Beloved Pumpkin คุณหมอขอเป็นป๋า (Moonluna)

Beloved Pumpkin คุณหมอขอเป็นป๋า (Moonluna)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: Beloved_Pumpkin
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 350.00 บาท 87.50 บาท
ประหยัด: 262.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

คำนำ

      นิยายเรื่องนี้เกือบแต่งไม่เสร็จแล้ว แต่เพราะมีคนรีเควสมาหนักมากว่าอยากได้เล่มเก็บไว้ แต่ต้องขอโทษก่อนเลยว่าทำเล่มไม่ได้จริงๆ เพราะติดหลายอย่างมาก  ตอนแรกไม่คิดว่าจะมีคนชื่นชอบผลงานเยอะขนาดนี้ด้วยซ้ำเพราะอยากสารภาพว่า นี่คือนิยายที่แต่งเรื่องแรก แล้วยอดคนอ่านก็เหยียบห้าแสน แฟนคลับก็ปาไปเกือบหมื่น คือเห็นแล้วก็ปลื้มมาก ต้องขอบคุณนักอ่านทุกคนอีกทีค่ะที่ติดตามและชื่นชอบผลงาน แถมยังคอยส่งกำลังใจด้วยความเมนต์ที่อ่านแล้วต้องอมยิ้มตาม มันคือกำลังใจอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เขียนออกมาดี

        เรื่อง ขอเป็นป๋า เป็นเรื่องที่เกิดจากจินตนาการ ตอนนั้นไรท์ว่างงานไม่มีอะไรทำ เลยหยิบโน๊ตบุคมาแต่งนิยาย แรกๆสมองไหลลื่น แต่พอได้งานปุ๊บเริ่มไม่มีเวลาเขียน แต่ก็หาเวลามาลงให้นักอ่านทุกวันเพราะนิยายได้รับผลตอบรับดีเกินคาด จะไม่ลงให้อ่านก็กระไรอยู่ เพราะไรท์ก็เคยเป็นนักอ่านมาก่อน ทำไมจะไม่เข้าใจหัวอกเดียวกัน 

      ไรท์ค้นพบว่ามนุษย์สมัยนี้ชอบเรื่องที่สะท้อนมาจากชีวิตจริง เรื่องที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเรา เพราะในชีวิตของเรากว่าจะหาคนที่ใช่และรักเราจริงๆสักคนเจอก็ใช้เวลาไม่น้อย นิยายเรื่องนี้ไรท์จึงอยากให้เป็นกำลังใจของนักอ่านทุกคน ว่าสักวัน สามีในอนาคตแบบคุณหมอตรินต้องอยู่ในมือเรา

   สุดท้ายต้องขอขอบคุณดาราเกาหลี ฮุนนี่ นี่ขอยืมมาเป็นพระเอก ‘พี่ฮุนนี่’ ที่สละตัวเองมาเป็นผู้ชายของนางเอกสุดสวยของเรา ‘น้องซอลลี่’ 

      สุดท้ายจริงๆ ขอบคุณนักอ่านทุกคนอีกครั้งที่คอยให้กำลังใจ  และขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

บทนำ

Trin’s Part

“อย่าลืม ทานยาที่หมอสั่งให้หมดนะครับ ถ้าทานไม่หมดโดนหมอจับฉีดยาไม่รู้ด้วย” ผมพูดไปก็มองหน้าเด็กหญิงตัวน้อยในชุดกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์อย่างเอ็นดูในความน่ารัก  

“ขอบคุณคุณหมอมากนะจ้ะ” แม่ของเด็กหญิงยกมือไหว้ผมด้วยสีหน้าขอบคุณ  ผมเลยรีบไหว้กลับ

“ มันเป็นหน้าที่หมออยู่แล้วครับ” ผมยิ้มให้ เอื้อมมือไปลูบผมเด็กน้อย

           ผมนั่งอ่านชาร์ทคนไข้ เพื่อสรุปเคสของวันนี้  แต่ทว่าในจังหวะที่กำลังจะออกห้องตรวจเสียงเตือนจากไอโฟนก็ดังขึ้น  หยิบมาอ่านก็จับใจความได้ว่า คืนนี้ แก๊งหมอหล่อ (บอกต่อ) ฉายาเลื่องลือที่สืบมาตั้งแต่สมัยเรียนนัดรวมตัวกันไปผับ XX ตอนห้าทุ่ม  โดยมีประโยคสุดท้ายของไอ้แม๊กซ์ที่ทำให้ผมตื่นเต้นไปด้วย     MAXIM : กูจะพาลูกสะไภ้แม่ไปเปิดตัว พวกมึงต้องมาให้ครบ

        ผมมองดูนาฬิกาแต่ยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมง  ผมกลับคอนโดไปงีบก่อนละกัน

Trin Ends

@ One Condo 

“โอ้ยยย ๆ   ฝรั่งหวานกรอบดีมั้ยจ้ะ  ??  ไม่มีบ่งมีแบ่งเพื่อนแดกบ้างอะเดี๋ยวนี้”  ฉันแซว ยัยมะนาวกับแฟนรุ่นน้องปีหนึ่ง ทั้งคู่สลับกันป้อนผลไม้อย่างน่าหมั่นใส้ สำหรับฉันแล้วไม่มีความคิดที่จะเลี้ยงเด็กแบบยัยมะนาวในสมองเลย มีแค่ความคิดที่จะสูบและดูดเงินจากเพศผู้เท่านั้น และคนที่เพลงพระพายเลือกต้อง หล่อล่ำ  สายเปย์  ขับออดี้ หรือไม่ก็พอร์ช

  “แหม  กว่าดั้นจะจีบ น้องชอห์น ติดต้องตบชะนีมาแล้วกี่ตัวแกไม่รู้หรอ” ฉันนั่งอมยิ้มกับคำพูดของเธอ มะนาวเป็นผู้หญิง รูปร่างสูงโปร่ง นมเป็นนม เอวเป็นเอว  และชอบแต่งตัวตามยุคสมัย  แถมเธอยังครองตำแหน่งเป็นสาวเซ็กซี่ของมหาลัยอีกด้วย   

“จ้าาาาา   แล้ววันนี้จะไปเที่ยวไหนกันป่ะ ??” ฉันถามเพราะวันนี้สอบวิชาสุดท้ายเทอมหนึ่งของปีสามแล้ว  ปิดเทอมนี้ฉันจะทำงานหาเงินให้ร่างพังไปเลย  หึหึ

“จะเหลือหรอออออ ?  แก๊งของ อิดีดี้ มันโทรจองโต๊ะตั้งแต่เมื่อวาน ตอนนี้คงแต่งตัวเตรียมออกล่าเหยื่อกันอยู่ละมั้ง “มะนาวพูดพร้อมยกแก้วชาเขียวมาดูด “น้องชอห์นก็ไปด้วยนะแก”

“ งี้ฉันก็ไม่มี คู่ควง อีกแล้วดิ  ชิ ! เซงค่ะ”   ฉันพูดติดตลก

          “งั้นคืนนี้ก็หา เหยื่อ สักคนดิ”  มะนาวยักคิ้วให้ แล้วเดาะลิ้นอย่างด้วยใบหน้าร้ายกาจ

“พอดียังไม่รีบ…กลับห้องไปเตรียมตัวก่อนนะ” ฉันโบกมือให้มะนาวกับชอห์น แล้วกลับห้องของตัวเอง ซึ่งอยู่ข้างบนห้องนางนี่เอง

        10 PM 

       เสียงออดประตูดังปลุกร่างเล็กให้ตื่นจากการหลับไหล   “อ้าว ถึงเวลาละหรอเนี่ย ฉันยังไม่ได้แต่งตัวเลยอะ”   พอเปิดประตูฉันก็ทำหน้างัวเงียใส่มะนาว ร่างสูงเพรียวอยู่ในชุดเดรสเปิดไหล่สีน้ำเงินเข้ม ซึ่งความสั้นคงช่วยระบายอากาศเป็นอย่างดี 

“ตลอดเลย…จะให้รอป่ะ ?” มะนาวทำเสียงหงุดหงิดใส่ ชีกรอกตาแล้วเหล่มองแฟนหนุ่มเนือยๆ 

“ ไม่ไรๆ กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จไปกันก่อนได้เลย  ฉันขับรถตามไปได้ ผับ XX ใช่ป่ะ” ฉันถามย้ำชื่อผับ

“ซื้อใบขับขี่มาอย่างแกจะขับได้แน่นะ??”  อ้าว เพื่อนเนรคุณ พูดประจานฉันต่อหน้าเด็กได้ไง 

“ฉันขับได้น่า  แกไปเหอะ เดี๋ยวถึงละจะโทรหา เจอกันๆ” ฉันพูดจบก็รีบดันประตูปิด           

   ณ ผับ XX  11.50 PM

          ร่างระหงษ์ก้าวเข้ามาในผับ ในเวลาเดียวกันมือเล็กก็กดข้อความหาเพื่อนสนิท คนตัวเล็กก็เดินไปโซน VIP ที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวกว่าชั้นที่เธอกำลังยืนอยู่ 

“อ๊ะ !! ขอโทษค่ะ”  ฉันบังเอิญชนเข้ากับผู้ชายร่างสูง พอเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร่างสูงเกินกว่า180cm ซึ่ง มือของเขาที่โอบเอวฉันจากเหตุบังเอิญมันรัดแน่นจนฉันขยับตัวไปไหนไม่ได้เลย  

 “ ขอโทษเช่นกันครับ”  ร่างสูงพูดเสียงนุ่ม เขาปล่อยมืออกจากร่างฉัน จากนั้นก็ล้วงกระเป๋าแล้วหยิบกระดาษใบเล็กให้  ฉันมองเชิงถามว่าเขาให้เขาทำไม แต่เขาก็ได้แค่ยืนยิ้มร้าย

“ให้นามบัตรฉันทำไมคะ?” อ่อยแรง ถึงกระนั้นฉันก็ไม่เสียมารยาทที่จะปฏิเสธ จึงหยิบมาใส่กระเป๋าไว้  Y.Y

“ มีคนสนับสนุนค่าเทอมปีนี้หรือยังครับคนสวย” น้ำเสียงไม่เท่าไรแต่ใบหน้าเข้มรุกหนักมาก  สายตาที่เขาส่งให้มันบ่งบอกได้ดีว่าเขาปรารถนาสิ่งใด 

“ พอดีว่าตอนนี้มีคนเปย์ให้อยู่แล้ว ไว้ของขาด จะติดต่อไปนะ” ฉันทาบนิ้วชี้ที่ริมฝีปากตัวเองก่อนจะยกมันไปกดที่ริมฝีปากเย็นชืด  จากนั้นก็หมุนตัวเดินมุ่งหน้าไปที่โต๊ะดุจนางพญา

TRIN’s Part

         นกไม่นกเดี๋ยวรู้เลย…. ผมมองร่างบางเดินที่พึ่งเดินจากไป แต่กลิ่นกายสาวของเธอยังตราตรึงที่อกอยู่เลย บอกคำเดียวว่าเสียดาย  ผมยืนมองจนเธอเดินไปนั่งที่โต๊ะๆ หนึ่ง เพื่อนของเธอมีทั้งชายหญิงและประเภทที่สาม นั่งอยู่เป็นคู่ๆ  “เข้าทาง” ผมพูดกับตัวเองแล้วจึงเดินไปที่โต๊ะ

“โทษทีว่ะ กูเผลอหลับไป เลยมาช้า” พอนั่งลงผมก็รีบแก้ตัวก่อนจะโดนพวกมันบ่น พลางมองขวดเหล้าบนโต๊ะ

“ อะ กูชงให้”  ธอร์นยื่นแก้วทรงเตี้ยที่บรรจุเครื่องดื่มสีเข้มจัดให้

“เออ ขอบใจ แล้วนี่พวกมึงแดกหรือเททิ้ง ไอ่ห่า คิดว่าเป็นเจ้าของผับไง”

“เออออ ก็กูเป็นเจ้าของไงสราสสส” แม๊กพูดขึ้นมา พร้อมกระดกเครื่องดื่มในแก้วแบบเพียวๆ

“ ห่า เถื่อนชิบหาย...พวกมึงเนี่ย” ครูซที่นั่งเงียบๆ โพล่งขึ้นมา แต่มันก็ยกแก้วมาชนแก้วกับผม

“แล้วไหนอะ ว่าที่ลูกสะไภ้แม่ของมึง” ผมถามไอ้แม๊กซ์ที่กำลังกดมือถือยิกยิก

“รอแป๊บ กำลังมา” ปากมันตอบ แต่สายตามันก็ยังคงจ้องที่หน้าจอ 

“แล้วไมมึงไม่รับมาพร้อมกันเลยวะ เสียเวลาพวกกูเนี่ย เที่ยงคืนละยังไม่เสด็จ ต้องจุดธูปเรียกป่ะ ?” ธอร์นพูดขึ้นเชิงตลก

“ปากมึงท่าจะขังหมาไว้เยอะ กูแม่งอยากฉีดยากันพิษสุนัขบ้ากันไว้เลย” ไอ้ครูซพูดแซวบ้าง 

        ระหว่างที่พวกมันคุยกันสายตาของผมยังคงเหลือบมองไปที่โต๊ะที่มีสาวน้อยหน้าหวานยืนขยับสะโพกโยกย้ายไปตามจังหวะเพลง เธออยู่ในเสื้อเกาะอกเอวลอยสีดำและกระโปรงยาวสีเดียวกันที่ผ่าสูงอย่างน่าหวาดเสียว แต่มันเผยให้เห็นขาขาวเนียนจนผมอดที่จะกลืนน้ำลายลงไม่ได้  ผมไม่เคยตกหลุมรักอย่างจังกับผู้หญิงคนไหนแบนี้เลย  ผมคิดจนเผลอเลียริมฝีปาก

“เชรี่ยตริน มึงคงไม่รู้ตัวว่าหน้ามึงหื่นมาก” แมกซ์พูดแล้วมือยื่นไอโฟนที่เข้าเมนูกล้องไว้ให้

“พวกมึง กูอยากได้....เด็กคนนั้นว่ะ” สามสหายมองตามสายตาผม

“เชรี่ยยยยยยยยย ยยยยย” พวกมันสามคนอุทานพร้อมกันเสียงดัง

“มึงอยากหัวเราะ คุก คุก คุก  ไงวะ”  ธอร์นกระตุกยิ้ม

กูว่า  กูจะลองเลี้ยงเด็กว่ะ อยากลองอะไรไหม่ๆบ้าง ”  ผมยกแก้วเหล้าชนกับพวกมันอีกรอบอย่างถูกใจ

         ยิ่งดึกเสียงเพลงในผับดังและมันส์ขึ้นเรื่อยๆ เด็กสาวที่เป็นเป้าสายตาของก็กำลังออกลีลาแดนซ์กระจายกับกลุ่มเพื่อนของเธอ   สวย น่ารัก แถมโคตรเซ็กซี่ 

“เซ็กซี่จาดดดดดดดด”ธอร์นพูดขึ้นมาอีกครั้ง สายตามันก็จ้องอยู่ที่เธอ

“เหี้ยยๆๆ  ของกู”   ผมมะเหงกมันไปที   

“แหม หวงจังเลยนะมึง เบอร์อะได้มายัง หรือได้เบอร์รองเท้ามาแทน ?” พอมันถามเสียงหัวเราะของไอ้แม๊กซ์กะไอ้ครูซก็ตามมา 

“ยัง…แต่กูให้เบอร์ตัวเองไปแล้ว”  ลั่นเลย ถ้าเธอทำหายผมได้นกจริงๆ “อีกนานป่ะวะ เมียมึงจะมา กูจะไปห้องน้ำสักพัก”  ผมถามไอ้แมกซ์  เพราะตอนนี้สายตาผมมันยังจับจ้องเป้าหมายที่ตอนนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางห้องน้ำคนเดียว

“ไปทำเหี้ยไรที่ห้องน้ำเป็นพักวะ ขี้ ?”ครูซยิ้มบางๆ ใช้สายตาเจ้าเล่ห์ถาม

“ ก็เหี้ยละ  กูจะไปเบริ์น รู้สึกอึดอัด” คำตอบผมเรียกเสียงหัวเราะดังลั่น  

       ระหว่างที่ผมเดินตามร่างระหงส์ก็อยากสั่งให้ไอ้แมกซ์ปิดผับ แม่งเอ้ยทำไมเธอต้องไปเดินเบียดในกลุ่มผู้คนแบบนั้นด้วยวะ เมื่อเธอเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ผมจึงยืนแอบอยู่อีกมุมเพื่อดักรอ  ไม่นานเธอก็เดินออกมา  ผมเลยรีบเดินเข้าไปชนเธออีกครั้งอย่างตั้งใจ

“ว๊ายยยยยยยยยยยย” เธอไม่ทันตั้งตัวจึงทำให้เธอเสียหลัก ผมเลยได้จังหวะช้อนร่างสมส่วนไว้แนบแน่น

“นึกว่าใคร เจอกันอีกแล้วนะครับ :)” ใบหน้าจิ้มลิ้มเงยมองผมด้วยสายตางุนงง  ดวงตาปรือๆของเธอทำให้ผมหลงจนละสายตาไปไหนไม่ได้เลย

Trin Ends

บทที่ 1  :  ครั้งแรกที่เราเจอกันต้องเป็นวันที่น่าจดจำ

       ให้ทายฉันเจอใคร ?ก็คนเดิม เหยื่อที่ติดกับดักฉันเข้าซะแล้ว เมื่อเขาสบโอกาสได้แตะเนื้อต้องตัวฉันเป็นครั้งที่สอง คงไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ และครั้งนี้ดูจะรุกหนักขึ้น เพราะมือใหญ่เพิ่มแรงบีบที่เอวคอดกิ่วแน่นขึ้น จนร่างเราบกเบียดกัน ฉันทำใจกล้าด้วยการยกแขนสองข้างโอบรอบลำคออุ่น

“อย่าบีบแรงสิคะ หนูเจ็บ” ฉันพูดเสียงเบาๆ พลางส่งสายตายั่วยวน และถ้าไม่หาทางเอาตัวรอดตอนนี้ ฉันคงได้เสร็จผู้ชายร้ายกาจคนนี้แน่ๆ  ใจฉันชักหวั่นๆกับสายตาคู่เรียวที่ดุจหมาป่า ฉันต้องเป็นผู้ล่าสิ

“อ้ะ  ไม่รู้ตัวเลย โทษทีนะครับ” เขาไม่ได้ละมือออกไปแต่เปลี่ยนเป็นการลากนิ้ววนไปมาแทน ขนลุกอะ  แล้วอยู่ๆสมองก็โล่งจนรู้สึกเบลอ ได้แต่ภาวนาให้เพื่อนสักคนเดินมาตาม

“เอ่อ ถ้าไม่มีไรแล้ว หนูขอตัวก่อนนะคะ เพื่อนรออยู่”  แอ๊บใสใสไปก่อนละกัน

“ข้อเสนอที่ให้ไป จะตอบตกลงเมื่อไรหรอครับ”  บอกตามตรงว่าฉันแพ้สายตาคมกริบของเขาหนักมาก

“ที่บอกจะเปย์ค่าเทอมให้หรอ” อยู่ๆเสียงฉันก็ยานขึ้นมา ไม่ได้ๆ จะเมาไม่ได้ หาข้ออ้างแล้วกลับโต๊ะก่อนดีกว่า “เดี๋ยวหนูติดต่อกลับไปนะ” แต่เขากลับก้มหน้าลงมาชิดที่คอ ลมหายใจร้อนรดลงมาเรื่อยๆ  

“งั้นขอเบอร์ไว้ก่อน” เขาเงยหน้าขึ้นมา แล้วยื่นมือถือให้หน้าตาเฉย ฉันเลยยื่นมือรับมา

 “ กดเสร็จยิงมาด้วย เผื่อโทรไปติดเครื่องอื่นแทน” เหมือนจะรู้ทันเป็นหมอดูป่ะเนี่ย  Y.Y  

“หนูจะให้เบอร์คนอื่นทำไมล่ะ ป๋าก้ออออ”  ฉันทุบหน้าอกแน่นเบาๆสองที  มารยาหญิงร้อยเล่มเกวียน วันนี้ของัดมาใช้สักเกวียนนะ  ฉันยื่นมือถือคืน “โทรเองเลยดีกว่าค่ะ” เขารับไปแล้วกดยิงมาทันที พอเสียงมือถือฉันดัง เขาจึงยกยิ้มอย่างพอใจ เอาที่สบายใจเลย!  แต่เครื่องมือสื่อสารก็ถูกยัดใส่มือฉันอีกรอบ   ต้องการอะไรอีก ??

“จะมั่นใจได้ว่าว่าจะไม่โดน block เบอร์” เขาถามเสียงปกติ แต่ใบหน้ากำลังจ้องอย่างต้องการคำตอบ

“ถ้างั้นก็ไปส่งหนูเลยมั้ยละคะ”  ฉันเป็นพวกไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว ความเมาทำให้ความสามารถในการควบคุมความประพฤติของตัวเองน้อยลงด้วย แต่เพียงแค่พริบตาร่างฉันก็ถูกผลักจนหลังแนบไปกับผนังเย็นๆ จู่ๆริมฝีปากร้อนก็ทาบลงมาที่ปากฉัน มือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนมาดึงสะโพก มันไม่ใช่จูบลึกซึ้งแต่คล้ายกับทักทาย เมื่อปากร้อนผละออก นัยน์ตาสีเข้มหลุบมองที่ริมฝีปากฉัน ฉันจึงยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองทันที เขาเอียงศีรษะ

รู้ใช่มั้ย ว่า ป๋า นั่งโต๊ะไหน”เสียงทุ้มงึมงัมอยู่ข้างใบหูอีกครั้ง สติฉัน (ที่หลุดไปแล้วบางส่วน ) หลุดครบเต็ม 100% ความใกล้ชิดก็ยิ่งทำให้หัวใจยิ่งเต้นรัว ทั้งกลิ่นน้ำหอม ทั้งอัตราเต้นของหัวใจทำฉันแทบล้มทั้งยืน

“..................”  ว่าแต่….เมื่อกี้เขาพูดว่าไงนะ O.O'   รู้สึกว่าสมองมันโล่งๆ เตียนๆ นี่ใช่ไหมที่เรียกว่าสติหลุด

“ อ้าว ทำหน้างงทำไม ป๋าถามว่ารู้ใช่ไหมว่าโต๊ะป๋าอยู่ไหน ??”   

Trin’s Part

      ทำไมเธอทำหน้าเอ๋อ ดูนิ่งๆไป  แถมกลิ่นเหล้าแรงขนาดนี้ ผมจับไหล่เล็กไว้เพื่อพยุงเธอ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนปรือจัดตามประสาคนเมา แต่ทำไมผมมองแล้วมันยั่วยวนจังวะ

               ถ้าช้ากว่านี้สติเธออาจจะกลับมาเต็มร้อย ผมดึงข้อมือเล็กให้เดินตามมายังลานจอดรถ เธอไม่ขัดขืน แต่กลับส่งสายตาปรือมาให้แทน พอเปิดประตูแล้วดันตัวเธอเข้าไป อีกมือก็หยิบมือถือมากดโทรออกอย่างไว 

 [ โหล มึงหายหัวไปไหนเนี่ย ว่าที่แม่ของลูกกูมาละนะ ]  เสียงไอ้แมกซ์เมาจัดเลย

 “เฮ้ยมึง กูมีธุระ ต้องรับกลับ”    ปากผมพูดแต่สายตายังคงจ้องมองสาวน้อยตรงหน้า เรียวขาที่โผล่ผ่านเนื้อผ้าสีดำนั้นเรียกความสนใจจากผมได้อย่างดี 

 [  ธุระส้นตรีนกูดิ  ได้สาวก็บอก อย่ากั๊ก]  มันพูดเหมือนเห็น แต่มันพูดอีกก็ถูกอีก ฮ่าๆ

“ เออออ เป็นผู้ชายอย่าเสือกมาก แค่นี้นะ”  พูดจบผมก็กดวางสายทันที

    ผมยืนค้ำประตู มองจ้องใบหน้าสีระเรื่ออีกครั้ง ชื่ออะไรผมยังไม่รู้เลย บ้านอยู่ไหนอีก พาไปคอนโดตัวเองเลยดีไหม  อีกใจก็ไม่อยากใจร้อน ท่าทางแปลกๆของเธอมันทำให้ผมยิ่งอยากรู้จัก  ผมสังเกตทุกครั้งที่เธอตอบโต้ สายตาเธอมันแสดงอาการหวาดกลัวซึ่งขัดกับลุคแมวยั่วสวาทที่เธอพยายามสร้างขึ้น

“ บอกป๋ามาซิ ว่าหนูชื่ออะไร บ้านอยู่ที่ไหน” ผมลอบมองดวงตาที่ใกล้ปิดเต็ม เธอปรือตามอง

 “เพลง   เพลงพระพาย  ธนไพศาลกุล” ดีที่ยังจำชื่อตัวเองได้

“ เพลงพระพาย” ผมพูดชื่อเธอแล้วยิ้มกับตัวเอง พอเดินวกกลับไปนั่งฝั่งคนขับ ผมก็หันข้างไปหาเธออีกครั้ง “แล้ว....จะให้ไปส่งที่ไหน”   เธอหันมาสบตากับผม  แต่สายตาของผมตอนนี้มันจดจ่ออยู่ที่ริมฝีปากกระจับสีระเรื่อ  เด็กผู้หญิงคนนี้สวรรค์ตั้งใจสร้างมาชัดๆ

“……”  ผมละสายตาจากริมฝีปาก มองหน้าเธอแต่เธอกลับไม่ตอบ ผมเลยตัดสินใจหยิบกระเป๋าเธอมาค้นดูเผื่อจะอะไรที่สามารถบอกว่าเธอพักอยู่ที่ไหน  

“หนูพักอยู่ที่นั่นหรอ?” และทันทีที่ผมเห็นคีย์การ์ดแบบเดียวกับที่ผมมีผมก็รีบถามเธอ เพลงพยักหน้าหงึกหงัก อย่างงี้ไม่น่ารอด  งั้นผมจะใจเย็นไปก่อน

        คียร์การ์ดแบบนี้มันมีเฉพาะสี่ชั้นบนสุดเท่านั้น มันต้องเป็นห้องริมปีกซ้ายที่ผมไม่เคยเห็นหรือได้ยินเสียงอะไรออกมาเลย เป็นห้องของยัยตัวร้ายนี่เอง เพราะอีกสองห้องที่เหลือเป็นของไอ้แมกซ์กับไอ้ธอร์น  ส่วนไอ้ครูซมันซื้อบ้านอยู่ รายนั้นไม่ชอบอยู่ตึกสูงๆ

         เธออาจจะเกิดมาคู่กับผม ไม่งั้นอะไรๆมันคงไม่เข้าทางไอ้ตรินแบบนี้หรอก ผมปล่อยร่างบางให้นั่งนิ่งๆและหันมาจับพวงมาลัย รีบมุ่งหน้ากลับคอนโด ใช้เวลาไม่นานเพราะมันจะตีสามอยู่แล้ว พอจอดรถได้ มองไปทางยัยลูกแมวที่นอนหลับอย่างสงบเสงี่ยมไปแล้ว เห็นแบบนี้คนเป็นหมอเด็กอย่างผมก็อดที่จะเอ็นดูไม่ได้ มือของผมเอื้อมไปบีบแก้มเย็นๆเล่น

        พอลิฟท์เปิด  จุดหมายของผมต้องเป็นห้องของเธอ พอหยิบคีย์การ์ดในกระเป๋าเธอผมก็เหลือบเห็นนามบัตรของตัวเอง เธอทำให้ผมหลุดยิ้มออกมาอย่างพอใจ อย่างน้อยเธอก็ไม่ทิ้ง  

        ห้องของเธอตกแต่งเรียบๆ ผนังสีครีม มันทำให้ห้องดูสว่าง สีของเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นสีน้ำตาลเข้ม ผมพาเธอเข้ามาในห้องนอน  เตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต ? ทำไมเล็กจังวะ แล้วผมจะนอนกับเธอยังไงล่ะทีนี้ ตัวผมไม่ใช่เล็กๆนะครับพอวางร่างเล็กกลิ่นหอมกรุ่นลงบนเตียงเครื่องนอนสีชมพูเข้ม เพลงก็ขยับตัวปรับท่านอนให้สบายขึ้น ลักหลับได้ไหม ผมคิดแล้วก็ก้มลงจูบเปลือกตาที่กำลังหลับไหลอย่างตั้งใจ

Trin Ends

สายของวันต่อมา

“ ห้าววววววววววววว” เอ๊ะ !  ฉันกลับมาคอนโดได้ไงอะ จำได้ว่าเดินออกมาจากผับกับผู้ชายคนนึง แต่จำหน้าไม่ได้แล้ว  หรือว่า.. ฉันก้มมองดูสภาพร่างกาย และเสื้อผ้าตัวเองก่อนทันที   OMG 

"กรี๊ดดดดดดดดดดดด"  นี่มันอะไรกัน ทำไมฉันอยู่ในสภาพนี้ ? O.O สภาพที่ไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้  ฉันมองตัวเองที่มีรอยแดง จ้ำๆ เต็มตัวไปหมด บนตัวมีเสื้อเชิทผู้ชายสวมอยู่ตัวเดียว รอบๆเตียงมีเสื้อผ้าของฉันที่ใส่เมื่อคืนวางกระจัดกระจายคนละทิศทาง T___T เมื่อคืนฉันโดนข่มขืนในห้องตัวเองหรอ? ทำไมฉันจำอะไรไม่ได้เลยอะ  แล้วผู้ชายคนนั้นคือใคร   !!

แอ๊ดดดดดดดดด .......

       ตึกตัก  ตึกตัก  ตึกตัก ....   เสียงหัวใจของฉันมันดังจนน่าตกใจ เพราะในห้องที่อาศัยอยู่คนเดียวคล้ายกับมีใครมาอยู่ด้วย   พอหันหน้าไปตามเสียงก็ปรากฎร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่ง ใบหน้าที่หล่อเข้มนั่นมันดูคุ้นตา เขาอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ ซึ่งดูแล้วเหมือนของฉันเลยอะ 

“นายเป็นใคร ??” ฉันชี้นิ้วไปที่เขา ใบหน้าหล่อยิ้มให้ แต่รอยยิ้มมันร้ายกาจจนฉันต้องระวังตัวมากขึ้น สายตามองหาอาวุธข้างกาย  

“ไม่ทันไร ก็จำสามีตัวเองไม่ได้แล้วหรอ?” เขาค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามา ฉันไม่รอช้าคว้าโคมไฟทรงสูงมาไว้ในมือเพื่อเป็นอาวุธทันที   ผู้ชายคนนี้ทำไมหน้าตาดีขนาดนี้ เพลงพระพายจะเป็นละลาย

“อย่าเข้ามานะ ยืนหยุดอยู่ตรงนั้น”  เขายกมือขึ้นอย่างคนยอมแพ้ แล้วหยุดฝีเท้าลงตามคำสั่ง

“ยังมึนหัวอยู่มั้ย  อ่ะนี่กินซะ”เขายื่นกล่องอะไรบางอย่างส่งให้ ฉันมองไปที่กล่องเล็กๆนั่น

“กินอะไร ? ทำไมต้องกิน  ? แล้วอ้างว่าเป็นสามีฉันได้ยังไง? เข้ามาห้องนี้ได้ยังไง ?”  เหมือนสมองกำลังแล่น ฉันรีบรัวคำถามใส่

“เมื่อคืนสนุกมาก  ไม่รู้มีคนเคยบอกมั้ยว่า เวลาหนูเมา หนูจะกลายเป็นนางแมวยั่วสวาท” ใบหน้าฉันร้อนวูบขึ้นมาเลย และดูเหมือนเจ้าของคำพูดจะชอบ

 “ แล้วมีใครเคยบอกมั้ยคะ ว่าแมวมันกลายร่างเป็นเสือได้เหมือนกัน”  ฉันเถียงกลับทันควัน

“อย่างหนู ป๋าว่าน่าจะกลายจากแมวสวาทมาเป็นเสือสวาท เพราะดูร้อนแรงขึ้นทุกทีที่ได้เจอ

“..........”  Y.Y  คือไร สมองตันไปชั่วขณะ “เสืออะไรก็ช่าง ตอบคำถามมาสิ”

“ยานี่.... ถ้าอยากท้องก็ไม่ต้องกิน…คำถามต่อมาคงรู้แล้ว งั้นคำถามสุดท้าย  ที่ป๋าเข้ามาห้องนี้ได้ เพราะโดนฉุดเข้ามา .... จำไม่ได้หรอ ??” เขาพูดหน้านิ่ง

“จะบ้าหรอ แล้วเรียกแทนตัวเองว่าป๋าทำไม ฉันมีพ่อคนเดียว” หยุดคำพูดน่ารังเกียจพวกนั้นเดี๋ยวนี้นะ หน้าตาก็ดีทำไมทำตัวเหมือนแม่ไม่รัก 

“ นี่จำป๋าไม่ได้จริงๆดิ?  ลองคิดเรื่องเมื่อคืนดูดีๆ.....หน้าห้องน้ำ” หน้าห้องน้ำงั้นหรอ ? ฉันล้มตัวนั่งลงบนโซฟาเล็กปลายเตียง พลางใช้สมอง สายตาจ้องไปที่ใบหน้าหล่อร้ายนั่น ไม่นาน….ก็ถึงบางอ้อ ! คนที่ให้นามบัตรฉันตอนที่เดินชนกันนี่นา ?  

 “จะคิดออกยัง  เมื่อคืนหลายยก ขอพักสายตาแป๊บ”  หลายยก?  เขาต้องการจะสื่อไปถึงเรื่องอย่างว่าหรอ เป็นไปไม่ได้อะ ถ้าเกิดขึ้นจริงทำไมฉันไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย มีแค่รอยจ้ำแดงๆแล้วก็ปวดเมื่อยตามร่างกายที่น่าจะเกิดจากการแดนซ์ ว่าแต่เมื่อคืนทำไมไม่มีเพื่อนโทรตามเลย? ไม่รู้ว่านานเท่าไรที่ฉันอยู่กับตัวเอง พอได้สติอีกครั้ง ร่างสูงของเขานอนแผ่อยู่บนเตียงของฉันเรียบร้อยแล้ว  

“ นี่ ลุกออกจากเตียงของฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ !!”  เตียงนี้แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างยัยมะนาวยังไม่เคยได้นอนเลยนะ แล้วหมอนี่เป็นใคร ?? ฉันพุ่งตัวไปดึงแขนเขาทันที แต่ร่างยักษ์สงบนิ่งแถมไม่ยอมเปิดเปลือกตาด้วย  แล้วร่างผู้ชายก็หนักมาก แรงมดอย่างฉันจะดึงไหวมั้ยคงไม่ต้องสืบ   “นี่ นายยย  ลุกเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้ลุกขึ้นมา”  ยิ่งออกแรงยิ่งเหนื่อยหอบ

“อื้มมมมมม” มือเขากระตุกแขนฉันซึ่งยังไม่ทันตั้งตัว ทำให้ตัวของฉันล้มไปทับเขาโดยปริยาย กรี๊ดดดดดท่าล่อแหลมเกินไป สิบแปดบวกบวกเลยเหอะขนาดนี้   ฉันพยายามดิ้นให้หลุด  ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรู้สึกถึงแรงรัดมากยิ่งขึ้น  นี่ชาติที่แล้วเขาเป็นงูมาก่อนหรือไง

“ นี่ ปล่อยนะ นายจะมาลุ่มล่ามแบบนี้ไม่ได้ นี่ !!” ฉันทั้งทึ้งทั้งจิกหัวของเขาอย่างแรง 

“ โอ้ยยย นี่ยัยลูกแมว! อย่าข่วน”  คงเจ็บแล้วสินะ ! ร่างสูงผลุบลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ร่างของฉันที่ก่อนหน้านี้นอนอยู่บนตัวเขา เปลี่ยนมาเป็นนั่งคร่อมตัวของเขาแทน แบบนี้เพิ่มมาอีกสองเปอร์เซ็นต์ ให้ยี่สิบบวกบวกไปเลย “ไม่เคยมีใครบอกหรอ ว่าถ้ายิ่งดิ้น อะไร ๆ ที่ ดูม ดูม มันเสียดสีกันช่วยกระตุ้นอารมณ์เป็นอย่างดี” อี๋ยยยยยย  ลามกชะมัด หน้าตาหล่อเสียเปล่า ทำไมทำตัวเหมือนแฟนไม่รัก ฉันจะไม่ยอมให้เขาคุมเกมส์หรอกนะ  ระดับเพลงพระพายแล้ว….ให้รู้ซะบ้างว่าไผเป็นไผ

“ ป.....ป๋าา ก็ปล่อยเพลงก่อนสิคะ”  อยากให้ยั่วมากใช่มั้ย  จัดไปค่ะ เอาให้คลั่งอกแตกตายไปเลย ฉันใช้สองมือโอบรอบคอของเขา  แต่ในใจนี่อยากจะขยุ้มหัวแล้วเอาไปกระแทกผนังห้องแรงๆ   มือของเขาที่วางอยู่ค่อยๆ ยกมาจับเอว แรกๆมันผ่านเสื้อ แต่ไม่ทันไรฝ่ามืออุ่นก็สัมผัสกับเนื้อโดยตรง ฉันเบิกตาโตเพราะตกใจ  หัวใจของฉันเริ่มเต้นรัวและแรงขึ้น ความร้อนกระจายขึ้นหน้า ช่องท้องก็โหวงแปลกๆ

“ ถ้าหายเมาแล้ว ต่อกันอีกยกไหม” น้ำเสียงเขาฟังคล้ายกับหยอกล้อแต่สีหน้ามันแสดงออกถึงความจริงจัง

“ บ้าหรอ !”  ฉันขืนร่างออกจากตัวเขาทันทีที่เขาไม่ทันระวังตัว

 “ อ้าว  นึกว่าจะยอมง่ายๆ เหมือนเมื่อคืน ...น่าเสียดาย รู้งี้น่าจะเอาให้ถึงเช้า  เกลียดดดดดดดด พูดจาก้ำกึ่งแล้วยังหื่นอีก  ทำตัวอย่างกะพวกอดอยากปากแห้ง   

 “ในเมื่อนายรู้ที่อยู่ฉันแล้ว เบอร์ก็มี งั้นตอนนี้นายกลับไปก่อนได้มั้ย” ฉันต้องไล่เขาออกไปให้เร็วที่สุด  ฉันจะไปบอกเจ้าหน้าที่ให้มาเปลี่ยนชุดคีย์การ์ดให้เร็วที่สุด

“ เรียกว่าป๋า... แทนตัวเองว่าเพลง....แล้วพูดประโยคเมื่อกี้พูดใหม่ตรงนี้” เขาชี้นิ้วข้างๆ ใบหู  เขาหูหนวกหรือไง ทำไมต้องให้ไปพูดใกล้ๆ แบบนั้นด้วย โรคจิตชะมัด  แต่ไม่มีตัวเลือกอื่นละนี่ ถ้าทำแบบนี้แล้วเขาจะยอมออกไป ฉันเดินเข้าไปใกล้เขาด้วยความระแวดระวัง ถึงจะสั่นยังไงแต่ก็ต้องทำมันให้สำเร็จ “ป๋ารู้ที่อยู่หนูแล้ว เบอร์ก็มีแล้ว  งั้นตอนนี้ป๋ากลับไปก่อนได้มั้ย...คะ” พูดไม่ทันจบ สองมือของเขาประกบข้างๆแก้มจนปากยู่เหมือนปลาทอง โดยไม่ทันตั้งตัวปากร้อนๆก็จุ๊บลงมาทันที  O.O  

“ ได้สิ งั้นคีย์การ์ดใบนี้ป๋าขอนะ หนูมีสองใบใช่ไหม”  ?  เอาไปเลยค่ะ เพราะหลังจากนี้มันจะใช้ไม่ได้แล้ว

“ ป๋าจะเอาไปทำไม จะมาก็โทรหาหนูสิ น ะ นะ”  เพื่อไม่ให้ผิดสังเกตฉันแกล้งอ้อนเสียงหวานจนเขายอม

             หลังจากเขาไปฉันก็เหม่อมองไปที่กล่องยาบนโต๊ะข้างหัวเตียง นี่ฉันทำมันกับเขาหรอ ถ้าไม่กินจะท้องไหม แต่มะนาวเคยบอกว่ามันอันตราย คนที่แพ้อาจจะช็อคตายไปเลยก็ได้ แต่จะปล่อยให้ตัวเองท้องไม่ได้ ฉันยังเรียนไม่จบ ไหนจะต้องทำเรื่องฝึกงานเทอมหน้าอีก  พัง พัง พัง ชีวิตยุ่งเหยิงไปหมดเพราะหมอนั่นคนเดียว ! 

    ฉันเดินทึ้งหัวตัวเองแล้วเข้าห้องน้ำ เพื่อนอนแช่ตัวให้หายเครียด ไม่ถึงสิบนาทีเสียงมือถือก็ดังขึ้น

“ ไง  ?”  มะะนาวคคนเดิมจะใครอีก 

[ แกหายไปไหนมา ฉันติดต่อแกไม่ได้เลย ! นึกว่าถูกผู้ฉุดไปละเนี่ย ]

“ เออ โดนผู้ฉุด พอใจยัง”

[ เห้ยยย พูดเล่น ทำเสียงจริงจังไปได้ แล้วนี่อยู่ไหนอะ วันนี้ไปช๊อปป่ะ ? ]

“ อยู่ห้อง  ไม่อยากไปไหนอะ แกไปจู๋จี๋กับน้องชอห์นสองคนเหอะ”

[ เอางั้นก็ได้ แต่แกไม่เป็นไรแน่ใช่ป่ะ โทษทีนะเว้ยแก เมื่อคืนฉันก็เมาหนักอะ ]

“อื้มมมๆ  ช่างมันเหอะ งั้นฉันวางนะ” จะได้ไปแช่ตัวสักที เหม็นตัวเองจะแย่ 

[  แล้วเจอกันแก ] 

            แล้วฉันจะเอาดีกะยากล่องนี้ ฉันนอนแช่ตัวในอ่างน้ำ ในมือก็กดเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉิน ฉันตัดสินใจไปหาหมอดีกว่า เพราะไม่อยากเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้   ถ้าป่องขึ้นมาจริงๆชีวิตวัยใสของฉันคงจบเห่แน่  

    Rrrrrrr  

    ฉันโบกTAXI เพราะต้องไปเอารถที่ผับ  ผู้ชายคนนั้นทำให้ฉันใช้ชีวิตยากขึ้น คงหลงเสน่ห์ฉันเข้าแล้วล่ะ ถึงตามแจเลย ฉันปล่อยให้มันสั่นสักพักก่อนจะกดรับ ก็ต้องเล่นตัวนิดหนึ่งป่ะ >.<

“......ฮัลโหล”  ฉันกรอกเสียงหวานใส่ปลายสาย  ก็คนนี้หล่อแถมรวย อีกอย่างไม่แก่เหมือนคนที่ฉันเคยควง

[ ออกไปไหน ทำไมมาหาที่ห้องแล้วไม่เจอ ? แอบหนีเที่ยว ? ]  หนีเที่ยวแล้วทำไม

       ฉันถอนหายใจกับความเจ้าเผือกของคนที่พึ่งรู้จักไม่ถึงวันแล้วจึงตอบกลับด้วยใบหน้าเนือยๆ

 “เพลงออกมาหาเพื่อนอะ”  ฉันกะจะไปโรงพยาบาลเรื่องยาคุมนั่นแหละ แต่เรื่องอะไรฉันจะบอก

[ .....งั้นหรอ  ผู้หญิง?  ผู้ชาย?  หรือตุ๊ด ? ]  เขาถามเสียงปกติเชิงหยอก แต่ฉันกลับรู้สึกว่าเขากำลังทำตัวคล้ายกับผู้ชายที่ตามหึงหวงแฟนตัวเอง มันก็ให้ความรู้สึกแปลกๆเหมือนกัน เพราะฉันไม่เคยมีโมเมนต์นี้มาก่อน

“ ตุ๊ดค่ะ”  แต่เพื่อนตุ๊ดของฉันก็มีสามีกันไปหมดละ  ฉันก็แค่หาเรื่องยั่วเขาเท่านั้นเอง

[ ตุ๊ดก็เคยเป็นผู้ชายมาก่อน ... ]  พูดราวกับว่าหึงฉันกับตุ๊ดอยู่เลยนะ

“ดีดี้ผ่าเรียบร้อยแล้ว มีทุกอย่างเหมือนเพลง  แค่นี้ต้องหึงด้วยหรอคะ ??”

 [ หึง  ]   เสียงของเขาที่ตอบกลับมาทำให้ฉันรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมา แต่ไม่ทันไร ....ก็เปลี่ยนเป็นหน้านิ่ง [ ให้หึงได้ป่าว ? ] เห้อ กวนประสาทชะมัด ฉันอยากจะรู้จริงๆ เขาทำอาชีพอะไรถึงได้ปากหมาแบบนี้

           ปากหมาทั้งแก๊งเลยป่ะ ฉันพอจะจำได้บางส่วนแล้ว เมื่อคืนยัยมะนาวสะกิดให้ฉันมองที่โต๊ะหนึ่ง ชายหนุ่มหน้าตาดีสี่คนที่สำคัญดูกระเป๋าหนัก พวกเขากำลังจ้องมาที่ฉันแล้วหัวเราะกัน คล้ายว่ากำลังสนทนาเกี่ยวกับพวกเราอย่างสนุกสนาน แต่ฉันก็ไม่ได้ให้ความสนใจเพราะมันเป็นเรรื่องปกติอยู่แล้ว 

“ แล้วแต่จะคิดนะคะ แต่ว่าตอนนี้เพลงขับรถอยู่ ไม่สะดวกคุย ขอตัวนะคะ”  ฉันไม่สนใจรอเสียงตอบรับจากปลายสาย เพราะตอนนี้ฉันมาถึงจุดหมายปลายทางเรียบร้อยแล้ว

         เมื่อควักเงินจ่ายค่าTAXI  เสร็จก็ไปที่รถอีโก้คาร์สีขาว รถคันแรกที่ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรง งานที่ฉันทำสร้างรายได้พอสมควร ออกงานแต่ละครั้งก็เงินมาเปย์ค่าเทอมให้ตัวเองแล้ว ฉันทำอาชีพนี้มาตั้งแต่ปีหนึ่ง ตอนนั้นมีกะเทยร่างผอมแห้งมาติดต่อ ฉันก็เลยลองรับเล่นๆ แต่ทำไปทำมาผลงานของฉันเกิดได้รับความสนใจมากขึ้น ฉันเลยยึดอาชีพนี้สร้างรายได้มาจนถึงทุกวันนี้ แต่ถึงฉันจะมีเงินเก็บมากพอแต่ฉันก็รับจ๊อบพิเศษไปเดินเล่นกับแฟนคลับรุ่นใหญ่บ้าง พวกนั้นก็เป็นสายเปย์ที่ดีนะ

                 คนที่จะมาเปย์ฉันน่ะส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายที่ฉันเจอบ่อยๆตามงาน สายตาอันแหลมคมของฉันสแกนคนออก คุณสมบัติแรกก็คือความสุภาพและมารยาท ถ้าฉันบอกว่าไม่ก็คือไม่ ฉันก็แค่หาคนเลี้ยงข้าว หาคนมาเปย์พวกข้าวของเครื่องใช้ หือจะพวกเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องสำอางค์ เปลืองตัวนิดหน่อยเพื่อแลกสินค้าที่จะได้กลับมามันไม่ทำให้ฉันรู้สึกเสียศักดิ์เสียหรอก ต่างคนต่างได้ แฟร์ดีออก  

             เมื่อขับรถมาถึงโรงพยาบาลก็ตรงไปแผนกสูติ ฉันเดินไปหาพยาบาลหน้าตาน่ารักคนนึง ใบหน้าของเธอจิ้มลิ้มดี เหมาะจะมาอยู่ในวงการแบบฉันมากกว่าจะมานั่งเป็นพยาบาลที่น่าเบื่อแบบนี้ หน้าตาแบบเธอคงสร้างรายได้มากกว่าเป็นพยาบาลได้แน่  แต่ถ้าจะให้ฉันชวนตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอก็จะดูออกตัวแรงไปหน่อย

“ สวัสดีค่ะ  มาติดต่อพบหมอ....อยากปรึกษาเกี่ยวกับยาคุม”  ฉันเข้าไปทักทายเธอ แล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร 

“สวัสดีค่า รบกวนขอบัตรประชาชนด้วยนะคะ” ฉันหยิบบัตรยื่นให้  ไม่กี่นาทีต่อมาที่ ฉันก็ถูกเรียกไปวัดความมดัน ชั่งน้ำหนักตามขั้นตอน  ประเด็นที่ฉันสนใจคือน้ำหนักของตัวเอง คงต้องลดอาหารลงแล้วล่ะ น้ำหนักฉันเพิ่มขึ้นตั้งสองโล  T^T

           หลังจากคุณป้าคนหนึ่งเดินออกมา ชื่อฉันก็ถูกพยาบาลคนเดิมเรียกฉันเลยเดินเข้าไป

    วันนี้ฉันแต่งตัวเรียบๆ กางเกงขายาวเอวสูงสีเทา เสื้อเปิดไหล่สีขาว และรองเท้าส้นสูงสีครีม พอเดินเข้าห้องก็พบกับคุณหมอ….หล่อโฮก ถึงจะค่อนข้างคุ้นหน้าตาแต่ฉันก็นึกไม่ออก แต่ฉันอาจจะจำคนผิด

“ สวัสดีครับคุณเพลงพระพาย วันนี้เป็นอะไรมาครับ ?” เสียงก็หล่อ หน้าก็เจ้าเล่ห์น่าค้นหา  นี่มันเข้าข่ายหมอหล่อต้องบอกเพื่อนต่อ ฉันแอบเหลือบมองชื่อที่เสื้อคลุม นายแพทย์ กิตติ  นรากิจไพโรจน์   ขนาดชื่อยังหล่อ

“อยากมาปรึกษาเรื่องการ... การทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินค่ะ”  ถ้าเป็นหมอผู้หญิงฉันคงไม่ตะกุกตะกักแบบนี้หรอกนะ แต่นี่ให้มาพูดเรื่องผู้หญิงๆ กับหมอผู้ชายที่หล่อปานพระเอกหนังฉันก็ไม่ไหวจะเคลียร์

 “แล้วมีเพศสัมพันธุ์ครั้งสุดท้ายเมื่อไรครับ” เสียงทุ้มถามยิ้มๆ แล้วดวงตาสีนิลก็เหล่มองที่หน้าจอคอมพ์ โดยนิ้วเรียวสวยก็กดแป้นพิมพ์ไปด้วย  นี่คุณหมอเล่นแชทในที่ทำงานหรือไงนะ ?

“....เมื่อคืนค่ะ หลายยก”  ทันทีที่ฉันตอบ มือใหญ่ก็ชะงัก คุณหมอละสายตาจากจอแล้วหันขวับมองหน้าฉันมือใหญ่ยกค้างไว้ จากนั้นเขาก็อมยิ้ม 

“ คุณหมอยิ้มอะไรคะ?”รู้สึกเสียเซลฟ์นิสนึง ว่าแต่ฉันพูดอะไรผิด  

“คุณเพลงพระพายพูดตรงดีนะครับ ผมชอบ” ใบหน้าหล่อปรากฎรอยยิ้มนวล

“ไม่แปลกค่ะ เพราะก็มีคนบอกชอบหนูบ่อยๆ” ฉันพูดขำๆน่ะ ถึงจะรู้ว่าเขาไม่ได้หมายถึงเรื่องชายหญิงแต่ฉันก็ไม่อยากให้บรรยากาศมันอึมครึม  เดี๋ยวจะยิ่งเขิน

“หมอไม่ได้หมายถึงชอบแบบนั้น หมอแค่คิดว่าเหมาะสมดี” เหมาะสมงั้นหรอ ฉันไม่เข้าใจ

“แล้วตกลงหนูต้องทานยาหรือป่าวคะ หนูเป็นนักศึกษาอยู่ค่ะ”ฉันดึงหัวข้อสนทนาเพื่อจะเข้าประเด็นเดิม

 “ ใช่ครับ หมอจะจ่ายยาให้ แต่ถ้าไม่ชอบทาน จะฉีดยาก็ได้ ผมจะส่งต่อเคส”  คุณหมอพูดจาแปลกๆเนอะ

“ทำไมต้องส่งต่อเคสด้วยคะ คุณไม่ได้เป็นหมอสูหรอ ?” ฉันเอียงคอถาม แต่รอยยิ้มกลับปรากฎบนหน้าหล่อ

“พอดีผมไม่ถนัดฉีดยาครับ แต่เพื่อนผมถนัด…มันเซียนเรื่องฉีดยา แถมมือเบาด้วย


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (72 รายการ)

www.batorastore.com © 2024