกายย่ำแย่เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน การนอนดึก การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลาและแถมยังทานแต่อาหารประเภทแป้งซะส่วนใหญ่เพราะว่าทานง่ายนั้นเองอะไรที่มันง่ายๆมันก็ส่งผลต่อสุขภาพได้ง่ายๆเช่นกันและด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลจึงเป็นเหตุผลให้ดิฉันมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรง ป่วยบ่อยมากๆและแถมยังเป็นภูมิแพ้อีกต่างหาก เมื่ออายุมาถึงจุดๆนึงจึงทำให้ตัวดิฉันตะหนักถึงความสำคัญของร่างกายเพราะทุกส่วยและอวัยวะนั้นเค้ามีการทำงานที่เกี่ยวเนื่องและเกี่ยวข้องกันทุกส่วน จึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตและก็ได้มาเจอหนังสือเล่มนี้ที่ต้องยอมรับเลยว่าได้ช่วยให้การดำรงชีวิตของดิฉันนั้นดีขึ้นจากเดิมมาเป็นอย่างมาก ทำให้ดิฉันได้เรียนรู้วิธีการดูแลตัวเองได้อย่างง่ายๆและสามารถเอาไปบอกต่อให้กับคนรอบข้างได้อย่างเต็มปากว่าทำตามแล้วมันได้ผลร้อยเปอร์เซ็นแถมยังเป็นวิธีที่ไม่มีอันตรายกับตัวท่านเองเลยด้วยมีแต่จะช่วยให้ท่านนั้นมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นๆจึงอยากจะแนะนำให้เพื่อนๆได้หามาอ่านกันจริงค่ะ สาระและประโยชน์เค้ามีคับแน่นหนังสือแน่นอน...

กินน้ำชะลอวัย ผลงานอันโดดเด่นของนายแพทญ์ที่ถือว่าเป็นบิดาแห่งการดูแลรักษาสุขที่โด่งดังมากในสหรัฐอเมริกา อย่าง นายแพทย์ฮาเวิร์ด มูราด เจ้าของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณที่รับความนิยมเป็นอย่างมากมาแล้วและมาคราวนี้ท่านได้นำผลงานเขียนของท่านมาให้ได้ศึกษาและเรียนรู้กระบวนการต่างๆเกี่ยวกับการรับประทานน้ำให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนที่รักสุขภาพเป็นอย่างมากและวันนี้ก็ได้นักแปลฝีมือดีอย่าง ธีร์ ทิพกฤต ซึ่งได้นำวิธีการดูแลที่เรียกได้ว่าบำรุงจากข้างในออกมาสู่ภายนอกเลย และในหนังสือเล่มนี้ก็จะอธิบายถึงวิธีการรับประทานน้ำให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุดรวมไปถึงการบอกถึงเมนูอาหารที่ควรค่าแก่การรับประทานสำหรับทุกๆคนว่าความมีอะไรบ้างในแต่ละมื้อ..ต้องบอกเลยว่าสำหรับสาวๆที่รักสวยรักงามและรักสุขภาพอย่างที่สุดอยากให้หาหนังสือดีๆอย่างเล่มนี้มาอ่านคุณจะได้ประโยชน์มากกว่าสิ่งที่นายแพทย์บอกแต่คุณจะได้วิธีการปฏิบัติที่น้อยคนจะรู้และนำไปใช้ได้อย่างถูกวิธี เพราะในหนังสือเล่มนี้ดิฉันต้องบอกไว้เลยว่ามันคุ้มค่ามากๆแก่การเสียเวลาอ่านเพราะเชื่อว่าคนที่ได้อ่านทุกคนจะเกิดแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ๆให้มันดีขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญมันดีตรงที่การที่เราได้ทดลองทำตามแล้วมันเกิดผลดีตอบสนองกลับมานี้แหละที่เค้าเรียกว่าสุดยอดของการดูแลตัวเอง ปกติดิฉันไม่ใช่คนที่ชอบดูแลตัวเองสักเท่าไหร่แต่ตรงกันข้ามเพราะดิฉันมีวิถีชีวิตที่ส่งผลให้สุขภาพร่างกายย่ำแย่เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน การนอนดึก การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลาและแถมยังทานแต่อาหารประเภทแป้งซะส่วนใหญ่เพราะว่าทานง่ายนั้นเองอะไรที่มันง่ายๆมันก็ส่งผลต่อสุขภาพได้ง่ายๆเช่นกันและด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลจึงเป็นเหตุผลให้ดิฉันมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรง ป่วยบ่อยมากๆและแถมยังเป็นภูมิแพ้อีกต่างหาก เมื่ออายุมาถึงจุดๆนึงจึงทำให้ตัวดิฉันตะหนักถึงความสำคัญของร่างกายเพราะทุกส่วยและอวัยวะนั้นเค้ามีการทำงานที่เกี่ยวเนื่องและเกี่ยวข้องกันทุกส่วน จึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตและก็ได้มาเจอหนังสือเล่มนี้ที่ต้องยอมรับเลยว่าได้ช่วยให้การดำรงชีวิตของดิฉันนั้นดีขึ้นจากเดิมมาเป็นอย่างมาก ทำให้ดิฉันได้เรียนรู้วิธีการดูแลตัวเองได้อย่างง่ายๆและสามารถเอาไปบอกต่อให้กับคนรอบข้างได้อย่างเต็มปากว่าทำตามแล้วมันได้ผลร้อยเปอร์เซ็นแถมยังเป็นวิธีที่ไม่มีอันตรายกับตัวท่านเองเลยด้วยมีแต่จะช่วยให้ท่านนั้นมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นๆจึงอยากจะแนะนำให้เพื่อนๆได้หามาอ่านกันจริงค่ะ สาระและประโยชน์เค้ามีคับแน่นหนังสือแน่นอน...