Customer Reviews

ง่ายที่จะรัก ยากที่จะลืม เป็นอีกหนึ่งหนังสือที่รวบรวมบทกลอน ประโยคเด็ดโดนใจ รวมถึงคำคมบาดลึก มาไว้ในเล่มเดียวกันเพื่อให้นักอ่านทุกท่านได้เพลิดเพลินไปกับหลากหลายเรื่องราวและมุมมองความรักที่สามารถรังสรรค์ให้กับชีวิตของเรานั้นต้องพบเจอกับอารมร์ความรู้สึกที่หลากหลาย โดยเรื่องราวต่างๆเป็นการนำผลงานของนักเขียนหลายๆท่านที่เคยได้รับรางวัลมาก่อนมารวบรวมไว้ให้ได้อ่านกันอย่างจุใจไม่ต้องกลัวจะทำให้ชีวิตเครียดไปกว่าเดิมเพราะว่านอกจากเรื่องราวที่ค่อนข้างบาดลึกกับความรู้สึกแล้ว คำพูดเพื่อสร้างกำลังใจหรือเรื่องราวที่จะทำให้คุณนั้นอมยิ้มไปกับความหมายดีๆของคำว่ารักที่ขนกันมาไม่น้อยหน้ากันเลยแน่นอนค่ะ จากที่ได้เห็นหนังสือเรื่องนี้ครั้งแรกตอนแรกก็ไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่เพราะว่ากลัวจะเป็นเกี่ยวกับกลอนรักหวานๆเลี่ยนหรือกลอนประชดหักสวาทจิตใจต่างๆนานาที่มีอยู่เกลื่อนมากมายตามโซเชียลหรือแม้แต่หนังสือวัยรุ่นต่างๆแต่พอลองเปิดอ่านเนื้อหาและชื่อผู้แต่งดูก่อน(ที่จะซื้อ555+) ก็ทำให้เริ่มมีความรู้สึกว่าสนใจขึ้นมาเพราะเชื่อว่าผลงานต่างๆของนักเขียนที่ล้วนแล้วแต่ผ่านรางวัลมามากมายมันจะต้องมีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าเรื่องราวพวกนี้มันคงดีจริงๆไม่งั้นคงจะไม่รับเลือกให้รับรางวัลต่างๆมาหรอก และนี้ก็เป็นเหตุผลเพียงข้อเดียวสั้นๆที่ทำให้เลือกหนังสือเล่มนี้กลับมาด้วยแค่นั้นจริงๆ พอกลับมาก็เลยอยากที่จะลองอ่านดูเพราะว่างแล้ว ก็ทำให้เห็นถึงการนำเสนอเนื้อหาที่ค่อนข้างอ่านแล้วสบายตานะ ไม่เยอะ และก็ไม่น้อยจนเกินไป ที่แน่ๆแค่ซื้อก็ได้อะไรเกินคุ้มแล้ว รวมเรื่องราวของนักเขียนชื่อดังไว้ตั้งหลายคนเชียวนะ (ยังคิดอยู่แค่นั้นจริงๆ55+) เมื่อได้ลองอ่านอย่างจริงจังก็ทำให้เข้าใจว่าทำไมเรื่องราวต่างๆหรือคำพูด ประโยค หรือแม้แต่คำกลอนก็ตาม มันมีเสน่ห์และให้อารมณ์ที่ทำให้ผู้อ่านนั้นต้องเคลิบเคลิ้มตามไปกันเรื่องราวในหนังสือและยังได้แง่คิดและกำลังใจดีๆเกี่ยวกับเรื่องของความรักที่ต่างมุมมองต่างความคิดเห็นกันออกไป แต่สุดท้ายท้ายสุดของเรื่องราว คือการสอน ในการรู้จักคิดและแยกแยะเรื่องราวความรักให้ออกจากอารมณ์และเหตุผลออกจากกัน ถ้าทำได้เราก็จะมีความรักอยู่กับเราทุกที่และเสมอโดยที่ไม่ต้องไปแคร์ว่าจะได้คบหรือไม่ได้คบกันก้ตาม ขอเพียงหัวใจเรารู้ว่ารักเพราะอะไร เพียงเท่านี้ไม่ว่าต่อไปคุณจะต้องเจอกับอีกกี่เรื่องราวที่เข้ามาทำให้หวั่นไหว คุณก็จะยังคงมีรักที่เก็บไว้ในหัวใจของคุณอยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง..

ง่ายที่จะรัก ยากที่จะลืม เป็นอีกหนึ่งหนังสือที่รวบรวมบทกลอน ประโยคเด็ดโดนใจ รวมถึงคำคมบาดลึก มาไว้ในเล่มเดียวกันเพื่อให้นักอ่านทุกท่านได้เพลิดเพลินไปกับหลากหลายเรื่องราวและมุมมองความรักที่สามารถรังสรรค์ให้กับชีวิตของเรานั้นต้องพบเจอกับอารมร์ความรู้สึกที่หลากหลาย โดยเรื่องราวต่างๆเป็นการนำผลงานของนักเขียนหลายๆท่านที่เคยได้รับรางวัลมาก่อนมารวบรวมไว้ให้ได้อ่านกันอย่างจุใจไม่ต้องกลัวจะทำให้ชีวิตเครียดไปกว่าเดิมเพราะว่านอกจากเรื่องราวที่ค่อนข้างบาดลึกกับความรู้สึกแล้ว คำพูดเพื่อสร้างกำลังใจหรือเรื่องราวที่จะทำให้คุณนั้นอมยิ้มไปกับความหมายดีๆของคำว่ารักที่ขนกันมาไม่น้อยหน้ากันเลยแน่นอนค่ะ จากที่ได้เห็นหนังสือเรื่องนี้ครั้งแรกตอนแรกก็ไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่เพราะว่ากลัวจะเป็นเกี่ยวกับกลอนรักหวานๆเลี่ยนหรือกลอนประชดหักสวาทจิตใจต่างๆนานาที่มีอยู่เกลื่อนมากมายตามโซเชียลหรือแม้แต่หนังสือวัยรุ่นต่างๆแต่พอลองเปิดอ่านเนื้อหาและชื่อผู้แต่งดูก่อน(ที่จะซื้อ555+) ก็ทำให้เริ่มมีความรู้สึกว่าสนใจขึ้นมาเพราะเชื่อว่าผลงานต่างๆของนักเขียนที่ล้วนแล้วแต่ผ่านรางวัลมามากมายมันจะต้องมีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าเรื่องราวพวกนี้มันคงดีจริงๆไม่งั้นคงจะไม่รับเลือกให้รับรางวัลต่างๆมาหรอก และนี้ก็เป็นเหตุผลเพียงข้อเดียวสั้นๆที่ทำให้เลือกหนังสือเล่มนี้กลับมาด้วยแค่นั้นจริงๆ พอกลับมาก็เลยอยากที่จะลองอ่านดูเพราะว่างแล้ว ก็ทำให้เห็นถึงการนำเสนอเนื้อหาที่ค่อนข้างอ่านแล้วสบายตานะ ไม่เยอะ และก็ไม่น้อยจนเกินไป ที่แน่ๆแค่ซื้อก็ได้อะไรเกินคุ้มแล้ว รวมเรื่องราวของนักเขียนชื่อดังไว้ตั้งหลายคนเชียวนะ (ยังคิดอยู่แค่นั้นจริงๆ55+) เมื่อได้ลองอ่านอย่างจริงจังก็ทำให้เข้าใจว่าทำไมเรื่องราวต่างๆหรือคำพูด ประโยค หรือแม้แต่คำกลอนก็ตาม มันมีเสน่ห์และให้อารมณ์ที่ทำให้ผู้อ่านนั้นต้องเคลิบเคลิ้มตามไปกันเรื่องราวในหนังสือและยังได้แง่คิดและกำลังใจดีๆเกี่ยวกับเรื่องของความรักที่ต่างมุมมองต่างความคิดเห็นกันออกไป แต่สุดท้ายท้ายสุดของเรื่องราว คือการสอน ในการรู้จักคิดและแยกแยะเรื่องราวความรักให้ออกจากอารมณ์และเหตุผลออกจากกัน ถ้าทำได้เราก็จะมีความรักอยู่กับเราทุกที่และเสมอโดยที่ไม่ต้องไปแคร์ว่าจะได้คบหรือไม่ได้คบกันก้ตาม ขอเพียงหัวใจเรารู้ว่ารักเพราะอะไร เพียงเท่านี้ไม่ว่าต่อไปคุณจะต้องเจอกับอีกกี่เรื่องราวที่เข้ามาทำให้หวั่นไหว คุณก็จะยังคงมีรักที่เก็บไว้ในหัวใจของคุณอยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง..

คิดจะรัก อกหักเป็นเรื่องจิ๊บๆ เป็นอีกหนึ่งของหนังสือที่จะทำให้ทุกคนที่มีหัวใจไว้เพื่อรักนั้นได้เข้าใจและเรียนรู้เรื่องราวของความรัก อยู่กับความรักที่ผ่านพ้นไปได้โดยที่ไม่ทำให้ตัวเองนั้นต้องเศร้าอีกต่อไป และยิ้มหรือหัวเราะให้กับเรื่องราวที่เคยผ่านมาเมื่อกลับไปนึกถึงมันอีกครั้งก็ตาม เรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดออกมาในมุมมองที่เป็นกันเองและเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวของทุกคนจึงทำให้อ่านง่ายและสนุกไปกับรูปแบบการนำเสนอที่บ่งบอกความเป็นสไตล์ของตัวนักเขียนเอง เลยมีภาษาที่อ่านดูแล้วอาจจะเห้ยเข้าใจความรู้สึกขอกเราดีอ่ะ มันใช่อะไรแบบนี้เลย และที่ได้หนังสือเล่มนี้มาอ่านนั้นก็เป็นเพราะชื่นชอบในการนำเสนอชื่อของหนังสือเพราะอ่านดูแล้วอ่าข้างในมันต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดาเป็นอย่างแน่และมันก็เป็นอย่างที่ดิฉันรู้สึกนะเพราะว่าเนื้อหาภายในเค้าแบ่งนำเสนอเป็นบทๆไปทำให้เราอ่านง่ายและได้แง่คิดดีๆในการนำไปปรับใช้กับตัวเองหรือนำไปเป็นข้อเตือนใจและเตือนสติของคนที่เรารักหรือเป็นห่วงก็ยังได้เลย โดยในหนังสือเล่มนี้จะค่อยๆนำทุกคนเข้าไปสู่เรื่องราวของความรักที่ทุกคนนั้นต้องเคยพยายามที่จะเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นความหมายหรือนิยามขยายความรู้สึกของคำว่ารักที่มีมากมายหลายนิยามและในแต่ละคนก็นำไปใช้ต่างนิยามกันด้วย และการรู้จักที่จะใช้ชีวิตให้มีความสุขเมื่อมีรัก และไม่ว่าความรักในครั้งนั้นจะสมหวังหรือไม่ก็ตาม เราต้องรู้จักที่จะปรับตัวให้เข้ากับสภาพในปัจจุบันของความรักไม่ว่าจะเศร้าหรือเหงาเพราะรักที่เคยมีนั้นแม้ว่าตอนนี้มันไม่อยู่เราก็ต้องเข้าใจและเรียนรู้ที่จะอยู่กับความรู้สึกนั้นและก้าวผ่านมันมาด้วยสองขาของเราเอง แล้วจะทำให้คุณได้เจอวันที่สดใสรอเราอยู่ข้างหน้าอย่างแน่นอน อีกหนึ่งของกำลังใจเล็กๆที่อยากจะส่งต่อให้เพื่อนได้อ่านเพื่อที่จะสร้างกำลังใจให้กับตัวเองให้พร้อมที่จะต่อสู้กับเรื่องราวที่มันทำให้ชีวิตนั้นต้องพบเจอกับเรื่องราวที่ทำให้เรานั้นต้องหยุดที่จะก้าวเดินหรือแม้แต่มาเป็นอุปสรรคให้กับเราไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอย่างที่เราหวังไว้ก็ตาม เมื่อเราได้เรียนรู้แล้วว่าความรักนั้นคืออะไร ต่อไปเราจะเข้าใจว่าทำไมถึงต้องเป้นเราที่ต้องมีปัญหา เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาถูกสร้างมาเพื่อพิสูจน์ความอดทนและความเข้มแข็งที่เรามีว่ามากน้อยเพียงไหนและจะสามารถผ่านเรื่องราวร้ายๆไปได้หรือเปล่าก็แค่นั้นเอง...

คิดจะรัก อกหักเป็นเรื่องจิ๊บๆ เป็นอีกหนึ่งของหนังสือที่จะทำให้ทุกคนที่มีหัวใจไว้เพื่อรักนั้นได้เข้าใจและเรียนรู้เรื่องราวของความรัก อยู่กับความรักที่ผ่านพ้นไปได้โดยที่ไม่ทำให้ตัวเองนั้นต้องเศร้าอีกต่อไป และยิ้มหรือหัวเราะให้กับเรื่องราวที่เคยผ่านมาเมื่อกลับไปนึกถึงมันอีกครั้งก็ตาม เรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดออกมาในมุมมองที่เป็นกันเองและเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวของทุกคนจึงทำให้อ่านง่ายและสนุกไปกับรูปแบบการนำเสนอที่บ่งบอกความเป็นสไตล์ของตัวนักเขียนเอง เลยมีภาษาที่อ่านดูแล้วอาจจะเห้ยเข้าใจความรู้สึกขอกเราดีอ่ะ มันใช่อะไรแบบนี้เลย และที่ได้หนังสือเล่มนี้มาอ่านนั้นก็เป็นเพราะชื่นชอบในการนำเสนอชื่อของหนังสือเพราะอ่านดูแล้วอ่าข้างในมันต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดาเป็นอย่างแน่และมันก็เป็นอย่างที่ดิฉันรู้สึกนะเพราะว่าเนื้อหาภายในเค้าแบ่งนำเสนอเป็นบทๆไปทำให้เราอ่านง่ายและได้แง่คิดดีๆในการนำไปปรับใช้กับตัวเองหรือนำไปเป็นข้อเตือนใจและเตือนสติของคนที่เรารักหรือเป็นห่วงก็ยังได้เลย โดยในหนังสือเล่มนี้จะค่อยๆนำทุกคนเข้าไปสู่เรื่องราวของความรักที่ทุกคนนั้นต้องเคยพยายามที่จะเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นความหมายหรือนิยามขยายความรู้สึกของคำว่ารักที่มีมากมายหลายนิยามและในแต่ละคนก็นำไปใช้ต่างนิยามกันด้วย และการรู้จักที่จะใช้ชีวิตให้มีความสุขเมื่อมีรัก และไม่ว่าความรักในครั้งนั้นจะสมหวังหรือไม่ก็ตาม เราต้องรู้จักที่จะปรับตัวให้เข้ากับสภาพในปัจจุบันของความรักไม่ว่าจะเศร้าหรือเหงาเพราะรักที่เคยมีนั้นแม้ว่าตอนนี้มันไม่อยู่เราก็ต้องเข้าใจและเรียนรู้ที่จะอยู่กับความรู้สึกนั้นและก้าวผ่านมันมาด้วยสองขาของเราเอง แล้วจะทำให้คุณได้เจอวันที่สดใสรอเราอยู่ข้างหน้าอย่างแน่นอน อีกหนึ่งของกำลังใจเล็กๆที่อยากจะส่งต่อให้เพื่อนได้อ่านเพื่อที่จะสร้างกำลังใจให้กับตัวเองให้พร้อมที่จะต่อสู้กับเรื่องราวที่มันทำให้ชีวิตนั้นต้องพบเจอกับเรื่องราวที่ทำให้เรานั้นต้องหยุดที่จะก้าวเดินหรือแม้แต่มาเป็นอุปสรรคให้กับเราไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอย่างที่เราหวังไว้ก็ตาม เมื่อเราได้เรียนรู้แล้วว่าความรักนั้นคืออะไร ต่อไปเราจะเข้าใจว่าทำไมถึงต้องเป้นเราที่ต้องมีปัญหา เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาถูกสร้างมาเพื่อพิสูจน์ความอดทนและความเข้มแข็งที่เรามีว่ามากน้อยเพียงไหนและจะสามารถผ่านเรื่องราวร้ายๆไปได้หรือเปล่าก็แค่นั้นเอง...

ความรัก 3 บรรทัด เป็นหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวความรักในหลายๆรูปแบบที่ถ่ายทอดสู่สายตาทุกคนด้วยตัวอักษรที่ร้อยเรียงเรื่องราวและมีเนื้อหาแค่เพียงสามบรรทัดเท่านั้น ไม่ว่าจะกลอน คำคม คำภาษิตที่ถูกรังสรรค์มาจากนักกวีและนักปราชญ์ซึ่งล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงและมีผลงานเป็นที่ยอมรับและประจักษ์แก่สายตาของทุกคนมาอย่างมากมายหลายผลงานแล้ว โดยภายในหนังสือจะมีการทำภาพประกอบน่ารักไว้ให้นักอ่านทุกท่านได้เพลิดเพลินไปกับความน่ารักสดใส และจะทำให้คุณได้ยิ้มไปกับเรื่องราวความรักบางเรื่องราวที่มันดันตรงกับชีวิตของคุณอยู่หรือว่าเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาเหมือนกัน โดยส่วนตัวดิฉันเป็นคนชอบอ่านหนังสือหลายประเภทนะ แต่หนังสือที่นำเสนอเรื่องราวความรักในรูปแบบที่จัดมาแค่อย่างละสามบรรทัดอย่างนี้ยังไม่เคยได้อ่านมาก่อน พอได้อ่านแล้วก็รู้สึกว่า มันสร้างสรรค์มากเลยนะ แปลกใหม่และเข้าถึงอารมณ์ของผู้อ่านได้มากกว่าอ่านเป็นเรื่องยาวๆอีกนะดิฉันรู้สึกและไหนถึงจะมาในรูปแบบกลอนก็ไม่ได้ทำให้เข้าใจยากขึ้นเลยแถมยังทำให้ดูน่ารักและไม่เหมือนใครดีด้วย ก็เหมาะนะสำหรับคนที่ชอบวิธีการคิดและรูปแบบการนำเสนอที่ไม่เหมือนใครแต่บาดใจเข้าถึงอารมณ์ได้ดีไม่แพ้กันเลย เชื่อเถอะว่าหลายๆคนคงเคยที่จะคิดคำคมหรือคำพูดอะไรก็ตามแต่ที่จะทำให้คนอื่นอ่านแล้วเข้าใจความรู้ของเราได้ทันทีโดยที่เราไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มให้วุ่นวาย โดยส่วนตัวนะเวลาที่มีปัญหาในเรื่องของความรักก็อยากที่จะระบายความรู้สึกออกไปเพื่อให้รู้สึกว่าเออเหมือนจะมีคนฟัง แต่มักจะเลือกใช้สำนวนหรือคำที่เหมือนจะเป็นเพื่อสื่อความหมายออกไปมากกว่าเพราะไม่อยากที่จะเอ่ยออกไปตรงๆอยากให้คนที่อ่านได้คิดและทบทวนประโยคกันเอาเองแล้วแต่ว่าใครจะเข้าใจความหมายว่าอย่างไร ถึงแม้ว่าบางครั้งอาจจะมีคำพูดที่อยากพูดเยอะแยะมากมายก็ตาม แต่ดิฉันคิดว่าถ้าเราหาคำพูดสั้นๆที่สามารถอธิบายเรื่องราวได้ดีกว่ามันคงไม่ทำให้เราทั้งคู่ต้องเหนื่อยสำหรับการมานั่งอธิบายเหตุผลยาวๆให้เสียเวลาและความรู้สึกดีกว่านะ สำหรับเพื่อนๆล่ะคิดยังไง อ่านแล้วอย่าลืมนำมาบอกเล่ากันด้วยน้า..เพราะดิฉันเชื่อว่าทุกคนล้วนมีความคิดแล้วความรู้สึกที่ไม่เหมือนกันบางทีอาจจะเคยตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันมาก่อนแต่กลับมองและมีความคิดเห็นในเรื่องเดียวกันที่แตกต่างกันออกไปก็เป็นได้ ยังไงก็หวังว่าหนังสือที่นำมาฝากเพื่อนๆในวันนี้จะสามารถช่วยให้เพื่อนๆได้เพลิดเพลินและมีความสุขในทุกครั้งที่ได้หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านอีกครั้งค่ะ...

ความรัก 3 บรรทัด เป็นหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวความรักในหลายๆรูปแบบที่ถ่ายทอดสู่สายตาทุกคนด้วยตัวอักษรที่ร้อยเรียงเรื่องราวและมีเนื้อหาแค่เพียงสามบรรทัดเท่านั้น ไม่ว่าจะกลอน คำคม คำภาษิตที่ถูกรังสรรค์มาจากนักกวีและนักปราชญ์ซึ่งล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงและมีผลงานเป็นที่ยอมรับและประจักษ์แก่สายตาของทุกคนมาอย่างมากมายหลายผลงานแล้ว โดยภายในหนังสือจะมีการทำภาพประกอบน่ารักไว้ให้นักอ่านทุกท่านได้เพลิดเพลินไปกับความน่ารักสดใส และจะทำให้คุณได้ยิ้มไปกับเรื่องราวความรักบางเรื่องราวที่มันดันตรงกับชีวิตของคุณอยู่หรือว่าเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาเหมือนกัน โดยส่วนตัวดิฉันเป็นคนชอบอ่านหนังสือหลายประเภทนะ แต่หนังสือที่นำเสนอเรื่องราวความรักในรูปแบบที่จัดมาแค่อย่างละสามบรรทัดอย่างนี้ยังไม่เคยได้อ่านมาก่อน พอได้อ่านแล้วก็รู้สึกว่า มันสร้างสรรค์มากเลยนะ แปลกใหม่และเข้าถึงอารมณ์ของผู้อ่านได้มากกว่าอ่านเป็นเรื่องยาวๆอีกนะดิฉันรู้สึกและไหนถึงจะมาในรูปแบบกลอนก็ไม่ได้ทำให้เข้าใจยากขึ้นเลยแถมยังทำให้ดูน่ารักและไม่เหมือนใครดีด้วย ก็เหมาะนะสำหรับคนที่ชอบวิธีการคิดและรูปแบบการนำเสนอที่ไม่เหมือนใครแต่บาดใจเข้าถึงอารมณ์ได้ดีไม่แพ้กันเลย เชื่อเถอะว่าหลายๆคนคงเคยที่จะคิดคำคมหรือคำพูดอะไรก็ตามแต่ที่จะทำให้คนอื่นอ่านแล้วเข้าใจความรู้ของเราได้ทันทีโดยที่เราไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มให้วุ่นวาย โดยส่วนตัวนะเวลาที่มีปัญหาในเรื่องของความรักก็อยากที่จะระบายความรู้สึกออกไปเพื่อให้รู้สึกว่าเออเหมือนจะมีคนฟัง แต่มักจะเลือกใช้สำนวนหรือคำที่เหมือนจะเป็นเพื่อสื่อความหมายออกไปมากกว่าเพราะไม่อยากที่จะเอ่ยออกไปตรงๆอยากให้คนที่อ่านได้คิดและทบทวนประโยคกันเอาเองแล้วแต่ว่าใครจะเข้าใจความหมายว่าอย่างไร ถึงแม้ว่าบางครั้งอาจจะมีคำพูดที่อยากพูดเยอะแยะมากมายก็ตาม แต่ดิฉันคิดว่าถ้าเราหาคำพูดสั้นๆที่สามารถอธิบายเรื่องราวได้ดีกว่ามันคงไม่ทำให้เราทั้งคู่ต้องเหนื่อยสำหรับการมานั่งอธิบายเหตุผลยาวๆให้เสียเวลาและความรู้สึกดีกว่านะ สำหรับเพื่อนๆล่ะคิดยังไง อ่านแล้วอย่าลืมนำมาบอกเล่ากันด้วยน้า..เพราะดิฉันเชื่อว่าทุกคนล้วนมีความคิดแล้วความรู้สึกที่ไม่เหมือนกันบางทีอาจจะเคยตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันมาก่อนแต่กลับมองและมีความคิดเห็นในเรื่องเดียวกันที่แตกต่างกันออกไปก็เป็นได้ ยังไงก็หวังว่าหนังสือที่นำมาฝากเพื่อนๆในวันนี้จะสามารถช่วยให้เพื่อนๆได้เพลิดเพลินและมีความสุขในทุกครั้งที่ได้หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านอีกครั้งค่ะ...

ของขวัญแห่งความสุข เป็นหนังสือที่ได้รับมาเป็นของขวัญจากพี่ที่รู้จักคนหนึ่งแต่เค้าให้มานานแล้วล่ะไม่ได้เปิดอ่านสักที วันนี้ว่างเลยขอหยิบมาอ่านและรีวิวให้กับเพื่อนๆทุกคนได้อ่านกันดีกว่า และสำหรับหนังสือเล่มนี้ก็เป็นหนังสือเกี่ยวกับธรรมะที่สอนให้เรารู้จักที่จะคิด และปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์ให้ได้ และอีกหลายเรื่องราวดีๆที่จะทำให้ชีวิตของเรานั้นดำเนินไปได้อย่างมีความสงบสุข โดยเค้าได้เปรียบการที่ได้รับความสุขเป็นเสมอของขวัญที่ล่ำค่าที่ตัวของเราเองสามารถมอบให้แก่ชีวิตของตัวเราเองได้ โดยเนื้อหาก็จะเป็นคำสอนที่เน้นให้เรารู้จักปัญหาและวิธีการดับปัญหา โดยใช้สำนวนภาษาที่อ่านได้ง่าย เข้าใจและเข้าถึงความหมายได้ไม่ยากเลย ไม่ว่าใครๆก็สามารถอ่านได้ ทั้งเด็กหรือผู้ใหญ่ เพราะทุกชีวิตจะต้องมีเรื่องราวเข้ามาให้เรานั้นเรียนรู้และพร้อมจะแก้ไขเพื่อก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้าอยู่เสนอ แต่มันคงจะดีกว่าถ้าเรามีสิ่งที่เป็นเสมือนเครื่องเตือนใจหรือแสงทางสว่างให้เราขณะที่เรานั้นกำลังเดินทางไปสู่วันข้างหน้า ถึงแม้ว่าทุกชีวิตจะไม่ได้เจอหรือต้องพบกับเรื่องราวอย่างเดียวกันไปเสมอแต่น้อยๆเราจะได้รู้เท่าทันและรู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาที่มีเข้ามาจริงๆและจะได้ไม่ต้องหวาดวิตกไปต่างๆนานาว่าควรจะทำอย่างไรดี อะไรดีหรือไม่ดีบ้าง และใครจะช่วยฉันได้บ้าง ซึ่งแน่นอนว่าถ้าทุกคนได้อ่านหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณรู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรและจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆให้ออกไปจากชีวิตตัวเองได้อย่างไร ดิฉันเองคิดว่าบางครั้งมันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมอบความสุขในชีวิตให้กับตัวเองอยู่เสมอ เพราะทุกชีวิตที่เกิดมาล้วนแต่ต้องการที่จะมีความสุขความสบายใจ ไม่ต้องทุกข์กับเรื่องอะไรสักเรื่องอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไปสำหรับแค่ทำให้ตัวเองไม่ทุกข์ แค่เราเรียนรู้ว่าสิ่งไหนมันทำให้ทุกเราก็ออกห่างมันไว้ส่วนสิ่งไหนที่มอบความสุขให้แก่เราอยู่เสมอเราก็ควรที่จะเก็บรักษาและดูแลมันให้อยู่กับเราไปนานๆก็เท่านั้นเอง เห็นไหมค่ะ แค่หนังสือเล่มเล็กๆแต่สามารถให้ความคิดและทัศนะคติที่จะสร้างความสุขให้แก่ตัวเองได้มากขนาดไหน ดังนั้นถ้าไม่อยากเป็นทุกข์จงมาเริ่มเรียนรู้ที่จะหาวิธีมอบความสุขให้เป้นของขวัญที่สำคัญและมีค่าที่สุดให้กับตัวเองกันตั้งแต่วันนี้ไปพร้อมๆกันเถอะค่ะทุกๆคน ยังไงก็ขอฝากหนังสือดีๆที่ควรหามาอ่านหรือจะซื้อให้เป็นของขวัญให้กับคนที่คุณรักก็ดีเพราะแค่นี้ก็ได้ทำความสุขให้เกิดขึ้นกับตัวเองแล้วว..

ของขวัญแห่งความสุข เป็นหนังสือที่ได้รับมาเป็นของขวัญจากพี่ที่รู้จักคนหนึ่งแต่เค้าให้มานานแล้วล่ะไม่ได้เปิดอ่านสักที วันนี้ว่างเลยขอหยิบมาอ่านและรีวิวให้กับเพื่อนๆทุกคนได้อ่านกันดีกว่า และสำหรับหนังสือเล่มนี้ก็เป็นหนังสือเกี่ยวกับธรรมะที่สอนให้เรารู้จักที่จะคิด และปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์ให้ได้ และอีกหลายเรื่องราวดีๆที่จะทำให้ชีวิตของเรานั้นดำเนินไปได้อย่างมีความสงบสุข โดยเค้าได้เปรียบการที่ได้รับความสุขเป็นเสมอของขวัญที่ล่ำค่าที่ตัวของเราเองสามารถมอบให้แก่ชีวิตของตัวเราเองได้ โดยเนื้อหาก็จะเป็นคำสอนที่เน้นให้เรารู้จักปัญหาและวิธีการดับปัญหา โดยใช้สำนวนภาษาที่อ่านได้ง่าย เข้าใจและเข้าถึงความหมายได้ไม่ยากเลย ไม่ว่าใครๆก็สามารถอ่านได้ ทั้งเด็กหรือผู้ใหญ่ เพราะทุกชีวิตจะต้องมีเรื่องราวเข้ามาให้เรานั้นเรียนรู้และพร้อมจะแก้ไขเพื่อก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้าอยู่เสนอ แต่มันคงจะดีกว่าถ้าเรามีสิ่งที่เป็นเสมือนเครื่องเตือนใจหรือแสงทางสว่างให้เราขณะที่เรานั้นกำลังเดินทางไปสู่วันข้างหน้า ถึงแม้ว่าทุกชีวิตจะไม่ได้เจอหรือต้องพบกับเรื่องราวอย่างเดียวกันไปเสมอแต่น้อยๆเราจะได้รู้เท่าทันและรู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาที่มีเข้ามาจริงๆและจะได้ไม่ต้องหวาดวิตกไปต่างๆนานาว่าควรจะทำอย่างไรดี อะไรดีหรือไม่ดีบ้าง และใครจะช่วยฉันได้บ้าง ซึ่งแน่นอนว่าถ้าทุกคนได้อ่านหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณรู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรและจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆให้ออกไปจากชีวิตตัวเองได้อย่างไร ดิฉันเองคิดว่าบางครั้งมันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมอบความสุขในชีวิตให้กับตัวเองอยู่เสมอ เพราะทุกชีวิตที่เกิดมาล้วนแต่ต้องการที่จะมีความสุขความสบายใจ ไม่ต้องทุกข์กับเรื่องอะไรสักเรื่องอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไปสำหรับแค่ทำให้ตัวเองไม่ทุกข์ แค่เราเรียนรู้ว่าสิ่งไหนมันทำให้ทุกเราก็ออกห่างมันไว้ส่วนสิ่งไหนที่มอบความสุขให้แก่เราอยู่เสมอเราก็ควรที่จะเก็บรักษาและดูแลมันให้อยู่กับเราไปนานๆก็เท่านั้นเอง เห็นไหมค่ะ แค่หนังสือเล่มเล็กๆแต่สามารถให้ความคิดและทัศนะคติที่จะสร้างความสุขให้แก่ตัวเองได้มากขนาดไหน ดังนั้นถ้าไม่อยากเป็นทุกข์จงมาเริ่มเรียนรู้ที่จะหาวิธีมอบความสุขให้เป้นของขวัญที่สำคัญและมีค่าที่สุดให้กับตัวเองกันตั้งแต่วันนี้ไปพร้อมๆกันเถอะค่ะทุกๆคน ยังไงก็ขอฝากหนังสือดีๆที่ควรหามาอ่านหรือจะซื้อให้เป็นของขวัญให้กับคนที่คุณรักก็ดีเพราะแค่นี้ก็ได้ทำความสุขให้เกิดขึ้นกับตัวเองแล้วว..

กอดแน่นแค่ไหน...ถึงเวลาก็ต้องปล่อย เป็นการนำเรื่องผลงานเขียนของผู้ชายที่ใช้นามปากกาว่า หกสิงหา ที่ชื่นชอบและรักในการและถ่ายทอดความรู้สึกออกไป ผ่านทางโลกโซเชียล โดยที่เค้าได้มีการสร้างแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า กอดแน่นแค่ไหน ถึงเวลาก็ต้องปล่อย และได้นำแนวคิดหรือเรื่องราวที่เกี่ยวกับมุมของความรักอีกแง่มุมนึงออกมาให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความรักที่บางครั้งเราก็ต้องเลือกที่จะเข้าใจและปล่อยวางกับมัน โดยเรื่องราวที่เค้าถ่ายทอดลงนั้นได้มีแฟนคลับที่เข้าไปติดตามเรื่องราวของเพจนับแสนคน วันนี้เลยได้มีโอกาสออกผลงานเขียนเป็นเล่มแรกของเค้า ซึ่งก็ได้รวบรวมผลงานเขียนของเค้ามาลงไว้ในหนังสือเล่มนี้ที่จะสื่อให้ทุกคนเรียนรู้ความรักในอีกแง่มุมมองความคิด และนำไปปรับใช้กับเรื่องราวความรักของตนเองได้ และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้เข้มแข็งต่อไป..ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องของความรักนั้นแน่นอนยังไงก็ไม่มีวันพูดได้หมด เพราะว่าแท้จริงแล้วไม่ใครบนโลกที่จะเข้าใจในเรื่องราวของหัวใจได้ดีไปกว่าใคร ทุกชีวิตล้วนต้องใช้หัวใจในการนำทางให้กับความรักของตนเองด้วยกันกันทั้งนั้นและแน่นอนว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่จะสมหวังไปตลอดทุกคนล้วนต้องเคยเจอเรื่องราวความรักที่ทำให้ช้ำใจมาก่อนเพื่อจะเรียนรู้และรักให้เป็นกับความรักครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นหรือมีเข้ามาต่อไป อย่าเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ก็ได้นำเรื่องราวที่เป็นเรื่องของความรักที่อาจจะไม่ผิดหวังหรือจบลงด้วยชีวิตคู่ที่สวยหวานแต่จะมานำเสนอรูปแบบความรักที่รู้ว่ารักแต่บางครั้งก็รั้งให้เค้าอยู่กับเราไปได้ตลอด เพราะเค้าอาจให้แง่คิดในการดำรงชีวิตและไม่อยากให้ทุกคนนั้นยึดติดกับสิ่งที่เราไม่มีทางล่วงรู้ ว่าในอนาคตจะต้องเกิดอะไรขึ้นบ้าง ดังนั้นจึงถึงเวลาที่เราจะหันมาทำความเข้าใจกับความรักเสียใหม่และเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้อย่างเข้มแข็งในวันที่ไม่มีคนรักอยู่เคียงข้างก็ตาม หนังสือเล่มนี้ถือว่าเป็นหนังสือที่ทำให้เราได้แง่คิดและรู้สึกถึงวิธีแห่งการพบความสุขที่จริงของชีวิตว่าถ้าเราไม่อยากทุกเพราะรักก็จงรู้จักที่จะรักให้เป็นและก็ต้องปล่อยให้เป็นอีกด้วย ดังนั้นดิฉันจึงอยากที่จะแนะนำหนังสือดีๆแบบนี้ให้กับทุกคนได้อ่านเชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกๆคนได้อย่างแน่นอน..เมื่อรักเป็นก็ต้องหยุดรักให้เป็น...

กอดแน่นแค่ไหน...ถึงเวลาก็ต้องปล่อย เป็นการนำเรื่องผลงานเขียนของผู้ชายที่ใช้นามปากกาว่า หกสิงหา ที่ชื่นชอบและรักในการและถ่ายทอดความรู้สึกออกไป ผ่านทางโลกโซเชียล โดยที่เค้าได้มีการสร้างแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า กอดแน่นแค่ไหน ถึงเวลาก็ต้องปล่อย และได้นำแนวคิดหรือเรื่องราวที่เกี่ยวกับมุมของความรักอีกแง่มุมนึงออกมาให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความรักที่บางครั้งเราก็ต้องเลือกที่จะเข้าใจและปล่อยวางกับมัน โดยเรื่องราวที่เค้าถ่ายทอดลงนั้นได้มีแฟนคลับที่เข้าไปติดตามเรื่องราวของเพจนับแสนคน วันนี้เลยได้มีโอกาสออกผลงานเขียนเป็นเล่มแรกของเค้า ซึ่งก็ได้รวบรวมผลงานเขียนของเค้ามาลงไว้ในหนังสือเล่มนี้ที่จะสื่อให้ทุกคนเรียนรู้ความรักในอีกแง่มุมมองความคิด และนำไปปรับใช้กับเรื่องราวความรักของตนเองได้ และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้เข้มแข็งต่อไป..ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องของความรักนั้นแน่นอนยังไงก็ไม่มีวันพูดได้หมด เพราะว่าแท้จริงแล้วไม่ใครบนโลกที่จะเข้าใจในเรื่องราวของหัวใจได้ดีไปกว่าใคร ทุกชีวิตล้วนต้องใช้หัวใจในการนำทางให้กับความรักของตนเองด้วยกันกันทั้งนั้นและแน่นอนว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่จะสมหวังไปตลอดทุกคนล้วนต้องเคยเจอเรื่องราวความรักที่ทำให้ช้ำใจมาก่อนเพื่อจะเรียนรู้และรักให้เป็นกับความรักครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นหรือมีเข้ามาต่อไป อย่าเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ก็ได้นำเรื่องราวที่เป็นเรื่องของความรักที่อาจจะไม่ผิดหวังหรือจบลงด้วยชีวิตคู่ที่สวยหวานแต่จะมานำเสนอรูปแบบความรักที่รู้ว่ารักแต่บางครั้งก็รั้งให้เค้าอยู่กับเราไปได้ตลอด เพราะเค้าอาจให้แง่คิดในการดำรงชีวิตและไม่อยากให้ทุกคนนั้นยึดติดกับสิ่งที่เราไม่มีทางล่วงรู้ ว่าในอนาคตจะต้องเกิดอะไรขึ้นบ้าง ดังนั้นจึงถึงเวลาที่เราจะหันมาทำความเข้าใจกับความรักเสียใหม่และเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้อย่างเข้มแข็งในวันที่ไม่มีคนรักอยู่เคียงข้างก็ตาม หนังสือเล่มนี้ถือว่าเป็นหนังสือที่ทำให้เราได้แง่คิดและรู้สึกถึงวิธีแห่งการพบความสุขที่จริงของชีวิตว่าถ้าเราไม่อยากทุกเพราะรักก็จงรู้จักที่จะรักให้เป็นและก็ต้องปล่อยให้เป็นอีกด้วย ดังนั้นดิฉันจึงอยากที่จะแนะนำหนังสือดีๆแบบนี้ให้กับทุกคนได้อ่านเชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกๆคนได้อย่างแน่นอน..เมื่อรักเป็นก็ต้องหยุดรักให้เป็น...

ความสุขของชีวิตคู่ เกิดจากความรักและความเข้าใจ เป็นหนังสือดีๆที่เหมาะกับเพื่อนๆทุกคนที่กำลังมีความรักหรือบางคู่กำลังตกลงที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน ดังนั้นดิฉันจึงอยากนำหนังสือที่จะทำให้คนที่มีรักทุกคนนั้นเรียนรู้และเข้าถึงการที่จะประคับประคองชีวิตของตัวเองให้ไปอย่างยาวนานเรื่องราวในหนังสือนั้นถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียดและใช้ภาษาที่อ่านได้ง่ายๆไม่มีคำศัพท์ทางวิชาการอะไรทั้งนั้น มีแต่ความจริงใจและหวังดีที่จะรอให้คุณมารับฟังเท่านั้นเอง แต่ก่อนที่จะไปถึงเรื่องนั้นๆขอเพียงให้คุณท่านเปิดใจที่จะยอมรับฟังความคิดเห็นและคำเสนอแนะจากบุคคลรอบข้างตัวเองเสียก่อนว่าเค้าคิดอย่างไรกับความรักของเราในครั้งนี้ และถ้ามีคนมาพูดถึงคนที่เรารักในแง่ที่ไม่มีให้เราฟังแน่นอนเลยอันดับแรกฟังหูไว้หูเพราะไม่มีใครจะรู้จักเรื่องราวและความคิดของคนอื่นได้ดีไปกว่าเจ้าตัวเค้าหรอก เมื่อฟังแล้วก็ไม่ใช่แกล้งว่าไม่ได้ยินหรือไม่สนใจฉันรักของฉันนี้ใครจะทำไม อันนี้ก็เป็นความคิดที่ผิดนะเพราะว่านั้นยิ่งเป็นการปิดกั้นตนเองออกจากความเป็นจริงและความหวังดีจากผู้อื่น เมื่อฟังหูไว้หูแล้วคิดแล้วก็ให้ใช้ความคิดถึงความน่าจะเป็นของเรื่องราวแต่ถ้าไม่แน่ใจก็ให้เปิดปากและเปิดใจพูดกับคนรักของเราไปตรงๆเลยจะดีกว่ามานั่งเดาและคิดไปเองต่างๆนานาเพราะมีแต่จะทำให้ตัวเราเองนั้นแหละเป็นทุกข์ และถ้าคู่รักคู่ไหนตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้วแน่นอนสิ่งที่เกิดขึ้นตามมานั้นคือการปรับตัวเข้าหากัน เพราะผู้ชายและผู้หญิงมีกิจวัตรประจำวันที่ไม่เหมือนกันอย่างแน่นอนดังนั้นจึงควรคุยและทำความเข้าใจหรือตกลงกันให้ดีก่อนตั้งแต่ที่จะย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันแล้ว เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอาการฉันเป็นแบบนี้มานานแล้วไม่ใช่เพิ่งมาเป็นหรือผมไม่ได้เปลี่ยนไปนะนี้ล่ะชีวิตของผม อะไรพวกนี้เพียงคิดก็ทำให้ชีวิตคู่ไม่มีความสุขแล้วใช่ไหมล่ะค่ะ ดังนั้นคู่รักทุกคู่จึงต้องมีการที่จะเรียนรู้นิสัยใจคอของกันและกันให้อย่างถ่องแท้และเปิดใจพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา และต้องยอมรับในความต่างของกันและกันให้ได้ เพราะว่าในโลกนี้มันไม่มีใครที่จะเกิดมาสมบูรณ์แบบและเป็นอย่างที่เราต้องการหรือหวังไว้ได้หรอก ถ้าเราตัดปัญหาพวกนี้ไปได้ตั้งแต่ต้นเชื่อเถอะค่ะว่าชีวิตคู่ของคุณจะมีแต่ความสงบและร่มเย็น อยู่เคียงข้างกันไปจนแก่เฒ่าอย่างแน่นอน เห็นไหมค่ะว่าสิ่งดีๆที่เราไม่รู้มันก็สามารถหามาอ่านได้ไม่ยากอยู่ที่คุณจะเลือกรับมันไหมเท่านั้นเอง ขอให้คู่รักทุกคู่มีแต่ความสุขความเข้าใจและมีกันและกันตลอดไปนะคะ...

ความสุขของชีวิตคู่ เกิดจากความรักและความเข้าใจ เป็นหนังสือดีๆที่เหมาะกับเพื่อนๆทุกคนที่กำลังมีความรักหรือบางคู่กำลังตกลงที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน ดังนั้นดิฉันจึงอยากนำหนังสือที่จะทำให้คนที่มีรักทุกคนนั้นเรียนรู้และเข้าถึงการที่จะประคับประคองชีวิตของตัวเองให้ไปอย่างยาวนานเรื่องราวในหนังสือนั้นถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียดและใช้ภาษาที่อ่านได้ง่ายๆไม่มีคำศัพท์ทางวิชาการอะไรทั้งนั้น มีแต่ความจริงใจและหวังดีที่จะรอให้คุณมารับฟังเท่านั้นเอง แต่ก่อนที่จะไปถึงเรื่องนั้นๆขอเพียงให้คุณท่านเปิดใจที่จะยอมรับฟังความคิดเห็นและคำเสนอแนะจากบุคคลรอบข้างตัวเองเสียก่อนว่าเค้าคิดอย่างไรกับความรักของเราในครั้งนี้ และถ้ามีคนมาพูดถึงคนที่เรารักในแง่ที่ไม่มีให้เราฟังแน่นอนเลยอันดับแรกฟังหูไว้หูเพราะไม่มีใครจะรู้จักเรื่องราวและความคิดของคนอื่นได้ดีไปกว่าเจ้าตัวเค้าหรอก เมื่อฟังแล้วก็ไม่ใช่แกล้งว่าไม่ได้ยินหรือไม่สนใจฉันรักของฉันนี้ใครจะทำไม อันนี้ก็เป็นความคิดที่ผิดนะเพราะว่านั้นยิ่งเป็นการปิดกั้นตนเองออกจากความเป็นจริงและความหวังดีจากผู้อื่น เมื่อฟังหูไว้หูแล้วคิดแล้วก็ให้ใช้ความคิดถึงความน่าจะเป็นของเรื่องราวแต่ถ้าไม่แน่ใจก็ให้เปิดปากและเปิดใจพูดกับคนรักของเราไปตรงๆเลยจะดีกว่ามานั่งเดาและคิดไปเองต่างๆนานาเพราะมีแต่จะทำให้ตัวเราเองนั้นแหละเป็นทุกข์ และถ้าคู่รักคู่ไหนตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้วแน่นอนสิ่งที่เกิดขึ้นตามมานั้นคือการปรับตัวเข้าหากัน เพราะผู้ชายและผู้หญิงมีกิจวัตรประจำวันที่ไม่เหมือนกันอย่างแน่นอนดังนั้นจึงควรคุยและทำความเข้าใจหรือตกลงกันให้ดีก่อนตั้งแต่ที่จะย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันแล้ว เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอาการฉันเป็นแบบนี้มานานแล้วไม่ใช่เพิ่งมาเป็นหรือผมไม่ได้เปลี่ยนไปนะนี้ล่ะชีวิตของผม อะไรพวกนี้เพียงคิดก็ทำให้ชีวิตคู่ไม่มีความสุขแล้วใช่ไหมล่ะค่ะ ดังนั้นคู่รักทุกคู่จึงต้องมีการที่จะเรียนรู้นิสัยใจคอของกันและกันให้อย่างถ่องแท้และเปิดใจพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา และต้องยอมรับในความต่างของกันและกันให้ได้ เพราะว่าในโลกนี้มันไม่มีใครที่จะเกิดมาสมบูรณ์แบบและเป็นอย่างที่เราต้องการหรือหวังไว้ได้หรอก ถ้าเราตัดปัญหาพวกนี้ไปได้ตั้งแต่ต้นเชื่อเถอะค่ะว่าชีวิตคู่ของคุณจะมีแต่ความสงบและร่มเย็น อยู่เคียงข้างกันไปจนแก่เฒ่าอย่างแน่นอน เห็นไหมค่ะว่าสิ่งดีๆที่เราไม่รู้มันก็สามารถหามาอ่านได้ไม่ยากอยู่ที่คุณจะเลือกรับมันไหมเท่านั้นเอง ขอให้คู่รักทุกคู่มีแต่ความสุขความเข้าใจและมีกันและกันตลอดไปนะคะ...

จดหมายรัก บอกเขาให้รู้ว่าเราคิดถึง เป็นหนังสือที่ฉันอยากที่จะแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จักและลองหามาอ่านกันดูเพราะว่าภายในหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมเรื่องราวความรักในหลายๆรูปแบบของเหล่านักเขียนหลายๆท่านที่จะทำให้คุณประทับใจและซาบซึ้งไปกับคำว่ารักที่เขียนถ่ายทอดผ่านทางการกระดาษแผ่นน้อยแล้วส่งไปหาคนที่รักหรือที่เค้าเรียกกันว่าจดหมายรัก ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วรู้สึกว่าแต่ละคนเค้าก็มีเรื่องราวความรักที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเรื่องราวของทุกคนนั้นจะมีเรื่องของการเขียนจดหมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยกันทั้งสิ้น เมื่อได้อ่านแล้วทำให้เห็นถึงความรู้สึกและอารมณ์ที่มีตอนที่เขียนบรรยายเรื่องราวความรู้สึกของตนเองผ่านทางจดหมายเพื่อที่จะส่งไปหาคนอีกฝั่งได้อ่านและซาบซึ้งไปกับความรู้สึกที่เค้าเหล่านั้นตั้งใจและพยายามที่จะถ่ายทอดความรู้สึกไปให้อีกคนได้รับรู้ และมีความสุขไปกับการได้อ่านจดหมายในแต่ละครั้ง เรื่องราวในเล่มนั้นสนุกและน่าประทับใจเป็นอย่างมากทำให้ได้แง่คิดในเรื่องของคนหนุ่มสาวสมัยนี้ที่มักจะรักง่ายหน่ายเร็วเพียงเพราะวิวัฒนาการการสื่อสารมันส่งถึงกันได้อย่างรวดเร็วผิดกับคนหนุ่มสาวสมัยก่อนที่กว่าจะรักกันได้ต้องใช้เวลาในการศึกษาดูใจเริ่มที่จะเรียนรู้กัน ดังนั้นการเขียนจดหมายจึงเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เค้าสามารถจีบกันหรือบอกรักกันได้ มันจึงทำให้ความรักของคนสมัยก่อนนั้นยั่งยืนและมั่นคงกว่าความรักฉาบฉวยของวัยรุ่นสมัยนี้ เพราะกว่าที่คนเราจะเขียนจดหมายถึงกันได้นั้นมันมันต้องผ่านการกลั่นกรองและคิดไตร่ตรองดีก่อนแล้วถึงจะสามารถผ่านมือและเขียนลงบนกระดาษได้แต่ละตัวมันจึงเป็นอะไรที่น่าประทับใจและชวนให้หลงใหลในความคลาสสิกของการเขียนจดหมาย โดยส่วนตัวของดิฉันเองก็เป็นวัยรุ่นคนนึงที่ชอบที่จะเขียนจดหมายมากกว่ากว่าการคุยผ่านออนไลน์เพราะว่าการที่เราจะเขียนอะไรลงไปบนกระดาษนั้นมันต้องคิดแล้วและต้องเป็นความรู้สึกที่ออกมาจากความรู้สึกจริงๆเท่านั้นถึงจะกล้าส่งไปหาคนที่ชอบได้ และพอได้มาอ่านหนังสือเล่มนี้ก็ทำให้ดิฉันนั้นฉุกคิดถึงเรื่องราวความหลังที่เคยใช้จดหมายเป็นสื่อในการบอกรักคนที่ชอบ เมื่อมานึกถึงทีไรก็นึกขำตัวเองทุกทีที่ทำอะไรแบบนั้นไปถามว่าอายมั้ยที่ยังเขียนจดหมายหากันบอกเลยว่าไม่อายแต่กลับรู้สึกว่าภูมิใจเสียด้วยซ้ำที่เราและเค้าต่างก็ตั้งมั่นที่จะรอเขียนจดหมายโต้ตอบกันไปมาเพราะดิฉันเชื่ออยู่อย่างนึงว่าบางคำการที่เราเขียนความรู้สึกลงบนกระดาษมันอาจจะสามารถอธิบายได้มากกว่าคำพูดที่ออกมาจากปากก็เป็นได้ค่ะ...

จดหมายรัก บอกเขาให้รู้ว่าเราคิดถึง เป็นหนังสือที่ฉันอยากที่จะแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จักและลองหามาอ่านกันดูเพราะว่าภายในหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมเรื่องราวความรักในหลายๆรูปแบบของเหล่านักเขียนหลายๆท่านที่จะทำให้คุณประทับใจและซาบซึ้งไปกับคำว่ารักที่เขียนถ่ายทอดผ่านทางการกระดาษแผ่นน้อยแล้วส่งไปหาคนที่รักหรือที่เค้าเรียกกันว่าจดหมายรัก ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วรู้สึกว่าแต่ละคนเค้าก็มีเรื่องราวความรักที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเรื่องราวของทุกคนนั้นจะมีเรื่องของการเขียนจดหมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยกันทั้งสิ้น เมื่อได้อ่านแล้วทำให้เห็นถึงความรู้สึกและอารมณ์ที่มีตอนที่เขียนบรรยายเรื่องราวความรู้สึกของตนเองผ่านทางจดหมายเพื่อที่จะส่งไปหาคนอีกฝั่งได้อ่านและซาบซึ้งไปกับความรู้สึกที่เค้าเหล่านั้นตั้งใจและพยายามที่จะถ่ายทอดความรู้สึกไปให้อีกคนได้รับรู้ และมีความสุขไปกับการได้อ่านจดหมายในแต่ละครั้ง เรื่องราวในเล่มนั้นสนุกและน่าประทับใจเป็นอย่างมากทำให้ได้แง่คิดในเรื่องของคนหนุ่มสาวสมัยนี้ที่มักจะรักง่ายหน่ายเร็วเพียงเพราะวิวัฒนาการการสื่อสารมันส่งถึงกันได้อย่างรวดเร็วผิดกับคนหนุ่มสาวสมัยก่อนที่กว่าจะรักกันได้ต้องใช้เวลาในการศึกษาดูใจเริ่มที่จะเรียนรู้กัน ดังนั้นการเขียนจดหมายจึงเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เค้าสามารถจีบกันหรือบอกรักกันได้ มันจึงทำให้ความรักของคนสมัยก่อนนั้นยั่งยืนและมั่นคงกว่าความรักฉาบฉวยของวัยรุ่นสมัยนี้ เพราะกว่าที่คนเราจะเขียนจดหมายถึงกันได้นั้นมันมันต้องผ่านการกลั่นกรองและคิดไตร่ตรองดีก่อนแล้วถึงจะสามารถผ่านมือและเขียนลงบนกระดาษได้แต่ละตัวมันจึงเป็นอะไรที่น่าประทับใจและชวนให้หลงใหลในความคลาสสิกของการเขียนจดหมาย โดยส่วนตัวของดิฉันเองก็เป็นวัยรุ่นคนนึงที่ชอบที่จะเขียนจดหมายมากกว่ากว่าการคุยผ่านออนไลน์เพราะว่าการที่เราจะเขียนอะไรลงไปบนกระดาษนั้นมันต้องคิดแล้วและต้องเป็นความรู้สึกที่ออกมาจากความรู้สึกจริงๆเท่านั้นถึงจะกล้าส่งไปหาคนที่ชอบได้ และพอได้มาอ่านหนังสือเล่มนี้ก็ทำให้ดิฉันนั้นฉุกคิดถึงเรื่องราวความหลังที่เคยใช้จดหมายเป็นสื่อในการบอกรักคนที่ชอบ เมื่อมานึกถึงทีไรก็นึกขำตัวเองทุกทีที่ทำอะไรแบบนั้นไปถามว่าอายมั้ยที่ยังเขียนจดหมายหากันบอกเลยว่าไม่อายแต่กลับรู้สึกว่าภูมิใจเสียด้วยซ้ำที่เราและเค้าต่างก็ตั้งมั่นที่จะรอเขียนจดหมายโต้ตอบกันไปมาเพราะดิฉันเชื่ออยู่อย่างนึงว่าบางคำการที่เราเขียนความรู้สึกลงบนกระดาษมันอาจจะสามารถอธิบายได้มากกว่าคำพูดที่ออกมาจากปากก็เป็นได้ค่ะ...

กล้ารัก กล้าเจ็บ เป็นหนังสือที่ได้รวบรวมแง่มุมมองในเรื่องของความรักมาจากหลายๆคนหลายเรื่องราวที่มาในรูปแบบหนังสือเล่มเล็กที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก และข้างในยังมีภาพประกอบที่แสนจะน่ารัก และทำให้เราเพลิดเพลินไปทุกขณะที่เราได้เปิดอ่านมันค่ะ โดยเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้จะเล่าถึงประสบการณ์และมุมมองจากหลายๆคนที่เคยประสบปัญหาเหล่านั้นมาก่อนมาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านและศึกษาเพื่อนำไปปรับใช้กับความรักของตน หรือทำให้ตัวเองได้แง่คิดอะไรดีๆและเลือกที่จะยอมรับในสิ่งที่จะเกิดต่อไปให้ได้ค่ะ ถ้าพูดถึงเรื่องราวของความรักแน่นอนว่าทุกคนต้องรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่สวยงามและอยากที่จะมีกันทุกคน แต่พอมีแล้วทำไมกลับไม่เป็นอย่างที่คิดนะ หรือว่าเค้ายังไม่ใช่สำหรับเรา หรือเราไม่ดีพอสำหรับเค้าและอีกหลายๆความรู้สึกและเหตุผลที่สันหามาเพื่อปลอบใจหรือตอกย้ำตัวเองก็ไม่รู้ แต่สำหรับตัวดิฉันเองหลังจากที่วิ่งตามหาความรักมาทั้งชีวิตจึงทำให้ได้รู้และเข้าใจเกี่ยวกับความรักมากขึ้นแต่ถึงจะเข้าใจก็ใช่ว่าจะทำให้ไม่มีปัญหาในชีวิตคู่นะคะ เพราะต่างคนก็ต่างมีเรื่องราวที่เคยผ่านมาของกันและกันเสมอของเพียงอย่าเอาเรื่องเก่าเรื่องใหม่มาปนกันให้วุ่น วางครั้งวิธีการที่เราคิดว่าทำแล้วมันดีสำหรับคนๆนึงแต่พอเอามาใช่กับอีกคนเค้าอาจจะไม่รู้สึกว่าประทับใจก็เป็นได้ ฉะนั้นเราต้องรู้จักเรียนรู้และค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับความรักที่เข้ามาให้ได้ แน่นอนถ้าคุณทำไม่ได้ความรักครั้งนั้นมันก็ต้องจบลงเป็นธรรมดา แน่นอนคุณย่อมต้องไม่โทษตัวเองเป็นแน่แต่กลับเลือกที่จะโทษอีกฝ่ายที่เป็นฝ่ายเลือกเดินจากไปก่อน บางครั้งความรักก็ไม่ได้ทำร้ายใครเลยนะ ความรักมีแต่ทำให้คนรักกัน แต่คนน่ะแหละที่ไม่ยอมเข้าใจในวิถีที่จะรักษาความรักของตนเองให้มั่นคงและยั่งยืน ไม่มีใครที่สามารถบังคับให้ใครไม่รักหรือว่าต้องรัก หัวใจของตัวเราเองต่างหากที่เป็นผู้กำหนดว่าจะรักหรือไม่รักใครในเมื่อเราเป็นคนกำหนดเองว่าจะรักและทำไมตอนที่เสียใจเราไม่กำหนดความรู้สึกของเราเองบ้างล่ะว่าไม่ต้องเสียใจทำไม่ได้ใช่มั้ยล่ะเพราะว่ามันคงเป็นอะไรที่ยากจะหักห้ามอารมณ์และความรู้สึกขนาดนั้น แต่มรสิ่งนึงที่คุณทำได้อย่างแน่นอนเพียงวันนี้แค่ยอมรับกับสิ่งที่มันเกิดให้ได้แล้วคุณจะเข้าใจว่าความรักไม่ได้ทำร้ายเราเลย...

กล้ารัก กล้าเจ็บ เป็นหนังสือที่ได้รวบรวมแง่มุมมองในเรื่องของความรักมาจากหลายๆคนหลายเรื่องราวที่มาในรูปแบบหนังสือเล่มเล็กที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก และข้างในยังมีภาพประกอบที่แสนจะน่ารัก และทำให้เราเพลิดเพลินไปทุกขณะที่เราได้เปิดอ่านมันค่ะ โดยเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้จะเล่าถึงประสบการณ์และมุมมองจากหลายๆคนที่เคยประสบปัญหาเหล่านั้นมาก่อนมาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านและศึกษาเพื่อนำไปปรับใช้กับความรักของตน หรือทำให้ตัวเองได้แง่คิดอะไรดีๆและเลือกที่จะยอมรับในสิ่งที่จะเกิดต่อไปให้ได้ค่ะ ถ้าพูดถึงเรื่องราวของความรักแน่นอนว่าทุกคนต้องรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่สวยงามและอยากที่จะมีกันทุกคน แต่พอมีแล้วทำไมกลับไม่เป็นอย่างที่คิดนะ หรือว่าเค้ายังไม่ใช่สำหรับเรา หรือเราไม่ดีพอสำหรับเค้าและอีกหลายๆความรู้สึกและเหตุผลที่สันหามาเพื่อปลอบใจหรือตอกย้ำตัวเองก็ไม่รู้ แต่สำหรับตัวดิฉันเองหลังจากที่วิ่งตามหาความรักมาทั้งชีวิตจึงทำให้ได้รู้และเข้าใจเกี่ยวกับความรักมากขึ้นแต่ถึงจะเข้าใจก็ใช่ว่าจะทำให้ไม่มีปัญหาในชีวิตคู่นะคะ เพราะต่างคนก็ต่างมีเรื่องราวที่เคยผ่านมาของกันและกันเสมอของเพียงอย่าเอาเรื่องเก่าเรื่องใหม่มาปนกันให้วุ่น วางครั้งวิธีการที่เราคิดว่าทำแล้วมันดีสำหรับคนๆนึงแต่พอเอามาใช่กับอีกคนเค้าอาจจะไม่รู้สึกว่าประทับใจก็เป็นได้ ฉะนั้นเราต้องรู้จักเรียนรู้และค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับความรักที่เข้ามาให้ได้ แน่นอนถ้าคุณทำไม่ได้ความรักครั้งนั้นมันก็ต้องจบลงเป็นธรรมดา แน่นอนคุณย่อมต้องไม่โทษตัวเองเป็นแน่แต่กลับเลือกที่จะโทษอีกฝ่ายที่เป็นฝ่ายเลือกเดินจากไปก่อน บางครั้งความรักก็ไม่ได้ทำร้ายใครเลยนะ ความรักมีแต่ทำให้คนรักกัน แต่คนน่ะแหละที่ไม่ยอมเข้าใจในวิถีที่จะรักษาความรักของตนเองให้มั่นคงและยั่งยืน ไม่มีใครที่สามารถบังคับให้ใครไม่รักหรือว่าต้องรัก หัวใจของตัวเราเองต่างหากที่เป็นผู้กำหนดว่าจะรักหรือไม่รักใครในเมื่อเราเป็นคนกำหนดเองว่าจะรักและทำไมตอนที่เสียใจเราไม่กำหนดความรู้สึกของเราเองบ้างล่ะว่าไม่ต้องเสียใจทำไม่ได้ใช่มั้ยล่ะเพราะว่ามันคงเป็นอะไรที่ยากจะหักห้ามอารมณ์และความรู้สึกขนาดนั้น แต่มรสิ่งนึงที่คุณทำได้อย่างแน่นอนเพียงวันนี้แค่ยอมรับกับสิ่งที่มันเกิดให้ได้แล้วคุณจะเข้าใจว่าความรักไม่ได้ทำร้ายเราเลย...

กลับมารักตัวเองอีกสักครั้ง เป็นชื่อขอหนังสือที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับทุกคนที่กำลังผิดหวังเสียใจ หมดแล้วสิ้นทุกอย่างทั้งความรู้สึกและน้ำตา หลงเหลือไว้เพียงแค่ร่องรอยของความผิดหวังและความหลังที่ไม่มีวันหวนกลับมา ทุกคนเมื่อมีความรู้สึกว่าเศร้าหรือเสียใจนั้นย่อมมีการแสดงออกมาให้คนรอบข้างได้เห็นหรือรับรู้ได้ว่าคนๆนึงกำลังเสียใจอยู่นะ ซึ่งหลายๆคนก็จะมีอาการอย่างนึงที่เหมือนกันนั้นก็คือร้องไห้ แต่บางคนยิ่งไปกว่านั้น นั่นคือการเลือกที่จะทำร้ายตัวเอง บางคนโชคดีรอดมาได้แต่สำหรับบางคนก็ได้ตัดสินใจไปแล้วว่าเลือกที่จะเป็นอย่างนั้น แต่บางครั้งมันก็ไม่ได้เป็นทางออกของปัญหานี้เราเลือกได้ว่า จะปล่อยให้ตัวเองต้องเสียใจ เศร้า หงอย เหงาและปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่ยอมดูแลวันๆนั่งพร่ำเพ้อถึงแต่ความรักที่มันไม่มีอยู่แล้ว อยู่ในที่ๆที่คนเค้ามีความสุขไม่ได้เพราะตัวเองกำลังเศร้าอยู่ แล้วคุณล่ะอยากจะให้ชีวิตของเราต้องมีอาการเป็นอย่างนั้นไปตลอดหรอ มันจะไม่ดีกว่าหรอถ้าเราสามารถ ถอยหลังกลับมาตั้งตัวเพื่อตั้งสติและคิดวิธีแก้ไขปัญหา ถ้ามันถึงจุดที่ต้องจบหรือจากกันแล้วจริงๆ ปล่อยให้ตัวเองเศร้าได้แต่อย่านานเพราะอย่างน้อยก็มีคนอีกมากมายที่เค้ารักและก็คอยหวังดีกับเราอยู่เสมอ อย่างน้อยๆก็พ่อกับแม่ของเราล่ะ แล้วจะต้องไปแคร์ทำไมกับแค่คนที่เค้าไม่รักเรา มันคงถึงเวลาที่เราจะต้องกลับมารักและดูแลคนที่รักเราที่สุดให้มากๆที่สำคัญผู้หญิงคนไหนที่รักตัวเองไม่เป็นก่อนก็อย่าหวังเลยว่าจะมีใครที่เค้าจะมารักคุณจริง ฉะนั้นจงอย่าปล่อยให้อารมณ์เศร้า ผิดหวัง เสียใจ มาทำลายช่วงเวลาดีๆของตัวเอง เพราะเชื่อเถอะว่าคนดีๆมีเหลืออยู่อีกเยอะ ถ้าเรายังมัวมาคิดถึงความหลังแล้วปล่อยให้เวลามันทำร้ายเราไปเรื่อยแล้วเมื่อไหร่ที่เราจะได้รู้จักกับชีวิตที่ไร้ขอบเขตและได้มีอิสระในการสร้างสีสรรค์ให้กับชีวิต ในชีวิตของคนเราไม่ได้มีแค่เรื่องของความรักที่สำคัญอย่างเดียวซะหน่อยนิ แต่มันมีอะไรให้เราทำและเจอได้อีกตั้งเยอะ เพราะฉะนั้นอดีตที่ผ่านมาเก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่าเราเคยผิดพลาดแต่อย่าเอามามารั้งชีวิตให้ก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้าไม่ได้ ถ้าทุกคนทำได้ จะทำให้ชีวิตของคุณมีแต่ปัจจุบันที่สดใสและอนาคตที่สวยงามรออยู่อย่างแน่นอน หนังสือเล่มนี้ได้สอนอะไรให้ดิฉันได้เข้าใจในอะไรหลายๆอย่างว่าอย่างน้อยๆความรักมันก็ไม่ได้ทำร้ายเราซะหน่อย แต่ตัวเราเองที่ไม่รู้จักเรียนรู้ที่จะรักตัวเองให้เป็นเลย...

กลับมารักตัวเองอีกสักครั้ง เป็นชื่อขอหนังสือที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับทุกคนที่กำลังผิดหวังเสียใจ หมดแล้วสิ้นทุกอย่างทั้งความรู้สึกและน้ำตา หลงเหลือไว้เพียงแค่ร่องรอยของความผิดหวังและความหลังที่ไม่มีวันหวนกลับมา ทุกคนเมื่อมีความรู้สึกว่าเศร้าหรือเสียใจนั้นย่อมมีการแสดงออกมาให้คนรอบข้างได้เห็นหรือรับรู้ได้ว่าคนๆนึงกำลังเสียใจอยู่นะ ซึ่งหลายๆคนก็จะมีอาการอย่างนึงที่เหมือนกันนั้นก็คือร้องไห้ แต่บางคนยิ่งไปกว่านั้น นั่นคือการเลือกที่จะทำร้ายตัวเอง บางคนโชคดีรอดมาได้แต่สำหรับบางคนก็ได้ตัดสินใจไปแล้วว่าเลือกที่จะเป็นอย่างนั้น แต่บางครั้งมันก็ไม่ได้เป็นทางออกของปัญหานี้เราเลือกได้ว่า จะปล่อยให้ตัวเองต้องเสียใจ เศร้า หงอย เหงาและปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่ยอมดูแลวันๆนั่งพร่ำเพ้อถึงแต่ความรักที่มันไม่มีอยู่แล้ว อยู่ในที่ๆที่คนเค้ามีความสุขไม่ได้เพราะตัวเองกำลังเศร้าอยู่ แล้วคุณล่ะอยากจะให้ชีวิตของเราต้องมีอาการเป็นอย่างนั้นไปตลอดหรอ มันจะไม่ดีกว่าหรอถ้าเราสามารถ ถอยหลังกลับมาตั้งตัวเพื่อตั้งสติและคิดวิธีแก้ไขปัญหา ถ้ามันถึงจุดที่ต้องจบหรือจากกันแล้วจริงๆ ปล่อยให้ตัวเองเศร้าได้แต่อย่านานเพราะอย่างน้อยก็มีคนอีกมากมายที่เค้ารักและก็คอยหวังดีกับเราอยู่เสมอ อย่างน้อยๆก็พ่อกับแม่ของเราล่ะ แล้วจะต้องไปแคร์ทำไมกับแค่คนที่เค้าไม่รักเรา มันคงถึงเวลาที่เราจะต้องกลับมารักและดูแลคนที่รักเราที่สุดให้มากๆที่สำคัญผู้หญิงคนไหนที่รักตัวเองไม่เป็นก่อนก็อย่าหวังเลยว่าจะมีใครที่เค้าจะมารักคุณจริง ฉะนั้นจงอย่าปล่อยให้อารมณ์เศร้า ผิดหวัง เสียใจ มาทำลายช่วงเวลาดีๆของตัวเอง เพราะเชื่อเถอะว่าคนดีๆมีเหลืออยู่อีกเยอะ ถ้าเรายังมัวมาคิดถึงความหลังแล้วปล่อยให้เวลามันทำร้ายเราไปเรื่อยแล้วเมื่อไหร่ที่เราจะได้รู้จักกับชีวิตที่ไร้ขอบเขตและได้มีอิสระในการสร้างสีสรรค์ให้กับชีวิต ในชีวิตของคนเราไม่ได้มีแค่เรื่องของความรักที่สำคัญอย่างเดียวซะหน่อยนิ แต่มันมีอะไรให้เราทำและเจอได้อีกตั้งเยอะ เพราะฉะนั้นอดีตที่ผ่านมาเก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่าเราเคยผิดพลาดแต่อย่าเอามามารั้งชีวิตให้ก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้าไม่ได้ ถ้าทุกคนทำได้ จะทำให้ชีวิตของคุณมีแต่ปัจจุบันที่สดใสและอนาคตที่สวยงามรออยู่อย่างแน่นอน หนังสือเล่มนี้ได้สอนอะไรให้ดิฉันได้เข้าใจในอะไรหลายๆอย่างว่าอย่างน้อยๆความรักมันก็ไม่ได้ทำร้ายเราซะหน่อย แต่ตัวเราเองที่ไม่รู้จักเรียนรู้ที่จะรักตัวเองให้เป็นเลย...

ก็ยังดีที่ได้รัก เป็นหนังสือดีๆที่เหมาะสำหรับทุกคนที่เพิ่งผ่านพ้นในเรื่องราวที่ทำให้หัวใจบอบช้ำมาหรือรู้สึกว่าผิดหวังจากคนที่เรารักมากการอ่านหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้ทุกคนที่มีอาการเจ็บช้ำทางใจจะได้แง่คิดและทำให้คลายจากความทุกได้ที่ละนิดๆจนค่อยๆหายเองและกลับมาใช้ชีวิตโสดที่แสนจะสบายใจเพราะได้รับกำลังใจแล้วข้อคิดเตือนสติที่จะทำให้เราตาสว่างได้เร็วขึ้น ต้องบอกเลยว่าที่อ่านหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ว่าเพิ่งอกหักมาหรือไรแต่ว่าชอบมีคนมาปรึกษาเรื่องของความรักอยู่บ่อยๆและเมื่อสมัยก่อนก็เคยผ่านเรื่องราวเจ็บช้ำมามากมายจึงเข้าใจอาการและความรู้สึกของผู้หญิงที่ผิดหวังและเสียใจกับเรื่องราวของคนที่รักเป็นอย่างดี เพราะว่าว่ากว่าจะผ่านวันนั้นมาได้ก็เทียบแย่เหมือนกันเพราะได้อ่านหนังสือดีๆแบบนี้ไม่มีคำพูดปลอบโยนจากใครทั้งสิ้น เพราะเมื่อเราเป็นฝ่ายที่เลือกจะรักเองเราก็ต้องยอมรับที่จะเจ็บปวดด้วย และต้องผ่านมันไปให้ได้ด้วยตนเองเลยยิ่งทำให้ดิฉันนั้นเข้าใจหัวอกของผู้หญิงหรือไม่ว่าใครๆก็ตามที่กำลังรู้สึกผิดหวังอย่างเช่นเดียว ดังนั้นจึงถือว่าเดี๋ยวนี้น่ะดีมากที่มีนักเขียนที่นำเรื่องราวดีๆที่อ่านแล้วจะทำให้คนที่กำลังผิดหวังอยู่นั้นหายจากอาการเศร้าได้เร็วขึ้น เลยอยากที่จะนำมาให้ได้ลองอ่านกันดูเชื่อเถอะว่ามันดีจริง..เพราะจากประสบการณ์ที่เคยผ่านมาของตัวเองเมื่อทำให้ตัวเองเจ็บก็ต้องรักษาตัวเองให้ได้แต่คุณเชื่อไหมว่าถ้าเราผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายไปได้นั้นวันต่อๆไปนั้นมันยิ่งกว่าการได้เกิดใหม่อีกนะ เพราะมันทำให้เรานั้นรู้สึกว่าเราเข้มแข็งขึ้น และสามารถยืนได้ด้วยขาของตัวเองโดยที่ไม่ต้องเอาชีวิตและความสุขไปฝากไว้ในมือใครอีกด้วย บางครั้งการที่เราต้องอยู่อย่างเป็นคู่ก็อาจจะทำให้เรานั้นลืมความรู้สึกของการใช้ชีวิตคนเดียวไปก็ได้ ไม่รู้ซิบางทีการใช้ชีวิตโสดก็ทำให้เราได้หันมารักตัวเองมากยิ่งขึ้นและเมื่อเราเรียนรู้ที่จะรักตัวเองเชื่อเถอะว่าวันนึงเราต้องเจอคนดีๆที่จะเข้ามาหาเราเอง เพียงแต่ต้องรอเวลาเพียงเท่านั้นเชื่อเถอะว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมามีคู่ทุกคนน่ะแหล่ะอยู่ที่ว่าเวลาที่จะได้เจอกันนั้นมันเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นดิฉันก็ขอส่งกำลังใจให้กับเพื่อนๆทุกคนให้ผ่านความเศร้าโศกและกลับมายิ้มให้กับชีวิตที่สดใสอีกครั้ง และคุณจะรู้ว่าไม่มีใครที่รักเราได้เท่าตัวเรารักตัวเอง...

ก็ยังดีที่ได้รัก เป็นหนังสือดีๆที่เหมาะสำหรับทุกคนที่เพิ่งผ่านพ้นในเรื่องราวที่ทำให้หัวใจบอบช้ำมาหรือรู้สึกว่าผิดหวังจากคนที่เรารักมากการอ่านหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้ทุกคนที่มีอาการเจ็บช้ำทางใจจะได้แง่คิดและทำให้คลายจากความทุกได้ที่ละนิดๆจนค่อยๆหายเองและกลับมาใช้ชีวิตโสดที่แสนจะสบายใจเพราะได้รับกำลังใจแล้วข้อคิดเตือนสติที่จะทำให้เราตาสว่างได้เร็วขึ้น ต้องบอกเลยว่าที่อ่านหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ว่าเพิ่งอกหักมาหรือไรแต่ว่าชอบมีคนมาปรึกษาเรื่องของความรักอยู่บ่อยๆและเมื่อสมัยก่อนก็เคยผ่านเรื่องราวเจ็บช้ำมามากมายจึงเข้าใจอาการและความรู้สึกของผู้หญิงที่ผิดหวังและเสียใจกับเรื่องราวของคนที่รักเป็นอย่างดี เพราะว่าว่ากว่าจะผ่านวันนั้นมาได้ก็เทียบแย่เหมือนกันเพราะได้อ่านหนังสือดีๆแบบนี้ไม่มีคำพูดปลอบโยนจากใครทั้งสิ้น เพราะเมื่อเราเป็นฝ่ายที่เลือกจะรักเองเราก็ต้องยอมรับที่จะเจ็บปวดด้วย และต้องผ่านมันไปให้ได้ด้วยตนเองเลยยิ่งทำให้ดิฉันนั้นเข้าใจหัวอกของผู้หญิงหรือไม่ว่าใครๆก็ตามที่กำลังรู้สึกผิดหวังอย่างเช่นเดียว ดังนั้นจึงถือว่าเดี๋ยวนี้น่ะดีมากที่มีนักเขียนที่นำเรื่องราวดีๆที่อ่านแล้วจะทำให้คนที่กำลังผิดหวังอยู่นั้นหายจากอาการเศร้าได้เร็วขึ้น เลยอยากที่จะนำมาให้ได้ลองอ่านกันดูเชื่อเถอะว่ามันดีจริง..เพราะจากประสบการณ์ที่เคยผ่านมาของตัวเองเมื่อทำให้ตัวเองเจ็บก็ต้องรักษาตัวเองให้ได้แต่คุณเชื่อไหมว่าถ้าเราผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายไปได้นั้นวันต่อๆไปนั้นมันยิ่งกว่าการได้เกิดใหม่อีกนะ เพราะมันทำให้เรานั้นรู้สึกว่าเราเข้มแข็งขึ้น และสามารถยืนได้ด้วยขาของตัวเองโดยที่ไม่ต้องเอาชีวิตและความสุขไปฝากไว้ในมือใครอีกด้วย บางครั้งการที่เราต้องอยู่อย่างเป็นคู่ก็อาจจะทำให้เรานั้นลืมความรู้สึกของการใช้ชีวิตคนเดียวไปก็ได้ ไม่รู้ซิบางทีการใช้ชีวิตโสดก็ทำให้เราได้หันมารักตัวเองมากยิ่งขึ้นและเมื่อเราเรียนรู้ที่จะรักตัวเองเชื่อเถอะว่าวันนึงเราต้องเจอคนดีๆที่จะเข้ามาหาเราเอง เพียงแต่ต้องรอเวลาเพียงเท่านั้นเชื่อเถอะว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมามีคู่ทุกคนน่ะแหล่ะอยู่ที่ว่าเวลาที่จะได้เจอกันนั้นมันเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นดิฉันก็ขอส่งกำลังใจให้กับเพื่อนๆทุกคนให้ผ่านความเศร้าโศกและกลับมายิ้มให้กับชีวิตที่สดใสอีกครั้ง และคุณจะรู้ว่าไม่มีใครที่รักเราได้เท่าตัวเรารักตัวเอง...

You Can Do It ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่คุณทำไม่ได้ อีกหนึ่งของหนังสือที่จะมาสร้างแรงผลักดันให้เกิดในตัวของคุณและเปลี่ยนความเชื่อความคิดของเราใหม่เกี่ยวกับการที่จะทำอะไรสักอย่างให้ได้ด้วยตัวเอง
วันนี้ได้มีโอกาสดีๆที่ได้บังเอิญไปเจอกับหนังสือเล่มนี้เข้าซึ่งพอเปิดอ่านแล้วกลับทำให้อะไรหลายๆอย่างในตัวเรารวมถึงความคิดของเราด้วยนั้นมีความคิดที่เปลี่ยนไปจากเดิมคือทำให้รู้สึกว่ายังไงเราก็สามารถที่จะทำทุกงานได้ตามที่ใจเราคิดหรือปรารถนานั้นเอง เพียงแต่อยู่ที่เราจะกล้าลงมือทำหรือจะแค่นั่งดูแล้วก็บอกว่าทำไม่ได้กันล่ะ และนั้นแหละที่เป็นความรู้สึกของเราหลังที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ไปแล้ว สำหรับคิดว่ามันเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาดีมากๆเลยนะ อ่านเข้าใจง่ายแถมยังได้แรงบันดาลใจเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีก เราว่ามันเหมาะมากกับคนที่ยังไม่รู้ว่าเป้าหมายของชีวิตคืออะไรหรืออาจจะยังไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเองอยู่เชื่อเถอะถ้าทุกคนได้ลองอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะทำให้เพื่อนๆนั้นมีความรู้สึกที่แตกต่างกันไปคนละอย่างแน่นอนที่หนึ่งในความรู้สึกที่เราทุกคนจะได้รับเหมือนกันนั้นก็คือ ความกล้าที่จะเปลี่ยนมุมมองความคิด เปลี่ยนความฝันให้สามารถมีอยู่จริงได้และยังทำให้เรากล้าที่จะเริ่มทำในสิ่งที่เราไม่คิดว่าจะทำและทำได้อย่างแน่นอน สำหรับตัวดิฉันเองก็เป็นคนนึงที่ไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรใหม่ๆเพราะคิดว่าตัวเองนั้นคงทำไม่ได้หรอก หรือบางอย่างที่เคยลองทำแล้วมันไม่ประสบผลสำเร็จอย่างที่หวังก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าเราทำมันไม่ได้จริงๆ แต่พ่อของดิฉันเคยสอนมาตั้งแต่เด็กๆแล้วว่า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้หรอก ถ้าคนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้ อยู่ที่เราได้ลองทำมันแล้วหรือยัง ตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของพ่อนะแต่พ่อมักจะย้ำให้ฟังอย่างนี้เสมอไม่ว่าจะเรื่องอะไรบางทีมันก็เป็นเหมือนคำพูดให้กำลังในแบบฉบับของพ่อก็เป็นได้ และยิ่งได้มาอ่านหนังสือเล่มนี้ก็เลยทำให้เข้าใจว่าอ่อคำพูดที่พ่อมักจะบอกอยู่เสมอที่แท้มันเป็นแบบนี้นี่เอง เพิ่งจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ก็วันที่โตมากแล้วขนาดนี้ เห้อนี้แหละน้ามนุษย์ ที่มักจะมาสามารถเข้าถึงสัจธรรมที่ลึกซึ้งกันได้เท่าไหร่นัก แต่ก็อย่างที่บอกไปค่ะว่าหนังสือเล่มนี้สมควรที่จะหามาอ่านจริงๆเพื่อทำให้เรามีกำลังใจและกล้าเผชิญกับวันข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ...ว่าเราก็ทำได้นะ

You Can Do It ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่คุณทำไม่ได้ อีกหนึ่งของหนังสือที่จะมาสร้างแรงผลักดันให้เกิดในตัวของคุณและเปลี่ยนความเชื่อความคิดของเราใหม่เกี่ยวกับการที่จะทำอะไรสักอย่างให้ได้ด้วยตัวเอง
วันนี้ได้มีโอกาสดีๆที่ได้บังเอิญไปเจอกับหนังสือเล่มนี้เข้าซึ่งพอเปิดอ่านแล้วกลับทำให้อะไรหลายๆอย่างในตัวเรารวมถึงความคิดของเราด้วยนั้นมีความคิดที่เปลี่ยนไปจากเดิมคือทำให้รู้สึกว่ายังไงเราก็สามารถที่จะทำทุกงานได้ตามที่ใจเราคิดหรือปรารถนานั้นเอง เพียงแต่อยู่ที่เราจะกล้าลงมือทำหรือจะแค่นั่งดูแล้วก็บอกว่าทำไม่ได้กันล่ะ และนั้นแหละที่เป็นความรู้สึกของเราหลังที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ไปแล้ว สำหรับคิดว่ามันเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาดีมากๆเลยนะ อ่านเข้าใจง่ายแถมยังได้แรงบันดาลใจเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีก เราว่ามันเหมาะมากกับคนที่ยังไม่รู้ว่าเป้าหมายของชีวิตคืออะไรหรืออาจจะยังไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเองอยู่เชื่อเถอะถ้าทุกคนได้ลองอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะทำให้เพื่อนๆนั้นมีความรู้สึกที่แตกต่างกันไปคนละอย่างแน่นอนที่หนึ่งในความรู้สึกที่เราทุกคนจะได้รับเหมือนกันนั้นก็คือ ความกล้าที่จะเปลี่ยนมุมมองความคิด เปลี่ยนความฝันให้สามารถมีอยู่จริงได้และยังทำให้เรากล้าที่จะเริ่มทำในสิ่งที่เราไม่คิดว่าจะทำและทำได้อย่างแน่นอน สำหรับตัวดิฉันเองก็เป็นคนนึงที่ไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรใหม่ๆเพราะคิดว่าตัวเองนั้นคงทำไม่ได้หรอก หรือบางอย่างที่เคยลองทำแล้วมันไม่ประสบผลสำเร็จอย่างที่หวังก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าเราทำมันไม่ได้จริงๆ แต่พ่อของดิฉันเคยสอนมาตั้งแต่เด็กๆแล้วว่า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้หรอก ถ้าคนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้ อยู่ที่เราได้ลองทำมันแล้วหรือยัง ตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของพ่อนะแต่พ่อมักจะย้ำให้ฟังอย่างนี้เสมอไม่ว่าจะเรื่องอะไรบางทีมันก็เป็นเหมือนคำพูดให้กำลังในแบบฉบับของพ่อก็เป็นได้ และยิ่งได้มาอ่านหนังสือเล่มนี้ก็เลยทำให้เข้าใจว่าอ่อคำพูดที่พ่อมักจะบอกอยู่เสมอที่แท้มันเป็นแบบนี้นี่เอง เพิ่งจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ก็วันที่โตมากแล้วขนาดนี้ เห้อนี้แหละน้ามนุษย์ ที่มักจะมาสามารถเข้าถึงสัจธรรมที่ลึกซึ้งกันได้เท่าไหร่นัก แต่ก็อย่างที่บอกไปค่ะว่าหนังสือเล่มนี้สมควรที่จะหามาอ่านจริงๆเพื่อทำให้เรามีกำลังใจและกล้าเผชิญกับวันข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ...ว่าเราก็ทำได้นะ

Reinventing You เปลี่ยนงานให้รุ่งคุณก็ทำได้ เป็นหนังสือที่จะมาให้แง่คิดและกำลังใจในการดำรงชีวิตที่น่าสนใจอีกเล่มนึงที่ดิฉันอยากจะนำมาให้เพื่อนๆได้ลองได้อ่านกัน เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยหรือตอนนี้กำลังลังเลในการเลือกสถานที่ทำงานหรือแม้แต่จะลาออกไปเพื่อทำงานใหม่ก็ตาม โดยภายในจะมีเนื้อหาที่จะออกเป็นแนวให้แง่คิดในสิ่งที่เราอาจจะกำลังวิตกอยู่และสามารถไขข้อข้องใจให้กับเราอยากที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองกล้าที่จะเผชิญกับสิ่งที่บ้างที่เราคิดว่าเราคงทำไม่ได้ ให้ลองหันกลับมาพิจารณาดูใหม่ว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เรากลัวจริงๆคืออะไร เรากลัวสิ่งที่ต้องเผชิญหรือว่ากลัวใจของตัวเองที่ไม่กล้าแม้แต่จะคิดทำอะไรทั้งนั้น ด้วยเนื้อหาที่จะมาสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนได้เกิดแรงผลักดันที่จะสู้กับทุกสิ่ง และด้วยสำนวนภาษาที่อ่านและเข้าใจได้ง่ายจึงเหมาะมากหรับหนุ่มสาววัยทำงานเป็นที่สุดค่ะ
เนื่องจากตัวดิฉันเองก็เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องของการหางานทำและก็การลาออกเพื่อไปหาสิ่งที่ดีกว่ามาแล้วดังนั้นจึงอยากที่จะมาเล่าสู่กันฟังเพื่อใครจะได้แง่คิดหรือไอเดียสำหรับนำไปใช้กับเรื่องราวของตัวเองก็ได้ค่ะ ขอย้อยไปเมื่อประมาณสองปีก่อนที่พึ่งจะเรียนจบใหม่ๆตอนนั้นเคว้งคว้างมากเลยไม่รู่ว่าจะไปทางไหนอ่อบอกก่อนว่าดิฉันจบครูมาแน่นอนหลายๆคนคงคิดว่าก็ไม่เห็นจะยากเลยก็ไปสมัครงานตามโรงเรียนซิเยอะแยะไป แต่ที่จะบอกก็เพราะมันยากที่มันเยอะนี้แหละ เพราะเราก็ยังไม่รู้ว่าระบบและสภาพแวดล้อมเป้นอย่างไรร่วมไปถึงการเดินทางซึ่งแน่นอนถ้าไกลไปก็มีผลกระทบอยู่แล้วเพราะต้องถึงโรงเรียนก่อนเด็ก ดิฉันจึงเลือกที่จะสมัครงานใกล้ที่พักซึ่งแน่นอนมันย่อมดีไม่เสียค่าเดินทางเยอะแถมยังต้องเหลือเงินเก็บแน่ๆแต่พอไปทำได้แค่วันเดียวรู้เลยว่าไม่ไหวล่ะเข้าไม่ได้กับเพื่อนร่วมงานเพราะด้วยความที่เราพึ่งจบใหม่เค้าเลยให้เราไปเป้นครูพี่เลี้ยงของครูซึ่งไม่ได้จบครูมาโดยตรงแต่อาศัยว่าอยู่มาก่อนแค่นั้นเองแค่นั้นก้ว่าแย่แล้วนะแต่ที่แย่กว่าคือเค้ารวมตัวกันนั่งด่าเด็กและหัวหน้าครูให้เราฟังซึ้งทำให้ดิฉันรู้สึกแย่อ่าที่จะต้องมาทำงานกับคนพวกนี้จึงตัดสินใจลาออกไม่ทำ งานใหม่ก็ยังไม่มีโอ๊ยช่วงนั้นสภาพจิตใจแย่สุดๆแต่ด้วยกำลังใจจากพ่อแม่และแฟนจึงทำให้ดิฉันลุกขึ้นมาออกไปล่าท้าสมัครตามโรงเรียนอีกครั้ง คราวนี้ไปสมัครพร้อมกันสองโรงเรียนแต่ได้งานโรงเรียนที่สอง ซึ่งพอได้ไปทำแล้วรู้สึกว่าดีมากบรรยากาศดีเด็กๆน่ารักเพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่โอเค เลยทำให้แฮปปี้เพราะที่นี้ให้เกียรติในวุฒิที่เราจบมามากถึงจะเพิ่งเรียนจบมาไม่กี่เดือนแต่ก็ถือว่าเรานั้นเป็นผู้มีวุฒิภาวะที่เหมาะสมกับตำแหน่งแล้ว...เห็นไหมค่ะบ้างครั้งการที่เราเลือกจะก้าวข้ามผ่านความกลัวมาได้ก็จะ ทำให้เราได้พบสิ่งที่สวยงามรอเราอยู่ก็เป็นได้..

Reinventing You เปลี่ยนงานให้รุ่งคุณก็ทำได้ เป็นหนังสือที่จะมาให้แง่คิดและกำลังใจในการดำรงชีวิตที่น่าสนใจอีกเล่มนึงที่ดิฉันอยากจะนำมาให้เพื่อนๆได้ลองได้อ่านกัน เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยหรือตอนนี้กำลังลังเลในการเลือกสถานที่ทำงานหรือแม้แต่จะลาออกไปเพื่อทำงานใหม่ก็ตาม โดยภายในจะมีเนื้อหาที่จะออกเป็นแนวให้แง่คิดในสิ่งที่เราอาจจะกำลังวิตกอยู่และสามารถไขข้อข้องใจให้กับเราอยากที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองกล้าที่จะเผชิญกับสิ่งที่บ้างที่เราคิดว่าเราคงทำไม่ได้ ให้ลองหันกลับมาพิจารณาดูใหม่ว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เรากลัวจริงๆคืออะไร เรากลัวสิ่งที่ต้องเผชิญหรือว่ากลัวใจของตัวเองที่ไม่กล้าแม้แต่จะคิดทำอะไรทั้งนั้น ด้วยเนื้อหาที่จะมาสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนได้เกิดแรงผลักดันที่จะสู้กับทุกสิ่ง และด้วยสำนวนภาษาที่อ่านและเข้าใจได้ง่ายจึงเหมาะมากหรับหนุ่มสาววัยทำงานเป็นที่สุดค่ะ
เนื่องจากตัวดิฉันเองก็เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องของการหางานทำและก็การลาออกเพื่อไปหาสิ่งที่ดีกว่ามาแล้วดังนั้นจึงอยากที่จะมาเล่าสู่กันฟังเพื่อใครจะได้แง่คิดหรือไอเดียสำหรับนำไปใช้กับเรื่องราวของตัวเองก็ได้ค่ะ ขอย้อยไปเมื่อประมาณสองปีก่อนที่พึ่งจะเรียนจบใหม่ๆตอนนั้นเคว้งคว้างมากเลยไม่รู่ว่าจะไปทางไหนอ่อบอกก่อนว่าดิฉันจบครูมาแน่นอนหลายๆคนคงคิดว่าก็ไม่เห็นจะยากเลยก็ไปสมัครงานตามโรงเรียนซิเยอะแยะไป แต่ที่จะบอกก็เพราะมันยากที่มันเยอะนี้แหละ เพราะเราก็ยังไม่รู้ว่าระบบและสภาพแวดล้อมเป้นอย่างไรร่วมไปถึงการเดินทางซึ่งแน่นอนถ้าไกลไปก็มีผลกระทบอยู่แล้วเพราะต้องถึงโรงเรียนก่อนเด็ก ดิฉันจึงเลือกที่จะสมัครงานใกล้ที่พักซึ่งแน่นอนมันย่อมดีไม่เสียค่าเดินทางเยอะแถมยังต้องเหลือเงินเก็บแน่ๆแต่พอไปทำได้แค่วันเดียวรู้เลยว่าไม่ไหวล่ะเข้าไม่ได้กับเพื่อนร่วมงานเพราะด้วยความที่เราพึ่งจบใหม่เค้าเลยให้เราไปเป้นครูพี่เลี้ยงของครูซึ่งไม่ได้จบครูมาโดยตรงแต่อาศัยว่าอยู่มาก่อนแค่นั้นเองแค่นั้นก้ว่าแย่แล้วนะแต่ที่แย่กว่าคือเค้ารวมตัวกันนั่งด่าเด็กและหัวหน้าครูให้เราฟังซึ้งทำให้ดิฉันรู้สึกแย่อ่าที่จะต้องมาทำงานกับคนพวกนี้จึงตัดสินใจลาออกไม่ทำ งานใหม่ก็ยังไม่มีโอ๊ยช่วงนั้นสภาพจิตใจแย่สุดๆแต่ด้วยกำลังใจจากพ่อแม่และแฟนจึงทำให้ดิฉันลุกขึ้นมาออกไปล่าท้าสมัครตามโรงเรียนอีกครั้ง คราวนี้ไปสมัครพร้อมกันสองโรงเรียนแต่ได้งานโรงเรียนที่สอง ซึ่งพอได้ไปทำแล้วรู้สึกว่าดีมากบรรยากาศดีเด็กๆน่ารักเพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่โอเค เลยทำให้แฮปปี้เพราะที่นี้ให้เกียรติในวุฒิที่เราจบมามากถึงจะเพิ่งเรียนจบมาไม่กี่เดือนแต่ก็ถือว่าเรานั้นเป็นผู้มีวุฒิภาวะที่เหมาะสมกับตำแหน่งแล้ว...เห็นไหมค่ะบ้างครั้งการที่เราเลือกจะก้าวข้ามผ่านความกลัวมาได้ก็จะ ทำให้เราได้พบสิ่งที่สวยงามรอเราอยู่ก็เป็นได้..

HAPPY เคล็ดลับแสนง่ายเพื่อชีวิต "แฮปปี้" ชีวิตคงจะมีความสุขขึ้นมากถ้าเราสามารถทำทุกๆวันให้มีความสุขและสดใสได้อยู่เสมอ เนื่องจากได้อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องราวของวิธีการแก้เครียดมาหลายเล่มแล้วดังนั้นวันนี้ดิฉันอยากจะมาแนะนำหนังสือที่จะทำให้ทุกคนได้ค้นพบว่าแท้จริงแล้วนั้นความสุขเราสามารถสร้างขึ้นมาเองได้เสมอ โดยผ่านวิธีการต่างๆดังที่หนังสือได้รวบรวมและยกตัวอย่างวิธีการง่ายๆที่จะทำให้เราอ่านและสามารถเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำได้ด้วยค่ะ โดยในหนังสือเล่มนี้จะทำให้ทุกคนได้เรียนรู้วิธีที่จะทำให้ชีวิตนั้นมีแต่ความสุขในทุกสถานที่และทุกเวลา ขอเพียงแค่คุณยอมเปิดใจที่จะเรียนรู้มันไปพร้อมกับเรา เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดที่มีต่อเรื่องต่างๆทั้งหมดที่มันจะทำให้เรานั้นต้องเครียดหรือแล้วมันเป็นทุกข์ เมื่อเราเปลี่ยนวิธีคิดได้แล้วเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะทำใจให้มีความสุขกับทุกเรื่องที่เข้ามา เมื่อเราคิดดีแล้วจิตใจของเราดีแล้วกาพูดก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะไว้ใช้ในการสื่อสารกับคนรอบข้างเพื่อก่อให้เกิดความสุขที่ตามมาของทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่แห่งไหนทั้งกับบุคคลที่เราต้องเจอะเจอในชีวิตประจำวันก็ตามหรือแม้แต่บุคคลที่ทำงานร่วมกับเราก็ดีเพียงแค่เราเริ่มที่จะเรียนรู้ในการทำสิ่งต่างๆให้มีความสุขและอยู่กับมันอย่างแฮปปี้ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้พวกคุณนั้นถือว่าได้เรียนรู้วิถีของการใช้ชีวิตให้อยู่อย่างมีความสุขแล้วล่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะสำหรับเรื่องราวดีๆที่ขนมาฝากกันกันในวันนี้ทั้งได้ความรู้และมีประโยชน์มากๆเลยดังนั้นจึงอยากให้เพื่อนๆทุกคนหามาอ่านกันเพราะว่าในหนังสือนั้นเค้ามีการนำเสนอด้วยตัวการ์ตูนน่ารักที่ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับเนื้อหาบวกกับอมยิ้มไปกับความน่ารักของตัวการ์ตูนคุณแฮปปี้ไปพร้อมๆกันอีกด้วย ก่อนจะจากกันไปดิฉันขอส่งท้ายแง่คิดดีๆไว้ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน อย่างเรื่องของการเปลี่ยนแนวคิดหรือความคิดต่อเรื่องต่างๆของเราให้รู้สึกว่าเมื่อเราได้รับรู้เรื่องราวหรือเจอกับออะไรมาก็ตามบางครั้งการที่เราหวาดวิตกและกังวลมันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นแถมยังบั่นทอนกำลังใจในการดำเนินชีวิตของเราอีกใช่มั้ยค่ะ ฉะนั้นถ้าการที่เราจะหันมองเรื่องราวทุกอย่างในแง่ดีก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ทันคนที่เค้าคิดร้ายหรืออะไรเพียงแต่มันจะช่วยให้เรารู้จักที่จะใช้สติไตร่ตรองและผ่านปัญหานั้นมาได้อย่างไม่ทำให้เราทุกข์และแฮปปี้อยู่เสมออีกด้วยค่ะ..

HAPPY เคล็ดลับแสนง่ายเพื่อชีวิต "แฮปปี้" ชีวิตคงจะมีความสุขขึ้นมากถ้าเราสามารถทำทุกๆวันให้มีความสุขและสดใสได้อยู่เสมอ เนื่องจากได้อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องราวของวิธีการแก้เครียดมาหลายเล่มแล้วดังนั้นวันนี้ดิฉันอยากจะมาแนะนำหนังสือที่จะทำให้ทุกคนได้ค้นพบว่าแท้จริงแล้วนั้นความสุขเราสามารถสร้างขึ้นมาเองได้เสมอ โดยผ่านวิธีการต่างๆดังที่หนังสือได้รวบรวมและยกตัวอย่างวิธีการง่ายๆที่จะทำให้เราอ่านและสามารถเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำได้ด้วยค่ะ โดยในหนังสือเล่มนี้จะทำให้ทุกคนได้เรียนรู้วิธีที่จะทำให้ชีวิตนั้นมีแต่ความสุขในทุกสถานที่และทุกเวลา ขอเพียงแค่คุณยอมเปิดใจที่จะเรียนรู้มันไปพร้อมกับเรา เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดที่มีต่อเรื่องต่างๆทั้งหมดที่มันจะทำให้เรานั้นต้องเครียดหรือแล้วมันเป็นทุกข์ เมื่อเราเปลี่ยนวิธีคิดได้แล้วเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะทำใจให้มีความสุขกับทุกเรื่องที่เข้ามา เมื่อเราคิดดีแล้วจิตใจของเราดีแล้วกาพูดก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะไว้ใช้ในการสื่อสารกับคนรอบข้างเพื่อก่อให้เกิดความสุขที่ตามมาของทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่แห่งไหนทั้งกับบุคคลที่เราต้องเจอะเจอในชีวิตประจำวันก็ตามหรือแม้แต่บุคคลที่ทำงานร่วมกับเราก็ดีเพียงแค่เราเริ่มที่จะเรียนรู้ในการทำสิ่งต่างๆให้มีความสุขและอยู่กับมันอย่างแฮปปี้ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้พวกคุณนั้นถือว่าได้เรียนรู้วิถีของการใช้ชีวิตให้อยู่อย่างมีความสุขแล้วล่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะสำหรับเรื่องราวดีๆที่ขนมาฝากกันกันในวันนี้ทั้งได้ความรู้และมีประโยชน์มากๆเลยดังนั้นจึงอยากให้เพื่อนๆทุกคนหามาอ่านกันเพราะว่าในหนังสือนั้นเค้ามีการนำเสนอด้วยตัวการ์ตูนน่ารักที่ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับเนื้อหาบวกกับอมยิ้มไปกับความน่ารักของตัวการ์ตูนคุณแฮปปี้ไปพร้อมๆกันอีกด้วย ก่อนจะจากกันไปดิฉันขอส่งท้ายแง่คิดดีๆไว้ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน อย่างเรื่องของการเปลี่ยนแนวคิดหรือความคิดต่อเรื่องต่างๆของเราให้รู้สึกว่าเมื่อเราได้รับรู้เรื่องราวหรือเจอกับออะไรมาก็ตามบางครั้งการที่เราหวาดวิตกและกังวลมันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นแถมยังบั่นทอนกำลังใจในการดำเนินชีวิตของเราอีกใช่มั้ยค่ะ ฉะนั้นถ้าการที่เราจะหันมองเรื่องราวทุกอย่างในแง่ดีก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ทันคนที่เค้าคิดร้ายหรืออะไรเพียงแต่มันจะช่วยให้เรารู้จักที่จะใช้สติไตร่ตรองและผ่านปัญหานั้นมาได้อย่างไม่ทำให้เราทุกข์และแฮปปี้อยู่เสมออีกด้วยค่ะ..

EQ ดี อารมณ์ดี ชีวีสดใส หนังสือที่จะทำให้ทุกคนได้ตระหนักถึงเรื่องการใช้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน ว่ามันจะส่งผลดีและผลเสียต่อเราอย่างไรบ้าง เป็นอีกหนึ่งหนังสือที่ดี ไม่ควรมองข้ามและพลาดอย่างเด็ดขาดเลยค่ะ ในปัจจุบันคนเรานั้นมีเรื่องมากมายที่เกิดขึ้นในชีวิตของแต่ละคน ทุกเรื่องราวล้วนส่งผลถึงการแสดงออกทางอารมณ์ได้เป็นอย่างดี และอารมณ์ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การใช้ชีวิตของเรานั้น ดำเนินไปอย่างราบเรียบหรือจะทุลักทุเลก็หนีไม่พ้นเพราะเจ้าตัวอารมณ์นี้ล่ะค่ะ ดิฉันขอย้อนไปตอนสมัยที่เรายังเด็กหลายคนคงเคยจะได้ยินเรื่องราวที่เกี่ยวกับการพัฒนาไอคิว และอีคิว กันมาบ้าง ไอคิวก็คือการพัฒนาความสามารถของสมอง ส่วนอีคิวก็คือ การพัฒนาในด้านของอารมณ์ และวันนี้เราจะมาอธิบายถึงความสำคัญของอีคิวในวัยเด็กที่จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตไปยันโตได้เลยล่ะค่ะ เพราะถ้าตอนเด็กๆเราได้ถูกปลูกฝังมาด้วยสภาพแวดล้อมแบบไหนโตขึ้นมาเราก็มีแนวโน้มที่จะแสดงออกมาดังนั้นเช่นกันอาทิเช่นตอนเด็กๆทุกคนในครอบครัวมักมาเล่นและเอาใจใส่เราคอยรับฟังเราและมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับเราเสมอ โตขึ้นมาเราก็จะเป็นคนที่ชอบยิ้มแย้มแจ่มใสและอารมณ์ดีอยู่เสมอ ผิดกับเด็กที่เติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่นั้นทะเลาะและมีปัญหากันมาตลอดเด็กคนนั้นก็จะกลายเป็นเด็กที่เก็บตัวและอาจมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวตามมาได้เห็นไหมค่ะว่าทำไมการพัฒนาอีคิวในเด็กนั้นจึงสำคัญแต่ถ้าเรากลับไปแก้ไขมันไม่ได้แล้วก็ขอแค่เพียงในทุกวันนี้ให้เรานั้นรู้เท่าทันและอย่าใช้อารมณ์ในการตัดสินทุกอย่างในชีวิตเพราะนั้นอาจจะทำให้คุณได้พบกับความทุกข์ที่ไม่อาจเลี่ยงได้ก็เป็นได้ ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จะช่วยทุกคนได้มากให้รู้จักวิธีการสะกดกลั้นอารมณ์และความรู้สึกที่ไม่ดี ไม่ให้เรานั้นเอาออกมาใช้กับบุคคลรอบข้างของเราซึ่งมันสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันและกับการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมเลยทีเดียว นอกจากที่จะได้เทคนิคดีๆแล้วคุณยังจะได้เข้าใจและรู้จักที่จะนำความรู้ที่ได้ไปใช้กับทุกสถานการณ์ที่ต้องพบเจอในชีวิต เชื่อเถอะว่าถึงเวลานั้นคุณจะกลายเป็นคนที่มีเหตุผลและไม่มีเรื่องให้ต้องทุกร้อนใจอีกเลย ดังนั้นจึงไม่อยากให้มองข้ามสิ่งดีๆที่จะมีเข้ามาในชีวิตและใช้อารมณ์นำพาให้ชีวิตเดินไปอย่างไร้จุดมุ่งหมายค่ะ...

EQ ดี อารมณ์ดี ชีวีสดใส หนังสือที่จะทำให้ทุกคนได้ตระหนักถึงเรื่องการใช้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน ว่ามันจะส่งผลดีและผลเสียต่อเราอย่างไรบ้าง เป็นอีกหนึ่งหนังสือที่ดี ไม่ควรมองข้ามและพลาดอย่างเด็ดขาดเลยค่ะ ในปัจจุบันคนเรานั้นมีเรื่องมากมายที่เกิดขึ้นในชีวิตของแต่ละคน ทุกเรื่องราวล้วนส่งผลถึงการแสดงออกทางอารมณ์ได้เป็นอย่างดี และอารมณ์ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การใช้ชีวิตของเรานั้น ดำเนินไปอย่างราบเรียบหรือจะทุลักทุเลก็หนีไม่พ้นเพราะเจ้าตัวอารมณ์นี้ล่ะค่ะ ดิฉันขอย้อนไปตอนสมัยที่เรายังเด็กหลายคนคงเคยจะได้ยินเรื่องราวที่เกี่ยวกับการพัฒนาไอคิว และอีคิว กันมาบ้าง ไอคิวก็คือการพัฒนาความสามารถของสมอง ส่วนอีคิวก็คือ การพัฒนาในด้านของอารมณ์ และวันนี้เราจะมาอธิบายถึงความสำคัญของอีคิวในวัยเด็กที่จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตไปยันโตได้เลยล่ะค่ะ เพราะถ้าตอนเด็กๆเราได้ถูกปลูกฝังมาด้วยสภาพแวดล้อมแบบไหนโตขึ้นมาเราก็มีแนวโน้มที่จะแสดงออกมาดังนั้นเช่นกันอาทิเช่นตอนเด็กๆทุกคนในครอบครัวมักมาเล่นและเอาใจใส่เราคอยรับฟังเราและมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับเราเสมอ โตขึ้นมาเราก็จะเป็นคนที่ชอบยิ้มแย้มแจ่มใสและอารมณ์ดีอยู่เสมอ ผิดกับเด็กที่เติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่นั้นทะเลาะและมีปัญหากันมาตลอดเด็กคนนั้นก็จะกลายเป็นเด็กที่เก็บตัวและอาจมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวตามมาได้เห็นไหมค่ะว่าทำไมการพัฒนาอีคิวในเด็กนั้นจึงสำคัญแต่ถ้าเรากลับไปแก้ไขมันไม่ได้แล้วก็ขอแค่เพียงในทุกวันนี้ให้เรานั้นรู้เท่าทันและอย่าใช้อารมณ์ในการตัดสินทุกอย่างในชีวิตเพราะนั้นอาจจะทำให้คุณได้พบกับความทุกข์ที่ไม่อาจเลี่ยงได้ก็เป็นได้ ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จะช่วยทุกคนได้มากให้รู้จักวิธีการสะกดกลั้นอารมณ์และความรู้สึกที่ไม่ดี ไม่ให้เรานั้นเอาออกมาใช้กับบุคคลรอบข้างของเราซึ่งมันสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันและกับการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมเลยทีเดียว นอกจากที่จะได้เทคนิคดีๆแล้วคุณยังจะได้เข้าใจและรู้จักที่จะนำความรู้ที่ได้ไปใช้กับทุกสถานการณ์ที่ต้องพบเจอในชีวิต เชื่อเถอะว่าถึงเวลานั้นคุณจะกลายเป็นคนที่มีเหตุผลและไม่มีเรื่องให้ต้องทุกร้อนใจอีกเลย ดังนั้นจึงไม่อยากให้มองข้ามสิ่งดีๆที่จะมีเข้ามาในชีวิตและใช้อารมณ์นำพาให้ชีวิตเดินไปอย่างไร้จุดมุ่งหมายค่ะ...

52 กิจกรรม สบายใจ ไกลความเครียด อีกหนึ่งในหนังสือแก้ปัญหาและช่วยลดสภาวะความเครียดในชีวิตให้กลายเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยอีกเล่มนึงที่อยากจะนำมาบอกเล่าและอยากให้เพื่อนๆทุกคนได้ลองหากันไปอ่านเพื่อจะช่วยให้ทุกคนนั้นได้มีช่วงเวลาที่ดีๆและเป็นคนที่มีแต่ความสุขอยู่เสมอ หลังจากที่ดิฉันได้เคยอ่านหนังสือคลายเครียดหรือวิธีการต่างๆเพื่อให้ชีวิตดูมีความสุขขึ้นบ้างนั้นไปหลายเล่มแล้วจึงอยากที่จะเริ่มเรียนรู้ถึงความรู้สึกของการที่จะต้องการแก้ปัญหาการเครียดให้หมดไปสามารถหากิจกรรมอะไรทำได้บ้าง จึงมาพบเจอกับหนังสือเล่มนี้ที่จะรวบรวมกิจกรรมสร้างสรรค์ดีๆไว้มากถึงห้าสิบสองกิจกรรมด้วยกัน งานนี้ขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดเลยว่าอยากจะใช้วิธีไหน เพราะว่ามนุษย์เราทุกคนล้วนมีความชอบและความรู้สึกต่อสิ่งของอย่างเดียวกันที่แตกต่างไม่เหมือนกันอยู่แล้วดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าเราจะใช้วิธีการคลายเครียดแบบเดียวกันแต่ได้ผลต่างนั้น ฉะนั้นตัวเราเองจะต้องรู้จักตัวเองให้มากก่อนว่าสิ่งที่ทำให้เรานั้นพอใจและมีความสุขนั้นมันมีอะไรบ้าง เมื่อได้คำตอบแล้วมันก็ไม่ใช้เรื่องยากอีกต่อไปที่จะทำให้ความเครียดนั้นอยู่กับเราได้ไม่นาน เมื่อดั่งตัวดิฉันเองที่จะมีความสุขทุกครั้งที่ได้นั่งอ่านหนังสือดีๆสนุกๆสักเรื่อง ในบรรยากาศที่สงบปราศจากความวุ่นวายเพียงเท่านี้ก็จะทำให้คุณนั้นสนุกกับการได้ทำในสิ่งที่รักไปพร้อมๆกับการสร้างความสุขให้กับชีวิตอีกด้วย แต่ถ้าใครยังไม่รู้จริงๆว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไรก็ง่ายๆเลยค่ะเมื่ออ่านวิธีต่างๆในหนังสือจนครบทุกวิธีแล้วให้คุณนั้นเลือกวิธีที่อยากจะทำมากที่สุดมาลองทำตามดูอาจจะเป็นการปลูกต้นไม้ หรือการจัดสวนก็แล้วแต่ ลองทำกิจกรรมแล้วถามตัวเองว่าเราชอบมันไหมแล้วสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้มันให้ความสุขแก่เราหรือเปล่า ถ้าได้คำตอบว่าไม่ก็ให้กลับไปเลือกวิธีใหม่มาลองทำ ทำแบบนี้ซ้ำๆแล้วคุณจะเจอสิ่งที่ชอบและมีความสุขกับการที่ได้ลงมือทำมันแน่นอนค่ะ นอกจากคุณจะได้เรียนรู้ตัวเองแล้วอีกสิ่งที่คุณจะได้รับจากมันก็คือประสบการณ์ที่จะสอนให้เราเข้าใจในความเปลี่ยนแปลงของความคิดและความรู้สึกว่าเรานั้นไม่ได้รู้สึกอย่างเดิมแน่ถ้าได้เจอหรือต้องกลับมาพบกันอีกครั้ง ฉะนั้นจึงขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆทุกคนนะคะได้ก้าวผ่านเรื่องราววุ่นวายที่เข้ามาทดสอบความเข้มแข็งและกำลังใจให้พร้อมที่จะสู้และเดินต่อไปในวันข้างหน้าของชีวิตอย่างมั่นคง...และไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใดอีกต่อไป...

52 กิจกรรม สบายใจ ไกลความเครียด อีกหนึ่งในหนังสือแก้ปัญหาและช่วยลดสภาวะความเครียดในชีวิตให้กลายเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยอีกเล่มนึงที่อยากจะนำมาบอกเล่าและอยากให้เพื่อนๆทุกคนได้ลองหากันไปอ่านเพื่อจะช่วยให้ทุกคนนั้นได้มีช่วงเวลาที่ดีๆและเป็นคนที่มีแต่ความสุขอยู่เสมอ หลังจากที่ดิฉันได้เคยอ่านหนังสือคลายเครียดหรือวิธีการต่างๆเพื่อให้ชีวิตดูมีความสุขขึ้นบ้างนั้นไปหลายเล่มแล้วจึงอยากที่จะเริ่มเรียนรู้ถึงความรู้สึกของการที่จะต้องการแก้ปัญหาการเครียดให้หมดไปสามารถหากิจกรรมอะไรทำได้บ้าง จึงมาพบเจอกับหนังสือเล่มนี้ที่จะรวบรวมกิจกรรมสร้างสรรค์ดีๆไว้มากถึงห้าสิบสองกิจกรรมด้วยกัน งานนี้ขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดเลยว่าอยากจะใช้วิธีไหน เพราะว่ามนุษย์เราทุกคนล้วนมีความชอบและความรู้สึกต่อสิ่งของอย่างเดียวกันที่แตกต่างไม่เหมือนกันอยู่แล้วดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าเราจะใช้วิธีการคลายเครียดแบบเดียวกันแต่ได้ผลต่างนั้น ฉะนั้นตัวเราเองจะต้องรู้จักตัวเองให้มากก่อนว่าสิ่งที่ทำให้เรานั้นพอใจและมีความสุขนั้นมันมีอะไรบ้าง เมื่อได้คำตอบแล้วมันก็ไม่ใช้เรื่องยากอีกต่อไปที่จะทำให้ความเครียดนั้นอยู่กับเราได้ไม่นาน เมื่อดั่งตัวดิฉันเองที่จะมีความสุขทุกครั้งที่ได้นั่งอ่านหนังสือดีๆสนุกๆสักเรื่อง ในบรรยากาศที่สงบปราศจากความวุ่นวายเพียงเท่านี้ก็จะทำให้คุณนั้นสนุกกับการได้ทำในสิ่งที่รักไปพร้อมๆกับการสร้างความสุขให้กับชีวิตอีกด้วย แต่ถ้าใครยังไม่รู้จริงๆว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไรก็ง่ายๆเลยค่ะเมื่ออ่านวิธีต่างๆในหนังสือจนครบทุกวิธีแล้วให้คุณนั้นเลือกวิธีที่อยากจะทำมากที่สุดมาลองทำตามดูอาจจะเป็นการปลูกต้นไม้ หรือการจัดสวนก็แล้วแต่ ลองทำกิจกรรมแล้วถามตัวเองว่าเราชอบมันไหมแล้วสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้มันให้ความสุขแก่เราหรือเปล่า ถ้าได้คำตอบว่าไม่ก็ให้กลับไปเลือกวิธีใหม่มาลองทำ ทำแบบนี้ซ้ำๆแล้วคุณจะเจอสิ่งที่ชอบและมีความสุขกับการที่ได้ลงมือทำมันแน่นอนค่ะ นอกจากคุณจะได้เรียนรู้ตัวเองแล้วอีกสิ่งที่คุณจะได้รับจากมันก็คือประสบการณ์ที่จะสอนให้เราเข้าใจในความเปลี่ยนแปลงของความคิดและความรู้สึกว่าเรานั้นไม่ได้รู้สึกอย่างเดิมแน่ถ้าได้เจอหรือต้องกลับมาพบกันอีกครั้ง ฉะนั้นจึงขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆทุกคนนะคะได้ก้าวผ่านเรื่องราววุ่นวายที่เข้ามาทดสอบความเข้มแข็งและกำลังใจให้พร้อมที่จะสู้และเดินต่อไปในวันข้างหน้าของชีวิตอย่างมั่นคง...และไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใดอีกต่อไป...