ลองรักพ่อผัว (มัสยา บุรินทร์)

ลองรักพ่อผัว (มัสยา บุรินทร์)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: ลองรักพ่อผัว
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 37.50 บาท
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

1

 

บ้าน สิทธิรังสรรค์ ในวันที่ประมุขของบ้านล้มป่วยลง ก็ดูเหมือนกับว่าเข้าสู่โหมดแห่งความระส่ำระสายไปหมด

สะใภ้ใหญ่ สะใภ้รอง และสะใภ้เล็ก รับรู้ถึงปัญหาความยุ่งยากของตัวเอง

ธุรกิจของตระกูลส่อเค้ามีปัญหามานาน บวกกับความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องที่ระหองระแหงมาตลอด เพราะความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้

อำนาจของคนเป็นพ่อ ผู้ก่อตั้ง และพยายามยื้ออย่างที่สุดเพื่อจะให้ธุรกิจอยู่ให้ได้ เริ่มจะหมดหวัง เมื่อแบ็งก์ไม่ยอมปล่อยเงินกู้เพิ่ม

สินทรัพย์ถูกถ่ายเทออกไปสู่กระเป๋าของลูก ๆ แต่ละคนโดยเฉพาะพี่ใหญ่กับพี่รอง

น้องเล็กดูเหมือนจะได้รับเพียง...มูลค่าหนี้

บ้านหลังใหญ่ที่ยังติดจำนองธนาคารอยู่ ธุรกิจที่กำลังจะเจ๊ง

และหมายรวมถึง...เสี่ย เวทิน  ประมุขแห่ง สิทธิรังสรรค์ ผู้เป็นพ่อด้วย

ในที่สุด ความเลวร้ายทั้งหลายทั้งปวงก็ประเดประดังเข้ามา

วาทิต ลูกชายคนเล็กดื่มทุกวัน พราวเดือนผู้เป็นภรรยาในฐานะสะใภ้เล็กมองเห็นความชอกช้ำ อ่อนแอในดวงตาของเขา

ก็เข้าใจ

เขาต่างจากเธออยู่มากมาย

ปัญหาที่เขาเจอ แม้จะเรียกว่าหนักหนาสาหัส แต่ไม่เทียบกับชีวิตของหล่อนหรอก

หล่อนเจอมาหนักกว่าเขามาก

มันไม่ใช่แค่การเสียศักดิ์ศรี แต่มันคือความหิวโหย คนเราในยามหิว ศักดิ์ศรีมันไม่ได้สำคัญอะไร

ชีวิตอันลำเค็ญของลูกผู้หญิงที่ต้องอยู่อาศัยกับพ่อเลี้ยงหื่น ๆ

รอดพ้นจากจุดนั้นมาได้อย่างหมิ่นเหม่ หลังแม่เสีย

เมื่อพบรักกับชายหนุ่ม หล่อนคิดว่าชีวิตเหมือนเกิดใหม่ ปัญหาของเขาคือปัญหาของหล่อน เพราะฉะนั้นในวันที่เขากำลังจะล้ม หล่อนจึงไม่กลัวที่จะอยู่เคียงข้างเขา

บ้านสิทธิรังสรรค์เวลานี้  เหมือนกับแพแตกจริง ๆ

ทุกคนไปคนละทิศละทาง

เหลือเพียงสะใภ้เล็ก กับคุณหนูลูกชายคนเล็กของบ้าน ที่สภาพดูเหมือนจะไม่พร้อมสำหรับปัญหาที่กำลังถาโถมเข้ามาในชีวิตอย่างมากมาย

พ่อป่วย หนี้สินพะรุงพะรัง เจ้าหนี้มากกว่า 20 ราย รวมทั้งทุกสถาบันการเงินกำลังรอให้เขาเจรจา

“ผมมันแย่มากใช่ไหม”

“ไม่เลยค่ะที่รัก ไม่เกี่ยวกับคุณเลย”

ความเข้มแข็งของผู้เป็นประมุขของตระกูล หรือพ่อผัวของพราวเดือน นั้นช่างแตกต่างกับความอ่อนแอที่ลูกชายของเขามีอย่างสิ้นเชิง

ราวกับรู้ดีว่า ถ้าไม่สามารถลุกขึ้นมายืนหยัดได้ จะสิ้นชื่อไปทั้งหมด ไม่มีอะไรเหลือ

พราวเดือน ดูแลเสี่ยเวทินตลอดเวลา เหตุผลง่ายสุดเลยคือ ประหยัดค่าจ้างพยาบาล อะไรที่พอจะประหยัดได้ก็ต้องทำ

เธอยอมเหนื่อยหน่อย

ดูแลทั้งหมด

เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ อาบน้ำ อาหารการกิน จนดูเหมือนกับว่าระยะหลัง เธอจะมีเวลาอยู่กับเสี่ยเวทินมากกว่า วาทิตผู้เป็นสามีเสียด้วยซ้ำ

ยิ่งได้เห็นพัฒนาการ เห็นความเอาจริงเอาจังของเสี่ยเวทิน พราวเดือนยิ่งมีกำลังใจที่จะทำ คำพูดที่พยายามจะเปล่งออกมาจากปาก แววตาที่แสดงถึงความมุ่งมั่น ล้วนแล้วแต่ทำให้เธอมีพลังในแง่บวกเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น

จนกระทั่ง...

พราวเดือนรู้แล้วละว่า เพราะอะไร เสี่ยเวทินถึงได้เต็มไปด้วยพลัง  มีอยู่วันหนึ่งที่เธอถึงกับกลืนน้ำลายฝืดคอ  เมื่อเห็นอาการตื่นตัวของแกนกาย

เธอเป็นคนจัดการเรื่องผ้าอ้อม ดูแลทำความสะอาดทั้งตัวตั้งแต่แรก ๆ เพราะฉะนั้นจึงได้เห็นทุกสัดส่วนของเขา

อลังการงานสร้าง!

ไม่คิดว่าผู้ชายวัยขนาดนี้จะมีอาวุธน่าสะทกสะท้านหัวใจได้ถึงเพียงนี้

ยิ่งระยะหลัง  วาทิตแทบจะไม่ได้เอาใจใส่เธอ เขาแสดงความไม่เอาไหน แต่ละวันหมดไปกับเหล้า บุหรี่ ร่างกายทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด ไม่เพียงเท่านั้น ยังโมโหฉุนเฉียวจนเข้าใกล้ไม่ได้ บ่นเพ้อแต่เรื่องราวที่ผ่านมาแล้ว แต่ไม่เคยคิดจะลุกขึ้นมาเพื่อจัดการทุกอย่างให้มันดีขึ้น

โรงงานเหลือโรงเล็ก ๆ แห่งเดียว คนงานสิบกว่าคน ที่นี่...พราวเดือนเข้าไปจัดการจนกระทั่งสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับพวกคนงาน คนเหล่านั้นพร้อมจะทุ่มเท ยอมล้มลุกคลุกคลานไปด้วยกัน พราวเดือนก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งในการปลุกปลอบกำลังใจของพวกเขา แต่ลึก ๆ แล้วคนงานผูกพันกับเจ้านายเก่าอย่างเสี่ยเวทินมากกว่า

แม้ในยามรุ่งเรืองสุดขีด เสี่ยก็ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงโรงงานแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นในชีวิตธุรกิจของเสี่ย กล่าวคือไม่ยุบไปรวมกับที่อื่น ๆ

คนเก่าแก่สามารถอยู่ต่อ ที่นี่ผลิตสินค้าเต็มศักยภาพ ด้วยแรงงานคน ไม่มีเครื่องจักรเข้ามาเกี่ยวข้องมากนัก

เงินเดือนสวัสดิการต่าง ๆยังคงมีเหมือนเดิม

แม้แต่ในยามนี้ก็ตาม จนคนงานเองนั่นแหละที่ต้องเข้ามาขอลดเงินเดือนของพวกเขาลง เพื่อจะช่วยให้ทุกอย่างมันดีขึ้นโดยเร็ว

การเห็นอกเห็นใจกันในยามยาก ถือว่าเป็นเรื่องดีงามที่สุดของชีวิต ทว่า...วาทิต ผู้ที่ควรจะเข้ามาทุ่มเทให้กับโรงงานที่เหลือ กลับยังติดอยู่ในอดีตที่ผ่านมาแล้ว และไม่มีวันกลับไปได้เหมือนเดิมอีกแล้ว นอกจากฮึดสู้เพื่อสร้างขึ้นมาใหม่

กำลังใจของเขาไม่มีหลงเหลือ ทั้ง ๆที่มีผู้หญิงอย่างพราวเดือนที่พร้อมจะล้มลุกคลุกคลานไปด้วยกัน

เรื่องบนเตียงระหว่างพราวเดือนกับวาทิตยิ่งห่างเหินไปโดยปริยาย

เขาไม่แตะต้องเธอเลย!

ขณะที่อีกคนตรงกันข้าม

คุณเวทิน... เวลานั้น ยังพูดไม่คล่อง แต่สามารถลุกขึ้น ทำกายภาพบำบัดได้บ้างแล้ว อาการดีวันดีคืนอย่างเหลือเชื่อ

มีอยู่วันหนึ่ง วาทิตทะเลาะกับพราวเดือนก่อนจะขับรถออกจากบ้านไป พราวเดือนกลั้นสะอื้น เวลานี้ความทุกข์ยากทั้งหมดประเดประดังถาโถมเข้ามาในชีวิตของเธอไม่รู้จักจบจักสิ้น ยังคงต้องรับมือกับเจ้าหนี้ ยังต้องมีการเจรจา กลับต้องมารับมือกับอารมณ์แปรปรวนฉุนเฉียวของวาทิตอีก นี่ถ้าเป็นคนอื่นคงเปิดตูดเผ่นไปนานแล้ว

ความทุกข์มากมายที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตในห้วงเวลานี้ ทำให้พราวเดือนถึงกับน้ำตาคลอ เธอดื่มเข้าไปจนมึน อารมณ์เริ่มเย็นลงจึงเริ่มคิด

ยังมีอีกคนรอเธออยู่

เสี่ยเวทิน!

จริงอย่างที่คิด

“พ่อนึกว่าหนูจะหนีพ่อไปแล้ว”

คำพูดตะกุกตะกักที่เล็ดลอดออกมาจากปากของพ่อผัว หัวใจนักสู้ ทำให้พราวเดือนอดน้ำตาคลอไม่ได้

“ไม่ค่ะ หนูจะอยู่กับพ่อ”

พราวเดือนเข้าไปโอบกอดร่างของเสี่ยเวทิน หลังจากนั้น พ่อผัวกับลูกสะใภ้ก็ปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาเองจากความรู้สึกคับแค้นที่ซ่อนอยู่ข้างใน

“ผมจะไปจากที่นี่”

วาทิตเอ่ยกับพราวเดือนในอีกหลายวันต่อมา ท่าทางของเขาดูแย่มาก ไม่เหมือนเดิม สายตาของเขาไม่เหลือความเป็นคนหนุ่ม ผู้ที่พร้อมจะสานต่อกิจการของพ่อ ไม่เหลือความเป็นผัวที่พร้อมจะเคียงคู่ไปกับพราวเดือน

“คุณจะไปไหนคะ”

“ที่ไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่ที่นี่”

“แล้วฉันล่ะคะ คุณพ่อล่ะคะ”

“ผมไม่รู้ ผมไม่รู้”

วาทิตจากไปจริง ๆ เหมือนทิ้งทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลัง โดยไม่มีใครสามารถทัดทานได้ มันคือการตัดสินใจที่ทำให้พราวเดือนเจ็บปวดอย่างที่สุด

เขาทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลัง ไม่เหลือแม้แต่ความคิดที่จะรับผิดชอบใด ๆ คนที่ควรจะจากไปควรจะเป็นเธอมากกว่าไม่ใช่เขา เพราะเธอเป็นคนอื่น

พราวเดือนแทบจะหมดสิ้นเรี่ยวแรง หากแต่เมื่อเห็นเสี่ยเวทิน ความอ่อนแอของเธอก็ค่อย ๆ กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง

บ้านสิทธิรังสรรค์เวลานี้เหลือเพียงแค่...เสี่ยเวทินที่ยังอยู่ในขั้นฟื้นฟูร่างกาย และดูเหมือนว่าเขาจะสามารถเดินได้คล่องขึ้นบ้างแล้ว

สมองยังเต็มเปี่ยม

แววตายังคงความมุ่งมั่น

 

 

2

 

“คุณหนู อย่าทิ้งพวกเราไปนะครับ...นะคะ...”

คนงานในโรงงานเล็ก ๆ ซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของครอบครัวสิทธิรังสรรค์ ต่างพากันมารอพบพราวเดือน เพื่อขอร้องเธอ

แต่ละคนพร้อมจะต่อสู้เคียงข้างไปกับเธอ พวกเขาเรียกพราวเดือนว่าคุณหนู ตั้งแต่แรก ๆ ทั้ง ๆ ที่พราวเดือนมีฐานะเป็นแค่สะใภ้เล็กของบ้านเท่านั้น

อาจเป็นเพราะ เธอไม่ค่อยถือเนื้อถือตัว เป็นกันเองกับพวกเขาตั้งแต่แรก เธอจึงได้รับความเมตตาจากคนเก่าคนแก่ทุกคน

“หนูสัญญาค่ะ”

พราวเดือนเอ่ยอย่างมั่นใจ เธอตัดสินใจแล้วไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม จะอยู่ต่อไปเพื่อช่วยให้เสี่ยเวทินสามารถพลิกฟื้นกิจการทั้งหมดให้กลับคืนมาอีกครั้ง

มันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อ...เสี่ยเวทินมีพื้นฐานดีมาก เขาเป็นนักธุรกิจที่ตรงไปตรงมา คำไหนคำนั้น

หนี้สินที่มีอยู่อาจจะมหาศาลก็จริง แต่ยังมีโอกาส และจะว่าไปแล้วช่วงเวลานี้คือการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งก็ว่าได้

ยังมีโรงงานเล็ก ๆ ยังมีคนงานที่พร้อมจะร่วมหัวจมท้าย

ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไรอีกแล้ว

 

“ถ้าพ่อไม่ได้หนู ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นไงบ้าง”

เสี่ยเวทินเอ่ยกับพราวเดือน ขณะที่เธอมาช่วยทำกายภาพบำบัด ทุกอย่างยังคงดำเนินไปเหมือนเดิม

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณพ่อก็ให้หนูเยอะเหมือนกัน ถ้าไม่ได้คุณพ่อ...”

“อย่าพูดแบบนั้นสิ พ่อต่างหากที่ควรต้องพูด”

พราวเดือนเพิ่งสังเกตว่า กางเกงของเสี่ยเวทินพองโตขึ้น ขณะที่มือของเธอเฉียดกรายไปโดนเข้า

หญิงสาวบอกตัวเองไม่ถูกเหมือนกันว่า รู้สึกอย่างไร ที่แน่ ๆ เธอไม่ได้รังเกียจอะไรเขาเลย นึกสนุกด้วยซ้ำ

“มีอารมณ์เหรอคะคุณพ่อ”

แกล้งถาม “แหม...เดี่ยวนี้แข็งแรงใหญ่แล้วนะคะ”

เสี่ยเวทินหน้าม้าน จนหญิงสาวนึกสงสาร

“คุณพ่อคะ หนูรู้นะคะว่า จริง ๆ แล้วคุณพ่อยังมีความต้องการเหลือเฟือ”

คราวนี้ อะไรสักอย่างดลใจให้เธอตัดสินใจทำ

มือที่นวดเฟ้น เลื่อนขึ้นมาที่หน้าขา แล้ว...วินาทีนั้นเอง พราวเดือนก็ทำในสิ่งที่ไม่น่าจะทำเลย มือเรียวของเธอวางประกบลงบนเอ็นเนื้อที่กำลังพองตัวของเสี่ยเวทิน

“หนู...”

เสี่ยเวทินถึงกับหลุดปากออกมา เสียงแหบพร่า ใบหน้าแดง 

รายละเอียด

โปรย

ความรักความปรารถนาที่ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างบังเอิญ

แต่มันเป็นความจงใจ 

คุณอาจจะเรียกว่าความต่ำช้าทางอารมณ์ 


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (80 รายการ)

www.batorastore.com © 2024