เคียงเดือน + คู่หูคู่รักคู่อันตราย (สุชีรา)
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )
เนื้อหาบางส่วน
เคียงเดือน
หล่อนไม่คิดที่จะรักใครอีกหลังจากถูกคนรักหักอก แต่พระเจ้าก็ยังส่งผู้ชายจอมตื๊ออย่างเขามาให้หล่อน อย่างนี้จะใจแข็งอยู่ได้อย่างไรกันเล่า…
ด้วยรัก
สุชีรา
1…
เคียงเดือนถึงกับตะลึงนิ่งอึ้งเมื่อภาพตรงหน้าปรากฏชัดในม่านตา หล่อนไม่คิดว่าจะเห็นภาพเช่นนี้ในห้องพักของชายหนุ่มผู้เป็นที่รัก หล่อนคบกับเขามานานกว่า 2 ปีเขาเคยขอให้หล่อนมานอนที่ห้องพักกับเขาแต่หล่อนไม่ยอมให้เหตุผลว่ารอให้ถึงวันแต่งงานแล้วหล่อนจะยอมทุกอย่างแต่แล้วเขาก็รอหล่อนไม่ได้
“เดือน..เอ่อ..เดือนมาได้ไง”
เขาหน้าซีดเมื่อเห็นหน้าเคียงเดือนยืนเด่นอยู่หน้าเตียงนอนซึ่งขณะนี้เขาไม่ได้นอนคนเดียวแต่มีผู้หญิงอีกคนนอนอยู่ในสภาพเปลือยด้วยกันทั้งคู่ เพียงเท่านี้เคียงเดือนก็ไม่ต้องเอ่ยถามให้เสียเวลา หล่อนทิ้งช่อดอกไม้ที่ตั้งใจเอามาให้เขาในวันเกิดลงกับพื้นแล้วหมุนร่างสูงระหงวิ่งออกจากห้องไป
“เดือน..เดือนฟังผมก่อน”
เขาร้องเรียกหล่อนแต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเพราะหล่อนไม่หยุดหันมามองเขาและไม่มาให้เขาเห็นหน้าอีกเลย แม้ว่าเขาตามไปง้อขอคืนดีและอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นหล่อนก็ไม่ฟัง
“เราเลิกกันเถอะค่ะกริชในเมื่อคุณรอฉันไม่ได้ คุณชอบผู้หญิงคนนั้นก็เชิญคุณตามสบาย”
“เดือนผมไม่ได้จริงจังกับ..”
“คุณอย่ามาแก้ตัว และอย่าพูดอย่างนี้เพราะถ้าเธอคนนั้นมาได้ยินจะเสียใจและฉันก็ไม่ได้รักผู้ชายใจโลเลอย่างคุณอีก กลับไปได้แล้วค่ะกริชแล้วอย่ามาหาฉันอีก”
หลังจากวันนั้นหล่อนก็ขอลาออกจากบริษัทที่ทำงานอยู่และหาสมัครงานใหม่ พยายามลืมเรื่องคนรักและบอกกับตัวเองว่าจะไม่รักใครอีก
เคียงเดือนถูกเรียกสัมภาษณ์ในอาทิตย์ต่อมาและหล่อนก็ได้ทำงานที่บริษัทแห่งใหม่เป็นงานเกี่ยวกับบัญชีทั้งหมด หล่อนรู้สึกสนุกกับงานใหม่จนลืมความเจ็บปวดในหัวใจ
“เดือน เอาเล่มนี้ไปทำให้พี่หน่อยนะจ๊ะเร่งมือนิดนึงเพราะหัวหน้าต้องการตรวจด่วน”
แขไขลุกจากเก้าอี้เดินมาที่โต๊ะทำงานของเคียงเดือนพร้อมคำสั่งแกมขอร้องกับหญิงสาวซึ่งเพิ่งเข้ามาเป็นลูกน้องของหล่อนได้หนึ่งเดือนเต็ม
“ได้ค่ะพี่แข แต่เอ.หัวหน้าจะตรวจด่วนนี่ด่วนแค่ไหนคะพี่ หนึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งวัน”
เคียงเดือนเงยหน้าขึ้นถามพร้อมทำหน้าจริงจังกับคำพูดจนแขไขร้องว่า
“นี่ๆ อย่ามาพูดเล่นอยู่นะเร่งด่วนจริงๆ ภายในครึ่งชั่วโมง”
“เร็วไปค่ะพี่ เดือนทำไม่ทัน”
หญิงสาวส่ายหน้าไปมาขณะก้มมองแผ่นกระดาษในแฟ้มที่แขไขส่งให้
“ไม่ทันก็ส่งมาทางนี้ครึ่งนึงสิเดือน พี่จะช่วย”
นภัสส่งเสียงแทรกมา เคียงเดือนเหลียวไปมองแล้วยิ้ม
“ดีค่ะพี่ภัส ถ้าให้เดือนทำคนเดียว 3 ชั่วโมงจะเสร็จรึเปล่ายังไม่รู้เลย”
“แหม.พอมีคนช่วย ยิ้มหน้าบานเชียวนะ เก่งจริงก็ทำไมไม่ทำคนเดียวล่ะ รบกวนคนอื่นเขาทำไม”
ชาลิสาขัดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยเป็นมิตรนัก แขไข นภัสและรชดา หันมามองพร้อมกันแล้วเหลียวไปที่เคียงเดือน
“เดือน ไม่ต้องไปฟังเสียงนกเสียงกาแถวนี้ รีบส่งงานมาพี่จะช่วยอีกคน”
รชดาพูดอย่างหมั่นไส้ชาลิสาและตั้งแต่ชาลิสาเข้ามาทำงานในห้องนี้หล่อนก็สร้างแต่ปัญหาและเรื่องงานก็ไม่ค่อยจะเร่งเท่าไหร่ถ้าไม่มีคำสั่งจากแขไขแบบเป็นงานเป็นการ หล่อนเป็นเด็กฝากที่คิดว่าตัวเองเก่งแต่ความจริงแล้วหล่อนแทบจะหยิบจับอะไรไม่เป็นเอาเลย
“เอ๊ะ พี่ดา มาว่าลิสาเป็นนกกาได้ยังไงคะ”
“พี่ไม่ได้ว่าเธอนะอย่าร้อนตัวสิ”
รชดาเหลือบมองชาลิสาแล้วหันมาสนใจจอคอมพิวเตอร์เช่นเดิม
“ลิสาไม่ได้ร้อนตัวพี่ดาว่าลิสา”
“ยัยลิสา พี่ว่าเราทำงานของเราไปเถอะนะเดี๋ยวพี่จะขอดูก่อนเอาไปให้คุณกรเซ็น”
แขไขส่งเสียงออกมาด้วยความรำคาญ ชาลิสาจึงเงียบและทำกระฟัดกระเฟียดแสดงความไม่พอใจชัดเจน แขไขถอนใจแล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอา นภัสยิ้มเนือยๆ เช่นกัน
เคียงเดือนเข้ามาทำงานวันแรกก็ถูกชาลิสาพูดกระแนะกระแหนให้แต่หล่อนไม่ใส่ใจชาลิสาก็เงียบไป แต่ก็ยังไม่วายที่จะพูดกระทบให้หงุดหงิดบ่อยครั้ง มีรชดา นภัส คอยโต้กลับและแขไขที่เป็นหัวหน้าสายงานคอยปรามไว้ ชาลิสาจึงไม่กล้ามากนักแต่หล่อนก็ไม่ค่อยชอบหน้าเคียงเดือนไม่ทราบว่าเพราะอะไร อาจจะเพราะเคียงเดือนดูน่ารักกว่า ทำงานเก่งกว่าก็เป็นได้
“คุณแข งานที่ผมสั่งเสร็จรึยัง”
เสียงยศกรดังมาทางเครื่องโทรศัพท์ติดต่อภายใน แขไขกดรับแล้วตอบกลับไป
“ใกล้แล้วค่ะขอเวลาอีก 10 นาทีนะคะ”
“ได้ แต่ต้อง 10 นาทีเท่านั้นนะเพราะผมต้องไปธุระข้างนอก”
“ค่ะหัวหน้า”
แขไขมองหน้าเคียงเดือนทันทีซึ่งหญิงสาวก็รีบก้มศีรษะรับโดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากออกคำสั่งไม่ถึง 10 นาทีงานที่สั่งก็เสร็จเรียบร้อย แขไขหอบแฟ้มงานเดินเข้าไปในห้องหัวหน้าซึ่งมีประตูติดกับห้องที่หล่อนนั่งทำงานนั่นเอง
“คุณแข พนักงานใหม่เป็นไง พอจะทำงานได้คล่องรึยัง”
“สบายมากค่ะ ยัยเดือนเคยทำงานด้านบัญชีมาก่อนใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เก่งมากค่ะ”
“เหรอ เออดี ผมจะได้ขึ้นเงินเดือนได้ถูก แล้วคุณชาลิสาล่ะดีขึ้นบ้างรึเปล่า”
“จะให้รายงานกันตามตรงมั้ยล่ะคะหัวหน้า”
แขไขย้อนถามเสียงไม่ค่อยพอใจนักแค่นี้ยศกรก็พอจะทราบคำตอบดีจึงยิ้ม
“เสียงอย่างนี้แสดงว่าระอาเต็มทนใช่มั้ย”
“หัวหน้ารู้ได้ยังไงคะว่าดิฉันระอา”
“เดือนแรกคุณรายงานผมยังไงเดือนที่สองและสามก็เหมือนกันแล้วเดือนที่สี่นี่จะไม่เหมือนได้ยังไง”
“เดือนนี้ดีกว่าเดิมนิดเดียวค่ะคือไม่ออกก่อนเวลา”
“คุณแขคิดว่าผมจะขึ้นเงินเดือนดีมั้ย”
“ก็แล้วแต่หัวหน้าสิคะ ดิฉันออกความเห็นไม่ได้ ไหนๆ ยัยลิสาก็เป็นลูกสาวเพื่อนหัวหน้าจะขึ้นให้สักนิดก็คงไม่มีใครว่าหรอกค่ะ”
“นี่คุณกำลังประชดผมใช่มั้ย ผมเองก็ไม่อยากรับเด็กเส้นเด็กฝากนักหรอกแต่จะทำไงได้ในเมื่อผมเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อยัยลิสา”
“ถ้าอย่างนั้นหัวหน้าก็ตัดสินใจเองเถอะค่ะอย่าขอความเห็นจากดิฉันเลยค่ะ ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”
แขไขเดินกลับออกมาจากห้องยศกรตรงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง
“พี่แข ทำไมหน้าบึ้งถูกดุรึเปล่าพี่” นภัสถามเสียงเบา
“เปล่า ไม่ได้ถูกดุหรอก คุยเรื่องพนักงานนิดหน่อย”
“ทำไมเหรอพี่ หัวหน้าถามถึงใครเหรอ”
รชดาแทรกทันที ทำให้ชาลิสาเงยหน้ามองอย่างอยากรู้แต่เคียงเดือนพิมพ์งานเพลิน
“ไม่มีอะไร ทำงานไปเถอะเดี๋ยวพักเที่ยงไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือกัน”
“พี่เลี้ยงรึเปล่า” นภัสถามอีกแล้วหัวเราะร่วน
“ตัวใครตัวมันย่ะ เอาไว้พี่ถูกหวยก่อนแล้วจะเลี้ยง”
“เอารางวัลที่เท่าไหร่ดีคะพี่แข หรือว่าสองตัวดีคะ”
ชาลิสาอดที่จะสอดไม่ได้แต่แขไขก็ไม่ได้โกรธอะไรเพราะรู้นิสัยของหล่อนดี
“กี่ตัวก็ได้ทั้งนั้นแหละขอให้ถูกเถอะ”
“ยัยเดือนพูดอะไรบ้างสิยะเดี๋ยวน้ำลายเหม็นบูดหมดหรอก”
นภัสหันไปมองหน้าเคียงเดือนที่สนใจงานจนลืมเพื่อนร่วมงานในห้อง
“ไม่รู้จะพูดอะไรค่ะฟังอย่างเดียวพอ”
“ฟังก็หยุดมือบ้างไม่ใช่หูฟังแต่มือทำงาน พักเหนื่อยบ้างก็ได้”
รชดาเอ่ยท้วงอีกคน
“กลัวไม่ผ่านงานน่ะสิคะพี่ภัส”
ชาลิสาพูดเหน็บแนมเคียงเดือนอีกจนได้
“ยัยลิสา ไม่ต้องว่าคนอื่นตัวเธอเองน่ะเอาให้รอดก่อนเถอะ”
แขไขขัดเสียงไม่ค่อยจะดีนักชาลิสาจึงเงียบแล้วก้มหน้าพิมพ์งานต่อ
เคียงเดือนมองหน้าแขไขคล้ายจะถามอะไรสักอย่างแต่พอเห็นสายตาของชาลิสาที่มองมาดังกับเป็นคู่อริแล้วหล่อนจึงเปลี่ยนใจหันกลับมาทำงานต่อโดยไม่พูดอะไรกับใครอีกเลย
“พักเที่ยงแล้วออกไปกินข้าวกันดีกว่า”
แขไขเอ่ยขึ้นเมื่อถึงเวลาพัก เคียงเดือนปิดเครื่องเก็บงานที่วางเกะกะแล้วลุกขึ้นเข้าห้องน้ำ นภัสกับรชดาแต่งหน้าเพิ่มอีกนิดส่วนชาลิสายังคงนั่งพิมพ์งานเฉยเหมือนกับว่าหล่อนไม่ต้องการพักเช่นนั้น
“ลิสาไม่พักเหรอ” นภัสเหลียวไปมองพร้อมคำถาม
“พักสิคะแต่ไม่ใช่ตอนนี้”
“แล้วจะพักตอนไหนยะแม่คุณ”
รชดาถามด้วยความหมั่นไส้ท่าทางของหญิงสาว
“ตอนไหนก็เรื่องของลิสาไม่เกี่ยวกับพี่ดา”
หล่อนตอบกลับด้วยท่าทีเช่นเดิม รชดาถึงกับหน้าตึงเพราะคำพูดของชาลิสา
“ย่ะ ฉันก็ไม่อยากเกี่ยวกับเธอนักหรอก ไปเถอะยัยภัส”
สาววัยสามสิบเศษลุกจากที่นั่งพยักหน้าชวนเพื่อนรุ่นเดียวกันให้ลุกตาม พอดีเคียงเดือนเดินออกมาจากห้องน้ำรชดาจึงดึงแขนให้ออกไปด้วยกัน แขไขนั้นเดินออกไปก่อนนานแล้ว
“จริงๆ นะยัยภัส ถ้าฉันไม่กลัวจะถูกตัดเงินเดือนละก็ฉันทะเลาะกับยัยลิสาไปหลายรอบแล้ว เด็กบ้าอะไรไม่รู้จักรุ่นพี่รุ่นน้องนึกว่าสวยตายละเที่ยวยิ้มหวานให้ผู้ชายทั่วบริษัท”
รชดาหงุดหงิดไม่หายขนาดมานั่งที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วยังอดที่จะพูดถึงชาลิสาไม่ได้
“อย่าไปใส่ใจเลยน่าดา ยัยลิสาอยู่ไม่นานหรอกคงต้องย้ายสักวันถ้าพี่แขทนไม่ไหว” นภัสเอ่ยขึ้น เคียงเดือนจึงถามว่า
“ทำไมพี่แขทนไม่ไหวคะพี่ภัส”
“ก็นิสัยไม่เอางานแถมชอบแอบโทรศัพท์โทรฯหาหนุ่มๆน่ะสิ”
เคียงเดือนพยักหน้ารับรู้แล้วก้มหน้าลงมองก๋วยเตี๋ยวในชามก่อนจะรับประทาน รชดายังไม่หยุดพูดถึงชาลิสาต่อ
“ตอนเข้ามาวันแรกทำเป็นอ่อนน้อมถ่อมตนพูดจาดีทุกคำแต่พอรู้ว่าพี่แขเป็นหัวหน้าคุมในห้องคนเดียว พี่กับยัยภัสเป็นแค่ลูกน้องเท่านั้นแหละยัยเดือนเอ๊ย”
“ทำไมคะพี่”
“จะทำไมล่ะ ยัยบ้านั่นก็วางตัวเป็นเด็กเส้นกับพี่น่ะสิ พี่ไม่ชอบหน้าตั้งแต่แรกเห็นแล้ว”
“ไม่เหมือนเธอยัยเดือนพี่เห็นหน้าก็ชอบทันที เธอน่ารักกว่ายัยลิสาตั้งเยอะ”
นภัสเอ่ยขึ้นรชดาพยักหน้าเห็นด้วยแล้วต่ออีกนิดว่า
“ใช่.แต่พี่สองคนนะเดือน พี่แขก็ชอบเธอไม่งั้นไม่ขอเธอเข้ามาอยู่ในห้องกับพวกเราหรอก”
******