โอโซนความสุข

นิสา |
26/08/2014

ในเวลาที่เราใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและการแก่งแย่งแข่งขัน สิ่งแรกที่เราต้องมีเป็นพื้นฐานเพื่อการมีชีวิตรอดก็คือความอดทนอดกลั้น เพราะแน่นอนว่าท่ามกลางสังคมแบบนี้ ย่อมมีเรื่องที่สร้างความยุ่งยากลำบากใจ ตลอดจนสร้างปัญหาและอุปสรรคาต่างๆให้เราอยู่ทุกวัน แต่อย่างไรก็ตาม หลายต่อหลายครั้งปัญหาและความยุ่งยากที่เกิดขึ้นก็ทำร้ายเรามากกว่าที่ความอดทนอดกลั้นนั้นจะเอาอยู่ ทุกคนที่ต้องพบเจอกับปัญหาจึงพยายามมองหาตัวช่วยที่จะทำให้เราสามารถผ่านพ้นอุปสรรคในชีวิตของเราไปให้ได้ โอโซนความสุขเป็นหนังสือที่อาจารย์วิทยา ผู้เขียน เขียนขึ้นโดยความตั้งใจที่จะให้เป็นคู่มือชีวิตเล่มหนึ่ง หมายความว่าไม่ว่าใครก็ตามที่กำลังประสบอยู่กับความทุกข์ยากลำบากใจในชีวิต มีปัญหาหรือวิกฤติจากเหตุการณ์ต่างๆสามารถที่จะใช้หนังสือเล่มนี้เป็นคู่มือที่จะช่วยแก้ไขสถานการณ์หรืออย่างน้อยก็สามารถบรรเทาวิกฤติของชีวิตลงไปได้บ้างไม่มากก็น้อย เมื่อเปิดอ่านดูเนื้อหาภายในเล่มก็จะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับจิตวิทยาและการสร้างแรงบันดาลใจกับการพัฒนาตนเองเป็นหลัก ผู้เขียนรวบรวมเรื่องราวไว้ทั้งหมด 38 เรื่อง ซึ่งแต่ละเรื่องไม่ได้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน หมายความว่าบางเรื่องเป็นเรื่องของหลักการทั่วไปที่ไม่เจาะจงคือใครก็ตามที่มีปัญหาในชีวิตก็สามารถอ่านแล้วนำไปประยุกต์ใช้ได้ อย่างเรื่องรักอย่างไรไม่ให้เป็นทุกข์ ที่จะพูดถึงเรื่องของความหมายและองค์ประกอบของความรักในเชิงจิตวิทยา เรื่องวิธีการดำเนินชีวิตในภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจ เรืองวิธีการสร้างกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต เรื่องแนวคิดเพื่อชีวิตที่ดีงามที่จะพูดถึงเรื่องราวของความอดทน การรู้จักร่วมทุกข์กับผู้อื่น ไม่หมดหวังในชีวิต มีความปรารถนาดีต่อผู้อื่น เรื่องวิธีการจัดการกับความเครียด เรื่องการอยู่อย่างมีคุณค่าด้วยการตั้งเป้าหมายและลดความกลัวในชีวิต และเรื่องบันได 5 ขั้นสู่การมีชีวิตที่มีคุณค่าและมีความสุข เป็นต้น ส่วนเนื้อหาอีกแบบก็จะเป็นเนื้อหาที่มีความเฉพาะเจาะจงลงไปตามเพศ ตามวัย ตามสถานะของแต่ละคน ตัวอย่างเช่น แนวคิดเรื่องความนิยมไทย ซึ่งพูดถึงการสร้างความเป็นไทยและความนิยมชมชอบความเป็นไทยที่ต้องมีความพอดีระหว่างความเป็นไทยกบความเป็นสากลให้ได้ ไม่ใช่นิยมไทยแบบสุดโต่ง เรื่องของไฮโซว่าจริงๆแล้วไฮโซต้องมีคุณสมบัติอย่างไร เรื่องดังอย่างไรไม่ให้ถูกด่า เรื่องหน้าที่ของนักเรียน เรื่องพิการกาย แต่ใจไม่พิการ ซึ่งเป็นการเตือนสติให้เราหมั่นทำความดี ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่อ่านง่าย แต่ก็มีข้อเสียตรงที่เนื้อหาที่ยังดูเป็นหลักการธรรมดาๆเกินไป คืออ่านแล้วได้แนวคิด แต่ยังไม่ได้แรงบันดาลใจหรือแรงกระตุ้นจากการอ่าน พูดง่ายๆก็คือหนังสือยังไม่สามารถจุดไฟในตัวสำหรับคนที่ต้องการลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองได้