เจ้าพ่อลวงเสน่หา (เจ้าพ่อนักรัก)

เจ้าพ่อลวงเสน่หา (เจ้าพ่อนักรัก)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786167715759
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 229.00 บาท 57.25 บาท
ประหยัด: 171.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

เจ้าพ่อลวงเสน่หา

สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ

 

                รถยุโรปสีเข้มแล่นด้วยเร็วสม่ำเสมอบนถนนที่ทอดยาว

ตัดผ่านหุบเขา บรรยากาศสองข้างทางตอนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับ

ว่ากำลังถูกโอบกอดจากธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยทิวทัศด้านซ้าย

เป็นเทือกเขาสวยงาม อีกด้านคือทะเลสีครามที่กว้างใหญ่สุดสุดสายตา

                ทว่าความสวยงามภายนอกรถไม่ได้ทำให้บุคคลที่นั่งอยู่ด้านใน

รู้สึกภิรมย์ใจจเลยแม้แต่น้อย ไม่ใช่เพราะความเคยชิน หากเป็นความ

หวาดระแวงที่แทรกเข้ามาในความนึกคิดต่างหาก หัวคิ้วของผู้ที่

ทำหน้าที่เป็นคนขับขมวดเข้าหากันแน่น ความกังวลฉายชัดขึ้น

บนใบหน้าที่รกครึ้มไปด้วยหนวดเครา ดวงตาคู่คมจับจ้องไปยังถนน

เบื้องหน้าอย่างระแวงระวังพลางเหลือบมองกระจกหลังเป็นระยะ

                “เสี่ยครับ ผมคิดว่ามีบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล...เพื่อความไม่

ประมาท เสี่ยหมอบต่ำไว้ก่อนดีกว่านะครับ” คนขับรถที่ควบตำแหน่ง

คนคุ้มกันประจำตัวเอ่ยขึ้นเสียงเครียดขณะที่รถยังคงวิ่งไปข้างหน้า

ด้วยความเร็วสม่ำเสมอเช่นเดิม สิ่งที่ผิดปกติในตอนนี้คือรถของ

พวกเขาเหมือนถูกดักไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ก่อนหน้านี้เขา

ลองผ่อนความเร็วลงเพื่อให้รถคันหลังแซงหน้าขึ้นไป แต่อีกฝ่ายกลับ

นิ่งเฉย พอเขาเป็นฝ่ายขับแซงรถคันหน้าขึ้นไป ไม่นานหลังจากนั้น

รถคันเดียวกันนั้นก็แซงกลับไปอยู่ตำแหน่งเดิม มันจึงทำให้คิดเป็น

อย่างอื่นไม่ได้เลย

                ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่นั่งเบาะหลังคือเสี่ยอลัน กาลสกุล เป็น

เศรษฐีระดับต้นๆ ของจังหวัดภูเก็ตและถือได้ว่าเป็นมาเฟียรุ่นใหญ่

ของที่นี่ก็ว่าได่ เนื่องจากธุรกิจปล่อยเงินกู้รายใหญ่ที่สุดทางภาคใต้

ทำให้เขามีอิทธิพลต่อภาคธุรกิจหลายประเภทรวมถึงประชาชนทั่วไป

ด้วย เสี่ยอลันปล่อยเงินกู้นอกระบบก็จริง แต่เขาเรียกเก็บดอกเบี้ย

ในอัตราตามที่กฏหมายกำหนดทุกประการ ฉะนั้นเมื่อต้องการขอ

กู้เงินก้อนใหญ่ เสี่ยอลันจึงเป็นคนแรกที่ถูกนึกถึงเสมอ ครั้นจะไป

พึ่งธนาคารก็ต้องเตรียมเอกสารยุ่งยากและเสียเวลามาก จึงไม่แปลก

นักที่จะมีคนเต็มใจมากเป็นลูกหนี้ของเขากันอย่างล้นหลาม บางครั้ง

ชาวบ้านที่กำลังเดือนร้อนเรื่องเงินอย่างหนัก เสี่ยอลันก็ให้ยืมโดย

ไม่คิดดอกเบี้ยด้วยซ้ำไป

                “อาจจะไม่มีอะไรก็ได้นะเฮดิส...คอยดูต่อไปก่อน” แม้จะบอก

แบบนั้น แต่สีหน้าของเสี่ยอลันยังดูเคร่งเครียด สายตาก็คอยสังเกต

ทั้งสองข้างทางอย่างไม่วางใจเช่นกัน มือที่เหี่ยวย่นตามวัยจับอาวุธ

ที่จะใช้ป้องกันตัวอย่างเตรียมพร้อมตลอดเวลา เป็นธรรมดาที่เฮดิส

จะระมัดระวังตัวเป็นพิเศษเพราะเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

                เมื่อหลายเดือดก่อนเกิดเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

มือปืนลอบทำร้ายแต่ก็เอาตัวรอดมาได้ พอตรวจสอบกลับจับมือ

ใครดมไม่ได้ สุดท้ายคดีก็เงียบหายไป แม้จะเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง

แต่คนที่อยู่เบื้องหลังคงมีอำนาจบารมีใหญ่โตกว่า เรื่องคดีจึงไม่

คืบหน้าไปไหน

                ส่วนตัวเขาพอจะทราบดีว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เขาถูก

ลอบทำร้ายในวันนั้น อำนาจและบารมีมันช่างหอมหวานยิ่งนัก เมื่อ

ได้ถือครอบครองย่อมไม่อยากปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ การดึงตัว

คนที่มีอิทธิพลด้านการเงินเข้ามาเป็นสมาชิกนั้นย่อมส่งผลดีและ

สร้างประโยชน์ได้อย่างมหาศาล เพียงเพราะเขาปฏิเสธที่จะลง

เล่นการเมืองในฐานะสมาชิกของพรรคการเมืองชื่อดังเพราะอยาก

ใช้ชีวิตอย่างสงบและเรียบง่ายมากกว่า แต่อีกฝ่ายกลับคิดว่าเขา

ต้องการเป็นคู่แข่ง เมื่อไม่ได้เป็นพวกเดียวกันก็กลายเป็นศัตรูไป

โดยปริยาย

                หน้ามืดตามัวไม่รับฟังเหตุผล ถือความคิดของตัวเองเป็นใหญ่

เขาจึงเกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ได้เขาสมัครเป็น

สมาชิกของพรรคใดตามที่ถูกล่าวหา พวกมันก็แค่ไม่ส่งคนมาไล่ล่า

เขาอีกเป็นรอบที่สองและแสดงบทบาทนักบุญในครอบซาตานต่อไป

ทว่าการถูกทำร้ายโดยที่ไม่มีความผิดเขาย่อมเจ็บแค้นธรรมดา

                ถึงจะรู้ใครบงการ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะยังไม่มีหลักฐาน

เมื่อพึ่งพาตำรวจไม่ได้ เสี่ยอลันจึงสืบเรื่องนี้ด้วยตัวเองอย่างเงียบๆ

และมีเพื่อนตำรวจที่คุ้นเคยกันมานานแอบคอยช่วยเหลืออีกแรง

ตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานให้แน่นหนาที่สุดเพื่อให้มั่นใจว่าจะ

ไม่มีหนทางไหนช่วยให้คนทำผิดหนีรอดจากกระบวนการทางกฏหมาย

ได้อีกต่อไป ไม่ว่าคนที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังจะใหญ่โตแค่ไหน

ก็ไม่กล้าเอาตำแหน่งหน้าที่ของตัวเองเข้ามาเสี่ยงอย่างแน่นอน

                ผ่านมาหลายเดือนคดียังคงเงียบและตำรวจอาจจะลืมไปแล้ว

ก็ได้ ซึ่งเขาก็ได้แต่เฝ้ารอนับวันเวลาอย่างใจเย็น แต่การรวบรวม

หลักฐานเอาผิดพวกมันก็เป็นไปอย่างยากลำบากเหลือเกิน แน่นอน

ว่ามันคงไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้ตามเก็บได้ง่ายๆ แต่เขาก็จะไม่หมด

ความพยายามเช่นกัน

                ช่วงเวลาที่หายใจไม่ทั่วท้อง เสี่ยอลันนั่งขบกรามแน่นเมื่อ

นึกย้อนกลับไปในวันนั้น...ทว่าวันนี้เขากลับสับสนมึนงงอยู่ไม่น้อยที่

จู่ ๆ ก็ถูกตามประกบแบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็อยู่อย่างสงบดี

                “ผมคิดว่าพวกมันกำลังรอเวลาลงมือมากกว่า...ถ้าเรายังรอดู

ต่อไป เราอาจจะไม่รอดเหมือนครั้งก่อนนะครับเสี่ย” เฮเดิสเอ่ย

เสียงเครียด เพราะเวลานี้พวกเขากำลังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เสี่ยอลัน

สั่งไม่ให้ลูกน้องตามคุ้มกันอย่างแน่นหนาเหมือนเช่นทุกวัน ตัวเขาเอง

ก็ประมาทเกินไปที่ไม่ทักท้วงเจ้านายเลยสักคำ

                “ทำไมยังไม่เลิกจองเวรกับฉันอีก ในเมื่อฉันทนยอมเป็นเต่า

ที่คอยหดหัวอยู่ในกระดอกแล้วแท้ๆ” เสี่ยอลันเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ

ก่อนจะฉุกคิดขึ้นมาได้ “หรือว่าพวกมันจะรู้ตัวแล้วว่าเรากำลังจ้องจะ

เล่นงานมันอยู่”

                “ผมว่าเรื่องนั้นพวกมันคงยังไม่รู้หรอกครับ ผมให้คนของผม

คอยจับดูอยู่…แต่ถ้าผมเดาไม่ผิด คงเป็นเรื่องที่เสี่ยกำลังจะไปโอน

ที่ดินวันนี้มากกว่า...ได้ข่าวว่านายใหญ่ของพวกมันต้องการที่ดิน

ตรงนั้นมาก”ที่ดินทำเลทองที่ทุกคนต้องการครอบครองและแย่งชิง

เสนอราคาด้วยตัวเลขหลักร้อยล้าน แต่ด้วยเหตุผลอะไรเขาก็ไม่ทราบ

แน่ชัด รู้แต่เพียงว่าเจ้าของที่ดินเลือกที่จะขายให้เสียอลันคนเดียว

                “เรื่องเก่ายังไม่ทันจะสะสาง...” เสี่ยอลันคำรามอย่างโกรธจัด

เขาจะกระดิกตัวทำอะไรไม่ได้เลยหรืออย่างไร จะทำอะไรก็ดูจะขัด

ผลประโยชน์ผู้อื่นไปเสียหมด ช่างไม่มีความยุติธรรมเอาเสียเลย

ทำไมถึงปล่อยให้คนเลววางอำนาจได้ขนาดนี้

                “บางทีมันอาจจะแค่ขัดขวางไม่ให้เราไปโอนที่ได้สำเร็จ...” เฮดิส

กำลังสันนิษฐาน

                “หรือไม่ก็กำจัดฉันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย จะได้ไม่ขวางหูขวาง

ตาพวกมันอีกตลอดไป” เขาต่ออีกประโยคด้วยใบหน้าถมึงทึง และ

เป็นจังหวะเดียวกับที่ท้ายรถของพวกเขาถูกกระแทกอย่างแรงจนร่าง

ของเสี่ยอลันถลาไปด้านหน้าอย่างทรงตัวไม่อยู่ และทำให้รู้ว่าพวกมัน

เริ่มลงมือแล้ว เฮดิสหักพวกมาลัยหลบแล้วเร่งความเร็วหนีขึ้นไป

ด้านหน้า หากจะต้องปะทะกันจริงๆ เขาต้องหาที่กำบังเสียก่อน

                “เสี่ยหมอบไว้ก่อนนะครับ ผมรู้ว่าอีกสักพักมันต้องยิงเราแน่”

สิ้นคำเตือนของเฮดิสก็เกิดเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด แต่ไม่ใช่ฝ่าย

ตรงข้ามที่ยิงมา หากเป็นเสี่ยอลันที่ลดกระจกลงแล้วชิงลงมือยิงใส่

พวกมันก่อน เขาไม่ได้เป็นเต่าที่คอยหดหัวอยู่ในกระดอง เมื่อถึง

คราวคับขัน มีอะไรช่วยเหลือกันได้ก็ต้องทำ

                บนถนนเส้นเดียวกันนี้มีรถอีกคันกำลังวิ่งสวนมาอย่างราบรื่น

ไม่รับรู้ถึงอันตรายที่รออยู่เบื้องหน้า ครั้นเมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้น

คนขับรถก็เหยียบเบรกอย่างแรงโดยไม่ต้องคิด โชคดีที่ไม่มีรถคันอื่น

วิ่งตามหลังมาด้วย ไม่เช่นนั้นต้องชนกันเป็นแถวแน่นอน แต่การ

หยุดรถอย่างกะทันหันนี้ทำให้ผู้ชายตัวโตที่นั่งอยู่เบาะหลังถึงกับ

ตัวลอย และถ้าเขาไม่ยึดเบาะด้านหน้าไว้ได้ทัน หัวคงคะมำลงพื้น

ไปแล้ว

                “ทำไมบ้าอะไรของนายมาร์คัส” อัลนัลโด้ร้องถามเสียงเข้มห้วน

สีหน้าดูไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก

                “ขอโทษครับเจ้านาย พอดีผมได้ยินเสียงปืนดังอยู่ข้างหน้า

กลัวว่าเจ้านายจะโดนลูกหลง ผมจึงต้องหยุดรถอย่างกะทันหัน”

สีหน้าของมาร์คัสดูเคร่งขรึมและจริงจัง จากนั้นก็หักพวกมาลัยเลี้ยว

รถเข้าข้างทางแล้วจ้องไปเบื้องหน้าอย่างสงสัยใคร่รู้

                “เกิดอะไรขึ้น” เมื่อตั้งสติได้จึงเอ่ยถาม เพราะเขามัวแต่อ่าน

เอกสารในมือจนลืมสังเกตรอบตัวว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ตัวอยู่บนรถ

แต่จิตใจของเขากลับลอยไปถึงบ้านของเฌอเมวีร์ตั้งนานแล้ว อยาก

รู้เหลือเกินว่าเธอจะทำหน้าอย่างไรเมื่อเจอเขานั่งอยู่ในบ้านของเธอ

ในฐานะแขกพิเศษ

                ยังไม่ทันได้คำตอบจากมาร์คัส ภาพเหตุการณ์ชวนระทึกขวัญ

ก็ฉายชัดเข้ามาในดวงตากล้าของเขาทันที รถราคาแพงแล่นมา

ด้วยความเร็วและมีรถกระบะขับตามมาอย่างไม่ลดพร้อมกับยิงปืน

ใส่ตัวรถไปด้วย ก่อนที่รถคันหน้าจะเสียหลักพุ่งชนก้อนหินขนาด

ใหญ่และขับต่อไปไม่ได้ หากมองเผินๆ จะเห็นว่าเหมือนตำรวจกำลัง

ตามจับตัวคนร้ายแล้วมีการยิงต่อสู้ขัดขืนเกิดขึ้น ทว่าสำหรับคนที่

คลุกคลีกับมาเฟียมาตั้งแต่จำความได้อย่างอัลนัลโด้มองออกว่าเป็น

การล่าสังหารกันมากกว่า แต่ช่างเหิมเกริมไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

เอาเสียเลย

                หากเป็นมนุษย์ปกติทั่วไปเมื่อเจอกับเหตุการณ์แบบนึ้คงรีบ

ถอยรถแล้วขับหนีไปให้ไกลที่สุดตั้งนานแล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่

ของตำรวจเข้าจัดการ แต่คนตัวโตสองคนกลับยังคงนั่งนิ่งและเฝ้า

ติดตามสถานการณ์อย่างไม่ให้คลาดสายตา อัลนัลโด้นึกคันไม้คันมือ

อยากจะเข้าไปช่วยเหลือเต็มแก่ ติดตรงที่เขายังไม่แน่ใจว่าฝ่ายไหน

เป็นคนร้ายตัวจริง

                ชายสองคนใช้รถที่มีสภาพพับยับไปแถบหนึ่งเป็นเกราะกำบัง

และสาดกระสุนกลับไปบ้าง กลุ่มคนชุดดำมีจำนวนมากกว่า แต่ฝ่าย

ตรงข้ามก็มีฝีมือดีพอสมควร ทว่าเพราะจำนวนคนที่น้อยกว่าและ

ยังบาดเจ็บจากเหตุรถชนอีกจึงมีโอกาสที่จะเพลี่ยงพล้ำได้ง่ายกว่า

อัลนัลโด้กำลังครุ่นคิดอยู่ในใจไม่ถึงนาที เสี่ยอลันก็ถูกยิงเข้าที่แขน

และดูเหมือนว่าสถานการณ์กำลังเลวร้ายลงไปอีกเมื่อกระสุนของ

เฮดากำลังจะหมด

                “นายว่าคนที่ถูกยิงหน้าตาคุ้นๆ ไหม...” อัลนัลโด้ถามมาร์คัส

อย่างขอความเห็น เขารู้สึกคุ้นหน้าผู้ชายคนนี้อย่างบอกไม่ถูก แต่

ยังนึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน

                “นั่นสิครับ เหมือนว่าผมจะเห็นหน้าเขาเมื่อเช้านี้เอง...” มาร์คัส

พึมพำพลางครุ่นคิด ก่อนที่ดวงตาของเขาจะเบิกกว้างแล้วร้องขึ้น

เสียงดัง “เจ้านายครับ...คนที่ถูกยิงคือเสี่ยอลัน พ่อของคุณเฌอเมวีร์

ไงครับ...ฉิบหายแล้ว!”

                ว่าแล้วเชียวว่าทำไมถึงได้คุ้นหน้านัก!

                “ไอ้พวกสารเลว พวกมันกล้ายุ่งกับพ่อตาฉันอย่างนั้นหรือ...

มาร์คัส ออกรถ!” ไม่ต้องคิดแล้วว่าใครคือคนร้ายตัวจริง ดวงตาของ

อัลนัลโด้จาวโรจน์ขึ้นมาอย่างน่ากลัว มือแข็งแกร่งเปิดลิ้นชักแล้ว

หยิบปืนออกมาเตรียมพร้อม ขณะที่มาร์คัสก็ไม่รอช้าเช่นเดียวกัน

และขับรถพุ่งออกไปด้วยความเร็ว

                ด้านเสี่ยอลันที่เลือดไหลไม่หยุดเริ่มจะหมดหวังละทุกขณะ

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวันนี้จะเป็นวันตายของเขา วันที่ไม่มีโอกาสแม้แต่

จะเอ่ยคำล่ำลากับบุตรสาวสุดที่รักของเขา ทว่าในความโชคร้ายยังมี

ความโชคดีซ่อนอยู่เสมอ กระสุนปริศนาที่ไม่ทราบฝ่ายพุ่งตรงเข้าไป

เจาะร่างของพวกมันให้ร่วงลงไปกองบนถนนจนที่เหลือต้องหาที่หลบ

อย่างลนลาน ก่อนที่รถสีดำจะวิ่งเข้ามาจอดใกล้ ๆ แล้วเปิดประตู

ต้อนรับพวกเขาอย่างเอื้อเฟื้อ

                คนเจ็บและคนที่คอยประคองร่างที่อ่อนเพลียเพราะเสียเลือด

มากของเจ้านายจ้องมองผู้มาใหม่อย่างไม่ค่อยจะไว้ใจเท่าใดนัก

                “ผมมาช่วย รีบขึ้นมาเร็ว คุณต้องรีบไปโรงพยาบาล” เสียงห้าว

เอ่ยเร่ง ขณะที่มาร์คัสคอยช่วงชิงยิงคุ้มกันและสกัดไม่ให้ฝ่ายตรงข้าม

โผล่หัวออกมาชั่วคราวเท่านั้น ทุกอย่างจึงต้องทำให้รวดเร็วที่สุด

                ครั้นเห็นเป็นจริงอย่างที่ชายปริศนาบอก เฮดิสก็เก็บความ

หวาดระแวงเอาไว้ก่อน ตอนนี้ความปลอดภัยของเสี่ยอลันสำคัญ

ที่สุด หากยังคงชักช้าก็อาจจะตายเปล่า เมื่อมีผู้หวังดียื่นมือเข้ามา

ช่วยเขาก็สมควรยินดีรับไว้ เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง เมื่อนำคนเก็บ

ขึ้นรถได้เป็นที่สำเร็จจึงเคลื่อนตัวออกไปข้งหน้าด้วยความรวดเร็ว

เสียงปืนดังขึ้นอยู่เบื้องหลังหลายนัด แต่หากขับรถตามอีกก็คง

ไม่ทันเสียแล้ว อีกอย่างพวกมันต้องรีบหนีออกจากที่เกิดเหตุก่อนที่

ตำรวจจะมา

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024