Customer Reviews

Grave บ้านพญาสัตบรรณ(ภาคินัย)
5
เรื่องราวของคนในราศรีต่างๆทั้งสิบสองราศีที่มองเห็นวิญญาณ -ราศรีมังกร
โดย: Blssoomeye วันที่เขียนรีวิว: 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Grave บ้านพญาสัตบรรณ ผู้เขียน ภาคินัย ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ โซฟา เรื่องนี้เป็นหนึ่งในชุดDeathil Zodiac เป็นเรื่องราวของตัวแทนในแต่ละราศี ที่สามารถมองเห็น สัมผัสวิญญาณ 12 ราศี 12 เรื่อง 12 นักเขียน แบบว่าอ่านกันจุใจไปเลย เอ๊ะ ...หรือหลอนกันจนประสาทเสียกันแน่เนี่ย 12 เรื่องเชี่ยวนัก เรื่องแรกนี้ประเดิมด้วยราศีมังกร คนเขียนก็คือภาคินัย ตอนแรกที่อ่านชื่อเรื่องนึกว่าเกี่ยวกับชื่อคน ที่ไหนได้เป็นชื่อของต้นไม้นั้นเอง และแค่เห็นนักเขียนก็การันตีถึงความหลอนและความน่ากลัวก็เรื่องราวได้เลย และเรื่องราวก็ตรงไม่เหมือนหนังสือผีเรื่องอื่นๆแน่นอน เพราะอย่างที่รู้สไตล์การเขียนของภาคินัยเป็นการเขียนที่มีการหักมุม คนอ่านไม่สามารถเดาเรื่องราวได้เลยว่าจะเป็นแบบไหน หรือหากเดากันถูกก็ต้องมีการหักมุมชนิดที่คาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ พสุธา มัณฑนากรหนุ่มที่ถูกว่าจ้างให้มาตกแต่งบ้านหลังหนึ่งเพื่อทำเป็นบ้านพักตากอากาศ พสุธามีสัมผัสพิเศษเพียงแค่นำดินมาป้ายตาก็สามารถมองเห็นวิญญาณได้ และที่แห่งนี้เค้าได้เจอกับดวงวิญญาณหญิงสาวที่ชื่อรัชลิน ซึ่งถูกฝังอยู่ใต้ต้นพญาสัตบรรณ แต่คนในบ้านกลับบอกว่าเธอได้หนีตามคนรักที่ชื่อเรือนชายไปและยังคงส่งจดหมายกลับมา พสุธามีแต่ความสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไรที่คนตายจะส่งจดหมายกลับมาบ้านได้ หรือเรื่องนี้มีเงื่อนงำมากกว่าที่เค้าคิด ต้องลองอ่านกันดูคะ เราบอกได้แค่ว่าแล้วท่านจะไม่ผิดหวัง เพราะอย่างที่บอกแค่ชื่อหนังเขียนก็การันตีได้แล้วว่าเรื่องนี้ต้องสนุกและหลอนตามแบบฉบับของภาคินัยแน่นอน
Holy ศพ-เซ่น-ศาล (ภาคินัย)
5
เรื่องราวการมองเห็นวิญญาณของคนที่เกิดวันเสาร์
โดย: Blssoomeye วันที่เขียนรีวิว: 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Holy ศพ-เซ่น-ศาล ผู้เขียน ภาคินัย ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ โซฟา เรื่องนี้เป็นหนึ่งในชุด เจ็ดวันจองเวร เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการมองเห็นวิญญาณของคนที่เกิดในวันต่างๆ โดยในเรื่องนี้เป็นเรื่องของคนที่เกิดวันเสาร์ เชื่อกันว่าคนที่เกิดวันเสาร์จะมีจิตสื่อสารกับศาลพระภูมิ หากใครที่เกิดในวันเสาร์แล้วไปลบหลู่หรือลองดีจะเจออะไรแปลกๆ เหมือนกับเรื่องราวในเรื่องที่เกี่ยวกับคนสามคนที่เกิดในวันเสาร์และเจอสิ่งที่ไม่คาดคิด อย่างคนแรก นางพยาบาลก้อย ถูกวิญญาณนางรำจองเวร คนที่สอง นิว ที่ถูกเงาลึกลับตามอยู่ตลอดเวลาจนเค้าจะเป็นบ้าอยู่แล้ว คนสุดท้าย ข้าว ที่เจอเรื่องแปลกๆหลังจากที่พี่สาว ขิง เกิดก่อนกำหนด เรื่องราวที่ทั้งสามเจอจะเกี่ยวข้องกับศาลพระภูกอย่างไรต้องไปหามาอ่านกันคะ รับลองว่าหลอนได้ใจ ยิ่งโดยเฉพาะคนที่อ่านเกิดวันเสาร์ด้วยแล้วเราว่าคงจะหนาวๆร้อนๆกันไปเป็นแถวนี้เลย แนะนำเลยว่าถ้าอยากให้ได้บรรยากาศในการอ่าน อ่านตอนกลางคืนดิ แล้วจะไม่กล้าเดินไปหนเลยหลังจากที่อ่านจบ แบบว่าหลอนกันไปเลย เรื่องนี้ก็ตามสไตล์ภาคินัยแหละ เป็นเรื่องราวที่มีความหลอนและน่ากลัว นอกจากนี้เรื่องราวก็มีการหักมุมชนิดที่คนอ่านคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว แต่เราว่าแบบนี้แหละสนุก เพราะมันจะทำให้เราอ่านรู้ว่าแล้วสุดท้ายเรื่องราวจะออกมาเป็นแบบไหน จะจบอย่างไร แล้วตัวละครในเรื่องแต่ละตัวจะมีจุดจบอย่างไร เป็นอะไรที่น่าติดตามมาก อ่านก็สนุก ชอบนะ ลองอ่านกันดู โดยเฉพาะคนที่เกิดวันเสาร์ หลอนแน่ๆ
Ward ห้องคลอดมรณะ (ภาคินัย)
5
ยังคงความหลอนเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ
โดย: Blssoomeye วันที่เขียนรีวิว: 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Ward ห้องคลอดมรณะ ผู้เขียน ภาคินัย ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ โซฟา พับลิชชิ่ง เรื่องนี้เป็นหนึ่งในชุดเจ็ดวันจองเวร เป็นเรื่องราวของคนที่เกิดในวันต่างๆที่สามารถมองเห็นวิญญาณได้ โดยเริ่มต้นที่วันอาทิตย์ โดยมีการเชื่อกันว่าคนที่เกิดวันอาทิตย์หากไปอยู่ใกล้คนที่ท้องจะสามารถมองเห็นวิญญาณได้ อย่างในเรื่อง หมออั้น นักศึกษาแพทย์ปีสุดท้าย ต้องไปฝึกงานบนตึกวอร์ดสูตินารีเวชได้เจอกับวิญญาณสาวที่ตายให้ช่วย โดยมาปรากฏให้เห็นบ่อย และเมื่อหมออั้นสืบดูก็ได้รู้ว่าเธอไม่ได้ตายด้วยการตกเลือดแต่มีสาเหตุจากอย่างอื่น เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่สนุก เป็นเรื่องเกี่ยวผีๆอย่างชัดเจน และอย่างที่รู้เรื่องไหนภาคินัยเขียนไม่มีทางที่คนอ่านจะทายเรื่องราวในเรื่องได้จนจบหรอก เพราะมันจะมีการหักมุมเรื่องราวได้อย่างน่าติดตามมาก บางครั้งเราคิดว่ามันจะจบแบบนี้แต่สุดท้ายก็ไม่ใช้ เราว่ามีบางคนที่พออ่านจนถึงตอนจบแล้วต้องร้องออกมาว่า “เฮ้ย จบแบบนี้หรอ?” แน่ๆ เพราะเราก็มักจะพูดออกมาก แต่เราว่าแบบนี้แหละเป็นการเขียนที่สนุก และไม่น่าเบื่อ นอกจากนี้เราว่าใครที่อ่านผลงานของภาคินัยในช่วงหลังที่มักจะเขียนเกี่ยวกับผี เรื่องราวหลอน ไม่ว่าจะตอนที่อ่านหรืออานจบไปแล้ว จะรู้สึกว่าไม่อยากอยู่คนเดียว จะรู้สึกหลอนๆไปพักนึงเลยทีเดียว จะแบบไม่อยากอยู่คนเดียว เราว่านี้แหละคือการเขียนนิยายที่ประสบความสำเร็จ เพราะมันทำให้คนอ่านเข้าถึงเรื่องราวและอารมณ์ที่คนเขียนต้องการสื่อให้รู้สึกและเห็น นอกจากความหลอนจากในเรื่องแล้วเราว่ามีตัวละครบางตัวที่น่าสงสารนะ แบบว่าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องราวที่เกิดเลย กลับต้องมาตายแบบง่ายๆอะ แบบว่าโลกนี้ไม่ยุติธรรมเล้ย...
ในฝัน (เล่ม 1-2)
5
อีกหนึ่งความประทับใจที่ตราตรึงในความทรงจำ
โดย: Blssoomeye วันที่เขียนรีวิว: 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ในฝัน ผู้เขียน โรสลาเรน ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม เรื่องที่เป็นอีกหนึ่งเรื่องในนามปากกาโรสลาเรนที่ชอบมากๆอีกเรื่องหนึ่ง แม้ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องราวอาจจะไม่ได้สุขสมหวังอย่างที่เราคาดหวังแต่มันก็จบได้อย่างอิ่มเอมในความรู้สึกของคนอ่าน เรื่องราวในเรื่องใช้วิธีการดำเนินเรื่องด้วยการเขียนจดหมายโต้ตอบกันในช่วงแรกๆจะเป็นการโต้ตอบระหว่างนางเอกกับน้องชาย และพอกลางเรื่องจะเป็นการโต้ตอบระหว่างพระเอกและนางเอก เรื่องนี้ถามว่าเป็นเรื่องอย่างไร เราว่าเป็นเรื่องที่มีพื้นหลังของเรื่องการเมือง แต่ก็ไม่ได้หนักอะไรมาก ส่วนใหญ่เนื้อเรื่องจะสื่อให้เห็นถึงความคิดที่พระเอกและนางเอกมีต่อการเมืองที่กำลังเกิดขึ้น และเราจะได้เห็นมุมน่ารักๆของพระแอกและความฉลาดของทั้งสองคนด้วย เรื่องนี้พระเอกนางเอกได้เจอกันน้อยมาก ส่วนใหญ่ใช้วิธีการเขียนจดหมายซะมากกว่า นั้นแหละจึงเป็นเรื่องที่มีความประทับใจมาก เพราะไม่ได้หวานมากจนขนาดจิกหมอนได้และไม่ได้หนักขนาดอ่านไม่รู้เรื่อง เราว่าเป็นเรื่องที่ผสมผสานได้อย่างลงตัว และเป็นเรื่องที่ซาบซึ้งกับความรักที่พระเอกนางเอกมีต่อกัน นอกจากนี้เรื่องนี้ไม่มีตัวร้ายแต่จะเป็นการใช้ไหวพริบในการแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆมากกว่า เรื่องในฝันได้มีโอกาสทำเป็นละครแล้วหลายครั้ง เราได้ดูในเว่อร์ชั่นที่ตุ้ย ธีรภัทรและซาร่า มาลากุล เล่นนำ เราว่าเป็นเว่อร์ชั่นที่สนุกและซึ้งที่สุดแล้ว แบบว่าทั้งตุ้ยและซาร่าเล่นได้สมบทบาทมาก และยิ่งถ้าใครได้อ่านเป็นหนังสือและจินตนาการเป็นหน้าสองคนนี้เราว่าฟินสุดๆ เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่เราชอบมากแม้ว่าจะมีเสียน้ำตาไปบ้าง (ปกติของงานเขียนโรสลาเรนหรือนามปากกาอื่นๆที่คุณหญิงวิมลเขียนแหละที่ต้องมีน้ำตา)
อย่าลืมฉัน (เล่ม 1-2) (ทมยันตี)
5
สนุกและประทับใจมาก ทั้งละครและหนังสือ
โดย: Blssoomeye วันที่เขียนรีวิว: 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อย่าลืมฉัน ผู้เขียน ทมยันตี ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แบบว่าดราม่าสุดๆ เราว่าในเรื่องตัวละครทุกตัวเลยน่าสงสารสุด แบบว่าไม่มีใครที่มีความสุขสักคน ทั้งเขมชาติ ที่สงสัย ไม่เข้าใจว่าตัวเองผิดอะไร ไม่ดีตรงไหน ทำไมถึงถูกทิ้ง ส่วนวดี สุริยาวดีหรือสุริยง ก็ต้องผิดคำพูด เพราะต้องตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ ส่วนเกนหลง ทั้งที่รักแต่ก็อยากได้ความมั่นใจว่าจะได้รับความรักกลับมา ส่วนเกื้อ รักแต่ก็ต้องคอยเก็บเอาไว้เพราะรักที่เกิดมันผิด และไหนจะตัวละครอื่นๆอีกนอกจากสี่ตัวนี้ ที่เราว่าเรื่องนี้แบบว่าดราม่าสุดๆ แต่ก็ยังพอมีรอยยิ้มเวลาที่อ่านไปเจอไก่กับไข่ ส่วนเนื้อเรื่องหลักก็แบบว่าวดีกลับมาในชื่อใหม่คือสุริยง และได้เจอกับเขมชาติ เขมชาติแบบว่าโกรธ แค้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังรัก ก็เลยหาวิธีต่างๆในการแก้แค้นสุริยง สุริยงก็ยอมทั้งๆที่รู้ สุดท้ายจะเป็นอย่างไรต้องหาอ่านดู แต่ขอบอกว่าคนละแบบกับในละครเลยนะ ในละครจบแบบแฮปปี้ สุริยงได้แก้แค้นเขมชาติกลับในตอนหลังด้วยก็เถอะแต่ในหนังสือไม่มี แต่อ่านเรื่องนี้แล้วเราชอบนะ เพราะมันก็สามารถเกิดขึ้นจริงได้ แม้มันอาจจะไม่ได้เหมือนในเรื่องซะทีเดียวแต่ก็คงจะมีบางเหตุการณ์ที่ตรงกันอย่างแม้ว่าจะรักกันมากแค่ไหน สัญญาว่าจะแต่งานกัน แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดหวังไว้ก็ได้ และอีกอย่างอ่านเรื่องนี้เราว่ามีสองคนที่พอช่วงหลังมีความสุขที่สุดนั้นคือเกื้อกับเกนหลง ที่สุดท้ายหันกลับมามองกันเอง เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่น่าอ่านและสนุกมาก
เถ้ากุหลาบ
4
เรื่องราวในเรื่องเครียดมากสำหรับเราแต่ในขณะเเดียวกันก็มีความสนุกด้วย
โดย: Blssoomeye วันที่เขียนรีวิว: 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เถ้ากุหลาบ ผู้เขียน ทมยันตี ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่มีการนำไปทำเป็นละครแล้ว แต่นานมากๆ ยังไม่มีโอกาสได้ดูเลย แต่ที่อ่านจากหนังสือก็คิดว่าคงสนุกพอๆกัน เรื่องนี้เราว่าเป็นเรื่องที่รัดทนนะ มันแบบเศร้าด้วย เป็นเรื่องที่เครียดน่ะ แต่ก็ยังพอมีมุมน่ารักระหว่างพระเอกและนางเอกให้เราได้พอชุ่มช่ำบ้าง เรื่องนี้ว่าจะสงสารนางเอกที่สุดเราก็ว่ายังไม่ใช้ เราว่ามันก็น่าสงสารทุกคนแหละ เรื่องนี้นางเอกเป็นคนที่เก็บอารมณ์ได้ดีมาก พระเอกก็สมกับการพระเอก เรื่องนี้มีเหตุผลเบื้องลึก มีปมปัญหาที่ต้องติดตามอ่านตั้งแต่ต้น เรารับลองเลยว่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องชอบกันแน่ๆ นอกจากนี้หลายๆคนอาจจะรับไม่ได้ในตอนจบ แต่เราว่าจบแบบนี้แหละดีแล้ว เป็นบทสรุปที่สวยงานที่สุดแล้วสำหรับทุกตัวละคร ถึงขนาดตอนที่เอาไปทำเป็นบทละครจะมีการเปลี่ยนบทในตอนจบแต่คุณหญิงวิมลบอกว่าเปลี่ยนตอนจบไม่ได้ ทำให้เรื่องราวยังคงจบแบบเดิม และเราว่ามันจบได้อย่างดีแล้ว และอย่างที่บอกแม้ว่าเรื่องนี้จะเครียดไปหน่อย (ไม่หน่อยแหละ มากเลย) แต่ก็ยังมีความสนุกและสะท้อนให้เราเห็นอะไรอีกหลายๆอย่างเลย ส่วนเราแล้วเราชอบทุกเรื่องของทมยันตีเลย และชอบทุกนามปากกาด้วย เพราะแต่ละนามปากกาก็มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนกัน และมีความสนุกที่ต่างกัน บางเรื่องอาจจะจบแบบมีความสุข บางเรื่องอาจจบแบบเสียน้ำตา แต่เราว่าไม่ว่าเรื่องราวในหนังสือเป็นแบบไหนก็สามารถทำให้คนอ่านรู้สึกประทับใจได้อย่างแน่นอน
Sleep หลับ-เป็น-ตาย (ภาคินัย)
5
อ่านเรื่องนี้แล้วกลัวเลย กลัวนอนแล้วไม่ตื่น
โดย: Blssoomeye วันที่เขียนรีวิว: 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Sleep หลับ-เป็น-ตาย ผู้เขียน ภาคินัย ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ โซฟา พับลิชชิ่ง เป็นหนึ่งในชุดFive Fear ว่าด้วยเรื่องของกามารมณ์ การนอนหลับถือเป็นการได้พักผ่อนร่างกาย ในขณะที่บางครั้งความคิดเราก็ยังคงทำงานอยู่ แล้วถ้าหากว่าในขณะที่นอนหลับไม่ใช่การหลับพักผ่อนหละ มันจะเป็นอย่างไร และถ้าหากสุดท้ายแล้วหลังจากการนอนหลับเราไม่ตื่นขึ้นมาหละ โอ้ มันคงจะน่ากลัวไม่น้อยไปกว่าเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้แน่นอน เราว่าเผลอๆหนังสือเล่มนี้อาจจะน่ากลัวกว่าก็เป็นได้ อย่างเรื่องราวในเรื่องว่าด้วยการฆาตกรรมในขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ เป็นการฆาตกรรมที่ใครก็คิดไม่ถึงว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ด้วย เราว่าเรื่องนี้สนุกและแปลกไปกว่าเรื่องอื่นๆ ตรงที่มีการเอาเรื่องเล่าเทพนิยายต่างๆมาแทนตัวผู้หญิงทั้งเจ็ดคนในเรื่อง เราว่าใครที่เคยอ่านผลงานของภาคินัยก็คงจะรู้ๆกันอยู่ว่าเรื่องราวภายในเล่มจะออกมาในรูปแบบไหน สำหรับเราคือชอบอ่านเรื่องผีๆอยู่แล้วแม้ว่าตัวเองจะเป็นคนที่กลัวผีก็ตาม แต่ผลงานก็ภาคินัยนอกจากความน่ากลัวแล้วมันยังมีความอยากรู้แทรกอยู่ด้วยเวลาที่อ่าน เพราะมันทำให้เราอยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วใครจะเป็นฆาตกร ตัวเอกของเรื่องจะมีจุดจบอย่างไร เราชอบที่มีการหักมุมอยู่เรื่อยๆ บางทีอยากเปิดอ่านไปหลังๆอยากรู้ว่าใครเป็นใคร แต่ก็ต้องอดใจไว้ไม่อย่างนั้นเรื่องราวจะไม่สนุก เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เราอ่านแล้วรู้สึกว่าน่ากลัว แนะนำว่าอย่าอ่านคนเดียวหรืออ่านตอนกลางคืน มันหลอนมากๆเลย แต่โดยรวมๆแล้วเป็นเรื่องที่สนุก ลุ้นทั้งเรื่องเลย
Cage หอสังหาร (ภาคินัย)
5
เรื่องนี้ทั้งสนุกและน่าสงสาร หลอนๆไปด้วย
โดย: Blssoomeye วันที่เขียนรีวิว: 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Cage หอสังหาร ผู้เขียน ภาคินัย ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ โซฟา พับลิชชิ่ง เป็นหนึ่งในชุด Five Fear เป็นเรื่องที่ว่าด้วยการโกหก (มุสาวาทา) เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรารู้สึกว่าน่าสงสาร เป็นเรื่องราวของหญิงชราที่พักอยู่ที่หอสิบซึ่งเป็นหนึ่งในหอที่บ้านพักคนชราแสงตะวันแล้วโดนทอดทิ้งจนกระทั่งแกตายไป และต้องการเจอญาติ พระเอกของเราซึ่งเป็นสถาปนิกที่มาออกแบบสร้างคอนโดในพื้นที่ที่เคยเป็นบ้านพักคนชราแสงตะวันโดยเชื่อว่ามีวิญญาณสิงอยู่ และหลังจากที่เสียเพื่อนไปพระเอกของเราก็ได้เจอกับวิญญาณตนนั้น นั้นคือยายวรรณาและก็ต้องช่วยเหลือวิญญาณของแกเพื่อให้ประลุผลอย่างที่แกหวังไว้ แต่ยิ่งพระเอกของเราสืบไปเรื่อยๆยิ่งรู้สึกว่าคนรอบข้างพูดไม่ตรงกัน ทุกคนกำลังโกหก ปิดบังอะไรบ้างอย่างกับเค้าอยู่ เรื่องนี้พออ่านจบแล้วรู้สึกว่ายายวรรณาน่ากลัวมากในขณะเดียวกันก็น่าสงสารด้วย แบบว่าถ้าเราเป็นพระเอกคงขวัญกระเจิงเวลาแกมาให้ช่วย แบบน่ากลัวอะ เราว่าอ่านเรื่องนี้แล้วได้อะไรเหมือนกันนะ อย่างเรื่องปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ ที่ไม่ว่ายังไงก็ยังคงมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย เราว่าทางแก้ไขปัญหามันก็อยู่ที่คนกลางแหละ ว่าจะจัดการปัญหาที่เกิดยังไง ให้ทั้งสองฝ่ายสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุข แล้วก็อีกเรื่องหนึ่งเรื่องนี้เห็นกันอยู่ชัดๆเลย เรื่องคนแก่ คนชราภายในครอบครัว ถ้าเป็นอย่างในเรื่องน่าสงสารมากเลยนะ เราว่าไม่ว่าใครก็ไม่ต้องการถูกทิ้งหรือต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวหรอก ทุกคนแหละต้องการอยู่กับคนที่รัก อยู่กับครอบครัว เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่อง
โรงมหรศพ(ภาคินัย)
5
เรื่องนี้ก้น่ากลัวอีกเหมือนกัน แค่หน้าปกก็สุดๆอะ
โดย: Blssoomeye วันที่เขียนรีวิว: 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

โรงมหรศพ ผู้เขียน ภาคินัย ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ โซฟา พับลิชชิ่ง เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนางรำ นั้นคืองิ้ว ง่ายๆว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับผีงิ้วนั้นเอง โดยวิญญาณตนนี้ชื่อว่าอี้จู ซึ่งตายด้วยการโดยเผา โดยพยายามติดต่อกับพระเอกเพื่อที่จะบอกว่าการตายของตัวเองมีเงื่อนงำ ตัวเองตายด้วยการโดนฆ่า และเมื่อพระเอกมาสืบก็ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าใครกันแน่ที่เป็นคนฆ่าอี้จูหรือทุกคนจะมีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้กันทุกคน อ่านไปก็ลุ้นไป ทุกเรื่องเลยของภาคินัยที่จะมีความซับซ้อน หักมุม ส่วนตัวแล้วเราชอบ มันทำให้เรื่องดูมีอะไรมากกว่าแค่อ่านไปเรื่อย เพราะเรื่องราวที่มีการหักมุมมันจะทำให้เราได้คิดถ้าไปด้วยว่าแล้วใครกันแน่ที่เป็นคนฆ่า ใครที่มีส่วนรวม ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์อย่างนั้น ตอนแรกเราก็ไม่คิดจะอ่านหรอกเรื่องผีอะ เพราะเป็นคนที่กลัวและชอบจินตนาการต่อไปเอง และเรื่องแต่ละเรื่องของภาคินัยแค่หน้าปกก็หลอนแล้ว ยิ่งเนื้อเรื่องที่มีการบิวต์ให้ยิ่งกลัวอีก แต่พอได้อ่านจริงๆนอกจากความกลัวมันก็มีความสนุกที่วางไม่ลงกันเลยทีเดียว อย่างที่บอกแหละเพราะเรื่องราวที่มีการหักมุมอยู่ตลอดเรื่อง มันเลยเป็นจุดที่น่าติดตาม นอกจากนี้การอ่านเรื่องนี้ทำให้ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับการแสดงงิ้วอีกด้วย เนื่องจากเนื้อเรื่องหลักเป็นเหตุการณ์ที่เกิดที่โรงงิ้ว สนุกนะเราว่าเรื่องราวที่ภาคินัยเขียน แม้ว่าบางเรื่องเราอาจะทายกันถูกว่าเรื่องราวจะออกมาเป็นแบบไหน เพราะส่วนใหญ่เรื่องราวเกี่ยวผี มันก็มีพล็อตเรื่องไม่มากเท่าไหร่ อาจจะมีซ้ำกับที่เคยอ่านมาบ้างแล้ว แต่พออ่านอีกก็ยังน่าสนใจและสนุกอยู่ดี
The Dome เคหาสน์สาปสยอง(ภาคินัย)
5
เรื่องนี้หลอนมาก บอกเลย ถ้าอ่านตอนกลางคืนได้บรรยากาศสุดๆ
โดย: Blssoomeye วันที่เขียนรีวิว: 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

The Dome เคหาสน์สาปสยอง ผู้เขียน ภาคินัย ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ โซฟา พับลิชชิ่ง เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสองพี่น้องที่สูญเสียแม่และต้องย้ายมาอยู่ที่คฤหาสน์หลังหนึ่งที่มีหญิงจิตไม่ปกติอาศัยอยู่ สืบเนื่องมาจากการที่ลูกชายของเธอตายตั้งแต่ยังเด็ก ตั้งแต่นั้นมาเธออุปโลกน์ว่าหุ่นกระบอกเป็นลูกของเธอ และนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ โดยทั้งสองคนพี่น้องรู้สึกว่าคฤหาสน์หลังนี้มีอะไรแปลกๆ ทั้งสองไม่อยากอยู่ที่นี้จึงพยายามที่จะออกไป ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องราวต่อจากนี้เป็นอย่างไรต้องหามาอ่านคะ เราว่ามันน่ากลัวนะ หลอนกว่าเรื่องอื่นด้วย ลองคิดกันดูดิ ว่าวันหนึ่งต้องไปอยู่ในบ้านที่มีคนโรคจิตที่เอาหุ่นกระบอกมาแทนลูกตัวเองแล้วบอกว่ามันมีชีวิตคุณจะรู้สึกยังไง เป็นเราเราก็ไม่เอาหรอก ยอมไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า หรือที่อื่นดีกว่า แล้วยิ่งเป็นคนโรคจิตอย่างในเรื่องด้วยน่ากลัวกว่าเดิมอีก ไม่รู้ว่าวันไหนจะลุกขึ้นมาหยิบมีดมาแทงเรา โอ้ย!!! หลอนมาก และนอกจากนี้อาจจะเพราะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับบ้านที่อยู่อาศัยด้วยก็ได้ทำให้พออ่านแล้วยิ่งทำให้รู้สึกว่ามันน่ากลัว และด้วยตัวละครในเรื่องด้วยที่ทำให้เรื่องนี้ยิ่งดูน่ากลัว สำหรับเรายิ่งเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับตุ๊กตาเรายิ่งกลัวนะ และถ้าตุ๊กตาตัวนั้นมีลักษณะเหมือนคนจริง เราว่ามันยิ่งหลอนมากเลย เพราะไม่แน่วันดีคืนดีมันอาจจะลุกขึ้นมาวิ่งไปรอบๆบ้านก็ได้ บรื้อ!!!! น่ากลัวอะ คิดเองกลัวเอง เราชอบนะเรื่องหลอนๆยิ่งถ้านักเขียนคนไหนเขียนให้คนอ่านรู้สึกกลัวจริง เราว่านั้นแหละเจ๋งสุดๆ
Kill ร่วมห้องต้องฆ่า (ภาคินัย)
5
อีกหนึ่งเรื่องที่สะท้อนนิสัยของคนในปัจจุบันได้ดีเลย
โดย: Blssoomeye วันที่เขียนรีวิว: 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Kill ร่วมห้องต้องฆ่า ผู้เขียน ภาคินัย ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ โซฟา พับลิชชิ่ง เป็นหนึ่งในชุดFive Fear เป็นเรื่องเกี่ยวกับความอิจฉาริษยา เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนร่วมห้องหรือรูมเมท อย่างที่เวลาอยู่หอของมหาลัยเราก็จะต้องมีเพื่อนร่วมห้อง บางครั้งอาจจะกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันหรือบางครั้งอาจจะกลายมาเป็นคนที่ไม่ชอบกัน เรื่องนี้มีความซับซ้อนกว่านั้น เรื่องราวในเล่มกล่าวถึงพราวพลอย ซึ่งเป็นที่เพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง ได้มาอยู่ร่วมห้องกับพเยีย และได้เป็นเพื่อนสนิทกัน ทำอะไรหลายด้วยกัน ชอบอะไรเหมือนๆกันแม้กระทั่งผู้ชาย พเยียดีกับพราวพลอยทุกอย่าง แต่เบื้องลึกเบื้องหลังของพเยียไม่มีใครรู้ เหตุการณ์หลายๆอย่างที่เกิดขึ้นกับพราวพลอยจริงๆมาจากพเยียที่ต้องการทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของพราวพลอย แต่ในขณะเดียวกับการกระทำของพเยียทุกอย่างก็มีที่มาที่ไปว่าเพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้นและทำอย่างนั้น ถ้าอยากรู้ต้องหามาอ่านกันดุจ้า เราอ่านแล้วไม่ได้รู้สึกว่ามันจะเกี่ยวกับเรื่องผีๆอะไรมากมาย เราว่ามันเกี่ยวกับการกระทำมากกว่า เป็นการกระทำจากในอดีตที่ส่งผลมาจนถึงปัจจุบัน และความอิจฉาริษยาของคน ที่ไม่ว่ายุคใดสมัยใดเราก็จะพอเห็นได้อยู่เสมอ เราว่าเรื่องที่พเยียร้ายมันก็ไม่ผิดนะ (แต่จะเพราะอะไรต้องอ่านเองจ้า) เพราะตอนเด็กพราวพลอยก็ร้ายใช่ย่อย แต่ทำไมพอโตเป็นคนดีจัง ส่วนพระเอกของเรื่องก็น่ารักดี ดูเป็นคนเจ้าเล่ห์ มันก็เลยทำให้เรื่องดูไม่นากลัว ไม่เครียดเกินไป เราเรื่องนี้ก็ยังสนุกดูอยู่แม้ว่ามันดูจะฉีกแนวจากเล่มก่อนก็ตาม และก็ยังคงมีการหักมุมของเรื่องราวอยู่เหมือนเดิมด้วย
สี่แผ่นดิน
5
คุณเปรมน่ารัก แม่พลอยก็ชอบ
โดย: Blssoomeye วันที่เขียนรีวิว: 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สี่แผ่นดิน ผู้เขียน ม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมช ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ ดอกหญ้า 2000 เป็นนิยายอมตะเรื่องหนึ่งก็ว่าได้ หากใครที่ไม่เคยอ่านก็ต้องเคยดูเป็นละครสักครั้งหนึ่งในชีวิตอยู่แล้ว อย่างเราเคยดูเป็นละครในตอนที่อุ้มกับตุ้ยเล่นเป็นแม่พลอยกับคุณเปรม ในตอนนั้นจำได้ว่าชอบมาก สนุกด้วย เรื่องสี่แผ่นดินเป็นเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ การปกครอง การเมือง ประเพณีวัฒนธรรม เริ่มตั้งแต่ในช่วงรัชกาลที่ห้าถึงรัชกาลที่แปด โดยใช้วิธีเล่าเรื่องผ่านแม่พลอย และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เราได้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของสาวชาววังเนื่องจากในตอนเด็กๆแม่พลอยเข้าวังและออกมาจากวังหลังจากที่แต่งงานกับคุณเปรม และเราก็ยังได้เห็นชีวิตของแม่พลอยหลังจากออกมาจากวังมาเป็นแม่บ้านแม่เรือนให้กับคุณเปรม การจักการกับปัญหาที่เข้ามา การเลี้ยงลูกของคนในสมัยก่อน การให้ความเชื่อใจ เชื่อฟังสามี และยังจำได้ว่าตอนนั้นชอบคุณเปรมมาก ยิ่งคำพูดที่ใช้จีบแม่พลอยน่ารักมาก ชอบภาษาสำนวนในการเล่าเรื่อง อ่านได้เรื่อยๆสบายๆ เป็นภาษาที่เข้าใจง่าย เราว่าทำเป็นละครก็หลายครั้งแล้วแต่ที่เราว่าเข้าสุดๆก็ต้องอุ้มกับตุ้ยอะ สมกับการเป็นคุณเปรมกับแม่พลอยมาก หนังสือก็ออกมาหลายแบบ เราชอบภาพหน้าปกที่เรียบๆแบบไม่ต้องมีภาพ แค่เขียนคำว่าสี่แผ่นดินแล้วใช้ฟอนแบบไทยๆก็น่าอ่านแล้ว สี่แผ่นดินเป็นนิยายที่ดีมาก ในชีวิตเราว่าต้องลองอ่านหรือดูเป็นละครสักครั้ง แล้วคุณจะชอบแม่พลอยและคุณเปรมอย่างแน่นอน
The shoes รองเท้าอาถรรพ์ (ภาคินัย)
5
แค่ภ่พหน้าปกก็หลอนแล้ว เนื้อเรื่องยิ่งกว่า
โดย: Blssoomeye วันที่เขียนรีวิว: 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

The shoes รองเท้าอาถรรพ์ ผู้เขียน ภาคินัย ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ โซฟา พับลิชชิ่ง อีกเรื่องของความสยองขวัญที่คนอ่านต้องไม่พลาด เราชอบนะกับผลงานของภาคินัย เราว่ามันสนุกดี มีการหักมุมอยู่เรื่อยๆ อาจจะทายถูกบ้าง ไม่ถูกบ้าง ถ้าเรื่องไหนพอจะทายถูกมันก็จะทำให้เราอยากรู้ต่อไปว่าแล้วเรื่องราวจะดำเนินต่ออย่างไร เพราะอะไรจึงทำให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น ก็เหมือนอย่างเรื่องนี้ รองเท้าอาถรรพ์ เรื่องราวเกี่ยวกับรองเท้ามือสองที่มีบางสิ่งตามมาด้วย และมันก็ทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆตามมา เราแนะนำว่าต้องไปหามาอ่านกันดู มันสนุก ตื่นเต้น ลุ้นระทึกอยู่เรื่อยๆว่าใครจะเป็นอย่างไร เราอ่านเรื่องนี้แล้วเราก็หลอนๆเกี่ยวกับของมือสองอยู่พักหนึ่งเลยทีเดียว เพราะโดยส่วนตัวก็ชอบซื้อรองเท้ามือสองอยู่แล้ว นอกจากนี้เราว่าผลงานของภาคินัยที่เป็นเอกลักษณ์ในช่วงหลังๆก็ต้องหน้าปกของแต่ละเรื่อง เพราะแค่เห็นหน้าปกก็หลอนแล้ว พออ่านเนื้อเรื่องด้วยแล้วดูหน้าปกด้วยบอกเลยสติแตก เพราะหน้าปกเนี่ยสื่อได้อารมณ์มาก เราว่าผลงานของภาคินัยเนี่ยใช้ตัวละครได้อย่างคุ้มสุด แบบว่ามีกี่ตัวๆก็ตายเกือบหมด ไหนจะวิธีการตายในแต่ละคนแบบว่าโหดสุดๆ อันนี้ห้ามเลย ห้ามอ่านคนเดียว ห้ามอ่านตอนมืดไม่ว่าจะปิดไฟหรือตอนกลางคืน เราว่าคุณอาจจะประสาทหลอนไปเลย แต่เราชอบนะ แบบว่าโรคจิตหน่อยๆอะ อ้อ เรารู้มาว่าภาคินัยเขียนแนวอื่นด้วย แต่เราว่าพี่เค้าเขียนแนวหลอนๆผีๆเนี่ย สนุกแล้ว แม้ว่าบางเรื่องอาจจะมีพล็อตเรื่องที่เคยอ่านแล้วบ้างก็ตาม เราว่าก็ยังสนุกอยู่
ทวิภพ (เล่ม 1-2) (ทมยันตี)
5
ไมว่าจะทำเป็นละครหรืออ่านแบบหนังสือก็สนุกทุกครั้ง
โดย: Blssoomeye วันที่เขียนรีวิว: 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ทวิภพ ผู้เขียน ทมยันตี ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ขึ้นชื่อว่าทมยันตี ก็การันตีได้เลยคะว่าเรื่องนี้ต้องสนุกและได้ความรู้อีกเรื่องหนึ่งแน่นอน และก็ไม่ผิดหวังคะ เรื่องนี้สนุกมากๆ สนุกพอๆกับการเอาไปทำเป็นละครเลยละคะ บางคนอาจจะชอบแบบละคร แต่เราชอบแบบหนังสือมากกว่า เพราะในหนังสือจะกลอนแทรกในเรื่อง หรือการบรรยายความรู้สึกออกมา มันทำให้คนอ่านรู้รักเรื่องนี้มาก เพราะนอกจากความสนุกตามเนื้อเรื่องแล้ว เรายังได้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ชาติไทยของเราสอดแทรกอีกด้วยแม้ว่าพล็อตเรื่องอาจจะไม่ใหม่มากเพราะถ้าจำไม่ผิดเคยมีอยู่เรื่องหนึ่งที่เป็นแนวย้อนเวลาประมาณนี้อยู่เรื่องหรือสองเรื่องนี้แหละแต่ก็ถือว่าใหม่ในระดับหนึ่งแหละ และเราว่าใครที่ได้อ่านเรื่องนี้หรือดูเป็นละครจะต้องชอบมากๆ โดยเฉพาะคุณหลวงและมณีจันทร์ สองตัวละครนี้น่ารักมาก เป็นตัวละครที่มีสีสันต์มาก เรื่องนี้เราชอบตรงการสื่อถึงความรักที่คุณหลวงมีต่อมณีจันทร์ แบบคุณหลวงมีวิธีที่ทำให้เรารู้ว่ามณีจันทร์เป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉาที่สุดอะ เราว่าเป็นความรักที่หายากมากในปัจจุบันนี้ แม้ว่าบางครั้งอาจจะรักมากจนดูเหมือนเห็นแก่ตัวไม่ก็เถอะ แต่เราก็ชอบอ่านไปยิ้มไป แบบเขินแทนมณีจันทร์เวลาที่โดนคุณหลวงเกี้ยว ฮ่าๆๆๆๆ และเราชอบเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อยู่แล้วด้วย เรื่องนี้จึงทำให้เรารู้สึกว่ายิ่งสนุก ทำให้เรื่องราวที่เกี่ยวกับปะวัติศาสตร์ไม่น่าเบื่อ เรื่องสนุกใครที่ดูเป็นละครแล้วว่าสนุกถ้ามาอ่านแบบหนังสือจะยิ่งสนุกและชอบมากๆ
เพียงดาวนฤมิต (เล่ม 1-2) (เจ้าสำราญ)
5
สนุก น่ารัก พระเอกของเรื่องก็สมกับการเป็นพระเอกจริงๆ
โดย: Blssoomeye วันที่เขียนรีวิว: 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เพียงดาวนฤมิต ผู้เขียน เจ้าสำราญ ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม เรื่องนี้อ่านนานแล้วตั้งแต่สมัยเรียนอะ ตอนแรกก็คิดอยู่ว่าจะสนุกไหม เพราะดูจากชื่อเรื่องมันแปลกๆพออ่านคำโปรยที่ปกก็ว่าน่าสนใจอยู่ก็เลยหยิบมากอ่าน และพออ่านจบก็ว่าสนุกดี น่ารักดี นอกจากนี้อย่างแรกที่ชอบสำหรับเรื่องนี้คือหน้าปก หน้าปกสวยมาก มันทำให้เราใช้ภาพเป็นการจินตนาการถึงหน้านางเอกเลยว่าต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ ส่วนเนื้อเรื่องก็สนุกเหมือนกันมีทั้งสนุก ฮา ซึ้ง แบบครบรสมาก ตัวละครในเรื่องที่ชอบเลยก็ต้องพระเอกของเรานั้นเอก แบบว่าพระเอ้ก พระเอกเลย ใครอ่านเราว่าก็ต้องชอบพระเอกเหมือนกัน ส่วนพล็อตเรื่องก็แนวแบบโดนทรยศจากคนใกล้ตัว โดนแย่งบัลลังก์ และพอสุดท้ายก็กลับไปกอบกู้บัลลังก์กลับคืนแล้วก็กลับไปรับนางเอกกลับมาอยู่ด้วยกัน ก็แบบไม่มีรัยมากก็แบบอ่านได้เรื่อยๆ ไม่เครียด ตัวร้ายก็แบบง่ายๆธรรมะย่อมชนะอธรรมประมาณนั้น ส่วนใหญ่จะให้ความรู้สึกว่าน่ารักมากกว่า ก็เรื่องนี้มีทั้งหมดสองเล่ม เราว่าถ้าเล่มเดียวเนี่ยต้องหนามากแน่ๆ อีกอย่างที่ชอบเรื่องนี้นอกจากภาพหน้าปกแล้วก็ต้องเป็นเรื่องเล่าหรือตำนานในเรื่องแหละ ที่ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งคอยคนรักจนตัวเองตายกลายเป็นภูเขาและได้ชื่อว่าหุบเขานางคอยอะ เราว่ามันซึ้งดีนะ ก็สำหรับนักเขียนเจ้าสำราญเราอ่านเรื่องนี้เรื่องแรกเลยก็ว่าได้ เพราะปกติจะอ่านแต่ของทมยันตีในนามปากกาต่างๆ พอได้มาอ่านของนักเขียนท่านอื่นบ้างก็คิดว่าสนุกดีเหมือนกัน ภาษา ก็ต่างกันแล้ว พออ่านเรื่องอื่นดูก็สนุกดีเหมือนกัน เราว่าสำหรับใครที่อยากเปลี่ยนแนวการอ่านบ้างลองเรื่องนี้ดู เราว่าสนุกอีกเรื่องหนึ่งเลย
www.batorastore.com © 2024