Customer Reviews

คุณชายปวรรุจ เป็นคุณชายคนที่สองในสกุลจุฑาเทพ เรื่องนี้ ผู้เขียนผูกปมให้กับตัวละครในเรื่องของชาติกำเนิด แม้ว่าจะเป็นคุณชาย แต่ก็เป็นคุณชายที่เกิดจากภรรยาที่ต่ำศักดิ์ที่สุด ถึงแม้จะไม่มีใครสนใจ แต่ก็มีย่าอ่อนที่คอยดูถูกเหยียดหยามคุณชายรุจอยู่เสมอ ทำให้เรื่องชาติกำเนิดเป็นปมในใจคุณชายปวรรุจเสมอมา
ในช่วงต้นของเรื่องกล่าวถึงการหนีการแต่งงานของคุณชายปวรรุจไปทำงานที่สวิสเซอร์แลนด์ และได้เจอหญิงไทยคนหนึ่งชื่อ “รสา” ซึ่งจริง ๆ แล้วรสาเป็นท่านหญิงวรรณรสาที่ปลอมตัวมา เพื่อไปหาท่านชายทัศนัย พระคู่หมั้นที่สวิสเซอร์แลนด์ แต่ท่านหญิงก็ได้พบว่า พระคู่หมั้นนั้นเป็นคนเจ้าชู้ ทำให้ท่านหญิงต้องการถอนหมั้นเมื่อกลับถึงเมืองไทย
จนกระทั่งความจริงเปิดเผยว่า รสาคือท่านหญิงวรรณรสา ปมเรื่องชาติกำเนิดที่ฝังใจมาตลอดทำให้คุณชายปฏิเสธท่านหญิง ช่วงที่สองนี้ จึงเหมือนช่วงที่ท่านหญิงพยายามจะตามง้อคุณชาย โดยมีคุณชายคนอื่น ๆ คอยให้ความช่วยเหลือ
ต้องยอมรับว่าเล่มนี้เป็นนิยายที่ชวนฝันจริง ๆ เพราะเป็นเรื่องราวความรักต่างศักดิ์ของคุณชายกับท่านหญิงผู้สูงศักดิ์ การเดินเรื่องไม่มีอะไรที่แตกต่างไปจากเรื่องอื่น ๆ มากนัก เพราะเป็นเรื่องของการปลอมตัวของท่านหญิง ปิดบังสถานะที่แท้จริงของตนไว้ เมื่อความจริงเปิดเผย ก็เป็นช่วงที่ต้องปรับความเข้าใจกัน ถึงแม้เรื่องจะดำเนินไปเรื่อย ๆ ไม่หวือหวา แต่ความโรแมนติกที่ผู้เขียนบรรยาย รวมถึงบรรยากาศในสวิสเซอร์แลนด์ ตลอดการเดินทางร่วมกันของคุณชายปวรรุจกับท่านหญิงวรรณรสา ทำให้ผู้อ่านอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มตาม และคอยลุ้นให้คุณชายกับท่านหญิงสมหวังแน่นอน

คุณชายปวรรุจ เป็นคุณชายคนที่สองในสกุลจุฑาเทพ เรื่องนี้ ผู้เขียนผูกปมให้กับตัวละครในเรื่องของชาติกำเนิด แม้ว่าจะเป็นคุณชาย แต่ก็เป็นคุณชายที่เกิดจากภรรยาที่ต่ำศักดิ์ที่สุด ถึงแม้จะไม่มีใครสนใจ แต่ก็มีย่าอ่อนที่คอยดูถูกเหยียดหยามคุณชายรุจอยู่เสมอ ทำให้เรื่องชาติกำเนิดเป็นปมในใจคุณชายปวรรุจเสมอมา
ในช่วงต้นของเรื่องกล่าวถึงการหนีการแต่งงานของคุณชายปวรรุจไปทำงานที่สวิสเซอร์แลนด์ และได้เจอหญิงไทยคนหนึ่งชื่อ “รสา” ซึ่งจริง ๆ แล้วรสาเป็นท่านหญิงวรรณรสาที่ปลอมตัวมา เพื่อไปหาท่านชายทัศนัย พระคู่หมั้นที่สวิสเซอร์แลนด์ แต่ท่านหญิงก็ได้พบว่า พระคู่หมั้นนั้นเป็นคนเจ้าชู้ ทำให้ท่านหญิงต้องการถอนหมั้นเมื่อกลับถึงเมืองไทย
จนกระทั่งความจริงเปิดเผยว่า รสาคือท่านหญิงวรรณรสา ปมเรื่องชาติกำเนิดที่ฝังใจมาตลอดทำให้คุณชายปฏิเสธท่านหญิง ช่วงที่สองนี้ จึงเหมือนช่วงที่ท่านหญิงพยายามจะตามง้อคุณชาย โดยมีคุณชายคนอื่น ๆ คอยให้ความช่วยเหลือ
ต้องยอมรับว่าเล่มนี้เป็นนิยายที่ชวนฝันจริง ๆ เพราะเป็นเรื่องราวความรักต่างศักดิ์ของคุณชายกับท่านหญิงผู้สูงศักดิ์ การเดินเรื่องไม่มีอะไรที่แตกต่างไปจากเรื่องอื่น ๆ มากนัก เพราะเป็นเรื่องของการปลอมตัวของท่านหญิง ปิดบังสถานะที่แท้จริงของตนไว้ เมื่อความจริงเปิดเผย ก็เป็นช่วงที่ต้องปรับความเข้าใจกัน ถึงแม้เรื่องจะดำเนินไปเรื่อย ๆ ไม่หวือหวา แต่ความโรแมนติกที่ผู้เขียนบรรยาย รวมถึงบรรยากาศในสวิสเซอร์แลนด์ ตลอดการเดินทางร่วมกันของคุณชายปวรรุจกับท่านหญิงวรรณรสา ทำให้ผู้อ่านอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มตาม และคอยลุ้นให้คุณชายกับท่านหญิงสมหวังแน่นอน

นิยายเรื่องที่สองในชุด Rising Sun เรื่องนี้ถูกนำไปสร้างเป็นละครเช่นกัน แต่ถึงแม้ละครจะสนุก น่าติดตามแค่ไหน เราก็อยากแนะนำให้ทุกคนได้อ่านหนังสือด้วยอยู่ดี ได้อรรถรสไปอีกแบบแน่นอน

“รอยฝันตะวันเดือด” พูดถึงความรักของ “ริว โอะนิซึกะ” หัวหน้ากลุ่มโกะคุโดกลุ่มใหญ่ที่สุดในเมืองโยโกฮาม่ากับคุณหมอ “มายูมิ ทากาฮาชิ” ทั้งคู่เป็นคู่หมั้นคู่หมายกัน แต่ริวก็ไม่ได้สนใจมายูมิเลยตลอดเวลา 7 ปี ทำให้มายูมิเริ่มท้อแท้และคิดจะตัดใจ แต่แล้ว ริวก็กลับเข้ามาในชีวิตของมายูมิอีกครั้ง
แน่นอนว่าความรักของพระเอกนางเอกย่อมมีอุปสรรค แต่เล่มนี้อุปสรรคถาโถมมามากกว่าเล่มแรกนะ ทั้งจากนายตำรวจที่มาชอบมายูมิ กิ๊กเก่าของริวเอง รวมไปถึงความไม่มั่นใจในตัวริวของมายูมิ ไหนจะปัญหาระหว่างกลุ่มที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น เรื่องนี้พระนางจึงมีอุปสรรคเยอะทีเดียว
เราว่าเรื่องนี้มีสิ่งหนึ่งที่ผู้อ่านน่าจะชอบ ตรงที่นางเอกอย่างมายูมิ ไม่ใช่นางเอกที่สวยอ่อนหวานอย่างเดียว แต่นางพกความฉลาดมาเต็ม นางไม่หลงเชื่อใครง่าย ๆ นางมีสติ และเลือกที่จะเก็บความสงสัยมาถามและเลือกจะเชื่อใจริว จุดนี้ถือว่าค่อนข้างฉีกจากนิยายเรื่องอื่น ๆ ที่เคยอ่าน ๆ กันมา นอกจากนี้ผู้แต่งอย่าง ณารา ยังใส่บทรักวาบหวิวเอาไว้ได้แซ่บกว่าเล่มแรกเยอะ 55

นอกจากความรักของพระนางแล้ว จุดไคลแมกซ์ของเรื่องอีกอย่างอยู่ที่การเปิดเผยเบื้องหลังที่แท้จริงที่คอยรังควานกลุ่มโอะนิซึกะมาตั้งแต่เล่มแรก เล่มนี้ถือได้ว่าการต่อสู้นั้นจะถอนรากถอนโคนกันเลยทีเดียว

นักอ่านทุกท่านก็ไม่อยากให้พลาดนิยายโรแมนซ์เล่มนี้ เราจัดว่าโอเคเลย อ่านเล่นเพลิน ๆ ได้ไม่เบื่อ

นิยายเรื่องที่สองในชุด Rising Sun เรื่องนี้ถูกนำไปสร้างเป็นละครเช่นกัน แต่ถึงแม้ละครจะสนุก น่าติดตามแค่ไหน เราก็อยากแนะนำให้ทุกคนได้อ่านหนังสือด้วยอยู่ดี ได้อรรถรสไปอีกแบบแน่นอน

“รอยฝันตะวันเดือด” พูดถึงความรักของ “ริว โอะนิซึกะ” หัวหน้ากลุ่มโกะคุโดกลุ่มใหญ่ที่สุดในเมืองโยโกฮาม่ากับคุณหมอ “มายูมิ ทากาฮาชิ” ทั้งคู่เป็นคู่หมั้นคู่หมายกัน แต่ริวก็ไม่ได้สนใจมายูมิเลยตลอดเวลา 7 ปี ทำให้มายูมิเริ่มท้อแท้และคิดจะตัดใจ แต่แล้ว ริวก็กลับเข้ามาในชีวิตของมายูมิอีกครั้ง
แน่นอนว่าความรักของพระเอกนางเอกย่อมมีอุปสรรค แต่เล่มนี้อุปสรรคถาโถมมามากกว่าเล่มแรกนะ ทั้งจากนายตำรวจที่มาชอบมายูมิ กิ๊กเก่าของริวเอง รวมไปถึงความไม่มั่นใจในตัวริวของมายูมิ ไหนจะปัญหาระหว่างกลุ่มที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น เรื่องนี้พระนางจึงมีอุปสรรคเยอะทีเดียว
เราว่าเรื่องนี้มีสิ่งหนึ่งที่ผู้อ่านน่าจะชอบ ตรงที่นางเอกอย่างมายูมิ ไม่ใช่นางเอกที่สวยอ่อนหวานอย่างเดียว แต่นางพกความฉลาดมาเต็ม นางไม่หลงเชื่อใครง่าย ๆ นางมีสติ และเลือกที่จะเก็บความสงสัยมาถามและเลือกจะเชื่อใจริว จุดนี้ถือว่าค่อนข้างฉีกจากนิยายเรื่องอื่น ๆ ที่เคยอ่าน ๆ กันมา นอกจากนี้ผู้แต่งอย่าง ณารา ยังใส่บทรักวาบหวิวเอาไว้ได้แซ่บกว่าเล่มแรกเยอะ 55

นอกจากความรักของพระนางแล้ว จุดไคลแมกซ์ของเรื่องอีกอย่างอยู่ที่การเปิดเผยเบื้องหลังที่แท้จริงที่คอยรังควานกลุ่มโอะนิซึกะมาตั้งแต่เล่มแรก เล่มนี้ถือได้ว่าการต่อสู้นั้นจะถอนรากถอนโคนกันเลยทีเดียว

นักอ่านทุกท่านก็ไม่อยากให้พลาดนิยายโรแมนซ์เล่มนี้ เราจัดว่าโอเคเลย อ่านเล่นเพลิน ๆ ได้ไม่เบื่อ

บทประพันธ์ของโสภาค สุวรรณ ที่ถูกทำเป็นละครแล้วได้เรตติ้งสูงสุดตลอดกาลติดอันดับ 2 เกิดปรากฎการณ์ถนนโล่งมาแล้ว ถ้าใครที่ชอบศรราม-สุวนันท์ ในบทของขุนไกรและดาวเรือง บอกเลยว่าไม่ควรพลาดการอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะยิ่งอ่าน ยิ่งฟินกว่าในละครเสียอีก
“สายโลหิต” เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของสองครอบครัว พระเอกของเรื่องคือ “ขุนไกร” ได้พบและรู้จัก “ดาวเรือง” ตั้งแต่ดาวเรืองยังเป็นเด็ก เนื่องด้วยทั้งสองครอบครัวต้องมาเกี่ยวดองกัน ผู้อ่านจะค่อย ๆ รู้จักขุนไกรและดาวเรือง ค่อย ๆ ซึมซับความรักที่ทั้งสองคนมีให้แก่กันตั้งแต่ความรักและเอ็นดูกันในแบบผู้ใหญ่กับเด็ก จนกระทั่งความรู้สึกของทั้งคู่เปลี่ยนไปเมื่อโตขึ้น อ่านแล้วก็จะได้ความรู้เกี่ยวกับกรุงศรีอยุธยา และอมยิ้มให้กับความน่ารักของทั้งคู่แน่นอน
เนื่องด้วยเหตุการณ์อยู่ในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาก่อนเสียกรุง จึงหลีกหนีเรื่องการรบทัพจับศึกไม่ได้ ผู้ประพันธ์ได้สอดแทรกความกล้าหาญ ความรักชาติของขุนไกร รวมถึงตัวละครอื่น ๆ บางตัวผ่านคำพูด การแสดงความรู้สึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้น รวมไปถึงสะท้อนภาพความแตกแยก แตกสามัคคีของคนในชาติ การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ความเห็นแก่ตัว ซึ่งนำไปสู่การเสียกรุงในที่สุด
นอกจากนี้ บทประพันธ์ยังสอดแทรกคำสอนที่คุณย่าหมั่นสอนดาวเรืองอยู่ตลอดเวลาในหลาย ๆ เรื่องตั้งแต่ดาวเรืองยังเด็กจนกระทั่งแต่งงาน รวมถึงลักษณะความเป็นอยู่ บ้านเรือน วิถีชีวิตของผู้คนในสมัยกรุงศรีอยุธยา ความยากลำบากในการใช้ชีวิตช่วงสงครามอีกด้วย
ที่แนะนำผู้อ่านให้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็เพราะ นอกจากเราจะได้อมยิ้มให้กับขุนไกรและดาวเรืองแล้ว ยังกระตุ้นเลือดรักชาติ รักแผ่นดินให้พลุ่งพล่านแน่นอน เป็นหนังสืออีกเล่มที่ไม่ควรพลาด

บทประพันธ์ของโสภาค สุวรรณ ที่ถูกทำเป็นละครแล้วได้เรตติ้งสูงสุดตลอดกาลติดอันดับ 2 เกิดปรากฎการณ์ถนนโล่งมาแล้ว ถ้าใครที่ชอบศรราม-สุวนันท์ ในบทของขุนไกรและดาวเรือง บอกเลยว่าไม่ควรพลาดการอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะยิ่งอ่าน ยิ่งฟินกว่าในละครเสียอีก
“สายโลหิต” เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของสองครอบครัว พระเอกของเรื่องคือ “ขุนไกร” ได้พบและรู้จัก “ดาวเรือง” ตั้งแต่ดาวเรืองยังเป็นเด็ก เนื่องด้วยทั้งสองครอบครัวต้องมาเกี่ยวดองกัน ผู้อ่านจะค่อย ๆ รู้จักขุนไกรและดาวเรือง ค่อย ๆ ซึมซับความรักที่ทั้งสองคนมีให้แก่กันตั้งแต่ความรักและเอ็นดูกันในแบบผู้ใหญ่กับเด็ก จนกระทั่งความรู้สึกของทั้งคู่เปลี่ยนไปเมื่อโตขึ้น อ่านแล้วก็จะได้ความรู้เกี่ยวกับกรุงศรีอยุธยา และอมยิ้มให้กับความน่ารักของทั้งคู่แน่นอน
เนื่องด้วยเหตุการณ์อยู่ในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาก่อนเสียกรุง จึงหลีกหนีเรื่องการรบทัพจับศึกไม่ได้ ผู้ประพันธ์ได้สอดแทรกความกล้าหาญ ความรักชาติของขุนไกร รวมถึงตัวละครอื่น ๆ บางตัวผ่านคำพูด การแสดงความรู้สึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้น รวมไปถึงสะท้อนภาพความแตกแยก แตกสามัคคีของคนในชาติ การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ความเห็นแก่ตัว ซึ่งนำไปสู่การเสียกรุงในที่สุด
นอกจากนี้ บทประพันธ์ยังสอดแทรกคำสอนที่คุณย่าหมั่นสอนดาวเรืองอยู่ตลอดเวลาในหลาย ๆ เรื่องตั้งแต่ดาวเรืองยังเด็กจนกระทั่งแต่งงาน รวมถึงลักษณะความเป็นอยู่ บ้านเรือน วิถีชีวิตของผู้คนในสมัยกรุงศรีอยุธยา ความยากลำบากในการใช้ชีวิตช่วงสงครามอีกด้วย
ที่แนะนำผู้อ่านให้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็เพราะ นอกจากเราจะได้อมยิ้มให้กับขุนไกรและดาวเรืองแล้ว ยังกระตุ้นเลือดรักชาติ รักแผ่นดินให้พลุ่งพล่านแน่นอน เป็นหนังสืออีกเล่มที่ไม่ควรพลาด

วรรณกรรมเยาวชนที่โด่งดังที่สุดในโลกเรื่องหนึ่ง คงหนีไม่พ้นเรื่องของพ่อมดน้อย “แฮร์รี่ พอตเตอร์” เด็กชายผู้รอดชีวิต และยังทำลายเวทมนตร์ของเจ้าแห่งศาสตร์มืดอย่างลอร์ดโวลเดอร์มอร์ลงด้วย
สำหรับคนที่ไม่เคยอ่าน แต่เคยไปชมภาพยนตร์มาก่อนแล้ว รับประกันความสนุกได้เลยค่ะ เราว่า หนังสือทำให้เราจินตนาการภาพได้กว้างไกลกว่า อลังการกว่า แต่ถ้าใครที่อ่านก่อนไปชมภาพยนตร์ อาจจะกร่อยไปนิดนึง แต่ไม่มากหรอก เราว่า พอดูหนังจบ จะอยากหยิบหนังสือกลับมาอ่านอีกครั้ง
เรื่องเริ่มจากวันที่แฮร์รี่ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร แล้วค่อย ๆ ทำความรู้จักโลกเวทมนตร์ ซึ่งบอกเลยว่าผู้แปลก็แปลให้เราได้อ่านแบบน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน เราจะได้เห็นความมหัศจรรย์ของโลกเวทมนตร์ ตื่นเต้นไปพร้อมกับแฮร์รี่ ช่วงแรก ๆ ก็มีแอบหมั่นไส้เฮอร์ไมโอนี่บ้าง หล่อนจะอะไรนักหนา 55 บางทีก็จะแอบตลกรอน และฝาแฝดวีสลีย์ พี่ชายของรอน
ระหว่างเรื่องดำเนินอยู่นั้น ปมที่ผู้เขียนแทรกไว้จะทำให้เรารู้สึกอยากรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าใครกันแน่ที่เป็นตัวร้ายในเรื่องนี้ ผู้อ่านบางคนอาจจะเดาไปก่อนแล้วก็ได้ค่ะว่าต้องเป็นคนนั้น ต้องเป็นคนนี้ ซึ่งนี่คือเสน่ห์สำคัญของแฮร์รี่ พอตเตอร์อย่างหนึ่งก็ว่าได้
เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดในตอนศิลาอาถรรพ์นี้ นอกจากจะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นแล้ว ยังสอดแทรกเรื่องราวมิตรภาพระหว่างเพื่อนทั้งสามคน นั่นคือ แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ด้วย
ศิลาอาถรรพ์คืออะไร ทำไมเจ้าแห่งศาสตร์มืดต้องการมัน แล้วแฮร์รี่จะทำยังไงเมื่อเจ้าแห่งศาสตร์มืดพยายามจะกลับมาอีกครั้ง ไปติดตามในหนังสือกันค่ะ

วรรณกรรมเยาวชนที่โด่งดังที่สุดในโลกเรื่องหนึ่ง คงหนีไม่พ้นเรื่องของพ่อมดน้อย “แฮร์รี่ พอตเตอร์” เด็กชายผู้รอดชีวิต และยังทำลายเวทมนตร์ของเจ้าแห่งศาสตร์มืดอย่างลอร์ดโวลเดอร์มอร์ลงด้วย
สำหรับคนที่ไม่เคยอ่าน แต่เคยไปชมภาพยนตร์มาก่อนแล้ว รับประกันความสนุกได้เลยค่ะ เราว่า หนังสือทำให้เราจินตนาการภาพได้กว้างไกลกว่า อลังการกว่า แต่ถ้าใครที่อ่านก่อนไปชมภาพยนตร์ อาจจะกร่อยไปนิดนึง แต่ไม่มากหรอก เราว่า พอดูหนังจบ จะอยากหยิบหนังสือกลับมาอ่านอีกครั้ง
เรื่องเริ่มจากวันที่แฮร์รี่ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร แล้วค่อย ๆ ทำความรู้จักโลกเวทมนตร์ ซึ่งบอกเลยว่าผู้แปลก็แปลให้เราได้อ่านแบบน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน เราจะได้เห็นความมหัศจรรย์ของโลกเวทมนตร์ ตื่นเต้นไปพร้อมกับแฮร์รี่ ช่วงแรก ๆ ก็มีแอบหมั่นไส้เฮอร์ไมโอนี่บ้าง หล่อนจะอะไรนักหนา 55 บางทีก็จะแอบตลกรอน และฝาแฝดวีสลีย์ พี่ชายของรอน
ระหว่างเรื่องดำเนินอยู่นั้น ปมที่ผู้เขียนแทรกไว้จะทำให้เรารู้สึกอยากรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าใครกันแน่ที่เป็นตัวร้ายในเรื่องนี้ ผู้อ่านบางคนอาจจะเดาไปก่อนแล้วก็ได้ค่ะว่าต้องเป็นคนนั้น ต้องเป็นคนนี้ ซึ่งนี่คือเสน่ห์สำคัญของแฮร์รี่ พอตเตอร์อย่างหนึ่งก็ว่าได้
เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดในตอนศิลาอาถรรพ์นี้ นอกจากจะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นแล้ว ยังสอดแทรกเรื่องราวมิตรภาพระหว่างเพื่อนทั้งสามคน นั่นคือ แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ด้วย
ศิลาอาถรรพ์คืออะไร ทำไมเจ้าแห่งศาสตร์มืดต้องการมัน แล้วแฮร์รี่จะทำยังไงเมื่อเจ้าแห่งศาสตร์มืดพยายามจะกลับมาอีกครั้ง ไปติดตามในหนังสือกันค่ะ

บทประพันธ์นี้เป็นพระนิพนธ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต (พระนามเดิมคือ หม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต) ในนามปากกา ว.ณ. ประมวลมารค
เรื่องราวการพบปะกันของหนุ่มสาวชาวไทยในต่างแดน เหตุการณ์ช่วงต้นเกิดขึ้นที่เมืองซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ดินแดนที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง พระเอกคือพิเชฐ และนางเอกคือมนทิรา ทั้งคู่รู้จักกันขณะกำลังเลือกซื้อลูกหมา ดังนั้น ทั้งสองคนจึงคุยกันอย่างถูกคอ และทั้งคู่ยังได้พบปะกันสม่ำเสมอ เนื่องจากหมาของทั้งสองคนคือ “นิกกับพิม” ถูกนำไปฝากเลี้ยงไว้ในที่เดียวกัน
แต่แล้ว ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้พระเอกเกิดการเข้าใจนางเอกผิด และหนีกลับประเทศไทย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในช่วงที่สองของเรื่อง ในช่วงนี้ ผู้เขียนใช้วิธีการสื่อสารให้ผู้อ่านได้เห็นภาพเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของพิเชฐ ที่ไปเป็นวิศวกรอยู่ที่บ้านภูเขียว และการใช้ชีวิตในต่างแดนของมนทิราที่สวิสเซอร์แลนด์ โดยการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของสุนัขสองตัว คือ “นิกกับพิม” ซึ่งเขียนจดหมายตอบโต้กัน เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟัง ซึ่งเรื่องที่ถ่ายทอดในมุมมองของสุนัขเพื่อนซี้ทั้งสองตัวนั้น เต็มไปด้วยเรื่องราวสนุกสนาน บางอารมณ์ก็น้อยใจเจ้านายของตัวเองบ้าง บางทีก็แอบนินทาเจ้านาย หรือเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้านายให้เพื่อนฟัง
ภาษาที่ใช้ในหนังสือเล่มนี้เป็นภาษาง่าย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่อง เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ซับซ้อน แต่ความน่าสนใจอยู่ที่มุมมองที่ผู้เขียนใช้ถ่ายทอด เป็นมุมมองของสุนัข จึงทำให้เนื้อเรื่องดูน่าติดตามยิ่งขึ้น และอดขำไปด้วยไม่ได้กับเรื่องเล่าของนิกกับพิม
สุดท้ายแล้ว นิกกับพิมจะช่วยให้เจ้านายของตัวเองปรับความเข้าใจกันสำเร็จหรือไม่ ไปลุ้นกันในเล่มได้เลย รับประกันความสนุกจ้า

บทประพันธ์นี้เป็นพระนิพนธ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต (พระนามเดิมคือ หม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต) ในนามปากกา ว.ณ. ประมวลมารค
เรื่องราวการพบปะกันของหนุ่มสาวชาวไทยในต่างแดน เหตุการณ์ช่วงต้นเกิดขึ้นที่เมืองซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ดินแดนที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง พระเอกคือพิเชฐ และนางเอกคือมนทิรา ทั้งคู่รู้จักกันขณะกำลังเลือกซื้อลูกหมา ดังนั้น ทั้งสองคนจึงคุยกันอย่างถูกคอ และทั้งคู่ยังได้พบปะกันสม่ำเสมอ เนื่องจากหมาของทั้งสองคนคือ “นิกกับพิม” ถูกนำไปฝากเลี้ยงไว้ในที่เดียวกัน
แต่แล้ว ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้พระเอกเกิดการเข้าใจนางเอกผิด และหนีกลับประเทศไทย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในช่วงที่สองของเรื่อง ในช่วงนี้ ผู้เขียนใช้วิธีการสื่อสารให้ผู้อ่านได้เห็นภาพเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของพิเชฐ ที่ไปเป็นวิศวกรอยู่ที่บ้านภูเขียว และการใช้ชีวิตในต่างแดนของมนทิราที่สวิสเซอร์แลนด์ โดยการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของสุนัขสองตัว คือ “นิกกับพิม” ซึ่งเขียนจดหมายตอบโต้กัน เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟัง ซึ่งเรื่องที่ถ่ายทอดในมุมมองของสุนัขเพื่อนซี้ทั้งสองตัวนั้น เต็มไปด้วยเรื่องราวสนุกสนาน บางอารมณ์ก็น้อยใจเจ้านายของตัวเองบ้าง บางทีก็แอบนินทาเจ้านาย หรือเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้านายให้เพื่อนฟัง
ภาษาที่ใช้ในหนังสือเล่มนี้เป็นภาษาง่าย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่อง เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ซับซ้อน แต่ความน่าสนใจอยู่ที่มุมมองที่ผู้เขียนใช้ถ่ายทอด เป็นมุมมองของสุนัข จึงทำให้เนื้อเรื่องดูน่าติดตามยิ่งขึ้น และอดขำไปด้วยไม่ได้กับเรื่องเล่าของนิกกับพิม
สุดท้ายแล้ว นิกกับพิมจะช่วยให้เจ้านายของตัวเองปรับความเข้าใจกันสำเร็จหรือไม่ ไปลุ้นกันในเล่มได้เลย รับประกันความสนุกจ้า

จากนิยายทางอินเตอร์เน็ตที่มีผู้ติดตามมากที่สุดเรื่องหนึ่ง สู่การตีพิมพ์เป็นหนังสือ โดยต้องตีพิมพ์ออกมาถึง 4 เล่มต่อเนื่องกัน เราเคยจับพลัดจับผลูอ่านนิยายเรื่องนี้ทางอินเตอร์เน็ตด้วยความบังเอิญ แต่แล้ว ความน่ารักของพระเอกกับนางเอก ก็เริ่มดึงดูดให้เราติดงอมแงม อ่านต่อเนื่องข้ามวันกันเลยทีเดียว
เพียงรักนิรันดร์เป็นนิยายจีน ผู้แต่งเลือกใช้ภาษาสละสลวย บรรยายได้ดีเยี่ยม เนื้อเรื่องจัดได้ว่าค่อนข้างดราม่า ไม่ซิ ดราม่ามากเลยทีเดียว เพราะผู้เขียนสร้างปมปัญหาไว้หลายปม แต่ละปมนั้นผูกไว้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้อ่านรู้สึกอยากติดตามตลอดเวลา เพราะต้องคอยลุ้นตามว่านางเอกจะเข้าใจอะไรผิดอีกหรือไม่ พระเอกจะเข้าใจอะไรผิดอีกหรือเปล่า หรือเมื่อปมที่หนึ่งกำลังจะคลี่คลาย ผู้เขียนก็ขมวดปมปัญหาใหม่ต่ออีกครั้งทันทีให้ผู้อ่านได้ตื่นเต้น และร่วมลุ้นกับพระเอกและนางเอกอีกรอบ
ในเล่มแรก เปิดตัวด้วยปัญหาความรักบนความขัดแย้งของพระเอกและนางเอก ซึ่งทั้งสองมีใจให้กัน ก่อนที่นางเอกจะรู้ความจริงว่าพระเอกคือใคร และเมื่อรู้ว่าพระเอกคือผู้ที่มายึดครองแผ่นดินของตนเองแล้วนั้น นางเอกก็ต้องต่อสู้กับจิตใจของตนเอง เพราะทั้งรัก และก็เกลียดพระเอกในคราวเดียวกัน
นอกจากปมหลักของเรื่องอย่างความขัดแย้งภายในจิตใจของนางเอกแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปมปัญหาเกิดขึ้นคู่กัน เมื่อนางเอกก็มีคนคอยติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด คอยรักและหวังดีอยู่ตลอดเวลา ทำให้พระเอกแอบหมั่นไส้อยู่เป็นระยะ และไปลงที่นางเอก ซึ่งปัญหานี้จะค่อย ๆ ส่งผลในระยะยาวอีกด้วย
บอกเลยว่า หลังจากอ่านเล่ม 1 จบ ทุกคนจะอยากหยิบเล่ม 2 เล่ม 3 เล่ม 4 ตามอ่านอย่างต่อเนื่องแน่นอน

จากนิยายทางอินเตอร์เน็ตที่มีผู้ติดตามมากที่สุดเรื่องหนึ่ง สู่การตีพิมพ์เป็นหนังสือ โดยต้องตีพิมพ์ออกมาถึง 4 เล่มต่อเนื่องกัน เราเคยจับพลัดจับผลูอ่านนิยายเรื่องนี้ทางอินเตอร์เน็ตด้วยความบังเอิญ แต่แล้ว ความน่ารักของพระเอกกับนางเอก ก็เริ่มดึงดูดให้เราติดงอมแงม อ่านต่อเนื่องข้ามวันกันเลยทีเดียว
เพียงรักนิรันดร์เป็นนิยายจีน ผู้แต่งเลือกใช้ภาษาสละสลวย บรรยายได้ดีเยี่ยม เนื้อเรื่องจัดได้ว่าค่อนข้างดราม่า ไม่ซิ ดราม่ามากเลยทีเดียว เพราะผู้เขียนสร้างปมปัญหาไว้หลายปม แต่ละปมนั้นผูกไว้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้อ่านรู้สึกอยากติดตามตลอดเวลา เพราะต้องคอยลุ้นตามว่านางเอกจะเข้าใจอะไรผิดอีกหรือไม่ พระเอกจะเข้าใจอะไรผิดอีกหรือเปล่า หรือเมื่อปมที่หนึ่งกำลังจะคลี่คลาย ผู้เขียนก็ขมวดปมปัญหาใหม่ต่ออีกครั้งทันทีให้ผู้อ่านได้ตื่นเต้น และร่วมลุ้นกับพระเอกและนางเอกอีกรอบ
ในเล่มแรก เปิดตัวด้วยปัญหาความรักบนความขัดแย้งของพระเอกและนางเอก ซึ่งทั้งสองมีใจให้กัน ก่อนที่นางเอกจะรู้ความจริงว่าพระเอกคือใคร และเมื่อรู้ว่าพระเอกคือผู้ที่มายึดครองแผ่นดินของตนเองแล้วนั้น นางเอกก็ต้องต่อสู้กับจิตใจของตนเอง เพราะทั้งรัก และก็เกลียดพระเอกในคราวเดียวกัน
นอกจากปมหลักของเรื่องอย่างความขัดแย้งภายในจิตใจของนางเอกแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปมปัญหาเกิดขึ้นคู่กัน เมื่อนางเอกก็มีคนคอยติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด คอยรักและหวังดีอยู่ตลอดเวลา ทำให้พระเอกแอบหมั่นไส้อยู่เป็นระยะ และไปลงที่นางเอก ซึ่งปัญหานี้จะค่อย ๆ ส่งผลในระยะยาวอีกด้วย
บอกเลยว่า หลังจากอ่านเล่ม 1 จบ ทุกคนจะอยากหยิบเล่ม 2 เล่ม 3 เล่ม 4 ตามอ่านอย่างต่อเนื่องแน่นอน